กรงรักราชาโจร
ตอนที่ 16 (ปล้น)
ฟากฝั่งของจาห์มาล์ ในเวลาวิกาลอันมืดสนิท ผ้าคลุมหัวสีดำทมิฬปกปิดใบหน้าแทบมิดชิด เว้นไว้เพียงดวงตาเท่านั้นเพื่อใช้ในการมอง เพ่งพิศมองไปยังตัวบ้านเป้าหมายที่ไม่ได้รู้การณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น กำลังพลที่ตระเตรียมพลเพื่อทำการที่วางไว้ ซุ่มมองความเคลื่อนไหวของเหยื่ออย่างเงียบ ๆ รอเวลาที่เหมาะสมในการปล้น
"เราจะทำการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้าย...ในเมื่อเราพบสิ่งที่เราตามหาแล้ว ก็ไม่มีอันจำเป็นต้องทำต่อ" จาห์มาล์ยื่นคำสัตย์ขึ้นมาลอย ๆ ท่ามกลางความเงียบสงัดและมืดมิดในพุ่มไม้ลับตา
"กระผมวิงวอนให้เป็นเช่นนั้นมาแสนนาน...แต่ที่ผ่านมาไม่อาจทัดทานท่านได้ ด้วยความเอาแต่ใจของท่าน" ริฎวานเอ่ยสำทับด้วยความเห็นดีเห็นงาม นึกโล่งใจกับนายเหนือหัวที่คิดจะหยุดสิ่งที่เคยทำ
"นี่ว่าเรารึ?" คนหัวร้อนหันขวับมองหน้าทันที เมื่อริฎวานเอ่ยแซวทีเล่นทีจริง
"ชู่~~ เดี๋ยวมีใครได้ยินครับ" อดที่จะกลั้นขำแทบไม่ได้ กับสีหน้าและท่าทางของนายเหนือหัว ที่แทบอยากบีบคอเขาให้ตาย
"ฝากไว้ก่อนริฎวาน"
"ครับ"
ชี้หน้าอย่างคาดโทษจนริฎวานส่ายหัว ความไม่ยอมคนมีมาแต่ไหนแต่ไร นิสัยเบื้องลึกที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ก็คงมีแต่คนอย่างริฎวานกระมังที่ทนได้
คนที่คิดคดต่อผู้อื่น ไม่ต้องให้กฎหมายตัดสิน แต่จะเป็นเขาที่มอบผลของการกระทำตอบแทนให้ สิ่งลับที่ลักลอบทำโดยบิดามารดาไม่ล่วงรู้ ถึงแม้จะรู้ดีว่าเป็นสิ่งที่ผิดก็ยังดื้อรั้นที่จะทำ ด้วยเป้าหมายที่ยังไม่สำเร็จ เลยต้องเดินหน้าต่อ...
เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายนิดเดียวหากคนอย่างบิดาเขาจะจัดการ แต่สิ่งที่ทำเขานั้นมีนัยเป็นตัวแปร เพื่อไม่ให้ไร้ประโยชน์จึงกระทำร่วมกับเป้าหมายที่แท้จริง และเมื่อเดินหน้ามาแล้วก็ยากที่จะถอย นั่นคือสิ่งที่คิดในก่อนหน้า แต่ตอนนี้สิ่งที่รอคอยตระเวนตามหามานาน ได้คืบคลานเดินเข้ามาหาเองแล้ว....
จัสซีเนีย คนที่หักหลังจนเขาเจ็บปวดแทบเสียคน ลวงหลอกจนเขาเกิดความเคียดแค้นฝังใจ ผันกลายเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนยิ่งกว่าเดิม เมื่อคนที่ปักใจมั่นหนีหายไปกับชายอีกคน พร้อมกับทรัพย์สินจำนวนหนึ่งที่เขาเก็บไว้ ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเพราะรักเธอ
ตามหาอยู่เนิ่นนานก็ไร้วี่แวว แต่แล้วโชคก็เข้าข้างเมื่อได้นำพาหล่อนมาหาถึงที่....
"ไอ้ชั่วนั่นมันคิดคดบิดาเรา มันสมควรได้รับกรรมที่เราจะมอบให้...ไม่ต้องรอให้เวรกรรมตามทัน แต่เรานี่แหละจะสนองมันเอง" สายตาเข้มดุเพ่งพิศอย่างมุ่งมั่นด้วยความเจ็บใจ อยากจัดการคนร้ายให้สาสม
"ที่จริงท่านไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ มือของท่านไม่ควรแปดเปื้อนเช่นนี้"
"เราอยากจัดการมันด้วยตนเอง...กล้าดียังไงคดโกงธุรกิจครอบครัวของเรา"
"กำลังพลพร้อม รอเพียงคำสั่งจากท่านเท่านั้นครับ"
"ตอนนี้ยังไม่เหมาะ รอดึกอีกสักประเดี๋ยว"
"ครับ"
การปรึกษาเจรจาพูดคุย แต่สายตาเพ่งพิศจับจ้องไปยังเรือนเป้าหมาย เหล่าคนที่อาศัยเริ่มเข้านอนพักผ่อน เนื่องจากเวลาดึกมากแล้ว แต่ก็ยังมีใครคนหนึ่งที่เดินเวียนวนอยู่ระเบียง ดวงไฟส่งแสงสลัวให้เห็นเพียงเงาที่ไม่ค่อยชัดเจน
"ไอ้นั่นมันกำลังจะไปไหน?" ความสงสัยก่อเกิดแก่จาห์มาล์ เมื่อเห็นความเคลื่อนไหวของชายคนหนึ่ง
"นั่นน่าจะเป็นบุตรชายของหุ้นส่วนท่านเชคฮ ที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศช่วยงานได้ไม่นาน...ว่าแต่จะออกไปไหนในเวลาวิกาลเช่นนี้" ริฎวานที่สืบเสาะข้อมูลอย่างถี่ถ้วน ออกความเห็นแก่นายเหนือหัว สายตาก็จ้องมองอย่างจับสังเกต
"เราจะตามมันไป....คนที่อยู่ที่นี่จงฟังเรา หากเมื่อใดที่ไฟในเรือนมืดสนิท ให้รออีกสามสิบนาที จากนั้นก็ทำการปล้นทันที เอามาเพียงที่มันคดโกงคนอื่นมาโดยประมาณก็เพียงพอราว 2,369,743 เดอร์แฮม(AED) แล้วไม่ต้องรีรอให้นานเกินไป รีบจัดการกระจายให้ชาวบ้านแถบยากไร้ทางชายแดนทันที และการณ์นี้จงเงียบที่สุด ห้ามปลิดชีวิตผู้ใด เอาเพียงเงินเท่านั้น เราให้เวลาพวกเจ้าเพียงสิบนาที เรียบร้อยแล้วก็เจอกันยังที่พัก...แยกย้ายได้!" เสียงอันน่าเกรงขามออกคำสั่งอย่างหนักแน่น เหล่าพลฝีมือดีที่ได้รับการฝึกฝนจนเก่งกาจ ทำภารกิจสำเร็จทุกครา จึงมั่นใจว่าอย่างไรก็สำเร็จเป็นแน่แท้ "ไปกับเราริฎวาน"
"ครับ"
เมื่อสั่งการเสร็จสิ้นจาห์มาล์และริฎวาน สืบเท้าเดินสะกดรอยตามชายผู้นั้นอย่างเงียบ ๆ ทางเดินที่มืดรำไรมีแสงไฟสลัวสาดส่องแสงสีนวล ไม่ได้ยากมากนักกับการมองเห็น
“มีบ้านอีกหลังอย่างนั้นรึ?” ความฉงนใจทำให้เปล่งวาจาออกไปลอย ๆ
“คงเป็นบ้านของบุตรชายนายหุ้นส่วนท่านเชคฮนั่นแหละครับ จากที่สืบมาเห็นว่าแต่งงานมีครอบครัวแล้วระหว่างอยู่ต่างประเทศ” ริฎวานให้คำตอบ เพื่อคลายความสงสัยแก่นายเหนือหัว
“คดโกงจนมั่งมีสินะ” จาห์มาล์ยกยิ้มมุมปากดั่งสมเพช เม็ดเงินที่ได้มาสร้างความมั่งคั่ง แต่ช่างน่าเวทนานัก เพราะมันมาจากความเลวทรามฉ้อโกง แต่ยังคงหน้าหนาภาคภูมิใจในสิ่งที่มี “เราไม่ปล่อยมันไว้แน่”
“เอาอย่างไรต่อดีครับ” ริฎวานถามความเห็น
“นายเข้าไปตัดไฟบ้านนี้ทั้งหลัง รอจังหวะพร้อมกับบ้านใหญ่ แล้วเราจะเข้าไปจัดการทันที”
“ครับ”
“แยกย้ายได้”
จาห์มาล์ออกคำสั่งตามประสบการณ์ที่เคยทำ จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการตามหน้าที่ของแต่ละคน รอจังหวะของการชิงปล้นของเหล่าบริวาร
แสงสว่างจากดวงไฟของบ้านหลังใหญ่เริ่มดับลงเกือบทุกดวง ทิ้งจังหวะเวลาให้พอเหมาะกับการพักผ่อนสนิทในยามวิกาลของเหล่าผู้คน
เงาตะคุ่มของกลุ่มคนย่องเบาดุจแมวทราย ไร้เสียงสืบเท้าดังเล็ดลอดให้ได้ยิน เหล่าบริวารฝีมือดีเตรียมพร้อมสำหรับการชิงทรัพย์ได้เริ่มขึ้น รวมไปถึงฝั่งของจาห์มาล์และริฎวานเช่นกัน อาศัยแสงจันทร์สาดทอแสงรำไรช่วยในการมอง
ปั่ก! อึก! ด้ามปืนกระแทกเข้ากับท้ายทอยของเป้าหมายจนสลบ ร่างกายสูงฟุบลงกับพื้นแข็งทันที ด้วยฝีมือของจาห์มาล์ที่เก่งกาจด้านการต่อสู้
“เรียบร้อยครับ” ริฎวานที่ตามมาสมทบ ลากคนที่ถูกทำร้ายหลบซ่อนในมุมลับตา
“อืม...ค้นให้ทั่ว”
(“ฮาดี้คะ”)
เสียงเรียกที่มาพร้อมกับเเสงเทียน ทำให้จาห์มาล์และริฎวานรีบหาที่หลบซ่อนในมุมมืด
(“ที่รัก...คุณอยู่ไหนคะ ไฟดับฉันกลัวค่ะ ฮาดี้”) เสียงสืบเท้าลงบันได เริ่มดังมาใกล้นั่นทำให้คนที่ลักลอบเข้ามาต้องลีบตัวให้เล็กที่สุด พลางคอยมองตามเงาเสียงนั้นที่บ่งบอกว่าเป็นหญิง
“เสียงนี่?” จาห์มาล์ที่แสนจะคุ้นหูกับน้ำเสียงนี้ ฉงนใจเพียงลำพัง แต่ยังไม่ได้มั่นใจว่าจะใช่คนในความคิดหรือไม่
สองเท้าเปลือยเปล่าค่อย ๆ เดินลงบันไดมา จากนั้นก็เริ่มเดินมุ่งหน้าไปยังตู้ไฟ พร้อมสอดส่องสายตาหาคนรักในความมืดสลัว ที่หล่อนพร่ำเพรียกหาแต่ว่าไร้การโต้ตอบ หล่อนไม่แม้แต่จะสังเกตว่ามีใครด่อมมองไม่ละสายตา เพราะว่ามีความหวาดกลัวครอบงำ
“จัสซีเนีย!”
“ท่านครับ”
เมื่อแสงเทียนสาดส่องกระทบใบหน้าของเจ้าของเสียง ทำเอาจาห์มาล์ที่ลอบมองต้องตกใจ ใบหน้าที่คุ้นเคยและละม้ายคล้ายอีกคนในอดีต ที่แทบเป็นคนเดียวกันกับคนที่ถูกขังอยู่ตอนนี้ ทำให้เขาเผลอสบถออกมาอย่างแปลกใจ ทำให้ริฎวานต้องรีบจับแขนรั้งไว้เพื่อย้ำเตือนสติ อีกนัยนึกเกรี้ยวโกรธจนแทบอยากกระโจนใส่ แล้วปาดคอหล่อนให้ตายลงตรงหน้าดั่งความแค้นที่มันสุมในอกมานานแสนนาน
(“ฮาดี้....ที่รักคะ”) หล่อนยังคงเพรียกหากคนรักดังเดิม โดยไม่รู้เลยว่ามีคนมองตลอดเวลา
“เราต้องออกจากที่นี่ครับ”
“ดูนายไม่สะทกสะท้ายเอาเสียเลย...รู้อะไรแล้วไม่บอกเราใช่ไหมริฎวาน”
เสียงพูดกระซิบกระซาบ ความใคร่รู้ของอีกคนก็มีมาก แทบอยากจะออกไปประจันหน้าให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ถูกริฎวานทัดทานไว้ แววตาที่เผลอไผลทำให้จาห์มาล์ต้องออกปากถามทันที มันมีอะไรที่เจ้าตัวไม่รู้อีกหรือไม่
(“นั่นใคร? ฮาดี้เหรอคะ?”)
เงาดำวิ่งฝ่าความมืดจากด้านหลังของหญิงสาว ทำเอาหล่อนรีบหันหน้ามาทันที แต่ก็ไม่พบเจอผู้ใด เลือกเปล่งเสียงเรียกคนรักตามความคิด เพราะไม่ได้คิดไกลว่าจะมีใครอื่นกล้าย่างกรายเข้ามา
“มันยังไงกันแน่ริฎวาน!” เมื่อหลุดออกมาไกลจากบ้านเรือน จาห์มาล์รีบกระโจนกระชากคอเสื้อของริฎวานทันทีด้วยความอารมณ์ร้อน แววตาดุเปล่งรัศมีอันน่ากลัว จ้องมองริฎวานด้วยความโมโห
“ที่นี่ไม่เหมาะสมที่จะเล่า” ไม่แม้จะปัดป้องมือของผู้เป็นนายออกจากตัว ใจเย็นค่อยเจรจาเพราะรู้นิสัยนายเหนือหัวดี
“เห็นเราเขลามากนักหรือไง ทำไมไม่ยอมปริปากบอกอะไรสักอย่าง” คนโมโหยังคงไม่ยอมปรน กำหมัดแน่นจนมือสั่นเทา ง้างออกสุดแขนดั่งพร้อมปะทะใส่ใบหน้าของริฎวาน
“เราต้องกลับที่พักเสียก่อน” ยังคงพูดดีเฉกเช่นดังเดิม แต่กับอีกคนนั้นแทบลุกเป็นไฟ
ผั๊วะ ตุบ! เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ถูกปฏิเสธในความใคร่รู้ หมัดหนักสาดปะทะใส่ใบหน้าของริฎวานเต็มแรง จนหน้าหันร่างกายเซถลาแทบล้มลง แต่ยังคงทรงตัวให้ยืนมั่นต่อหน้าผู้เป็นนาย ไร้เสียงโอดครวญในความเจ็บปวด แม้จะเจ็บชาตรงใบหน้าและมุมปากก็ตาม
“เราอยากรู้เรื่องราวนังแพศยาตอนนี้! และเดี๋ยวนี้!”
กรงรักราชาโจรตอนที่ 17 (ทาเธียน่า)“นางคือทาเธียน่า” ริฎวานที่มองแล้วว่าอย่างไรนายเหนือหัวผู้ดื้อรั้นคงไม่ยอม ตนเลยต้องเป็นฝ่ายยอมเอ่ย ในสิ่งที่รับรู้มา ที่ตัดสินใจปิดบังเรื่องนี้ นั่นเพราะอยากให้นายผู้ดื้อรั้น ได้มีความคิดตรองด้วยตัวเอง พยายามเอ่ยเป็นนัยหลายครั้งให้คิดตาม แต่กลับไร้วี่แวว“ใคร!?” เสียงกร้าวเอ่ยถาม พร้อมกับจดจ้องมองหน้าริฎวานอย่างดุดัน“ที่ท่านพบเจอเมื่อสักครู่ นางเป็นพี่สาวฝาแฝดของจัสซีเนีย ใช้กลอุบายลวงหลอกใช้ชื่อน้องสาว นางทำเช่นนี้มาหลายคน จนท่านกลายเป็นเหยื่ออีกคน กระผมก็เพิ่งทราบเรื่องราวไม่นานมานี้ และเพิ่งทราบเช่นกันว่านางคือคนรักของฮาดี้บุตรชายของหุ้นส่วนของท่านเชคฮ ทาเธียน่าในตอนนั้นทะเยอทะยานเฉกเช่นเดียวกับพ่อและพี่ชายนาง ต้องการเชิดหน้าชูตา และนางคิดว่าท่านแล้นแค้นยากไร้ จึงคิดตีจากไป และสุดท้ายก็ได้เจอกับฮาดี้จึงตามกันไปอยู่ต่างประเทศ โดยไม่สนใจคำห้ามปรามของบิดา และต่อมาบิดาพร้อมพี่ชายของนางก็ทำการทุจริตยักยอกเงิน จากการธุรกิจที่ร่วมหุ้นกับบริษัท asr อยู่หลายหน จนท้ายที่สุดโดนท่านจุดไฟเผาเพื่อสังเวยความผิดแทนกฎหมาย”“แล้วทำไมไม่บอก ห๊ะ! เป็นใบ้หรือไงกัน!
กรงรักราชาโจรตอนที่ 18 (อสูรออกจากร่าง)นั่งนิ่งประดุจคนหยุดหายใจ จ้องมองใบหน้าของคนที่นอนหลับสนิทไม่กะพริบตา จวบจนเวลาผันผ่านนานเป็นชั่วโมง ก็ยังคงนั่งมองในท่าเดิมอยู่แบบนั้น ไม่ขยับกายลุกไปไหนเสียที ปากบอกว่าต้องการพักผ่อน แต่พฤติกรรมกลับสวนทาง เอาแต่มองจัสซีเนียอย่างใช้ความคิด แอบรู้สึกผิดที่กระทำร้ายต่อหล่อน จนล้มป่วยและร่างกายบอบช้ำแสงแห่งดวงตะวันเริ่มสาดทอเข้ามาในกระโจม ความสว่างไสวเริ่มมีมากจนเผยใบหน้าของจัสซีเนียเด่นชัด รอยช้ำที่ยังคงมี พวงแก้มเนียนที่ยังคงทิ้งรอยนิ้วมือทั้งห้า ยิ่งสายตาคมดุเพ่งพิศยิ่งหวนคิดต่อการกระทำของตัวเองที่แสนจะดิบเถื่อนต่อสตรีผู้ไม่รู้เรื่องราว แม้หล่อนจะเคยปฏิเสธตนก็ไม่คิดเชื่อ"อื้อ...อ๊ะ!" ร่างอรชรนอนบิดไปมาโดยไม่ได้ลืมตาแต่อย่างใด การนอนหลับใหลตลอดทั้งคืนอย่างที่ไม่เคยสบายเช่นนี้มาก่อน ทำให้หล่อนรู้สึกสดชื่นเหมือนลืมว่ากำลังอยู่ที่ใด บิดเส้นให้ผ่อนคลาย จนเผลอไผลเกลือกกลิ้งกระแทกเข้ากับเข่าของคนนั่งมอง"........." ไร้การต่อว่า ทำเพียงมองหน้าหล่อนนิ่ง ๆ เท่านั้น แต่อีกคนกลับสะดุ้งตกใจ พลางนึกในใจว่าผีห่าซาตานหลอกหลอนในยามเช้าสดใสของหล่อนเสียแล้วจั
กรงรักราชาโจรตอนที่ 19(แค่ของชั่วคราว)“ไอ้ลามก!” ดวงตากลมจ้องมองอย่างเกรี้ยวโกรธ เมื่อคำพูดสองแง่สองง่ามนั้นทำให้หล่อนนึกอาย พยายามบิดแขนหวังให้หลุด แต่แรงที่มีก็ช่างน้อยนิด สู้แรงของคนตัวใหญ่ไม่ได้ แม้นจะดีดดิ้นสุดแรงแค่ไหน“ปากแบบนี้ ชายหน้าไหนจะกล้าเอาทำเมีย” ใบหน้าที่อยู่ในระยะใกล้เพียงคืบ สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่กระทบผิวหน้าของกันและกัน วาจาร้ายเอ่ยอย่างไม่คิดรักษาน้ำใจคนฟัง“แกไง!!” หล่อนสวนกลับทันที เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ว่าเขาที่ย่ำยีให้เธอเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ อย่างไม่อาจที่จะให้อภัยได้“เอาแบบนั้นไม่ได้เรียกเมีย...ก็แค่ของชั่วคราวเท่านั้น” ประโยคที่บาดใจทำเอาหัวใจหญิงสาวนั้นแทบแหลกสะบั้น มันช่างบาดหูเสียเหลือเกิน แค่ของชั่วคราวที่ไร้เกียรติ ถูกเหยียดหยามย่ำยีอย่างป่าเถื่อน ทำเอาจัสซีเนียถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ น้ำสีใสเอ่อคลอในดวงตาอย่างไม่อาจหักห้ามได้“ไอ้ชั่ว!” ตวาดเสียงกร้าวใส่หน้าอย่างโมโห ยิ่งได้มองลึกเข้าไปในแววตาคมเข้มนั้น ยิ่งทำให้หล่อนอยากตะบันหน้าเขาให้แหลก กระแทกกำปั้นลงตามแต่ใจ ให้สาสมกับที่เขานั้นทำกับเธอไว้“ฮึ!...เธออาจจะติดใจคนชั่ว ๆ แบบเราก็ได้ ลอง
กรงรักราชาโจรตอนที่ 20(ยอมรับ...)“ทุกคนจงฟังเราให้ดี...วันนี้เรามีธุระต้องไปทำ และจะย้ำกับทุกคนว่าให้ดูแลอาณาบริเวณนี้ให้ดี อย่าให้มีใครหน้าไหนเล็ดลอดเข้ามาได้ และอย่าให้ ใคร!...ออกไปเพ่นพ่านนอกบริเวณนี้เป็นอันขาด ไม่ว่าผู้ใด! หากใครฝ่าฝืนมันผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษตามกฎของที่นี่ เข้าใจไหม?”(ครับ/ค่ะ)เมื่อรู้ว่าจะต้องเดินทางเข้าพบบิดาตามที่ท่านต้องการ แต่จะปล่อยทิ้งไปเลยก็เสียจะไม่ได้ จึงต้องนัดรวมตัวของเหล่าบริวารออกคำสั่ง หากเป็นคนที่อยู่ในความดูแลก่อนหน้า จาห์มาล์คงไม่ต้องทำขนาดนี้ ด้วยทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองดี แต่ที่ต้องทำแบบนี้นั่นเพราะมีคนหัวรั้นอย่างจัสซีเนีย จ้องจะหลบหนีอยู่ตลอดเวลา ที่รับรู้เพราะว่าคนเฝ้าหน้ากระโจมรายงาน แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้จัดการหรือลงโทษหล่อน แสร้งทำเป็นปิดหูปิดตา ไม่รู้ว่าจะต้องทำร้ายหล่อนไปอีกทำไม ในเมื่อรู้แล้วหล่อนไม่ได้มีความผิดตามที่เขาคิด แต่ความปากหนักก็ไม่ได้พูดไปตามตรง ยังคงวางท่าในแบบเดิมตามนิสัยที่เป็น“ทุกคนแยกย้ายได้”(ครับ/ค่ะ)“ยกเว้นจัสซีเนีย”ทุกคนตอบรับอย่างเกรงขาม ก็คงมีแต่จัสซีเนียเท่านั้นไม่ยอมว่าตามคนอื่น หล่อนเบือนหน้าหนีเบ้ปากอย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 21(บาดแผลที่ยากจะรักษาหาย)“อึก!” แส้สีดำทมิฬกระหน่ำฟาดลงแผ่นหลังที่ไร้อาภรณ์นุ่งห่มครั้งแล้วครั้งเล่า ราวสิบครั้งเห็นจะได้ ผิวกายที่ว่าแกร่งของชายชาตรี โดนฟาดแต่ละทีอย่างแรงจนเลือดซึมตามรอย"ท่านจาห์มาล์" การลงมือกระทำต่อเพื่อนรักเพื่อนสนิท ทำก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของริฎวานระทม บาดแผลจากการถูกเฆี่ยน ที่เห็นเต็มสองตา ยิ่งสร้างความสงสารให้แก่ริฎวาน แม้นรู้ว่าเพื่อนรักจะทำผิด แต่ก็อดสงสารและอดเห็นใจต่อการลงโทษไม่ได้ ยิ่งเขาเป็นคนลงมือเอง ยิ่งทำให้เขาช้ำอยู่ในอกอย่างรู้สึกผิด"เรายังไหว" น้ำเสียงแหบแห้งเอื้อนเอ่ย แรงขาที่หยัดยืนก็เริ่มโรยแรง แต่ก็ยังเข้มแข็งฝืนทน"อีกยี่สิบแส้...กระหม่อมเกรงว่าท่านจะ...""เราไม่เป็นไร เฆี่ยนต่อให้ครบตามคำสั่งท่านพ่อเถิด"หยุดการกระทำ พูดถ่วงเวลาหวังว่าให้เพื่อนได้พักหายใจ แต่ยังพูดได้ไม่ทันไร ก็ถูกแทรกเสียอย่างนั้น ความแข็งแกร่งที่จาห์มาล์มี ความอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด บาดแผลภายนอกที่สามารถรักษาหาย แต่บาดแผลภายในใจนั้นยากที่จะรักษา...ริฎวานรู้ดีว่าเพื่อนนั้นเจ็บขั้วหัวใจแค่ไหน จากคนหนึ่งกลายเป็นอีกคนหนึ่งใช้เพียงเวลาไม่นานในการเปลี
กรงรักราชาโจรตอนที่ 22(บทลงโทษที่เจ็บปวด)"ทุกคนออกไปก่อน" เชคฮอานัสออกคำสั่ง เมื่อเห็นแล้วว่าหมอรักษาอาการเสร็จสิ้น"ท่านจะทำอะไรลูกคะ...แค่นี้จาห์มาล์ก็บอบช้ำเกินทน" ทันทีทันใดฟาตินก็เอ่ยถาม เกรงว่าผู้เป็นสวามีจะลงโทษบุตรชายที่รักซ้ำอีกครั้ง"ไม่ทำอะไรหรอกน่า ฟาตินก็ออกไปเช่นกัน""ไม่ค่ะ...ฟาตินจะอยู่กับลูก" ชักน้ำเสียงอย่างดื้อรั้น จากนั้นก็หย่อนก้นงอนมนนั่งลงเคียงข้างบุตรชาย สบตาประจันหน้าต่อสวามีอย่างข่มขู่"ท่านพ่อไม่ทำอะไรลูกหรอกท่านแม่ เราสองคนแค่จะคุยกันอย่างชายชาตรีเท่านั้น" จาห์มาล์ระบายยิ้มให้แก่มารดา ที่ตอนนี้หน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผู้เป็นสวามี"จาห์มาล์ยังเข้าใจ" บ่นเบา ๆ แต่ทำเอาฟาตินนั้นสะบัดหน้ามองด้วยรังสีอำมหิตทันที"ว่าให้ฟาตินหรือคะ?" คำพูดที่เหมือนเสียดสี ทำให้ฟาตินถึงกับดีดตัวลุกยืนประจันหน้าท้าทาย"เปล่าซะหน่อย...ออกไปรอที่ห้องนะ ขอคุยกับลูกแป๊บเดียว แล้วจะตามไปนะ" เชคฮอานัสนึกขำกับสีหน้านั้นของภริยา จับบ่าสองข้างแผ่วเบา สื่อเป็นนัยว่ามันจะไม่มีอะไรที่ร้ายอย่างที่นางกังวล"อย่าทำอะไรลูกนะ ถ้ารู้ว่าทำลูกบาดเจ็บอีกครั้ง ฟาตินไม่ยอมจริง ๆ ด้วย" ความห่วงใยบุตรชาย ทำใ
กรงรักราชาโจรตอนที่ 23(คนดูแล)"คุยกันไปก่อนนะจ๊ะหนูซีรีน""เพคะ"ฟาตินหยัดตัวลุกจากเตียงของบุตรชาย แล้วย่างกรายเข้าหาซีรีนที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยท่าทีอ่อนน้อม หล่อนตอบรับฟาตินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ระบายยิ้มที่แสนอ่อนโยน ทำเอาฟาตินที่ได้เห็นถึงกับเอ็นดู"น้องทราบจากท่านน้าก็รีบมาเยี่ยม เป็นอย่างไรบ้างคะ ขอโทษที่น้องมาเยี่ยมช้า" ซีรีนเดินเข้ามาหาคนที่ได้รับบาดเจ็บ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสนหวาน ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตัวหรูที่ริฎวานขยับให้อย่างสุภาพ"ไม่เป็นอะไรมาก ไม่น่ามาให้ลำบาก" จาห์มาล์เอ่ยวาจาอย่างกระด้าง ตามลักษณะนิสัยที่เขาเป็น ยิ่งคนที่ไม่อยากเจรจาด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่ แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน แต่คนที่เห็นก็ยังสงวนท่าทีด้วยรอยยิ้ม"ลำบากอะไรกันล่ะเพคะ ท่านพี่จาห์มาล์เจ็บป่วยน้องห่วงแทบแย่ มาแค่นี้ไม่ได้ลำบากอะไรสักนิด" หล่อนยังคงเอ่ยวาจาสุภาพด้วยความสนิทสนม แม้จะเห็นสีหน้าของจาห์มาล์ที่ไม่สบอารมณ์ แถมเวลาพูดก็ไม่มองหน้าหล่อนแม้เพียงเสี้ยวสายตา"เราง่วงแล้วริฎวาน ช่วยประคองหน่อย" ตัดบทอย่างไม่คิดสนใจคนรอบข้าง ก็เขาคิดสนใจหล่อนซะที่ไหนกันล่ะ"ขอรับ" ริฎวานรีบเข้ามาประคองนายเหนือหัวต
กรงรักราชาโจรตอนที่ 24(เวรแล้วไง)"จัสซีเนียวานหยิบเครื่องเทศตรงนั้นให้หน่อยสิ" ในครัวที่กำลังอลหม่านวุ่นวาย กับการทำอาหารมื้อเช้าของเหล่าแม่ครัว หนึ่งในนั้นก็คือซัลมาและจัสซีเนียที่เป็นคนลงมือทำ"........" เสียงเรียกขอความช่วยเหลือของซัลมา ประหนึ่งว่าไม่ได้เข้าหูของคนที่ยืนหั่นผักแต่อย่างใด"จัสซีเนีย จัสซีเนีย!""วะ...ว่าไงนะ""ฉันบอกว่าหยิบเครื่องเทศให้หน่อย แล้วเธอเป็นอะไรหรือเปล่า ดูเหม่อ ๆ เชียว หรือรู้สึกไม่สบาย""เปล่า ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ฉันสบายดีแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ"วันเวลาที่ผ่านพ้นไปราวสัปดาห์ ทว่ากลับไร้วี่แววของคนที่จากไป ไม่มีเป้าหมายกำหนดวันว่าจะมาเมื่อไหร่ ระคนพยายามนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เหตุผลของการกระทำและสิ่งอื่นอีกหลายอย่างที่พบเจอ ไม่เว้นแม้กระทั่งคำพูดดี ๆ น้ำเสียงที่ใช้เอ่ยวาจาทิ้งท้ายก่อนจากไป มันทำให้หล่อนคิดไม่ตกเสียที แค่เวลาชั่วข้ามคืนทำไมเขาถึงดูแปลกไปมาก แม้แต่แววตาที่ดูไร้พิษสงเช่นดังเก่า รวมถึงเหตุผลอะไรที่เขาทารุณหล่อนได้อย่างป่าเถื่อน...สิ่งที่นึกทวนในห้วงความคิด ทำให้ไม่ได้ยินแม้นคำพูดของซัลมาที่อยู่ใกล้ชิดกัน"ท่าทางอย่างกับคิดถึงใครอย่
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 15(ภาพจำตลอดกาล)ถึงวันเวลาบุตรคนที่สองของจาห์มาล์ถือกำเนิด นับเป็นความยินดีปรีดาที่ได้มาซึ่งบุตรชาย พระโอรสตัวน้อยที่เค้าโครงใบหน้าค่อนไปทางมารดา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการ และองค์หญิงจัสทีน่าก็ช่างแสนจะเห่อน้องชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือน"ฮะมีสเรามีน้องแล้วนะ น้องของเราน่ารักเหมือนเราเลย" องค์หญิงจัสทีน่าว่าขึ้นอย่างอวดอ้าง ในขณะที่กำลังนั่งเล่นในสวน มีอัยนูนที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงคอยดูแลปรนนิบัติในทุกย่างก้าว "เราตั้งชื่อน้องชายเองด้วยนะ ให้ชื่อว่าจาห์เนีย""ขอรับ...แล้วจาห์เนียแปลว่าอะไรหรือองค์หญิง" ฮะมีสในวัยเก้าขวบตอบรับอย่างเห็นตาม เขาไม่เคยขัดในสิ่งที่องค์หญิงจัสทีน่าปรารถนา ตามด้วยย้อนถามในพระนามขององค์ชาย"แปลเหรอ? เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิกคิก" องค์หญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว ทำเอาพี่เลี้ยงที่นั่งฟังถึงกับอมยิ้ม ชอบใจในจินตนาการที่เดียงสาของจัสทีน่า"อ้าว""ก็เราเอาชื่อท่านแม่กับท่านพ่อบวกกัน บวกเหมือนเลขที่โรงเรียนไงครูสอนมา อยากให้มันเยอะต้องบวก มีจาห์เนียมาเพิ่มก็ต้องเป็นบวก...เอ๊ะ! หรือจะบวกกันให้หมดเลยเป็น จัสซีมาล์จาห์เน
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 14(สัตว์เลี้ยงขององค์หญิง)"ท่านแม่ขา" เสียงเจื้อยแจ้วขององค์หญิงตัวน้อยที่นอนหนุนขาของมารดาเอ่ยถาม หันหน้าเข้าหาท้องกลมใหญ่ที่ใกล้คลอด มือป้อม ๆ ขององค์หญิงจัสทีน่า ลูบคลำด้วยความแผ่วเบา"ว่าอย่างไรคะองค์หญิงของแม่" ผู้เป็นมารดาที่นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง มือหนึ่งลูบหัวเพื่อขับกล่อมบุตรสาว ขานรับเมื่อองค์หญิงจัสทีน่าพร่ำเรียก"เมื่อไหร่น้องจะออกมาเล่นเป็นเพื่อนลูกคะ" จินตนาการด้วยการเฝ้ารอน้องที่อยู่ในท้องของมารดา"อยากเจอหน้าน้องแล้วเหรอคะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู"อยากเจอแล้วค่ะ" องค์หญิงจัสทีน่าให้คำตอบ พร้อมกับกดปลายจมูกเล็กเชิดรั้นสัมผัสลงท้องกลมของมารดา มีการขยับเคลื่อนไหวของทารกน้อยในครรภ์ เหมือนกับตอบรับพี่สาวที่เฝ้ารออยู่ด้านนอก"รออีกหน่อยนะคะ อีกไม่กี่วันน้องก็จะมาแล้ว องค์หญิงจะเลี้ยงน้องช่วยแม่ไหมคะ" ผู้เป็นมารดาให้คำตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างลองเชิงบุตรสาวที่ยังไร้เดียงสา"ต้องเลี้ยงค่ะท่านแม่ ลูกรักน้อง พี่น้องต้องรักกันค่ะ ท่านปู่กับท่านย่าบอกแบบนี้" คำสั่งสอนของปู่กับย่า องค์หญิงจัสทีน่าจดจำได้ดี ครั้นเข้าเฝ้าทีไรต้องได้สิ่งที่มีประ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 13(วุ่นทั้งวัง)วันเวลาล่วงใหญ่ผ่านไป การใช้ชีวิตคู่ก็ชื่นมื่นสุขสม ทุกอย่างดำเนินไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งสอง ลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง ออกมาท่องโลกกว้างมาจนอายุครบสี่ปีและยังมีทารกน้อยในท้องอีกหนึ่งคนที่จวนจะคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าองค์หญิงตัวน้อยเป็นที่รักของทุกคน ความสดใสเจื้อยแจ้วเดียงสา ทำให้ราชวังที่เงียบเหงามีสีสันสดใส และวุ่นวายในเวลาเดียวกัน“จัสทีน่า! องค์หญิงอยู่ไหนลูก” เสียงของบิดาตะโกนเรียกขาน เมื่อบุตรสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าแอบหนีไปเล่นซุกซนที่ไหน“คิก คิก” เสียงหัวเราะชอบใจเมื่อคนที่อยู่บนต้นไม้ มองไปเห็นบิดากำลังเดินตรงมา สายตาก็กวาดมองหา ทว่าก็ไม่เจอคนที่หลบซ่อน มันทำให้หล่อนชอบใจ“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง” เสียงของพี่เลี้ยงตะโกนเรียกหา ทว่าจัสทีน่าองค์หญิงตัวน้อยก็ไม่ยักจะขานรับ“จัสทีน่า” เสียงมารดาแว่วดังตามมา ความวุ่นวายในวังมีไม่หยุดหย่อน สีสันที่ทำเอาเหล่านางในถึงกับเหนื่อยหอบได้ทุกวี่วัน ก็องค์หญิงตัวน้อยชอบแอบหนีไปเล่นเพียงลำพัง แล้วให้คนไล่ตามหา เหมือนกับว่าหนูน้อยชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งปั่นหัวผู้คน“ท่านพ่อเดินมาทางนี้แล้ว จะเห็นเราไหมนะ” จัสท
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 12(ยอมป้ะล่ะ?)หลังจากสร้างความสบายใจให้กับจัสซีเนียเสร็จสิ้น จาห์มาล์ก็กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อสะสางสิ่งที่ต้องทำ เตรียมพร้อมสำหรับการที่จะพาจัสซีเนียไปพักผ่อนตามคำบัญชาของมารดา ที่ห่วงลูกสะใภ้หนักหนา ทว่ากับมีบางอย่างให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัว"ส่งมาหยาเรียบร้อยใช่ไหม?" เขาเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของริฎวาน"ขอรับ" ตอบรับด้วยน้ำเสียงสุขุม"ได้ไปดูทาเธียน่าบ้างหรือไม่" มันคือสิ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม ตั้งแต่วันที่เขาสำเร็จโทษของทาเธียน่า ก็ไม่มีทีท่าจะไปพบหน้าหล่อนอีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากริฎวานเท่านั้น เป็นครั้งคราวที่นึกถึง"กระผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมตอนไปส่งคุณมาหยาขอรับ" ริฎวานให้คำตอบ"นางเป็นอย่างไรบ้าง" จาห์มาล์ยืนมือไขว้หลัง ทอดสายตามองออกไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างไร้เป้าหมาย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเจอมา ดั่งกับว่าเป็นนิยายปลำปลา ไม่เคยคิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาเจอสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับความเจ็บปวดและมีปมในใจ ทั้งที่เกิดมาพร้อมศักดินาที่สูงส่งในเชื้อพระวงศ์ คิดแล้วก็ตลกสิ้นดี"เหมือนเดิมขอรับ เซื่องซึม ไม่พูดไม่จาและ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 11(อธิบาย)"เธอ!""พระชายา"จัสซีเนียที่เดินมาหวังจะเข้าพบพระสวามี บรรจบพบเข้ากับมาหยาพอดิบพอดี กับที่หล่อนนั้นเปิดประตูออกมา มาหยาฉีกยิ้มให้แล้วโค้งตัวทำความเคารพ แต่กับจัสซีเนียหล่อนคิ้วขมวดชนกัน งุนงงกับการที่มาหยาเดินออกมาจากห้องทำงานของพระสวามีในยามนี้เพี๊ยะ! ไม่ทันจะได้ถามหาความจริง สิ่งที่เห็นทำให้จัสซีเนียเลือดขึ้นหน้า ปรี่ประชิดตัวมาหยาแล้วกระแทกฝ่ามือใส่จนใบหน้าสวยของมาหยาหันไปตามแรง ทำเอาคนสนิทที่เดินประกบหลังมาถึงกับเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าพระชายาที่กำลังอารมณ์ดี จะมีความโมโหรุนแรงเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียว มันทำให้พวกหล่อนตั้งหลักไม่ทัน"ท่านพี่!" และสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่านั้น คือจาห์มาล์เปิดประตูออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจของจัสซีเนียวูบไหว คาดหวังว่าพระสวามีคงไม่ตลบหลังหล่อนใช่ไหม? ภาพที่เห็นทำให้คิดไกล ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น กระนั้นก็ย่างสามขุมเข้าหาจาห์มาล์ที่ยืนทำหน้างุนงง"โอ๊ย ๆ น้องใจเย็น ฟังพี่ก่อน...จัส จัส พี่เจ็บ ท้องอยู่นะ" แต่ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บแสบ จนเรียกชื่อของจัสซเนียเพียงพยางค์เดียว เมื่อหล่อนฟาดฝ่ามื
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 10(ทางแยก)"คิดจะกำจัดฉันเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก กว่าจะได้เข้ามาในนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ" มาหยาที่เผลอมาได้ยิน สิ่งที่พระนางเอื้อนเอ่ยทำให้มาหยากำมือแน่นด้วยความแค้นใจเรื่องราวที่องค์รัชทายาทบาดหมางกับพระชายานับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยที่จาห์มาล์พูดระบายตอนเมา เพราะมันทำให้หล่อนตะล่อมจาห์มาล์ได้ง่ายขึ้น จนเขายอมพาหล่อนเข้ามาในวัง นานทีเขาจะไปหาที่ฮาเร็ม หล่อนจะทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรความว้าวุ่นก่อเกิดทำให้มาหยาถึงกับนั่งไม่ติดที่ เดินวนอย่างใช้ความคิด เพื่อหาทางได้อยู่ในวังต่อ เดินคิดทวนอยู่นานหลายนาที ความคิดมาดร้ายจึงบังเกิด"ฮึ! พระชายาคงไม่ถือสาหรอกมั้งที่จะใช้สามีร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาองค์รัชทายาทก็เคยร่วมเตียงกับหม่อมฉันนะเพคะ" มาหยาที่มีความคิดมาดร้ายในหัว หล่อนยืนพร่ำคนเดียวในห้องนอนรับรอง มโนภาพใบหน้าของพระชายาด้วยความปรีดา หากว่าได้เห็นในสิ่งที่จะผูกมัดให้ตนได้อยู่ต่อก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้มาหยาสะดุ้งตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ไม่สบอารมณ์เมื่อมันเป็นการรบกวนสิ่งที่จินตนาการไว้อย่างสวยหรู"มีอะไรคะ" มาหยาเปิดประตูออกมา แล้
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ(คำบัญชา)"เป็นอย่างไรกันบ้าง แม่ได้ข่าวว่ามีปากเสียงกันหนักเลย" องค์ราชินีที่คอยดูบุตรชายและสะใภ้อยู่ห่าง รู้เห็นทุกอย่างแต่ไม่อยากก้าวก่าย พระนางเอ่ยถามเมื่อพบเจอกับลูกทั้งสองในสวนยามเย็น"ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ"แล้วทำไมต้องทะเลาะขนาดนั้น มันหนักหนามากมายเลยหรือจาห์มาล์" พระนางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุขุม จ้องมองไปยังบุตรชายและสะใภ้ ที่ตอนนี้มีสีหน้าแห่งความรู้สึกผิด กระนั้นก็ยังจับมือกันไม่ปล่อยห่าง ทุกความรู้สึกเผยแก่สายตาของมารดา ความรักที่ให้แก่กันยังแน่นแฟ้น แม้นจะมีปากเสียงกันลูกทั้งสองก็รีบเคลียร์ใจ ไม่ปล่อยไว้ให้มันยืดเยื้อ"ไม่ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ แต่จัสซีเนียนั้นยังเงียบ ใบหน้ายังมีความเศร้าที่ปะปนความรู้สึกผิด"อดทนข่มอารมณ์ไม่ได้เลยหรือลูกแม่ ลูกไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว หากวุฒิภาวะในการควบคุมอารมณ์ยังน้อยนิด ลูกจะเป็นพ่อที่ดีได้อย่างไร จะให้ลูกดูใครเป็นเยี่ยงอย่างถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่" พระนางว่าขึ้นตักเตือนบุตรชาย"อย่าทรงตำหนิท่านพี่เลยนะเพคะ...หม่อมฉันผิดเองที่ดื้อรั้น ไม่ฟังสิ่งที่ท่านพี่ปรามด้วยความหวังดี ไม่รักษาความร
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 8(ผิดทั้งคู่)กลางดึกที่ผู้คนในวังนอนหลับใหล แสงไฟที่เคยเจิดจ้าสว่างไสวดับมอดลง มีเพียงแสงสีนวลจากดวงจันทร์ทอแสงสว่างเลือนลาง เพื่อให้คนที่กำลังเดินกลับเข้ามาในตำหนักได้เห็นทางจาห์มาล์ค่อย ๆ ผลักประตูห้องนอนแผ่วเบา เขาไม่อยากให้จัสซีเนียรู้สึกตัวตื่น แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบกับใบหน้าคนที่นอนหลับ ทำให้เขาลอบยิ้มหากอยู่นิ่งก็ดูว่านอนสอนง่าย แต่พอรู้สึกตัวตื่นไฉนเลยถึงดื้อรั้นเอาแต่ใจ"ฝันดีนะจัสซีเนีย" จาห์มาล์ไล้ใบหน้าเนียนนั้นอย่างเบามือ โน้มตัวจูบลงกลางหน้าผากนูนนั้นด้วยความอ่อนโยน แตะริมฝีปากจูบซับบางเบา เพราะเขาห่วงว่าหล่อนจะสะดุ้งตื่น...แม้ปากจะไวแต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำร้ายคนที่รักมากกว่านี้ไม่ลง"ฝันดีนะเจ้าตัวน้อย..." ตามด้วยแตะจูบลงหน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อย ที่มีกลอยใจอาศัยอยู่ด้านในจากนั้นจึงเอนตัวนอนเคียงข้าง แทรกร่างกายหนาอุ่นในผ้าห่มผืนเดียวกัน สอดแขนให้จัสซีเนียนอนหนุน กระชับโอบกอดคนที่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ได้ยินเพียงเสียงของลมหายใจที่พ่นเข้าออกเป็นจังหวะ"อื้อ~~" การถูกรบกวนทำให้คนที่อ่อนล้านอนหลับสนิท มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเล็ดลอดออกมาบางเบา แต่
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 7(ที่หนึ่งไม่ไหว)นานราวยี่สิบนาทีตั้งแต่ที่จาห์มาล์ทิ้งหล่อนไว้ข้างหลังให้ร้องไห้น้ำตาไหลเพียงลำพัง จัสซีเนียก็ยังไม่ขยับขาก้าวเดินไปไหน มันจุกในอก มันเจ็บปวดเหมือนหัวใจตกหล่นลงสู่พื้นที่เต็มไปด้วยหนามแหลม ทิ่มแทงลงก้อนเนื้อหัวใจให้เจ็บร้าว ยิ่งเขาเมินเฉยใส่ ยิ่งสร้างความทรมานหัวใจแก่จัสซีเนียผู้มีความผิด"พระชายาเพคะ" ซัลมาเดินเข้าไปใกล้ เรียกขานคนที่เอาแต่ยืนร้องไห้หวังให้รู้สึกตัว"เสด็จเข้าด้านในเถิดเพคะ อากาศตอนนี้หนาวเย็นแล้วเพคะ" ลีนาว่าขึ้นอย่างนึกสงสาร สิ่งที่เห็นทำเอาหญิงรับใช้ทั้งสองน้ำตาซึมตามอย่างไม่อาจหักห้าม"ฉันไม่เคยแคร์ความรู้สึกของท่านพี่เลย ไม่เคยฟังในสิ่งที่เขาห้าม...ฉันเป็นคนที่แย่มาก ฮึก ฮึก ใช่ไหม?" จากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยวาจาขึ้นถามความเห็นด้วยน้ำเสียงสะอื้น น้ำตารื้นขอบตาจนมาไหลรดอาบแก้มเป็นทางยาว"ที่องค์รัชทายาททรงห้ามปรามนั่นก็เพราะทรงห่วงพระชายานะเพคะ หม่อมฉันอยู่ในวังมาหลายปี ไม่เคยมีหญิงใดที่พระองค์จะทรงห่วงใยถึงเพียงนี้...ไม่ใช่สิเพคะ องค์รัชทายาทดูเหมือนจะแทบไม่มีใครเลยด้วยซ้ำไป" ลีนาคุกเข่ากับพื้นแล้วจับมือของจัสซีเนียแนบแก้