กรงรักราชาโจร
ตอนที่ 17 (ทาเธียน่า)
“นางคือทาเธียน่า” ริฎวานที่มองแล้วว่าอย่างไรนายเหนือหัวผู้ดื้อรั้นคงไม่ยอม ตนเลยต้องเป็นฝ่ายยอมเอ่ย ในสิ่งที่รับรู้มา ที่ตัดสินใจปิดบังเรื่องนี้ นั่นเพราะอยากให้นายผู้ดื้อรั้น ได้มีความคิดตรองด้วยตัวเอง พยายามเอ่ยเป็นนัยหลายครั้งให้คิดตาม แต่กลับไร้วี่แวว
“ใคร!?” เสียงกร้าวเอ่ยถาม พร้อมกับจดจ้องมองหน้าริฎวานอย่างดุดัน
“ที่ท่านพบเจอเมื่อสักครู่ นางเป็นพี่สาวฝาแฝดของจัสซีเนีย ใช้กลอุบายลวงหลอกใช้ชื่อน้องสาว นางทำเช่นนี้มาหลายคน จนท่านกลายเป็นเหยื่ออีกคน กระผมก็เพิ่งทราบเรื่องราวไม่นานมานี้ และเพิ่งทราบเช่นกันว่านางคือคนรักของฮาดี้บุตรชายของหุ้นส่วนของท่านเชคฮ ทาเธียน่าในตอนนั้นทะเยอทะยานเฉกเช่นเดียวกับพ่อและพี่ชายนาง ต้องการเชิดหน้าชูตา และนางคิดว่าท่านแล้นแค้นยากไร้ จึงคิดตีจากไป และสุดท้ายก็ได้เจอกับฮาดี้จึงตามกันไปอยู่ต่างประเทศ โดยไม่สนใจคำห้ามปรามของบิดา และต่อมาบิดาพร้อมพี่ชายของนางก็ทำการทุจริตยักยอกเงิน จากการธุรกิจที่ร่วมหุ้นกับบริษัท asr อยู่หลายหน จนท้ายที่สุดโดนท่านจุดไฟเผาเพื่อสังเวยความผิดแทนกฎหมาย”
“แล้วทำไมไม่บอก ห๊ะ! เป็นใบ้หรือไงกัน! ปล่อยให้เราเป็นไอ้โง่เง่า โดนสตรีหน้าเงินลวงหลอกเนี่ยนะ!”
คำตอบที่ได้ฟังทำเอาจาห์มาล์ควันแทบออกหู เสียงแข็งกร้าวตะเบ็งลั่นท่ามกลางความมืด ชี้หน้าตำหนิคนสนิทด้วยอารมณ์ขุ่นแค้น ไม่คิดสนว่าใครจะมาได้ยิน ในเมื่อความเกรี้ยวโกรธครอบงำ อารมณ์เลือดร้อนพร้อมปะทุเป็นประกายไฟสุมทรวง การกระทำที่ผิดย้อนแย้งกฎหมาย ใช่ว่าจะไม่กระฉ่อนเข้าหูผู้รักษาบ้านเมือง แต่ทุกการวางแผนนั้นแสนจะรอบคอบแยบยล จนคดีนั้นผันกลายเป็นอุบัติเหตุไป ไม่สามารถสืบเสาะหาต้นตอที่แท้จริง บางคดีก็ต้องยอมด้วยอำนาจเงินที่มากโขยื่นให้
"ประทานอภัยขอรับ...กระผมยอมรับผิด" ได้แต่โค้งหัวยอมรับผิด ทั้งที่ความตั้งใจ อยากให้นายเหนือหัวคิดตรองได้เอง
"ใช่! เจ้าผิด"
ความสุขของเพื่อนเริ่มเลือนหายไป ตั้งแต่ที่คนรักพรากจากอย่างไม่ไยดี แม้ว่าจะเป็นคนเลือดร้อนด้วยอารมณ์ที่มีเป็นนิสัย แต่ก็ไม่เคยมีความคิดมาดร้ายต่อผู้ใด แต่แล้วความเคียดแค้นจากการถูกกระทำ ก็เข้าครอบงำจนยากจะทอดถอน.....ในฐานะเพื่อนวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าแทบทุกวัน ช่วยผลักดันชี้ทางแห่งความสุขให้แก่เพื่อนที่เขารัก ด้วยความรั้นที่มีเป็นทุนเดิมยากนักที่ริฎวานจะขัดได้ นอกจากปล่อยไปตามสิ่งที่มันจะเกิด แล้วให้เพื่อนได้สัมผัสทุกอย่างด้วยตนเอง บัดนั้นความเชื่อจึงจะบังเกิด
"โง่เง่าสิ้นดี!" สบถเสียงกร้าวอย่างโมโห พร้อมปล่อยมือจากคอเสื้อริฎวาน
"อากาศหนาวเหน็บ กลับที่พักเถิดขอรับ" ความห่วงฉันท์มิตรยังคงไม่เลือนหาย
"แพศยาเช่นนั้นเราไม่มีวันปล่อยลอยนวลเป็นแน่" แต่จาห์มาล์หาสนใจต่อวาจาของริฎวาน สองมือกำแน่นอย่างโกรธแค้น ดวงตาแดงก่ำด้วยความโมโหร้าย ยิ่งนึกถึงอดีตทีไรยิ่งคับแค้นใจ
"เรื่องราวมันผ่านมานานแล้ว ทิ้งไว้ให้เป็นเพียงอดีตได้ไหมขอรับ กระผมไม่อยากให้ท่านทุกข์ตรมในใจ อดีตท่านก็ไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ก็ไม่แปลกที่คนทะเยอทะยานอย่างทาเธียน่าจะผันใจ เมื่อพบกับใครที่ตรงตามอุดมคติที่นางวาดไว้" ริฎวานชี้แนะด้วยความห่วงใย ไม่อยากเห็นเพื่อนรักต้องใจหม่นหมอง ในใจเต็มไปด้วยความแค้นและความเกลียดชัง
"หน้าเงินสิไม่ว่า!" แต่คนที่เจ็บแค้นเหมือนจะไม่โอนอ่อนตามแม้แต่น้อย
"ทว่าน้องสาวฝาแฝดของนางแตกต่างโดยสิ้นเชิง น้อยคนนักจะรู้จัก แฝดผู้น้องไม่ชอบเผยตัวตน จนคนคิดว่าทาเธียน่าเป็นลูกสาวเดียวของบ้าน"
"อะไรก็ช่าง...ฝาแฝดก็ย่อมไม่ต่างกัน เจ้าจะเอาอะไรมามั่นใจในนิสัยเบื้องลึกของคนที่ไม่เคยรู้จัก"
ริฎวานที่เห็นต่างแย้งขึ้นทันทีทันใดในความคิด กอปรกับสิ่งที่เห็นและสัมผัสได้ แต่ผู้เป็นนายของเขานั้นยังตั้งมั่นในความมั่นใจที่มี จนเอ่ยสรรพนามเปลี่ยนไป ริฎวานรู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังร้อนดั่งไฟ ที่กำลังลุกโชติช่วงชัชวาล จึงทำได้เพียงถอนลมหายใจเบา ๆ เท่านั้น ครั้นจะพูดต่อมีหวังได้เกิดการปะทะอีกครา
"ท่านจะรับรู้ได้เอง เมื่อได้สนิทสนมคลุกคลี"
"ใครอยากคลุกคลีกับคนพวกนั้นกัน"
คนเอาแต่ใจยังคงมุ่งมั่นต่อไป แม้ริฎวานจะพยายามตะล่อมให้ผ่อนปรน ก็ดูจะไร้ผลคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา
"กลับเถิดขอรับ ป่านนี้พลสีเลือดจัดการเรียบร้อย จวนใกล้ถึงที่พักแล้ว" ไม่แคล้วส่ายหัวเบา ๆ พลางยกยิ้มอ่อน เมื่อเห็นแววตาของนายเหนือหัวที่ดูพิรุธวอกแวก
"อืม"
----------
"ค่าแรงพวกเจ้าอยู่ที่ริฎวาน"
((ครับ))
เหล่าพลพรรคยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ รอต้อนรับผู้เป็นนาย หลังจากทำหน้าที่จบสิ้น เสียงเข้มเอื้อนเอ่ยกล่าวขาน ก่อนจะเดินมุ่งไป ด้วยมาดนิ่งขรึมเข้ากระโจมในเวลาเช้ามืด มีเพียงเหล่าคนทำครัวและเวรยามเท่านั้นที่เริ่มตื่นมาทำหน้าที่
"ท่านครับ"
"เราอยากพักผ่อน อย่าให้ใครกวนใจเราในยามนี้"
สีหน้าที่ไม่สู้ดี ทำเอาริฎวานนึกห่วงอาทร การเรียกขานที่ไร้การมองแม้เพียงเสี้ยวสายตา จาห์มาล์ทำเพียงเดินผ่านหน้าไปเท่านั้น
สองเท้าย่างกรายเดินผ่านประตูเข้ามาในกระโจม สายตาบรรจบเข้ากับจัสซีเนียที่นอนนิ่งบนโซฟาตัวยาว และมีสาวใช้นอนอยู่เบื้องล่าง ทั้งสองนางไม่รู้สึกตัวสักนิด ว่ามีคนกำลังจับจ้องมองอยู่
"อื้อ...จะนอน" เสียงอู้อี้ในลำคออย่างนึกรำคาญ เมื่อจาห์มาล์ใช้เท้าเขี่ยซัลมาหวังปลุกให้ลุกตื่น "อุ๊ย!...นายท่าน"
"ออกไป" เเม้น้ำเสียงสั่งการจะแผ่วเบา แต่ก็แสนจะน่าเกรงขาม จนซัลมานั้นรีบลุก หอบเครื่องนอนกรูออกไปทันที
ความมืดที่มีเพียงแสงรำไรจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา เรือนร่างอรชรที่นอนนิ่ง ดวงหน้าที่เห็นไม่ชัดเจน แต่กลับทำเอาคนร่างสูงมองแทบไม่วางตา ยิ่งย้อนนึกหวนคืนวันในสิ่งที่กระทำไปอย่างขาดสติไตร่ตรอง ความรู้สึกผิดเริ่มผุดขึ้นในใจ แต่ความปากแข็งไม่อาจยอมรับได้ต่อหน้าคนสนิท
"เราไม่รู้" เสียงเพรียกในใจ ในจังหวะที่ช้อนตัวคนนอนหลับขึ้นแนบอก ก่อนจะนำพาไปแล้ววางบนเตียงอย่างเบามือ หยิบห่มผ้าผืนหนาคลุมกายของหล่อน จากนั้นจึงหย่อนก้นนั่งเก้าอี้จ้องมองคนที่นอนนิ่งสนิทบนเตียงอย่างรู้สึกผิด "ขอโทษด้วย"
กรงรักราชาโจรตอนที่ 18 (อสูรออกจากร่าง)นั่งนิ่งประดุจคนหยุดหายใจ จ้องมองใบหน้าของคนที่นอนหลับสนิทไม่กะพริบตา จวบจนเวลาผันผ่านนานเป็นชั่วโมง ก็ยังคงนั่งมองในท่าเดิมอยู่แบบนั้น ไม่ขยับกายลุกไปไหนเสียที ปากบอกว่าต้องการพักผ่อน แต่พฤติกรรมกลับสวนทาง เอาแต่มองจัสซีเนียอย่างใช้ความคิด แอบรู้สึกผิดที่กระทำร้ายต่อหล่อน จนล้มป่วยและร่างกายบอบช้ำแสงแห่งดวงตะวันเริ่มสาดทอเข้ามาในกระโจม ความสว่างไสวเริ่มมีมากจนเผยใบหน้าของจัสซีเนียเด่นชัด รอยช้ำที่ยังคงมี พวงแก้มเนียนที่ยังคงทิ้งรอยนิ้วมือทั้งห้า ยิ่งสายตาคมดุเพ่งพิศยิ่งหวนคิดต่อการกระทำของตัวเองที่แสนจะดิบเถื่อนต่อสตรีผู้ไม่รู้เรื่องราว แม้หล่อนจะเคยปฏิเสธตนก็ไม่คิดเชื่อ"อื้อ...อ๊ะ!" ร่างอรชรนอนบิดไปมาโดยไม่ได้ลืมตาแต่อย่างใด การนอนหลับใหลตลอดทั้งคืนอย่างที่ไม่เคยสบายเช่นนี้มาก่อน ทำให้หล่อนรู้สึกสดชื่นเหมือนลืมว่ากำลังอยู่ที่ใด บิดเส้นให้ผ่อนคลาย จนเผลอไผลเกลือกกลิ้งกระแทกเข้ากับเข่าของคนนั่งมอง"........." ไร้การต่อว่า ทำเพียงมองหน้าหล่อนนิ่ง ๆ เท่านั้น แต่อีกคนกลับสะดุ้งตกใจ พลางนึกในใจว่าผีห่าซาตานหลอกหลอนในยามเช้าสดใสของหล่อนเสียแล้วจั
กรงรักราชาโจรตอนที่ 19(แค่ของชั่วคราว)“ไอ้ลามก!” ดวงตากลมจ้องมองอย่างเกรี้ยวโกรธ เมื่อคำพูดสองแง่สองง่ามนั้นทำให้หล่อนนึกอาย พยายามบิดแขนหวังให้หลุด แต่แรงที่มีก็ช่างน้อยนิด สู้แรงของคนตัวใหญ่ไม่ได้ แม้นจะดีดดิ้นสุดแรงแค่ไหน“ปากแบบนี้ ชายหน้าไหนจะกล้าเอาทำเมีย” ใบหน้าที่อยู่ในระยะใกล้เพียงคืบ สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่กระทบผิวหน้าของกันและกัน วาจาร้ายเอ่ยอย่างไม่คิดรักษาน้ำใจคนฟัง“แกไง!!” หล่อนสวนกลับทันที เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ว่าเขาที่ย่ำยีให้เธอเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ อย่างไม่อาจที่จะให้อภัยได้“เอาแบบนั้นไม่ได้เรียกเมีย...ก็แค่ของชั่วคราวเท่านั้น” ประโยคที่บาดใจทำเอาหัวใจหญิงสาวนั้นแทบแหลกสะบั้น มันช่างบาดหูเสียเหลือเกิน แค่ของชั่วคราวที่ไร้เกียรติ ถูกเหยียดหยามย่ำยีอย่างป่าเถื่อน ทำเอาจัสซีเนียถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ น้ำสีใสเอ่อคลอในดวงตาอย่างไม่อาจหักห้ามได้“ไอ้ชั่ว!” ตวาดเสียงกร้าวใส่หน้าอย่างโมโห ยิ่งได้มองลึกเข้าไปในแววตาคมเข้มนั้น ยิ่งทำให้หล่อนอยากตะบันหน้าเขาให้แหลก กระแทกกำปั้นลงตามแต่ใจ ให้สาสมกับที่เขานั้นทำกับเธอไว้“ฮึ!...เธออาจจะติดใจคนชั่ว ๆ แบบเราก็ได้ ลอง
กรงรักราชาโจรตอนที่ 20(ยอมรับ...)“ทุกคนจงฟังเราให้ดี...วันนี้เรามีธุระต้องไปทำ และจะย้ำกับทุกคนว่าให้ดูแลอาณาบริเวณนี้ให้ดี อย่าให้มีใครหน้าไหนเล็ดลอดเข้ามาได้ และอย่าให้ ใคร!...ออกไปเพ่นพ่านนอกบริเวณนี้เป็นอันขาด ไม่ว่าผู้ใด! หากใครฝ่าฝืนมันผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษตามกฎของที่นี่ เข้าใจไหม?”(ครับ/ค่ะ)เมื่อรู้ว่าจะต้องเดินทางเข้าพบบิดาตามที่ท่านต้องการ แต่จะปล่อยทิ้งไปเลยก็เสียจะไม่ได้ จึงต้องนัดรวมตัวของเหล่าบริวารออกคำสั่ง หากเป็นคนที่อยู่ในความดูแลก่อนหน้า จาห์มาล์คงไม่ต้องทำขนาดนี้ ด้วยทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองดี แต่ที่ต้องทำแบบนี้นั่นเพราะมีคนหัวรั้นอย่างจัสซีเนีย จ้องจะหลบหนีอยู่ตลอดเวลา ที่รับรู้เพราะว่าคนเฝ้าหน้ากระโจมรายงาน แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้จัดการหรือลงโทษหล่อน แสร้งทำเป็นปิดหูปิดตา ไม่รู้ว่าจะต้องทำร้ายหล่อนไปอีกทำไม ในเมื่อรู้แล้วหล่อนไม่ได้มีความผิดตามที่เขาคิด แต่ความปากหนักก็ไม่ได้พูดไปตามตรง ยังคงวางท่าในแบบเดิมตามนิสัยที่เป็น“ทุกคนแยกย้ายได้”(ครับ/ค่ะ)“ยกเว้นจัสซีเนีย”ทุกคนตอบรับอย่างเกรงขาม ก็คงมีแต่จัสซีเนียเท่านั้นไม่ยอมว่าตามคนอื่น หล่อนเบือนหน้าหนีเบ้ปากอย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 21(บาดแผลที่ยากจะรักษาหาย)“อึก!” แส้สีดำทมิฬกระหน่ำฟาดลงแผ่นหลังที่ไร้อาภรณ์นุ่งห่มครั้งแล้วครั้งเล่า ราวสิบครั้งเห็นจะได้ ผิวกายที่ว่าแกร่งของชายชาตรี โดนฟาดแต่ละทีอย่างแรงจนเลือดซึมตามรอย"ท่านจาห์มาล์" การลงมือกระทำต่อเพื่อนรักเพื่อนสนิท ทำก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของริฎวานระทม บาดแผลจากการถูกเฆี่ยน ที่เห็นเต็มสองตา ยิ่งสร้างความสงสารให้แก่ริฎวาน แม้นรู้ว่าเพื่อนรักจะทำผิด แต่ก็อดสงสารและอดเห็นใจต่อการลงโทษไม่ได้ ยิ่งเขาเป็นคนลงมือเอง ยิ่งทำให้เขาช้ำอยู่ในอกอย่างรู้สึกผิด"เรายังไหว" น้ำเสียงแหบแห้งเอื้อนเอ่ย แรงขาที่หยัดยืนก็เริ่มโรยแรง แต่ก็ยังเข้มแข็งฝืนทน"อีกยี่สิบแส้...กระหม่อมเกรงว่าท่านจะ...""เราไม่เป็นไร เฆี่ยนต่อให้ครบตามคำสั่งท่านพ่อเถิด"หยุดการกระทำ พูดถ่วงเวลาหวังว่าให้เพื่อนได้พักหายใจ แต่ยังพูดได้ไม่ทันไร ก็ถูกแทรกเสียอย่างนั้น ความแข็งแกร่งที่จาห์มาล์มี ความอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด บาดแผลภายนอกที่สามารถรักษาหาย แต่บาดแผลภายในใจนั้นยากที่จะรักษา...ริฎวานรู้ดีว่าเพื่อนนั้นเจ็บขั้วหัวใจแค่ไหน จากคนหนึ่งกลายเป็นอีกคนหนึ่งใช้เพียงเวลาไม่นานในการเปลี
กรงรักราชาโจรตอนที่ 22(บทลงโทษที่เจ็บปวด)"ทุกคนออกไปก่อน" เชคฮอานัสออกคำสั่ง เมื่อเห็นแล้วว่าหมอรักษาอาการเสร็จสิ้น"ท่านจะทำอะไรลูกคะ...แค่นี้จาห์มาล์ก็บอบช้ำเกินทน" ทันทีทันใดฟาตินก็เอ่ยถาม เกรงว่าผู้เป็นสวามีจะลงโทษบุตรชายที่รักซ้ำอีกครั้ง"ไม่ทำอะไรหรอกน่า ฟาตินก็ออกไปเช่นกัน""ไม่ค่ะ...ฟาตินจะอยู่กับลูก" ชักน้ำเสียงอย่างดื้อรั้น จากนั้นก็หย่อนก้นงอนมนนั่งลงเคียงข้างบุตรชาย สบตาประจันหน้าต่อสวามีอย่างข่มขู่"ท่านพ่อไม่ทำอะไรลูกหรอกท่านแม่ เราสองคนแค่จะคุยกันอย่างชายชาตรีเท่านั้น" จาห์มาล์ระบายยิ้มให้แก่มารดา ที่ตอนนี้หน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผู้เป็นสวามี"จาห์มาล์ยังเข้าใจ" บ่นเบา ๆ แต่ทำเอาฟาตินนั้นสะบัดหน้ามองด้วยรังสีอำมหิตทันที"ว่าให้ฟาตินหรือคะ?" คำพูดที่เหมือนเสียดสี ทำให้ฟาตินถึงกับดีดตัวลุกยืนประจันหน้าท้าทาย"เปล่าซะหน่อย...ออกไปรอที่ห้องนะ ขอคุยกับลูกแป๊บเดียว แล้วจะตามไปนะ" เชคฮอานัสนึกขำกับสีหน้านั้นของภริยา จับบ่าสองข้างแผ่วเบา สื่อเป็นนัยว่ามันจะไม่มีอะไรที่ร้ายอย่างที่นางกังวล"อย่าทำอะไรลูกนะ ถ้ารู้ว่าทำลูกบาดเจ็บอีกครั้ง ฟาตินไม่ยอมจริง ๆ ด้วย" ความห่วงใยบุตรชาย ทำใ
กรงรักราชาโจรตอนที่ 23(คนดูแล)"คุยกันไปก่อนนะจ๊ะหนูซีรีน""เพคะ"ฟาตินหยัดตัวลุกจากเตียงของบุตรชาย แล้วย่างกรายเข้าหาซีรีนที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยท่าทีอ่อนน้อม หล่อนตอบรับฟาตินด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ระบายยิ้มที่แสนอ่อนโยน ทำเอาฟาตินที่ได้เห็นถึงกับเอ็นดู"น้องทราบจากท่านน้าก็รีบมาเยี่ยม เป็นอย่างไรบ้างคะ ขอโทษที่น้องมาเยี่ยมช้า" ซีรีนเดินเข้ามาหาคนที่ได้รับบาดเจ็บ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสนหวาน ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตัวหรูที่ริฎวานขยับให้อย่างสุภาพ"ไม่เป็นอะไรมาก ไม่น่ามาให้ลำบาก" จาห์มาล์เอ่ยวาจาอย่างกระด้าง ตามลักษณะนิสัยที่เขาเป็น ยิ่งคนที่ไม่อยากเจรจาด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่ แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน แต่คนที่เห็นก็ยังสงวนท่าทีด้วยรอยยิ้ม"ลำบากอะไรกันล่ะเพคะ ท่านพี่จาห์มาล์เจ็บป่วยน้องห่วงแทบแย่ มาแค่นี้ไม่ได้ลำบากอะไรสักนิด" หล่อนยังคงเอ่ยวาจาสุภาพด้วยความสนิทสนม แม้จะเห็นสีหน้าของจาห์มาล์ที่ไม่สบอารมณ์ แถมเวลาพูดก็ไม่มองหน้าหล่อนแม้เพียงเสี้ยวสายตา"เราง่วงแล้วริฎวาน ช่วยประคองหน่อย" ตัดบทอย่างไม่คิดสนใจคนรอบข้าง ก็เขาคิดสนใจหล่อนซะที่ไหนกันล่ะ"ขอรับ" ริฎวานรีบเข้ามาประคองนายเหนือหัวต
กรงรักราชาโจรตอนที่ 24(เวรแล้วไง)"จัสซีเนียวานหยิบเครื่องเทศตรงนั้นให้หน่อยสิ" ในครัวที่กำลังอลหม่านวุ่นวาย กับการทำอาหารมื้อเช้าของเหล่าแม่ครัว หนึ่งในนั้นก็คือซัลมาและจัสซีเนียที่เป็นคนลงมือทำ"........" เสียงเรียกขอความช่วยเหลือของซัลมา ประหนึ่งว่าไม่ได้เข้าหูของคนที่ยืนหั่นผักแต่อย่างใด"จัสซีเนีย จัสซีเนีย!""วะ...ว่าไงนะ""ฉันบอกว่าหยิบเครื่องเทศให้หน่อย แล้วเธอเป็นอะไรหรือเปล่า ดูเหม่อ ๆ เชียว หรือรู้สึกไม่สบาย""เปล่า ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ฉันสบายดีแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ"วันเวลาที่ผ่านพ้นไปราวสัปดาห์ ทว่ากลับไร้วี่แววของคนที่จากไป ไม่มีเป้าหมายกำหนดวันว่าจะมาเมื่อไหร่ ระคนพยายามนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เหตุผลของการกระทำและสิ่งอื่นอีกหลายอย่างที่พบเจอ ไม่เว้นแม้กระทั่งคำพูดดี ๆ น้ำเสียงที่ใช้เอ่ยวาจาทิ้งท้ายก่อนจากไป มันทำให้หล่อนคิดไม่ตกเสียที แค่เวลาชั่วข้ามคืนทำไมเขาถึงดูแปลกไปมาก แม้แต่แววตาที่ดูไร้พิษสงเช่นดังเก่า รวมถึงเหตุผลอะไรที่เขาทารุณหล่อนได้อย่างป่าเถื่อน...สิ่งที่นึกทวนในห้วงความคิด ทำให้ไม่ได้ยินแม้นคำพูดของซัลมาที่อยู่ใกล้ชิดกัน"ท่าทางอย่างกับคิดถึงใครอย่
กรงรักราชาโจรตอนที่ 25(ตามหา)"ว่ายังไงนะ!...สั่งคนออกตามให้เจอ" เวลาบ่ายที่มีสายต่อตรงเข้ามา พร้อมกับการรายงานความเป็นไปในอีกสถานที่หนึ่งให้รับทราบ แต่สิ่งที่ได้ฟังเป็นอันทำให้ริฎวานต้องตกใจ สบถเสียงดังจนทำให้จาห์มาล์ที่นั่งอยู่ต้องหันไปมอง"มีอะไรริฎวาน" สีหน้าที่เป็นกังวลของริฎวาน ทำให้จาห์มาล์อดไม่ได้ต้องเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้"หัวหน้าหน่วยเวรยามรายงานว่าจัสซีเนียกับซัลมาหายตัวไป" ริฎวานวางสายแล้วรีบรายงานทันที"หายตัวไป?" จาห์มาล์คิ้วแทบชนกัน เมื่อได้ยินสิ่งที่ริฎวานรายงาน การหายตัวไปของจัสซีเนียทำให้เขาวูบไหว นึกห่วงใยอย่างไม่รู้ตัว"ขอรับ""เฝ้ากันยังไงวะให้คนหายไปได้!...เตรียมรถเราต้องรีบไปที่นั่น"ความพลาดพลั้งของเหล่าบริวาร ทำให้จาห์มาล์หัวร้อนตะเบ็งเสียงกร้าวต่อว่า ลุกพรวดอย่างลืมเจ็บบาดแผล พะวงห่วงคนที่หายไป เกรงจะหลงทางเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามที่แสนอันตรายยิ่งกว่านรก เขตชุกชุมของกลุ่มโจรร้ายของอีกฟากชายเขตแดน ที่หากใครเล็ดลอดเข้าไปย่อมไม่มีลมหายใจกลับออกมา นอกจากร่างที่ไร้วิญญาณ ถูกโยนทิ้งไว้อย่างน่าอนาถ"แต่ท่านยังบาดเจ็บอยู่นะขอรับ" ริฎวานย้ำเตือนอย่างนึกห่วง บาดแผลที่
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 15(ภาพจำตลอดกาล)ถึงวันเวลาบุตรคนที่สองของจาห์มาล์ถือกำเนิด นับเป็นความยินดีปรีดาที่ได้มาซึ่งบุตรชาย พระโอรสตัวน้อยที่เค้าโครงใบหน้าค่อนไปทางมารดา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการ และองค์หญิงจัสทีน่าก็ช่างแสนจะเห่อน้องชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือน"ฮะมีสเรามีน้องแล้วนะ น้องของเราน่ารักเหมือนเราเลย" องค์หญิงจัสทีน่าว่าขึ้นอย่างอวดอ้าง ในขณะที่กำลังนั่งเล่นในสวน มีอัยนูนที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงคอยดูแลปรนนิบัติในทุกย่างก้าว "เราตั้งชื่อน้องชายเองด้วยนะ ให้ชื่อว่าจาห์เนีย""ขอรับ...แล้วจาห์เนียแปลว่าอะไรหรือองค์หญิง" ฮะมีสในวัยเก้าขวบตอบรับอย่างเห็นตาม เขาไม่เคยขัดในสิ่งที่องค์หญิงจัสทีน่าปรารถนา ตามด้วยย้อนถามในพระนามขององค์ชาย"แปลเหรอ? เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิกคิก" องค์หญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว ทำเอาพี่เลี้ยงที่นั่งฟังถึงกับอมยิ้ม ชอบใจในจินตนาการที่เดียงสาของจัสทีน่า"อ้าว""ก็เราเอาชื่อท่านแม่กับท่านพ่อบวกกัน บวกเหมือนเลขที่โรงเรียนไงครูสอนมา อยากให้มันเยอะต้องบวก มีจาห์เนียมาเพิ่มก็ต้องเป็นบวก...เอ๊ะ! หรือจะบวกกันให้หมดเลยเป็น จัสซีมาล์จาห์เน
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 14(สัตว์เลี้ยงขององค์หญิง)"ท่านแม่ขา" เสียงเจื้อยแจ้วขององค์หญิงตัวน้อยที่นอนหนุนขาของมารดาเอ่ยถาม หันหน้าเข้าหาท้องกลมใหญ่ที่ใกล้คลอด มือป้อม ๆ ขององค์หญิงจัสทีน่า ลูบคลำด้วยความแผ่วเบา"ว่าอย่างไรคะองค์หญิงของแม่" ผู้เป็นมารดาที่นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง มือหนึ่งลูบหัวเพื่อขับกล่อมบุตรสาว ขานรับเมื่อองค์หญิงจัสทีน่าพร่ำเรียก"เมื่อไหร่น้องจะออกมาเล่นเป็นเพื่อนลูกคะ" จินตนาการด้วยการเฝ้ารอน้องที่อยู่ในท้องของมารดา"อยากเจอหน้าน้องแล้วเหรอคะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู"อยากเจอแล้วค่ะ" องค์หญิงจัสทีน่าให้คำตอบ พร้อมกับกดปลายจมูกเล็กเชิดรั้นสัมผัสลงท้องกลมของมารดา มีการขยับเคลื่อนไหวของทารกน้อยในครรภ์ เหมือนกับตอบรับพี่สาวที่เฝ้ารออยู่ด้านนอก"รออีกหน่อยนะคะ อีกไม่กี่วันน้องก็จะมาแล้ว องค์หญิงจะเลี้ยงน้องช่วยแม่ไหมคะ" ผู้เป็นมารดาให้คำตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างลองเชิงบุตรสาวที่ยังไร้เดียงสา"ต้องเลี้ยงค่ะท่านแม่ ลูกรักน้อง พี่น้องต้องรักกันค่ะ ท่านปู่กับท่านย่าบอกแบบนี้" คำสั่งสอนของปู่กับย่า องค์หญิงจัสทีน่าจดจำได้ดี ครั้นเข้าเฝ้าทีไรต้องได้สิ่งที่มีประ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 13(วุ่นทั้งวัง)วันเวลาล่วงใหญ่ผ่านไป การใช้ชีวิตคู่ก็ชื่นมื่นสุขสม ทุกอย่างดำเนินไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งสอง ลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง ออกมาท่องโลกกว้างมาจนอายุครบสี่ปีและยังมีทารกน้อยในท้องอีกหนึ่งคนที่จวนจะคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าองค์หญิงตัวน้อยเป็นที่รักของทุกคน ความสดใสเจื้อยแจ้วเดียงสา ทำให้ราชวังที่เงียบเหงามีสีสันสดใส และวุ่นวายในเวลาเดียวกัน“จัสทีน่า! องค์หญิงอยู่ไหนลูก” เสียงของบิดาตะโกนเรียกขาน เมื่อบุตรสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าแอบหนีไปเล่นซุกซนที่ไหน“คิก คิก” เสียงหัวเราะชอบใจเมื่อคนที่อยู่บนต้นไม้ มองไปเห็นบิดากำลังเดินตรงมา สายตาก็กวาดมองหา ทว่าก็ไม่เจอคนที่หลบซ่อน มันทำให้หล่อนชอบใจ“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง” เสียงของพี่เลี้ยงตะโกนเรียกหา ทว่าจัสทีน่าองค์หญิงตัวน้อยก็ไม่ยักจะขานรับ“จัสทีน่า” เสียงมารดาแว่วดังตามมา ความวุ่นวายในวังมีไม่หยุดหย่อน สีสันที่ทำเอาเหล่านางในถึงกับเหนื่อยหอบได้ทุกวี่วัน ก็องค์หญิงตัวน้อยชอบแอบหนีไปเล่นเพียงลำพัง แล้วให้คนไล่ตามหา เหมือนกับว่าหนูน้อยชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งปั่นหัวผู้คน“ท่านพ่อเดินมาทางนี้แล้ว จะเห็นเราไหมนะ” จัสท
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 12(ยอมป้ะล่ะ?)หลังจากสร้างความสบายใจให้กับจัสซีเนียเสร็จสิ้น จาห์มาล์ก็กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อสะสางสิ่งที่ต้องทำ เตรียมพร้อมสำหรับการที่จะพาจัสซีเนียไปพักผ่อนตามคำบัญชาของมารดา ที่ห่วงลูกสะใภ้หนักหนา ทว่ากับมีบางอย่างให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัว"ส่งมาหยาเรียบร้อยใช่ไหม?" เขาเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของริฎวาน"ขอรับ" ตอบรับด้วยน้ำเสียงสุขุม"ได้ไปดูทาเธียน่าบ้างหรือไม่" มันคือสิ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม ตั้งแต่วันที่เขาสำเร็จโทษของทาเธียน่า ก็ไม่มีทีท่าจะไปพบหน้าหล่อนอีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากริฎวานเท่านั้น เป็นครั้งคราวที่นึกถึง"กระผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมตอนไปส่งคุณมาหยาขอรับ" ริฎวานให้คำตอบ"นางเป็นอย่างไรบ้าง" จาห์มาล์ยืนมือไขว้หลัง ทอดสายตามองออกไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างไร้เป้าหมาย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเจอมา ดั่งกับว่าเป็นนิยายปลำปลา ไม่เคยคิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาเจอสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับความเจ็บปวดและมีปมในใจ ทั้งที่เกิดมาพร้อมศักดินาที่สูงส่งในเชื้อพระวงศ์ คิดแล้วก็ตลกสิ้นดี"เหมือนเดิมขอรับ เซื่องซึม ไม่พูดไม่จาและ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 11(อธิบาย)"เธอ!""พระชายา"จัสซีเนียที่เดินมาหวังจะเข้าพบพระสวามี บรรจบพบเข้ากับมาหยาพอดิบพอดี กับที่หล่อนนั้นเปิดประตูออกมา มาหยาฉีกยิ้มให้แล้วโค้งตัวทำความเคารพ แต่กับจัสซีเนียหล่อนคิ้วขมวดชนกัน งุนงงกับการที่มาหยาเดินออกมาจากห้องทำงานของพระสวามีในยามนี้เพี๊ยะ! ไม่ทันจะได้ถามหาความจริง สิ่งที่เห็นทำให้จัสซีเนียเลือดขึ้นหน้า ปรี่ประชิดตัวมาหยาแล้วกระแทกฝ่ามือใส่จนใบหน้าสวยของมาหยาหันไปตามแรง ทำเอาคนสนิทที่เดินประกบหลังมาถึงกับเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าพระชายาที่กำลังอารมณ์ดี จะมีความโมโหรุนแรงเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียว มันทำให้พวกหล่อนตั้งหลักไม่ทัน"ท่านพี่!" และสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่านั้น คือจาห์มาล์เปิดประตูออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจของจัสซีเนียวูบไหว คาดหวังว่าพระสวามีคงไม่ตลบหลังหล่อนใช่ไหม? ภาพที่เห็นทำให้คิดไกล ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น กระนั้นก็ย่างสามขุมเข้าหาจาห์มาล์ที่ยืนทำหน้างุนงง"โอ๊ย ๆ น้องใจเย็น ฟังพี่ก่อน...จัส จัส พี่เจ็บ ท้องอยู่นะ" แต่ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บแสบ จนเรียกชื่อของจัสซเนียเพียงพยางค์เดียว เมื่อหล่อนฟาดฝ่ามื
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 10(ทางแยก)"คิดจะกำจัดฉันเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก กว่าจะได้เข้ามาในนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ" มาหยาที่เผลอมาได้ยิน สิ่งที่พระนางเอื้อนเอ่ยทำให้มาหยากำมือแน่นด้วยความแค้นใจเรื่องราวที่องค์รัชทายาทบาดหมางกับพระชายานับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยที่จาห์มาล์พูดระบายตอนเมา เพราะมันทำให้หล่อนตะล่อมจาห์มาล์ได้ง่ายขึ้น จนเขายอมพาหล่อนเข้ามาในวัง นานทีเขาจะไปหาที่ฮาเร็ม หล่อนจะทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรความว้าวุ่นก่อเกิดทำให้มาหยาถึงกับนั่งไม่ติดที่ เดินวนอย่างใช้ความคิด เพื่อหาทางได้อยู่ในวังต่อ เดินคิดทวนอยู่นานหลายนาที ความคิดมาดร้ายจึงบังเกิด"ฮึ! พระชายาคงไม่ถือสาหรอกมั้งที่จะใช้สามีร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาองค์รัชทายาทก็เคยร่วมเตียงกับหม่อมฉันนะเพคะ" มาหยาที่มีความคิดมาดร้ายในหัว หล่อนยืนพร่ำคนเดียวในห้องนอนรับรอง มโนภาพใบหน้าของพระชายาด้วยความปรีดา หากว่าได้เห็นในสิ่งที่จะผูกมัดให้ตนได้อยู่ต่อก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้มาหยาสะดุ้งตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ไม่สบอารมณ์เมื่อมันเป็นการรบกวนสิ่งที่จินตนาการไว้อย่างสวยหรู"มีอะไรคะ" มาหยาเปิดประตูออกมา แล้
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ(คำบัญชา)"เป็นอย่างไรกันบ้าง แม่ได้ข่าวว่ามีปากเสียงกันหนักเลย" องค์ราชินีที่คอยดูบุตรชายและสะใภ้อยู่ห่าง รู้เห็นทุกอย่างแต่ไม่อยากก้าวก่าย พระนางเอ่ยถามเมื่อพบเจอกับลูกทั้งสองในสวนยามเย็น"ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ"แล้วทำไมต้องทะเลาะขนาดนั้น มันหนักหนามากมายเลยหรือจาห์มาล์" พระนางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุขุม จ้องมองไปยังบุตรชายและสะใภ้ ที่ตอนนี้มีสีหน้าแห่งความรู้สึกผิด กระนั้นก็ยังจับมือกันไม่ปล่อยห่าง ทุกความรู้สึกเผยแก่สายตาของมารดา ความรักที่ให้แก่กันยังแน่นแฟ้น แม้นจะมีปากเสียงกันลูกทั้งสองก็รีบเคลียร์ใจ ไม่ปล่อยไว้ให้มันยืดเยื้อ"ไม่ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ แต่จัสซีเนียนั้นยังเงียบ ใบหน้ายังมีความเศร้าที่ปะปนความรู้สึกผิด"อดทนข่มอารมณ์ไม่ได้เลยหรือลูกแม่ ลูกไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว หากวุฒิภาวะในการควบคุมอารมณ์ยังน้อยนิด ลูกจะเป็นพ่อที่ดีได้อย่างไร จะให้ลูกดูใครเป็นเยี่ยงอย่างถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่" พระนางว่าขึ้นตักเตือนบุตรชาย"อย่าทรงตำหนิท่านพี่เลยนะเพคะ...หม่อมฉันผิดเองที่ดื้อรั้น ไม่ฟังสิ่งที่ท่านพี่ปรามด้วยความหวังดี ไม่รักษาความร
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 8(ผิดทั้งคู่)กลางดึกที่ผู้คนในวังนอนหลับใหล แสงไฟที่เคยเจิดจ้าสว่างไสวดับมอดลง มีเพียงแสงสีนวลจากดวงจันทร์ทอแสงสว่างเลือนลาง เพื่อให้คนที่กำลังเดินกลับเข้ามาในตำหนักได้เห็นทางจาห์มาล์ค่อย ๆ ผลักประตูห้องนอนแผ่วเบา เขาไม่อยากให้จัสซีเนียรู้สึกตัวตื่น แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบกับใบหน้าคนที่นอนหลับ ทำให้เขาลอบยิ้มหากอยู่นิ่งก็ดูว่านอนสอนง่าย แต่พอรู้สึกตัวตื่นไฉนเลยถึงดื้อรั้นเอาแต่ใจ"ฝันดีนะจัสซีเนีย" จาห์มาล์ไล้ใบหน้าเนียนนั้นอย่างเบามือ โน้มตัวจูบลงกลางหน้าผากนูนนั้นด้วยความอ่อนโยน แตะริมฝีปากจูบซับบางเบา เพราะเขาห่วงว่าหล่อนจะสะดุ้งตื่น...แม้ปากจะไวแต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำร้ายคนที่รักมากกว่านี้ไม่ลง"ฝันดีนะเจ้าตัวน้อย..." ตามด้วยแตะจูบลงหน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อย ที่มีกลอยใจอาศัยอยู่ด้านในจากนั้นจึงเอนตัวนอนเคียงข้าง แทรกร่างกายหนาอุ่นในผ้าห่มผืนเดียวกัน สอดแขนให้จัสซีเนียนอนหนุน กระชับโอบกอดคนที่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ได้ยินเพียงเสียงของลมหายใจที่พ่นเข้าออกเป็นจังหวะ"อื้อ~~" การถูกรบกวนทำให้คนที่อ่อนล้านอนหลับสนิท มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเล็ดลอดออกมาบางเบา แต่
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 7(ที่หนึ่งไม่ไหว)นานราวยี่สิบนาทีตั้งแต่ที่จาห์มาล์ทิ้งหล่อนไว้ข้างหลังให้ร้องไห้น้ำตาไหลเพียงลำพัง จัสซีเนียก็ยังไม่ขยับขาก้าวเดินไปไหน มันจุกในอก มันเจ็บปวดเหมือนหัวใจตกหล่นลงสู่พื้นที่เต็มไปด้วยหนามแหลม ทิ่มแทงลงก้อนเนื้อหัวใจให้เจ็บร้าว ยิ่งเขาเมินเฉยใส่ ยิ่งสร้างความทรมานหัวใจแก่จัสซีเนียผู้มีความผิด"พระชายาเพคะ" ซัลมาเดินเข้าไปใกล้ เรียกขานคนที่เอาแต่ยืนร้องไห้หวังให้รู้สึกตัว"เสด็จเข้าด้านในเถิดเพคะ อากาศตอนนี้หนาวเย็นแล้วเพคะ" ลีนาว่าขึ้นอย่างนึกสงสาร สิ่งที่เห็นทำเอาหญิงรับใช้ทั้งสองน้ำตาซึมตามอย่างไม่อาจหักห้าม"ฉันไม่เคยแคร์ความรู้สึกของท่านพี่เลย ไม่เคยฟังในสิ่งที่เขาห้าม...ฉันเป็นคนที่แย่มาก ฮึก ฮึก ใช่ไหม?" จากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยวาจาขึ้นถามความเห็นด้วยน้ำเสียงสะอื้น น้ำตารื้นขอบตาจนมาไหลรดอาบแก้มเป็นทางยาว"ที่องค์รัชทายาททรงห้ามปรามนั่นก็เพราะทรงห่วงพระชายานะเพคะ หม่อมฉันอยู่ในวังมาหลายปี ไม่เคยมีหญิงใดที่พระองค์จะทรงห่วงใยถึงเพียงนี้...ไม่ใช่สิเพคะ องค์รัชทายาทดูเหมือนจะแทบไม่มีใครเลยด้วยซ้ำไป" ลีนาคุกเข่ากับพื้นแล้วจับมือของจัสซีเนียแนบแก้