ใกล้เทศกาลแห่งความรักเจเล่ เตรียมทำเซอร์ไพรส์ ด้วยช็อกโกแลตทำเอง แต่ก็ยังลังเลเมื่อแคลอรี ต่อชิ้นมันทะลุขีดจำกัด แต่หน้าเทศกาลทั้งที เขาก็ควรต้องเข้าร่วมสิ หลังจากไล่ดูสูตรช็อกโกแลตโฮมเมดมาหลายสูตร เจเล่ก็ถอนหายใจ พลางจ้องตัวเลขแคลอรีที่แสดงอยู่บนหน้าจอ "โอ้โห... แค่ชิ้นเดียวก็เกินลิมิตไปกี่มื้อเนี่ย แต่ว่าให้พี่เจกินไม่ได้กินเองก็ช่างมันเถอะเนาะ" เมื่อมองไปที่กล่องของขวัญที่เตรียมไว้ และนึกถึงรอยยิ้มของคนรัก เจเล่ก็ฮึดขึ้นมา เทศกาลแห่งความรักทั้งที ต้องทุ่มสุดตัว! เขาหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาสวม แล้วเริ่มจัดเตรียมวัตถุดิบ— ละลายดาร์กช็อกโกแลตที่ทุบแทบไม่แตก นมสดหอมมัน ผงโกโก้เข้มข้น และน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความละมุน เจเล่กะปริมาณอย่างระมัดระวัง หวังให้รสชาติออกมาดี เมื่อละลายช็อกโกแลตจนเนียนได้ที่ กลิ่นหอมหวานก็ลอยอบอวลไปทั่วห้อง เจเล่หยิบแม่พิมพ์รูปหัวใจขึ้นมา โรยของตกแต่ง จัดวางทีละชิ้น แล้วจึงเทส่วนผสมลงไปทีละนิดด้วยความตั้งใจ จากนั้นจึงนำไปแช่เย็น ท่ามกลางความตื่นเต้นปนกังวล "หวังว่าจะออกมาดี..." เขาพึมพำกับตัวเอง พลางมองนาฬิกา รอให้ช็อกโกแลตเซตตัว หลังจากรออยู่นานจนรู้สึ
บีเจ เป็นเด็กโชคดีคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวที่พร้อมได้รับการสนับสนุนไม่ว่าจะเลือกใช้ชีวิตทางไหนก็ตาม เขาเกิดมาโดยไม่รู้จักความผิดหวังกระทั่ง เส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขาปิดฉากก่อนเวลาอันควร แค่รุ่นเยาวชน เด็กหนุ่มวัย 19 มืดแปดด้าน เมื่อเขาพยายามสู้กับอาการบาดเจ็บแต่ดูเหมือนว่า มันไม่มีทางดีขึ้นมีแต่แย่ลง ฝันของเขาดับวูบ ผู้เป็นพ่อที่คอยสนับสนุน เอ่ยปลอบใจ “กลับมาเรียนเถอะ เล่นเป็นแค่งานอดิเรกก็พอ” โชคดีที่พ่อนักธุรกิจของเขามองการณ์ไกลเคี่ยวเข็ญไม่ยอมให้ทิ้งการเรียน เด็กหนุ่มจึงมีทางเลือกอื่น และได้ลองใช้ชีวิตในแบบอื่น ๆ เหมือนกับวัยรุ่นธรรมดา แต่ไม่ว่าทางไหนมันกลับ ว่างเปล่า “ไม่เป็นไร แค่ทำอย่างที่อยากทำ เป็นอย่างที่อยากเป็น ครอบครัวจะอยู่ข้างแกเอง” พ่อผู้ใจกว้างเอ่ย “แม้แต่ถ้าผมจะเป็นเกย์นะหรือ?” เขาในวัย 22 เปิดเผยเพศสภาพกับผู้เป็นพ่อออกไปแบบนั้น และพ่อเขาก็ยอมรับมันแบบนั้น แค่เรื่องเป็นแบบนั้น ในวันธรรมดา ๆ ไม่ได้ซับซ้อนใด ๆ เขาแยกมาอยู่เอง รับผิดชอบตัวเอง ลองใช้ชีวิตเอง และหยิบจับ ลงทุนหาอะไรทำ หลายต่อหลายอย่าง แต่ก็ไม่คลิกกับอะไรสักอย่าง เด็กหนุ่มก็เพียงใช้ชีวิต ทำอย่างที่
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาซื้อเสื้อผ้าเยอะแยะจนตู้เต็ม จึงได้เวลาเคลียร์ของเก่า ระหว่างที่คัดแยก ก็ไปเจอถุงใส่เสื้อผ้าที่ยัดไว้เสียลึกเปิดออกมาเป็นเสื้อผ้าเก่าที่ยังดีอยู่สมัยที่ย้ายออกจากคอนโดมาอยู่บ้านพี่เจ เจเล่เจอเสื้อผ้าสมัยเรียบจบใหม่ ๆ ดูเหมือนตอนนั้นเขาจะตัวใหญ่ ตอนนี้รักษาสุขภาพเข้ายิม ผอมลงตั้งเยอะ เจเล่หัวเราะกับตัวเองเบา ๆ พลางดึงเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาลองทาบกับร่างกาย
เจเล่หยิบมือถือขึ้นมาดูปฏิทิน วันนี้เป็นวันสำคัญของเขา เขาแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ก่อนจะสะพายกระเป๋าที่เตรียมของใช้ส่วนตัวไว้เรียบร้อย แล้วเดินลงไปรอที่รถ ขณะเดียวกัน บีเจกำลังจัดสัมภาระขึ้นหลังรถ เตรียมพร้อมสำหรับทริปแคมป์ปิ้งที่รอคอย พวกเขาขับรถสีเหลืองคันเก่า ที่แม้จะผ่านกาล
บ่ายวันหนึ่งขณะเจเล่นั่งไถโซเชียลก็ไปเจอการออกกำลังประเภทโยคะ มีแต่คลิปสาว ๆ แอ่นอก แอ่นก้นออกกำลังเขาไม่สนใจกระทั่งคลิปของผู้สาวแผ่นดินใหญ่ใส่ชุดประจำชาติโบราณ โหนผ้า รำเป็นนางฟ้า บินไปบินมา เจเล่ตื่นตาตื่นใจ อยากลองบินบ้าง พอเลื่อนคลิปถัดมา ก็ได้รู้จักกับการออกกำลังที่เรียกว่า Yoga fly เจเล่นั่งมองจอมือถือ พลางคิดในใจ “เราจะทำได้ไหมนะ?” ในคลิป สาว ๆ นั่งโหนผ้าทำท่าโยคะน่าสนุก ทว่าแต่ละคนเอวบางร่างน้อย ถ้าตัวใหญ่แบบเขากลัวว่าผ้าจะขาดร่วงลงมาก่อน เขาจึงลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Yoga Fly ไปเรื่อย ๆ ยิ่งดูคลิปก็ยิ่งรู้สึกท้าทาย อยากลองโหนผ้าดูบ้าง พอเห็นว่ามีสตูดิโอโยคะใกล้บ้านเปิดคลาสสำหรับมือใหม่ เจเล่นึกสนุก จึงทักลองสอบถามดูก่อน เมื่อเขาบอกว่าได้ เขาจึงนอกใจฟิตเนสของพี่เจ แล้วกดสมัครลงคลาสโยคะที่อื่น พอถึงวันนัด เขาสวมเสื้อยืดกางเกงวอร์มมุ่งหน้าไปยังสตูดิโอ ขับเจ้าป๊อป คันเก่าไปยังที่หมาย ณ สตูดิโอเขาก็เห็นสาว ๆ หลายคนกำลังเตรียมตัว บางคนกำลังโหนผ้า ทำท่าทางอ่อนช้อย พนมมือเป็นเทพยดา บางคนหมุนตัวกลางอากาศได้อย่างคล่องแคล่ว ‘เรามาทำอะไรที่นี่เนี่ย?’ แต่ในเมื่อจ่ายเง
หลังจากเรียนจบ เจเล่ ฝ่าฟันสู้สึกในตลาดแรงงาน ทุ่มเทเพื่อความอยู่รอด พอรู้ตัวอีกที น้ำหนักก็ขึ้นเป็นสิบกิโล น่าแปลกคนอื่นลำบาก งานยุ่งน้ำหนักลงกัน ครีเอทีฟหนุ่มกลับตรงข้าม อาจเพราะ job description ที่นั่งติดโต๊ะทำงาน เตรียมโปรเจกต์ ถึงออกไปพบลูกค้า ก็ไม่ได้ไปไหนนอกจากร้านอร่อย แต่ถึงขนาดนั้นแล้วเจเล่ก็ยังไม่ได้รู้สึกเดือดร้อน ก็อ้วนแล้วหนักตัวเองไม่ได้ไปหนักคนอื่น ยิ่งเมื่องานประจำอยู่ตัว ได้สัญญาระยะยาว ไม่ต้องหางานเสริม เขาก็มีเวลาว่างทำช่องรีวิวขนม ของกินไปเรื่อย กระทั่งไปเจอกับชาเลนจ์อาหาร ไม่ว่าจะ ทำ หรือจะทาน ก็สนุก และ มีความสุขกับการบรรลุเป้าหมาย ยิ่งเมื่อทำชาเลนจ์สำเร็จ ได้ของแถมเป็นรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาเป็นทุนต่อยอดทำคอนเทนต์ต่อไป ทำให้มีกำลังใจขึ้นไปอีก เขาสูง 165 เซนต์ ไม่ถึงปีน้ำหนักก็เพิ่มขึ้น ขาดไม่กี่สิบก็จะทันส่วนสูง หนุ่มอายุเพียงยี่สิบห้ามีปัญหาการใช้ชีวิตจุกจิกมากขึ้น แข่งกับน้ำหนักตัว พอรู้ถึงปัญหา ก็พยายามออกกำลังกายวันละ 15-20 นาทีทุกวัน แต่น้ำหนักก็ยังอยู่ที่เดิม ถ้าคุมการกินไม่ดี อาจน้ำหนักขึ้นเอาด้วย เมื่อได้เวลาเจเล่ยังไลฟ์สดตามตาราง วันนี้เขาเลือกแซลม
หลังจากได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น นอกจากนิสัยที่ต่างกันจนเข้ากันได้ยาก และความปากหมาแล้ว บีเจเป็นเทรนเนอร์ที่เก่ง เขารักงานที่ทำ และจริงจัง เมื่อบอกต้องการลดน้ำหนัก ก็วางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ในแต่ละช่วงเดือน และกำหนดเป้าหมายไว้ให้ ไม่ใช่แค่โปรแกรมออกกำลังกาย แต่รวมถึงโภชนาการการกิน การดื่ม ที่คิดตามน้ำหนัก และการใช้ชีวิตประจำวัน ตารางเข้มข้นต่างจากพี่ยอด ที่เขาแนะนำกว้าง ๆ เหมาะสำหรับเริ่มต้น แม้น้ำหนักตัวของเจเล่จะลดลงไปเป็น 10กิโลแล้ว แต่ก็ยังเกินร้อยอยู่ หนุ่มร่างท้วมยังเข้ายิมออกกำลังกาย จากสั้น ๆก็ ต่อเนื่องนานได้เป็นชั่วโมง จากสองวันต่อสัปดาห์ กลายเป็นวันเว้นวัน เหมือนชอบมาให้เขาด่าเขาว่า วลีเด็ด แต่ละวันไม่มีซ้ำ “วิ่งให้มันดี ๆ ตูดบิดแล้ว” “ย้อยแล้วแม่ ฮึบไว้!” “ขึ้นสุดลงสุด! ขึ้นสุด ลงสุด! ขามีแค่นี้หรือไง? งอไว้ทำไม?” คำว่าต่าง ๆ นาๆ สรรหา ชอบล้อชอบว่า ชอบตบมือเร่งเหมือนต้อนวัว ต้อนควายเสียงดังอายคนอื่น วันนี้ขณะทำคาดิโอ ทำความเร็วตก ก็โดนดุ แต่เมื่อชินกับนิสัยดุดัน ขี้เก๊ก ของเทรนเนอร์โหด และสุดทนกับความปากหมาของมัน เจเล่ก็ขึ้นเสียงเถียงกลับ เมื่อเขาเป็นผู้ใช้บริการ จ
บีเจคิดว่าเจเล่คงไม่มาที่ยิมอีก เมื่อเสียฟอร์มร้องไห้ขนาดนั้นต่อหน้าเขา แต่ไม่กี่วันก็กลับมาออกกำลังกายทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่ออีกฝ่ายไม่พูดเขาก็ไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ และทำหน้าที่ของตัวเอง วันนี้บีเจเตรียมชุดว่ายน้ำมา เพื่อที่เตรียมลงสระสอนว่ายน้ำให้ตัวต่อตัว และด้วยความทุ่มเทของผู้สอน และความตั้งใจของผู้เรียน ในที่สุด เจเล่ก็ว่ายน้ำได้ แม้จะมีน้ำตาบ้างก็ตาม เมื่อทำได้ ก็ตกลงจะเพิ่มการว่ายน้ำ สลับผสมกับออกกำลังกายอื่นร่วมด้วย แต่หลังจากเพิ่มรายการ เจเล่หิวมากกว่าปกติ ขนาดต้องปรึกษา ถามความเห็น เพื่อปรับโภชนาการ เมื่อเขากังวลกับปริมาณการกิน หลังออกกำลังกา
บ่ายวันหนึ่งขณะเจเล่นั่งไถโซเชียลก็ไปเจอการออกกำลังประเภทโยคะ มีแต่คลิปสาว ๆ แอ่นอก แอ่นก้นออกกำลังเขาไม่สนใจกระทั่งคลิปของผู้สาวแผ่นดินใหญ่ใส่ชุดประจำชาติโบราณ โหนผ้า รำเป็นนางฟ้า บินไปบินมา เจเล่ตื่นตาตื่นใจ อยากลองบินบ้าง พอเลื่อนคลิปถัดมา ก็ได้รู้จักกับการออกกำลังที่เรียกว่า Yoga fly เจเล่นั่งมองจอมือถือ พลางคิดในใจ “เราจะทำได้ไหมนะ?” ในคลิป สาว ๆ นั่งโหนผ้าทำท่าโยคะน่าสนุก ทว่าแต่ละคนเอวบางร่างน้อย ถ้าตัวใหญ่แบบเขากลัวว่าผ้าจะขาดร่วงลงมาก่อน เขาจึงลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Yoga Fly ไปเรื่อย ๆ ยิ่งดูคลิปก็ยิ่งรู้สึกท้าทาย อยากลองโหนผ้าดูบ้าง พอเห็นว่ามีสตูดิโอโยคะใกล้บ้านเปิดคลาสสำหรับมือใหม่ เจเล่นึกสนุก จึงทักลองสอบถามดูก่อน เมื่อเขาบอกว่าได้ เขาจึงนอกใจฟิตเนสของพี่เจ แล้วกดสมัครลงคลาสโยคะที่อื่น พอถึงวันนัด เขาสวมเสื้อยืดกางเกงวอร์มมุ่งหน้าไปยังสตูดิโอ ขับเจ้าป๊อป คันเก่าไปยังที่หมาย ณ สตูดิโอเขาก็เห็นสาว ๆ หลายคนกำลังเตรียมตัว บางคนกำลังโหนผ้า ทำท่าทางอ่อนช้อย พนมมือเป็นเทพยดา บางคนหมุนตัวกลางอากาศได้อย่างคล่องแคล่ว ‘เรามาทำอะไรที่นี่เนี่ย?’ แต่ในเมื่อจ่ายเง
เจเล่หยิบมือถือขึ้นมาดูปฏิทิน วันนี้เป็นวันสำคัญของเขา เขาแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ก่อนจะสะพายกระเป๋าที่เตรียมของใช้ส่วนตัวไว้เรียบร้อย แล้วเดินลงไปรอที่รถ ขณะเดียวกัน บีเจกำลังจัดสัมภาระขึ้นหลังรถ เตรียมพร้อมสำหรับทริปแคมป์ปิ้งที่รอคอย พวกเขาขับรถสีเหลืองคันเก่า ที่แม้จะผ่านกาล
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาซื้อเสื้อผ้าเยอะแยะจนตู้เต็ม จึงได้เวลาเคลียร์ของเก่า ระหว่างที่คัดแยก ก็ไปเจอถุงใส่เสื้อผ้าที่ยัดไว้เสียลึกเปิดออกมาเป็นเสื้อผ้าเก่าที่ยังดีอยู่สมัยที่ย้ายออกจากคอนโดมาอยู่บ้านพี่เจ เจเล่เจอเสื้อผ้าสมัยเรียบจบใหม่ ๆ ดูเหมือนตอนนั้นเขาจะตัวใหญ่ ตอนนี้รักษาสุขภาพเข้ายิม ผอมลงตั้งเยอะ เจเล่หัวเราะกับตัวเองเบา ๆ พลางดึงเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาลองทาบกับร่างกาย
บีเจ เป็นเด็กโชคดีคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวที่พร้อมได้รับการสนับสนุนไม่ว่าจะเลือกใช้ชีวิตทางไหนก็ตาม เขาเกิดมาโดยไม่รู้จักความผิดหวังกระทั่ง เส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขาปิดฉากก่อนเวลาอันควร แค่รุ่นเยาวชน เด็กหนุ่มวัย 19 มืดแปดด้าน เมื่อเขาพยายามสู้กับอาการบาดเจ็บแต่ดูเหมือนว่า มันไม่มีทางดีขึ้นมีแต่แย่ลง ฝันของเขาดับวูบ ผู้เป็นพ่อที่คอยสนับสนุน เอ่ยปลอบใจ “กลับมาเรียนเถอะ เล่นเป็นแค่งานอดิเรกก็พอ” โชคดีที่พ่อนักธุรกิจของเขามองการณ์ไกลเคี่ยวเข็ญไม่ยอมให้ทิ้งการเรียน เด็กหนุ่มจึงมีทางเลือกอื่น และได้ลองใช้ชีวิตในแบบอื่น ๆ เหมือนกับวัยรุ่นธรรมดา แต่ไม่ว่าทางไหนมันกลับ ว่างเปล่า “ไม่เป็นไร แค่ทำอย่างที่อยากทำ เป็นอย่างที่อยากเป็น ครอบครัวจะอยู่ข้างแกเอง” พ่อผู้ใจกว้างเอ่ย “แม้แต่ถ้าผมจะเป็นเกย์นะหรือ?” เขาในวัย 22 เปิดเผยเพศสภาพกับผู้เป็นพ่อออกไปแบบนั้น และพ่อเขาก็ยอมรับมันแบบนั้น แค่เรื่องเป็นแบบนั้น ในวันธรรมดา ๆ ไม่ได้ซับซ้อนใด ๆ เขาแยกมาอยู่เอง รับผิดชอบตัวเอง ลองใช้ชีวิตเอง และหยิบจับ ลงทุนหาอะไรทำ หลายต่อหลายอย่าง แต่ก็ไม่คลิกกับอะไรสักอย่าง เด็กหนุ่มก็เพียงใช้ชีวิต ทำอย่างที่
ใกล้เทศกาลแห่งความรักเจเล่ เตรียมทำเซอร์ไพรส์ ด้วยช็อกโกแลตทำเอง แต่ก็ยังลังเลเมื่อแคลอรี ต่อชิ้นมันทะลุขีดจำกัด แต่หน้าเทศกาลทั้งที เขาก็ควรต้องเข้าร่วมสิ หลังจากไล่ดูสูตรช็อกโกแลตโฮมเมดมาหลายสูตร เจเล่ก็ถอนหายใจ พลางจ้องตัวเลขแคลอรีที่แสดงอยู่บนหน้าจอ "โอ้โห... แค่ชิ้นเดียวก็เกินลิมิตไปกี่มื้อเนี่ย แต่ว่าให้พี่เจกินไม่ได้กินเองก็ช่างมันเถอะเนาะ" เมื่อมองไปที่กล่องของขวัญที่เตรียมไว้ และนึกถึงรอยยิ้มของคนรัก เจเล่ก็ฮึดขึ้นมา เทศกาลแห่งความรักทั้งที ต้องทุ่มสุดตัว! เขาหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาสวม แล้วเริ่มจัดเตรียมวัตถุดิบ— ละลายดาร์กช็อกโกแลตที่ทุบแทบไม่แตก นมสดหอมมัน ผงโกโก้เข้มข้น และน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความละมุน เจเล่กะปริมาณอย่างระมัดระวัง หวังให้รสชาติออกมาดี เมื่อละลายช็อกโกแลตจนเนียนได้ที่ กลิ่นหอมหวานก็ลอยอบอวลไปทั่วห้อง เจเล่หยิบแม่พิมพ์รูปหัวใจขึ้นมา โรยของตกแต่ง จัดวางทีละชิ้น แล้วจึงเทส่วนผสมลงไปทีละนิดด้วยความตั้งใจ จากนั้นจึงนำไปแช่เย็น ท่ามกลางความตื่นเต้นปนกังวล "หวังว่าจะออกมาดี..." เขาพึมพำกับตัวเอง พลางมองนาฬิกา รอให้ช็อกโกแลตเซตตัว หลังจากรออยู่นานจนรู้สึ
เจเล่กลับมาหางานทำที่กรุงเทพ และได้งานประจำกับแบรนด์เครื่องสำอางที่เพิ่งเปิดตัวยี่ห้อหนึ่ง ทำให้วุ่นวายอยู่กับงาน วัน ๆ หนึ่งเวลาผ่านไปไว กว่าชีวิตจะเข้าที่เข้าทาง ก็ผ่านไปหลายเดือน แต่แม้จะยุ่งแค่ไหนเจเล่ยังพยายามรักษาคุณภาพการใช้ชีวิตประจำวันไว้ได้อย่างหวุดหวิด ขณะเล่น โฟมโรลยืดกล้ามเนื้อให้หายเมื่อยแล้วกำลังกลับไปนั่งทำงานต่อ ก็เห็นพี่บีเจสุดหล่อนอนเล่นมือถืออยู่บนโซฟาตัวเดิม ขณะทานผลไม้อบแห้งผลิตภัณฑ์พื้นบ้านที่พ่อส่งมาให้ชิม ตัวพี่เจนั้นยาวเหยียดเต็มโซฟาเป็นปกติ แต่เขาคิดว่าพี่แกดูจะตัวหนาขึ้นกว่าเดิม? “พี่เจช่วงนี้อ้วนขึ้นหรือเปล่า?” เจเล่ทักขึ้นอย่างไม่ทันคิดพูดตามที่เห็น ก่อนจะชะงักเมื่อเขารู้ตัวว่าเสียมารยาท เมื่อหันไปมองหน้าของแฟนหนุ่ม พอเห็นสีหน้าคำว่า ฉิบหายล่ะ แล่นเข้ามาในหัวทันที บีเจเดินไปขึ้นตาชั่ง แล้วเปิดแอปพลิเคชัน อ่านค่าคำนวณน้ำหนัก แล้วหยิบสายวัดมาเช็กสัดส่วน กดพิมพ์ข้อมูลลงมือถือ ใบหน้าเข้มย่นคิ้ว แม้น้ำหนักจะไม่ได้ ขึ้นมาแต่เปอร์เซ็นต์ไขมันเพิ่มขึ้น ทำให้รูปทรงไม่ได้ฟิตเหมือนเก่า ชายหนุ่มหันไปมองรอบ ๆ ขณะพิจารณาหาสาเหตุ เมื่อเขาออกกำลังกายตามตารางเท่าเดิม
อยู่บ้านสวนไม่รู้ใครจะดูแลใคร มีพี่ มีแม่ คอยเลี้ยงดูปูเสื่อ อุดมสมบูรณ์ ส่องกระจกแล้วเริ่มรู้สึกหน้ากลมขึ้น เจเล่ส่องซ้ายส่องขวา หาเครื่องชั่งน้ำหนัก แต่เหมือนไม่ได้เอามาด้วย ระหว่างนั้นเอง ก็คิดถึงแฟนหนุ่ม "แม๊~ พี่เจไปไหน?" "หนีตามผัวแม่มึงไปแล้ว บอกว่าไปไร่กัน ป่านนี้ยังไม่กลับเลย~" แม่พูดติดตลก พลางตักชิมรสซุปในหม้อ "ไปไร่กับพ่ออีกแล้วหรือ?" ตั้งแต่ถอดเฝือก พ่อก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ออกไปดูไร่ทุกวัน ขณะที่พี่เจ ขับรถจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยม ตอนแรกตั้งใจมาพักแค่ 2-3 วัน แต่นานไปกลับอยู่ยาวเป็นอาทิตย์ จนสนิทกับที่บ้านไปโดยปริยาย พ่อเองก็ดูจะถูกใจพี่เจเป็นพิเศษ คอยลากไปนั่นไปนี่ จนเจเล่เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าพ่อเป็นพ่อของเขาหรือพ่อของพี่เจกันแน่ กำลังตั้งวงนินทาได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากหน้าบ้าน "กลับมาแล้ว มารับหน่อยเร็ว~" ‘ตายยากแหะ’ เจเล่อมยิ้มชะโงกหน้าออกไปดู แต่แวบเดียวก็ต้องผงะ เมื่อเห็นสภาพของสองคนที่เพิ่งกลับมา ทั้งพ่อและพี่เจเปรอะไปด้วยโคลนตั้งแต่ช่วงเอวลงไป "ไปไหนกันมาเนี่ย!? แม่บอกว่าไปไร่ ทำไมกลับมาสภาพนี้?" "เขาสูบน้ำออกจากบ่อหาปลา เรียกให้ไปช่วยน่ะสิ" พ
ณ ยามเช้าพี่สาวตื่นมาทำกับข้าวไว้ให้และฝากเขาให้ไปดูพ่อแม่ที่โรงพยาบาล ส่วนเธอจะออกไปทำงานแล้วจะรีบกลับมาเตรียมดูแลบ้านให้ตอนเย็นเจเล่หิ้วของตามรายการไปโรงพยาบาล พร้อมกับพี่เจที่ขับรถไปส่ง เมื่อแม่เห็นผู้ชายช่วยลูกชายหิ้วของ ก็ตื่นตัวทันที รีบเดินมารับของ ไม่สนใจลูกเต้าเมื่อมือว่างบีเจก็ยกมือไว้ แต่มือแม่ไม่ว่างรับไหว้ ทำเงอะงะ กระทั่งเจเล่เอาของในมือแม่มาวางเธอถึงตั้งสติได้“แม๊! นี่พี่เจ แฟนหนู~” เจเล่แนะนำ ขณะอธิบายว่าเขาช่วยขับรถมาส่ง แม่ก็ลากเก้าอี้ให้นั่งต้อนรับเต็มที ขณะผู้ป่วยนี่นอนเข้าเฝือก นิ่งมอง ไม่มีใครเรียกก็ทำเป็นไม่มีตัวตน ก่อนสองแม่ลูก จะออกไปหายืมช้อนเพราะลืมเอามา ทิ้งให้ บีเจ กับพ่อแฟนอยู่ด้วยกันเอง นั่งส่งกระแสจิตคุยกันทางสายตาช่วงสายหลังจากพ่อตรวจร่างกายโดยละเอียด เจเล่จัดการเอกสารที่แผนกผู้ป่วยใน พร้อมกับคุยกับพยาบาลเกี่ยวกับขั้นตอนการรับตัวพ่อออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปพักฟื้นที่บ้านคุณป้าพยาบาลยื่นเอกสารให้"นี่เป็นใบสรุปอาการของคุณพ่อ รวมถึงคำแนะนำในการดูแลระหว่างพักฟื้นที่บ้าน แล้วนี่ใบนัดพามาตรวจอาการ"เจเล่รับเอกสารมาแล้วกวาดตาอ่านอย่างรวดเร็ว แม้จะยังรู้สึกเ
ในเช้าวันหนึ่งขณะเจเล่ยังไม่ทันตื่นนอนเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อพี่สาวของเขาโทรมาแต่เช้า “ฮัลโลเจเล่ ~” “ว่าไงครับพี่?” “พ่อแกล้มในห้องน้ำ—“ เจเล่ตาสว่างทันที ขณะชายที่นอนด้านข้างลุกขึ้นมาทำทีท่าแสดงความสนใจ ชายหนุ่มขอให้เงียบเสียงรอฟังสิ่งที่พี่พูดก่อน “พ่อเป็นยังไงบ้างพี่!?” เจเล่ถามเสียงสั่น พยายามทำใจเย็น “ยังดีที่แม่อยู่บ้าน หมอบอกว่าต้องดูอาการก่อน” เจเล่ลุกพรวดจากเตียง คว้าเสื้อยืดที่พาดอยู่ปลายเตียงมาสวม “พี่อยู่ไหน ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้” “เจเล่มาได้หรือ? พี่เฝ้าอยู่กับแม่แต่ก็ต้องทำงานถ้ามีคนช่วยสลับมาดูได้ก็ดี มาได้ไหม?” “ครับพี่!” เมื่อถาม สถานที่ ตำแหน่งโรงพยาบาลเรียบร้อย เขาก็วางสาย หันไปมองชายหนุ่มที่นอนข้าง ๆ ซึ่งตอนนี้ลุกขึ้นนั่งมองเขาด้วยความเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” “พ่อผมล้มในห้องน้ำ ต้องไปโรงพยาบาล” พูดพลางก็เปิดมือถือเพื่อดูตารางจองตั๋วเพื่อกลับต่างจังหวัด “ให้พี่ขับไปส่ง?” เจเล่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนส่ายหัว “ไม่เป็นไร พี่มีงานของพี่ เดี๋ยวผมจัดการเอง” “ทำไม? เพราะเกรงใจ? หรือว่าไม่อยากให้พ่อแม่เจเจอพี่?” “พี่เจอย่าเพิ่งชวนทะเลาะ มันขับรถไกล