“เต้นกันอยู่นี่ ยังคิดเรื่องงานอีกนะคะ” หญิงสาวเรียกร้องความสนใจด้วยการเอาตัวมาเบียดชิดกับร่างสูง ก่อนจะใช้มือสองข้างโน้มคอของอีกฝ่ายลงมาหา
“ว่าไงคะ” เธอช้อนสายตามองนัยน์ตาฉ่ำปรือ
“คุณเมาแล้ว” เขาพูด แต่ก็ไม่ได้ดันร่างเล็กออก ได้แต่โอบประคองเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ร่วงลงไปกองกับพื้นแน่
การกระทำของเขาสร้างความอิจฉาตาร้อนให้กับสาว ๆ ในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก และดูเหมือนเธอจะรู้ดี เลยแกล้งทำตัวอ่อนอยู่ในอ้อมกอด ซบใบหน้าอยู่กับแผงอกกว้าง
ณภัทรยิ้มอย่างรู้เท่าทันแต่ไม่ได้ว่าอะไร เธอร้ายนัก เธอไม่ได้ยั่วยวนเขา แต่จงใจยั่วลูกค้าสาวคนอื่น ๆ เขาจึงยินยอมถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความบันเทิงเล็ก ๆ ให้กับเธอ แถมเขาก็ยังสนุกด้วยเหมือนกัน แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่า การที่เขาปล่อยให้ทั้งคู่แนบชิดกันอยู่แบบนั้น มันจะนำเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตัวเอง
“เฮ้ย มึงทำอะไรน้องกูวะ ปล่อย!”
แรงกระชากจากด้านหลังทำเขาเซไปเล็กน้อย ถึงจะไม่ล้มแต่มันก็น่าหงุดหงิดที่โดนใครก็ไม่รู้เข้าถึงตัว
“อะไรกันวะ”
เขาหันกลับมาเอาเรื่องคนที่มาหาเรื่องถึงในถิ่นของตัวเอง แล้วก็ต้องพบกับชายหนุ่มตัวสูงที่มีหน้าตาดีพอ ๆ กับตัวเองยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ เขาสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแลกส์ แถมยังผูกเนกไทอีกต่างหาก ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนกับคนมาเที่ยว นี่ถ้าสวมสูททับคงคิดว่าเขาต้องมาเจรจาธุรกิจแน่ ๆ แต่กับที่คลับนี้เหรอ...เขาออกจะดูผิดที่ผิดทางไปเสียหน่อย
“ปล่อยน้องกู” อีกฝ่ายออกคำสั่งแล้วกำลังจะพุ่งตรงเข้ามาแต่เขาเบี่ยงตัวหลบ
“แล้วมึงเป็นใคร” เขาถามกลับด้วยเสียงกระโชกโฮกฮาก แล้วประคองพริมาที่ยืนโงนเงน พร้อมจะล้มหน้าทิ่มลงไปได้ทุกเมื่อ
“อย่ามาแตะน้องสาวกู” คนที่อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายดึงหญิงสาวจนร่างบางเซปะทะแนบอก
“น้องสาว?” เขาทวนคำก่อนจะเขม้นมองคนตรงหน้าให้ชัด ๆ แม้จะไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็น ไม่รู้จักพี่ชายของพริมามาก่อน แต่ฟังจากคำบอกเล่าก็น่าจะใช่คนนี้แหละ ชายหนุ่มมีหน้าตาคล้ายน้องสาว แต่โครงหน้าเข้มกว่า การแต่งตัวที่ดูอย่างไรคงน่าจะเพิ่งเลิกงานแน่ ๆ คนปกติที่ไหนจะมาคลับด้วยการแต่งตัวเต็มยศขนาดนี้ คงมีแต่พี่ชายของหญิงสาวคนที่เขานึกจินตนาการตามที่เธอเล่าให้ฟังบ่อย ๆ เท่านั้นแหละ
เมื่อคิดดังนั้นรอยยิ้มมุมปากจึงผุดขึ้นมา แต่ออกจะผิดคาดสักหน่อย เขาคิดว่าชายหนุ่มเป็นคนเคร่งขรึมมีน้ำอดน้ำทนสูง แต่นี่ที่ไหนได้กลับตรงเข้ามาหาเรื่องโต้ง ๆ
“เออสิ แล้วมึงเป็นใคร มาฉวยโอกาสตอนน้องกูเมา เป็นโฮสต์เหรอ น้องกูยินยอมหรือเปล่า หรือว่ามึงมอมน้องกู”
ปรัชญ์ภูมิโมโหเมื่อคิดว่าน้องสาวต้องตกอยู่ในอันตรายหรือถูกล่อลวงจากพวกผู้ชายขายตัวจนหลุดมาดสุขุมและถึงกับขึ้นกูมึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะสำหรับเขาแล้วพริมาต้องมาเป็นที่หนึ่ง
ณภัทรจ้องหน้าชายหนุ่มนิ่ง ใบหน้าเขาเรียบเฉยแต่มุมปากกลับยกยิ้ม นัยน์ตายียวนทำเอาคนมองยิ่งหัวเสียขึ้นไปอีก
“อ้าว มาคลับก็ต้องยินยอมมาเองสิวะ ใครจะไปลากมาได้ แต่ขอโทษเหอะ คิดว่าน้องตัวเองสามขวบหรือไงคุณพี่ถึงบุกเข้ามาแล้วโวยวายแบบนี้ เดี๋ยวก็ให้การ์ดจับโยนออกไปซะหรอก” เขาตอบกลับผู้เป็นพี่ชายของสาวน้อยขี้เหงาอย่างจงใจกวนอารมณ์ เขาคิดว่าชอบมองอาการร้อนรนหัวเสียอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ของคนตรงหน้า
“ไม่ต้องมาโยนกูออกไปหรอก อยากอยู่ซะที่ไหน แล้วมึงไม่ต้องมายุ่งกับน้องกูอีก จำไว้” ว่าแล้วก็ลากน้องสาวออกไปทันที แต่ณภัทรกลับพุ่งตัวไปขวางเอาไว้
“ทำไม หวงไรนักหนา พริมยังไม่เห็นโวยอะไรสักคำ” เขาหันไปหาหญิงสาวที่ยืนมองเหตุการณ์ตาปริบ “ใช่มั้ยพริม”
คนกลางพยักหน้าแม้จะยังดูงุนงงอยู่ แปลกใจว่าพี่ชายมาที่นี่ได้อย่างไร
“พริม! เรามีเหตุผลอะไรต้องมาเที่ยวแล้วเปลืองเนื้อเปลืองตัวครับ พี่ขอสั่งห้ามเด็ดขาด โดยเฉพาะห้ามยุ่งกับคนคนนี้ด้วย” ใบหน้าของชายหนุ่มเข้มขรึม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูออกว่าโกรธจัด แต่ต้องอดกลั้นเอาไว้
ณภัทรรู้สึกว่าคนคนนี้เหมือนกับที่พริมาเคยบรรยายเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะท่าทางแบบผู้ดี การมองคนอื่นด้วยสายตาราวกับตัวเองเหนือกว่า อดทนอดกลั้นต่อความโกรธได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนคนไร้หัวใจ และถึงจะหัวเสียแต่ก็ปกปิดเอาไว้อย่างดี ตอนแรกที่พุ่งเข้ามาหาเขาคงจะโกรธจนน็อตหลุดละสิท่า คงไม่คิดว่าน้องสาวสุดที่รักกำลังเต้นเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับโฮสต์ แต่พอควบคุมตัวเองได้แล้วกลับนิ่งได้อย่างเหลือเชื่อ แต่สิ่งที่บอกให้เขารู้ว่าชายหนุ่มโกรธจัดเพียงไรคงเป็นมือที่กำแน่นและเปลวไฟที่ลุกโชนในดวงตา หึ...ความเก๊กแบบนั้นทำให้เขานึกอยากจะแกล้งขึ้นมา เลยเข้าไปจับมือพริมา แล้วพูดกับเธอเสียงหวาน
“ถ้าพริมอยากมา พริมก็มาหาผมได้ทุกเมื่อนะ ไม่ต้องไปฟังคำคนอื่นหรอก พริมโตและบรรลุนิติภาวะแล้ว ตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ผมจะรอนะครับ” เขาโปรยยิ้มใส่หญิงสาว แล้วส่งสายตาท้าทายไปให้ชายตรงหน้า“ไอ้…” คำด่าเกือบจะหลุดรอดออกมา แต่ก็ยั้งเอาไว้ได้ ก่อนจะกระชากมือเขาออกจากมือน้องสาวสุดรักอย่างแรงณภัทรยิ้มกวนประสาทอีกรอบ เขาชอบที่จะได้เห็นอีกฝ่ายโกรธ และสงสัยว่าถ้าหากเขายังยุ่งเกี่ยวกับพริมาอยู่อีก ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เขารู้โดยสัญชาตญาณว่านี่อาจจะเป็นเรื่องสนุกระดับชาติเลยทีเดียว ซึ่งโอกาสอย่างนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ และมันอาจจะทำให้ความเบื่อหน่ายที่สั่งสมอยู่ถูกบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง“อ้อ…เมื่อกี้คุณบอกว่าเป็นพี่ชายพริมใช่มั้ยครับ ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอโทษด้วยที่พูดจาไม่สุภาพ ใครจะรู้ล่ะครับ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นเร็ว ๆ นี้ เราอาจจะได้เกี่ยวข้องกันผ่านทางพริมก็ได้” ณภัทรเติมเชื้อไฟเข้าไปอีกดอกแล้วคอยมองปฏิกิริยาโต้กลับของชายหนุ่มอย่างใจจดใจจ่อแล้วมันก็ได้ผล ปรัชญ์ภูมิเดือดจัดขึ้นมาอีกรอบ “กูไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนฉวยโอกาสอย่างมึงหรอก ขอโทษด้วย”ณภัทรถึงกับต้องกลั้นขำเลยทีเดียว การยั่วให้ชายตรงหน
ในค่ำคืนอันยาวนานที่ดูท่าจะไม่สิ้นสุดโดยง่าย โฮสต์คลับสุดหรูระดับแนวหน้าของประเทศและมีชื่อเสียงจนแม้แต่คนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของเมืองก็ยังต้องมาเที่ยวถึงที่นี่ ได้ทำการต้อนรับแขกมากมายจนเด็กโฮสต์ที่มีอยู่แทบจะถูกเลือกไปจนหมด ณภัทรเฝ้ามองลูกค้าหญิงที่เดินเข้ามาด้วยความพึงพอใจ ถึงแม้เขาจะเปิดโฮสต์คลับแห่งนี้แก้เบื่อเพราะไม่รู้จะเอาเงินไปใช้ทำอะไร แต่มันกลับให้ผลตอบแทนอย่างดีเยี่ยมชนิดที่เขาคาดไม่ถึง จากที่คิดว่าเล่น ๆ เลยต้องทำเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาชายหนุ่มใช้เวลาทุกค่ำคืนไปกับสถานที่แห่งนี้ คอยดูแลตั้งแต่เรื่องการจัดโต๊ะไปจนถึงแขกคนสำคัญ บางครั้งที่เขาเบื่อมาก ๆ ก็มาเป็นโฮสต์เองเสียด้วยซ้ำถ้าหากเจอแขกน่าสนใจ และถึงแม้คลับจะมีกฎห้ามมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกค้า แต่ถ้านอกรอบและนอกสถานที่แห่งนี้เขามักจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ก็คอยย้ำกับเด็กหนุ่มในสังกัดทุกคนว่าอย่าให้มีอะไรเสียหายมาถึงคลับเป็นพอ กฎมันก็คือกฎ คือหลักที่วางไว้เป็นแนวทาง แต่ในทางปฏิบัติใครกันที่จะทำตามกฎได้ตรงเป๊ะทุกข้อ ในความเป็นจริงความพอใจของทั้งสองฝ่ายต่างหากละที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดแม้กระทั่งตัวของณภัทรเอง หากเขาเกิดถู
“แหม ๆ ถ้าฉันรู้จักคุณน้อยกว่านี้ ฉันคงหลงคุณตายเลย” เธอตอบกลับพร้อมหัวเราะอย่างมีจริตจะก้าน“คุณก็เคยหลงไม่ใช่เหรอ” เจ้าของคลับสุดหล่อเย้ากลับ แล้วยกแก้วในมือขึ้นจิบช้า ๆ ทุกการขยับเคลื่อนไหวของเขาช่างดูเร้าอารมณ์ผู้พบเห็นโดยที่เขาไม่ต้องจงใจโปรยเสน่ห์ใส่ใคร ๆ เลยคนถูกถามทำตาเป็นประกาย หัวเราะน้อย ๆ แล้วแสร้งตัดพ้อ “ฉันยังหลงอยู่ต่างหาก แต่คุณทำเป็นมองไม่เห็น คุณร้ายเกินกว่าที่ฉันจะจับให้อยู่ค่ะภัทร ฉันเลยไม่พยายามต่อก็เท่านั้น”การได้พูดคุยหยอกล้อกับณภัทรคล้ายกับการเล่นเกมประลองปัญญา ทั้งสนุก ตื่นเต้น เพราะคนที่ไม่แน่นอนอย่างเขาทำให้คาดเดาอะไรไม่ถูก“ผมไม่ได้ร้าย แต่ผมแค่โง่ที่ไม่เลือกคุณ ภาวนาว่าอย่าให้มีคนโง่แบบผมเยอะเกินไปก็พอ เดี๋ยวเขาจะพลาดอะไรดี ๆ ไป” เขาพูดเอาใจก่อนจะโอบเอวเธอไปนั่งบนโซฟากำมะหยี่ ห่างจากจุดอื่นเล็กน้อย ซึ่งเป็นมุมที่มองเห็นการแสดงโชว์บนเวทีพอดี เขาฉลาดพอที่จะเก็บลูกค้าชั้นดีอย่างหล่อนไว้ และเธอก็ไม่เคยทำตัวงี่เง่าหรือสร้างปัญหางี่เง่าจุกจิกอย่างบรรดาลูกค้าสาว ๆ ไฮโซคนอื่น ๆ ที่ชอบเข้ามาวางท่าและใช้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่นเพราะถือว่าตนมีอำนาจของเงินที่จะฟาดหัวใค
การเข้าถึงตัวเขาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเย็นเช่นกัน หากเป็นลูกค้าคนอื่นอาจจะต้องใช้ความพยายามสักหน่อย แต่สำหรับสาวน้อยคนนี้ค่อนข้างจะง่ายดายเพราะเขาสั่งพนักงานไว้แล้วว่าถ้าเธอถามถึงเขาให้บอกได้ทันที และทุกครั้งเธอก็ไม่เคยถามหาคนอื่น พนักงานทุกคนต่างรู้เรื่องนี้ดีและยังนึกแปลกใจว่าผู้หญิงคนนี้มีดีอะไรถึงทำให้ณภัทรสนใจได้“ครับคุณภัทร”พนักงานคล้อยหลังไปได้ไม่เท่าไหร่ หญิงสาวเจ้าของเครื่องดื่มก็มุ่งตรงมาทางนี้แล้ว“ต้องจ่ายเท่าไหร่คะ ถึงจะได้นั่งกับคนนี้” เธอยิ้มหวานก่อนจะโน้มตัวเท้าแขนกับโต๊ะแล้วยื่นหน้ามาใกล้จนเกือบชิด “จ่ายเป็นตัวของพริมเองนี่รับมั้ย”ณภัทรยิ้มออกมากับท่าทางยั่วเย้าของหญิงสาวก่อนจะลุกขึ้นไปเลื่อนเก้าอี้ให้อย่างเอาใจ“ผมไม่อยากจะปฏิเสธคนสวยนะครับ แต่คำตอบก็คือขอคิดดูก่อน”พริมาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แกล้งส่งค้อนให้ชายหนุ่มด้วยท่าทางแง่งอนที่ดูจะไม่เป็นจริงเป็นจังนัก แล้วจึงทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ แต่ก็ยังไม่วายบ่นเขาอีกเล็กน้อย“คุณนี่เล่นตัวจริง ๆ วันนี้ฉันยิ่งเบื่ออยู่”เขาไม่ถือสากับคำบ่นและท่าทางเสียอารมณ์ของคนตรงหน้า ตรงกันข้าม กลับทำท่าตั้งอกตั้งใจฟังสิ่งที่เธอต้องการ