“ถ้าพริมอยากมา พริมก็มาหาผมได้ทุกเมื่อนะ ไม่ต้องไปฟังคำคนอื่นหรอก พริมโตและบรรลุนิติภาวะแล้ว ตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ผมจะรอนะครับ” เขาโปรยยิ้มใส่หญิงสาว แล้วส่งสายตาท้าทายไปให้ชายตรงหน้า
“ไอ้…” คำด่าเกือบจะหลุดรอดออกมา แต่ก็ยั้งเอาไว้ได้ ก่อนจะกระชากมือเขาออกจากมือน้องสาวสุดรักอย่างแรง
ณภัทรยิ้มกวนประสาทอีกรอบ เขาชอบที่จะได้เห็นอีกฝ่ายโกรธ และสงสัยว่าถ้าหากเขายังยุ่งเกี่ยวกับพริมาอยู่อีก ชายหนุ่มจะทำอย่างไร เขารู้โดยสัญชาตญาณว่านี่อาจจะเป็นเรื่องสนุกระดับชาติเลยทีเดียว ซึ่งโอกาสอย่างนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ และมันอาจจะทำให้ความเบื่อหน่ายที่สั่งสมอยู่ถูกบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง
“อ้อ…เมื่อกี้คุณบอกว่าเป็นพี่ชายพริมใช่มั้ยครับ ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอโทษด้วยที่พูดจาไม่สุภาพ ใครจะรู้ล่ะครับ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นเร็ว ๆ นี้ เราอาจจะได้เกี่ยวข้องกันผ่านทางพริมก็ได้” ณภัทรเติมเชื้อไฟเข้าไปอีกดอกแล้วคอยมองปฏิกิริยาโต้กลับของชายหนุ่มอย่างใจจดใจจ่อ
แล้วมันก็ได้ผล ปรัชญ์ภูมิเดือดจัดขึ้นมาอีกรอบ “กูไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนฉวยโอกาสอย่างมึงหรอก ขอโทษด้วย”
ณภัทรถึงกับต้องกลั้นขำเลยทีเดียว การยั่วให้ชายตรงหน้ามาดหลุดสนุกอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ด้วย
“พี่ภูมิ พูดกับภัทรดี ๆ สิ เสียมารยาทแบบนั้นได้ไง” พริมาปรามพี่ชายก่อนจะพยายามประกอบสติที่หล่นหายไปเพราะแอลกอฮอล์แล้วจะเดินเข้ามาจับมือณภัทร แต่โดนปรัชญ์ภูมิคว้าแขนเอาไว้
“พี่บอกว่ากลับ” พูดเสียงต่ำ ท่าทางจริงจัง
หญิงสาวถอนหายใจเฮือก เปล่าประโยชน์ที่จะขัดพี่ชายตอนโกรธ
“กลับก่อนนะคะภัทร” เธอหันไปบอกลาชายหนุ่ม
“ไว้เจอกันครับ” เขายิ้มพราย แลยียวนทิ้งท้าย “ขับรถกลับดี ๆ นะครับ คุณพี่ชาย”
ปรัชญ์ภูมิกำหมัดขบกรามแน่น ถ้าไม่ติดที่น้องสาวกำลังจะยืนไม่อยู่ และสถานที่แห่งนั้นไม่ได้ให้อะไรเขาเลยนอกจากความด่างพร้อย เขาก็คงเข้าไปกระชากคอเสื้อ ปล่อยหมัดกระแทกใส่ใบหน้าที่ส่งยิ้มกวนประสาท
พร่ำเพรื่อที่ดูเหมือนไม่แคร์สิ่งใดในโลกนั้นไปแล้ว เพียงแต่เขาถูกอบรมมาดีกว่านั้น ดีเกินกว่าที่จะเอาตัวเองเข้าแลกกับความสะใจไม่กี่วินาที จึงรีบพาน้องสาวออกมาโดยด่วน เพราะยิ่งอยู่นาน ก็ยิ่งไม่ดีต่อเธอเช่นกันสายตาคมเฉยชาของณภัทรจับจ้องไปยังร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นพี่ชายของพริมาขณะที่ลากเธอเดินออกไป ในนั้นปรากฏรอยระริกไหวชั่วแวบหนึ่ง ชายหนุ่มถูกบันทึกไว้ในสมองของณภัทรเสียแล้ว
ผู้ชายคนนี้มีใบหน้าที่อาจจะถูกวาดขึ้นมาด้วยจิตรกรคนเดียวกับเขา เพราะมันคือความสมบูรณ์แบบ และนั่นมันออกจะน่าหงุดหงิด ในการจะเห็นคนคนหนึ่งที่เกือบจะมีคุณสมบัติเท่าเทียมกัน
ณภัทรเปรียบเทียบผู้ชายคนนั้นกับตัวเอง เขามองดูตัวเองจากหัวจรดเท้าผ่านกระจกเงาที่ติดประดับในร้านก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
คนคนนั้นออกจะไร้ซึ่งเฉดสีใด ๆ ช่างแตกต่างจากน้องสาวอย่างสุดขั้ว ราวกับถูกระบายเอาไว้ด้วยสีเทา เพราะเฉดสีอื่นถูกใช้กับน้องไปจนหมดแล้ว
และพริมาก็เป็นคนประเภทเดียวกับเขา เพราะแบบนี้ปรัชญ์ภูมิจึงไม่มีอะไรเทียบเขาได้เลย เขาเหนือกว่าอย่างเห็น ๆ
แต่ใครจะรู้ล่ะว่าคนที่ถูกเขาปรามาสเอาไว้แต่แรก กำลังจะเปลี่ยนเกมชีวิตอันน่าเบื่อของเขาให้เป็นไปในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในค่ำคืนอันยาวนานที่ดูท่าจะไม่สิ้นสุดโดยง่าย โฮสต์คลับสุดหรูระดับแนวหน้าของประเทศและมีชื่อเสียงจนแม้แต่คนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของเมืองก็ยังต้องมาเที่ยวถึงที่นี่ ได้ทำการต้อนรับแขกมากมายจนเด็กโฮสต์ที่มีอยู่แทบจะถูกเลือกไปจนหมด ณภัทรเฝ้ามองลูกค้าหญิงที่เดินเข้ามาด้วยความพึงพอใจ ถึงแม้เขาจะเปิดโฮสต์คลับแห่งนี้แก้เบื่อเพราะไม่รู้จะเอาเงินไปใช้ทำอะไร แต่มันกลับให้ผลตอบแทนอย่างดีเยี่ยมชนิดที่เขาคาดไม่ถึง จากที่คิดว่าเล่น ๆ เลยต้องทำเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาชายหนุ่มใช้เวลาทุกค่ำคืนไปกับสถานที่แห่งนี้ คอยดูแลตั้งแต่เรื่องการจัดโต๊ะไปจนถึงแขกคนสำคัญ บางครั้งที่เขาเบื่อมาก ๆ ก็มาเป็นโฮสต์เองเสียด้วยซ้ำถ้าหากเจอแขกน่าสนใจ และถึงแม้คลับจะมีกฎห้ามมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกค้า แต่ถ้านอกรอบและนอกสถานที่แห่งนี้เขามักจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ก็คอยย้ำกับเด็กหนุ่มในสังกัดทุกคนว่าอย่าให้มีอะไรเสียหายมาถึงคลับเป็นพอ กฎมันก็คือกฎ คือหลักที่วางไว้เป็นแนวทาง แต่ในทางปฏิบัติใครกันที่จะทำตามกฎได้ตรงเป๊ะทุกข้อ ในความเป็นจริงความพอใจของทั้งสองฝ่ายต่างหากละที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดแม้กระทั่งตัวของณภัทรเอง หากเขาเกิดถู
“แหม ๆ ถ้าฉันรู้จักคุณน้อยกว่านี้ ฉันคงหลงคุณตายเลย” เธอตอบกลับพร้อมหัวเราะอย่างมีจริตจะก้าน“คุณก็เคยหลงไม่ใช่เหรอ” เจ้าของคลับสุดหล่อเย้ากลับ แล้วยกแก้วในมือขึ้นจิบช้า ๆ ทุกการขยับเคลื่อนไหวของเขาช่างดูเร้าอารมณ์ผู้พบเห็นโดยที่เขาไม่ต้องจงใจโปรยเสน่ห์ใส่ใคร ๆ เลยคนถูกถามทำตาเป็นประกาย หัวเราะน้อย ๆ แล้วแสร้งตัดพ้อ “ฉันยังหลงอยู่ต่างหาก แต่คุณทำเป็นมองไม่เห็น คุณร้ายเกินกว่าที่ฉันจะจับให้อยู่ค่ะภัทร ฉันเลยไม่พยายามต่อก็เท่านั้น”การได้พูดคุยหยอกล้อกับณภัทรคล้ายกับการเล่นเกมประลองปัญญา ทั้งสนุก ตื่นเต้น เพราะคนที่ไม่แน่นอนอย่างเขาทำให้คาดเดาอะไรไม่ถูก“ผมไม่ได้ร้าย แต่ผมแค่โง่ที่ไม่เลือกคุณ ภาวนาว่าอย่าให้มีคนโง่แบบผมเยอะเกินไปก็พอ เดี๋ยวเขาจะพลาดอะไรดี ๆ ไป” เขาพูดเอาใจก่อนจะโอบเอวเธอไปนั่งบนโซฟากำมะหยี่ ห่างจากจุดอื่นเล็กน้อย ซึ่งเป็นมุมที่มองเห็นการแสดงโชว์บนเวทีพอดี เขาฉลาดพอที่จะเก็บลูกค้าชั้นดีอย่างหล่อนไว้ และเธอก็ไม่เคยทำตัวงี่เง่าหรือสร้างปัญหางี่เง่าจุกจิกอย่างบรรดาลูกค้าสาว ๆ ไฮโซคนอื่น ๆ ที่ชอบเข้ามาวางท่าและใช้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่นเพราะถือว่าตนมีอำนาจของเงินที่จะฟาดหัวใค
การเข้าถึงตัวเขาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเย็นเช่นกัน หากเป็นลูกค้าคนอื่นอาจจะต้องใช้ความพยายามสักหน่อย แต่สำหรับสาวน้อยคนนี้ค่อนข้างจะง่ายดายเพราะเขาสั่งพนักงานไว้แล้วว่าถ้าเธอถามถึงเขาให้บอกได้ทันที และทุกครั้งเธอก็ไม่เคยถามหาคนอื่น พนักงานทุกคนต่างรู้เรื่องนี้ดีและยังนึกแปลกใจว่าผู้หญิงคนนี้มีดีอะไรถึงทำให้ณภัทรสนใจได้“ครับคุณภัทร”พนักงานคล้อยหลังไปได้ไม่เท่าไหร่ หญิงสาวเจ้าของเครื่องดื่มก็มุ่งตรงมาทางนี้แล้ว“ต้องจ่ายเท่าไหร่คะ ถึงจะได้นั่งกับคนนี้” เธอยิ้มหวานก่อนจะโน้มตัวเท้าแขนกับโต๊ะแล้วยื่นหน้ามาใกล้จนเกือบชิด “จ่ายเป็นตัวของพริมเองนี่รับมั้ย”ณภัทรยิ้มออกมากับท่าทางยั่วเย้าของหญิงสาวก่อนจะลุกขึ้นไปเลื่อนเก้าอี้ให้อย่างเอาใจ“ผมไม่อยากจะปฏิเสธคนสวยนะครับ แต่คำตอบก็คือขอคิดดูก่อน”พริมาถอนหายใจเฮือกใหญ่ แกล้งส่งค้อนให้ชายหนุ่มด้วยท่าทางแง่งอนที่ดูจะไม่เป็นจริงเป็นจังนัก แล้วจึงทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ แต่ก็ยังไม่วายบ่นเขาอีกเล็กน้อย“คุณนี่เล่นตัวจริง ๆ วันนี้ฉันยิ่งเบื่ออยู่”เขาไม่ถือสากับคำบ่นและท่าทางเสียอารมณ์ของคนตรงหน้า ตรงกันข้าม กลับทำท่าตั้งอกตั้งใจฟังสิ่งที่เธอต้องการ
“เต้นกันอยู่นี่ ยังคิดเรื่องงานอีกนะคะ” หญิงสาวเรียกร้องความสนใจด้วยการเอาตัวมาเบียดชิดกับร่างสูง ก่อนจะใช้มือสองข้างโน้มคอของอีกฝ่ายลงมาหา“ว่าไงคะ” เธอช้อนสายตามองนัยน์ตาฉ่ำปรือ“คุณเมาแล้ว” เขาพูด แต่ก็ไม่ได้ดันร่างเล็กออก ได้แต่โอบประคองเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ร่วงลงไปกองกับพื้นแน่การกระทำของเขาสร้างความอิจฉาตาร้อนให้กับสาว ๆ ในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก และดูเหมือนเธอจะรู้ดี เลยแกล้งทำตัวอ่อนอยู่ในอ้อมกอด ซบใบหน้าอยู่กับแผงอกกว้างณภัทรยิ้มอย่างรู้เท่าทันแต่ไม่ได้ว่าอะไร เธอร้ายนัก เธอไม่ได้ยั่วยวนเขา แต่จงใจยั่วลูกค้าสาวคนอื่น ๆ เขาจึงยินยอมถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความบันเทิงเล็ก ๆ ให้กับเธอ แถมเขาก็ยังสนุกด้วยเหมือนกัน แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่า การที่เขาปล่อยให้ทั้งคู่แนบชิดกันอยู่แบบนั้น มันจะนำเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตัวเอง“เฮ้ย มึงทำอะไรน้องกูวะ ปล่อย!”แรงกระชากจากด้านหลังทำเขาเซไปเล็กน้อย ถึงจะไม่ล้มแต่มันก็น่าหงุดหงิดที่โดนใครก็ไม่รู้เข้าถึงตัว“อะไรกันวะ”เขาหันกลับมาเอาเรื่องคนที่มาหาเรื่องถึงในถิ่นของตัวเอง แล้วก็ต้องพบกับชายหนุ่มตัวสูงที่มีหน้าตาดีพอ ๆ กับตัวเองยืนทำหน้าถ