พอกลับมาจากไปเลือกซื้อบิกินีกับพี่หนูดา ฉันก็ตรงมาที่ห้องทำงานทันทีโดยไม่ได้แวะไปที่ห้อง VIP จะว่าไปวันนี้ทุกคนดูแปลกๆ โดยเฉพาะเพลินกับเฮียยูตะ สีหน้าทุกคนดูมีลับลมคมในยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่น่ามีเรื่องอะไรปิดบังฉันนะ คิดมากไปเปล่าวะ...อีมิณ ฉันสลัดความคิดพวกนั้นออกและรีบก้มหน้าก้มตาทำเอกสารตรงหน้าต่อให้เสร็จ…สองชั่วโมงต่อมา…..แกร่ก...แอ็ดดดฉันหันไปมองที่ประตูห้องเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดเข้ามา เห็นร่างสูงของเฮียยูตะยืนยิ้มหวานอยู่หน้าประตูก่อนจะหันกลับมาเก็บเอกสารปึกสุดท้ายในมือเข้าตู้ให้เรียบร้อย“เสร็จแล้วใช่ปะ”“อืม” ฉันตอบกลับห้วนๆ และหันกลับมาหยิบกระเป๋าและถุงบิกินีบนโต๊ะเดินไปหาเฮียยูตะที่หน้าประตูก่อนจะเดินออกมาแวะลาพวกเฮียๆ และพี่หนูดา และพากันกลับคอนโดทันทีฉันลอบมองเฮียยูตะมาตลอดทาง ซึ่งเขาดูพูดน้อยผิดปกติ คิ้วขมวดตลอดเวลาต่อให้เขาจะยิ้มแค่ไหนก็ไม่สามารถกลบอาการตึงเครียดนั่นได้เลย และฉันเองก็ไม่กล้าที่จะถามว่าเขามีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่าพอถึงคอนโดฉันก็เปิดประตูลงจากรถเดินตามหลังเฮียยูตะเข้าไปข้างในทันที ช่วงนี้ฉันแอบเห็นเฮียยูตะเอามือไขว้หลังตลอดเลย เวลาอยู่กับฉัน เขาน่
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เฮียเรียกช่างมาดู”สิ้นเสียงผมมิณาก็หันหลังเดินกลับเข้าห้องผมทันที ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตามเธอมาเข้าห้องตัวเองและเห็นว่ายัยตัวเล็กกำลังปูที่นอนอยู่ที่พื้นข้างเตียงโดยมีหมอนกับผ้าห่มของผมอยู่ตรงนั้นด้วย แน่นอนว่าที่ตรงนั้นคือที่นอนสำหรับผมคืนนี้ แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะถ้านอนบนเตียงเดียวกัน รอบรองได้เลยว่าผมต้องขย้ำเธอเป็นแน่พอจัดที่ให้ผมเสร็จร่างบางก็โดดขึ้นบนเตียงล้มตัวลงนอนพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอย่างสบายใจ ผมได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ หลุดยิ้มบางให้เมียตัวแสบของผมแล้วเดินไปนั่งลงบนผ้าที่มิณาจัดไว้ให้อย่างจำยอมก่อนจะเอื้อมมือขึ้นปิดโคมไฟหัวเตียง“เฮีย ไม่ต้องปิดไฟ” มิณาเอ่ยบอกผมพร้อมกับแสงไฟที่สว่างขึ้นและร่างบางที่พลิกตัวคว่ำเอื้อมมือมาเปิดไฟที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงเหนือที่นอนคืนนี้ของผม ซึ่งผมเองก็ยังไม่ทันได้ล้มตัวลงนอนจึงทำให้หน้าผมอยู่ห่างซอกคอขาวนั่นเพียงคืบเท่านั้น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบในครีมอาบน้ำที่เธอใช้ประจำเตะเข้าจมูกผมอย่างจัง จนผมเผลอยื่นหน้าเข้าไปใกล้กลิ่นหอมนั่นอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่…แปะ//โอ๊ะ“ทำอะไร…”ฝ่ามือเล็กตีลงมาที่แก้มสากแต
ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรมายุกยิกอยู่บริเวณซอกคอ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียวและก็เป็นเขาที่ทำรุ่มร่ามกับฉันแต่เช้า“เฮีย ทำอะไรเนี่ย” ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับดันหน้าเฮียยูตะที่ซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอ“ปลุกเมีย” เฮียยูตะเงยหน้าขึ้นตอบฉันหน้าตาเฉย ปลุกเนี่ยนะ คิดได้ไง หน้าฉันเหวอไปเลยกับคำตอบของเขา ก่อนร่างหนาจะกดหอมลงมาบนแก้มฉันฟอดใหญ่ฟอดดดด///“จะ...จะบ้าเหรอ ใครเขาปลุกแบบนี้กันเล่า”ตาฉันโตขึ้นทันทีก่อนจะเอ่ยต่อว่าคนตัวสูงเสียงติดๆ ขัดๆ ยกมือขึ้นดันร่างหนาออกแล้วดีดตัวลุกนั่งหย่อนขาทั้งสองข้างลงข้างเตียง มือไม้ก็ไม่รู้จะวางไว้ไหนเกะกะไปหมดก้มหน้าที่เห่อร้อนลงมองหน้าขาตัวเอง ใจเต้นโครมครามไม่หยุด ทำไมฉันไม่ชินกับการกระทำแบบนี้ของเขาสักทีนะ เขินอยู่ได้ >////บ้าฉิบ“ก็เฮียนี่ไง ตื่นเร็วแถมไม่งัวเงียด้วย วิธีเฮียดีจะตาย” เฮียยูตะเอ่ยขึ้นพลางล้มตัวลงนอนหนุนหน้าขาฉันก่อนจะดึงมือเล็กไปวางแนบแก้มสาก ฉีกยิ้มกว้างอย่างร่าเริง ฉันที่ไม่ได้ทันตั้งตัวก็ผงะนิดหนึ่งไปด้วยความตกใจแต่ก็ยอมให้เขานอนหนุนอยู่แบบนั้น“เหรอ ใครบอกเฮียมิทราบ” ฉันเย้ยหยันใส่คนบนตักพ
พอเลิกคลาส ฉันก็เดินลงมาใต้ตึกเหลือบไปเห็นร่างสูงที่คุ้นตายืนพิงรถสปอร์ตสีดำคันหรูของตัวเองอยู่ที่ลานจอดรถหน้าตึก ฉันเลยปลีกตัวออกมาจากเพลินตาพร้อมยกมือโบกลาแล้วตรงมาหาเฮียยูตะทันทีร่างสูงพอเห็นฉันก็ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะดึงประตูรถฝั่งคนนั่งเปิดให้ฉันขึ้นไปนั่งแล้วปิดลงอย่างเบามือ วันนี้ฉันและเฮียยูตะไม่มีคลาสบ่ายทั้งคู่ เขาเลยบอกว่าจะพาฉันไปที่แห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าที่ไหนสักพักรถก็เคลื่อนผ่านประตูรั้วเข้ามาหยุดอยู่หน้าประตูบ้าน...ไม่ซิ อย่างงี้เขาไม่เรียกว่าบ้าน น่าจะใช้คำว่าคฤหาสน์ดีกว่า ฉันมองหน้าเฮียยูตะสลับกับประตูบ้านเลิ่กลั่ก เขาพาฉันมาที่ไหน บ้านเขางั้นเหรอ..“ไม่ต้องตกใจ พ่อกับแม่ไปญี่ปุ่น แต่วันเนี่ยพามาหาคนสำคัญอีกคน”สีหน้าฉันคงเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดจนเฮียยูตะต้องพูดปลอบประโลมฉัน แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้นม่ะ คนสำคัญอีกคนของเขา ใครกัน...ทำไมไม่บอกให้ฉันเตรียมตัวเตรียมใจก่อน เอาแต่ใจอีกแล้วนะเฮียยูตะเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ฉัน ลมหายใจถูกพ่นออกมาจากปากเล็กก่อนจะค่อยๆ ก้าวขาลงจากรถอย่างกล้าๆ กลัว ใจสั่นไปหมด ก่อนจะหันเห็นร่างหญิงชราคนหนึ่งเดินยิ้มแฉ่งเข้ามาส
“มิณา หยิบชุดคลุมมาให้เฮียหน่อย อย่าโยนนะ เดี๋ยวเปียก เดินมา”ฉันเอียงมือถือออกมองไปยังต้นเสียงที่เอามือวางพาดที่ขอบสระแต่ตัวยังอยู่ในน้ำ มือเล็กเอื้อมไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำบนเก้าอี้ข้างๆ แล้ววางมือถือลงบนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงไปยังขอบสระ ยื่นชุดคลุมให้เขามือหนารับชุดคลุมวางไว้ตรงขอบสระก่อนจะดึงมือฉันให้นั่งลงตรงขอบสระแล้วจับขาเรียวทั้งสองข้างหย่อนลงในน้ำ“ฮะ...เฮีย ทำอะไร เดี๋ยวเปียก”“นั่งนี้แหละ ไม่เปียกหรอก” เฮียยูตะเอ่ยขึ้นพลางเอาคางเกยบนหน้าขาฉันที่ตอนนี้ตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ เพราะหน้าแข้งที่อยู่ใต้น้ำมันแนบชิดติดกับหน้าอกเปลือยเปล่าของเขาอยู่ แล้วเฮียยูตะก็เอื้อมมือล้วงไปในกระเป๋าชุดคลุมอาบน้ำหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาฉันหรี่ตามองกล่องในมือเขา เอ๊ะ! กล่องนี้มัน ฉันตาโตทันทีที่นึกออก กล่องที่รุ่นพี่พลอยใสเอาให้เขาวันนั้น ที่ไม่มีใครรู้ว่าข้างในคืออะไร มือหนาค่อยๆ เปิดกล่องออกเผยให้เห็นจี้กลมสีม่วงอ่อนที่ถูกล้อมไว้ด้วยสร้อยเงินและมีดาวดวงเล็กห้อยติดอยู่ ก่อนเขาจะหยิบขึ้นมาจากกล่องชูตรงหน้าฉัน“มันอาจจะไม่สวยเท่าไหร่ หรือจะถูกใจมิณารึเปล่า เฮียก็ไม่รู้” เฮียยูตะเอ่ยขึ้นเสียง
“ถ้าเฮียชอบ พ่อแม่จะไม่ชอบได้ไง แล้วอีกอย่างนะ เราไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย เอากันในสระก็ว่าไปอย่าง”“เฮีย!!! อุ๊บ” สิ้นเสียงผมยัยตัวเล็กตรงหน้าก็ตวาดผมลั่นอย่างลืมตัวก่อนจะเอามือขึ้นปิดปากทำตาล่อกแล่กมองไปที่หน้าประตูคล้ายกับกลัวใครมาได้ยิน ทำไมน่ารักจังวะ“ห้องเฮียเก็บเสียงดีมาก คราง เอ๊ย! คุยดังแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยินหรอก”“ไอ้เฮียบ้า! หยุดลามกก่อนได้มะ” คนตัวเล็กถลึงตาใส่ผมพร้อมเอ่ยต่อว่าเสียงแข็ง“ล้อเล่นคร๊าบ อย่าคิดมากน้า พ่อแม่เฮียไม่หัวโบราณขนาดนั้นหรอก”“แต่ พี่ชายเฮีย…”“เฮียวาเหรอ มันเห็นตั้งแต่วันแรกแล้ว จำไม่ได้ไง เรื่องแบบนี้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เมียเฮียเกิดในยุคสงครามโลกรึเปล่าเนี่ย หัวโบราณจัง”“ก็ฉันไม่ได้หน้าด้านเหมือนเฮียนิ”“อุ๊ย! ไม่เป็นไร ด้านได้อายอด” ผมสะดุ้งนิดหนึ่งกับคำด่าของเมียแต่ก็ตอบกลับไปหน้าตาเฉยแบบไม่รู้สึกรู้สา ผมมึนกว่าที่คิดเยอะ...จะบอกให้“ด้านกว่าที่ฉันคิดนะเนี่ย”“ไม่สน ไปอาบน้ำได้ล่ะ เดี๋ยวไม่สบาย” ผมยักไหล่น้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเอามือโยกหัวคนตัวเล็กเบาๆ“อาบอะไร ฉันไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนซะ...”ก๊อกๆ ๆ ๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของเ
@สนามบินกระบี่11:30 น.ฉันยืนรอรถที่เฮียยูตะเช่าไว้ด้วยความตื่นเต้น โดยมีเฮียดิน พี่หนูดา เฮียธามและรุ่นพี่พลอยใสยืนรออยู่ด้วย ส่วนเฮียๆ ที่เหลือบอกว่าจะตามมาทีหลัง สักพักก็มีรถหรูสามคันมาจอดตรงหน้าพวกเราก่อนที่คนขับรถมาจะเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเอากุญแจรถมายื่นให้ จากนั้นเราก็พากันออกมาจากสนามบินพร้อมกัน ฉันกับเฮียยูตะแน่นอนต้องมาคันเดียวกันอยู่แล้ว พี่หนูดาก็ต้องไปกับเฮียดิน และเฮียธามก็ไม่มีทางเลือกต้องไปกับรุ่นพี่พลอยใสไม่นานรถก็เคลื่อนมาจอดหน้าบ้านพักที่เราจองไว้ เป็นบ้านหลังใหญ่ติดกันสองหลังมีสระว่ายน้ำอยู่ชั้นบนด้วย ฉันเปิดประตูลงมายืนสูดกลิ่นอายบรรยากาศริมทะเล ฮ่า สดชื่นจัง“มิณ ไปเปลี่ยนชุดกัน” ฉันหันไปหารุ่นพี่พลอยใสที่ขวักมือเรียกฉันอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปโดยมีเฮียยูตะแบบกระเป๋าตามมา…ฉันยืนหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่เพื่อสำรวจตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาของเฮียยูตะจับเข้าที่เอวคอดทั้งสองข้างก่อนเลื่อนมือมาไขว้กันไว้ตรงหน้าท้องที่เปลือยเปล่า เพราะตอนนี้ฉันอยู่ในบิกินีสีขาวเตรียมพร้อมจะไปเล่นน้ำกับพวกพี่ๆ แล้ว“ไม่ต้องออกไปหรอกนะ
สามชั่วโมงผ่านไป….ผมเดินวนไปวนมาอยู่ไม่สุข ไหนบอกแป๊บเดียวไงวะ แม่งปาเข้าไปตั้งสามชั่วโมง ไปตามเลยดีกว่า เล่นนานเกินไปแหละ ผมผงะถอยหลังเมื่อไอ้เฮียทั้งสี่เดินสวนเข้ามาและแม่งเสือกกันไม่ให้ผมไปอีก“กูมาตามไอ้นี่วะ” เฮียแม็กเอ่ยขึ้นพลางยื่นมือถือที่เปิดไอจีไว้มาให้ผมดู ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจหรอกแต่พอเห็นว่ารูปในโพสต์นั่นเป็นใครเท่านั้นแหละ ปี๊ดทันที รีบคว้ามือถือไอ้เฮียแม็กซ์มาเลื่อนดูทันที[PIC มิณาใส่บิกินี]10850Like, 2088CommentplOy_sssz เอ๊ะ! คนนี้ใครกัน...หุ่นนางแซ่บพริกสิบโลไปเลย เผ็ดซี๊ดดดดRaRa.Za : หุ่นแม่งโคตร x เลยNee.ra : อู้ยยยย มีเดือดแน่งานนี้De.Wine : เชี่ยยยย เจอของดีเข้าให้แล้วXixss.54 : หื้ม ใครกันน้องพลอย เปิดว๊าบหน่อยFeline_FF : งานดีสัส ปักรอว๊าบDe.wayo : เอ้าๆ ๆ ปล่อยหลุดมาได้ไงวะDe.Mmax : เยสสส กูอยากว๊าบไปที่นั่นตอนนี้เลยAiLis_7070 : หือออ อิจหุ่นนางDP.dip : จะเอา...จะเอาคนนี้ @SP.sing @VP.vanplOy_sssz : รีบมาค่ะเฮีย ก่อนจะอดดูของดี งานดีเวอร์ @De.Wine @De.vayo @De.MmaxDe.Mmax : รีบสุดแล้วเนี่ย กลัวอดดูของดีผมเลื่อนอ่าน แต่ละคอมเมนต์แม่งโคตรจังไรเลย รอ
“เชี่ยยย!” ผมร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นไอ้พี่ชายตัวดีนั่งยิ้มแฉ่งอยู่ที่เบาะหลังผ่านกระจกเงานั้น แม่งขึ้นมาตอนไหนวะ“อะไรของมึงเนี่ยเฮีย ใครเชิญ” ผมหันไปด่าพี่ชายหน้ามึนอย่างหัวเสีย“ฉันเชิญเอง มีอะไรหรอ” มือเล็กยกขึ้นข้างหัวพร้อมกับออกรับแทนไอ้เฮียวาอย่างออกนอกหน้านอกตา ไม่ไว้หน้าพวกเลยสักนิด แล้วใครจะกล้ามีคิดไหม นี่ใคร...ผัวไง แล้วนั้นใคร เมียไง จะกล้าต่อกลอนด้วยเหรอผมทำได้แค่ดึงตัวเองมานั่งตรงๆ หลังพวงมาลัยพร้อมกับเหยียบคันเร่งแบบจมตีนพุ่งตัวออกจากบ้านทันที โคตรหงุดหงิด ไอ้เฮียหมอก็อีกคน มาด่าแล้วก็ไป ไม่รู้เป็นส้นตีนอะไร หวงมิเชล ยิ่งกว่าพวกผมซะอีก พ่อกับแม่ยังไม่หวงเท่ามันเลย มันคงอยากมีน้องผู้หญิงแหละมั้ง ก็ดีเหมือนกันผมจะได้ไม่ต้องห่วงมิเชลมาก ยังไงก็ยังมีคนช่วยดูแลใช่เวลาไม่นานรถก็เคลื่อนตัวเข้ามาในสนามแข่งรถของไอ้เฮียวา นี่เป็นสถานที่ที่เหมาแก่การหัดขับรถมากที่สุด กว้างขวางและไม่มีสิ่งขวางกันเยอะนัก“มา เฮียจะบอกเกียร์ก่อน” ผมหันไปบอกคนตัวเล็กข้างๆ ทันทีที่รถจอดสนิท และเธอก็หันมาหาผมพยักหน้าหงึกๆ แบบตั้งใจสุดๆ“ตัว P เกียร์จอดหรือหยุด มันจะล็อกล้อเคลื่อนไปไหนไม่ได
“ป่ะเฮีย เสร็จแล้ว”ผมเงยหน้าจากจอมือถือขึ้นมองต้นเสียงที่มาหยุดยืนก้มลงสำรวจตัวเองเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มบางให้ผม ดูเหมือนเมียผมจะอยากขับรถเป็นเอามากๆ ดูจากอาการแล้วน่าจะเตรียมตัวมาอย่างดี ผมกดล็อกหน้าจอมือถือแล้วยัดมันเข้ากระเป๋ากางยีนตัวโปรดก่อนจะหยัดกายขึ้นยืนเต็มความสูง เอื้อมแขนไปรั้งไหล่มิณาเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูเสียงเข้ม“ถ้าขับเป็นแล้ว ห้ามขับหนีผัวเด็ดขาด เพราะผัวจะพลิกแผ่นดินหาจนเจอแน่ๆ เข้าจั๋ย”“จะกลัวอะไรล่ะคะ ตราบใดที่เฮียยังทำตัวน่ารักแบบนี้….” มิณาเอียงคอหันมามองหน้าผมแล้วพูดขึ้นแบบยิ้มๆ แต่ยังไม่ทันจบประโยคปากบางก็เม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง แก้มนวลขึ้นสีนิดๆ ก่อนจะขวักมือน้อยๆ เป็นเชิงเรียกให้ผมเอาหูไปใกล้ปากเธอ ผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย“ฉันไม่มีทางไปไหนรอดหรอก”จุ๊บ///สิ้นเสียงเล็กผมก็อาศัยจังหวะที่เธอกำลังเขินๆ หันไปจุ๊บริมฝีปากบางแบบไม่ทันตั้งตัวแล้วผละออก จนตาเล็กเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างชัดเจน น่าฟัดจังวะ เปลี่ยนใจทันไหมเนี่ย เปลือกตาบางกะพริบถี่คล้ายกับกำลังเรียกสติตัวเองอยู่ อะไรกัน ผมทำแบบนี้ออกจะบ่อย ยัยตัวเล็กนี่ยัง
@มหาวิทยาลัย Aผมเดินลงมาจากตึกวิศวะพลางยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาเรือนโปรดและพบว่ามันเหลืออีกตั้งชั่วโมงครึ่งกว่ามิณาจะเลิกคลาส เพราะผมเทสเสร็จก่อนเวลา ตอนแรกก็กะจะไปนั่งรอเมียที่ใต้ตึกบัญชีแต่เผอิญเหลือบตาไปเห็นพวกรุ่นน้องทั้งหลายแหล่มันนั่งเหงาหงอยอยู่ที่โต๊ะประจำ จุดรวมตัวของผมมันเลยแวะเข้าไปสร้างสีสันให้พวกมันหน่อยผมแล้วจัดการทักทายไอ้ไม้รุ่นน้องคนสนิทที่นั่งอยู่บนพนักพิงม้าหินอ่อนด้วยฝ่ามืออรหันต์ฟาดลงหัวมันดังสนั่นหวั่นไหวจนหัวเกือบทิ่มลงโต๊ะ ที่นั่งเขาก็มีเสือกนั่งผิดที่ผัวะ!!“โอ๊ย ใครวะแม่ง” ไอ้ไม้เอามือลูบหัวตัวเองแล้วหันมาโวยวายด้วยสีหน้าเอาเรื่องก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแหยๆ แทนเมื่อเห็นว่าเป็นผม“กูเองอ่ะ มึงจะต่อยกูงะ” ผมถามกลับไปพลางยักคิ้วให้มันอย่างกวนตีน ก่อนไอ้พวกรุ่นน้องที่เหลือจะลุกให้ผมนั่งแทนอย่างรู้งาน“โห้เฮีย ใครจะกล้า แต่มือหนักใช้ได้เลยนะ มึนฉิบ”“ทำไมเงียบเหงาจังวะ” ผมมองซ้ายมองขวาก่อนจะเอ่ยขึ้นลอยๆ ตามความคิดตัวเอง ปกติหน้าตึกวิศวะสาวๆ เดินสวนกันเป็นขบวนพาเลซแต่วันนี้แทบจะไม่มี เกิดไรขึ้นวะ“นั่นดิเฮีย ผมนั่งรอเหยื่อตั้งนานแล้วเนี่ย” ไอ้ไม้ตอบกลับแบบเซ็งๆ ก่อนที่
พอถึงเวลางานเลี้ยงเริ่มทุกคนก็พากันไปรุมสาวน้อยสมาชิกใหม่ของบ้านกันใหญ่ ฉันอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้เลย รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของมิเชลตอนนี้บ่งบอกได้เลยว่าเธอมีความสุขแค่ไหน“โหล เทส...โหล เทต่างๆ นานา” ฉันหันไปทางต้นเสียงเห็นพวกเฮียยูตะนั่งอยู่ตรงเวทีที่ถูกจัดไว้ริมสระว่ายน้ำ โดยมีกีตาร์โปร่งอยู่บนตักและปากจ่ออยู่กับไมค์ที่เขาพยายามเทสเสียงอยู่หลายรอบ“บัดนี้ นี้ นี้” เสียงที่ดังออกมาตามลำโพงจากเฮียวาโยที่เดินขึ้นเวทีไปยืนอยู่ข้างๆ เฮียยูตะ พร้อมเสียงแอดโค่ที่ทำขึ้นมาเองนั่น เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากทุกคนในที่นี่ได้เป็นอย่างดี“เวลาอันเป็นสมควรได้มาถึงแล้ว แล้ว แล้ววว”“มึงจะเล่นแอคโค่ทำเหี้ยอะไร เอาธรรมดาพอ” เฮียยูตะหันไปด่าพี่ชายจอมขี้เล่นของตัวเองลั่นกังวานไปทั่วเพราะไมค์ที่จ่อปากอยู่ ก่อนที่เฮียวาโยจะพูดต่อแบบธรรมดาตามที่น้องชายสั่ง“เอาแหละ วันนี้บ้านเหมบดินทร์มีสมาชิกมาเพิ่มหนึ่งคน เป็นสาวน้อย น่ารักจิ้มลิ้ม ที่มีนามว่า มิเชล มิรินดา เหมบดินทร์”แปะๆ ๆ ๆ ฮู้ๆ ๆ ๆสิ้นเสียงเฮียวาโยทุกคนก็พากันปรบมือเพื่อเป็นการต้อนรับเด็กหญิงมิเชลเข้าสู่ครอบครัว เด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนข
หลายวันต่อมา…..ฉันเปิดประตูลงมาจากรถแบบงงๆ คือเฮียยูตะพาฉันมาบ้านใต้แสงจันทร์ก็เรื่องปกตินั่นแหละ...แต่ทำไม พ่อกับแม่ของเขาถึงตามมาด้วย พวกเขาจะมาทำอะไรกันที่นี่ ถ้าจะมาบริจาคเงินต้องเอาฉันมาด้วยเหรอ เฮียยูตะเดินมาจูงมือฉันเดินตามท่านทั้งสองไปจนถึงห้องคุณแม่อธิการ“สวัสดีค่ะ” คุณแม่อธิการเอ่ยทักพ่อกับแม่ของเฮียยูตะ ก่อนท่านทั้งสองจะตอบกลับไปอย่างนอบน้อมและพากันไปนั่งโซฟากลางห้อง“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”ฉันกับเฮียยูตะก็ได้แต่ยกมือไหว้คุณแม่อธิการก่อนจะพากันไปนั่งโซฟาตรงข้ามท่านทั้งสอง คิ้วบางเริ่มขมวดเป็นปมเมื่อคุณแม่อธิการหยิบเอกสารใบรับอุปการะให้ท่านทั้งสองอ่าน อุปการะใครกัน ฉันเกินวัยที่จะต้องรับไปเลี้ยงแล้วนี่นา ไม่ใช่ฉันแน่ๆแกร่ก….แอ็ดดดดจู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ฉันรีบหันไปทางต้นเสียงทันที และก็ได้คำตอบให้คำถามที่ค้างคาอยู่ในหัวเมื่อครู่ เมื่อเด็กหญิงมิเชลเดินเข้ามาในห้องยกมือไหว้ทุกคนตามมารยาทก่อนจะเดินมานั่งลงบนตักเฮียยูตะอย่างสนิทสนม เหอะ...คือสองคนนี้ไปสนิทกันตอนไหน แต่มิเชลไม่เคยยอมไปอยู่กับใครเลยนะ มีพวกคนใหญ่คนโตจะมารับอุปการะตั้งหลายครั้งแต่มิเชลก็ไม่ยอมไป
@คอนโดพอเปิดประตูเข้ามาในคอนโด เฮียยูตะก็รีบเข้าห้องตัวเองแล้วปิดประตูลงอย่างแรงเสียงดังสนั่น จนฉันถึงกับสะดุ้ง ระหว่างทางที่ขับรถกลับมาก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ฉันรู้ว่าเขากำลังโมโหมาก พี่นนท์นี่ก็จริงๆ เลย ยั่วโมโหเฮียยูตะอยู่ได้ฉันถอนหายใจพรืดใหญ่ก่อนจะเดินไปจับลูกบิดประตูห้องเฮียยูตะออกแรงหมุนมันเปิดเข้าไปและปิดมันลงอย่างเบามือ เดินตรงเข้าไปหาเจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนที่นอนหันหน้าไปทางหน้าต่าง“เฮีย โกรธฉันเหรอ” ฉันนั่งลงบนเตียงข้างๆ เขาก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือหนาที่สอดประสานกันแน่น ทำใจดีสู้เสือทั้งๆ ที่ใจก็กังวลไม่น้อย แต่เขาก็ยังคงเงียบได้แต่เสียงขบกรามเท่านั้นที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าแดงก่ำบ่งบอกได้ชัดเจนว่าอารมณ์เขาร้อนแค่ไหนฉันเลื่อนมือเล็กขึ้นนาบแก้มสากทั้งสองข้างแล้วออกแรงหันใบหน้าคมมาสบตาฉัน ก่อนจะกดจูบลงไปที่ปากหนาสักพักแล้วผละออก แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ยอมเพราะมือหนารั้งท้ายทอยฉันแล้วบดจูบลงมาอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาแบบรีบๆ ฉันเองก็ตกใจไม่น้อยแต่ก็ปล่อยให้เขาจูบอยู่แบบนั้นอื้ออออ~ ~แขนแกร่งโอบรอบเอวคอดก่อนจะออกแรงยกตัวฉันขึ้นนั่งคร่อมบนตักเขา โดยที่ปากเรา
“ไหนมาให้เฮียดูก่อนดิ” เฮียยูตะเอ่ยขึ้นหลังจากที่ปลดสายเบลล์ตัวเองแล้วเอื้อมมือมารั้งท้ายทอยฉันที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถเข้าไปใกล้ๆ แล้วยกมืออีกข้างขึ้นเกลี่ยเช็ดตามแก้มนวลอย่างแผ่วเบา“ตาบวมหมดแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเสียน้ำตาอีกแล้วนะ”ฉันมองหน้าแฟนตัวเองน้ำตาซึม เขาทำทุกอย่างให้ฉันด้วยความรักและความจริงใจ ฉันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกพวกนั้น ไม่เคยเสียใจเลยสักนิดที่เปิดรับเขาเข้ามาอยู่ในชีวิต“โอ้ๆๆๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะเมียจ๋า” เฮียยูตะดึงฉันเข้าไปกอดแน่บอกพลางเอ่ยขึ้นเสียงทะเล้นพร้อมกับลูบผมฉันเบาๆ ฉันเหลือบตาขึ้นมองตนตัวโตที่ฉีกยิ้มกว้างอย่างร่าเริง อารมณ์แปรปรวนเหลือเกิน คือเมื่อกี้ยังซึ้งอยู่เลย ฉันต้องเป็นไบโพร่าตามเขาเข้าสักวันแน่ๆ“หาหมอไหม”“ฮึ้ย ไม่เอา” เฮียยูตะรีบผลักฉันออกพลางทำท่าขยะแขยงแบบสุดๆ เมื่อฉันพูดถึงหมอ แล้วหันไปเปิดประตูลงจากรถเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าทันทีฉันหลุดขำกับท่าทีของเขาพลางเปิดประตูลงจากรถแล้วรีบเดินตามไปคล้องแขนเฮียยูตะอย่างออดอ้อนออเซาะ เฮียยูตะเอามือขึ้นโยกหัวฉันเบาๆ ด้วยความเอ็นดู“อยากได้ไรครับเมีย”“อยากรักเฮีย” ฉันแกล้งตอบกลับเขาเสียง
สิบห้าปีก่อน…..ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอนก่อนจะลุกขึ้นมาเล่นตุ๊กตาอยู่คนเดียว เพราะนอนไม่หลับ คืนนี้พ่อกลับดึก ฉันรอพ่อก่อนดีกว่าตึงง...กรี๊ดดด...อุ๊บ“แม่!” ฉันร้องขึ้นด้วยความตกใจเพราะเสียงกรีดร้องนั่นเป็นเสียงของผู้เป็นแม่ ฉันรีบลุกจากที่นอนไปเปิดประตูออกจากห้องและวิ่งไปที่ห้องของแม่ทันทีภาพที่ฉันเห็นคือผู้ชายร่างหนาที่ฉันไม่รู้ว่าเป็นใครคร่อมอยู่บนร่างแม่ที่ดิ้นไปมาทุรนทุรายน้ำตาไหลอาบสองแก้ม ฉันไม่รู้ว่าเขาทำอะไรแม่ ฉันรู้แต่ว่าแม่เจ็บปวด ฉันต้องช่วยแม่ ฉันหันซ้ายหันขวา แล้วไปคว้าเอาปิ่นปักผมแม่โดดขึ้นเตียงออกแรงปักเข้าไปที่ต้นคอชายคนนั้นทันทีโอ๊ยยยผลั่ก...ตึงงงง“ใยไหม ไปเร็วลูก” แม่ผลักร่างหนาตกลงไปนอนโอดโอยอยู่บนพื้นห้องและรีบลุกขึ้นอุ้มฉันลงจากเตียงและวิ่งไปที่ประตูห้อง แต่ฉันไม่ทันไปถึงไหน ร่างแม่ก็หยุดกึกและปล่อยฉันลงกับพื้นพลางเอามือขึ้นจับผมตัวเองที่โดนทึ้งดึงจากชายปริศนานั้นโอ๊ยยยย“เก่งทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะมึง” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นเสียงแข็งก่อนจะจับร่างแม่โยนไปบนที่นอนอย่างแรง ฉันถูกสอนมาแบบไม่ให้อ่อนแอและไม่เคยกลัวอะไร ยิ่งเห็นแม่ถูกทำร้ายแบบนี้ฉันยิ่งยอมไม่ได
วันต่อมา….ผมเดินกอดคอมิณาเข้ามาใต้ตึกบัญชี นี่กลายเป็นกิจวัตรที่ผมต้องทำในทุกๆ เช้าวันที่มีเรียน เพราะผมไม่ไว้ใจสายตาของตัวผู้ทั้งหลายที่คอยแอบมองเมียผมอยู่เลยเวลาผมเผลอ ใจก็อยากโอนย้ายมาเรียนบัญชีด้วยซ้ำ แต่อีกแค่เทอมเดียวก็จะจบแหละ ทางมหาลัยต้องไม่สะดวกทำเรื่องให้ผมแน่ๆ เลยมานั่งเฝ้าตอนว่างๆ เอาแทน“อ้าว เฮียทำไมมานั่งนี่อะ” มิณาเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นผมนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เธอ เพราะปกติผมส่งเธอถึงที่หมายเรียบร้อยก็จะตรงดิ่งไปที่ตึกวิศวะทันที แต่วันนี้เป็นไรไม่รู้ คิดถึงเมีย ยังไม่อยากห่าง แต่ความจริงก็คือมันมีกิจกรรมของชมรมห่าไรไม่รู้มาจัดอยู่หน้าตึกบัญชี และผู้แม่งก็เยอะฉิบหาย“เฝ้าเมีย” ผมพูดขึ้นพลางหันมองซ้ายมองขวาด้วยอารมณ์ที่โคตรจะหงุดหงิด ก่อนจะหันไปเห็นเพลินตานั่งอมยิ้มอยู่ เออลืมเลยว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย แต่ก็ช่าง ตอนนี้โคตรโมโหชมรมห่านี่เลย ที่อื่นมีเยอะแยะไม่ไปจัด มาจัดทำห่าอะไรตรงนี้วะ น่ารำคาญฉิบ“หยุดเลยมึง ไม่ต้องพูด” มิณาพูดดักพลางเอามือขึ้นชี้หน้าเพื่อนรักที่กำลังจะอ้าปากแซว ที่ผมพูดเมื่อกี้ ก่อนที่เพลินตาจะเม้มปากแน่นและก้มหน้าเล่นมือถือตัวเองต่อ“เอ่อ มึงรู้