แชร์

ตอนที่ 1

Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว

Writer : Aile'N

ตอนที่ 1

"โหหหหหห.. นี่บ้านคนจริงๆ หรอวะ? " แพรวห่อปากครางถามออกมาหน้าอึ้งๆ ขณะแหงนหน้าขึ้นมองประตูรั้วสูงละลิ่วที่สามารถมองผ่านเข้าไปเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านโชว์ความอลังการอยู่ตรงหน้า คนข้างๆ ที่มาด้วยก็ยืนมองภาพนั้นอย่างอึ้งๆ เช่นกัน

สาเหตุที่นำพาอิงเอยกับแพรวมาอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่นี้ได้มันสืบเนื่องมาจากใบปลิวรับสมัครงานพี่เลี้ยงเด็กใบนั้นที่เพื่อนเอามาให้ดูและคะยั้นคะยอให้สมัคร ร่างบางก็ส่งหลักฐานทุกอย่างตามที่ในใบปลิวบอกไว้ไปสมัครด้วยความจำเป็น แถมยังคิดไว้ก่อนด้วยว่าคงไม่ผ่านแน่ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้นกลับมีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาถึงเธอ เรียกให้มาที่นี่เพื่อทำการคัดตัวจากเจ้าของบ้านอีกครั้ง ด้วยความกลัวเธอจึงลากเพื่อนมาด้วย

ตอนออกจากห้องมาก็มีความมั่นใจอยู่หรอก แต่พอมาเห็นความใหญ่โตของบ้าน (ว่าที่) เจ้านายในอนาคตแล้วกลับรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาเสียดื้อๆ อย่างแรกเลยก็คงจะเป็นการแต่งตัว ร่างบางไม่รู้ว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เธอจึงใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่งที่สภาพสุดแสนจะเก่าแสนเก่า! หน้าก็ไม่ได้แต่ง ยิ่งทำให้ดูเหมือนเด็กเร่ร่อนมาขอทานบ้านเศรษฐียังไงยังงั้น กลับตอนนี้เลยได้ไหมอ่ะ กลัวเข้าไปเหยียบแล้วบ้านเขาจะแปดเปื้อน T^T

"กลับเหอะแก ไม่ได้ชัวร์เลยอ่ะ" อิงเอยหันไปบอกแพรวหน้าเศร้า ปากบางเบะเตรียมจะร้องไห้ออกมารอนๆ เพราะถ้าพลาดที่นี่เธอก็ต้องหางานใหม่ ซึ่งไม่ได้หาได้ง่ายๆ เลยสักนิด

"ได้ไงล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วนะเว้ย ลองดูสักตั้งดิ เผื่อได้" แพรวหันมาส่ายหน้าดิก ไม่เห็นด้วยที่มาจนถึงนี่แล้วจะพากันกลับไปมือเปล่า อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ได้พยายามก่อนเถอะ ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที

"แต่...แกดูสภาพฉันดิ แล้วดูบ้านเขา! " ร่างบางขึ้นเสียงดังนิดๆ เพื่อให้เพื่อนยอมรับความเป็นจริง เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าเราทั้งคู่ไม่เหมาะกับที่แบบนี้

"แกไม่ได้มาสมัครเป็นเมียเจ้าของบ้านสักหน่อย จะคิดมากทำไมเนี่ย เลิกงอแงและเข้าไปลุยกัน! " ร่างสูงกว่าดึงสติคนตัวเล็กกลับมา ก่อนตัดบทคว้าจับมือบางไว้กันหนีแล้วเดินไปกดออด รอไม่นานเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ไม่รู้เรียกว่าอะไรก็ทำให้หน้าจอสี่เหลี่ยมสีดำที่ติดอยู่ข้างๆ ออดปรากฏภาพผู้หญิงในชุดเมดสีดำขึ้นมา

"มาหาใครคะ? " คนในนั้นถามขึ้น คนฟังทั้งสองที่ยังคงอึ้งทึ่งกับเทคโนโลยีไฮเทคนั้นไม่มีโอกาสได้เรียบเรียงคำพูด แพรวจึงหันไปหาอิงเอยแล้วฉกจดหมายเรียกตัวที่เธอถืออยู่ออกมากางให้แม่บ้านชุดเมดคนนั้นดูพร้อมอธิบายบอก

"มาตามใบเรียกนี้อ่าค่ะ สมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก"

"เชิญเข้ามาเลยค่ะ" ไม่จำเป็นต้องถามอะไรต่อให้มากความ สาวใช้ก็ยอมให้พวกเธอเข้าไปอย่างง่ายดาย สิ้นคำบอกหน้าจอนั้นก็ดับไป ก่อนที่ประตูรั้วหน้าบ้านจะค่อยๆ เลื่อนเปิดออก

สองสาวมองความสะดวกสบายนั้นอย่างทึ่งๆ อีกครั้ง ก่อนเรียกความมั่นใจแล้วพากันเดินเข้าไป แต่กว่าจะถึงตัวบ้านก็เดินกันจนหอบ เพราะทางเข้าช่างไกลแสนไกล มีทั้งสนามหญ้า สวนย่อมที่ขนาดไม่ย่อม และน้ำพุตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทางเดิน ทำให้ต้องเดินอ้อม คนเหนื่อยง่ายอย่างอิงเอยเลยอดบ่นออกมาไม่ได้ และก็บ่นไปตลอดทางจนมาถึงทางเข้าประตูบ้านที่มีหญิงสาวชุดเมดคนเดียวกับที่เห็นในจอยืนรออยู่

"โดนเรียกทั้งสองคนเลยหรอคะ" คำทักทายแรกเป็นประโยคคำถามที่ประกอบด้วยความคลางแคลงใจอย่างหนัก เนื่องจากมากันสองคนแต่ตรงคุณสมบัติที่เจ้านายต้องการอยู่แค่คนเดียว ดวงตากลมคมกริบคู่นั้นเลยจ้องมองมาที่แพรวอย่างต้องการคำตอบ

"คนเดียวค่ะ ฉันแค่มาเป็นเพื่อน" แพรวบอกเสียงห้วน และแอบมองค้อนใครคนนั้นกลับอย่างเคืองๆ เพราะรู้สึกเหมือนโดนมองด้วยสายตาดูถูก ชิส์.. อย่าให้ถูกรางวัลที่หนึ่งนะ จะแปลงทั้งตัวให้สวยว่าอั้ม พัชราภาเลยคอยดู!

"งั้นก็รอข้างนอกค่ะ ที่สำคัญห้ามเดินเพ่นพ่าน.. ส่วนคุณ เชิญทางนี้ค่ะ" สาวใช้ชุดเมดเองก็เหมือนจะรู้ตัวเลยบอกเสียงห้วนพร้อมเขม่นกลับอย่างไม่ปิดบัง สิ้นคำก็เชิดหน้าขึ้นก่อนเดินนำอิงเอยเข้าไปในบ้าน

"ห่ากินหัวมึง จักแม่นผู้ดีผู้งามคักเนาะ อีผีปอบเอ้ย" แพรวด่าไล่หลังเป็นภาษาถิ่นบ้านเกิดพร้อมกำมือแน่นด้วยความเจ็บใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนยังต้องเข้าไปสัมภาษณ์งานนะ แม่จะเข้าไปกระชากหัวมาตบสักฉาดสองฉาด เอาให้ลืมบ้านเลขที่ไปเลย!

"ใจเย็น.. รอไม่นานหรอกมั้ง อย่าหนีกลับก่อนนะเว้ย" ร่างบางปรามคนโกรธเสียงเบา พร้อมสั่งกำชับเสียงเข้มว่าห้ามแพรวหนีกลับก่อนเด็ดขาด ถึงจะไม่ได้เข้าไปด้วยกันแต่ถ้ารู้ว่าเพื่อนยังอยู่ข้างนอกมันก็ช่วยทำให้อุ่นใจได้นิดๆ แหละนะ

"เออ ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นแกตะโกนดังๆ เลยนะ ไม่ก็รีบวิ่งออกมา ฉันรออยู่นี่แหละ" คนรอสั่งกำชับเพื่อนตัวเล็กเช่นกันพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ คนฟังยิ้มตอบนิดๆ ก่อนสูดลมหายใจเรียกสมาธิแล้วเดินตามสาวแม่บ้านคนนั้นเข้าไป

ร่างบางถูกพาไปยังห้องๆ หนึ่งที่น่าจะเป็นห้องรับแขก แล้วก็ได้พบว่าเธอไม่ได้ถูกเรียกมาแค่คนเดียว ยังมีผู้หญิงหน้าตาดีตรงกับคุณสมบัติในใบรับสมัครทุกระเบียดนิ้วนั่งหน้าสลอนรออยู่ก่อนแล้วอีกห้าคน พอเห็นเธอเดินตัวลีบๆ เข้าไปพวกหล่อนก็ต่างมองมาด้วยสายตาเหยียดหยาม เพราะก็อย่างที่เคยบอกไปว่าหน้าก็ไม่แต่ง ชุดก็มอซอแถมยังเตี้ยที่สุดในกลุ่มเพราะใส่เพียงผ้าใบมา ในขณะที่คนอื่นแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มเหมือนจะมาประกวดนางงามมากกว่ามาสมัครงาน ความหรูหราใหญ่โตของบ้านว่าทำเอาท้อมากแล้ว มาเจอคู่แข่งแต่ละคนยิ่งท้อและหดหู่หนักไปอีก ความแปลกแยกทำคนตัวเล็กได้แต่นั่งซึมหดตัวเล็กลงกว่าเดิมเพื่อปกป้องตัวเองจากรังสีอำมหิตที่มองมาไม่หยุดหย่อน ระหว่างที่นั่งรออย่างไร้ความหวังในหัวสมองก็เริ่มคิดไปก่อนว่าพรุ่งนี้จะไปหางานที่ไหนดีเพราะที่นี่คงจะไม่ได้แน่ๆ

"กรุณายืนเรียงแถวหน้ากระดานด้วยค่ะ คุณไบรอันกับคุณหนูอลันกำลังจะเข้ามา" นั่งรอสักพักสาวชุดเมดที่พาเธอมาทิ้งไว้แล้วออกไปก็กลับเข้ามาอีกครั้งก่อนพูดขึ้นเสียงเข้ม ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนตามที่บอก และเพราะมาช้าอิงเอยเลยได้อยู่คนสุดท้ายซึ่งยืนอยู่ริมแถวยิ่งทำให้ดูมืดมน เป็นหลุมดำหรือเนื้องอกติ่งเล็กๆ ที่ควรจะตัดออกไป =_="

"....?? " ร่างบางทำหน้างงๆ เมื่อเห็นอีกห้าคนที่เหลือออกอาการระริกระรี้ดี๊ด๊าคอยสำรวจความสวยงามของตัวเองกันยกใหญ่เมื่อรู้ว่าเจ้าของบ้านจะเข้ามา มีเพียงเธอที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกระตือรือร้นกันขนาดนั้น เลยเอาแต่ยืนห่อไหล่ทำหน้าอมทุกข์อยู่คนเดียว ถ้ารู้จะเจอแบบนี้กลับไปตั้งแต่ยังไม่เข้ามาก็ดีหรอก มาก็อับอายขายขี้หน้าเปล่าๆ T^T

พรึ่บ!

ไม่นานนักเจ้าของบ้านก็ปรากฏตัวขึ้น.. เป็นหนึ่งร่างสูงใหญ่กับอีกหนึ่งร่างเล็กๆ ที่ถูกอุ้มอยู่บนท่อนแขนกำยำของคนเป็นพ่อ นาทีนั้นห้องทั้งห้องที่เคยมีเสียงซุบซิบก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนยืนนิ่งอึ้งกับความหล่อเหลาของร่างสูงนั้น เขาไม่ใช่ชายไทยแต่เป็นฝรั่งผมบลอนด์หน้าคมเข้มที่มีนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนทรงเสน่ห์บวกรูปร่างสูงกำยำอย่างชาวตะวันตก เพียงแค่ยืนเฉยๆ ก็สามารถสะกดสายตาคนที่พบเจอให้ต้องตกอยู่ในภวังค์ เป็นเสน่ห์อันแรงกล้าที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจต้านทานได้เลยจริงๆ

เฮือก!

ร่างสูงนั้นกวาดสายตามองสาวงามตรงหน้าไล่ตั้งแต่คนแรกจนมาหยุดอยู่ที่อิงเอย.. ร่างบางสะดุ้งไหวหลุดออกจากภวังค์เมื่อได้มองสบตาคมตรงๆ เนื่องจากเขามองนิ่งอยู่ที่เธอนานกว่าคนอื่นๆ ยิ่งทำเอาประหม่าเกร็งและอายจนต้องรีบหลบสายตา เพราะเธอเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่หลงมาอยู่ท่ามกลางฝูงหงส์ เขาเองก็คงจะคิดแบบนั้น

"อลัน.. อยากได้พี่เลี้ยงคนไหนครับ" เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยกับลูกน้อยหลังจากย่อตัววางร่างเล็กๆ นั้นลงยืนบนพื้น สิ้นคำบอกเด็กน้อยก็หันมามองพี่สาวทั้งหกคนที่ยืนเรียงกันอยู่อย่างพิจารณา หน้าตาบ้องแบ้วขณะครุ่นคิดนั้นทำลูกเป็ดขี้เหร่เพียงหนึ่งเดียวยืนมองด้วยสายตาเอ็นดู ต่างจากคนอื่นๆ ที่พยายามแข่งกันส่งยิ้มหวานและสายตาหลอกล่อให้เด็กน้อยสนใจจะได้เลือกตน.. แต่ยืนมองอยู่นานร่างนั้นก็ไม่พูดอะไรสักที จนในที่สุดก็เหมือนจะคิดอะไรได้แล้วเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะ...

ตุ้บ!

สะดุดขาตัวเองล้มลงตรงหน้าหกสาวงาม ทุกคนวี้ดว้ายด้วยความตกใจแต่ยืนนิ่ง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พุ่งเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง

"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม ขณะนั่งคุกเข่าลงประคองร่างน้อยๆ นั้นให้ลุกขึ้นยืน เท่านั้นเด็กตัวเล็กก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้ ก่อนหันไปหาพ่อ

"แดดดี้.. อลันจะเอาคนนี้ครับ" นิ้วเล็กป้อมๆ ชี้มาที่อิงเอยก่อนหันไปบอกคนเป็นพ่อที่ยืนมองอยู่ข้างหลัง คนถูกเลือกนิ่งอึ้งด้วยความมึนงงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ มีแค่ไบรอันคนเดียวเท่านั้นที่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเพราะรู้ทันลูกชายตัวน้อยว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้มันคือการจัดฉากขึ้นมาจากความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวที่แม้จะอายุแค่สี่ขวบแต่ได้เล่ห์กลมาจากเขาอย่างสมบูรณ์แบบ

"คุณหนูอลันได้เลือกพี่เลี้ยงคนใหม่แล้ว เชิญคนอื่นๆ กลับบ้านได้เลยค่ะ" ไม่ต้องรอให้เจ้านายสั่งสาวชุดเมดคนเดิมที่ยืนอยู่ในห้อง ด้วยกันก็ส่งแขกคนที่เหลือกลับอย่างรู้หน้าที่ พวกหล่อนต่างรู้สึกเจ็บใจ พากันชักสีหน้าออกมาอย่างไม่ปิดบัง คนถูกเลือกที่ยังคงนั่งเอ๋ออยู่ที่พื้นก็พลอยถูกมองด้วยสายตาทิ่มแทงก่อนจากกันด้วย

"เอ่อ.. ฉัน.. ได้งานนี้หรอคะ? " อิงเอยเงยหน้าขึ้นถามเจ้าของบ้านอย่างงงๆ หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วมันมาลงเอยแบบนี้ได้ยังไง ก็ในเมื่อเธอแทบจะไม่มีเปอร์เซ็นได้งานนี้เลยด้วยซ้ำ

"ใช่.. นับจากวันนี้ไปเธอจะต้องมาอยู่ดูแลอลันที่นี่ วันนี้กลับบ้านไปเก็บข้าวของให้เรียบร้อย.. เจอกันพรุ่งนี้ก่อนเจ็ดโมงเช้า แต่งตัวให้มันดีๆ กว่านี้ด้วย" ร่างสูงอุ้มเด็กชายตัวน้อยขึ้นอีกครั้ง ก่อนพูดบอกเสียงเรียบแล้วเดินจากไป ทิ้งคนข้างหลังให้ได้แต่มองตามไปอย่างงงๆ อดไม่ได้ต้องก้มลงมองสภาพของตัวเองอีกครั้งพลางครุ่นคิด เธอได้รับเลือกได้ยังไงกันนะ..?

"นี่คือหน้าที่ทั้งหมดที่คุณจะต้องทำในแต่ละวัน เจอกันพรุ่งนี้ก่อนเจ็ดโมงค่ะ" เดินกลับออกมาทางเดิมก็เจอกับสาวใช้คนเก่า เธอหยุดคุยและยื่นกระดาษหลายแผ่นที่ถูกแม็กติดกันมาให้ร่างบางก่อนกลับ อิงเอยก็รับมาอย่างงงๆ และเดินเอื่อยๆ กลับออกมาหาเพื่อนที่รออยู่หน้าบ้าน

"เป็นไงมั่งแก ทำไมออกมาคนสุดท้ายอ่ะ หรือว่าได้? " ทันทีที่เจอหน้ากันแพรวก็ถามออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะเห็นเพื่อนออกมาเป็นคนสุดท้าย แต่อีกใจก็แอบหวั่นๆ ว่าจะไม่ได้เหมือนกันเนื่องจากคนตัวเล็กนิ่งมากเหมือนตอนหางานไม่ได้ไม่มีผิด

"อืม.. ได้ได้ไงก็ไม่รู้" เสียงหวานเอ่ยบอกขณะยกมือขึ้นเกาศีรษะ ตากลมจ้องมองกระดาษในมืออย่างงงๆ ก่อนพับเก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างมิดชิดกันหาย ค่อยกลับไปดูอีกทีที่ห้อง

"จริงดิ! ? ดีอ่ะ! " แพรวเขย่าแขนเล็กพลางถามย้ำด้วยความดีใจ แม้จะรู้สึกงงเหมือนกันว่าได้ได้ยังไงเพราะระหว่างที่เธอนั่งรอเพื่อนอยู่ก็เห็นผู้หญิงจำนวนหนึ่งพากันเดินกลับออกมา แล้วแต่ละคนก็สวยๆ ทั้งนั้น เสียทีแต่งหน้าหนาและดูเกรี้ยวกราดไปสักนิด ไม่แน่ว่าที่พวกหล่อนไม่ได้ก็อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง

"แต่ฉันต้องมาค้างที่นี่อ่าดิ" คนตัวเล็กบอกเสียงเหงาหงอย เพราะเหมือนต้องมาเริ่มชีวิตใหม่ในสถานที่ใหม่ๆ กับผู้คนที่ไม่รู้จักอีกครั้ง แต่มันไม่เหมือนกับงานออฟฟิศทั่วไปที่เธอเคยทำมาเลยสักนิด

"มันก็ปกตินะ ที่ไหนเขาก็ทำกันแบบนี้แหละ พี่เลี้ยงเด็กก็ต้องเรียกใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งเด็กเล็กๆ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้พี่เลี้ยงก็ยิ่งสำคัญ แล้วเห็นลูกเขายัง ประมาณกี่ขวบ" แพรวบอก ก่อนถามต่อด้วยความสนใจ แค่เพื่อนกลับออกมาโดยปกติไม่มีการกรีดร้องหรือวิ่งหน้าตาตื่นออกมางานนี้ก็น่าจะไม่มีอะไรน่ากลัวแล้วล่ะ

"4-5 ขวบมั้ง" ร่างบางตอบขณะนึกถึงใบหน้ากลมๆ กับแก้มป่องๆ ของลูกชายเจ้าของบ้านที่เธอได้พบเจอมาไปด้วย

"ก็ยังไม่โตเท่าไรเลย เอาน่า เงินดีนะเว้ย แกมีทางเลือกมากหรือไง" แพรวพูดยิ้มๆ

"แต่ฉันเป็นห่วงแก ไม่อยากให้อยู่คนเดียว" อิงเอยยังคงมีท่าทีลังเล ไม่ค่อยดีใจนักที่ได้งานทำแล้วแถมเงินดีอีก เพราะเธอต้องมาอยู่ที่นี่เกือบถาวรแพรวก็เลยต้องอยู่คนเดียวและเธอก็เป็นห่วง ไม่อยากให้อยู่คนเดียวด้วยเป็นผู้หญิง

"โอ้ย ไม่ต้องมาห่วงอะไรฉันหรอก หน้าอย่างนี้ใครจะกล้าทำอะไรวะ" ร่างสูงบอกปัดความห่วงใยเพื่อให้อีกคนสบายใจ เพราะอย่างเธอไม่มีใครเขากล้าทำอะไรหรอก ห่วงก็แต่คนตัวเล็กนั่นแหละที่ต้องมาอยู่ต่างที่และไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

"เฮ้อ~ เออๆ ป้ะ กลับ.. พรุ่งนี้ฉันต้องมาแต่เช้า" ร่างบางเป็นฝ่ายยอมแพ้ เพราะถ้าเธอไม่คว้าโอกาสนี้ไว้สิ้นเดือนก็คงเหมือนสิ้นใจ ได้อดตายกันหมดแน่ๆ

..

..

..

..

อิงเอยสาวเหนือ แพรวสาวอิสาน บางครั้งก็คุยกันด้วยภาษาถิ่น ไรต์คิดว่ามันน่ารักดี ฝากติดตามด้วยน้าาา

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status