Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
Writer : Aile'N
ตอนที่ 1
"โหหหหหห.. นี่บ้านคนจริงๆ หรอวะ? " แพรวห่อปากครางถามออกมาหน้าอึ้งๆ ขณะแหงนหน้าขึ้นมองประตูรั้วสูงละลิ่วที่สามารถมองผ่านเข้าไปเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านโชว์ความอลังการอยู่ตรงหน้า คนข้างๆ ที่มาด้วยก็ยืนมองภาพนั้นอย่างอึ้งๆ เช่นกัน
สาเหตุที่นำพาอิงเอยกับแพรวมาอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่นี้ได้มันสืบเนื่องมาจากใบปลิวรับสมัครงานพี่เลี้ยงเด็กใบนั้นที่เพื่อนเอามาให้ดูและคะยั้นคะยอให้สมัคร ร่างบางก็ส่งหลักฐานทุกอย่างตามที่ในใบปลิวบอกไว้ไปสมัครด้วยความจำเป็น แถมยังคิดไว้ก่อนด้วยว่าคงไม่ผ่านแน่ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้นกลับมีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาถึงเธอ เรียกให้มาที่นี่เพื่อทำการคัดตัวจากเจ้าของบ้านอีกครั้ง ด้วยความกลัวเธอจึงลากเพื่อนมาด้วย
ตอนออกจากห้องมาก็มีความมั่นใจอยู่หรอก แต่พอมาเห็นความใหญ่โตของบ้าน (ว่าที่) เจ้านายในอนาคตแล้วกลับรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาเสียดื้อๆ อย่างแรกเลยก็คงจะเป็นการแต่งตัว ร่างบางไม่รู้ว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้เธอจึงใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่งที่สภาพสุดแสนจะเก่าแสนเก่า! หน้าก็ไม่ได้แต่ง ยิ่งทำให้ดูเหมือนเด็กเร่ร่อนมาขอทานบ้านเศรษฐียังไงยังงั้น กลับตอนนี้เลยได้ไหมอ่ะ กลัวเข้าไปเหยียบแล้วบ้านเขาจะแปดเปื้อน T^T
"กลับเหอะแก ไม่ได้ชัวร์เลยอ่ะ" อิงเอยหันไปบอกแพรวหน้าเศร้า ปากบางเบะเตรียมจะร้องไห้ออกมารอนๆ เพราะถ้าพลาดที่นี่เธอก็ต้องหางานใหม่ ซึ่งไม่ได้หาได้ง่ายๆ เลยสักนิด
"ได้ไงล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วนะเว้ย ลองดูสักตั้งดิ เผื่อได้" แพรวหันมาส่ายหน้าดิก ไม่เห็นด้วยที่มาจนถึงนี่แล้วจะพากันกลับไปมือเปล่า อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ได้พยายามก่อนเถอะ ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที
"แต่...แกดูสภาพฉันดิ แล้วดูบ้านเขา! " ร่างบางขึ้นเสียงดังนิดๆ เพื่อให้เพื่อนยอมรับความเป็นจริง เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าเราทั้งคู่ไม่เหมาะกับที่แบบนี้
"แกไม่ได้มาสมัครเป็นเมียเจ้าของบ้านสักหน่อย จะคิดมากทำไมเนี่ย เลิกงอแงและเข้าไปลุยกัน! " ร่างสูงกว่าดึงสติคนตัวเล็กกลับมา ก่อนตัดบทคว้าจับมือบางไว้กันหนีแล้วเดินไปกดออด รอไม่นานเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ไม่รู้เรียกว่าอะไรก็ทำให้หน้าจอสี่เหลี่ยมสีดำที่ติดอยู่ข้างๆ ออดปรากฏภาพผู้หญิงในชุดเมดสีดำขึ้นมา
"มาหาใครคะ? " คนในนั้นถามขึ้น คนฟังทั้งสองที่ยังคงอึ้งทึ่งกับเทคโนโลยีไฮเทคนั้นไม่มีโอกาสได้เรียบเรียงคำพูด แพรวจึงหันไปหาอิงเอยแล้วฉกจดหมายเรียกตัวที่เธอถืออยู่ออกมากางให้แม่บ้านชุดเมดคนนั้นดูพร้อมอธิบายบอก
"มาตามใบเรียกนี้อ่าค่ะ สมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก"
"เชิญเข้ามาเลยค่ะ" ไม่จำเป็นต้องถามอะไรต่อให้มากความ สาวใช้ก็ยอมให้พวกเธอเข้าไปอย่างง่ายดาย สิ้นคำบอกหน้าจอนั้นก็ดับไป ก่อนที่ประตูรั้วหน้าบ้านจะค่อยๆ เลื่อนเปิดออก
สองสาวมองความสะดวกสบายนั้นอย่างทึ่งๆ อีกครั้ง ก่อนเรียกความมั่นใจแล้วพากันเดินเข้าไป แต่กว่าจะถึงตัวบ้านก็เดินกันจนหอบ เพราะทางเข้าช่างไกลแสนไกล มีทั้งสนามหญ้า สวนย่อมที่ขนาดไม่ย่อม และน้ำพุตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทางเดิน ทำให้ต้องเดินอ้อม คนเหนื่อยง่ายอย่างอิงเอยเลยอดบ่นออกมาไม่ได้ และก็บ่นไปตลอดทางจนมาถึงทางเข้าประตูบ้านที่มีหญิงสาวชุดเมดคนเดียวกับที่เห็นในจอยืนรออยู่
"โดนเรียกทั้งสองคนเลยหรอคะ" คำทักทายแรกเป็นประโยคคำถามที่ประกอบด้วยความคลางแคลงใจอย่างหนัก เนื่องจากมากันสองคนแต่ตรงคุณสมบัติที่เจ้านายต้องการอยู่แค่คนเดียว ดวงตากลมคมกริบคู่นั้นเลยจ้องมองมาที่แพรวอย่างต้องการคำตอบ
"คนเดียวค่ะ ฉันแค่มาเป็นเพื่อน" แพรวบอกเสียงห้วน และแอบมองค้อนใครคนนั้นกลับอย่างเคืองๆ เพราะรู้สึกเหมือนโดนมองด้วยสายตาดูถูก ชิส์.. อย่าให้ถูกรางวัลที่หนึ่งนะ จะแปลงทั้งตัวให้สวยว่าอั้ม พัชราภาเลยคอยดู!
"งั้นก็รอข้างนอกค่ะ ที่สำคัญห้ามเดินเพ่นพ่าน.. ส่วนคุณ เชิญทางนี้ค่ะ" สาวใช้ชุดเมดเองก็เหมือนจะรู้ตัวเลยบอกเสียงห้วนพร้อมเขม่นกลับอย่างไม่ปิดบัง สิ้นคำก็เชิดหน้าขึ้นก่อนเดินนำอิงเอยเข้าไปในบ้าน
"ห่ากินหัวมึง จักแม่นผู้ดีผู้งามคักเนาะ อีผีปอบเอ้ย" แพรวด่าไล่หลังเป็นภาษาถิ่นบ้านเกิดพร้อมกำมือแน่นด้วยความเจ็บใจ นี่ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนยังต้องเข้าไปสัมภาษณ์งานนะ แม่จะเข้าไปกระชากหัวมาตบสักฉาดสองฉาด เอาให้ลืมบ้านเลขที่ไปเลย!
"ใจเย็น.. รอไม่นานหรอกมั้ง อย่าหนีกลับก่อนนะเว้ย" ร่างบางปรามคนโกรธเสียงเบา พร้อมสั่งกำชับเสียงเข้มว่าห้ามแพรวหนีกลับก่อนเด็ดขาด ถึงจะไม่ได้เข้าไปด้วยกันแต่ถ้ารู้ว่าเพื่อนยังอยู่ข้างนอกมันก็ช่วยทำให้อุ่นใจได้นิดๆ แหละนะ
"เออ ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นแกตะโกนดังๆ เลยนะ ไม่ก็รีบวิ่งออกมา ฉันรออยู่นี่แหละ" คนรอสั่งกำชับเพื่อนตัวเล็กเช่นกันพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ คนฟังยิ้มตอบนิดๆ ก่อนสูดลมหายใจเรียกสมาธิแล้วเดินตามสาวแม่บ้านคนนั้นเข้าไป
ร่างบางถูกพาไปยังห้องๆ หนึ่งที่น่าจะเป็นห้องรับแขก แล้วก็ได้พบว่าเธอไม่ได้ถูกเรียกมาแค่คนเดียว ยังมีผู้หญิงหน้าตาดีตรงกับคุณสมบัติในใบรับสมัครทุกระเบียดนิ้วนั่งหน้าสลอนรออยู่ก่อนแล้วอีกห้าคน พอเห็นเธอเดินตัวลีบๆ เข้าไปพวกหล่อนก็ต่างมองมาด้วยสายตาเหยียดหยาม เพราะก็อย่างที่เคยบอกไปว่าหน้าก็ไม่แต่ง ชุดก็มอซอแถมยังเตี้ยที่สุดในกลุ่มเพราะใส่เพียงผ้าใบมา ในขณะที่คนอื่นแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มเหมือนจะมาประกวดนางงามมากกว่ามาสมัครงาน ความหรูหราใหญ่โตของบ้านว่าทำเอาท้อมากแล้ว มาเจอคู่แข่งแต่ละคนยิ่งท้อและหดหู่หนักไปอีก ความแปลกแยกทำคนตัวเล็กได้แต่นั่งซึมหดตัวเล็กลงกว่าเดิมเพื่อปกป้องตัวเองจากรังสีอำมหิตที่มองมาไม่หยุดหย่อน ระหว่างที่นั่งรออย่างไร้ความหวังในหัวสมองก็เริ่มคิดไปก่อนว่าพรุ่งนี้จะไปหางานที่ไหนดีเพราะที่นี่คงจะไม่ได้แน่ๆ
"กรุณายืนเรียงแถวหน้ากระดานด้วยค่ะ คุณไบรอันกับคุณหนูอลันกำลังจะเข้ามา" นั่งรอสักพักสาวชุดเมดที่พาเธอมาทิ้งไว้แล้วออกไปก็กลับเข้ามาอีกครั้งก่อนพูดขึ้นเสียงเข้ม ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนตามที่บอก และเพราะมาช้าอิงเอยเลยได้อยู่คนสุดท้ายซึ่งยืนอยู่ริมแถวยิ่งทำให้ดูมืดมน เป็นหลุมดำหรือเนื้องอกติ่งเล็กๆ ที่ควรจะตัดออกไป =_="
"....?? " ร่างบางทำหน้างงๆ เมื่อเห็นอีกห้าคนที่เหลือออกอาการระริกระรี้ดี๊ด๊าคอยสำรวจความสวยงามของตัวเองกันยกใหญ่เมื่อรู้ว่าเจ้าของบ้านจะเข้ามา มีเพียงเธอที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกระตือรือร้นกันขนาดนั้น เลยเอาแต่ยืนห่อไหล่ทำหน้าอมทุกข์อยู่คนเดียว ถ้ารู้จะเจอแบบนี้กลับไปตั้งแต่ยังไม่เข้ามาก็ดีหรอก มาก็อับอายขายขี้หน้าเปล่าๆ T^T
พรึ่บ!
ไม่นานนักเจ้าของบ้านก็ปรากฏตัวขึ้น.. เป็นหนึ่งร่างสูงใหญ่กับอีกหนึ่งร่างเล็กๆ ที่ถูกอุ้มอยู่บนท่อนแขนกำยำของคนเป็นพ่อ นาทีนั้นห้องทั้งห้องที่เคยมีเสียงซุบซิบก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนยืนนิ่งอึ้งกับความหล่อเหลาของร่างสูงนั้น เขาไม่ใช่ชายไทยแต่เป็นฝรั่งผมบลอนด์หน้าคมเข้มที่มีนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนทรงเสน่ห์บวกรูปร่างสูงกำยำอย่างชาวตะวันตก เพียงแค่ยืนเฉยๆ ก็สามารถสะกดสายตาคนที่พบเจอให้ต้องตกอยู่ในภวังค์ เป็นเสน่ห์อันแรงกล้าที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจต้านทานได้เลยจริงๆ
เฮือก!
ร่างสูงนั้นกวาดสายตามองสาวงามตรงหน้าไล่ตั้งแต่คนแรกจนมาหยุดอยู่ที่อิงเอย.. ร่างบางสะดุ้งไหวหลุดออกจากภวังค์เมื่อได้มองสบตาคมตรงๆ เนื่องจากเขามองนิ่งอยู่ที่เธอนานกว่าคนอื่นๆ ยิ่งทำเอาประหม่าเกร็งและอายจนต้องรีบหลบสายตา เพราะเธอเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่หลงมาอยู่ท่ามกลางฝูงหงส์ เขาเองก็คงจะคิดแบบนั้น
"อลัน.. อยากได้พี่เลี้ยงคนไหนครับ" เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยกับลูกน้อยหลังจากย่อตัววางร่างเล็กๆ นั้นลงยืนบนพื้น สิ้นคำบอกเด็กน้อยก็หันมามองพี่สาวทั้งหกคนที่ยืนเรียงกันอยู่อย่างพิจารณา หน้าตาบ้องแบ้วขณะครุ่นคิดนั้นทำลูกเป็ดขี้เหร่เพียงหนึ่งเดียวยืนมองด้วยสายตาเอ็นดู ต่างจากคนอื่นๆ ที่พยายามแข่งกันส่งยิ้มหวานและสายตาหลอกล่อให้เด็กน้อยสนใจจะได้เลือกตน.. แต่ยืนมองอยู่นานร่างนั้นก็ไม่พูดอะไรสักที จนในที่สุดก็เหมือนจะคิดอะไรได้แล้วเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะ...
ตุ้บ!
สะดุดขาตัวเองล้มลงตรงหน้าหกสาวงาม ทุกคนวี้ดว้ายด้วยความตกใจแต่ยืนนิ่ง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พุ่งเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม ขณะนั่งคุกเข่าลงประคองร่างน้อยๆ นั้นให้ลุกขึ้นยืน เท่านั้นเด็กตัวเล็กก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้ ก่อนหันไปหาพ่อ
"แดดดี้.. อลันจะเอาคนนี้ครับ" นิ้วเล็กป้อมๆ ชี้มาที่อิงเอยก่อนหันไปบอกคนเป็นพ่อที่ยืนมองอยู่ข้างหลัง คนถูกเลือกนิ่งอึ้งด้วยความมึนงงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ มีแค่ไบรอันคนเดียวเท่านั้นที่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเพราะรู้ทันลูกชายตัวน้อยว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้มันคือการจัดฉากขึ้นมาจากความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวที่แม้จะอายุแค่สี่ขวบแต่ได้เล่ห์กลมาจากเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
"คุณหนูอลันได้เลือกพี่เลี้ยงคนใหม่แล้ว เชิญคนอื่นๆ กลับบ้านได้เลยค่ะ" ไม่ต้องรอให้เจ้านายสั่งสาวชุดเมดคนเดิมที่ยืนอยู่ในห้อง ด้วยกันก็ส่งแขกคนที่เหลือกลับอย่างรู้หน้าที่ พวกหล่อนต่างรู้สึกเจ็บใจ พากันชักสีหน้าออกมาอย่างไม่ปิดบัง คนถูกเลือกที่ยังคงนั่งเอ๋ออยู่ที่พื้นก็พลอยถูกมองด้วยสายตาทิ่มแทงก่อนจากกันด้วย
"เอ่อ.. ฉัน.. ได้งานนี้หรอคะ? " อิงเอยเงยหน้าขึ้นถามเจ้าของบ้านอย่างงงๆ หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วมันมาลงเอยแบบนี้ได้ยังไง ก็ในเมื่อเธอแทบจะไม่มีเปอร์เซ็นได้งานนี้เลยด้วยซ้ำ
"ใช่.. นับจากวันนี้ไปเธอจะต้องมาอยู่ดูแลอลันที่นี่ วันนี้กลับบ้านไปเก็บข้าวของให้เรียบร้อย.. เจอกันพรุ่งนี้ก่อนเจ็ดโมงเช้า แต่งตัวให้มันดีๆ กว่านี้ด้วย" ร่างสูงอุ้มเด็กชายตัวน้อยขึ้นอีกครั้ง ก่อนพูดบอกเสียงเรียบแล้วเดินจากไป ทิ้งคนข้างหลังให้ได้แต่มองตามไปอย่างงงๆ อดไม่ได้ต้องก้มลงมองสภาพของตัวเองอีกครั้งพลางครุ่นคิด เธอได้รับเลือกได้ยังไงกันนะ..?
"นี่คือหน้าที่ทั้งหมดที่คุณจะต้องทำในแต่ละวัน เจอกันพรุ่งนี้ก่อนเจ็ดโมงค่ะ" เดินกลับออกมาทางเดิมก็เจอกับสาวใช้คนเก่า เธอหยุดคุยและยื่นกระดาษหลายแผ่นที่ถูกแม็กติดกันมาให้ร่างบางก่อนกลับ อิงเอยก็รับมาอย่างงงๆ และเดินเอื่อยๆ กลับออกมาหาเพื่อนที่รออยู่หน้าบ้าน
"เป็นไงมั่งแก ทำไมออกมาคนสุดท้ายอ่ะ หรือว่าได้? " ทันทีที่เจอหน้ากันแพรวก็ถามออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะเห็นเพื่อนออกมาเป็นคนสุดท้าย แต่อีกใจก็แอบหวั่นๆ ว่าจะไม่ได้เหมือนกันเนื่องจากคนตัวเล็กนิ่งมากเหมือนตอนหางานไม่ได้ไม่มีผิด
"อืม.. ได้ได้ไงก็ไม่รู้" เสียงหวานเอ่ยบอกขณะยกมือขึ้นเกาศีรษะ ตากลมจ้องมองกระดาษในมืออย่างงงๆ ก่อนพับเก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างมิดชิดกันหาย ค่อยกลับไปดูอีกทีที่ห้อง
"จริงดิ! ? ดีอ่ะ! " แพรวเขย่าแขนเล็กพลางถามย้ำด้วยความดีใจ แม้จะรู้สึกงงเหมือนกันว่าได้ได้ยังไงเพราะระหว่างที่เธอนั่งรอเพื่อนอยู่ก็เห็นผู้หญิงจำนวนหนึ่งพากันเดินกลับออกมา แล้วแต่ละคนก็สวยๆ ทั้งนั้น เสียทีแต่งหน้าหนาและดูเกรี้ยวกราดไปสักนิด ไม่แน่ว่าที่พวกหล่อนไม่ได้ก็อาจจะเป็นเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง
"แต่ฉันต้องมาค้างที่นี่อ่าดิ" คนตัวเล็กบอกเสียงเหงาหงอย เพราะเหมือนต้องมาเริ่มชีวิตใหม่ในสถานที่ใหม่ๆ กับผู้คนที่ไม่รู้จักอีกครั้ง แต่มันไม่เหมือนกับงานออฟฟิศทั่วไปที่เธอเคยทำมาเลยสักนิด
"มันก็ปกตินะ ที่ไหนเขาก็ทำกันแบบนี้แหละ พี่เลี้ยงเด็กก็ต้องเรียกใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งเด็กเล็กๆ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้พี่เลี้ยงก็ยิ่งสำคัญ แล้วเห็นลูกเขายัง ประมาณกี่ขวบ" แพรวบอก ก่อนถามต่อด้วยความสนใจ แค่เพื่อนกลับออกมาโดยปกติไม่มีการกรีดร้องหรือวิ่งหน้าตาตื่นออกมางานนี้ก็น่าจะไม่มีอะไรน่ากลัวแล้วล่ะ
"4-5 ขวบมั้ง" ร่างบางตอบขณะนึกถึงใบหน้ากลมๆ กับแก้มป่องๆ ของลูกชายเจ้าของบ้านที่เธอได้พบเจอมาไปด้วย
"ก็ยังไม่โตเท่าไรเลย เอาน่า เงินดีนะเว้ย แกมีทางเลือกมากหรือไง" แพรวพูดยิ้มๆ
"แต่ฉันเป็นห่วงแก ไม่อยากให้อยู่คนเดียว" อิงเอยยังคงมีท่าทีลังเล ไม่ค่อยดีใจนักที่ได้งานทำแล้วแถมเงินดีอีก เพราะเธอต้องมาอยู่ที่นี่เกือบถาวรแพรวก็เลยต้องอยู่คนเดียวและเธอก็เป็นห่วง ไม่อยากให้อยู่คนเดียวด้วยเป็นผู้หญิง
"โอ้ย ไม่ต้องมาห่วงอะไรฉันหรอก หน้าอย่างนี้ใครจะกล้าทำอะไรวะ" ร่างสูงบอกปัดความห่วงใยเพื่อให้อีกคนสบายใจ เพราะอย่างเธอไม่มีใครเขากล้าทำอะไรหรอก ห่วงก็แต่คนตัวเล็กนั่นแหละที่ต้องมาอยู่ต่างที่และไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
"เฮ้อ~ เออๆ ป้ะ กลับ.. พรุ่งนี้ฉันต้องมาแต่เช้า" ร่างบางเป็นฝ่ายยอมแพ้ เพราะถ้าเธอไม่คว้าโอกาสนี้ไว้สิ้นเดือนก็คงเหมือนสิ้นใจ ได้อดตายกันหมดแน่ๆ
..
..
..
..
อิงเอยสาวเหนือ แพรวสาวอิสาน บางครั้งก็คุยกันด้วยภาษาถิ่น ไรต์คิดว่ามันน่ารักดี ฝากติดตามด้วยน้าาา
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 2"นี่คือห้องของคุณค่ะ เก็บของให้เสร็จแล้วไปปลุกคุณไบรอันกับคุณหนูอลันตอน 7 โมง" สาวชุดเมดคนเมื่อวานที่เธอแนะนำตัวเองว่าชื่อ 'เพลง' พูดบอกหลังจากเดินนำอิงเอยมาที่ห้องพัก ซึ่งสร้างความแปลกใจให้เธอเป็นอย่างมาก เพราะห้องที่ว่าไม่ได้อยู่ชั้นล่างติดกับบรรดาสาวใช้คนอื่นๆ แต่อยู่ชั้นบนติดกับห้องเจ้าของบ้าน! แน่นอนว่าภายในห้องที่อยู่เสมอกันกับเจ้านายนั้นมันจะต้องใหญ่โตหรูหราไม่ต่างจากห้องข้างๆ!ตอนนี้คนตัวบางเลยยังคงยืนเคว้งอยู่กลางห้อง ความสวยงามอลังการของมันทำเธออึ้ง.. แต่ไม่มีโอกาสได้ถามคนที่พามาเมื่อพอหมดหน้าที่หล่อนก็เดินออกไปในทันที ส่วนคนที่ยังอยู่ก็ยืนมองด้วยความอึ้งอยู่นานจนต้องรีบตั้งสติและเอาของไปเก็บในตู้เสื้อผ้าที่เมื่อมองเทียบกันแล้วกระเป๋าเสื้อผ้าเก่าๆ ของเธอเหมือนกับเศษขยะที่ถูกนำมาวางไว้ผิดที่ยังไงยังงั้นตุ้บ~"อ่า.. เมื่อไรแกจะรวยนะไอ้อิง จะได้มีห้องแบบนี้กับเขาบ้าง เตียงโคตรนุ่ม.. คนรวยนี่มันดีเนอะ" คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างพลางเกลือกกลิ้งไปมา ปากก็บ่นพึมพำด้วยความอิจฉาความรวยของเจ้านายคนใหม่ คิดแล้วก็หดหู่ใจ เธอ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 3หลังกลับจากส่งอลันที่โรงเรียนทั้งสองคนก็แยกย้ายกันตามหน้าที่ ร่างสูงออกไปทำงาน ส่วนอิงเอยก็กลับบ้านมาและหยิบตารางงานขึ้นมาดูอีกครั้งและพบว่างานต่อไปคือทำความสะอาดห้อง ของใช้และของเล่นให้อลัน รวมทั้งซักเสื้อผ้าและรีดไว้ให้ทุกชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดอยู่บ้านหรือชุดนักเรียนร่างบางก็ทำได้อย่างสบายๆ เพราะทำอยู่เป็นประจำ ในตอนนี้เลยยังไม่มีอะไรยากสำหรับเธอ พอทำเสร็จก็มีเวลาพักให้หนึ่งชั่วโมง ก่อนจะต้องไปทำห้องของคนเป็นพ่อต่อ ซึ่งจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าตกลงเธอถูกจ้างมาเป็นพี่เลี้ยงให้อลันจริงๆ หรือเปล่า ทำไมจะต้องมีส่วนของไบรอันพ่วงมาด้วยทุกที =_="เสร็จจากห้องเจ้าของบ้านอิงเอยก็ได้พักยาวจนถึงเที่ยง ข้าวเที่ยงเธอได้กินบนโต๊ะใหญ่อีกครั้งแต่คราวนี้ได้นั่งคนเดียวโดดๆ เลยค่อนข้างเกร็งและขัดเขินสายตาของบรรดาสาวใช้ชุดเมดที่คอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้เธอเป็นอย่างมาก เลยทำให้ฉุกคิดได้ว่าเธอต้องหาเพื่อนสักคนไว้คลายเหงาบ้าง ให้อยู่คนเดียวแบบนี้มันอึดอัด.. แน่นอนว่าเป้าหมายที่ร่างบางคิดไว้ก็คือ 'เพลง' หัวหน้าแม่บ้านของที่นี่ โชคดีที่หล่อนไม่ได้
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'Nตอนที่ 4 พอหนีขึ้นห้องมาได้อิงเอยก็โวยวายด้วยความหงุดหงิดอยู่คนเดียวในห้อง สองครั้งสองคราในวันเดียวกันที่เธอถูกเจ้าของบ้านล่วงเกินทั้งทางสายตาและการกระทำ มันทำให้เธอเริ่มคิดหนักกับการที่ต้องอยู่แบบระแวดระวังและเอาตัวเองให้รอดพ้นจากคนอันตรายอย่างไบรอัน ร้ายกาจ.. แค่สายตาที่มองปราดมาเพียงไม่กี่วินาที ก็สามารถทำคนถูกมองสูญเสียความเป็นตัวเองไปจนหมดสิ้น!"ช่างเถอะอิง.. อย่าไปอยู่ใกล้เขาอีกก็พอ! " ร่างบางสลัดเรื่องที่ถูกใครคนนั้นล่วงเกินทิ้งไป พยายามไม่ถือสาและเก็บมาคิดให้รกสมอง เพราะเธอจะออกจากงานอีกไม่ได้แล้ว ท่องไว้ให้ขึ้นใจว่าต้องอดทน! และพยายามอย่าไปอยู่ใกล้ร่างสูงนั้นให้มาก เพื่อตัวและหัวใจของเธอเอง!พอปล่อยวางได้คนตัวเล็กก็หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ ได้แต่คาดโทษสัตว์เลี้ยงตัวโตของเจ้านายในใจ โทษฐานที่ทำให้เธอต้องเสียเงินซื้อเสื้อใหม่ทั้งที่ตัวนี้เพิ่งจะซื้อมาเลยแท้ๆ ใส่ยังไม่ทันคุ้มเลย!"คะ คุณเข้ามาทำไมอ่ะ! ? " สายน้ำเย็นๆ ทำอารมณ์ขุ่นมัวของอิงเอยค่อยๆ จางหายไป แต่ก็กลับมาอีกอย่างรวดเร็วเมื่อออกมาเห็นเจ้าข
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 5"อลัน.. ได้เวลาทานข้าวแล้วครับ ป้ะ ไปทานข้าวกัน ค่อยกลับมาทำใหม่นะครับ" ใบหน้ากลมๆ เงยขึ้นมองสบตาคนพูดเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง คนฟังพยักหน้าหงึกๆ อย่างว่าง่าย ก่อนลุกขึ้นนั่งดีๆ มองอีกคนตาแป๋ว"อิงเอยอุ้มหน่อยครับ" มองอยู่นานร่างบางก็ไม่เข้าใจ เสียงใสจึงอ้อนขึ้นมาตรงๆ พร้อมกับชูมือทั้งสองข้างขึ้นกลางอากาศ แววตากลมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังนั้น ถ้าปฏิเสธก็คงจะใจร้ายไม่ใช่น้อย อิงเอยจึงเดินมาอุ้มคนตัวเล็กที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่เตียงขึ้น เจ้าตัวก็ช่างรู้หน้าที่พออุ้มขึ้นปั๊บก็กอดคออีกคนไว้แน่น แล้วซบหน้าลงกับลาดไหล่บางเรียบร้อยก็พากันเดินลงมาข้างล่างเพื่อทานมื้อเย็น โดยมีคนเป็นพ่อที่เพิ่งออกจากห้องเดินตามกันมาติดๆ แต่คนตัวบางไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่ชวนกันคุยเจื้อยแจ้วอยู่กับเจ้าตัวเล็ก ซึ่งเป็นภาพที่ไบรอันไม่เคยเห็นพี่เลี้ยงคนไหนทำเลย แม้กระทั่งแม่แท้ๆ ของอลัน..เห็นแบบนั้นแล้วอยู่ๆ ร่างสูงก็นึกถึงคำพูดของลูกขึ้นมาว่าอยากได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นแม่ทั้งที่ไม่เคยพูดถึงแม่มานานมากแล้วและไม่เคยมีทีท่าว่าจะอยากได้แม่ใหม
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 6Truuuu.. Truuuu.."ฮัลโหล"[ฉันโทรมากวนแกหรือเปล่าเนี่ย] ปลายสายถามขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เพราะน้ำเสียงเล็กของคนรับฟังดูห้วนกว่าปกติ เหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง เลยกลัวว่าตัวเองจะโทรมาปลุกให้ตื่นหรือเปล่าเพราะเวลานี้ก็ใกล้จะดึกมากแล้ว"เปล่า ยังไม่ได้นอน" อิงเอยตอบกลับด้วยน้ำเสียงแบบเดิม เธอหงุดหงิดจริงๆ นั่นแหละแต่ไม่ใช่เพราะเพื่อน มันเพราะเจ้าของบ้านต่างหาก![แล้วทำไมเสียงห้วนๆ วะ] แพรวถามอย่างงุนงง ว่าจะโทรมาถามไถ่เรื่องที่ทำงานใหม่เสียหน่อย ไม่คิดว่าจะเจออารมณ์แบบนี้"หงุดหงิดคน" พูดไปใบหน้ากวนอารมณ์ของคนที่ทำให้อารมณ์เสียก็แวบเข้ามาในความคิด ยิ่งทำให้หงุดหงิดไปกันใหญ่[ใครวะ ไปอยู่วันเดียวก็มีศัตรูแล้วหรอวะ] ปลายสายซักไซ้ด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นเต็มที่"อืม ศัตรูตัวฉกาจเลยด้วย! " เสียงหวานกระแทกบอกพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ บ่งบอกว่าไม่ได้อารมณ์เสียธรรมดาๆ แพรวเองก็ค่อนข้างจะแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น เพราะอิงเอยเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว บางทีกำลังหงุดหงิดเรื่องนี้อยู่พอมีคนมาชวนคุยเข้าเรื่องอื่นก็หายและลืมเรื่องก่อนไปในทันที นอ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวWriter : Aile'nบทนำ"เดือนนี้แกลาออกมากี่งานแล้วเนี่ย จะกินแกลบกันอยู่แล้วนะ! " คนพูดทิ้งตัวนั่งขัดสมาธลงบนพื้นหน้าโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่อีกฝั่งหนึ่งมีร่างขาวๆ กำลังนั่งกินมาม่าด้วยท่าทางห่อเหี่ยว สิ้นเสียงบ่นของเพื่อนร่างนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาเบะปากน้อยๆ เหมือนเด็กขี้แย"..แกจะให้ฉันทำยังไงล่ะ แต่ละที่แม่ง.." เสียงเบาโอดครวญก่อนถอนหายใจออกมาหนักๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอชื่อ 'อิงเอย' ส่วนคนที่กำลังนั่งจ้องหน้าและเพิ่งบ่นเธอไปเมื่อกี้ชื่อ 'แพรว' เธอกับแพรวเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เจอกันตอนรับน้องและด้วยเป็นเด็กต่างจังหวัดทั้งคู่เลยสนิทกันเร็วจนกระทั่งเรียนจบก็ตัดสินใจหางานทำที่กรุงเทพฯ และเช่าห้องอยู่ด้วยกันเพื่อส่งเงินไปให้พ่อแม่ที่ต่างจังหวัด เมื่อก่อนอิงเอยก็ได้งานที่เดียวกันกับแพรว เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เพราะตัวเล็ก ผิวขาว ผมยาว ตาโต สเป็คป๋า ทำให้เจอเจ้านายหัวงูคอยกระลิ้มกระเหลี่ยอยู่ทุกวัน เลยทำให้ทนอยู่ต่อไปไม่ได้ต้องลาออกมาหางานใหม่ แต่ก็โชคร้ายไม่สิ้นสุดเมื่อที่ไหนๆ ที่เจอแต่แบบนี้ทั้งหมด ไม่เจ้านายก็เพื่อนร่วมงาน แค