บทที่ 4 หนูภีมเสียงดัง
โอเมก้าตัวน้อยนิ่งเงียบ เม้มปากชั่งใจอยู่พักใหญ่ว่าควรเอ่ยออกไปดีหรือไม่ หากบอกออกไปแล้วภาพลักษณ์เด็กน้อยแสนขี้อายของเขาก็คงหายไปด้วย แต่ในตอนนี้อารมณ์ในกายเขามันพุ่งสูงจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว "ภีมเปียกแล้ว"
คนอายุมากกว่าเกิดอาการนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ฝ่ามือหนาชะงักค้าง ดวงตาคมมองสบกับคนตัวเล็กอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน
เขาไม่คาดคิดว่าภรรยาแสนน่ารักของเขาจะกล้าพูดถ้อยคำน่าอายแบบนี้ออกมา
แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาเจ้าจอมก็ดึงสติกลับมาได้ ฟีโรโมนกลิ่นเหล้ารัมหอมฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณห้องครัวพาให้โอเมก้าตัวน้อยหายใจติดขัด
เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาเป็นเม็ดเล็ก ๆ ตามกรอบหน้าสวย ขาเรียวออกแรงหนีบเข้าหากันหวังจะระบายอารมณ์ด้วยตัวเองหากแต่ไม่เป็นผลเมื่อมีร่างสูงใหญ่ของสามียืนขวางทางอยู่
"หนูพูดอะไรนะป๊าได้ยินไม่ชัดเลย" อัลฟ่าร่างหนายกยิ้มกริ่ม เขาดันร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไปแทรกกลางอยู่ระหว่างขาเรียวของภรรยา ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างคว้าเอาเอวบางมากอบกุมไว้พลางบีบเคล้นเล่นสนุกมือ
ภีมพัฒน์เบนหน้าหนีอย่างเอียงอาย เขารู้ได้ในทันทีว่าโดนสามีอัลฟ่าแกล้งเข้าให้แล้ว ถึงเมื่อครู่เขาจะเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบแต่ไม่มีทางเลยที่เจ้าจอมจะไม่ได้ยินในเมื่อร่างหนาตรงหน้าแทบจะสิงเขาอยู่แล้ว
"ไหน เมื่อกี้หนูพูดว่าอะไรคะ" อัลฟ่าสามียังคงเอ่ยเย้าแหย่คนอายุน้อยกว่า เขาชอบนักเวลาโอเมก้าน้อยมีท่าทีเขินอายเขาเช่นตอนนี้
ดูใบหน้าสวยที่กำลังขึ้นสีแดงเรื่อนั่นสิ นัยน์ตากลมโตมีหยดน้ำสีใสเอ่อคลอหน่วย จมูกโด่งรั้นก็แดงจนน่ากัด ริมฝีปากฉ่ำลิปเม้มเข้าหากันแน่น ฝ่ามือเรียวก็ขยุ้มเสื้อของสามีในขณะที่เสื้อยืดของตนถูกร่นขึ้นสูงจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ใบหน้าเขินอายแต่การกระทำสวนทาง มันยั่วยวนพาให้ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
น่ารักมาก
โอเมก้าแม่ลูกอ่อนยังไม่ยอมเอ่ยพูดอะไร เจ้าจอมเองก็ไม่ได้ต้องการคำตอบของคำถามตั้งแต่แรกเขาจึงปัดมันทิ้งไม่สนใจต่ออีก
มือหนาเปลี่ยนตำแหน่งมาลูบไล้ขาอ่อนของภรรยาที่ตั้งเป็นรูปตัวเอ็มอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว ภีมพัฒน์สะดุ้งเล็กน้อยจากสัมผัสหยาบของสามีแต่ก็ไม่ได้เอ่ยห้ามอย่างเช่นทุกครั้ง
จอมบดินทร์ยกยิ้มพอใจ เขาบีบเนื้ออ่อนนั้นเล่นอย่างเพลินมือพลางจดจ้องใบหน้าสวยของภรรยาโดยไม่เอ่ยอะไร พาให้เจ้าของร่างเห่อร้อนไปทั้งตัว รู้สึกเขินอายมากกว่าเดิมหลายเท่า
"ป๊า...เลิกจ้องหนูได้แล้ว" โอเมก้าตัวน้อยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฟีโรโมนกลิ่นเหล้ารัมที่กำลังฟุ้งกระจายของสามีนำพาอารมณ์เขาให้โหมกระพืออย่างไม่ลดละ
จากที่คิดว่าไม่ต้องการก็ต้องการมากทีเดียว
อีกทั้งฮอร์โมนภายในของคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่คงที่ทำให้ความรู้สึกในด้านนี้ไวกว่าที่เคยเป็นอยู่มาก และมันจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกหลายเดือน
ภีมพัฒน์ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาต้องการความอบอุ่นจากอัลฟ่าสามีเข้ามาเติมเต็มมากเพียงใด แค่เขาไม่กล้าเอ่ยปากบอกความต้องการที่แสนน่าอายนั่นออกไปตรง ๆ ก็เท่านั้น
"หนูสวยขนาดนี้จะให้ป๊าเลิกมองได้ยังไง หืม" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมยกยิ้มเอ็นดูภรรยา เขาลูบศีรษะภีมแผ่วเบาพร้อมกับโน้มตัวลงจูบที่เรือนผมนุ่มนิ่มนั้นอย่างอ่อนโยน
โอเมก้าแม่ลูกอ่อนหลับตาพริ้มรับสัมผัสจากสามี เจ้าจอมไล่พรมจูบภรรยาตัวน้อยตั้งแต่ศีรษะ ขมับ ดวงตา และจมูกรั้น ก่อนจะดันกายออกมาจ้องมองใบหน้าแสนสวยของภรรยาอีกครั้ง
"หนูสวยมากเลยรู้ไหม" อัลฟ่าสามียังคงเอ่ยชมภรรยาไม่หยุดปาก ทุกคำที่พูดไปไม่เกินจริง
"หนูรู้แล้ว..." ภีมพัฒน์ยังคงไม่กล้าสบสายตากับสามีตรง ๆ เขาอายเหลือเกินที่จะต้องมานั่งท่านี้ต่อหน้าเจ้าจอม อีกทั้งคนอายุมากกว่ายังมีท่าทีหื่นกระหายราวกับสัตว์ป่าเช่นนั้น
ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปไม่ได้เอ่ยตอบอะไร เขาทำเพียงบีบเคล้นขาอ่อนของภรรยาซ้ำไปมา ไล้สัมผัสขึ้นสูงเรื่อย ๆ จนโอเมก้าน้อยนั่งตัวเกร็ง
"ป๊าจูบได้ไหม" เจ้าจอมจ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของภรรยาที่ตอนนี้หยาดเยิ้มไปด้วยแรงอารมณ์จากเขาที่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมาในเวลาไม่นาน
โอเมก้าแม่ลูกอ่อนช้อนตามองสามีอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ แทนคำตอบ
ร่างบอบบางตรงหน้าตอบตกลงจึงไม่รอช้าที่จะจู่โจมทันที
ริมฝีปากหนาทาบทับลงไปบนอวัยวะเดียวกัน ขบเม้มหนักหน่วงจนเกิดเสียงน่าอายไปทั่ว เจ้าจอมดุนลิ้นหมายจะเข้าไปสำรวจในโพรงปากของภรรยา หากแต่ภีมพัฒน์ยังคงปิดปากแน่นไม่ยอมให้เขาได้เข้าไป
อัลฟ่าสามีถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง หัวคิ้วพันกันมุ่นเมื่อถูกภรรยาขัดใจ "หนูขา ป๊าขอจูบหน่อย" เขาเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนพร้อมกับเชยคางมนให้เงยขึ้นมองสบกับเขา
โอเมก้าตัวน้อยเผลอจ้องเข้าไปในดวงตากระหายของสามี ไม่กล่าวคำใดอีก เขาทำเพียงแค่ปิดเปลือกตาลงจนสนิทและเชิดหน้าขึ้นสูงอีกระดับเพื่อให้ง่ายต่อการสัมผัสกัน
ภรรยาตัวน้อยอนุญาตแล้ว
จอมบดินทร์ประกบริมฝีปากอีกครั้ง ขบเม้มหยอกล้อภีมพัฒน์ที่ด้านนอกก่อนจะค่อย ๆ สอดแทรกลิ้นเข้าไปสำรวจภายใน เขาทำมันอย่างไม่รีบร้อนเพราะกลัวว่าจำทคุณแม่ลูกอ่อนตื่นตระหนก
เรียวลิ้นชื้นกวาดต้อนเอาความหวานหอมของภรรยาไปทั่วทุกมุม เสียงดังเฉอะแฉะก้องไปทั้งห้องครัว ไฟแห่งราคะถูกจุดขึ้นมาจนยากจะดับ
"อื้ม...หนูภีม หวาน" อัลฟ่าสามีครางเครือในลำคออย่างพอใจในรสจูบของภรรยา แม้โอเมก้าตัวน้อยจะไม่โต้ตอบแต่ก็ไม่ได้ผลักไส เท่านี้ก็มากพอให้เขาหลงใหลในตัวของคุณแม่ลูกอ่อนคนนี้แล้ว
เมื่อลิ้มลองจนพอใจเขาจึงถอนริมฝีปากออก แม้จะเสียดายแต่ก็นึกสงสารภรรยาเพราะเขาแทบไม่เว้นช่วงให้อีกฝ่ายได้หายใจเลย ฝ่ามือหนาลูบวนอยู่ที่หน้าท้องแบนราบของภรรยา เคล้นคลึงไปมาอย่างเพลินมือ อีกข้างก็บีบนวดขาอ่อนของภีมพัฒน์ไม่ละไปไหน
โอเมก้าตัวน้อยหอบหายใจ อ้าปากเอาอากาศเข้าปอดมื่อหลุดพ้นจากพันธนาการของสามี มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นมาเช็ดคราบน้ำใสที่เลอะอยู่ตรงมุมปากออก แต่ยิ่งปาดมันออกยิ่งได้เห็นท่าทีกระหายของจอมบดินทร์
อัลฟ่าสามีซุกใบหน้าเข้าหาลำคอระหงของภีมพัฒน์ ขบเม้มหนักหน่วงจนผิวเนื้อส่วนนั้นขึ้นเป็นรอยกุหลาบสีแดงเด่นชัด แม้อยากถนอมภรรยามากเพียงใดแต่แรงอารมณ์ที่อยากร่วมรักก็มีมากกว่า เขาจึงต้องรีบเตรียมให้โอเมก้าตัวน้อยพร้อมมากพอสำหรับการรองรับอารมณ์จากเขา
"หนูหอมมาก...หอม" เจ้าจอมกระซิบเสียงแผ่วคล้ายละเมอในขณะที่กำลังซุกไซ้ลำคอของภรรยา
ปกติแล้วโอเมก้าจะมีจุดปล่อยฟีโรโมนหวานหอมอยู่ที่ท้ายทอย เป็นจุดที่อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมกำลังฝังใบหน้าคมสูดดมกลิ่นประจำกายของภรรยาเข้าไปเสียเต็มปอด จึงไม่แปลกหากเจ้าจอมจะหลงใหลมันจนไม่อาจถอนตัว
กลิ่นดอกคาโมมายล์ที่เขาชอบหนักหนา
ทั้งชอบทั้งรักมันมาตั้งแต่แรก
"หนูภีม...หอมมาก" คนอายุมากกว่ายังคงซุกไซ้ลำคอขาวของภรรยาไม่ห่าง ขยับสัมผัสเข้าใกล้ท้ายทอยเรื่อย ๆ โอเมก้าตัวน้อยสั่นผวาจนต้องย่นคอหนี
เจ้าจอมชะงักนิ่ง
เขาพลาดแล้ว...เหยื่อตัวน้อยตกใจจนตีตัวออกห่าง
"ไม่เป็นไร ๆ ป๊าขอโทษ" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมขอลุแก่โทษกับภรรยาโอเมก้า ฝ่ามือหนาประคองใบหน้าสวยเบามือขึ้นมารับจูบอ่อนโยนจากเขา
ภีมพัฒน์ตอบรับสัมผัสของเขาอย่างเงอะงะไม่เป็นงานเท่าที่ควร แม้จะร่วมเตียงกันมาหลายปีก็ตาม
แต่เพียงเท่านี้ก็มากพอแล้ว
คนอายุมากกว่าผละกายออกมา เขารีบร้อนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ตนใส่อยู่แล้วโยนมันทิ้งไว้บนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ เข็มขัดแบรนด์หรูถูกรูดออกจากเอวหนาพร้อมกับซิปกางเกงที่ถูกปลดอย่างรวดเร็ว
โอเมก้าตัวน้อยเมื่อเห็นท่าทีรีบร้อนของสามีก็แอบนึกหวั่นอยู่ในใจ นานแล้วที่เราทั้งคู่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่าด้วยกัน เขาไม่แปลกใจเลยสักนิดที่เจ้าจอมจะดูเร่งรีบเช่นนี้
เพียงแค่ตกใจเท่านั้น
"ค...ป๊า" ภีมพัฒน์เอ่ยเรียกสามีเสียงแผ่วเรียกให้คนอายุมากกว่าเงยหน้าขึ้นมองสบกับดวงตาคู่สวย
มือหนากอบกุมเอาข้อมือของภรรยามาลูบไล้หน้าท้องที่มีลอนกล้ามขึ้นเป็นลูกของตน เขาบังคับทิศทางจนมือเรียวแตะเข้ากับขอบกางเกงชั้นในของสามี
"ป๊าไม่ไหวแล้วหนู" เจ้าจอมเอ่ยเสียงแหบพร่าบอกภรรยาว่าตนใกล้จะทนไม่ไหวเต็มที
เมื่อครู่ที่โอเมก้าตัวน้อยผงะตัวหนีสัมผัสจากเขา ฟีโรโมนกลิ่นดอกคาโมมายล์กลับฟุ้งกระจายขึ้นถนัดตาจนเขาหายใจติดขัด อารมณ์กระหายที่มีมากอยู่แล้วก็พุ่งสูงกว่าเดิมเมื่อได้สูดดมกลิ่นประจำตัวของภรรยา
คุณแม่ลูกอ่อนคงตกใจจนเผลอตัวปล่อยฟีโรโมนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ภีมมพัฒน์มองสามียืนหอบหายใจจากแรงอารมณ์ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเป็นตามตัว อุณหภูมิในร่างกายของคนตรงหน้าร้อนระอุจนเขาสัมผัสได้แม้อยู่ห่างกันเกือบสิบเซนติเมตร
คนอายุน้อยกว่าเบนหน้าหนีสายตาหื่นกระหายของสามีไปทางอื่น เขาเม้มปากพลางปิดตาลงแน่นก่อนจะเอ่ยเสียงเบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบแต่คนฟังกลับได้ยินมันชัดเต็มสองหู "หนูก็ไม่ไหวแล้ว"
เสียงหวานของภรรยาดังก้องในโสตประสาท ถ้อยคำนั้นหมายความโอเมก้าตัวน้อยอนุญาตเขาให้กระทำการลามกด้วยใช่หรือไม่
เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสมีหรือที่สามีอย่างเขาจะไม่คว้ามันไว้ ร่างหนาขยับกายเข้าใกล้ภีมพัฒน์ ฝ่ามือหนาร่นเอากางกางขาสั้นของอีกฝ่ายออกให้พ้นทางพลางจับจ้องใบหน้าสวยไม่ละสายตา
แต่เมื่อปราการหลุดจากกายขาวเนียน สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมนิ่งอึ้งอยู่นานเป็นนาที
ภรรยาตัวน้อยไม่ได้ใส่ชั้นใน
#โอเมก้าของเจ้าพ่อน้ำหอม
มันหืดหาด
มันบะลรพบ่พเน้่หรห้หสาืสาอ
คอมเม้นพูดคุยกันได้น้าาาา
ปล.เมื่อวานโน๊ตบุ๊คเอ๋อ เปิดไม่ติดTT
TW : chomchan_writer
บทที่ 4 หนูภีมเสียงดัง (ต่อ)ภรรยาตัวน้อยไม่ได้ใส่ชั้นในแก่นกายน่ารักกระตุกหงึกหงักเมื่อเจ้าของร่างมันตื่นเต้นที่ต้องเปิดกายโชว์ของสงวนให้สามีได้เชยชม ช่องทางด้านหลังเริ่มมีน้ำเมือกสีใสไหลออกมาจากรูสวาทเป็นระลอก ยืนยันว่าเจ้าของร่างกำลังต้องการมากเพียงใดเมื่อสติกลับเข้าที่เข้าทางเจ้าจอมก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์จ้องมองส่วนล่างของภรรยาไม่วางตา"เห็นทีว่าวันนี้คงมีเด็กไม่อยากนอน...ถึงได้แต่งตัวแบบนี้มายั่วป๊า" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเอ่ยเย้าหยอกภรรยาพลางใช้นิ้วโป้งปาดริมฝีปากล่างของตัวเองพลางจ้องมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาหื่นกระหายไม่ปิดบังโอเมก้าตัวน้อยได้แต่หลุบตาลงต่ำหลบสามี จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าจอมกระทำการอุกอาจ อัลฟ่าใช้ท่อนแขนช้อนเอาข้อพับขาของภรรยาขึ้นสูงจนมันพาดอยู่บนบ่ากว้างของเขา ภีมพัฒน์ตกใจเผลอตัวคว้าท่อนแขนของสามีเพราะเกรงว่าจะไถลลงพื้นจนเจ็บตัวกางเกงสแลคที่ยังเหลืออยู่บนตัวถูกเจ้าของมันรั้งลงพร้อมกับชั้นในอย่างรีบร้อน แก่นกายของอัลฟ่าดีดผงาดขึ้นมา ภีมพัฒน์ยังคงก้มหน้าอยู่จึงได้เห็นตัวตนของสามีเสียเต็มตาด้วยความเขินอายจึงรีบเงยหน้า เข้าทางเจ้าจอมพอดิบพอดี อัลฟ่าสามีประกบจูบภรร
บทที่ 5 คุณจอมนะคุณจอม"สงสัยหนูภีมจะเสียงดังเกินไป...ใช่ไหม" อัลฟ่าสามียกยิ้มแกล้งแซวภรรยาตัวน้อยในขณะที่ช่วงล่างยังคงขยับเข้าออกช้า ๆ เพื่อรีดเอาน้ำเชื้อของเขากักเก็บไว้ในรูรัก"คุณจอม...เอาออกก่อนนะครับ" คนใต้ร่างเอ่ยบอกเจ้าจอมเสียงแหบแห้ง ตอนนี้เขากระหายน้ำมากเหลือเกิน แต่ลูกชายตัวน้อยก็กำลังแผดเสียงร้องจ้า เขาคงต้องรีบไปปลอบขวัญเสียก่อนไม่น่าเชื่อคุณจอมเลยเจ้าภีมอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมโน้มกายมาประกบริมฝีปากภรรยาตัวน้อย ดูดดึงสิ่งนุ่มหยุ่นนั้นอยู่นานเกือบนาทีจนได้ยินเสียงร้องจ้าของลูกชายอีกครั้งจึงตัดใจผละออกเขาถอนแก่นกายออกจากช่องทางเปียกชื้นของโอเมก้า น้ำสีขาวขุ่นไหลย้อยลงมาตามช่วงขาขาวที่ตั้งชันไว้ ช่างดูสวยงามจนจอมบดินทร์มองมันไม่ละสายตา อยากจะกลืนกินภรรยาซ้ำ ๆ จนช่องทางรักไม่เหลือที่ว่างภีมพัฒน์เม้มปากแน่น พยายามไม่สบสายตากับอัลฟ่าสามี เพราะถึงแม้จะทำกันจนเสร็จสมไปแล้วแต่คนตรงหน้ายังมีดวงตานักล่าแฝงอยู่ คนตัวเล็กใช้ข้อศอกยันกายขึ้นนั่งบนโต๊ะอาหาร ดึงเสื้อยืดที่ถูกร่นขึ้นไปลงมาปิดหัวนมสีชมพูและหน้าท้องที่มีรอยแผลผ่าคลอดของตัวเอง"คุณจอม ภีมจะไปหาลูกครับ" โอเมก้ากลิ่นคาโมมายล์ข
บทที่ 5 คุณจอมนะคุณจอม (ต่อ)แค่คิดก็แทบถึงฝั่งถ้าได้ช่องทางของภรรยามาช่วยคงจะดีไม่น้อย"หนูภีม อ๊ะ ป๊าอยาก ซี๊ดด อยากXXXหนู" เจ้าจอมเอ่ยออกมาอย่างไม่อายปาก เขาใช้สายตาหื่นกระหายจ้องมองภรรยาตัวน้อยไม่วางตา เมื่อโอเมก้ากลิ่นคาโมมายล์เสมามองด้วยดวงตาราวกับลูกกวางตัวน้อยเขาก็เร่งรัวข้อมือรูดขึ้นลงอย่างไวภีมพัฒน์ทำตัวน่าถูกจับกระแทกนัก"ป๊าอยากได้XXหนูภีม" จอมบดินทร์ยังคงเอ่ยบอกภรรยาด้วยประโยคที่แสดงถึงความต้องการอย่างไม่ปิดบังอารมณ์อยากผสมพันธุ์ตามสัญชาตญาณของอัลฟ่ามันพุ่งสูงเสียเหลือเกิน เขาอยากจับภรรยาตัวน้อยมาชำเราบนโซฟานุ่มตัวนี้จนรุ่งสางห่างหายไปนานก็ต้องทบต้นทบดอกโอเมก้ามองสบดวงตาสีน้ำตาลเข้มของสามี เขาเข้าใจดีว่าอาการรัทของอัลฟ่ามันทรมานมากเพียงใด แต่ในตอนนี้โอเมก้าน้อยกำลังให้นมลูกอยู่ถึงแม้เจ้าตัวน้อยจะหลับไปแล้วแต่ปากยังคงดูดเต้าไม่ปล่อย จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสามีอัลฟ่าข้างกายได้เต็มที่ เขาจึงทำเพียงแค่โน้มใบหน้าเข้าหาเจ้าจอมเล็กน้อยแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาก็ถูกอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมรั้งคอไปประกบจูบดูดดื่มจนแทบหายใจไม่ทัน "ภีม หนูภีม...ซี๊ดด อ๊าา"เมื่อได้จุม
บทที่ 6 จอมบดินทร์กล่อมลูกเจบีดีกรุ๊ปเป็นบริษัทผลิตเครื่องสำอางจำพวกน้ำหอมที่มีสาขาย่อยกระจายอยู่ทุกภูมิภาค รวมแล้วก็ประมาณแปดสาขา จอมบดินทร์ขยายธุรกิจได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะเขาพึ่งพาทุนทรัพย์ของบุพการีแม้จะมีเงินฝากในธนาคารหลายบาทและเขาคิดว่ามันเพียงพอแต่ทั้งพ่อและแม่ก็ยังดื้อรั้นที่จะช่วยเขาจึงเหนื่อยห้ามปรามแต่สาขาย่อยที่กระจายออกไปเป็นการลงทุนของเขาทั้งสิ้น เหตุผลหลักที่เร่งขยับขยายกิจการก็เพราะต้องการกอบโกยในช่วงขาขึ้น วงการธุรกิจมันมีขึ้นมีลงเสมอและผลลัพธ์มักมาโดยไม่บอกกล่าว เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องรีบสร้างฐานตัวเองให้มั่นคงมากที่สุดแปดสาขาที่ว่าเป็นเพียงโกดังเก็บผลิตภัณฑ์เพื่อกระจายตัวน้ำหอมออกสู่ตลาดได้ง่ายและไวขึ้นก็เท่านั้นสำนักงานใหญ่และโรงผลิตยังตั้งอยู่ในเมืองหลวง หากนับรวมเวลาปีนี้ก็เป็นปีที่ห้าที่เจบีดีกรุ๊ปก่อตั้งขึ้น ดูเป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ที่ทำให้จอมบดินทร์ประสบความสำเร็จแต่ในความคิดของเจ้าตัวไม่ได้เป็นแบบนั้นมันออกจะช้าไปเสียหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะเขาริเริ่มมันช้า อีกส่วนคือเขากดดันตัวเองมาตั้งแต่แรกและยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีกเมื่อมีแก้วตาดวงใจ
บทที่ 7 ภีมพัฒน์เคืองสามีเมื่อคืนจอมบดินทร์มีความผิด โทษฐานหอบลูกน้อยหนีภรรยา เช้าวันนี้จึงต้องนั่งอย่างสงบเสงี่ยมรอทานมื้อเช้าฝีมือโอเมก้าน้อย‘ภีมโกรธคุณจอม’ประโยคนั้นทำเขาไม่กล้าขยับแม้เพียงก้าวเดียว ยืนกุมมืออยู่หน้าประตูห้องนอนด้วยผ้าขนหนูที่พันช่วงล่างเอาไว้ ช้อนตามองภรรยารักแต่คนบนเตียงกลับนิ่งเฉย ก้มมองแต่ลูกไม่วางตาจนเจ้าตัวน้อยหลับไปก็ไม่หันมาสนใจเขามิหนำซ้ำยังพลิกกายนอนตะแคงกอดลูกแล้วนอนไปพร้อมกัน เหลือแค่เขาที่ยังยืนเจี๋ยมเจี้ยมไม้กล้าก้าวเท้า แต่สุดท้ายก็ต้องค่อย ๆ ย่องเบาเข้าห้องแต่งตัวแล้วรีบมานอนกอดโอเมก้าน้อยประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ท่อนล่างสวมกางเกงสแลคสีดำ เสื้อสูทถูกเขาวางพาดไว้บนเพนักเก้าอี้แล้วทรุดกายนั่งลงตำแหน่งหัวโต๊ะ ข้างกายมีเด็กชายนั่งเก้าอี้ประจำตัว ใบหน้าอิ่มเอม ยิ้มจนตากลายเป็นสระอิน่าเอ็นดูต่างจากผู้เป็นพ่อที่ได้แต่มองตามทุกการกระทำของโอเมก้าน้อยตาละห้อย“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” เสียงทุ้มของอัลฟ่าเอ่ยถามออกไปอย่างกระตือรือร้น เขาชะเง้อมองซ้ายขวาเผื่อจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้าง“ไม่เป็นไรครับ ภีมทำเองดีกว่า” ภีมพัฒน์กล่าวกับสามีอั
บทที่ 8 โปรเจคน้ำหอมใหม่เจบีดีกรุ๊ปมีตึกสำนักงานใหญ่อยู่ในใจกลางเมืองหลวง มันสูงระฟ้าหลายสิบชั้นเพราะภายในนั้นรวมทุกอย่างที่บริษัทยักษ์ใหญ่ควรจะมี อีกทั้งพื้นที่ขนาดใหญ่ด้านหลังก็เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตและห้องแล็ปทดลองวันนี้บอร์ดบริหารมีการประชุมครั้งใหญ่ในเรื่องของโปรเจคน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ทำมาจากดอกเจอราเนียมหรือดอกปากนกกระเรียน เพราะทางสวนภักดีได้เมล็ดชั้นดีมาจึงลองเพาะพันธุ์แล้วส่งให้กับเจบีดีกรุ๊ปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้แน่นอนว่าผู้บริหารอย่างจอมบดินทร์เป็นคนควบคุมทุกกระบวนการเองตั้งแต่นำดอกไม้มาเข้าห้องแล็ปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย มันถูกปรับเปลี่ยนแก้ไขอยู่หลายสิบครั้งเพราะเจ้าจอมต้องการให้น้ำหอมทุกกลิ่นของเจบีดีกรุ๊ปออกมาดีอย่างไม่มีที่ติจนกระทั่งวันนี้ที่นัดประชุมใหญ่เพื่อหาข้อสรุปว่าตัวน้ำหอมในโปรเจคใหม่นี้พร้อมสำหรับการวางขายแล้วหรือไม่อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมนั่งอ่านแฟ้มรายงานการประชุมเมื่อคราวก่อนด้วยใบหน้าเรียบเฉย ปากกาในมือถูกตวัดจดลงบนกระดาษเป็นข้อ ๆ เขาต้องการทบทวนว่าครั้งก่อนได้ข้อสรุปในเรื่องไหนไปแล้วบ้างและเรื่องไหนที่ยังตกลงกันไม่ได้เขายกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาเมื่อเห็นว่าใกล้เว
บทที่ 9 พี่อยาก...ตรงนี้เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจบีดีกรุ๊ปมีการประชุมบอร์ดบริหารครั้งใหญ่เพราะจอมบดินทร์ประธานสูงสุดของบริษัทได้ริเริ่มโปรเจคน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ผ่านการเข้าห้องแล็ปมาไม่ต่ำกว่าสามเดือน แน่นอนว่ามันใกล้จะเข้าที่แล้วจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องนัดประชุมครั้งใหญ่แบบนี้เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่จอมบดินทร์ให้ความสนใจความจริงแล้วโปรเจคนี้ได้ข้อสรุปไปตั้งแต่เดือนก่อนแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อหรือจะดำเนินแผนการตลาดอย่างไร แต่ที่อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมต้องจัดประชุมครั้งนี้อย่างเร่งด่วนก็เพราะเขาเห็นความผิดปกติของรายการบัญชีบางรายการตัวเลขมันไม่ได้กระโดดจนเขาสังเกตเห็นได้ทันที แต่ค่าใช้จ่ายในการออกไปนอกสถานที่มันเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มีการบันทึกบัญชี จากห้าพันเป็นเจ็ดพัน จนกลายเป็นหลักหมื่นและในตอนนี้มันมากกว่าครึ่งแสนต่อครั้งไปแล้วในหนึ่งเดือนมีการเบิกค่าใช้จ่ายตัวนี้ไปกว่าสิบครั้ง ซึ่งจากที่เขาได้รับรายงานมาจากสรุปมันไม่ถึงสิบครั้ง นั่นแปลว่าเจบีดีกรุ๊ปมีเงินจำนวนหนึ่งที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะมันไม่ได้มีการออกนอกสถานที่จริงเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่เกิดขึ้นเพราะคนกลุ่มหนึ่งที
บทที่ 10 คาโมมายล์ในสวนทานตะวัน“พี่อยากXXXเธอตรงนี้” อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมกล่าวเสียงแหบพร่าอย่างหน้าไม่อาย ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มมองภรรยาในอ้อมแขนไม่วางตา จ้องลึกเข้าไปปานจะกลืนกินทั้งร่างโอเมก้าน้อยนิ่งอึ้ง ไม่ทันไรก็ถูกสามีแย่งลูกออกไปจากอก น้องพีชถูกพาไปนอนในเปลที่นำมาด้วย เจ้าจอมแกล้งใช้ผ้าห่มปิดตาลูกชายเพียงสามสี่ครั้งก็เข้าสู่ห้วงนิทราได้โดยง่ายเป็นใจให้ผู้เป็นพ่อรังแกแม่โดยแท้ภีมพัฒน์ไม่ได้ขยับกายหนีไปไหน เขายังคงมองตามการกระทำของสามี ค่อนขอดคนอายุมากกว่าในใจว่าทำไมถึงได้ดูเลี้ยงลูกง่ายนัก กว่าเขาจะพาน้องพีชนอนได้แต่ละทีเล่นเอาเหนื่อยหอบ บางครั้งก็จนปัญญาจะหลอกล้อ แต่พอเป็นจอมบดินทร์กลับหลับง่ายเสียนี่ เจ้าลูกคนนี้ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปสาวเท้ามายืนตรงหน้าภรรยาตัวน้อย เขาย่อตัวลงชันเข่าข้างหนึ่งแล้วใช้มือหนาเชยคางให้ใบหน้าสวยเดขึ้นมองตน“ลูกหลับแล้ว” เจ้าจอมกล่าวเพียงแค่นั้นแล้วกดจูบบนริมฝีปากบางก่อนจะยืดกายลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ร่างหนาของอัลฟ่าเดินไปนั่งบนดินชื้นแฉะที่ถูกล้อมรอบด้วยดอกทานตะวันหลายสิบต้น ไม่ได้นึกว่ามันจะเลอะหรือเปื้อนเสื้อผ้าที่ใส่มาสักนิดเส้นผมสีควันบุหรี่ถู
บทที่ 20 พี่รัท เธอฮีท...เราควรทำอย่างไรดี"อ๊า! อ๊ะ อ๊ะ...ป๊า อ๊ะ!" เสียงกระเส่าของโอเมก้าแทบดังลั่นภูเขาลูกหนึ่ง สาเหตุก็มีเพียงอย่างเดียวคือถูกจอมบดินทร์รังแกจนตัวลอยตาลอย แม้จะอยากเม้มปากกลั้นเสียงก็ไม่สามารถทำได้ตามใจหวังท่อนลำใหญ่กระแทกกระทั้นปรนเปรอช่องทางเปียกชื้นจนมันบวมเป่งแต่อัลฟ่ากลับยังไม่พอใจ หยัดสะโพกตอกใส่ภรรยาจนหัวสั่นหัวคลอน ริมฝีปากอ้าออกหอบเอาอากาศทุกวินาที บางจังหวะก็ส่งเสียงร้องคล้ายกับจะขาดใจ"อ๊าา เสียวxxxชิบ อีกนิดค่ะคนสวย" อัลฟ่าสามีเอ่ยลอดไรฟัน ท่อนแขนอุ้มกระเตงภรรยาไว้ในอ้อมแขนแล้วกระแทกสะโพกส่งตัวตนเข้าไปด้านในตัวภีมพัฒน์หนักหน่วงจอมบดินทร์ตั้งใจว่าจะพาภรรยาไปพลอดรักเร่าร้อนที่ด้านหลังรถ แต่เพราะเจ้าดอกไม้เอ่ยห้ามไว้ กลัวว่าน้องพีชที่หลับอยู่จะรับรู้ถึงแรงสะเทือนและกลิ่นฟีโรโมนเข้มข้นของพวกเขาเขาไม่มีทางเลือกยอมตามใจภรรยาไม่เข้าไปด้านในรถแต่อารมณ์ที่พุ่งสูงก็ไม่สามารถกล่อมให้เบาลงได้ นอกเสียจากจะได้ปลดปล่อยกับคนรัก"อ๊ะ! ฮ...อ๊า ป...อ๊ะ" เรียวแขนทั้งสองข้างตวัดโอบรอบคอสามีไว้แน่น นิ้วทั้งสิบก็จิกลงเนื้อหนังของเจ้าของอ้อมกอดจนห้อเลือด แม้จะกลัวอีกฝ่ายเจ
บทที่ 19 คืนนี้...เขาลูกนี้เป็นของเรา“ค...คุณจอม” เสียงหวานกระเส่าของโอเมก้าน้อยเรียกให้ผู้เป็นสามีละจากลำคอขาวขึ้นมามองสบกันเจ้าจอมยกยิ้มมุมปาก มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นมาจับคางมนให้เชิดขึ้นมองตนก่อนจะเอ่ยเสียงกระซิบ “เรียกใหม่ค่ะ หนูต้องผัวว่าอะไร”“ป๊า...อื้อ” ยังไม่ทันเอ่ยได้จนจบประโยค อิสระก็ถูกพรากไปด้วยรสจูบดุดันจากสามี มันทำให้แขนขาเขาอ่อนเปลี้ยหาที่จับยึดไม่ได้เลยทีเดียว“เชื่อฟังดีมากหนูภีม”เจ้าดอกไม้นอนแผ่หลาอยู่บนกระโปรงรถหลังถูกสามีรั้งตัวมากอดแนบชิดแล้วพรมจูบไล่ไปทั้งตัวโอเมก้าน้อยอยู่ในอ้อมกอดของจอมบดินทร์ในท่าลิงอุ้มแตง เขาจึงคิดว่าสามีจะพาไปด้านหลังตัวรถแต่กลับไม่ใช่เป็นกระโปรงด้านหน้ารถแทนเธอยั่วพี่เองภีมพัฒน์...ไม่น่าเลย“ป...ป๊า มันโล่งไป” เสียงหวานเอ่ยบอกเจ้าจอมอย่างประหม่า ดวงตาคู่สวยหันซ้ายหันขวาอย่างระแวดระวัง“ภีมกลัวมีคนมาเห็น”แม้คำพูดและท่าทางจะแสดงออกว่าตื่นกลัว แต่ก้อนเนื้อในอกกลับตรงกันข้ามตื่นเต้น...ใช้เป็นคำนิยามได้ดีทีเดียวประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปยกยิ้มอย่างเอ็นดูภรรยา แต่สายตาของผู้ล่าและฝ่ามือหนาที่ขย้ำเอวคอดอยู่กลับเตรียมพร้อมตะครุบเหยื่อในทันที “
บทที่ 18 เธอยั่วพี่เองเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังออกจากปั๊มน้ำมันก็มาถึงสถานที่สำหรับพักผ่อนของพวกเขาในสัปดาห์นี้ มันเป็นพื้นพี่ราบบนภูเขาลูกหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ จอมบดินทร์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ดูแลไว้แล้ว เมื่อมาถึงก็สามารถขับรถเข้ามาจอดได้เลยอัลฟ่าร่างสูงอยู่ในชุดลำลองที่ไม่บางมากนัก เสื้อยืดสีครีมและกางเกงคาร์โก้สีเดียวกันถูกเขาหยิบมาใส่เมื่อเช้าก่อนออกเดินทาง แม้ไม่ได้ทำอะไรหนักหน่วงจนเหงื่อโทรมกายแต่ในตอนนี้เขาอยากอาบน้ำเป็นอย่างแรก เผื่อว่าสายน้ำเย็น ๆ จะช่วยให้อารมณ์ร้อนรุ่มภายในใจเขาทุเลาลงไปบ้างแค่นิดเดียวก็ยังดีเจ้าจอมยืนเอนกายพิงกระโปรงรถอยู่ด้านนอก ท่อนแขนทั้งสองข้างประสานกันไว้กลางอก ลมหายใจสูดเข้าออกลึกเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในเมื่อชั่วโมงก่อนเขาเกือบพาลูกเมียพบเจอกับอุบัติเหตุเพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ฝ่าเท้าเหยียบเบรคมิดจนโอเมก้าข้างกายหัวขมำ โชคดีที่เส้นทางนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นภีมพัฒน์ถูกสามีเอ่ยห้ามไม่ให้ตามออกไปด้านนอกแม้จะถึงที่หมายแล้ว อีกฝ่ายอ้างว่าเพราะลูกชายยังไม่ตื่นจึงให้เขาอยู่เป็นเพื่อนน้องพีชก่อน ส่วนตัวเองจะออกไปส
บทที่ 17 คุณจอม...เป็นอะไร"คุณจอมครับ..." โอเมก้าน้อยเอ่ยเรียกสามีเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยฉายแววความกังวลอยู่มาก ท่าทีที่แสดงออกก็เช่นกัน ฝ่ามือบางกำเข้าหากันด้วยความประหม่า ในหัวคงคิดหลายเรื่องราวจนพันกันยุ่งเหยิง คิ้วทั้งสองข้างจึงชนเข้าหากันอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมยกยิ้ม ภีมพัฒน์ในตอนนี้เหมือนลูกกระต่ายขี้กลัวแม้เขาจะไม่รู้ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายกลัวคืออะไร แต่ไม่ได้กลัวเขาแน่นอนวันนี้เขายังไม่ได้แกล้งเจ้าดอกไม้เลยสักนิดเดียว หน้าที่สามีและพ่อก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย"หื้ม ว่าไงคะ" จอมบดินทร์มองภรรยาด้วยความรัก ระบายยิ้มอ่อนโยนให้คนตรงหน้าพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสาร ท่อนแขนหนายกขึ้นมาตั้งไว้บนโต๊ะ ศีรษะจึงเอียงลงแนบกับฝ่ามือ นัยน์ตาคมก็จับจ้องภีมพัฒน์ไม่ละสายตาโอเมก้าน้อยหลุบตาลงต่ำ สองเท้าสาวเข้าใกล้สามีจนกระทั่งมายืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองพวกเขายังอยู่ในห้องทำงานของประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ป จอมบดินทร์นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานในขณะที่มีภรรยาตัวน้อยยืนกุมมืออยู่ตรงหน้า ส่วนลูกชายถูกอเล็กซ์ขโมยไปตั้งแต่ช่วงเที่ยง จนป่านนี้ก็ยังไม่พาหลานมาคืน ไม่รู้ว่าไปเล่นซนกันถึงไหนแล้วเ
บทที่ 16 เมียผมไม่เคยน้อยหน้าใคร"เงียบปากเดี๋ยวนี้คุณดรีม""กล้าพูดกับฉันแบบนี้หรือ"ประธานแห่งเจดีบีกรุ๊ปได้ยินคล้ายคนมีปากเสียงกันหลังจากรีบวิ่งตามอเล็กซ์เพื่อนตัวดี อาจจะหนึ่งหรือสองคนหรือมากกว่านั้น มีหลายประโยคที่เขาฟังไม่ถนัดแต่ที่แน่ชัดคือทุกคนกำลังโจมตีคน ๆ เดียวกันเพื่อนอัลฟ่ากระหืดกระหอบขึ้นไปเรียกเขาถึงในห้องทำงาน อีกทั้งยังรีบเร่งเสียจนนึกรำคาญ แต่พอได้ยินว่าเรืองที่เกิดขึ้นมีชื่อของภีมพัฒน์เข้าไปเกี่ยวข้องก็รีบจ้ำอ้าวจนแทบกลายเป็นวิ่งในทันทีประตูห้องสตูดิโอที่ชั้นล่างสุดของตึกเปิดอยู่ มีพนักงานใส่เสื้อสีดำระบุคำว่า staff ยืนจับกลุ่มกันสองถึงสามคน เมื่อได้กลิ่นฟีโรโมนที่จำได้ว่าเจ้าของมันเป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่ก็รีบพากันหลีกให้พ้นทาง"คุณสูงส่งมาจากไหนถึงได้หยาบคายกับคุณภีมแบบนั้น""แล้วคุณภีมอะไรนั่นมันสูงกว่าฉันตรงไหน ทำไมจะพูดถึงไม่ได้"ประโยคแรกเป็นเสียงผู้หญิงคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัท ฟังจากน้ำเสียงคงจะโมโหอยู่มากแต่ยังไว้หน้าไม่หยาบคายใส่คู่สนทนาแต่ประโยคถัดมาเขาไม่คุ้นหูเลยสักนิด"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ให้เกียรติคุณภีมด้วย""เป็นถึงเมียประธ
บทที่ 15 ขอโทษที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้"ภีม...วันนี้หนูเป็นอะไรคะ บอกพี่หน่อยคนดี" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเอ่ยถามภรรยาตัวน้อยหลังจากเร่งเดินตามอีกฝ่ายภีมพัฒน์เดินดิ่งจากสตูดิโอชั้นล่างขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นผู้บริหารซึ่งเป็นชั้นทำงานประจำของเขา เจ้าจอมเกือบตามภรรยาทันตั้งแต่เมื่อครู่แล้วแต่คนอายุน้อยก็ไวเหลือเกิน รีบปิดประตูลิฟต์จนเขาต้องชักเท้าชักมือออกเกือบไม่ทันกว่าลิฟต์จะว่างก็ตอนที่เขาวิ่งขึ้นไปห้าจากยี่สิบชั้น รู้ว่ามันคงเหนื่อยเพราะตนก็ใกล้เข้าเลขสี่เต็มที ไม่ได้หนุ่มแน่นวิ่งได้หลายชั่วโมงติดกันเหมือนแต่ก่อนแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะหอบแฮกขนาดนี้"ภีมเปล่าครับ""เธอเป็น"คุณแม่ลูกอ่อนยังคงเบี่ยงหน้าไม่ยอมสบสายตากับสามี มิหนำซ้ำยังกระถดกายถอยหลังตอนที่จอมบดินทร์ขยับเข้าใกล้ ทำอัลฟ่าใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม หัวคิ้วพันกันมุ่นเพราะคิดไม่ตกว่าเมื่อเช้านี้เขาทำอะไรพลาดไป"คนดี...พี่ทำอะไรผิดหรือเปล่า เธอบอกพี่สิ เธอเงียบแบบนี้พี่เดาใจเธอไม่ถูก" เจ้าจอมยังคงพูดหว่านล้อมภรรยาแต่ก็ไม่ได้ผลเช่นเคย"เธอไม่ถูกใจที่พี่ทำตรงไหนหรือเปล่า""ไม่มีครับ""น้องพีช ช่วยคุณพ่อหน่อยสิครับ"เมื่อคุยกับภรรยาไม่ได้ผลก็เปลี่ย
บทที่ 14 เธอเป็นอะไรใกล้เวลาที่เจบีดีกรุ๊ปจะเฉิดฉายอีกครั้งหลังห่างหายจากวงการไปเกือบปีแต่ความนิยมกลับไม่ได้ลดน้อยลงจอมบดินทร์ใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนกว่าจะเลือกพรีเซนเตอร์ของคอลเลคชั่นนี้ได้ มีหลายสิบรายชื่อที่ฝ่ายการตลาดเสนอมาให้ แต่ทุกคนล้วนมีประวติไม่ดี ทั้งภูมิหลัง ทั้งการกระทำ หรือข่าวลือว่าร้ายต่าง ๆเหตุผลที่คัดมาให้เลือกก็คือยิ่งมีข่าวฉาวมากเท่าไหร่ จะยิ่งได้ผลตอบรับดีแต่ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปไม่ต้องการอย่างนั้น ครั้งก่อน ๆ พวกเขาใช้เพียงอินฟลูเอนเซอร์เป็นตัวช่วยในการโปรโมท แม้ไม่ใช่ดาราคนดังแต่ก็เป็นกระแสมากจนทุกวันนี้ครั้งนี้จอมบดินทร์ทุ่มไปกับมันมาก ไม่ใช่ทุกครั้งที่เขาจะเข้าห้องแล็ปด้วยตัวเองเหมือนครั้งนี้ แต่เพราะมันเป็นดอกไม้ที่มาจากสวนภักดี เขาจึงใส่ใจมันเป็นพิเศษปกติแล้วจะเป็นดอกไม้ทั่วไป แต่ดอกเจอราเนียมเป็นดอกไม้ที่ภีมพัฒน์แนะนำแม่ให้นำมาลองปลูกดู หากได้ผลดีก็อาจจะนำมาให้เขาทดลองทำน้ำหอมอย่างที่ทำอยู่เขาอยากให้ภรรยาภูมิใจที่สามีอย่างเขาสามารถเลี้ยงดูทั้งตัวเองและลูกน้อยได้สบายวันนี้จอมบดินทร์พาสองแม่ลูกมาเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า เจ้าตัวน้อยอยู่ในชุดจั๊มสูทเช่นเ
บทที่ 13 พวกมันหลับกันหมดแล้วลูกชายตัวน้อยเข้าสู่ห้วงนิทราไปนานแล้ว ร่างน้อย ๆ นั่นนอนอยู่บนเบาะนอนสำหรับเด็กที่ท้ายรถ ตอนนี้มันถูกปิดท้ายขึ้นครึ่งหนึ่งเหลือไว้เพียงช่องด้านบนให้อากาศถ่ายเทเด็กชายนอนยิ้มรับฝันหวาน ส่งเสียงอ้อแอ้แผ่วเบาเป็นสัญญาณว่าตนมีความสุขแต่ห่างออกไปไม่กี่เมตรกลับมีเสียงหนึ่งดังแว่วเข้ามา มันทั้งฟังดูเจ็บปวดแต่ก็เปี่ยมไปด้วยสุขจนล้นรถของอัลฟ่ากับกรงสัตว์อยู่ห่างกันเพียงแปดเมตร ซึ่งตรงกลางระหว่างนั้นมีเก้าอี้หินอ่อนอยู่ตัวหนึ่ง มันถูกตั้งไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือคนที่มาเยี่ยมเยียนหยุดพักในตอนนี้มันก็ถูกใช้นั่งพักเช่นกันแต่ไม่ใช่การนั่งพักธรรมดา"อ๊ะ...อ ค...ป๊า" โอเมก้าน้อยส่งเสียงออกมาไม่เป็นคำ ปากเขาไม่ว่างเอ่ยคำใดในตอนนี้ แต่ถ้าหากไม่เอ่ยอะไรเลยเขาคงขาดอากาศหายใจ"อ๊า...ว่าไงคะคนสวย" จอมบดินทร์ก้มลงมองภรรยา นัยน์ตาสีหวานเคลือบไปด้วยน้ำสีใส ดวงตาแดงเรื่อน่าเอ็นดู ริมฝีปากอวบอิ่มนั่นห่อรับเอาตัวตนเขาไว้จนคับแน่นไปหมดเขาชอบปากของภีมพัฒน์เป็นที่สุดทั้งปากบนปากล่างอัลฟ่าถอนแก่นกายออกอย่างจำใจ ปล่อยคุณแม่ลูกอ่อนให้เป็นอิสระจากพันธนาการ อีกฝ่ายสูดลมหายใจเฮือก
บทที่ 12 น้ำตกหลังศูนย์พักพิงเมื่อสองเดือนก่อนได้ข้อสรุปสำหรับน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่สกัดจากดอกเจอราเนียมแล้ว แต่นั่นมันแค่ครึ่งทางเท่านั้น ยังมีเรื่องของตัวบรรจุภัณฑ์ที่จอมบดินทร์ยังตัดสินใจไม่ได้เสียทีว่าจะเอาแบบไหน ชื่อน้ำหอมก็ยังเลือกไม่ได้ จะโปรโมทแบบไหน ทำการตลาดอย่างไร หรือใครจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ก็ยังไม่ได้คำตอบจากท่านประธานเหล่าพนักงานโดยเฉพาะแผนกการตลาดก็นำเสนอรายการต่าง ๆ มาอยู่ตลอด แต่เจ้าจอมก็ปัดตกมันไปทุกครั้งโดยให้เหตุผลว่าดีแล้ว...แต่ยังไม่ดีที่สุดวันไหนที่ภีมพัฒน์ถูกสามีลากให้ตามมาที่บริษัทด้วย ตนก็จะกลายเป็นผู้ตัดสินอีกคนหนึ่ง แต่อำนาจสุงสุดยังคงเป็นของจอมบดินทร์ หากเขาพอใจแต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ เขาก็ขัดอะไรไม่ได้อยู่ดีนึกสงสารพนักงานกลุ่มนั้นอยู่ไม่น้อยที่ถูกสั่งแก้งานไปไม่รู้กี่ร้อยครั้ง แม้ไม่ได้ถูกกล่าวว่าร้ายหรือตะคอกขึ้นเสียงเหมือนที่อื่น ๆ แต่ความกดดันกลับมีอยู่มากทีเดียว แต่ก็เข้าใจสามีที่เป็นประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปว่าทุกอย่างที่เขาทำต้องออกมาดีไร้ที่ติหลายครั้งจอมบดินทร์ไม่ยอมกลับไปพักที่บ้านจนโอเมก้าน้อยต้องโทรตามหลายครั้งที่่นั่งจมกับกองเอกสารจนปวดศีรษะตุบ ยังดี