บทที่ 5 คุณจอมนะคุณจอม
"สงสัยหนูภีมจะเสียงดังเกินไป...ใช่ไหม" อัลฟ่าสามียกยิ้มแกล้งแซวภรรยาตัวน้อยในขณะที่ช่วงล่างยังคงขยับเข้าออกช้า ๆ เพื่อรีดเอาน้ำเชื้อของเขากักเก็บไว้ในรูรัก
"คุณจอม...เอาออกก่อนนะครับ" คนใต้ร่างเอ่ยบอกเจ้าจอมเสียงแหบแห้ง ตอนนี้เขากระหายน้ำมากเหลือเกิน แต่ลูกชายตัวน้อยก็กำลังแผดเสียงร้องจ้า เขาคงต้องรีบไปปลอบขวัญเสียก่อน
ไม่น่าเชื่อคุณจอมเลยเจ้าภีม
อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมโน้มกายมาประกบริมฝีปากภรรยาตัวน้อย ดูดดึงสิ่งนุ่มหยุ่นนั้นอยู่นานเกือบนาทีจนได้ยินเสียงร้องจ้าของลูกชายอีกครั้งจึงตัดใจผละออก
เขาถอนแก่นกายออกจากช่องทางเปียกชื้นของโอเมก้า น้ำสีขาวขุ่นไหลย้อยลงมาตามช่วงขาขาวที่ตั้งชันไว้ ช่างดูสวยงามจนจอมบดินทร์มองมันไม่ละสายตา อยากจะกลืนกินภรรยาซ้ำ ๆ จนช่องทางรักไม่เหลือที่ว่าง
ภีมพัฒน์เม้มปากแน่น พยายามไม่สบสายตากับอัลฟ่าสามี เพราะถึงแม้จะทำกันจนเสร็จสมไปแล้วแต่คนตรงหน้ายังมีดวงตานักล่าแฝงอยู่ คนตัวเล็กใช้ข้อศอกยันกายขึ้นนั่งบนโต๊ะอาหาร ดึงเสื้อยืดที่ถูกร่นขึ้นไปลงมาปิดหัวนมสีชมพูและหน้าท้องที่มีรอยแผลผ่าคลอดของตัวเอง
"คุณจอม ภีมจะไปหาลูกครับ" โอเมก้ากลิ่นคาโมมายล์ขมวดคิ้วใส่สามี เมื่อเจ้าจอมดันตัวเข้ามาใกล้อีกระดับในตอนที่เขากำลังจะลุกออกจากโต๊ะไปหยิบกางเกงมาใส่
"พี่อุ้ม" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเลิกคิ้วให้ภรรยาคนสวยพร้อมกับอ้าแขนออกไว้รอรับโอเมก้าตัวน้อย
"ภีมไปเองดีกว่าครับ คุณจอมก็...ไปใส่เสื้อผ้าเถอะครับ" ภีมพัฒน์เอ่ยเสียงเบาอย่างเหนียมอาย เขาไม่กล้าพูดไปตามตรงหรอกนะว่าทำไมเราทั้งคู่ถึงได้มีสภาพเปลือยเปล่าเช่นนี้
"อย่าดื้อกับพี่นะภีม เธอเดินไม่ไหวหรอก" เจ้าจอมขมวดคิ้วมุ่นเมื่อถูกขัดใจ ตัวก็เล็กแค่นั้นแถมยังเป็นโอเมก้าแม่ลูกอ่อน โดนเขารังแกไปเสียหนักหน่วงจะมีแรงเดินไหวได้อย่างไร
แค่ยามปกติที่เคยทำกันเมื่อปีก่อนยังขาสั่นจนแทบล้ม
เมื่อได้ยินดังนั้นโอเมก้าน้อยก็เม้มปากแน่นอีกครั้ง เป็นจริงดังที่สามีอัลฟ่าบอก ในตอนนี้เขายังนั่งอยู่บนโต๊ะยังรู้สึกได้ถึงอาการสั่นที่ขาเรียว หากดันทุรังฝืนตัวเองยืนคงมีหวังได้ล้มพับให้อับอายอีกเป็นแน่ สุดท้ายจึงต้องยอมพยักหน้าให้สามียื่นแขนมารับร่างที่เปลือยท่อนล่างของเขาออกจากห้องครัวไปแต่โดยดี
เจ้าจอมวางภรรยาโอเมก้าลงบนโซฟาสีเบจกลางห้องนั่งเล่นอย่างแผ่วเบาพลางก้มจูบที่ขมับข้างซ้ายของภีมพัฒน์ด้วยความอ่อนโยน "เดี๋ยวพี่ไปอุ้มลูกมาเอง"
ว่าจบอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมก็สาวเท้าเข้าไปใกล้เปลของลูกชายทั้งกายที่เปลือยเปล่า พาให้คนมองอย่างโอเมก้าแม่ลูกอ่อนเอียงอายแทนเจ้าตัว ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปหยอกล้อกับเจ้าตัวน้อยอยู่สักพักจนเสียงร้องจ้าเงียบไป จึงจัดการอุ้มเอาลูกชายเข้าอกอย่างระวังแล้วเดินกลับมาหาภรรยาโอเมก้าที่รออยู่
"ว่าไงน้องพีช จุ๊ ๆ แบบนี้คือหิวนมเหรอครับ" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมส่งลูกชายในอ้อมแขนให้ภรรยา ภีมพัฒน์ยกนิ้วชี้เกลี่ยจมูกน้อย ๆ ของลูกชายแล้วก้มลงไปฟัดแก้มนุ่มนิ่ม จนลืมไปว่าเจ้าจอมยังยืนเปลือยกายล่อนจ่อนอยู่ด้านหน้าตน
"ภีมไม่ได้ให้ลูกกินนมก่อนนอนเหรอ" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเอ่ยถามภรรยาพลางย้ายตัวเองมานั่งข้างคนตัวเล็กแล้วเอนตัวเข้าหาอีกฝ่ายเล็กน้อยเพื่อเล่นกับลูกชาย
"กินไปนิดเดียวก็หลับคาเต้าเลยครับ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาตื่นของน้องพีชด้วย สงสัยจะกินไม่อิ่ม" โอเมก้าตัวน้อยเอ่ยตอบอัลฟ่าสามีพลางเลิกเสื้อขึ้นเพื่อให้ลูกน้อยกินนมนอน แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปนั่งจ้องอยู่ข้างกายจึงหยุดชะงักไป
"อายทำไม เมื่อกี้พี่เห็นมากกว่านี้อีกหนูภีม" เจ้าจอมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ภรรยาทำเอาโอเมก้ากลิ่นคาโมมายล์หน้าแดงเรื่อเป็นลูกตำลึงสุก
มือหนายกขึ้นเกลี่ยพวงแก้มย้อย ๆ ของลูกชายแล้วช่วยภรรยาขี้อายเลิกเสื้อยืดขึ้นสูงให้ลูกได้กินนมจะได้นอนหลับสนิทเสียที
เขาจะได้รังแกภรรยาต่ออีกสักรอบสองรอบ
อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมวางแขนพาดบนพนักพิงแล้วเอนตัวลงจนแผ่นหลังแนบไปกับโซฟา ดวงตาคู่คมหันมองด้านหลังของภรรยาแล้วยกยิ้มตามลำพัง
หนูภีมเป็นโอเมก้าที่สวย...สวยมาก
เขาปิดเปลือกตาลงแล้วผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอทั้งที่กายยังเปลือยเปล่าและเขาก็ไม่คิดจะลุกไปหยิบเอาเสื้อผ้ามาใส่ โอเมก้าแม่ลูกอ่อนที่กำลังให้นมลูกชายเมื่อหันมาเห็นสามีหลับตาพริ้มจึงเบาใจไปได้เปราะหนึ่ง
คงจะไม่ถูกเคี้ยวกรำอีกครั้งในคืนนี้
ภีมพัฒน์อุ้มลูกชายไว้ในอกแน่นพลางโยกตัวไปมาอยู่สักพักใหญ่กว่าลูกน้อยในอกจะเข้าสู่นิทรา แต่เขากลับรู้สึกว่าคนข้างกายเริ่มขยับตัวอย่างคนอยู่ไม่สุข อีกทั้งฟีโรโมนกลิ่นเหล้ารัมก็เริ่มฟุ้งกระจาย มันมากกว่าชั่วโมงก่อนเสียอีก
โอเมก้าตัวน้อยหันขวับไปมองสามี เจ้าจอมยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิม หากแต่หัวคิ้วขยับมาชนกันแน่น เหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาเป็นเม็ดเล็ก ๆ ตามเรือนร่าง มือหนาทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่นจนขึ้นข้อขาว โอเมก้าน้อยเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเอ่ยเรียกสติสามี "...คุณจอม"
เมื่อได้ยินเสียงหวานของภรรยาเอ่ยเรียก อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมก็ลืมตาขึ้นมองสบกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยตรงหน้า เขาหอบหายใจถี่รัวคล้ายกับคนเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนทั้งที่ตนก็นั่งอยู่เฉย ๆ
"ภีม...หนูภีม" ดวงตาของอัลฟ่าสามีปรือปรอย จ้องมองโอเมก้าตัวน้อยไม่วางตาจนภีมพัฒน์เม้มปากแน่นด้วยความเขินอายอีกทั้งยังคิดหนักเพราะตนกำลังอุ้มลูกน้อยอยู่ในอก
เจ้าจอมขยับเข้าใกล้ภรรยาจนกายชิดกัน แผ่นอกหนาแนบไปกับแผ่นหลังของภีม เขาฝังจมูกสูดดมกลิ่นหอมของคาโมมายล์เข้าปอดอยู่หลายครั้งอย่างคนไม่รู้จักพอ
ท่าทีที่แปลกไปของจอมบดินทร์ทำเอาโอเมก้าแม่ลูกอ่อนอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ถูก เจ้าจอมไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อยนัก แม้เจ้าตัวจะชอบมาวอแวเขาแต่ก็ไม่มีท่าทีแสดงความต้องการออกมาจนหมดเหมือนตอนนี้
คล้ายกับว่าเจ้าจอม...กำลังรัท
"ภีม...ภีมครับ" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเอ่ยเรียกภรรยาตัวน้อยอย่างคนเหม่อลอยไร้สติ เขาฝังจมูกไว้กับซอกคอหอมของภรรยาไว้แบบนั้น พยายามข่มใจเอาไว้เพราะตอนนี้โอเมก้าตัวน้อยกำลังยุ่งอยู่กับการให้นมบุตรชาย
แต่ร่างกายเขามันดันไม่รักดี
แก่นกายใหญ่ของอัลฟ่าที่เคยสงบลงหลังจากปลดปล่อยไปพร้อมกับภีมพัฒน์ผงาดขึ้นอีกครั้ง เส้นเลือดปูดโปนตามลำแสดงให้เห็นว่าเจ้าของมันกำลังอดกลั้นเพียงใด
โอเมก้าตัวน้อยเผลอมองลำรักขนาดใหญ่ของสามีอัลฟ่า แม้จะเคยเห็นมาหลายต่อหลายครั้ง ถูกชำเราด้วยท่อนแข็ง ๆ นั้นมาตั้งเท่าไหร่แต่เขาก็ยังไม่ชินกับขนาดของมันเสียที
เจ้าจอมคำรามในลำคอพลางกำมือแน่น ลำแขนข้างหนึ่งถูกวาดโอบรอบเอวคอดของภรรยาพลางใช้มือหนาบีบขย้ำเนื้อขาวเนียนจนขึ้นเป็นปื้นแดง อีกข้างก็นำมากอบกุมลูกรักไว้จนเต็มลำแล้วชักรูดขึ้นลง
สัญชาตญาณของอัลฟ่ากำลังบอกให้เขาผสมพันธุ์กับโอเมก้าใกล้ตัว
หากไม่ติดว่าภีมให้นมลูกอยู่เขาคงจับอีกฝ่ายกระแทกจนจมโซฟาไปแล้ว
"อ...อ๊า ภีม ที่รัก" ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปครางเครือเรียกหาภรรยาตัวน้อยชิดใบหูของโอเมก้า มือหนาเร่งความเร็วชักรูดจนเส้นเลือดบนท่อนลำปูดโปน
โอเมก้ากลิ่นคาโมมายล์ยกมือบางขึ้นปิดหูลูกชายไม่ให้เจ้าตัวน้อยรับรู้ถึงการกระทำของคนเป็นพ่อ
คุณจอมนะคุณจอม ไม่อายบ้างหรืออย่างไร
ฟีโรโมนกลิ่นเหล้ารัมรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนภีมพัฒน์เริ่มหายใจลำบาก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามกรอบหน้าแต่ยังต้องอดทนเอาไว้
น้องพีชยังไม่หลับ
"ภ...อ๊าา อ๊ะ ภีม...หนู ซี๊ดด ที่รัก" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมครางไม่เป็นศัพท์ อารมณ์อยากเสพสมกับภรรยาโอเมก้ามันพุ่งสูงจนเขาแทบทนไม่ไหว
ยามขยับข้อมือขึ้นลงก็จินตนาการถึงรูรักเปียกชื้นของภีมพัฒน์ว่ามันนุ่มนิ่มและกำลังตอดรัดลำกายเขาแน่นจนแทบขาดขนาดไหน
แค่คิดก็แทบถึงฝั่ง
#โอเมก้าของเจ้าพ่อน้ำหอม
อีจันตายแล้วเจ้าค่ะ กระอักเลือดตายยย
😭😫
TW : chomchan_writer
บทที่ 5 คุณจอมนะคุณจอม (ต่อ)แค่คิดก็แทบถึงฝั่งถ้าได้ช่องทางของภรรยามาช่วยคงจะดีไม่น้อย"หนูภีม อ๊ะ ป๊าอยาก ซี๊ดด อยากXXXหนู" เจ้าจอมเอ่ยออกมาอย่างไม่อายปาก เขาใช้สายตาหื่นกระหายจ้องมองภรรยาตัวน้อยไม่วางตา เมื่อโอเมก้ากลิ่นคาโมมายล์เสมามองด้วยดวงตาราวกับลูกกวางตัวน้อยเขาก็เร่งรัวข้อมือรูดขึ้นลงอย่างไวภีมพัฒน์ทำตัวน่าถูกจับกระแทกนัก"ป๊าอยากได้XXหนูภีม" จอมบดินทร์ยังคงเอ่ยบอกภรรยาด้วยประโยคที่แสดงถึงความต้องการอย่างไม่ปิดบังอารมณ์อยากผสมพันธุ์ตามสัญชาตญาณของอัลฟ่ามันพุ่งสูงเสียเหลือเกิน เขาอยากจับภรรยาตัวน้อยมาชำเราบนโซฟานุ่มตัวนี้จนรุ่งสางห่างหายไปนานก็ต้องทบต้นทบดอกโอเมก้ามองสบดวงตาสีน้ำตาลเข้มของสามี เขาเข้าใจดีว่าอาการรัทของอัลฟ่ามันทรมานมากเพียงใด แต่ในตอนนี้โอเมก้าน้อยกำลังให้นมลูกอยู่ถึงแม้เจ้าตัวน้อยจะหลับไปแล้วแต่ปากยังคงดูดเต้าไม่ปล่อย จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสามีอัลฟ่าข้างกายได้เต็มที่ เขาจึงทำเพียงแค่โน้มใบหน้าเข้าหาเจ้าจอมเล็กน้อยแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาก็ถูกอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมรั้งคอไปประกบจูบดูดดื่มจนแทบหายใจไม่ทัน "ภีม หนูภีม...ซี๊ดด อ๊าา"เมื่อได้จุม
บทที่ 6 จอมบดินทร์กล่อมลูกเจบีดีกรุ๊ปเป็นบริษัทผลิตเครื่องสำอางจำพวกน้ำหอมที่มีสาขาย่อยกระจายอยู่ทุกภูมิภาค รวมแล้วก็ประมาณแปดสาขา จอมบดินทร์ขยายธุรกิจได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะเขาพึ่งพาทุนทรัพย์ของบุพการีแม้จะมีเงินฝากในธนาคารหลายบาทและเขาคิดว่ามันเพียงพอแต่ทั้งพ่อและแม่ก็ยังดื้อรั้นที่จะช่วยเขาจึงเหนื่อยห้ามปรามแต่สาขาย่อยที่กระจายออกไปเป็นการลงทุนของเขาทั้งสิ้น เหตุผลหลักที่เร่งขยับขยายกิจการก็เพราะต้องการกอบโกยในช่วงขาขึ้น วงการธุรกิจมันมีขึ้นมีลงเสมอและผลลัพธ์มักมาโดยไม่บอกกล่าว เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องรีบสร้างฐานตัวเองให้มั่นคงมากที่สุดแปดสาขาที่ว่าเป็นเพียงโกดังเก็บผลิตภัณฑ์เพื่อกระจายตัวน้ำหอมออกสู่ตลาดได้ง่ายและไวขึ้นก็เท่านั้นสำนักงานใหญ่และโรงผลิตยังตั้งอยู่ในเมืองหลวง หากนับรวมเวลาปีนี้ก็เป็นปีที่ห้าที่เจบีดีกรุ๊ปก่อตั้งขึ้น ดูเป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ที่ทำให้จอมบดินทร์ประสบความสำเร็จแต่ในความคิดของเจ้าตัวไม่ได้เป็นแบบนั้นมันออกจะช้าไปเสียหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะเขาริเริ่มมันช้า อีกส่วนคือเขากดดันตัวเองมาตั้งแต่แรกและยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีกเมื่อมีแก้วตาดวงใจ
บทที่ 7 ภีมพัฒน์เคืองสามีเมื่อคืนจอมบดินทร์มีความผิด โทษฐานหอบลูกน้อยหนีภรรยา เช้าวันนี้จึงต้องนั่งอย่างสงบเสงี่ยมรอทานมื้อเช้าฝีมือโอเมก้าน้อย‘ภีมโกรธคุณจอม’ประโยคนั้นทำเขาไม่กล้าขยับแม้เพียงก้าวเดียว ยืนกุมมืออยู่หน้าประตูห้องนอนด้วยผ้าขนหนูที่พันช่วงล่างเอาไว้ ช้อนตามองภรรยารักแต่คนบนเตียงกลับนิ่งเฉย ก้มมองแต่ลูกไม่วางตาจนเจ้าตัวน้อยหลับไปก็ไม่หันมาสนใจเขามิหนำซ้ำยังพลิกกายนอนตะแคงกอดลูกแล้วนอนไปพร้อมกัน เหลือแค่เขาที่ยังยืนเจี๋ยมเจี้ยมไม้กล้าก้าวเท้า แต่สุดท้ายก็ต้องค่อย ๆ ย่องเบาเข้าห้องแต่งตัวแล้วรีบมานอนกอดโอเมก้าน้อยประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ท่อนล่างสวมกางเกงสแลคสีดำ เสื้อสูทถูกเขาวางพาดไว้บนเพนักเก้าอี้แล้วทรุดกายนั่งลงตำแหน่งหัวโต๊ะ ข้างกายมีเด็กชายนั่งเก้าอี้ประจำตัว ใบหน้าอิ่มเอม ยิ้มจนตากลายเป็นสระอิน่าเอ็นดูต่างจากผู้เป็นพ่อที่ได้แต่มองตามทุกการกระทำของโอเมก้าน้อยตาละห้อย“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” เสียงทุ้มของอัลฟ่าเอ่ยถามออกไปอย่างกระตือรือร้น เขาชะเง้อมองซ้ายขวาเผื่อจะช่วยหยิบจับอะไรได้บ้าง“ไม่เป็นไรครับ ภีมทำเองดีกว่า” ภีมพัฒน์กล่าวกับสามีอั
บทที่ 8 โปรเจคน้ำหอมใหม่เจบีดีกรุ๊ปมีตึกสำนักงานใหญ่อยู่ในใจกลางเมืองหลวง มันสูงระฟ้าหลายสิบชั้นเพราะภายในนั้นรวมทุกอย่างที่บริษัทยักษ์ใหญ่ควรจะมี อีกทั้งพื้นที่ขนาดใหญ่ด้านหลังก็เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตและห้องแล็ปทดลองวันนี้บอร์ดบริหารมีการประชุมครั้งใหญ่ในเรื่องของโปรเจคน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ทำมาจากดอกเจอราเนียมหรือดอกปากนกกระเรียน เพราะทางสวนภักดีได้เมล็ดชั้นดีมาจึงลองเพาะพันธุ์แล้วส่งให้กับเจบีดีกรุ๊ปตามสัญญาที่ตกลงกันไว้แน่นอนว่าผู้บริหารอย่างจอมบดินทร์เป็นคนควบคุมทุกกระบวนการเองตั้งแต่นำดอกไม้มาเข้าห้องแล็ปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย มันถูกปรับเปลี่ยนแก้ไขอยู่หลายสิบครั้งเพราะเจ้าจอมต้องการให้น้ำหอมทุกกลิ่นของเจบีดีกรุ๊ปออกมาดีอย่างไม่มีที่ติจนกระทั่งวันนี้ที่นัดประชุมใหญ่เพื่อหาข้อสรุปว่าตัวน้ำหอมในโปรเจคใหม่นี้พร้อมสำหรับการวางขายแล้วหรือไม่อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมนั่งอ่านแฟ้มรายงานการประชุมเมื่อคราวก่อนด้วยใบหน้าเรียบเฉย ปากกาในมือถูกตวัดจดลงบนกระดาษเป็นข้อ ๆ เขาต้องการทบทวนว่าครั้งก่อนได้ข้อสรุปในเรื่องไหนไปแล้วบ้างและเรื่องไหนที่ยังตกลงกันไม่ได้เขายกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาเมื่อเห็นว่าใกล้เว
บทที่ 9 พี่อยาก...ตรงนี้เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจบีดีกรุ๊ปมีการประชุมบอร์ดบริหารครั้งใหญ่เพราะจอมบดินทร์ประธานสูงสุดของบริษัทได้ริเริ่มโปรเจคน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ผ่านการเข้าห้องแล็ปมาไม่ต่ำกว่าสามเดือน แน่นอนว่ามันใกล้จะเข้าที่แล้วจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องนัดประชุมครั้งใหญ่แบบนี้เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่จอมบดินทร์ให้ความสนใจความจริงแล้วโปรเจคนี้ได้ข้อสรุปไปตั้งแต่เดือนก่อนแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อหรือจะดำเนินแผนการตลาดอย่างไร แต่ที่อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมต้องจัดประชุมครั้งนี้อย่างเร่งด่วนก็เพราะเขาเห็นความผิดปกติของรายการบัญชีบางรายการตัวเลขมันไม่ได้กระโดดจนเขาสังเกตเห็นได้ทันที แต่ค่าใช้จ่ายในการออกไปนอกสถานที่มันเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่มีการบันทึกบัญชี จากห้าพันเป็นเจ็ดพัน จนกลายเป็นหลักหมื่นและในตอนนี้มันมากกว่าครึ่งแสนต่อครั้งไปแล้วในหนึ่งเดือนมีการเบิกค่าใช้จ่ายตัวนี้ไปกว่าสิบครั้ง ซึ่งจากที่เขาได้รับรายงานมาจากสรุปมันไม่ถึงสิบครั้ง นั่นแปลว่าเจบีดีกรุ๊ปมีเงินจำนวนหนึ่งที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะมันไม่ได้มีการออกนอกสถานที่จริงเป็นค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่เกิดขึ้นเพราะคนกลุ่มหนึ่งที
บทที่ 10 คาโมมายล์ในสวนทานตะวัน“พี่อยากXXXเธอตรงนี้” อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมกล่าวเสียงแหบพร่าอย่างหน้าไม่อาย ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มมองภรรยาในอ้อมแขนไม่วางตา จ้องลึกเข้าไปปานจะกลืนกินทั้งร่างโอเมก้าน้อยนิ่งอึ้ง ไม่ทันไรก็ถูกสามีแย่งลูกออกไปจากอก น้องพีชถูกพาไปนอนในเปลที่นำมาด้วย เจ้าจอมแกล้งใช้ผ้าห่มปิดตาลูกชายเพียงสามสี่ครั้งก็เข้าสู่ห้วงนิทราได้โดยง่ายเป็นใจให้ผู้เป็นพ่อรังแกแม่โดยแท้ภีมพัฒน์ไม่ได้ขยับกายหนีไปไหน เขายังคงมองตามการกระทำของสามี ค่อนขอดคนอายุมากกว่าในใจว่าทำไมถึงได้ดูเลี้ยงลูกง่ายนัก กว่าเขาจะพาน้องพีชนอนได้แต่ละทีเล่นเอาเหนื่อยหอบ บางครั้งก็จนปัญญาจะหลอกล้อ แต่พอเป็นจอมบดินทร์กลับหลับง่ายเสียนี่ เจ้าลูกคนนี้ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปสาวเท้ามายืนตรงหน้าภรรยาตัวน้อย เขาย่อตัวลงชันเข่าข้างหนึ่งแล้วใช้มือหนาเชยคางให้ใบหน้าสวยเดขึ้นมองตน“ลูกหลับแล้ว” เจ้าจอมกล่าวเพียงแค่นั้นแล้วกดจูบบนริมฝีปากบางก่อนจะยืดกายลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ร่างหนาของอัลฟ่าเดินไปนั่งบนดินชื้นแฉะที่ถูกล้อมรอบด้วยดอกทานตะวันหลายสิบต้น ไม่ได้นึกว่ามันจะเลอะหรือเปื้อนเสื้อผ้าที่ใส่มาสักนิดเส้นผมสีควันบุหรี่ถู
บทที่ 10 คาโมมายล์ในสวนทานตะวัน (ต่อ)"เอาอะไร" อัลฟ่าสามีแกล้งถามเสียงเรียบ รู้อยู่แก่ใจดีว่าภรรยาตัวน้อยต้องการอะไรแต่ก็ยังทำมึนไม่รู้ร้อนรู้หนาวทั้ง ๆ ที่ก็เห็นอยู่เต็มตาภีมพัฒน์กำลังเขินอายอย่างมาก เพราะตอนนี้เขากำลังนั่งทับใบหน้าของสามีอยู่กลางสวนทานตะวันด้วยสภาพที่เปิดเปลือยทั้งตัวอายจนอยากจะหยุดทุกสิ่งอย่าง แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นที่จอมบดินทร์พาออกมาเปิดหูเปิดตาที่นี่ประสบการณ์ร่วมรักนอกสถานที่พวกเขาไม่ได้มีมันบ่อย ๆ โอเมก้าน้อยตื่นเต้นทุกครั้งแต่ก็ไม่เคยเอ่ยห้าม มิหนำซ้ำยังกระทำการยั่วยวนสามีตาใสซื่อ แกล้งเป็นลูกแกะที่สั่นกลัวแต่ก้อนเนื้อด้านในกลับเต้นตึกตักกู่ร้องตะโกนว่าทั้งตื่นเต้นทั้งต้องการรวมถึงครั้งนี้ด้วยเจ้าคาโมมายล์น้อยเม้มปากแน่น พวงแก้มขึ้นสีแดงเรื่อยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมีหยดน้ำเอ่อคลอทั้งน่าเอ็นดูและน่าแกล้งให้ร้องยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเล็กน้อย "เอาXXXป๊า"อัลฟ่าสามีได้ยินเสียงหวานของภรรยาเอ่ยร้องขอก็ยกยิ้มกริ่ม มันเขี้ยวโอเมก้าน้อยจนต้องฟาดมือลงบนก้นนุ่มไปสักทีสองทีพร้อมกับบีบขยำมันส์มือภีมพัฒน์สะดุ้งทั้งร่าง ฝ่ามือน้อย ๆ จิกกำเส้นผมข
บทที่ 10 คาโมมายล์ในสวนทานตะวัน (ต่อ)"ตาพี่แล้วคนดี" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมยกยิ้มให้ภรรยา เคลื่อนฝ่ามือหนาขึ้นมากอบกุมเนินเนื้อ บีบขยำสนุกมือแต่เจ้าของมันกลับดิ้นพล่านเพราะถูกกระตุ้นอารมณ์"อ๊ะ...ค ป๊า" โอเมก้าน้อยครางเสียงหลงเมื่อถูกสัมผัสจุดอ่อนไหว ตุ่มไตด้านหน้าถูกสามีรังแกจนตัวกระตุกภีมพัฒน์เหยียดตัวตรงแอ่นหน้าอกจนแผ่นหลังโค้งเป็นคันศร เขาใกล้ถึงสวรรค์อีกครั้ง นิ้วเรียวยาวของเจ้าจอมสะกิดเม็ดทับทิมจนมันบวมแดง บางทีก็ใช้ปลายนิ้วหนีบจนมันยืดติดมือจอมบดินทร์เล่นกับร่างกายของภรรยาโอเมก้าอย่างไม่หยุดหย่อน แม้อีกฝ่ายจะร้องครางจนเสียงหลงก็ไม่หยุดรังแก"จะเสร็จหรือหนูภีม" ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปถามคนด้านบนพร้อมรอยยิ้มกริ่ม เห็นและรู้คำตอบดีแต่อยากแกล้งหยอกภรรยาก็เท่านั้น"ป...ป๊า อ๊ะ จ๋า..." คุณแม่โอเมก้าใกล้จะทนไม่ไหวเต็มที ตัวกระตุกจนน่าสงสารแต่ยังไม่เสร็จสมทั้ง ๆ ที่เสียวกระสันจนตัวอ่อนตัวงอเขาต้องการถึงเพราะสามีไม่ใช่เพราะนิ้วของสามี"ขาหนูภีม..." เจ้าจอมยังคงสนุกสนานกับการแกล้งภรรยา แต่เมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำกับอาการตัวกระตุกหงึกของอีกฝ่ายก็สงสารจนต้องล้มเลิกความคิดที่อยากจะแกล้งต่ออัล
บทที่ 20 พี่รัท เธอฮีท...เราควรทำอย่างไรดี"อ๊า! อ๊ะ อ๊ะ...ป๊า อ๊ะ!" เสียงกระเส่าของโอเมก้าแทบดังลั่นภูเขาลูกหนึ่ง สาเหตุก็มีเพียงอย่างเดียวคือถูกจอมบดินทร์รังแกจนตัวลอยตาลอย แม้จะอยากเม้มปากกลั้นเสียงก็ไม่สามารถทำได้ตามใจหวังท่อนลำใหญ่กระแทกกระทั้นปรนเปรอช่องทางเปียกชื้นจนมันบวมเป่งแต่อัลฟ่ากลับยังไม่พอใจ หยัดสะโพกตอกใส่ภรรยาจนหัวสั่นหัวคลอน ริมฝีปากอ้าออกหอบเอาอากาศทุกวินาที บางจังหวะก็ส่งเสียงร้องคล้ายกับจะขาดใจ"อ๊าา เสียวxxxชิบ อีกนิดค่ะคนสวย" อัลฟ่าสามีเอ่ยลอดไรฟัน ท่อนแขนอุ้มกระเตงภรรยาไว้ในอ้อมแขนแล้วกระแทกสะโพกส่งตัวตนเข้าไปด้านในตัวภีมพัฒน์หนักหน่วงจอมบดินทร์ตั้งใจว่าจะพาภรรยาไปพลอดรักเร่าร้อนที่ด้านหลังรถ แต่เพราะเจ้าดอกไม้เอ่ยห้ามไว้ กลัวว่าน้องพีชที่หลับอยู่จะรับรู้ถึงแรงสะเทือนและกลิ่นฟีโรโมนเข้มข้นของพวกเขาเขาไม่มีทางเลือกยอมตามใจภรรยาไม่เข้าไปด้านในรถแต่อารมณ์ที่พุ่งสูงก็ไม่สามารถกล่อมให้เบาลงได้ นอกเสียจากจะได้ปลดปล่อยกับคนรัก"อ๊ะ! ฮ...อ๊า ป...อ๊ะ" เรียวแขนทั้งสองข้างตวัดโอบรอบคอสามีไว้แน่น นิ้วทั้งสิบก็จิกลงเนื้อหนังของเจ้าของอ้อมกอดจนห้อเลือด แม้จะกลัวอีกฝ่ายเจ
บทที่ 19 คืนนี้...เขาลูกนี้เป็นของเรา“ค...คุณจอม” เสียงหวานกระเส่าของโอเมก้าน้อยเรียกให้ผู้เป็นสามีละจากลำคอขาวขึ้นมามองสบกันเจ้าจอมยกยิ้มมุมปาก มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นมาจับคางมนให้เชิดขึ้นมองตนก่อนจะเอ่ยเสียงกระซิบ “เรียกใหม่ค่ะ หนูต้องผัวว่าอะไร”“ป๊า...อื้อ” ยังไม่ทันเอ่ยได้จนจบประโยค อิสระก็ถูกพรากไปด้วยรสจูบดุดันจากสามี มันทำให้แขนขาเขาอ่อนเปลี้ยหาที่จับยึดไม่ได้เลยทีเดียว“เชื่อฟังดีมากหนูภีม”เจ้าดอกไม้นอนแผ่หลาอยู่บนกระโปรงรถหลังถูกสามีรั้งตัวมากอดแนบชิดแล้วพรมจูบไล่ไปทั้งตัวโอเมก้าน้อยอยู่ในอ้อมกอดของจอมบดินทร์ในท่าลิงอุ้มแตง เขาจึงคิดว่าสามีจะพาไปด้านหลังตัวรถแต่กลับไม่ใช่เป็นกระโปรงด้านหน้ารถแทนเธอยั่วพี่เองภีมพัฒน์...ไม่น่าเลย“ป...ป๊า มันโล่งไป” เสียงหวานเอ่ยบอกเจ้าจอมอย่างประหม่า ดวงตาคู่สวยหันซ้ายหันขวาอย่างระแวดระวัง“ภีมกลัวมีคนมาเห็น”แม้คำพูดและท่าทางจะแสดงออกว่าตื่นกลัว แต่ก้อนเนื้อในอกกลับตรงกันข้ามตื่นเต้น...ใช้เป็นคำนิยามได้ดีทีเดียวประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปยกยิ้มอย่างเอ็นดูภรรยา แต่สายตาของผู้ล่าและฝ่ามือหนาที่ขย้ำเอวคอดอยู่กลับเตรียมพร้อมตะครุบเหยื่อในทันที “
บทที่ 18 เธอยั่วพี่เองเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงหลังออกจากปั๊มน้ำมันก็มาถึงสถานที่สำหรับพักผ่อนของพวกเขาในสัปดาห์นี้ มันเป็นพื้นพี่ราบบนภูเขาลูกหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ จอมบดินทร์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ดูแลไว้แล้ว เมื่อมาถึงก็สามารถขับรถเข้ามาจอดได้เลยอัลฟ่าร่างสูงอยู่ในชุดลำลองที่ไม่บางมากนัก เสื้อยืดสีครีมและกางเกงคาร์โก้สีเดียวกันถูกเขาหยิบมาใส่เมื่อเช้าก่อนออกเดินทาง แม้ไม่ได้ทำอะไรหนักหน่วงจนเหงื่อโทรมกายแต่ในตอนนี้เขาอยากอาบน้ำเป็นอย่างแรก เผื่อว่าสายน้ำเย็น ๆ จะช่วยให้อารมณ์ร้อนรุ่มภายในใจเขาทุเลาลงไปบ้างแค่นิดเดียวก็ยังดีเจ้าจอมยืนเอนกายพิงกระโปรงรถอยู่ด้านนอก ท่อนแขนทั้งสองข้างประสานกันไว้กลางอก ลมหายใจสูดเข้าออกลึกเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในเมื่อชั่วโมงก่อนเขาเกือบพาลูกเมียพบเจอกับอุบัติเหตุเพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ฝ่าเท้าเหยียบเบรคมิดจนโอเมก้าข้างกายหัวขมำ โชคดีที่เส้นทางนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นภีมพัฒน์ถูกสามีเอ่ยห้ามไม่ให้ตามออกไปด้านนอกแม้จะถึงที่หมายแล้ว อีกฝ่ายอ้างว่าเพราะลูกชายยังไม่ตื่นจึงให้เขาอยู่เป็นเพื่อนน้องพีชก่อน ส่วนตัวเองจะออกไปส
บทที่ 17 คุณจอม...เป็นอะไร"คุณจอมครับ..." โอเมก้าน้อยเอ่ยเรียกสามีเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยฉายแววความกังวลอยู่มาก ท่าทีที่แสดงออกก็เช่นกัน ฝ่ามือบางกำเข้าหากันด้วยความประหม่า ในหัวคงคิดหลายเรื่องราวจนพันกันยุ่งเหยิง คิ้วทั้งสองข้างจึงชนเข้าหากันอัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมยกยิ้ม ภีมพัฒน์ในตอนนี้เหมือนลูกกระต่ายขี้กลัวแม้เขาจะไม่รู้ว่าเรื่องที่อีกฝ่ายกลัวคืออะไร แต่ไม่ได้กลัวเขาแน่นอนวันนี้เขายังไม่ได้แกล้งเจ้าดอกไม้เลยสักนิดเดียว หน้าที่สามีและพ่อก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย"หื้ม ว่าไงคะ" จอมบดินทร์มองภรรยาด้วยความรัก ระบายยิ้มอ่อนโยนให้คนตรงหน้าพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสาร ท่อนแขนหนายกขึ้นมาตั้งไว้บนโต๊ะ ศีรษะจึงเอียงลงแนบกับฝ่ามือ นัยน์ตาคมก็จับจ้องภีมพัฒน์ไม่ละสายตาโอเมก้าน้อยหลุบตาลงต่ำ สองเท้าสาวเข้าใกล้สามีจนกระทั่งมายืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองพวกเขายังอยู่ในห้องทำงานของประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ป จอมบดินทร์นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานในขณะที่มีภรรยาตัวน้อยยืนกุมมืออยู่ตรงหน้า ส่วนลูกชายถูกอเล็กซ์ขโมยไปตั้งแต่ช่วงเที่ยง จนป่านนี้ก็ยังไม่พาหลานมาคืน ไม่รู้ว่าไปเล่นซนกันถึงไหนแล้วเ
บทที่ 16 เมียผมไม่เคยน้อยหน้าใคร"เงียบปากเดี๋ยวนี้คุณดรีม""กล้าพูดกับฉันแบบนี้หรือ"ประธานแห่งเจดีบีกรุ๊ปได้ยินคล้ายคนมีปากเสียงกันหลังจากรีบวิ่งตามอเล็กซ์เพื่อนตัวดี อาจจะหนึ่งหรือสองคนหรือมากกว่านั้น มีหลายประโยคที่เขาฟังไม่ถนัดแต่ที่แน่ชัดคือทุกคนกำลังโจมตีคน ๆ เดียวกันเพื่อนอัลฟ่ากระหืดกระหอบขึ้นไปเรียกเขาถึงในห้องทำงาน อีกทั้งยังรีบเร่งเสียจนนึกรำคาญ แต่พอได้ยินว่าเรืองที่เกิดขึ้นมีชื่อของภีมพัฒน์เข้าไปเกี่ยวข้องก็รีบจ้ำอ้าวจนแทบกลายเป็นวิ่งในทันทีประตูห้องสตูดิโอที่ชั้นล่างสุดของตึกเปิดอยู่ มีพนักงานใส่เสื้อสีดำระบุคำว่า staff ยืนจับกลุ่มกันสองถึงสามคน เมื่อได้กลิ่นฟีโรโมนที่จำได้ว่าเจ้าของมันเป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่ก็รีบพากันหลีกให้พ้นทาง"คุณสูงส่งมาจากไหนถึงได้หยาบคายกับคุณภีมแบบนั้น""แล้วคุณภีมอะไรนั่นมันสูงกว่าฉันตรงไหน ทำไมจะพูดถึงไม่ได้"ประโยคแรกเป็นเสียงผู้หญิงคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัท ฟังจากน้ำเสียงคงจะโมโหอยู่มากแต่ยังไว้หน้าไม่หยาบคายใส่คู่สนทนาแต่ประโยคถัดมาเขาไม่คุ้นหูเลยสักนิด"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ให้เกียรติคุณภีมด้วย""เป็นถึงเมียประธ
บทที่ 15 ขอโทษที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้"ภีม...วันนี้หนูเป็นอะไรคะ บอกพี่หน่อยคนดี" อัลฟ่ากลิ่นเหล้ารัมเอ่ยถามภรรยาตัวน้อยหลังจากเร่งเดินตามอีกฝ่ายภีมพัฒน์เดินดิ่งจากสตูดิโอชั้นล่างขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นผู้บริหารซึ่งเป็นชั้นทำงานประจำของเขา เจ้าจอมเกือบตามภรรยาทันตั้งแต่เมื่อครู่แล้วแต่คนอายุน้อยก็ไวเหลือเกิน รีบปิดประตูลิฟต์จนเขาต้องชักเท้าชักมือออกเกือบไม่ทันกว่าลิฟต์จะว่างก็ตอนที่เขาวิ่งขึ้นไปห้าจากยี่สิบชั้น รู้ว่ามันคงเหนื่อยเพราะตนก็ใกล้เข้าเลขสี่เต็มที ไม่ได้หนุ่มแน่นวิ่งได้หลายชั่วโมงติดกันเหมือนแต่ก่อนแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะหอบแฮกขนาดนี้"ภีมเปล่าครับ""เธอเป็น"คุณแม่ลูกอ่อนยังคงเบี่ยงหน้าไม่ยอมสบสายตากับสามี มิหนำซ้ำยังกระถดกายถอยหลังตอนที่จอมบดินทร์ขยับเข้าใกล้ ทำอัลฟ่าใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม หัวคิ้วพันกันมุ่นเพราะคิดไม่ตกว่าเมื่อเช้านี้เขาทำอะไรพลาดไป"คนดี...พี่ทำอะไรผิดหรือเปล่า เธอบอกพี่สิ เธอเงียบแบบนี้พี่เดาใจเธอไม่ถูก" เจ้าจอมยังคงพูดหว่านล้อมภรรยาแต่ก็ไม่ได้ผลเช่นเคย"เธอไม่ถูกใจที่พี่ทำตรงไหนหรือเปล่า""ไม่มีครับ""น้องพีช ช่วยคุณพ่อหน่อยสิครับ"เมื่อคุยกับภรรยาไม่ได้ผลก็เปลี่ย
บทที่ 14 เธอเป็นอะไรใกล้เวลาที่เจบีดีกรุ๊ปจะเฉิดฉายอีกครั้งหลังห่างหายจากวงการไปเกือบปีแต่ความนิยมกลับไม่ได้ลดน้อยลงจอมบดินทร์ใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนกว่าจะเลือกพรีเซนเตอร์ของคอลเลคชั่นนี้ได้ มีหลายสิบรายชื่อที่ฝ่ายการตลาดเสนอมาให้ แต่ทุกคนล้วนมีประวติไม่ดี ทั้งภูมิหลัง ทั้งการกระทำ หรือข่าวลือว่าร้ายต่าง ๆเหตุผลที่คัดมาให้เลือกก็คือยิ่งมีข่าวฉาวมากเท่าไหร่ จะยิ่งได้ผลตอบรับดีแต่ประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปไม่ต้องการอย่างนั้น ครั้งก่อน ๆ พวกเขาใช้เพียงอินฟลูเอนเซอร์เป็นตัวช่วยในการโปรโมท แม้ไม่ใช่ดาราคนดังแต่ก็เป็นกระแสมากจนทุกวันนี้ครั้งนี้จอมบดินทร์ทุ่มไปกับมันมาก ไม่ใช่ทุกครั้งที่เขาจะเข้าห้องแล็ปด้วยตัวเองเหมือนครั้งนี้ แต่เพราะมันเป็นดอกไม้ที่มาจากสวนภักดี เขาจึงใส่ใจมันเป็นพิเศษปกติแล้วจะเป็นดอกไม้ทั่วไป แต่ดอกเจอราเนียมเป็นดอกไม้ที่ภีมพัฒน์แนะนำแม่ให้นำมาลองปลูกดู หากได้ผลดีก็อาจจะนำมาให้เขาทดลองทำน้ำหอมอย่างที่ทำอยู่เขาอยากให้ภรรยาภูมิใจที่สามีอย่างเขาสามารถเลี้ยงดูทั้งตัวเองและลูกน้อยได้สบายวันนี้จอมบดินทร์พาสองแม่ลูกมาเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า เจ้าตัวน้อยอยู่ในชุดจั๊มสูทเช่นเ
บทที่ 13 พวกมันหลับกันหมดแล้วลูกชายตัวน้อยเข้าสู่ห้วงนิทราไปนานแล้ว ร่างน้อย ๆ นั่นนอนอยู่บนเบาะนอนสำหรับเด็กที่ท้ายรถ ตอนนี้มันถูกปิดท้ายขึ้นครึ่งหนึ่งเหลือไว้เพียงช่องด้านบนให้อากาศถ่ายเทเด็กชายนอนยิ้มรับฝันหวาน ส่งเสียงอ้อแอ้แผ่วเบาเป็นสัญญาณว่าตนมีความสุขแต่ห่างออกไปไม่กี่เมตรกลับมีเสียงหนึ่งดังแว่วเข้ามา มันทั้งฟังดูเจ็บปวดแต่ก็เปี่ยมไปด้วยสุขจนล้นรถของอัลฟ่ากับกรงสัตว์อยู่ห่างกันเพียงแปดเมตร ซึ่งตรงกลางระหว่างนั้นมีเก้าอี้หินอ่อนอยู่ตัวหนึ่ง มันถูกตั้งไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือคนที่มาเยี่ยมเยียนหยุดพักในตอนนี้มันก็ถูกใช้นั่งพักเช่นกันแต่ไม่ใช่การนั่งพักธรรมดา"อ๊ะ...อ ค...ป๊า" โอเมก้าน้อยส่งเสียงออกมาไม่เป็นคำ ปากเขาไม่ว่างเอ่ยคำใดในตอนนี้ แต่ถ้าหากไม่เอ่ยอะไรเลยเขาคงขาดอากาศหายใจ"อ๊า...ว่าไงคะคนสวย" จอมบดินทร์ก้มลงมองภรรยา นัยน์ตาสีหวานเคลือบไปด้วยน้ำสีใส ดวงตาแดงเรื่อน่าเอ็นดู ริมฝีปากอวบอิ่มนั่นห่อรับเอาตัวตนเขาไว้จนคับแน่นไปหมดเขาชอบปากของภีมพัฒน์เป็นที่สุดทั้งปากบนปากล่างอัลฟ่าถอนแก่นกายออกอย่างจำใจ ปล่อยคุณแม่ลูกอ่อนให้เป็นอิสระจากพันธนาการ อีกฝ่ายสูดลมหายใจเฮือก
บทที่ 12 น้ำตกหลังศูนย์พักพิงเมื่อสองเดือนก่อนได้ข้อสรุปสำหรับน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่สกัดจากดอกเจอราเนียมแล้ว แต่นั่นมันแค่ครึ่งทางเท่านั้น ยังมีเรื่องของตัวบรรจุภัณฑ์ที่จอมบดินทร์ยังตัดสินใจไม่ได้เสียทีว่าจะเอาแบบไหน ชื่อน้ำหอมก็ยังเลือกไม่ได้ จะโปรโมทแบบไหน ทำการตลาดอย่างไร หรือใครจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ก็ยังไม่ได้คำตอบจากท่านประธานเหล่าพนักงานโดยเฉพาะแผนกการตลาดก็นำเสนอรายการต่าง ๆ มาอยู่ตลอด แต่เจ้าจอมก็ปัดตกมันไปทุกครั้งโดยให้เหตุผลว่าดีแล้ว...แต่ยังไม่ดีที่สุดวันไหนที่ภีมพัฒน์ถูกสามีลากให้ตามมาที่บริษัทด้วย ตนก็จะกลายเป็นผู้ตัดสินอีกคนหนึ่ง แต่อำนาจสุงสุดยังคงเป็นของจอมบดินทร์ หากเขาพอใจแต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ เขาก็ขัดอะไรไม่ได้อยู่ดีนึกสงสารพนักงานกลุ่มนั้นอยู่ไม่น้อยที่ถูกสั่งแก้งานไปไม่รู้กี่ร้อยครั้ง แม้ไม่ได้ถูกกล่าวว่าร้ายหรือตะคอกขึ้นเสียงเหมือนที่อื่น ๆ แต่ความกดดันกลับมีอยู่มากทีเดียว แต่ก็เข้าใจสามีที่เป็นประธานแห่งเจบีดีกรุ๊ปว่าทุกอย่างที่เขาทำต้องออกมาดีไร้ที่ติหลายครั้งจอมบดินทร์ไม่ยอมกลับไปพักที่บ้านจนโอเมก้าน้อยต้องโทรตามหลายครั้งที่่นั่งจมกับกองเอกสารจนปวดศีรษะตุบ ยังดี