KT Pub
20:00 น.
ประธานหนุ่มมาถึงสถานบันเทิงที่นัดหมายกับเพื่อนไว้ก็ตรงไปหาเพื่อนๆที่ชั้นสองของผับซึ่งเป็นโซนสำหรับลูกค้าVIPเท่านั้นโดยปกติแล้วเวลาที่พวกเขามาสังสรรค์กันพวกเขาก็มักจะไปนั่งดื่มกันชั้นสอง
ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเมื่อมาถึงห้องที่มีเพื่อนของเขาอยู่ประธานหนุ่มจึงเปิดประตูเข้าไปโดยภายในห้องไม่มีผู้หญิงหรือใครอื่นนอกจากพวกเขา เพราะเพื่อนเขาทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ก็จะเหลือเพียงแค่ประธานหนุ่มที่ยังไม่มีคู่กับเขาสักที เพราะความบ้างานของตัวเองทำแต่งานไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัว ถึงแม้จุดที่พวกเข้านั่งอยู่จะเป็นห้องVIPมีความเป็นส่วนตัว แต่ในจุดที่พวกเขานั่งดื่มนั้นสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งผับเพราะด้านข้างเป็นกระจกที่จะมีแค่คนที่นั่งอยู่ในห้องเท่านั่นจะมองเห็นแต่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ข้างในห้องได้ได้ ในขณะที่ประธานหนุ่มกำลังดื่มฉลองให้กับลูกคนที่สามของเพื่อนอยู่นั่นสายตาของเขาก็มาไปรอบๆทำให้สายตาของเขาไปสะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในร้านหน้าตาน่ารัก หุ่นไม่ผอมและไม่อ้วนจนเกินไปอวบๆดูมีน้ำมีนวล กำลังมองหาอะไรสักอย่าง แต่เมื่อผ่านไปสักพักก็เหมือนว่าเธอเจอสิ่งที่ตามหาก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆออกมา แล้วหญิงสาวคนนั้นก็เดินไปที่เป้าหมายของเธอทันที
แต่เธอนั้นจะรู้ไหมว่ารอยยิ้มที่เธอยิ้มออกมาเพียงเบาบางนั้นทำให้ใจแกร่งด้านชาของประธานหนุ่มที่ไม่เคยรู้สึกอะไรกับการแค่เห็นรอยยิ้มบางๆของผู้หญิงกลับเต้นไม่เป็นจังหวะและยิ้มตามเธอได้ไม่ยากโดยที่ตัวเข้าก็ไม่รู้สึกตัวเช่นกัน จนเพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันจับสังเกตได้ถึงความแปลกไปของประธานหนุ่ม
“ไอ้วีร์ มึงมองอะไรว่ะ” เพื่อนของประธานหนุ่มเอ่ยถามเพื่อนของตนที่กำลังมองกระจกและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว
“เปล่าไม่มีอะไร” ประธานหนุ่มตอบกลับเพื่อนเสียงเรียบเพื่อกลบเกลื่อนอาการของตัวเองเพราะตั้งแต่เขาได้เห็นหญิงสาวใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะ ตอนแรกเขาคิดว่าเพราะตัวเองดื่มจึงทำให้หัวใจของตนเต้นเร็วกว่าปกติ แต่พอประธานหนุ่มคิดหาสาเหตุของการเต้นของหัวใจกลับไม่ใช่เพราะเครื่องดื่มแต่เป็นเพราะหญิงสาวที่ตนกำลังจับจองอยู่นานสองนานต่างหาก
“เปล่าเหี้ยไรมึง พวกกูเห็นนะว่ามึงมองน้องคนนั้นอยู่” เพื่อนของประธานหนุ่มเอ่ยแซวอีกครั้ง
“เสือก!!” ประธานหนุ่มสบถใส่เพื่อนทีเล่นทีจริง ก็ในเมื่อเห็นแล้วจะถามทำไม
“วู้ๆๆๆ ไอ้วีร์จะมีเมียแล้ว โว้ยยย” เมื่อเห็นเพื่อนหลุดมาดท่านประธานเพื่อนๆก็ต่างแซวประธานหนุ่มกันยกใหญ่เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาพวกเขาไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้มีอาการแบบนี้เลยสักครั้ง นอกจากทำหน้านิ่งไปวันๆ
22:30 น.
ประธานหนุ่มนั่งดื่มกับเพื่อนจนเวลาล่วงถึงสี่ทุ่มครึ่งแต่ทว่าสายตาของประธานหนุ่มก็ไม่ได้ละไปจากหญิงสาวที่หมายปองไว้แม้แต่วินาทีเดียวยังเอาแต่จดจ้องเธอ และการที่ประธานหนุ่มมองไปที่หญิงสาวโดยไม่ละสายตาตลอดเวลาก็ทำให้ประธานหนุ่มเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวทั้งหมดรวมถึงการกระทำของชายหนุ่มเพียงคนเดียวของโต๊ะทั้งหมด และมันก็ทำให้เขารู้ว่าชายหนุ่มนั้นก็สนใจหญิงสาวเช่นเดียวกับเขา แต่สายตาที่ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะใช้มองเด็กน้อยของเขากลับทำให้เขารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้กำลังมีแผนอะไรอยู่ในใจซึ่งคิดว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน เขาเป็นผู้ชายด้วยกันทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าชายหนุ่มคนนั้นต้องการอะไรจากตัวเด็กน้อยของเขาในขณะที่ประธานหนุ่มเอาแต่จับจ้องหญิงสาวของเขานั้นก็ไม่วายที่จะโดยเพื่อนแซวอยู่เป็นระยะเพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันไม่เคยเห็นเพื่อนของเขาคนนี้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยนับว่านี้คือผู้หญิงคนแรกเลยก็ว่าได้ที่ได้รับความสนใจจากเพื่อนของพวกเขาก่อน
ประธานหนุ่มนั่งมองท่าทีของหญิงและเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวก็ทำให้เขาอดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้เพราะอาการที่หญิงสาวนั้นแสดงออกมาทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอนั้นโดนวางยาเข้าให้แล้วเมื่อเห็นอาการของหญิงสาวดูไม่สู้ดีนักจึงรีบลุกเดินตามเธอออกไปทางเดียวกับที่เธอเดินไปนั้นก็คือห้องน้ำ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับหญิงสาว แต่ก่อนที่เขาจะได้ถึงตัวเธอเขาเห็นชายหนุ่มเดินตามหลังหญิงสาวมาเช่นกันแต่ไวกว่าความคิดประธานหนุ่มรีบสาวเท้าก้าวยาวๆ เพื่อที่จะไปถึงหญิงสาวก่อนที่ชายหนุ่มที่เดินตามหลังหญิงสาวมา และเมื่อเขาเข้าประชิดตัวหญิงสาวประธานหนุ่มก็ดันหญิงสาวเข้าไปในห้องน้ำทันทีเพราะดูจากอาการแล้วฤทธิ์ของยาที่โดนไปน่าจะแรงพอสมควรเพราะตอนนี้หญิงสาวนั้นมีเม็ดเหงื่อผุดออกมาจากกรอบหน้าของเธอจำนวนมาก อกอวบของเธอกระเพื่อมขึ้นลงตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างรุนแรง ส่วนพีทชายหนุ่มที่เดินตามหลังหญิงสาวมาก็รู้สึกหงุดหงิดแล้วเสียดายมากที่มีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาตัดหน้าเขาไปเพราะเพียงอีกไม่กี่อึดใจเขาก็จะได้ตัวเธอมาอยู่ใต้ร่างเขาแล้ว
“อื้อๆ ร้อนๆไหวแล้ว อ๊าส์ๆ” หญิงสาวครางกระเส่าออกมามือเล็กก็ปัดป่ายไปทั่วร่างกายของประธานหนุ่ม
“นี่ คุณใจเย็นก่อนนะ ล้างหน้าก่อนจะได้ดีขึ้น” ประธานหนุ่มพยายามหาวิธีช่วยหญิงสาว ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็รู้ว่ามันไม่ได้ช่วยให้หายจากฤทธิ์ของยา
“คะ คุณ อ๊า ช่วยฉันที อื้อ ” หญิงสาวบอกความต้องการเพราะตอนนี้เธอแทบจะทนไม่ไหวอีกแล้ว มือของหญิงสาวยังคงพยายามลูบไล้ไปตามร่างกายของประธานหนุ่มเพื่อที่จะให้เขาตอบสนองความต้องการของตัวเอง
“คุณอย่าลูบแบบนั้นถ้าผมทนไม่ไหวคุณจะเจ็บตะ อุ๊บบบ” ยังไม่ทันที่ประธานหนุ่มจะพูดจบประโยคหญิงสาวที่รู้สึกรำคาญก็ประกบปากอวบอิ่มกับริมฝีปากหนาของประธานหนุ่มเพื่อให้เขาหยุดพูดหญิงสาวจูบเงอะงะตามภาษาของเธอแต่ก็สร้างความประทับใจให้ประธานหนุ่มไม่น้อยเพราะนั่นทำให้เขารู้ว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นไม่เคยจูบใครมาก่อน
แต่ก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้ประธานหนุ่มก็ดันร่างหญิงสาวออกเล็กน้อยแล้วอุ้มขึ้นท่าเจ้าสาวเพื่อพาเธอออกจากห้องน้ำเพราะหากต้องทำจริงเขาไม่อยากทำในที่แบบนี้เพราะมันอาจจะทำให้เธอดูไม่ดีและเป็นการไม่ให้เกียรติเธอ หลังจากประธานหนุ่มอุ้มหญิงสาวขึ้นแนบอกแล้วเขาก็สาวเท้าเดินตรงออกไปทางด้านหลังร้านทันที เพื่อที่ให้ถึงรถให้เร็วที่สุดเพราะตอนนี้อาการของหญิงสาวไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะมือของเธอลูบไล้ไปตามตัวของเขาและพยายามจะปลดอาภรของตัวเอง เมื่อมาถึงรถเขาก็ยัดตัวหญิงสาวแล้วปลดล็อกรถแล้วรีบวิ่งมาฝั่งคนขับ แต่เมื่อเข้ามานั่งในรถเขาก็ต้องตกใจเพราะหญิงสาวนั้นกำลังจะถอดเสื้อของตนเองเขาจึงรีบเอามือไปจับมือเล็กของเธอไว้ แล้วรีบออกรถไปยังคอนโดของตนทันทีเพราะถ้าให้ถามจากเจ้าตัวว่าพักอยู่ไหนคงไม่ได้เรื่องเขาเลยตัดสินใจที่จะพาหญิงสาวมาที่คอนโดนของตน และในระหว่างขับรถหญิงสาวนั้นครางเสียงกระเส่าตลอดเวลาและพยายามถอดเสื้อผ้าของตนเอง
“อ๊า ชะ ช่วยด้วย ซี๊ด มะ ไม่ไหวแล้ว อื้อ” หญิงสาวครางกระเส่าเพราะความต้องการที่มีมากเหลือเกิน
“คุณใจเย็นๆนะใกล้ถึงละอะ อ๊าสสสส ซี๊ดด ” ประธานหนุ่มพูดบอกหญิงสาวเพราะตอนนี้อีกนิดเดียวก็จะถึงคอนโดแล้ว แต่เหมือนคนตัวเล็กจะใจร้อนเธอเอามือน้อยๆของเธอมาจับแล้วก็บีบที่เจ้ามังกรของเขาจากที่ตอนแรกมันตื่นตัวจากเสียงครางของเธอตอนนี้มันขยายใหญ่มากกว่าเดิมหายเท่า
ประธานหนุ่มเหยียบมิดแทบไม่กลัวที่จะเกิดอุบัติเหตุเพราะตอนนี้เขาก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกันจากที่ตอนแรกว่าจะหาทางอื่นที่พอจะช่วยให้หญิงสาวหายจากอาการยาฤทธิ์แต่ตอนนี้กลับเป็นเขาเองที่ต้องอดทนที่จะสัมผัสตัวของหญิงสาวแทน
เอี๊ยด!!!!!
เสียงจอดรถของชายหนุ่มดังไปทั่วลานจอดรถของคอนโดเมื่อประธานหนุ่มจอดรถเรียบร้อยแล้วก็รีบลงจากรถฝั่งคนขับก้าวเท้าเดินอ้อมไปที่ฝั่งข้างคนขับเปิดประตูอุ้มหญิงสาวจากรถแล้วรีบอุ้มไปที่ลิฟต์ เมื่อเข้ามาในลิฟต์แล้วประธานหนุ่มกดไปที่ชั้นบนสุดในระหว่างที่รอลิฟต์นั้นมือไม้ของหญิงสาวก็อยู่ไม่นิ่งลูบไล้ไปตามแผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ติ้ง!!!!!
เสียงลิฟต์ดังเตือนว่าถึงชั้นที่ประธานหนุ่มต้องการแล้วไม่รอช้าประธานหนุ่มสาวเท้าเดินไปที่ห้องของตัวเองที่มีเพียงห้องเดียวของชั้นประธานหนุ่มสแกนลายนิ้วมือเข้าห้องเพราะเขานั้นไม่มีมือว่างที่จะหยิบเอาคีย์การ์ดออกมา เมื่อสแกนนิ้วมือเข้าห้องได้แล้วประธานหนุ่มก็ปิดประตูเสียงดังลั่นโดยที่ไม่กลัวใครจะได้ยินเพราะตอนนี้เขาทนไม่ไหวต่อความยั่วยวนของหญิงสาวแล้วในอ้อมกอดของเขาแล้วเช่นกัน
ปังงง!!!!!!!!!!!!! ประธานหนุ่มปิดประตูเสียงดังโดยไม่กลัวว่าประตูห้องจะพัง เมื่อประตูห้องปิดลงประธานหนุ่มก็วางหญิงสาวลง ปากหนาประกบจูบไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าทันที หญิงสาวที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กเล่นงานอย่างหนักเธอไม่นึกเขินอายที่ต้องมาจูบกับชายแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะความต้องการที่มีมากกว่าความอายของเธอทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนนี้หญิงสาวต้องการปลดปล่อยมากกว่าที่จะมานั่งเขินอาย ประธานหนุ่มเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นของหญิงสาว มือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่สมส่วนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความต้องการที่มีมากไม่ต่างกัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาอยู่ที่เต้ากลมสวยใหญ่จนล้นมือของเขา ประธานหนุ่มคลึงบริเวณยอดประทุมถันของเธอ จึงทำให้หญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออึงออกมากด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อน “อื้อ อย่าทำ บะ แบบนั้น” หญิงสาวเอยเสียงกระท่อนกระแท่นประธานหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจที่สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวตรงหน้าได้ ปากของทั้งสองยัง
06:00 น. “อื้ออออออ” หญิงสาวขยับร่างที่ไร้ซึ่งอาภรมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังเรือนร่างก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะและปวดเมื่อยร่างกายไม่น้อยดวงตาสวยกระทบกับแสงแดดเธอกระพริบตาสองสามทีไร้อาการมึนงงเรียกสติตัวเอง เพื่อนึกย้อนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเธอและทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืนนี้ พอตั้งสติได้ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในโสตประสาทของเธอ ถึงแม้หญิงสาวจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมดว่าเธอทำอะไรลงไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและฝืนฤทธิ์ของยาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ บวกกับการเล้าโลมของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้ทั้งที่เธอไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ผับเมื่อคืนและครั้งล่าสุดคือตอนนี้ที่เขานอนเอาแขนหนักๆมากอดที่เอวของเธอ หญิงสาวทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนปะติดปะต่อได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้คือการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะตื่นเสียก่อน พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเตี
1 เดือนผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำ
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
ทางด้านประธานหนุ่มที่นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานของตัวเองอย่างตั้งใจแต่ในหัวของเขากลับวนคิดถึงแต่ใบหน้าและรูปร่างนุ่มนิ่มน่าสัมผัสนั้นตลอดเวลาจนไม่มีสมาธิทำงาน ช่วงสายเขาต้องไปพบลูกค้าเพื่อทำสัญญาตกแต่งภายในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งถือว่าเป็นโปรเจกที่ใหญ่แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับบริษัทเขาเพราะที่นี่รับงานเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งก็อกๆ “ขออนุญาตครับ” “อืมเข้ามา” “ช่วงสิบโมงท่านมีไปพบลูกค้านะครับ” กิตต์แจ้งนัดหมายลูกค้าให้ประธานหนุ่มทราบ “ท่านจะไปเลยไหมครับ ผมจะได้ไปเตรียมเอกสารสัญญาและให้คนขับรถเตรียมรถไว้รอ” “อืม ไปเลยก็ได้เพื่อรถติด ไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน” “ครับ เดี๋ยวผมขอไปเตรียมเอกสารสักครู่นะครับ” “ได้ เอ่อ แล้วปรางทิพย์เป็นยังไงบ้าง”ประธ
หญิงสาวหลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็รีบขึ้นไปหาประธานหนุ่มทันทีนิ้วเรียวกดไปที่ชั้นสามสิบชั้นที่เธอเคยขึ้นไปแล้วเมื่อเช้านี้ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์ก็เกิดความเงียบเข้ามาปกคลุมเพราะภายในมีเพียงแค่เธอคนเดียวตอนนี้ยังไม่หมดเวลาพักเลยไม่มีคนใช้ลิฟต์มากนะ เมื่อเกิดความเงียบก็ทำให้ความคิดต่างๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวของหญิงสาวมากมายและให้คิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่เกิดขึ้นถ้าหากเลขาของประธานหนุ่มเข้าไปช้ากว่าไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หญิงสาวคิดไม่ตกเลยว่าท่านประธานจะเรียกเธอไปพบเรื่องอะไรซึ่งทำให้เธอหวั่นใจไม่น้อยเพราะน้ำเสียงที่เข้าใช้เรียกเธอไปพบมันช่างน่าขนลุกเหมือนกับว่ามีใครไปทำอะไรให้เขาโกรธอย่างนั้นแหละแล้วไหนจะสายตาที่เข้ามองเธอสลับกับดินอีกติ้ง !!! ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้คิดอะไรไปมากว่านี้เสียงลิฟต์ก็ดังเตือนว่าถึงชั้นที่เธอต้องการแล้วหญิงสาวสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออกจากหัวแล้วก้าวเท้าเดินออกจากลิฟต์ 
ช่วงเที่ยงของวันปรางทิพย์นั่งเล่นอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพียงลำพังเพราะสามีและลูกคนโตออกไปทำงานกันส่วนสองแฝดก็ไปเรียน เธอจึงต้องอยู่บ้านคนเดียวอย่างเหงาๆเพราะตั้งแต่มีลูกเธอก็ไม่ได้ทำงานอีกเลย “ม๊าขา อยู่ไหมคะ”ปริมลูกสาวคนเดียวของบ้านตะโกนเรียกมารดามาตั้งแต่อยู่หน้าบ้านจนกระทั่งเข้ามาถึงภายในตัวบ้าน “ม๊าอยู่ที่ห้องนั่งเล่นลูก”ปรางทิพย์ขานตอบลูกสาวปริมเมื่อได้ยินเสียงมารดาดังมาจากห้องนั่งเล่นก็รีบวิ่งเข้าไปหามารดาทันทีปรางทิพย์เห็นว่าลูกสาววิ่งหน้าตั้งตาตื่นก็ตกใจนึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้น “ปริมมีอะไร เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่ทำไมกลับมาเร็วไม่มีเรียนเหรอคะ”ปรางทิพย์รัวคำถามใส่ลูกสาวที่วันนี้บอกว่ามีเรียนเลิกสี่โมงเย็นแต่นี่พึ่งบ่ายสองทำไมกลับมาเร็ว “อาจารย์ยกคลาสค่ะ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ เพราะมีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นอีกค่ะ”ปริมพูดด้วยความตื่นตระหนกราวกับเ
เช้าวันใหม่แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนของสองสามีภรรยาที่นอนกอดกันไม่ยอมตื่นลมแอร์ปะทะร่างกายทำให้ต้องกระชับกอดกันให้แน่นขึ้นเพราะความเย็นของแอร์ ปวีร์ขยับเปลือกตาค่อยๆลืมตาปรับแสงที่มากระทบตาเมื่อปรับได้แล้วก็หันไปมองภรรยาคนสวยที่นอนหลับอยู่ในอ้อมกอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความสวยไม่เคยเลือนหายเขายังคงหลงใหลร่างกายนี้ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อได้สัมผัสก็ต้องการที่จะสัมผัสมากขึ้นทุกครั้งตอนนี้ก็เช่นกัน ปรางทิพย์ที่อยู่ในชุดนอนเดรสสายเดี่ยวเนื้อผ้าซาตินลื่นมือทำให้เมียของเขาน่าสัมผัสมากขึ้นอีกเท่าตัวปวีร์จับตัวภรรยาคนสวยให้นอนราบกับที่นอนและเริ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอไล่เลียระดมจูบไปตามซอกคอทำให้เกิดเป็นรอยจ้ำแดงระเรื่อที่คอ มือหนาเลื่อนไปบีบขย้ำหนาอกอวบนิ้วแกร่งสะกิดยอกประทุมถันที่ชูชันอีกข้างก็เลื่อนลงไปที่กลีบกุหลาบงาม ปวีร์พรมจูบไล่ลงมาจนถึงกลีบกุหลาบงามมือหนาถอดกางเกงในของปรางทิพย์ออกและเลิกชายกระโปรงขึ้นลิ้นร้อนไล่เลียไปตามรอยแยกนิ้วแกร่งสอดเขาไปในร่
20 ปีผ่านไป ตอนนี้ลูกของประธานหนุ่มและภรรยาโตเป็นหนุ่มเรียนมหาวิทยาลัยกันหมดทุกคนแล้ว ปริ๊น หรือ ปรินทร์ อัศวภัทชกุล ลูกชายคนโตของปวีร์และปรางทิพย์ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปีสี่ ปริ๊นเริ่มเข้ามาช่วยงานพ่อตั้งแต่ขึ้นมหาลัยเพราะอยากช่วยงานพ่อแต่ช่วงนี้ก็เริ่มที่จะเข้ามาทำมากขึ้นส่วนเด็กแฝดทั้งสองคนก็เรียนมหาลัยที่เดียวกับพี่ชายท้องที่สองเธอได้แฝดชายหญิงซึ่งสมใจพ่อเขานั้นแหละ “หนูวันนี้โทรบอกลูกๆแล้วใช่ไหมว่าให้เข้ามาทานข้าวที่บ้าน” ท่านประธานวัย54แต่ยังดูดีเหมือนคนวัย30ต้นๆ เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านเอ่ยถามภรรยาที่ยังสวยไม่เปลี่ยนตั้งแต่วันแรกที่เจอกันถึงแม้จะอายุเลขสี่แล้วก็ตาม “โทรบอกแล้วค่ะ เดี๋ยวก็คงจะมากัน” “ครับ แล้วนี่หนูทำอะไรอยู่ครับ”ปวีร์เดินมานั่งข้างภรรยาโอบเอวไว้หลวมและเอ่ยถาม “ นั่งดูอะไรไปเรื่อยค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะ”
1 เดือนผ่านไปอ๊วกๆ อ๊วกๆ อ๊วกๆ เสียงโก่งคออาเจียนของประธานหนุ่มดังขึ้นอย่างนี้มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วหญิงสาวบอกให้ไปหาหมอก็ไม่ยอมไปบอกแต่ว่าไม่เป็นอะไรอาจจะเป็นผลมาจากการทำงาน “เฮียไหวไหมคะ ไปหาหมดเถอะนะ”หญิงสาวคะยั้นคะยอให้สามีไปหาหมอเพราะเป็นห่วงกลัวว่าสามีจะเป็นโรคร้ายแรง “เฮียไม่เป็นอะไรจริงๆครับ”ประธานหนุ่มพูดแล้วเอามือลูบหัวหญิงสาวให้คลายกังวล “ตะ...” “ป๊าม๊าเสร็จยังครับ เดี๋ยวพี่ปริ๊นไปเรียนสายนะ”ลูกชายตัวแสบเปิดประตูวิ่งเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู “พี่ปริ๊นครับ ไม่เสียงดังนะครับป๊าไม่สบายอยู่นะ”หญิงสาวบอกลูกชายให้เบาเสียงลง “ป๊าไม่สบายเหรอครับ งั้นม๊าอยู่ดูแลป๊านะครับ เดี๋ยวพี่ปริ๊นให้อากิตต์ไปส่ง”เด็กชายที่มีความคิดโตเกินเด็กวัยเดียวกันหันไปมองหน้าพ่อและพูดบอ
“ป๊า/ม๊าครับ พี่ปริ๊นมาแล้ว”เสียงเด็กชายเรียกพ่อกับแม่เข้าดังขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองกำลังเดินมาในโรงเรียน ประธานหนุ่มและหญิงสาวขับรถมารับลูกชายหลังเลิกงานทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปด้านในก็ได้ยินเสียงเจ้าแสบดังมาแต่ไกลเรียกพวกเขาทำให้ประธานหนุ่มและหญิงสาวหันหน้ามองกันและยิ้มให้กับความน่ารักของลูกชาย “เป็นไงครับ มาเรียนวันแรกมีเพื่อนหรือยังครับ แล้วนี่ดื้อกับคุณครูหรือเปล่า”หญิงสาวย่อตัวตัวลงให้เสมอกับลูกชายและยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู “วันนี้พี่ปริ๊นไม่ดื้อครับ ไม่เชื่อถามคุณครูได้เลย”เด็กชายพยายามหาพยานเพื่อยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้ดื้อ “พี่ปริ๊นดื้อไหมคะ คุณครู”หญิงสาวลุกขึ้นและส่งลูกชายไปให้สามีก่อนจะเอ่ยถามว่าวันนี้ลูกของเธออยู่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง “พี่ปริ๊นไม่ดื้อเลยค่ะ เข้ากับเพื่อนในห้องได้ทุกคน โดยเฉพาะน้องเกลค่ะพี่ปริ๊นชอ
“พี่ปริ๊นครับลูก ตื่นได้แล้วครับ วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกหนูจำไม่ได้เหรอลูก” คุณม๊าคนสวยเดินขึ้นมาปลุกลูกชายวัยสองขวบที่วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกของเธอต้องไปเรียนวันแรกตอนบอกเรื่องโรงเรียนลูกชายของเธอดีใจกระโดดโลดเต้นยกใหญ่ แต่ทำไมคนที่ดีอกดีใจที่จะได้ไปเรียนถึงกลับไม่ยอมตื่นเสียที “พี่ปริ้นครับ ตื่นได้แล้วลูกเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”คุณม๊าคนสวยไม่ลดความพยายามที่จะปลุกลูกชาย “ม๊าครับ พี่ปริ๊นยังอยากนอนอยู่เลย”เด็กชายงอแงไม่อยากตื่นและซุกหน้าลงหมอนหลับต่อแอดดดด “เอ้า ทำไมพี่ปริ๊นยังนอนอยู่ล่ะครับ ไหนว่าไปเรียนวันแรกไง”ประธานหนุ่มเปิดประตูเข้ามาในห้องลูกชายก็เห็นเมียนั่งมองลูกชายนอนหลับไหนว่าขึ้นมาปลุกแต่ทำไมเจ้าตัวแสบยังนอนอุตุอยู่ “ม๊าปลุกแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ยอมตื่นบอกว่ายังอยากนอนอยู่เลย สงสัยอาหารเช้าของโปรดคงต้องเททิ้งแล้วสิ”หญิงสาวทำทีพูดว่าจะเอาของโปรดที่ลู
6 เดือนต่อมา หญิงสาวย้ายออกมาจากบ้านใหญ่เข้ามาอยู่บ้านที่ประธานหนุ่มซื้อไว้ตั้งแต่ลูกชายอยู่ในท้องยังไม่คลอดด้วยซ้ำ เป็นบ้านที่ประธานหนุ่มสั่งให้ทำห้องเด็กเพิ่มเพราะตัวบ้านเดิมไม่มีห้องของเด็ก บ้านหลังนี้จะมีห้าห้องนอน หกห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว ที่จอดรถ สนามหญ้าหน้าบ้านและก็สระว่ายน้ำส่วนแม่บ้านตอนแรกประธานหนุ่มจะจ้างคนใหม่แต่มารดาไม่ไว้ใจกลัวมาทำร้ายหลานเธอตามที่ข่าวออกเธอจึงส่งคนที่บ้านใหญ่มาสองคนซึ่งเป็นแม่บ้านที่ทำงานมานานและไว้ใจได้ ตอนนี้ลูกชายเธอน้องปริ๊นอายุเจ็บเดือนแล้วกำลังเริ่มหัดคลานคุณปู่คุณย่าก็แวะมาหาหลานเกือบทุกวัน ส่วนกิตต์คนนั้นต้องเรียกได้ว่าหลงหลานตามใจหลานทุกอย่างไม่เคยขัดจนหญิงสาวต้องคอยห้ามไว้เพราะกลัวลูกชายจะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจพูดไม่ฟังตึงๆตึงๆ “น้องปริ๊นอย่าคลานเร็วนักสิลูก แหะๆ”หญิงสาวร้องเรียกตามลูกชายที่กำลังจะคลานไปหน้าบ้าน เผลอไม่ได้เลยลูกคนนี้ “คุณปรางมีอะไรให้สายใจช่วยไหมคะ”สายใจสา
1 เดือนต่อมา หลังหญิงสาวออกจากโรงพยาบาลพร้อมลูกชายตัวน้อย เธอจึงกลับมาพักที่บ้านใหญ่ตอนแรกประธานหนุ่มอยากเข้าไปอยู่บ้านที่เขาซื้อไว้แต่มารดาของสามีไม่ยอมบอกให้อยู่บ้านใหญ่สักเดือนสองเดือนก่อน ประธานหนุ่มที่ไม่เคยพูดชนะมารดาก็จำใจต้องยอมอยู่จนกว่าลูกชายจะสองเดือน แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้มีคนช่วยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กแอ้ๆแอ้ๆแอ้ๆ เสียงเด็กน้อยดังอ้อแอ้มาจากแปลเด็กในตอนเช้าเด็กน้อยจะตื่นแต่เช้าทุกวันพอตื่นมาก็จะส่งเสียงอ้อแอ้ให้ป๊ากับม๊าได้ยินจะเป็นแบบนี้ประจำทุกวันตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลูกน้อยของเธอถือว่าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายไม่งอแงจะมีร้องบ้างแค่ตอนหิวหรือรู้สึกไม่สบายตัวและตื่นบ่อยตามปกติของเด็กแรกเกิด “น้องปริ๊นตื่นแล้วเหรอคะ คนแก่งของม๊าไปปลุกป๊ากัน” น้องปริ๊นหรือด.ช. ปรินทร์ อัศวภัทชกุล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและหลานสุดรักสุดหวงของคุณหญิงมณีรัตน์และคุณเอกภพ ชื่อนี้ประธานหนุ่มเป็นคนคิดตั้งแต่เจ้าลูกชายแปดเดือนช่วงนั้นสามีของเธอเคร
ทุกคนต่างให้ความสนใจสมาชิกใหม่ของบ้าน แต่คนที่ดูจะเห่อลูกชายเขามากที่สุดน่าจะเป็นคุณหญิงมณีรัตน์มารดาของประธานหนุ่ม เพราะข้าวของลูกชายเขาส่วนมากที่มีตอนนี้จนแทบจะล้นบ้านก็มาจากแม่เขาทั้งนั้น “ไหนดูสิหลานย่า น่าเกียจน่าชังจังเลยลูก ดูสิคะหน้าเหมือนตาวีร์ตอนเล็กๆเลย” ประธานหนุ่มยืนดูมารดาอุ้มลูกน้อยของเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ประธานหนุ่มรู้สึกได้ถึงแรงขยับข้างเตียงก่อนจะหันไปดูก็เห็นว่าหญิงสาวตื่นแล้ว ประธานหนุ่มช่วงพยุงหญิงสาวลุกขึ้นนั่งและหยิบน้ำมาให้หญิงสาวดื่ม “ดื่มน้ำก่อนครับ”ประธานหนุ่มยื่นแก้วน้ำไปให้หญิงสาวดื่ม “ขอบคุณค่ะ ดูคุณแม่จะเห่อหลานมาเลยนะคะ”หญิงสาวทักขึ้นยิ้มๆเธอดีใจที่ลูกชายของเธอเป็นที่รักของทุกคน “ใช่ครับ คุณแม่ท่านอยากได้หลานมาตั้งนานแล้วแต่เฮียไม่ยอมมีให้สักที”ประธานหนุ่มหันไปมองมารดาที่อุ้มหลานชายไปมารอบห้องด้วนรอยยิ้ม