1 เดือนผ่านไป
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท
หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำก็ตาม มันก็เพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนหรือที่ใครๆเขาก็ต่างเรียกมันว่าความสัมพันธ์แบบone night stand ครั้งเดียวจบ ต่างฝ่ายต่างได้วินกันทั้งคู่ และก็คงไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้ทั้งเธอและเขาได้พบกันอีก
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะมาทำงานที่คาเฟ่แห่งนี้เธอทำงานที่นี่มาตั้งแต่ก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัยเสียด้วย เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน การที่พ่อกับแม่ต้องมาจากไปตั้งมัธยมปลายทำให้เธอต้องดิ้นรนต่อสู้ด้วยตัวเองจนทำให้คนอื่นที่เห็นก็มักจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเก่ง เข้มแข็ง แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอก็มีอีกมุมที่ไม่เคยแสดงให้ใครเห็นแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างมีน เพราะมุมนี้จะมีแต่พ่อกับแม่เท่านั้นที่จะได้เห็นและก็คิดว่าจะไม่มีใครได้เห็นมันอีก
กริ๊งๆ
“อ้าว ปรางมาแล้วหรือจ๊ะ” พี่มายด์เจ้าของร้านที่หญิงสาวทำงานด้วยเอ่ยทักขึ้นทันที่เห็นเธอเดินเข้ามาภายในร้าน
“สวัสดีค่ะ พี่มายด์” หญิงสาวสวัสดีทักทายเจ้าของร้านด้วยรอยยิ้มแม้ในใจจะรู้ใจหายอยู่เหมือนที่จะไม่ได้มาทำงานที่นี่แล้ว ตลอดเวลาที่ทำงานมาสี่ปีทำให้เธอรู้สึกผูกพันกับร้านนี้และทุกคนที่ทำงานอยู่ที่นี่เช่นกัน แต่ต้องจำใจลาออกเพราะเธอต้องไปฝึกงานอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนข้างหน้านี้
“วันนี้มาทำเป็นวันสุดท้ายแล้วใช่ไหม “มายด์ถามหญิงสาว
“ใช่ค่ะ”
“เอาจริงปรางไม่ต้องลาออกก็ได้นะ ฝึกงานเสร็จก่อนกลับมาทำ” มายด์ยื่นขอเสนอให้หญิงสาวไม่ลาออกเพราะเธอก็แอบเป็นห่วงว่าถ้าไม่ทำงานแล้วหญิงสาวจะเอาเงินที่ไหนใช้เพราะเธอก็พอรู้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวเธอมาบ้าง ซึ่งทำให้เธอรู้ว่าเด็กคนนี้จะต้องเจออะไรมาบ้างกว่ามาถึงทุกวันนี้
“ขอบคุณนะคะ แต่หนูเกรงใจค่ะ แบบนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ”
“โอเคๆ ออกก็ออก แต่ถ้าอยากกลับมาทำก็มาได้ตลอดนะ พี่ยินดี”มายด์ยอมตกลงอย่างจำยอม
“ขอบคุณพี่มายด์มากๆอีกครั้งนะคะ ที่เอ็นดูหนูและใจดีกับหนูมาตลอดเลย ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันถึงตอนนี้”
“ไม่เป็นไร เราก็เหมือนน้องพี่คนหนึ่ง ไปๆ เปลี่ยนเปลี่ยนชุดมาทำงานลูกค้าเริ่มเยอะแล้ว เดี๋ยวจะไม่ได้ทำงานกันพอดี”
“ค่ะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ”พูดจบหญิงสาวก็เดินไปเปลี่ยนชุดหลังร้านเพื่อทำงาน
“จ๊ะ เดี๋ยวเลิกงานพี่จะพาไปเลี้ยงส่ง”ทั้งคู่พูดคุยทั้งทายกันเล็กน้อยตามภาษาคนที่ทำงานด้วยกันมานานครั้งแรกที่มายด์เห็นหญิงสาวเธอก็รู้สึกถูกชะตาอย่างบอกมาถูก
มายด์จำวันแรกที่หญิงสาวเดินเข้ามาสมัครงานที่ร้านได้เป็นอย่างดี เด็กน้อยหน้าตาน่ารักริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มส่งมาให้เธอแต่แววตาของเธอกลับเศร้าต่างจากรอยยิ้มบนใบหน้า
เข้ามาขอสมัครงานที่ร้านเธอเพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน หญิงสาวจัดเป็นเด็กที่มีไหวพริบดี หัวไว และมีมารยาทรู้จักเข้าหาคน นอบน้อมถ่อมตน
แต่จู่ๆหญิงสาวที่เธอรักเหมือนน้องเดินมาบอกว่าจะขอลาออกเพราะต้องไปฝึกงานคงไม่ได้มาทำงานที่ร้านเพราะอยากเก็บเกี่ยวความรู้ขณะฝึกงานให้ได้มากที่สุด
ในครั้งแรกเธอก็ปฏิเสธไปจะให้แค่พักงานฝึกงานเสร็จค่อยกลับมาทำแต่พอเห็นแววตาอ้อนวอนก็ยอมใจอ่อนและเพราะเหตุผลที่หญิงสาวบอกกับเธอ
“หนูฝึกงานตั้งสี่เดือนเลยนะคะ หนูไม่อยากเอาเปรียบพนักงานคนอื่น”
“ เห่อ ก็ได้พี่ยอมก็ได้ เด็กคนนี้นี่นะ ฝึกงานก็ตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้มากที่สุด เข้าใจไหม” เด็กคนนี้ทำอะไรมักมีเหตุผลเสมอแล้วก็ดันฟังขึ้นด้วยสิ
“ขอบคุณนะคะ ที่เข้าใจหนู”
ทางด้านปวีร์
ทางด้านฝั่งประทานหนุ่มนับตั้งแต่วันนั้นที่เขามีความสัมพันธ์กันเด็กน้อยของเขา ซึ่งก็ทำให้เขารู้ว่าเขาคือคนแรกและก็จะชายเพียงคนเดียวของเธอ เขาจะไม่ยอมให้เธอไปเป็นของใครเด็ดขาดประธานหนุ่มสั่งให้กิตต์เลขาคนสนิทของเขาไปดูกล้องวงจรปิดหน้าห้องแล้วไปสืบประวัติเด็กน้อยของเขามาให้ สามวันต่อมาเลขาหนุ่มก็เอาประวัติของเด็กน้อยมาให้เขายังมิวายที่จะแซวผู้เป็นนายไปยกใหญ่เพราะเขาไม่เคยสนใจคู่นอนคนไหนขนาดนี้
แต่คนนี้ไม่ใช้คู่นอนแต่เป็นเมียเขาต่างหาก ตั้งแต่แรกเห็นเขารู้สึกถูกใจเธออย่างบอกไม่ถูกและบอกกับตัวเองว่าคนนี้แหละเมียและแม่ของลูกเขาในอนาคต
แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเป็นเมียเร็วขนาดนี้ผู้หญิงหลายๆคนต่างก็อยากได้ตำแหน่งเมียจากเขาแต่ก็ไม่เคยมีใครได้มันไปแต่กับเธอที่ได้ไปกลับหนีเขาไปเสียได้ เดี๋ยวก่อนเถอะงานเสร็จเมื่อเจอดีแน่เด็กน้อย ประธานหนุ่มที่ตกอยู่ในภวังค์ของตนเองก็สะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงาน
ก๊อกๆก๊อกๆก๊อกๆ
“ขออนุญาตครับท่าน”
“เข้ามา” ประธานหนุ่มตอบเสียงราบเรียบ
“ท่านครับ นี่เป็นเอกสารที่ต้องเซ็นครับ ส่วนนี่เป็นรายชื่อของนักศึกษาฝึกงานครับ”
“อืม เอาวางไว้ แล้วออกไปได้แล้ว”
“ท่านไม่เปิดดูรายชื่อนักศึกษาฝึกงานหน่อยหรือครับ” เลขาหนุ่มพูดเชิงหยอกเย้าเจ้านาย
“มันมีอะไรน่าสนใจนักหนาแค่นักศึกษาฝึกงาน แล้วปีนี้ได้มากี่คน”ประธานหนุ่มพูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“1 คน ครับ ปีนี้เราเปิดรับแค่แผนกออกแบบภายใน ที่ผ่านการคัดเลือกก็แค่คนเดียว”
“อืม”ประธานหนุ่มตอบรับในลำคอแล้วทำงานไม่สนใจเลขาหนุ่มที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามแม้แต่น้อย
“อะ....อ้าว ไม่เปิดดูหน่อยหรือครับ”
“ไหนมันมีอะไรทำไมถึงอยากให้เปิดดูนะ....นัก อื้ม” ประธานหนุ่มหยิบแฟ้มรายชื่อนักศึกษาฝึกงานขึ้นมาดูถึงกับอึ้งและพูดจาติดขัด ยกยิ้มมุมปากและได้แต่คิดว่าโลกอะไรมันจะกลมได้ขนาดนี้
“แหม ยิ้มใหญ่เลยนะครับ” เลขาหนุ่มเห็นอาการเจ้านายหลังจากเปิดดูแฟ้มรายชื่อนักศึกษาฝึกงานก็แอบแซวพอหอบปากหอมคอ
“แต่ก่อนที่ยิ้มจะดีใจจนเสียสติ ผมว่าท่านประธานพักผ่อนบ้างก็ดีนะครับ โทรมหมดแล้วเดี๋ยววันที่น้องเขามาฝึกงานแล้วเห็นเจ้าของบริษัทสภาพแบบนี้น้องเขาจะตกใจวิ่งหนีไม่อยากทำงานเอานะครับ”
“จะเดือนหนึ่งแล้วนะครับที่ท่านทำงานไม่พักเลย สุขภาพจะแย่เอานะครับ”เลขหนุ่มพูดด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าเจ้านายจะป่วยไปเสียก่อนงานจะเสร็จนี่สิ แต่ก็แอบแซวอย่างอดไม่ได้
“รู้แล้วนายไปทำงานของนายได้แล้วไป อ่อ แล้วถ้าเธอวิ่งหนีฉันที่แหละจะวิ่งตามเอง หึ”
“ครับ งั้นผมไปทำงานต่อแล้วนะครับ อย่าหักโหมนะครับเดี๋ยวไม่มีแรงวิ่งตาม เมียเด็ก”
หลังเลขาหนุ่มออกจากห้องไปเขาก็อดขำกับคำพูดของเลขาไม่ได้ ตั้งแต่วันนั้นเขาทำงานแทบจะไม่มีเวลานอนเพราะธุรกิจของเขาไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีธุรกิจของครอบครัวที่เขาต้องดูแลอีกมากมายจนทำให้ทำงานไม่มีเวลาพัก และอีกอย่างคือเขาอยากเคลียร์งานเพื่อที่จะเอาเวลาไปตามหาเด็กน้อยของเขาแต่เห็นทีว่าจะไม่ต้องออกไปตามหาให้เหนื่อยเพราะเด็กน้อยมาหาเขาเอง ชักจะรอไม่ไหวแล้วสิ
“หึ....เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกเด็กน้อย แล้วเจอกันนะครับเมีย ที่รักของเฮียวีร์”
1 เดือนผ่านไป
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท
หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำก็ตาม มันก็เพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนหรือที่ใครๆเขาก็ต่างเรียกมันว่าความสัมพันธ์แบบone night stand ครั้งเดียวจบ ต่างฝ่ายต่างได้วินกันทั้งคู่ และก็คงไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้ทั้งเธอและเขาได้พบกันอีก
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะมาทำงานที่คาเฟ่แห่งนี้เธอทำงานที่นี่มาตั้งแต่ก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัยเสียด้วย เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน การที่พ่อกับแม่ต้องมาจากไปตั้งมัธยมปลายทำให้เธอต้องดิ้นรนต่อสู้ด้วยตัวเองจนทำให้คนอื่นที่เห็นก็มักจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเก่ง เข้มแข็ง แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอก็มีอีกมุมที่ไม่เคยแสดงให้ใครเห็นแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างมีน เพราะมุมนี้จะมีแต่พ่อกับแม่เท่านั้นที่จะได้เห็นและก็คิดว่าจะไม่มีใครได้เห็นมันอีก
กริ๊งๆ
“อ้าว ปรางมาแล้วหรือจ๊ะ” พี่มายด์เจ้าของร้านที่หญิงสาวทำงานด้วยเอ่ยทักขึ้นทันที่เห็นเธอเดินเข้ามาภายในร้าน
“สวัสดีค่ะ พี่มายด์” หญิงสาวสวัสดีทักทายเจ้าของร้านด้วยรอยยิ้มแม้ในใจจะรู้ใจหายอยู่เหมือนที่จะไม่ได้มาทำงานที่นี่แล้ว ตลอดเวลาที่ทำงานมาสี่ปีทำให้เธอรู้สึกผูกพันกับร้านนี้และทุกคนที่ทำงานอยู่ที่นี่เช่นกัน แต่ต้องจำใจลาออกเพราะเธอต้องไปฝึกงานอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนข้างหน้านี้
“วันนี้มาทำเป็นวันสุดท้ายแล้วใช่ไหม “มายด์ถามหญิงสาว
“ใช่ค่ะ”
“เอาจริงปรางไม่ต้องลาออกก็ได้นะ ฝึกงานเสร็จก่อนกลับมาทำ” มายด์ยื่นขอเสนอให้หญิงสาวไม่ลาออกเพราะเธอก็แอบเป็นห่วงว่าถ้าไม่ทำงานแล้วหญิงสาวจะเอาเงินที่ไหนใช้เพราะเธอก็พอรู้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวเธอมาบ้าง ซึ่งทำให้เธอรู้ว่าเด็กคนนี้จะต้องเจออะไรมาบ้างกว่ามาถึงทุกวันนี้
“ขอบคุณนะคะ แต่หนูเกรงใจค่ะ แบบนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ”
“โอเคๆ ออกก็ออก แต่ถ้าอยากกลับมาทำก็มาได้ตลอดนะ พี่ยินดี”มายด์ยอมตกลงอย่างจำยอม
“ขอบคุณพี่มายด์มากๆอีกครั้งนะคะ ที่เอ็นดูหนูและใจดีกับหนูมาตลอดเลย ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันถึงตอนนี้”
“ไม่เป็นไร เราก็เหมือนน้องพี่คนหนึ่ง ไปๆ เปลี่ยนเปลี่ยนชุดมาทำงานลูกค้าเริ่มเยอะแล้ว เดี๋ยวจะไม่ได้ทำงานกันพอดี”
“ค่ะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ”พูดจบหญิงสาวก็เดินไปเปลี่ยนชุดหลังร้านเพื่อทำงาน
“จ๊ะ เดี๋ยวเลิกงานพี่จะพาไปเลี้ยงส่ง”ทั้งคู่พูดคุยทั้งทายกันเล็กน้อยตามภาษาคนที่ทำงานด้วยกันมานานครั้งแรกที่มายด์เห็นหญิงสาวเธอก็รู้สึกถูกชะตาอย่างบอกมาถูก
มายด์จำวันแรกที่หญิงสาวเดินเข้ามาสมัครงานที่ร้านได้เป็นอย่างดี เด็กน้อยหน้าตาน่ารักริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มส่งมาให้เธอแต่แววตาของเธอกลับเศร้าต่างจากรอยยิ้มบนใบหน้า
เข้ามาขอสมัครงานที่ร้านเธอเพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน หญิงสาวจัดเป็นเด็กที่มีไหวพริบดี หัวไว และมีมารยาทรู้จักเข้าหาคน นอบน้อมถ่อมตน
แต่จู่ๆหญิงสาวที่เธอรักเหมือนน้องเดินมาบอกว่าจะขอลาออกเพราะต้องไปฝึกงานคงไม่ได้มาทำงานที่ร้านเพราะอยากเก็บเกี่ยวความรู้ขณะฝึกงานให้ได้มากที่สุด
ในครั้งแรกเธอก็ปฏิเสธไปจะให้แค่พักงานฝึกงานเสร็จค่อยกลับมาทำแต่พอเห็นแววตาอ้อนวอนก็ยอมใจอ่อนและเพราะเหตุผลที่หญิงสาวบอกกับเธอ
“หนูฝึกงานตั้งสี่เดือนเลยนะคะ หนูไม่อยากเอาเปรียบพนักงานคนอื่น”
“ เห่อ ก็ได้พี่ยอมก็ได้ เด็กคนนี้นี่นะ ฝึกงานก็ตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้มากที่สุด เข้าใจไหม” เด็กคนนี้ทำอะไรมักมีเหตุผลเสมอแล้วก็ดันฟังขึ้นด้วยสิ
“ขอบคุณนะคะ ที่เข้าใจหนู”
ทางด้านปวีร์
ทางด้านฝั่งประทานหนุ่มนับตั้งแต่วันนั้นที่เขามีความสัมพันธ์กันเด็กน้อยของเขา ซึ่งก็ทำให้เขารู้ว่าเขาคือคนแรกและก็จะชายเพียงคนเดียวของเธอ เขาจะไม่ยอมให้เธอไปเป็นของใครเด็ดขาดประธานหนุ่มสั่งให้กิตต์เลขาคนสนิทของเขาไปดูกล้องวงจรปิดหน้าห้องแล้วไปสืบประวัติเด็กน้อยของเขามาให้ สามวันต่อมาเลขาหนุ่มก็เอาประวัติของเด็กน้อยมาให้เขายังมิวายที่จะแซวผู้เป็นนายไปยกใหญ่เพราะเขาไม่เคยสนใจคู่นอนคนไหนขนาดนี้
แต่คนนี้ไม่ใช้คู่นอนแต่เป็นเมียเขาต่างหาก ตั้งแต่แรกเห็นเขารู้สึกถูกใจเธออย่างบอกไม่ถูกและบอกกับตัวเองว่าคนนี้แหละเมียและแม่ของลูกเขาในอนาคต
แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเป็นเมียเร็วขนาดนี้ผู้หญิงหลายๆคนต่างก็อยากได้ตำแหน่งเมียจากเขาแต่ก็ไม่เคยมีใครได้มันไปแต่กับเธอที่ได้ไปกลับหนีเขาไปเสียได้ เดี๋ยวก่อนเถอะงานเสร็จเมื่อเจอดีแน่เด็กน้อย ประธานหนุ่มที่ตกอยู่ในภวังค์ของตนเองก็สะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงาน
ก๊อกๆก๊อกๆก๊อกๆ
“ขออนุญาตครับท่าน”
“เข้ามา” ประธานหนุ่มตอบเสียงราบเรียบ
“ท่านครับ นี่เป็นเอกสารที่ต้องเซ็นครับ ส่วนนี่เป็นรายชื่อของนักศึกษาฝึกงานครับ”
“อืม เอาวางไว้ แล้วออกไปได้แล้ว”
“ท่านไม่เปิดดูรายชื่อนักศึกษาฝึกงานหน่อยหรือครับ” เลขาหนุ่มพูดเชิงหยอกเย้าเจ้านาย
“มันมีอะไรน่าสนใจนักหนาแค่นักศึกษาฝึกงาน แล้วปีนี้ได้มากี่คน”ประธานหนุ่มพูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“1 คน ครับ ปีนี้เราเปิดรับแค่แผนกออกแบบภายใน ที่ผ่านการคัดเลือกก็แค่คนเดียว”
“อืม”ประธานหนุ่มตอบรับในลำคอแล้วทำงานไม่สนใจเลขาหนุ่มที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามแม้แต่น้อย
“อะ....อ้าว ไม่เปิดดูหน่อยหรือครับ”
“ไหนมันมีอะไรทำไมถึงอยากให้เปิดดูนะ....นัก อื้ม” ประธานหนุ่มหยิบแฟ้มรายชื่อนักศึกษาฝึกงานขึ้นมาดูถึงกับอึ้งและพูดจาติดขัด ยกยิ้มมุมปากและได้แต่คิดว่าโลกอะไรมันจะกลมได้ขนาดนี้
“แหม ยิ้มใหญ่เลยนะครับ” เลขาหนุ่มเห็นอาการเจ้านายหลังจากเปิดดูแฟ้มรายชื่อนักศึกษาฝึกงานก็แอบแซวพอหอบปากหอมคอ
“แต่ก่อนที่ยิ้มจะดีใจจนเสียสติ ผมว่าท่านประธานพักผ่อนบ้างก็ดีนะครับ โทรมหมดแล้วเดี๋ยววันที่น้องเขามาฝึกงานแล้วเห็นเจ้าของบริษัทสภาพแบบนี้น้องเขาจะตกใจวิ่งหนีไม่อยากทำงานเอานะครับ”
“จะเดือนหนึ่งแล้วนะครับที่ท่านทำงานไม่พักเลย สุขภาพจะแย่เอานะครับ”เลขหนุ่มพูดด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าเจ้านายจะป่วยไปเสียก่อนงานจะเสร็จนี่สิ แต่ก็แอบแซวอย่างอดไม่ได้
“รู้แล้วนายไปทำงานของนายได้แล้วไป อ่อ แล้วถ้าเธอวิ่งหนีฉันที่แหละจะวิ่งตามเอง หึ”
“ครับ งั้นผมไปทำงานต่อแล้วนะครับ อย่าหักโหมนะครับเดี๋ยวไม่มีแรงวิ่งตาม เมียเด็ก”
หลังเลขาหนุ่มออกจากห้องไปเขาก็อดขำกับคำพูดของเลขาไม่ได้ ตั้งแต่วันนั้นเขาทำงานแทบจะไม่มีเวลานอนเพราะธุรกิจของเขาไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีธุรกิจของครอบครัวที่เขาต้องดูแลอีกมากมายจนทำให้ทำงานไม่มีเวลาพัก และอีกอย่างคือเขาอยากเคลียร์งานเพื่อที่จะเอาเวลาไปตามหาเด็กน้อยของเขาแต่เห็นทีว่าจะไม่ต้องออกไปตามหาให้เหนื่อยเพราะเด็กน้อยมาหาเขาเอง ชักจะรอไม่ไหวแล้วสิ
“หึ....เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกเด็กน้อย แล้วเจอกันนะครับเมีย ที่รักของเฮียวีร์”
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
one night stand กับท่านประธาน ปวีร์ อัศวภัชรกุล (วีร์) อายุ 32 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน เจ้าของธุรกิจรับออกแบบภายในระดับต้นๆของประเทศ และนอกจากนี้เขายังมีธุรกิจที่รับช่วงต่อจากพ่อของเขาเช่นกัน ปวีร์เป็นผู้ชายที่เงียบขรึม จริงจังกับงานเป็นอย่างมาก เย็นชา เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ สาวน้อยใหญ่ต่างให้ความสนใจเขาและอยากได้ชายหนุ่มมาครอบครองเพียงเพราะต้องการความสุขสบาย แต่ชายหนุ่มกลีบไม่แม้แต่สนใจพวกเธอที่หวังเงินของเขาแม้แต่น้อย จนกระทั่งเขาได้พบกับเด็กสาวที่ทำให้ความรู้สึกเย็นชาในใจของเขาเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นิสัย : เย็นชา บ้างาน ขี้หึง ขี้หวง ไม่เจ้าชู้ ปรางทิพย์ จันวราสกุล (ปราง) อายุ 22 ปี นักศึกษาสาวชั้นที่ปี4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบภายใน หน้าตาน่ารักเป็นที่หมายตาต้องใจของหนุ่มๆในมหาลัยแต่หญิงสาวกลับไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ เพราะหญิงสาวอยากตั้งใจเรียนให้จบจึงทำให้เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรักหรือการมีแฟนสักเท่าไหร่ต่อให้มีใครมาขายขนมจีบเธอมากมายแค่ไหนก็ตาม หญิงสาวต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังเนื่องจากพ่อแม่ของเธอจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากที่
(ปราง) สวัสดีฉันชื่อปราง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปี4 วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย เดือนหน้าก็ต้องไปฝึกงานแล้ว ฉันมีเวลาพักผ่อนสมองหนึ่งเดือนหลังจากสอบเสร็จ แต่พักแค่สมองนั้นแหละแต่ร่างกายยังต้องใช้งานเหมือนเดิม เพราะฉันยังต้องไปทำงานอยู่เหมือนเดิมเพื่อส่งตัวเองเรียนให้จบ ในช่วงที่เรียนจบมัธยมแรกๆถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่เรียนจบก็ได้รับข่าวร้ายว่าพ่อกับแม่ของฉันท่านไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ท่านจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในระหว่างที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ทำให้ฉันต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองส่งตัวเองเรียน แต่ก็ยังดีมีบ้านที่ฉันเคยอยู่กับท่านเป็นบ้านที่เราอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนี้พร้อมกับเงินเก็บและเงินประกันหนึ่งก้อนที่พวกท่านทำเอาไว้ซึ่งฉันไม่เคยต้องการสักนิดมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่ฉันต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพวกท่านอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปและต้องใช้มันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ฉันตั้งใจว่าจะเอาเงินพวกนั้นออกมาใช้เมื่อจำเป็นและใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั
KT Pub 20:00 น. เสียงดนตรีดังกระหึ่มเข้ามาให้โสตประสาทของหญิงสาวทันทีเมื่อขาเรียวก้าวเหยียบเท้าเข้ามาเพียงแต่หน้าทางเข้าของผับเท่านั้น ผู้คนหนุ่มสาวมากมายต่างก็โยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลงที่ดีเจเปิดเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการดื่มของเหล่านักท่องราตรี ผู้คนจำนวนมากต่างเบียดเสียดกันจนหน้าอึดอัดไปหมดหญิงสาวใช้สายตาสอดส่องมองเพื่อนสาวของเธอท่ามกลางแสงไฟสลัวที่แทบจะมองอะไรไม่เห็นแม้แต่ทางเดิน และในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบความสำเร็จหญิงสาวใช้สายตามองหาเพื่อนสาวของเธอจนเจอในที่สุด ที่ยอมมาตามนัดในวันนี้เพราะเธอปฏิเสธเพื่อนหลานครั้งแล้วซึ่งก่อนหน้าที่หญิงสาวจะถึงที่หมายเพื่อนของเธอก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยก่อนหน้าไม่นาน เมื่อเจอเป้าหมายหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนของเธอทันที แต่เมื่อหญิงสาวมาถึงโต๊ะก็เกิดอาการแปลกใจไม่น้อยที่ในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวของเธอแต่มีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่แววตานั้นเจ้าเล่ห์ดูไม่เป็นมิตรแต่ยังไม่ที่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยทักถามเพื่อคลายความสงสัยเพื่อนเธอก็ทักขึ้นมาเสียก่อนและแนะนำเขาให้รู้จัก “นี่ยัยปรางฉันคิดว่าแกจะเทฉันอี
KT Pub20:00 น. ประธานหนุ่มมาถึงสถานบันเทิงที่นัดหมายกับเพื่อนไว้ก็ตรงไปหาเพื่อนๆที่ชั้นสองของผับซึ่งเป็นโซนสำหรับลูกค้าVIPเท่านั้นโดยปกติแล้วเวลาที่พวกเขามาสังสรรค์กันพวกเขาก็มักจะไปนั่งดื่มกันชั้นสอง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเมื่อมาถึงห้องที่มีเพื่อนของเขาอยู่ประธานหนุ่มจึงเปิดประตูเข้าไปโดยภายในห้องไม่มีผู้หญิงหรือใครอื่นนอกจากพวกเขา เพราะเพื่อนเขาทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ก็จะเหลือเพียงแค่ประธานหนุ่มที่ยังไม่มีคู่กับเขาสักที เพราะความบ้างานของตัวเองทำแต่งานไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัว ถึงแม้จุดที่พวกเข้านั่งอยู่จะเป็นห้องVIPมีความเป็นส่วนตัว แต่ในจุดที่พวกเขานั่งดื่มนั้นสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งผับเพราะด้านข้างเป็นกระจกที่จะมีแค่คนที่นั่งอยู่ในห้องเท่านั่นจะมองเห็นแต่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ข้างในห้องได้ได้ ในขณะที่ประธานหนุ่มกำลังดื่มฉลองให้กับลูกคนที่สามของเพื่อนอยู่นั่นสายตาของเขาก็มาไปรอบๆทำให้สายตาของเขาไปสะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในร้านหน้าตาน
ปังงง!!!!!!!!!!!!! ประธานหนุ่มปิดประตูเสียงดังโดยไม่กลัวว่าประตูห้องจะพัง เมื่อประตูห้องปิดลงประธานหนุ่มก็วางหญิงสาวลง ปากหนาประกบจูบไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าทันที หญิงสาวที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กเล่นงานอย่างหนักเธอไม่นึกเขินอายที่ต้องมาจูบกับชายแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะความต้องการที่มีมากกว่าความอายของเธอทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนนี้หญิงสาวต้องการปลดปล่อยมากกว่าที่จะมานั่งเขินอาย ประธานหนุ่มเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นของหญิงสาว มือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่สมส่วนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความต้องการที่มีมากไม่ต่างกัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาอยู่ที่เต้ากลมสวยใหญ่จนล้นมือของเขา ประธานหนุ่มคลึงบริเวณยอดประทุมถันของเธอ จึงทำให้หญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออึงออกมากด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อน “อื้อ อย่าทำ บะ แบบนั้น” หญิงสาวเอยเสียงกระท่อนกระแท่นประธานหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจที่สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวตรงหน้าได้ ปากของทั้งสองยัง
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
1 เดือนผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำ
06:00 น. “อื้ออออออ” หญิงสาวขยับร่างที่ไร้ซึ่งอาภรมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังเรือนร่างก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะและปวดเมื่อยร่างกายไม่น้อยดวงตาสวยกระทบกับแสงแดดเธอกระพริบตาสองสามทีไร้อาการมึนงงเรียกสติตัวเอง เพื่อนึกย้อนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเธอและทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืนนี้ พอตั้งสติได้ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในโสตประสาทของเธอ ถึงแม้หญิงสาวจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมดว่าเธอทำอะไรลงไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและฝืนฤทธิ์ของยาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ บวกกับการเล้าโลมของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้ทั้งที่เธอไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ผับเมื่อคืนและครั้งล่าสุดคือตอนนี้ที่เขานอนเอาแขนหนักๆมากอดที่เอวของเธอ หญิงสาวทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนปะติดปะต่อได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้คือการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะตื่นเสียก่อน พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเตี
ปังงง!!!!!!!!!!!!! ประธานหนุ่มปิดประตูเสียงดังโดยไม่กลัวว่าประตูห้องจะพัง เมื่อประตูห้องปิดลงประธานหนุ่มก็วางหญิงสาวลง ปากหนาประกบจูบไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าทันที หญิงสาวที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กเล่นงานอย่างหนักเธอไม่นึกเขินอายที่ต้องมาจูบกับชายแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะความต้องการที่มีมากกว่าความอายของเธอทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนนี้หญิงสาวต้องการปลดปล่อยมากกว่าที่จะมานั่งเขินอาย ประธานหนุ่มเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นของหญิงสาว มือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่สมส่วนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความต้องการที่มีมากไม่ต่างกัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาอยู่ที่เต้ากลมสวยใหญ่จนล้นมือของเขา ประธานหนุ่มคลึงบริเวณยอดประทุมถันของเธอ จึงทำให้หญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออึงออกมากด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อน “อื้อ อย่าทำ บะ แบบนั้น” หญิงสาวเอยเสียงกระท่อนกระแท่นประธานหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจที่สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวตรงหน้าได้ ปากของทั้งสองยัง
KT Pub20:00 น. ประธานหนุ่มมาถึงสถานบันเทิงที่นัดหมายกับเพื่อนไว้ก็ตรงไปหาเพื่อนๆที่ชั้นสองของผับซึ่งเป็นโซนสำหรับลูกค้าVIPเท่านั้นโดยปกติแล้วเวลาที่พวกเขามาสังสรรค์กันพวกเขาก็มักจะไปนั่งดื่มกันชั้นสอง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเมื่อมาถึงห้องที่มีเพื่อนของเขาอยู่ประธานหนุ่มจึงเปิดประตูเข้าไปโดยภายในห้องไม่มีผู้หญิงหรือใครอื่นนอกจากพวกเขา เพราะเพื่อนเขาทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ก็จะเหลือเพียงแค่ประธานหนุ่มที่ยังไม่มีคู่กับเขาสักที เพราะความบ้างานของตัวเองทำแต่งานไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัว ถึงแม้จุดที่พวกเข้านั่งอยู่จะเป็นห้องVIPมีความเป็นส่วนตัว แต่ในจุดที่พวกเขานั่งดื่มนั้นสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งผับเพราะด้านข้างเป็นกระจกที่จะมีแค่คนที่นั่งอยู่ในห้องเท่านั่นจะมองเห็นแต่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ข้างในห้องได้ได้ ในขณะที่ประธานหนุ่มกำลังดื่มฉลองให้กับลูกคนที่สามของเพื่อนอยู่นั่นสายตาของเขาก็มาไปรอบๆทำให้สายตาของเขาไปสะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในร้านหน้าตาน
KT Pub 20:00 น. เสียงดนตรีดังกระหึ่มเข้ามาให้โสตประสาทของหญิงสาวทันทีเมื่อขาเรียวก้าวเหยียบเท้าเข้ามาเพียงแต่หน้าทางเข้าของผับเท่านั้น ผู้คนหนุ่มสาวมากมายต่างก็โยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลงที่ดีเจเปิดเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการดื่มของเหล่านักท่องราตรี ผู้คนจำนวนมากต่างเบียดเสียดกันจนหน้าอึดอัดไปหมดหญิงสาวใช้สายตาสอดส่องมองเพื่อนสาวของเธอท่ามกลางแสงไฟสลัวที่แทบจะมองอะไรไม่เห็นแม้แต่ทางเดิน และในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบความสำเร็จหญิงสาวใช้สายตามองหาเพื่อนสาวของเธอจนเจอในที่สุด ที่ยอมมาตามนัดในวันนี้เพราะเธอปฏิเสธเพื่อนหลานครั้งแล้วซึ่งก่อนหน้าที่หญิงสาวจะถึงที่หมายเพื่อนของเธอก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยก่อนหน้าไม่นาน เมื่อเจอเป้าหมายหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนของเธอทันที แต่เมื่อหญิงสาวมาถึงโต๊ะก็เกิดอาการแปลกใจไม่น้อยที่ในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวของเธอแต่มีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่แววตานั้นเจ้าเล่ห์ดูไม่เป็นมิตรแต่ยังไม่ที่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยทักถามเพื่อคลายความสงสัยเพื่อนเธอก็ทักขึ้นมาเสียก่อนและแนะนำเขาให้รู้จัก “นี่ยัยปรางฉันคิดว่าแกจะเทฉันอี
(ปราง) สวัสดีฉันชื่อปราง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปี4 วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย เดือนหน้าก็ต้องไปฝึกงานแล้ว ฉันมีเวลาพักผ่อนสมองหนึ่งเดือนหลังจากสอบเสร็จ แต่พักแค่สมองนั้นแหละแต่ร่างกายยังต้องใช้งานเหมือนเดิม เพราะฉันยังต้องไปทำงานอยู่เหมือนเดิมเพื่อส่งตัวเองเรียนให้จบ ในช่วงที่เรียนจบมัธยมแรกๆถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่เรียนจบก็ได้รับข่าวร้ายว่าพ่อกับแม่ของฉันท่านไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ท่านจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในระหว่างที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ทำให้ฉันต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองส่งตัวเองเรียน แต่ก็ยังดีมีบ้านที่ฉันเคยอยู่กับท่านเป็นบ้านที่เราอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนี้พร้อมกับเงินเก็บและเงินประกันหนึ่งก้อนที่พวกท่านทำเอาไว้ซึ่งฉันไม่เคยต้องการสักนิดมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่ฉันต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพวกท่านอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปและต้องใช้มันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ฉันตั้งใจว่าจะเอาเงินพวกนั้นออกมาใช้เมื่อจำเป็นและใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั