06:00 น.
“อื้ออออออ”
หญิงสาวขยับร่างที่ไร้ซึ่งอาภรมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังเรือนร่างก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะและปวดเมื่อยร่างกายไม่น้อยดวงตาสวยกระทบกับแสงแดดเธอกระพริบตาสองสามทีไร้อาการมึนงงเรียกสติตัวเอง เพื่อนึกย้อนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเธอและทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืนนี้ พอตั้งสติได้ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในโสตประสาทของเธอ ถึงแม้หญิงสาวจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมดว่าเธอทำอะไรลงไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและฝืนฤทธิ์ของยาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ บวกกับการเล้าโลมของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้ทั้งที่เธอไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ผับเมื่อคืนและครั้งล่าสุดคือตอนนี้ที่เขานอนเอาแขนหนักๆมากอดที่เอวของเธอ หญิงสาวทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนปะติดปะต่อได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้คือการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะตื่นเสียก่อน พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ต้องล้มลงนอนอีกครั้ง และเผลอร้องออกมาจากอาการเจ็บระบมตรงกลางกายสาวที่ผ่านการร่วมรักกันมาอย่างหนักหน่วง เธอรีบเอามือปิดปากเพราะกลัวเสียงของเธอจะไปรบกวนการนอนของเขาจนทำให้เขาตื่นก่อนที่เธอจะออกจากห้องของเขา
“โอ๊ยยยย.. ซี๊ดด..ทำเจ็บจังว่ะ ไปตายอดตายอยากมาจากไหนเนี้ย หน้าตาก็ดีไม่คิดว่าจะดุขนาดนี้”
หญิงสาวค่อยๆเอามือของเขาออกจากเอวบางของเธออย่างเบามือ หญิงสาวกัดฟันกลั้นความเจ็บแล้วก้าวลงจากเตียงเธอทำทุกอย่างด้วยความเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ตกอยู่ข้างเตียง แต่ก็ไม่วายบ่นชายหนุ่มไปด้วยโทษฐานที่ทำให้น้องสาวเธอเจ็บระบมจนแทบจะเดินไม่ได้ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วเธอก็เดินไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำพอเสร็จก็รีบออกมาจากห้องของการประธานหนุ่มทันที โดยทุกการกระทำหญิงสาวพยายามทำมันอย่างเบามือที่สุด แม้แต่เปิดและปิดประตูห้องชายหนุ่ม
หญิงสาวโบกรถไปที่บ้านของเธอเมื่อมาถึงบ้านเธอเดินขึ้นไปบนห้องนอนแล้วลงตัวลงนอนบนที่นอนด้วยความอ่อนล้าพร้อมอาการเจ็บกลางกายสาวที่เหมือนว่าจะระบบมากกว่าเมื่อเช้าที่เธอตื่นขึ้นมาเสียอีก หญิงสาวไม่คิดว่าจะต้องมาเสียครั้งแรกให้กับผู้ชายแปลกหน้าแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเสียดายอะไรกับสิ่งที่เสียไปแล้วเพราะนี่มันก็สมัยไหนแล้วโลกมันไปไกลมากเกินกว่าจะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้
หญิงสาวสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองแล้วหลับตาลงตอนนี้เธอสิ่งต้องการมากที่สุดคือการนอนหลับพักผ่อนไม่อยากคิดอะไรให้รกสมอง และตอนนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนจะมีไข้อ่อนๆด้วย
หญิงสาวหลับตั้งแต่ช่วงสายหลังจากที่มาถึงบ้านจนถึงช่วงเย็นความหิวประท้วงให้เธอตื่นจากการนอนหลับเพราะทนต่อความหิวไม่ไหวจึงต้องลุกจากที่นอนทั้งยังอยากนอนต่ออีกหน่อยก็ตาม หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นมากจากความเหนื่อยล้าเมื่อเช้าแต่อาการเจ็บตรงกลางกายสาวยังคงมีอยู่รวมถึงอาการไข้อ่อนๆของเธอด้วย หญิงสาวเดินลงมาชั้นล่างของบ้าน บ้านของหญิงสาวเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้นบ้านหลังนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อกับแม่มีให้ก่อนที่จะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
หญิงสาวเดินเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นหาของที่พอจะกินได้แทนข้าวที่รวมสามมื้อไว้ในมื้อเดียวกัน ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ทำเพราะเธอต้องการขึ้นไปนอนพักผ่อนมากเกินกว่าจะมาทำอาหารกินเองเหมือนปกติ ถึงแม้ว่าอาการเหนื่อยล้าจะดีขึ้นแต่เธอก็ยังรู้สึกว่ายังต้องการพักผ่อนต่ออีกเธอจึงเลือกหาอะไรในตู้เย็นกินลองท้องจะได้กินยา พรุ่งนี้เธอต้องไปทำงานแต่เช้าซึ่งวันนี้จากที่ต้องไปทำงานก็ต้องขาดงานเพราะฝืนร่างกายไม่ไหว เธอมีเวลาในการทำงานอีกแค่หนึ่งเดือนก่อนเปิดเทอม หญิงสาวเหลือฝึกงานเทอมสุดท้ายเท่านั้นก็จะเรียนจบแล้ว เปิดเทอมนี้เธอต้องเริ่มฝึกงานเป็นเวลาสี่เดือนและหญิงสาวก็ได้ที่ฝึกงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วบริษัทที่หญิงสาวจะไปฝึกงานเป็นบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆของประเทศ
หลังจากที่ทานข้าวและยาเรียบร้อยก็เดินขึ้นชั้นบนทันที เมื่อมาถึงเตียงนอนหญิงสาวล้มตัวลงนอนเปลือกตาของหญิงสาวค่อยๆปิดลงเมื่อหัวสัมผัสกับความนุ่มนิ่มของหมอน
ทางด้านปวีร์
10:00 น.
ประธานหนุ่มขยับตัวตื่นช่วงสายของวันร่างแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อย มือหนาก็ควานหาร่างนิ่มของหญิงสาวที่นอนข้างเขาตลอดทั้งคืนแต่ตอนนี้กลับเหลือมีแต่ความว่างเปล่าข้างกายพร้อมกลิ่นเฉพาะตัวของหญิงสาวที่ติดอยู่ที่หมอนและบริเวณที่หญิงสาวนอน ประธานหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นก็ดันตัวลุกขึ้นใช้สายตาสอดส่องมองหาไปรอบห้องที่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของเธอ จึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย ที่เธอหนีเขาไปแต่ไม่ทันที่จะคิดอะไรไปมากกว่านั้นเสียงเคาะประตูและเสียงเรียกที่เขาจำได้ดีว่าเป็นใครกันที่มาเรียกเขาอยู่หน้าห้อง
ก๊อกๆก๊อกๆก๊อกๆ
“ท่านครับ คุณวีร์ ตื่นหรือยังครับ คุณปวีร์” กิตต์เรียกเจ้านายหนุ่มอยู่หน้าห้อง เหตุผลที่ต้องมาเรียกเจ้านายถึงคอนโดเพราะเขาเข้าไปบริษัทแต่เช้า เตรียมเอกสารที่ประธานหนุ่มต้องเซ็นอนุมัติในวันนี้แต่เขารอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นว่าเจ้านายของเขาจะมา เขานึกแปลกใจเพราะทั้งโทรและส่งข้อความไปเจ้านายก็ไม่รับสาย นึกเป็นห่วงผู้เป็นนาย เขาเลยต้องมายืนเรียกเจ้านายอยู่หน้าห้องตอนนี้แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา
“ท่านครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ พี่วีร์”
ก๊อกๆก๊อกๆก๊อกๆ
ประธานหนุ่มเดินออกมาเปิดประตูด้วยสภาพที่หาดูได้ยากแม้แต่คนในครอบครัวยังไม่เคยเห็นเขาในสภาพนี้มาก่อน เพราะประธานหนุ่มจัดได้ว่าเป็นคนที่ดูดีตั้งแต่ตัวจรดเท้า เขาเดินออกจากห้องนอนมาเปิดประตูให้เลขา ถ้าหากปล่อยให้เรียกอยู่อย่างนี้คงต้องเจ็บคอเป็นแน่
“ท่านคะ......ครับ อื้ม เอ่อ”กิตต์ที่กำลังจะเรียกเจ้านายอีกครั้งก็ต้องเงียบเสียงและตกตะลึงกับสภาพเจ้านาย ที่บนตัวมีรอยรักหลายจุดพอสมควรซึ่งก็น่าจะเดาได้ไม่อยากว่าเจ้านายของเขานั้นไปทำอะไรมาแต่ที่น่าแปลกคือนายเขาไม่เคยพาใครมาที่ห้อง เพราะส่วนมากถ้านายเขาต้องการปลดปล่อยเขาจะเป็นคนจัดการแล้วนัดให้ไปที่โรงแรมหรือว่าเจ้านายเขาจะมีแฟน
“มีอะไรมาทำไมแต่เช้า”ประธานหนุ่มถามกิตต์เสียงนิ่ง
“ท่านครับนี่มันเช้าที่ไหน สายแล้วครับ ท่านลืมเหรอครับว่าวันนี้ต้องเข้าไปเซ็นเอกสารสำคัญแล้วก็อนุมัติเงินเดือนพนักงาน”
ประธานหนุ่มหันไปมองนาฬิกาที่อยู่ในห้องรับแขกก็เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงแล้ว ตั้งแต่ทำงานมาเขาไม่เคยไปทำงานสายขนาดนี้ แต่การที่มีเด็กน้อยนอนอยู่ข้างกาย ทำให้เขารู้สึกได้ชาร์จพลังจนทำให้นอนจนลืมเวลาบวกกับกิจกรรมที่เข้าทำกับเธอเมื่อคืนจนเกือบเช้าของอีกวัน
“นายเข้ามารอข้างใน ขออาบน้ำแป๊ป”
“ครับท่าน”เลขาหนุ่มตอบรับเพียงแค่นั้นแล้วเดินเลี่ยงเข้ามานั่งรอเจ้านายที่ห้องรับแขก
“วันนี้งานที่ฉันต้องทำมีอะไรบ้าง”ประธานหนุ่มถามภาระงานที่เขาต้องทำวันนี้
“วันนี้เซ็นเอกสารสัญญาซื้อขายสี่ห้าเล่ม แล้วก็เอกสารอนุมัติเงินเดือนพนังงาน ตอนบ่ายมีประชุมฝ่าย แล้วก็มีคุยงานกับลูกค้าต่อครับ วันนี้งานของท่านมีแค่นี้ครับ”กิตต์รายงานตารางของวันนี้ให้ประธานหนุ่มฟัง
“อืม....เอ้อ....กิตต์นายไปดูกล้องหน้าห้องฉันแล้วไปสืบประวัติผู้หญิงที่ออกจากห้องฉันเมื่อเช้ามาหน่อย”
“ได้ครับท่าน”
ประทานหนุ่มสั่งงานเลขาหนุ่มเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องนอนและหันมองไปที่เตียงพลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนและยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายแต่ก็มิวายนึกถึงหน้าตาน่ารักและเรือนร่างนุ่มนิ่มของเด็กน้อยของเขาแก่นกายใหญ่ที่พึ่งสงบไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก็ผงาดแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้งเสียดื้อๆ ประธานหนุ่มจำต้องพึ่งแม่นางทั้งห้าชักรูดแก่นกายใหญ่เพื่อดับอารมณ์ความต้องการ เขาจินตนาการว่าเด็กน้อยของเขากำลังใช้ปากอวบอิ่มปรนเปรอแก่นกายใหญ่ให้เขา
“โอ้วว อื้อ ปราง ซี๊ด เก่งมากเด็กน้อย อ๊าส์” ประธานหนุ่มครางระบายความเสียวซ่านอย่างสุขสม แต่จะดีกว่านี้ถ้าแก่นกายใหญ่ของเขาได้เข้าไปอยู่ในร่องอุ่นๆของเด็กน้อยที่บังอาจหนีเขาไป กล้ามากที่หนีเขาไป
“Shitt!! ดีมากปราง ซี๊ด อื้มม เสียวว”เสียงครางดังระงมทั่วห้องน้ำ
“อีกนิด ซี๊ด ที่รักปราง อ๊าส์ หนูเก่งเกินไปแล้วเด็กน้อย ซี๊ดดด ดูดหัว อู๊วววว”
“อื้มมมมมมมมม ซี๊ดดด” ประธานหนุ่มปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเต็มอุ้งมือ แล้วนึกขำตัวเองที่เพียงแค่นึกถึงหน้าของหญิงสาวก็เกิดอารมณ์ต้องการขึ้นมาเสียดื้อๆ
หึ......เด็กน้อยเธอหนีฉันไม่รอดแน่ เธอเป็นเมียฉันแล้วไม่มีสิทธิ์ไปเป็นเมียใครอีก เธอตั้งเป็นของฉันคนเดียว
1 เดือนผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำ
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
one night stand กับท่านประธาน ปวีร์ อัศวภัชรกุล (วีร์) อายุ 32 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน เจ้าของธุรกิจรับออกแบบภายในระดับต้นๆของประเทศ และนอกจากนี้เขายังมีธุรกิจที่รับช่วงต่อจากพ่อของเขาเช่นกัน ปวีร์เป็นผู้ชายที่เงียบขรึม จริงจังกับงานเป็นอย่างมาก เย็นชา เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ สาวน้อยใหญ่ต่างให้ความสนใจเขาและอยากได้ชายหนุ่มมาครอบครองเพียงเพราะต้องการความสุขสบาย แต่ชายหนุ่มกลีบไม่แม้แต่สนใจพวกเธอที่หวังเงินของเขาแม้แต่น้อย จนกระทั่งเขาได้พบกับเด็กสาวที่ทำให้ความรู้สึกเย็นชาในใจของเขาเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นิสัย : เย็นชา บ้างาน ขี้หึง ขี้หวง ไม่เจ้าชู้ ปรางทิพย์ จันวราสกุล (ปราง) อายุ 22 ปี นักศึกษาสาวชั้นที่ปี4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบภายใน หน้าตาน่ารักเป็นที่หมายตาต้องใจของหนุ่มๆในมหาลัยแต่หญิงสาวกลับไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ เพราะหญิงสาวอยากตั้งใจเรียนให้จบจึงทำให้เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรักหรือการมีแฟนสักเท่าไหร่ต่อให้มีใครมาขายขนมจีบเธอมากมายแค่ไหนก็ตาม หญิงสาวต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังเนื่องจากพ่อแม่ของเธอจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากที่
(ปราง) สวัสดีฉันชื่อปราง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปี4 วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย เดือนหน้าก็ต้องไปฝึกงานแล้ว ฉันมีเวลาพักผ่อนสมองหนึ่งเดือนหลังจากสอบเสร็จ แต่พักแค่สมองนั้นแหละแต่ร่างกายยังต้องใช้งานเหมือนเดิม เพราะฉันยังต้องไปทำงานอยู่เหมือนเดิมเพื่อส่งตัวเองเรียนให้จบ ในช่วงที่เรียนจบมัธยมแรกๆถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่เรียนจบก็ได้รับข่าวร้ายว่าพ่อกับแม่ของฉันท่านไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ท่านจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในระหว่างที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ทำให้ฉันต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองส่งตัวเองเรียน แต่ก็ยังดีมีบ้านที่ฉันเคยอยู่กับท่านเป็นบ้านที่เราอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนี้พร้อมกับเงินเก็บและเงินประกันหนึ่งก้อนที่พวกท่านทำเอาไว้ซึ่งฉันไม่เคยต้องการสักนิดมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่ฉันต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพวกท่านอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปและต้องใช้มันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ฉันตั้งใจว่าจะเอาเงินพวกนั้นออกมาใช้เมื่อจำเป็นและใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั
KT Pub 20:00 น. เสียงดนตรีดังกระหึ่มเข้ามาให้โสตประสาทของหญิงสาวทันทีเมื่อขาเรียวก้าวเหยียบเท้าเข้ามาเพียงแต่หน้าทางเข้าของผับเท่านั้น ผู้คนหนุ่มสาวมากมายต่างก็โยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลงที่ดีเจเปิดเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการดื่มของเหล่านักท่องราตรี ผู้คนจำนวนมากต่างเบียดเสียดกันจนหน้าอึดอัดไปหมดหญิงสาวใช้สายตาสอดส่องมองเพื่อนสาวของเธอท่ามกลางแสงไฟสลัวที่แทบจะมองอะไรไม่เห็นแม้แต่ทางเดิน และในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบความสำเร็จหญิงสาวใช้สายตามองหาเพื่อนสาวของเธอจนเจอในที่สุด ที่ยอมมาตามนัดในวันนี้เพราะเธอปฏิเสธเพื่อนหลานครั้งแล้วซึ่งก่อนหน้าที่หญิงสาวจะถึงที่หมายเพื่อนของเธอก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยก่อนหน้าไม่นาน เมื่อเจอเป้าหมายหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนของเธอทันที แต่เมื่อหญิงสาวมาถึงโต๊ะก็เกิดอาการแปลกใจไม่น้อยที่ในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวของเธอแต่มีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่แววตานั้นเจ้าเล่ห์ดูไม่เป็นมิตรแต่ยังไม่ที่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยทักถามเพื่อคลายความสงสัยเพื่อนเธอก็ทักขึ้นมาเสียก่อนและแนะนำเขาให้รู้จัก “นี่ยัยปรางฉันคิดว่าแกจะเทฉันอี
KT Pub20:00 น. ประธานหนุ่มมาถึงสถานบันเทิงที่นัดหมายกับเพื่อนไว้ก็ตรงไปหาเพื่อนๆที่ชั้นสองของผับซึ่งเป็นโซนสำหรับลูกค้าVIPเท่านั้นโดยปกติแล้วเวลาที่พวกเขามาสังสรรค์กันพวกเขาก็มักจะไปนั่งดื่มกันชั้นสอง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเมื่อมาถึงห้องที่มีเพื่อนของเขาอยู่ประธานหนุ่มจึงเปิดประตูเข้าไปโดยภายในห้องไม่มีผู้หญิงหรือใครอื่นนอกจากพวกเขา เพราะเพื่อนเขาทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ก็จะเหลือเพียงแค่ประธานหนุ่มที่ยังไม่มีคู่กับเขาสักที เพราะความบ้างานของตัวเองทำแต่งานไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัว ถึงแม้จุดที่พวกเข้านั่งอยู่จะเป็นห้องVIPมีความเป็นส่วนตัว แต่ในจุดที่พวกเขานั่งดื่มนั้นสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งผับเพราะด้านข้างเป็นกระจกที่จะมีแค่คนที่นั่งอยู่ในห้องเท่านั่นจะมองเห็นแต่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ข้างในห้องได้ได้ ในขณะที่ประธานหนุ่มกำลังดื่มฉลองให้กับลูกคนที่สามของเพื่อนอยู่นั่นสายตาของเขาก็มาไปรอบๆทำให้สายตาของเขาไปสะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในร้านหน้าตาน
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
1 เดือนผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำ
06:00 น. “อื้ออออออ” หญิงสาวขยับร่างที่ไร้ซึ่งอาภรมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังเรือนร่างก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะและปวดเมื่อยร่างกายไม่น้อยดวงตาสวยกระทบกับแสงแดดเธอกระพริบตาสองสามทีไร้อาการมึนงงเรียกสติตัวเอง เพื่อนึกย้อนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเธอและทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืนนี้ พอตั้งสติได้ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในโสตประสาทของเธอ ถึงแม้หญิงสาวจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมดว่าเธอทำอะไรลงไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและฝืนฤทธิ์ของยาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ บวกกับการเล้าโลมของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้ทั้งที่เธอไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ผับเมื่อคืนและครั้งล่าสุดคือตอนนี้ที่เขานอนเอาแขนหนักๆมากอดที่เอวของเธอ หญิงสาวทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนปะติดปะต่อได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้คือการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะตื่นเสียก่อน พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเตี
ปังงง!!!!!!!!!!!!! ประธานหนุ่มปิดประตูเสียงดังโดยไม่กลัวว่าประตูห้องจะพัง เมื่อประตูห้องปิดลงประธานหนุ่มก็วางหญิงสาวลง ปากหนาประกบจูบไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าทันที หญิงสาวที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กเล่นงานอย่างหนักเธอไม่นึกเขินอายที่ต้องมาจูบกับชายแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะความต้องการที่มีมากกว่าความอายของเธอทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนนี้หญิงสาวต้องการปลดปล่อยมากกว่าที่จะมานั่งเขินอาย ประธานหนุ่มเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นของหญิงสาว มือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่สมส่วนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความต้องการที่มีมากไม่ต่างกัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาอยู่ที่เต้ากลมสวยใหญ่จนล้นมือของเขา ประธานหนุ่มคลึงบริเวณยอดประทุมถันของเธอ จึงทำให้หญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออึงออกมากด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อน “อื้อ อย่าทำ บะ แบบนั้น” หญิงสาวเอยเสียงกระท่อนกระแท่นประธานหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจที่สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวตรงหน้าได้ ปากของทั้งสองยัง
KT Pub20:00 น. ประธานหนุ่มมาถึงสถานบันเทิงที่นัดหมายกับเพื่อนไว้ก็ตรงไปหาเพื่อนๆที่ชั้นสองของผับซึ่งเป็นโซนสำหรับลูกค้าVIPเท่านั้นโดยปกติแล้วเวลาที่พวกเขามาสังสรรค์กันพวกเขาก็มักจะไปนั่งดื่มกันชั้นสอง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเมื่อมาถึงห้องที่มีเพื่อนของเขาอยู่ประธานหนุ่มจึงเปิดประตูเข้าไปโดยภายในห้องไม่มีผู้หญิงหรือใครอื่นนอกจากพวกเขา เพราะเพื่อนเขาทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ก็จะเหลือเพียงแค่ประธานหนุ่มที่ยังไม่มีคู่กับเขาสักที เพราะความบ้างานของตัวเองทำแต่งานไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัว ถึงแม้จุดที่พวกเข้านั่งอยู่จะเป็นห้องVIPมีความเป็นส่วนตัว แต่ในจุดที่พวกเขานั่งดื่มนั้นสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งผับเพราะด้านข้างเป็นกระจกที่จะมีแค่คนที่นั่งอยู่ในห้องเท่านั่นจะมองเห็นแต่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ข้างในห้องได้ได้ ในขณะที่ประธานหนุ่มกำลังดื่มฉลองให้กับลูกคนที่สามของเพื่อนอยู่นั่นสายตาของเขาก็มาไปรอบๆทำให้สายตาของเขาไปสะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในร้านหน้าตาน
KT Pub 20:00 น. เสียงดนตรีดังกระหึ่มเข้ามาให้โสตประสาทของหญิงสาวทันทีเมื่อขาเรียวก้าวเหยียบเท้าเข้ามาเพียงแต่หน้าทางเข้าของผับเท่านั้น ผู้คนหนุ่มสาวมากมายต่างก็โยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลงที่ดีเจเปิดเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการดื่มของเหล่านักท่องราตรี ผู้คนจำนวนมากต่างเบียดเสียดกันจนหน้าอึดอัดไปหมดหญิงสาวใช้สายตาสอดส่องมองเพื่อนสาวของเธอท่ามกลางแสงไฟสลัวที่แทบจะมองอะไรไม่เห็นแม้แต่ทางเดิน และในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบความสำเร็จหญิงสาวใช้สายตามองหาเพื่อนสาวของเธอจนเจอในที่สุด ที่ยอมมาตามนัดในวันนี้เพราะเธอปฏิเสธเพื่อนหลานครั้งแล้วซึ่งก่อนหน้าที่หญิงสาวจะถึงที่หมายเพื่อนของเธอก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยก่อนหน้าไม่นาน เมื่อเจอเป้าหมายหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนของเธอทันที แต่เมื่อหญิงสาวมาถึงโต๊ะก็เกิดอาการแปลกใจไม่น้อยที่ในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวของเธอแต่มีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่แววตานั้นเจ้าเล่ห์ดูไม่เป็นมิตรแต่ยังไม่ที่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยทักถามเพื่อคลายความสงสัยเพื่อนเธอก็ทักขึ้นมาเสียก่อนและแนะนำเขาให้รู้จัก “นี่ยัยปรางฉันคิดว่าแกจะเทฉันอี
(ปราง) สวัสดีฉันชื่อปราง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปี4 วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย เดือนหน้าก็ต้องไปฝึกงานแล้ว ฉันมีเวลาพักผ่อนสมองหนึ่งเดือนหลังจากสอบเสร็จ แต่พักแค่สมองนั้นแหละแต่ร่างกายยังต้องใช้งานเหมือนเดิม เพราะฉันยังต้องไปทำงานอยู่เหมือนเดิมเพื่อส่งตัวเองเรียนให้จบ ในช่วงที่เรียนจบมัธยมแรกๆถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่เรียนจบก็ได้รับข่าวร้ายว่าพ่อกับแม่ของฉันท่านไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ท่านจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในระหว่างที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ทำให้ฉันต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองส่งตัวเองเรียน แต่ก็ยังดีมีบ้านที่ฉันเคยอยู่กับท่านเป็นบ้านที่เราอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนี้พร้อมกับเงินเก็บและเงินประกันหนึ่งก้อนที่พวกท่านทำเอาไว้ซึ่งฉันไม่เคยต้องการสักนิดมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่ฉันต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพวกท่านอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปและต้องใช้มันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ฉันตั้งใจว่าจะเอาเงินพวกนั้นออกมาใช้เมื่อจำเป็นและใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั