ปังงง!!!!!!!!!!!!!
ประธานหนุ่มปิดประตูเสียงดังโดยไม่กลัวว่าประตูห้องจะพัง เมื่อประตูห้องปิดลงประธานหนุ่มก็วางหญิงสาวลง ปากหนาประกบจูบไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าทันที หญิงสาวที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กเล่นงานอย่างหนักเธอไม่นึกเขินอายที่ต้องมาจูบกับชายแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะความต้องการที่มีมากกว่าความอายของเธอทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนนี้หญิงสาวต้องการปลดปล่อยมากกว่าที่จะมานั่งเขินอาย
ประธานหนุ่มเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นของหญิงสาว มือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่สมส่วนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความต้องการที่มีมากไม่ต่างกัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาอยู่ที่เต้ากลมสวยใหญ่จนล้นมือของเขา ประธานหนุ่มคลึงบริเวณยอดประทุมถันของเธอ จึงทำให้หญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออึงออกมากด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
“อื้อ อย่าทำ บะ แบบนั้น” หญิงสาวเอยเสียงกระท่อนกระแท่น
ประธานหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจที่สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวตรงหน้าได้ ปากของทั้งสองยังทำให้ที่ได้ดีไม่มีบกพร่องและยาวนานหลายนาที ทั้งคู่มัวเมากับรสจูบที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันถึงแม้จะเป็นจูบแรกของหญิงที่จะดูไม่ค่อยเป็นงานเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าคนตัวเล็กก็หัวไวไม่น้อย เสียงจูบแลกลิ้นของทั้งคู่ดังทั่วห้องกว้างอย่างไม่มีใครยอมใคร
จ๊วบๆ จ๊วบๆ จ๊วบๆ
ประธานหนุ่มอุ้มหญิงสาวในท่าเจ้าสาวอีกครั้งโดยที่ปากทั้งสองยังไม่ผละออกจากกัน ประธานหนุ่มอุ้มหญิงสาวเข้ามาในห้องนอนใหญ่ เดินตรงไปที่เตียงของเขาแล้ววางหญิงสาวบนเตียง และเข้าไปประกบจูบแลกลิ้นกับหญิงสาวอีกครั้ง ในขณะที่จูบประธานหนุ่มมือก็ถอดเสื้อผ้าทั้งของเขาและหญิงสาวออกทีละชิ้นจนทั้งสองร่างกายเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้า ทำให้แอร์เย็นๆ มาปะทะที่ร่างกายของหญิงสาวทำให้เธอรู้สึกขนลุก หญิงสาวเคลิ้มไปกับรสจูบของประธานหนุ่มโดยไม่สนว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นกำลังเปลือยเปล่าต่อหน้าชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเขา
ประธานหนุ่มผละหน้าออกจากการจูบเลื่อนไปหน้าลงมาที่คองามระหงของหญิงสาว ประธานหนุ่มเมื่อได้สูดดมซอกคอของหญิงสาวก็เผลอครางออกมาอย่างคนละเมอ
สูดดดดดดด
“อ๊า หอมจัง อ๊าส์” ประธานหนุ่มหลงใหลกลิ่นที่เป็นเฉพาะตัวของหญิงสาว
และในขณะเดียวกันหญิงสาวก็นอนกระสับกระส่ายต้องการให้ชายตรงหน้าให้ช่วยให้เธอได้ปลดปล่อยเสียที ประธานหนุ่มย้ายลงไปใช้ปากครอบลงที่ยอดอกที่แข็งเป็นไต ล่อตาล่อใจเชิญชวนให้ประธานหนุ่มครองครองมัน เขาไม่รอช้าครอบริมฝีปากกับยอดอกดูดสองเต้าอวบของหญิงสาวด้วยความหิวกระหายจนเกิดเสียงดังเหมือนลูกน้อยหิวนมแม่ไม่ผิด
จ๊วบๆ จ๊วบๆ จ๊วบๆ
ประธานหนุ่มดูดเลียเต้าอวบอย่างเมามันส่วนอีกข้างเขาก็ไม่อยากให้มันน้อยใจเขาเอามือบีบนวดและหยอกล้อกับยอดอกอีกข้างของเธอ ส่วนมืออีกข้างเอาไปคลึงปุ่มเสียวของหญิงสาวเพื่อทำให้ร่องสวาทหลั่งน้ำหวานของหญิงสาวออกมาจะได้ไม่ทำให้หญิงสาวเจ็บตอนที่แก่นกายของเขาสอดเข้าไปในกายของเธอ
หญิงรู้สึกเสียวซ่านกับสัมผัสแปลกใหม่ที่ชายตรงหน้ามอบให้บวกกับฤทธิ์ยาที่เธอกินเข้าไปทำให้ความเสียวซ่านเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า
ประธานหนุ่มหยอกล้อกับอกอวบจนพอใจแล้วก็ผละออกตอนนี้ใบหน้าของประธานหนุ่มถูกเลื่อนมาที่กลางกายของหญิงสาวที่ไม่เคยมีใครได้เห็นหรือสัมผัสมัน ประธานหนุ่มจ้องมองร่องสวาทของหญิงสาวที่ปิดสนิทของหญิงสาวด้วยสายตาที่หลงใหลเขาไม่เคยเห็นของใครสวยเท่าเธอมาก่อน ประธานหนุ่มค่อยๆ ก้มลงไปใช้ปลายลิ้นค่อยๆ สัมผัสกับปุ่มเสียวของหญิงสาว
หญิงสาวเมื่อถูกชายตรงหน้ามอบความเสียวซ่านอีกขั้นก็ทำให้เธอเสียวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เธอส่งมือไปขยุ้มที่ผมของชายตรงหน้าเพื่อระบายความเสียวของเธอ
“ซี๊ดดดดด อ๊าส์ๆ อย่าตรงมัน อื้ออออ” หญิงสาวครางออกมาไม่เป็นภาษา
“ทำไมเหรอ ตรงนี้มันทำไม แผล่บๆๆ ซูดด หวาน” ประธานหนุ่มผละออกจากกลางกายสาว แล้วเอ่ยถามเสียงแหบพร่า และก้มลงไปที่กลางกายสาวอีกเพื่อมอบความสุขปนเสียวซ่านให้กับหญิงสาวอีกครั้ง
“อ๊ะๆๆ อ๊าส์ๆ มะ มันเสียว มะ ไม่ไหว” หญิงสาวครางตอบชายตรงหน้า มือทั้งสองก็กดใบหน้าของชายตรงหน้าให้ชิดกับเกสรดอกไม้ของเธอมากกว่าเดิม
ประธานหนุ่มสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาวหนึ่งนิ้วก่อนเพื่อเปิดเป็นการเบิกทางให้กับแก่นกายใหญ่ที่เกินมาตรฐานของเขา
“อ๊ะ จะ เจ็บ อ๊ะ อ๊าส์” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บในตอนแรก ที่มีสิ่งแปลกปลอบสอดเข้ามาในช่องทางของเธอแต่ความเจ็บก็แปลเปลี่ยนไปเป็นความเสียวซ่านแทนเมื่อชายตรงหน้าเริ่มขยับนิ้วเข้าออกจากช้าก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกตามแรงอารมณ์
ประธานหนุ่มเพิ่มจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้วและสามนิ้วขยับเข้าออกในช่องทางของเธอเพื่อให้หญิงสาวได้คุ้นชินเพราะอีกไม่กี่อึดใจสิ่งที่เข้าไปอยู่ในกายของหญิงสาวจะไม่ใช่นิ้วของเขาแต่จะแก่นกายของเขาที่ใหญ่กว่านั้น ประธานหนุ่มชักนิ้วออกจากร่องสวาทเมื่อเห็นว่าช่องทางรักของหญิงสาวมีน้ำหวานหลั่งออกมาจำนวนมาก เพียงพอที่จะช่วยให้หญิงสาวไม่เจ็บมาก
“อ๊ะ!!! เอาออกทำไม” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดความรู้สึกของเธอราวกับถูกถีบลงจากสวรรค์ก็ไม่ปาน
“ใจเย็นสิเด็กน้อย นิ้วมันจะไปสู้เอ็นอุ่นๆได้ยังไง”ว่าเสร็จประธานก็ยืดตัวขึ้นจับแก่นกายชักขึ้นลงสองสามครั้งแล้วแยกขาหญิงสาวออกกว้างเพื่อที่จะได้แทรกตัวเข้าไปได้ ประธานหนุ่มเอาหัวปลายหยักไปเขี่ยถูไถบริเวณติ่งเสียว เป็นการทักทายร่องสวาทก่อนที่จะเช้าไปเชยชมความคับแน่นข้างใน
เขาดันแก่นกายเข้าไปในร่องสวาทของหญิงสาว แต่เข้าได้แค่ส่วนหัวก็จะทำให้เข้าแทบแตก ภายในของเธอทั้งอุ่นและตอดรัดส่วนหัวของเขาแน่นมากทำให้เขาขยับแก่นกายได้ยากถึงแม้จะมีน้ำหวานของหญิงสาวหลั่งมาจำนวนมากก็ตาม
“โอ๊ยย เจ็บ เอาออกไป ซี๊ดดด” หญิงสาวร้องด้วยความเจ็บที่มีบางสิ่งใหญ่กว่านิ้วสอดเข้ามาในร่องสวาทของเธอไม่เหมือนครั้งแรกที่เขาใช้เพียงแค่นิ้วสอดเข้ามาในร่องสวาทของเธอ
“อย่าเกร็งผ่อนคลาย ซี๊ดด จะแตก” ประธานหนุ่มก้มมองจุดเชื่อมต่อของทั้งสองเขาเห็นเลือดที่ปนกับน้ำหวานของหญิงสาวเคลือบอยู่ทั่วแก่นกายของเขา
“ไม่ไหว อึก เอาออก อื้อ ไปได้ไหม ไม่เอาแล้ว เจ็บ” หญิงสาวพูดบอกปนเสียงสะอื้นพร้อมกับหยาดน้ำตาไหลข้างแก้มเพราะความเจ็บที่ได้รับ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะมีความต้องการเพียงใดก็ตาม
“ไม่ทันแล้วเด็กน้อย อ๊าส์ ผ่อนคลายไม่เกร็ง ซี๊ดด ของเธอตอดฉัน” ประธานหนุ่มพยายามพูดปลอบให้เธอผ่อนคลาย เธอเจ็บเขาก็เจ็บ ถ้าเธอยังเกร็งอยู่อย่างนี้เขาก็แตกทั้งที่ยังไม่ได้ขยับแน่นอน
“อึก เจ็บไม่ไหว อ๊า อุ๊บบบบบ” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบประโยคชายตรงหน้าก็ก้มลงประกบปากหญิงสาวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เพราะตอนนี้เขาไม่ไหวแล้วประธานหนุ่มเริ่มขยับเอวเข้าออกอย่างเนิบนาบเป็นจังหวะเมื่อเห็นว่าหญิงสาวปรับตัวเข้ากับแก่นกายของเขาได้แล้ว
“อ๊ะๆๆ ซี๊ด อ๊าๆๆ สะ เสียวไม่ไหว” หญิงสาวจากความเจ็บในตอนแรกก็เปลี่ยนมาเป็นความเสียวแทน
“อื้มม เสียวสัส อ๊าส์ ร่องตอดมาก ที่รัก” ประธานหนุ่มครางออกมาอย่างสุขสม
ตับๆ ตับๆ ตับๆ
พับๆ พบๆ พับๆ
“อ๊ๆๆๆ คะ คุณเสียว อ๊ะๆๆ ปรางเสียว อ๊าส์”
“อ๊าส์ ครางชื่อผมวีร์ อื้ม เด็กน้อย”
“อ๊ะๆ วีร์ขาปราง อ๊าๆ เสียวแรงๆค่ะ อื้อๆ ปรางไม่ไหวแล้วอ๊ะๆ เสียว”
“Shitt!! เสียวหัวสัส อ๊าสสส” ประธานหนุ่มที่ได้ยินหญิงสาวครางชื่อก็เกิดอารมณ์มากขึ้นประธานหนุ่มจับล็อกเอวหญิงสาวแน่นแล้วกระแทกใส่ร่องสวาทของหญิงสาวอย่างหนักหน่วงตามแรงอารมณ์
“อ๊ะๆ วีร์ อ๊าส์ๆ แรงไปแล้ว เสียว ซี๊ดด”
“ซี๊ดๆ ปราง อ๊าส์ อื้มๆ ” หญิงสาวครางชื่อเขามากเท่าไหร่เขาก็กระแทกใส่ร่องสวาทหญิงสาวไม่มียั้ง
“วะ วีร์ อ๊ะ ซี๊ดๆ วะ วีร์ อ๊ะๆ แรงไปแล้ว อ๊าส์ ปรางเสียว อื้อๆ จะแตกแล้ว อ๊ะๆ”ยิ่งประธานหนุ่มกระแทกเอวสอบเร็วเท่าไหร่เสียงครางของหญิงสาวก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น
“อื้ม Shitt!! ปราง อ๊ะๆ ผมก็จะแตก อ๊าส์ๆ พร้อมกัน อ๊าส์”
“อ๊ายยยยยยย/อื้มมมมมมม”
ทั้งสองปลดปล่อยออกมาพร้อมกันจนทำให้ท้องน้อยของหญิงสาวอุ่นวาบประธานหนุ่มปลดปล่อยน้ำเชื้อของเขาเข้าในทุกหยดหยาดมิวายกระแทกย้ำราวกับกลัวว่าจะมีหยดใดหยดหนึ่งไหลออกมา หลังจากที่ปลดปล่อยประธานหนุ่มซบลงไปที่หน้าอกอวบอิ่มของหญิงสาวแล้วเงยหน้ามองหญิงสาวที่ตอนนี้เหนื่อยล้ากับกิจกรรมเมื่อครู่กำลังทำท่าจะหลับ ส่วนหญิงสาวที่กำลังจะหลับสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่กำลังขยายใหญ่อีกครั้งในร่องสวาทของเธอ
“อ๊ะ นี่คุณจะทำอะไรคะ ฉันเหนื่อยแล้วนะ อ๊าส์” หญิงสาวร้องออกมาด้วยสติที่เลือนรางแต่ก็ต้องเบิกตากว้างกับสิ่งที่ตื่นตัวในร่องสวาทของเธอ แล้วเอ่ยถามชายตรงหน้า
“ก็เอาเธอต่อไงเด็กน้อย รอบเดียวสำหรับผมพอหรอกนะ อื้มม ของเธอตอดผมไม่หยุดเลยนะ แน่นมาก ซี๊ดด”
“ซี๊ด แต่ อ๊าส์ อย่าขยับเสียว อู๊ยยย”จากเสียงร้องห้ามเป็นเสียงครางหวานเมื่อร่องสวาทถูกแก่นกายใหญ่กระแทกเข้ามาเน้นๆ
“ยาที่เธอกินไปยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายหรอกนะ”เอวสอบเริ่มขยับทำงานอีกครั้งเนิบนาบแต่ก็สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวไม่น้อย
“อ๊ะๆ แต่ฉันเหนื่อยแล้ว อ๊าๆ” ใช่เธอเหนื่อยแล้วตาจะปิดเต็มทีทั้งๆที่ร่างกายยังตอบสนองประธานหนุ่มได้ดีเพราะฤทธิ์ที่เธอกินเข้าไปยังไม่หมดฤทธิ์เหมือนที่เขาพูดแต่ตอนนี้ร่างกายของเธอกลับเหนื่อยล่าเต็มที ความต้องการกับร่างการของเธอมันช่างสวนทางกันเสียจริง
“คืนนี้ยังอีกยาวไกล เด็กน้อย ปรางยั่วผมเองนะ ซี๊ดด เสียวสัส” ประธานหนุ่มพูดกับหญิงสาว แล้วเริ่มกระแทกแก่นกายเข้าหาร่องสวาทของหญิงสาว ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เหนื่อย
“ซี๊ด วีร์ขา อ๊ะๆ ปรางเสียว อ๊าส์”หญิงสาวที่ถูกกระทำก็ได้แต่นอนครางอยู่ใต้ร่างของประธานหนุ่ม
“อื้มๆ Shitt!! เสียวหัวสัส อ๊าส์ ” ประธานหนุ่มเสพสุขจากร่างกายของหญิงสาวจนเกือบเช้าเหมือนคนตายอดตายอยากขาดเซ็กมานานแรมปี
พับๆ พับๆ พับๆ
ตับๆ ตับๆ ตับๆ
06:00 น. “อื้ออออออ” หญิงสาวขยับร่างที่ไร้ซึ่งอาภรมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังเรือนร่างก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะและปวดเมื่อยร่างกายไม่น้อยดวงตาสวยกระทบกับแสงแดดเธอกระพริบตาสองสามทีไร้อาการมึนงงเรียกสติตัวเอง เพื่อนึกย้อนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเธอและทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืนนี้ พอตั้งสติได้ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในโสตประสาทของเธอ ถึงแม้หญิงสาวจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมดว่าเธอทำอะไรลงไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและฝืนฤทธิ์ของยาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ บวกกับการเล้าโลมของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้ทั้งที่เธอไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ผับเมื่อคืนและครั้งล่าสุดคือตอนนี้ที่เขานอนเอาแขนหนักๆมากอดที่เอวของเธอ หญิงสาวทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนปะติดปะต่อได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้คือการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะตื่นเสียก่อน พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเตี
1 เดือนผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำ
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
one night stand กับท่านประธาน ปวีร์ อัศวภัชรกุล (วีร์) อายุ 32 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน เจ้าของธุรกิจรับออกแบบภายในระดับต้นๆของประเทศ และนอกจากนี้เขายังมีธุรกิจที่รับช่วงต่อจากพ่อของเขาเช่นกัน ปวีร์เป็นผู้ชายที่เงียบขรึม จริงจังกับงานเป็นอย่างมาก เย็นชา เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ สาวน้อยใหญ่ต่างให้ความสนใจเขาและอยากได้ชายหนุ่มมาครอบครองเพียงเพราะต้องการความสุขสบาย แต่ชายหนุ่มกลีบไม่แม้แต่สนใจพวกเธอที่หวังเงินของเขาแม้แต่น้อย จนกระทั่งเขาได้พบกับเด็กสาวที่ทำให้ความรู้สึกเย็นชาในใจของเขาเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นิสัย : เย็นชา บ้างาน ขี้หึง ขี้หวง ไม่เจ้าชู้ ปรางทิพย์ จันวราสกุล (ปราง) อายุ 22 ปี นักศึกษาสาวชั้นที่ปี4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบภายใน หน้าตาน่ารักเป็นที่หมายตาต้องใจของหนุ่มๆในมหาลัยแต่หญิงสาวกลับไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ เพราะหญิงสาวอยากตั้งใจเรียนให้จบจึงทำให้เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรักหรือการมีแฟนสักเท่าไหร่ต่อให้มีใครมาขายขนมจีบเธอมากมายแค่ไหนก็ตาม หญิงสาวต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังเนื่องจากพ่อแม่ของเธอจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากที่
(ปราง) สวัสดีฉันชื่อปราง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปี4 วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย เดือนหน้าก็ต้องไปฝึกงานแล้ว ฉันมีเวลาพักผ่อนสมองหนึ่งเดือนหลังจากสอบเสร็จ แต่พักแค่สมองนั้นแหละแต่ร่างกายยังต้องใช้งานเหมือนเดิม เพราะฉันยังต้องไปทำงานอยู่เหมือนเดิมเพื่อส่งตัวเองเรียนให้จบ ในช่วงที่เรียนจบมัธยมแรกๆถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่เรียนจบก็ได้รับข่าวร้ายว่าพ่อกับแม่ของฉันท่านไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ท่านจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในระหว่างที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ทำให้ฉันต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองส่งตัวเองเรียน แต่ก็ยังดีมีบ้านที่ฉันเคยอยู่กับท่านเป็นบ้านที่เราอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนี้พร้อมกับเงินเก็บและเงินประกันหนึ่งก้อนที่พวกท่านทำเอาไว้ซึ่งฉันไม่เคยต้องการสักนิดมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่ฉันต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพวกท่านอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปและต้องใช้มันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ฉันตั้งใจว่าจะเอาเงินพวกนั้นออกมาใช้เมื่อจำเป็นและใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั
KT Pub 20:00 น. เสียงดนตรีดังกระหึ่มเข้ามาให้โสตประสาทของหญิงสาวทันทีเมื่อขาเรียวก้าวเหยียบเท้าเข้ามาเพียงแต่หน้าทางเข้าของผับเท่านั้น ผู้คนหนุ่มสาวมากมายต่างก็โยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลงที่ดีเจเปิดเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการดื่มของเหล่านักท่องราตรี ผู้คนจำนวนมากต่างเบียดเสียดกันจนหน้าอึดอัดไปหมดหญิงสาวใช้สายตาสอดส่องมองเพื่อนสาวของเธอท่ามกลางแสงไฟสลัวที่แทบจะมองอะไรไม่เห็นแม้แต่ทางเดิน และในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบความสำเร็จหญิงสาวใช้สายตามองหาเพื่อนสาวของเธอจนเจอในที่สุด ที่ยอมมาตามนัดในวันนี้เพราะเธอปฏิเสธเพื่อนหลานครั้งแล้วซึ่งก่อนหน้าที่หญิงสาวจะถึงที่หมายเพื่อนของเธอก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยก่อนหน้าไม่นาน เมื่อเจอเป้าหมายหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนของเธอทันที แต่เมื่อหญิงสาวมาถึงโต๊ะก็เกิดอาการแปลกใจไม่น้อยที่ในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวของเธอแต่มีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่แววตานั้นเจ้าเล่ห์ดูไม่เป็นมิตรแต่ยังไม่ที่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยทักถามเพื่อคลายความสงสัยเพื่อนเธอก็ทักขึ้นมาเสียก่อนและแนะนำเขาให้รู้จัก “นี่ยัยปรางฉันคิดว่าแกจะเทฉันอี
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
1 เดือนผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำ
06:00 น. “อื้ออออออ” หญิงสาวขยับร่างที่ไร้ซึ่งอาภรมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังเรือนร่างก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะและปวดเมื่อยร่างกายไม่น้อยดวงตาสวยกระทบกับแสงแดดเธอกระพริบตาสองสามทีไร้อาการมึนงงเรียกสติตัวเอง เพื่อนึกย้อนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเธอและทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืนนี้ พอตั้งสติได้ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในโสตประสาทของเธอ ถึงแม้หญิงสาวจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมดว่าเธอทำอะไรลงไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและฝืนฤทธิ์ของยาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ บวกกับการเล้าโลมของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้ทั้งที่เธอไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ผับเมื่อคืนและครั้งล่าสุดคือตอนนี้ที่เขานอนเอาแขนหนักๆมากอดที่เอวของเธอ หญิงสาวทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนปะติดปะต่อได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้คือการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะตื่นเสียก่อน พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเตี
ปังงง!!!!!!!!!!!!! ประธานหนุ่มปิดประตูเสียงดังโดยไม่กลัวว่าประตูห้องจะพัง เมื่อประตูห้องปิดลงประธานหนุ่มก็วางหญิงสาวลง ปากหนาประกบจูบไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าทันที หญิงสาวที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กเล่นงานอย่างหนักเธอไม่นึกเขินอายที่ต้องมาจูบกับชายแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะความต้องการที่มีมากกว่าความอายของเธอทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนนี้หญิงสาวต้องการปลดปล่อยมากกว่าที่จะมานั่งเขินอาย ประธานหนุ่มเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นของหญิงสาว มือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่สมส่วนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความต้องการที่มีมากไม่ต่างกัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาอยู่ที่เต้ากลมสวยใหญ่จนล้นมือของเขา ประธานหนุ่มคลึงบริเวณยอดประทุมถันของเธอ จึงทำให้หญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออึงออกมากด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อน “อื้อ อย่าทำ บะ แบบนั้น” หญิงสาวเอยเสียงกระท่อนกระแท่นประธานหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจที่สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวตรงหน้าได้ ปากของทั้งสองยัง
KT Pub20:00 น. ประธานหนุ่มมาถึงสถานบันเทิงที่นัดหมายกับเพื่อนไว้ก็ตรงไปหาเพื่อนๆที่ชั้นสองของผับซึ่งเป็นโซนสำหรับลูกค้าVIPเท่านั้นโดยปกติแล้วเวลาที่พวกเขามาสังสรรค์กันพวกเขาก็มักจะไปนั่งดื่มกันชั้นสอง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเมื่อมาถึงห้องที่มีเพื่อนของเขาอยู่ประธานหนุ่มจึงเปิดประตูเข้าไปโดยภายในห้องไม่มีผู้หญิงหรือใครอื่นนอกจากพวกเขา เพราะเพื่อนเขาทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ก็จะเหลือเพียงแค่ประธานหนุ่มที่ยังไม่มีคู่กับเขาสักที เพราะความบ้างานของตัวเองทำแต่งานไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัว ถึงแม้จุดที่พวกเข้านั่งอยู่จะเป็นห้องVIPมีความเป็นส่วนตัว แต่ในจุดที่พวกเขานั่งดื่มนั้นสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งผับเพราะด้านข้างเป็นกระจกที่จะมีแค่คนที่นั่งอยู่ในห้องเท่านั่นจะมองเห็นแต่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ข้างในห้องได้ได้ ในขณะที่ประธานหนุ่มกำลังดื่มฉลองให้กับลูกคนที่สามของเพื่อนอยู่นั่นสายตาของเขาก็มาไปรอบๆทำให้สายตาของเขาไปสะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในร้านหน้าตาน
KT Pub 20:00 น. เสียงดนตรีดังกระหึ่มเข้ามาให้โสตประสาทของหญิงสาวทันทีเมื่อขาเรียวก้าวเหยียบเท้าเข้ามาเพียงแต่หน้าทางเข้าของผับเท่านั้น ผู้คนหนุ่มสาวมากมายต่างก็โยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลงที่ดีเจเปิดเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการดื่มของเหล่านักท่องราตรี ผู้คนจำนวนมากต่างเบียดเสียดกันจนหน้าอึดอัดไปหมดหญิงสาวใช้สายตาสอดส่องมองเพื่อนสาวของเธอท่ามกลางแสงไฟสลัวที่แทบจะมองอะไรไม่เห็นแม้แต่ทางเดิน และในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบความสำเร็จหญิงสาวใช้สายตามองหาเพื่อนสาวของเธอจนเจอในที่สุด ที่ยอมมาตามนัดในวันนี้เพราะเธอปฏิเสธเพื่อนหลานครั้งแล้วซึ่งก่อนหน้าที่หญิงสาวจะถึงที่หมายเพื่อนของเธอก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยก่อนหน้าไม่นาน เมื่อเจอเป้าหมายหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนของเธอทันที แต่เมื่อหญิงสาวมาถึงโต๊ะก็เกิดอาการแปลกใจไม่น้อยที่ในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวของเธอแต่มีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่แววตานั้นเจ้าเล่ห์ดูไม่เป็นมิตรแต่ยังไม่ที่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยทักถามเพื่อคลายความสงสัยเพื่อนเธอก็ทักขึ้นมาเสียก่อนและแนะนำเขาให้รู้จัก “นี่ยัยปรางฉันคิดว่าแกจะเทฉันอี
(ปราง) สวัสดีฉันชื่อปราง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปี4 วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย เดือนหน้าก็ต้องไปฝึกงานแล้ว ฉันมีเวลาพักผ่อนสมองหนึ่งเดือนหลังจากสอบเสร็จ แต่พักแค่สมองนั้นแหละแต่ร่างกายยังต้องใช้งานเหมือนเดิม เพราะฉันยังต้องไปทำงานอยู่เหมือนเดิมเพื่อส่งตัวเองเรียนให้จบ ในช่วงที่เรียนจบมัธยมแรกๆถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่เรียนจบก็ได้รับข่าวร้ายว่าพ่อกับแม่ของฉันท่านไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ท่านจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในระหว่างที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ทำให้ฉันต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองส่งตัวเองเรียน แต่ก็ยังดีมีบ้านที่ฉันเคยอยู่กับท่านเป็นบ้านที่เราอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก แต่ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนี้พร้อมกับเงินเก็บและเงินประกันหนึ่งก้อนที่พวกท่านทำเอาไว้ซึ่งฉันไม่เคยต้องการสักนิดมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่ฉันต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีพวกท่านอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปและต้องใช้มันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ฉันตั้งใจว่าจะเอาเงินพวกนั้นออกมาใช้เมื่อจำเป็นและใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั