ปังงง!!!!!!!!!!!!!
ประธานหนุ่มปิดประตูเสียงดังโดยไม่กลัวว่าประตูห้องจะพัง เมื่อประตูห้องปิดลงประธานหนุ่มก็วางหญิงสาวลง ปากหนาประกบจูบไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าทันที หญิงสาวที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กเล่นงานอย่างหนักเธอไม่นึกเขินอายที่ต้องมาจูบกับชายแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะความต้องการที่มีมากกว่าความอายของเธอทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนนี้หญิงสาวต้องการปลดปล่อยมากกว่าที่จะมานั่งเขินอาย
ประธานหนุ่มเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นของหญิงสาว มือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่สมส่วนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความต้องการที่มีมากไม่ต่างกัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาอยู่ที่เต้ากลมสวยใหญ่จนล้นมือของเขา ประธานหนุ่มคลึงบริเวณยอดประทุมถันของเธอ จึงทำให้หญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออึงออกมากด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
“อื้อ อย่าทำ บะ แบบนั้น” หญิงสาวเอยเสียงกระท่อนกระแท่น
ประธานหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจที่สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวตรงหน้าได้ ปากของทั้งสองยังทำให้ที่ได้ดีไม่มีบกพร่องและยาวนานหลายนาที ทั้งคู่มัวเมากับรสจูบที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันถึงแม้จะเป็นจูบแรกของหญิงที่จะดูไม่ค่อยเป็นงานเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าคนตัวเล็กก็หัวไวไม่น้อย เสียงจูบแลกลิ้นของทั้งคู่ดังทั่วห้องกว้างอย่างไม่มีใครยอมใคร
จ๊วบๆ จ๊วบๆ จ๊วบๆ
ประธานหนุ่มอุ้มหญิงสาวในท่าเจ้าสาวอีกครั้งโดยที่ปากทั้งสองยังไม่ผละออกจากกัน ประธานหนุ่มอุ้มหญิงสาวเข้ามาในห้องนอนใหญ่ เดินตรงไปที่เตียงของเขาแล้ววางหญิงสาวบนเตียง และเข้าไปประกบจูบแลกลิ้นกับหญิงสาวอีกครั้ง ในขณะที่จูบประธานหนุ่มมือก็ถอดเสื้อผ้าทั้งของเขาและหญิงสาวออกทีละชิ้นจนทั้งสองร่างกายเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้า ทำให้แอร์เย็นๆ มาปะทะที่ร่างกายของหญิงสาวทำให้เธอรู้สึกขนลุก หญิงสาวเคลิ้มไปกับรสจูบของประธานหนุ่มโดยไม่สนว่าตอนนี้ตัวเธอนั้นกำลังเปลือยเปล่าต่อหน้าชายแปลกหน้าที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเขา
ประธานหนุ่มผละหน้าออกจากการจูบเลื่อนไปหน้าลงมาที่คองามระหงของหญิงสาว ประธานหนุ่มเมื่อได้สูดดมซอกคอของหญิงสาวก็เผลอครางออกมาอย่างคนละเมอ
สูดดดดดดด
“อ๊า หอมจัง อ๊าส์” ประธานหนุ่มหลงใหลกลิ่นที่เป็นเฉพาะตัวของหญิงสาว
และในขณะเดียวกันหญิงสาวก็นอนกระสับกระส่ายต้องการให้ชายตรงหน้าให้ช่วยให้เธอได้ปลดปล่อยเสียที ประธานหนุ่มย้ายลงไปใช้ปากครอบลงที่ยอดอกที่แข็งเป็นไต ล่อตาล่อใจเชิญชวนให้ประธานหนุ่มครองครองมัน เขาไม่รอช้าครอบริมฝีปากกับยอดอกดูดสองเต้าอวบของหญิงสาวด้วยความหิวกระหายจนเกิดเสียงดังเหมือนลูกน้อยหิวนมแม่ไม่ผิด
จ๊วบๆ จ๊วบๆ จ๊วบๆ
ประธานหนุ่มดูดเลียเต้าอวบอย่างเมามันส่วนอีกข้างเขาก็ไม่อยากให้มันน้อยใจเขาเอามือบีบนวดและหยอกล้อกับยอดอกอีกข้างของเธอ ส่วนมืออีกข้างเอาไปคลึงปุ่มเสียวของหญิงสาวเพื่อทำให้ร่องสวาทหลั่งน้ำหวานของหญิงสาวออกมาจะได้ไม่ทำให้หญิงสาวเจ็บตอนที่แก่นกายของเขาสอดเข้าไปในกายของเธอ
หญิงรู้สึกเสียวซ่านกับสัมผัสแปลกใหม่ที่ชายตรงหน้ามอบให้บวกกับฤทธิ์ยาที่เธอกินเข้าไปทำให้ความเสียวซ่านเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า
ประธานหนุ่มหยอกล้อกับอกอวบจนพอใจแล้วก็ผละออกตอนนี้ใบหน้าของประธานหนุ่มถูกเลื่อนมาที่กลางกายของหญิงสาวที่ไม่เคยมีใครได้เห็นหรือสัมผัสมัน ประธานหนุ่มจ้องมองร่องสวาทของหญิงสาวที่ปิดสนิทของหญิงสาวด้วยสายตาที่หลงใหลเขาไม่เคยเห็นของใครสวยเท่าเธอมาก่อน ประธานหนุ่มค่อยๆ ก้มลงไปใช้ปลายลิ้นค่อยๆ สัมผัสกับปุ่มเสียวของหญิงสาว
หญิงสาวเมื่อถูกชายตรงหน้ามอบความเสียวซ่านอีกขั้นก็ทำให้เธอเสียวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เธอส่งมือไปขยุ้มที่ผมของชายตรงหน้าเพื่อระบายความเสียวของเธอ
“ซี๊ดดดดด อ๊าส์ๆ อย่าตรงมัน อื้ออออ” หญิงสาวครางออกมาไม่เป็นภาษา
“ทำไมเหรอ ตรงนี้มันทำไม แผล่บๆๆ ซูดด หวาน” ประธานหนุ่มผละออกจากกลางกายสาว แล้วเอ่ยถามเสียงแหบพร่า และก้มลงไปที่กลางกายสาวอีกเพื่อมอบความสุขปนเสียวซ่านให้กับหญิงสาวอีกครั้ง
“อ๊ะๆๆ อ๊าส์ๆ มะ มันเสียว มะ ไม่ไหว” หญิงสาวครางตอบชายตรงหน้า มือทั้งสองก็กดใบหน้าของชายตรงหน้าให้ชิดกับเกสรดอกไม้ของเธอมากกว่าเดิม
ประธานหนุ่มสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาวหนึ่งนิ้วก่อนเพื่อเปิดเป็นการเบิกทางให้กับแก่นกายใหญ่ที่เกินมาตรฐานของเขา
“อ๊ะ จะ เจ็บ อ๊ะ อ๊าส์” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บในตอนแรก ที่มีสิ่งแปลกปลอบสอดเข้ามาในช่องทางของเธอแต่ความเจ็บก็แปลเปลี่ยนไปเป็นความเสียวซ่านแทนเมื่อชายตรงหน้าเริ่มขยับนิ้วเข้าออกจากช้าก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกตามแรงอารมณ์
ประธานหนุ่มเพิ่มจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้วและสามนิ้วขยับเข้าออกในช่องทางของเธอเพื่อให้หญิงสาวได้คุ้นชินเพราะอีกไม่กี่อึดใจสิ่งที่เข้าไปอยู่ในกายของหญิงสาวจะไม่ใช่นิ้วของเขาแต่จะแก่นกายของเขาที่ใหญ่กว่านั้น ประธานหนุ่มชักนิ้วออกจากร่องสวาทเมื่อเห็นว่าช่องทางรักของหญิงสาวมีน้ำหวานหลั่งออกมาจำนวนมาก เพียงพอที่จะช่วยให้หญิงสาวไม่เจ็บมาก
“อ๊ะ!!! เอาออกทำไม” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดความรู้สึกของเธอราวกับถูกถีบลงจากสวรรค์ก็ไม่ปาน
“ใจเย็นสิเด็กน้อย นิ้วมันจะไปสู้เอ็นอุ่นๆได้ยังไง”ว่าเสร็จประธานก็ยืดตัวขึ้นจับแก่นกายชักขึ้นลงสองสามครั้งแล้วแยกขาหญิงสาวออกกว้างเพื่อที่จะได้แทรกตัวเข้าไปได้ ประธานหนุ่มเอาหัวปลายหยักไปเขี่ยถูไถบริเวณติ่งเสียว เป็นการทักทายร่องสวาทก่อนที่จะเช้าไปเชยชมความคับแน่นข้างใน
เขาดันแก่นกายเข้าไปในร่องสวาทของหญิงสาว แต่เข้าได้แค่ส่วนหัวก็จะทำให้เข้าแทบแตก ภายในของเธอทั้งอุ่นและตอดรัดส่วนหัวของเขาแน่นมากทำให้เขาขยับแก่นกายได้ยากถึงแม้จะมีน้ำหวานของหญิงสาวหลั่งมาจำนวนมากก็ตาม
“โอ๊ยย เจ็บ เอาออกไป ซี๊ดดด” หญิงสาวร้องด้วยความเจ็บที่มีบางสิ่งใหญ่กว่านิ้วสอดเข้ามาในร่องสวาทของเธอไม่เหมือนครั้งแรกที่เขาใช้เพียงแค่นิ้วสอดเข้ามาในร่องสวาทของเธอ
“อย่าเกร็งผ่อนคลาย ซี๊ดด จะแตก” ประธานหนุ่มก้มมองจุดเชื่อมต่อของทั้งสองเขาเห็นเลือดที่ปนกับน้ำหวานของหญิงสาวเคลือบอยู่ทั่วแก่นกายของเขา
“ไม่ไหว อึก เอาออก อื้อ ไปได้ไหม ไม่เอาแล้ว เจ็บ” หญิงสาวพูดบอกปนเสียงสะอื้นพร้อมกับหยาดน้ำตาไหลข้างแก้มเพราะความเจ็บที่ได้รับ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะมีความต้องการเพียงใดก็ตาม
“ไม่ทันแล้วเด็กน้อย อ๊าส์ ผ่อนคลายไม่เกร็ง ซี๊ดด ของเธอตอดฉัน” ประธานหนุ่มพยายามพูดปลอบให้เธอผ่อนคลาย เธอเจ็บเขาก็เจ็บ ถ้าเธอยังเกร็งอยู่อย่างนี้เขาก็แตกทั้งที่ยังไม่ได้ขยับแน่นอน
“อึก เจ็บไม่ไหว อ๊า อุ๊บบบบบ” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบประโยคชายตรงหน้าก็ก้มลงประกบปากหญิงสาวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เพราะตอนนี้เขาไม่ไหวแล้วประธานหนุ่มเริ่มขยับเอวเข้าออกอย่างเนิบนาบเป็นจังหวะเมื่อเห็นว่าหญิงสาวปรับตัวเข้ากับแก่นกายของเขาได้แล้ว
“อ๊ะๆๆ ซี๊ด อ๊าๆๆ สะ เสียวไม่ไหว” หญิงสาวจากความเจ็บในตอนแรกก็เปลี่ยนมาเป็นความเสียวแทน
“อื้มม เสียวสัส อ๊าส์ ร่องตอดมาก ที่รัก” ประธานหนุ่มครางออกมาอย่างสุขสม
ตับๆ ตับๆ ตับๆ
พับๆ พบๆ พับๆ
“อ๊ๆๆๆ คะ คุณเสียว อ๊ะๆๆ ปรางเสียว อ๊าส์”
“อ๊าส์ ครางชื่อผมวีร์ อื้ม เด็กน้อย”
“อ๊ะๆ วีร์ขาปราง อ๊าๆ เสียวแรงๆค่ะ อื้อๆ ปรางไม่ไหวแล้วอ๊ะๆ เสียว”
“Shitt!! เสียวหัวสัส อ๊าสสส” ประธานหนุ่มที่ได้ยินหญิงสาวครางชื่อก็เกิดอารมณ์มากขึ้นประธานหนุ่มจับล็อกเอวหญิงสาวแน่นแล้วกระแทกใส่ร่องสวาทของหญิงสาวอย่างหนักหน่วงตามแรงอารมณ์
“อ๊ะๆ วีร์ อ๊าส์ๆ แรงไปแล้ว เสียว ซี๊ดด”
“ซี๊ดๆ ปราง อ๊าส์ อื้มๆ ” หญิงสาวครางชื่อเขามากเท่าไหร่เขาก็กระแทกใส่ร่องสวาทหญิงสาวไม่มียั้ง
“วะ วีร์ อ๊ะ ซี๊ดๆ วะ วีร์ อ๊ะๆ แรงไปแล้ว อ๊าส์ ปรางเสียว อื้อๆ จะแตกแล้ว อ๊ะๆ”ยิ่งประธานหนุ่มกระแทกเอวสอบเร็วเท่าไหร่เสียงครางของหญิงสาวก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น
“อื้ม Shitt!! ปราง อ๊ะๆ ผมก็จะแตก อ๊าส์ๆ พร้อมกัน อ๊าส์”
“อ๊ายยยยยยย/อื้มมมมมมม”
ทั้งสองปลดปล่อยออกมาพร้อมกันจนทำให้ท้องน้อยของหญิงสาวอุ่นวาบประธานหนุ่มปลดปล่อยน้ำเชื้อของเขาเข้าในทุกหยดหยาดมิวายกระแทกย้ำราวกับกลัวว่าจะมีหยดใดหยดหนึ่งไหลออกมา หลังจากที่ปลดปล่อยประธานหนุ่มซบลงไปที่หน้าอกอวบอิ่มของหญิงสาวแล้วเงยหน้ามองหญิงสาวที่ตอนนี้เหนื่อยล้ากับกิจกรรมเมื่อครู่กำลังทำท่าจะหลับ ส่วนหญิงสาวที่กำลังจะหลับสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่กำลังขยายใหญ่อีกครั้งในร่องสวาทของเธอ
“อ๊ะ นี่คุณจะทำอะไรคะ ฉันเหนื่อยแล้วนะ อ๊าส์” หญิงสาวร้องออกมาด้วยสติที่เลือนรางแต่ก็ต้องเบิกตากว้างกับสิ่งที่ตื่นตัวในร่องสวาทของเธอ แล้วเอ่ยถามชายตรงหน้า
“ก็เอาเธอต่อไงเด็กน้อย รอบเดียวสำหรับผมพอหรอกนะ อื้มม ของเธอตอดผมไม่หยุดเลยนะ แน่นมาก ซี๊ดด”
“ซี๊ด แต่ อ๊าส์ อย่าขยับเสียว อู๊ยยย”จากเสียงร้องห้ามเป็นเสียงครางหวานเมื่อร่องสวาทถูกแก่นกายใหญ่กระแทกเข้ามาเน้นๆ
“ยาที่เธอกินไปยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายหรอกนะ”เอวสอบเริ่มขยับทำงานอีกครั้งเนิบนาบแต่ก็สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวไม่น้อย
“อ๊ะๆ แต่ฉันเหนื่อยแล้ว อ๊าๆ” ใช่เธอเหนื่อยแล้วตาจะปิดเต็มทีทั้งๆที่ร่างกายยังตอบสนองประธานหนุ่มได้ดีเพราะฤทธิ์ที่เธอกินเข้าไปยังไม่หมดฤทธิ์เหมือนที่เขาพูดแต่ตอนนี้ร่างกายของเธอกลับเหนื่อยล่าเต็มที ความต้องการกับร่างการของเธอมันช่างสวนทางกันเสียจริง
“คืนนี้ยังอีกยาวไกล เด็กน้อย ปรางยั่วผมเองนะ ซี๊ดด เสียวสัส” ประธานหนุ่มพูดกับหญิงสาว แล้วเริ่มกระแทกแก่นกายเข้าหาร่องสวาทของหญิงสาว ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เหนื่อย
“ซี๊ด วีร์ขา อ๊ะๆ ปรางเสียว อ๊าส์”หญิงสาวที่ถูกกระทำก็ได้แต่นอนครางอยู่ใต้ร่างของประธานหนุ่ม
“อื้มๆ Shitt!! เสียวหัวสัส อ๊าส์ ” ประธานหนุ่มเสพสุขจากร่างกายของหญิงสาวจนเกือบเช้าเหมือนคนตายอดตายอยากขาดเซ็กมานานแรมปี
พับๆ พับๆ พับๆ
ตับๆ ตับๆ ตับๆ
06:00 น. “อื้ออออออ” หญิงสาวขยับร่างที่ไร้ซึ่งอาภรมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังเรือนร่างก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะและปวดเมื่อยร่างกายไม่น้อยดวงตาสวยกระทบกับแสงแดดเธอกระพริบตาสองสามทีไร้อาการมึนงงเรียกสติตัวเอง เพื่อนึกย้อนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเธอและทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืนนี้ พอตั้งสติได้ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในโสตประสาทของเธอ ถึงแม้หญิงสาวจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมดว่าเธอทำอะไรลงไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและฝืนฤทธิ์ของยาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ บวกกับการเล้าโลมของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้ทั้งที่เธอไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ผับเมื่อคืนและครั้งล่าสุดคือตอนนี้ที่เขานอนเอาแขนหนักๆมากอดที่เอวของเธอ หญิงสาวทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนปะติดปะต่อได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้คือการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะตื่นเสียก่อน พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเตี
1 เดือนผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำ
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
ทางด้านประธานหนุ่มที่นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานของตัวเองอย่างตั้งใจแต่ในหัวของเขากลับวนคิดถึงแต่ใบหน้าและรูปร่างนุ่มนิ่มน่าสัมผัสนั้นตลอดเวลาจนไม่มีสมาธิทำงาน ช่วงสายเขาต้องไปพบลูกค้าเพื่อทำสัญญาตกแต่งภายในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งถือว่าเป็นโปรเจกที่ใหญ่แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับบริษัทเขาเพราะที่นี่รับงานเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งก็อกๆ “ขออนุญาตครับ” “อืมเข้ามา” “ช่วงสิบโมงท่านมีไปพบลูกค้านะครับ” กิตต์แจ้งนัดหมายลูกค้าให้ประธานหนุ่มทราบ “ท่านจะไปเลยไหมครับ ผมจะได้ไปเตรียมเอกสารสัญญาและให้คนขับรถเตรียมรถไว้รอ” “อืม ไปเลยก็ได้เพื่อรถติด ไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน” “ครับ เดี๋ยวผมขอไปเตรียมเอกสารสักครู่นะครับ” “ได้ เอ่อ แล้วปรางทิพย์เป็นยังไงบ้าง”ประธ
หญิงสาวหลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็รีบขึ้นไปหาประธานหนุ่มทันทีนิ้วเรียวกดไปที่ชั้นสามสิบชั้นที่เธอเคยขึ้นไปแล้วเมื่อเช้านี้ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์ก็เกิดความเงียบเข้ามาปกคลุมเพราะภายในมีเพียงแค่เธอคนเดียวตอนนี้ยังไม่หมดเวลาพักเลยไม่มีคนใช้ลิฟต์มากนะ เมื่อเกิดความเงียบก็ทำให้ความคิดต่างๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวของหญิงสาวมากมายและให้คิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่เกิดขึ้นถ้าหากเลขาของประธานหนุ่มเข้าไปช้ากว่าไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หญิงสาวคิดไม่ตกเลยว่าท่านประธานจะเรียกเธอไปพบเรื่องอะไรซึ่งทำให้เธอหวั่นใจไม่น้อยเพราะน้ำเสียงที่เข้าใช้เรียกเธอไปพบมันช่างน่าขนลุกเหมือนกับว่ามีใครไปทำอะไรให้เขาโกรธอย่างนั้นแหละแล้วไหนจะสายตาที่เข้ามองเธอสลับกับดินอีกติ้ง !!! ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้คิดอะไรไปมากว่านี้เสียงลิฟต์ก็ดังเตือนว่าถึงชั้นที่เธอต้องการแล้วหญิงสาวสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออกจากหัวแล้วก้าวเท้าเดินออกจากลิฟต์
ประธานหนุ่มประกบปากจูบแลกลิ้นกับหญิงสาวเนินนานหลายนาทีจนเกิดเป็นเสียงจูบดังไปทั่วห้องทำงานของประธานหนุ่ม มือของเขาก็ไม่อยู่นิ่งลูบไล้ไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาว ทำให้ขนในกายของหญิงสาวลุกชูชันหัวใจดวงน้อยเต้นเร็วผิดจังหวะกับความรู้สึกวาบหวามที่เกิดจากคนตรงหน้า เขามีที่ความชำนาญและช่ำชองทำให้หญิงสาวเคลิ้มไปตามแรงอารมณ์ของเขาได้ไม่ยาก ประธานหนุ่มเลื่อนมือมากอบกุมหน้าอกใหญ่ของหญิงสาวขย้ำอย่างมันมือผ่านเสื้อนักศึกษาของเธอ ส่วนอีกมือเลื่อนไปที่เนินสามเหลี่ยมที่เขาสัมผัสมาแล้วครั้งหนึ่งมันสวยน่าหลงไหลอย่าหวังว่าจะมีใครได้สัมผัสมันนอกจากเขา หญิงสาวจากที่ตอนแรกขัดขืนประธานหนุ่มกลับต้องยอมแพ้ให้กับเขาเพราะไม่อาจต้านแรงอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ ประธานหนุ่มใช้นิ้วบดขยี้ติ่งเสียวของหญิงสาวเพื่อเพิ่มความเสียวซ่านให้กับหญิงสาว น้ำหวานสีใสค่อยๆไหลออกมาจากปากถ้ำของเธอประธานหนุ่มเมื่อเห็นว่าร่องสวาทของเธอเริ่มหลั่งน้ำหวานออกมาแล้วก็ค่อยๆสอดนิ้วกลางเข
ช่วงเที่ยงของวันปรางทิพย์นั่งเล่นอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพียงลำพังเพราะสามีและลูกคนโตออกไปทำงานกันส่วนสองแฝดก็ไปเรียน เธอจึงต้องอยู่บ้านคนเดียวอย่างเหงาๆเพราะตั้งแต่มีลูกเธอก็ไม่ได้ทำงานอีกเลย “ม๊าขา อยู่ไหมคะ”ปริมลูกสาวคนเดียวของบ้านตะโกนเรียกมารดามาตั้งแต่อยู่หน้าบ้านจนกระทั่งเข้ามาถึงภายในตัวบ้าน “ม๊าอยู่ที่ห้องนั่งเล่นลูก”ปรางทิพย์ขานตอบลูกสาวปริมเมื่อได้ยินเสียงมารดาดังมาจากห้องนั่งเล่นก็รีบวิ่งเข้าไปหามารดาทันทีปรางทิพย์เห็นว่าลูกสาววิ่งหน้าตั้งตาตื่นก็ตกใจนึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้น “ปริมมีอะไร เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่ทำไมกลับมาเร็วไม่มีเรียนเหรอคะ”ปรางทิพย์รัวคำถามใส่ลูกสาวที่วันนี้บอกว่ามีเรียนเลิกสี่โมงเย็นแต่นี่พึ่งบ่ายสองทำไมกลับมาเร็ว “อาจารย์ยกคลาสค่ะ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ เพราะมีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นอีกค่ะ”ปริมพูดด้วยความตื่นตระหนกราวกับเ
เช้าวันใหม่แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนของสองสามีภรรยาที่นอนกอดกันไม่ยอมตื่นลมแอร์ปะทะร่างกายทำให้ต้องกระชับกอดกันให้แน่นขึ้นเพราะความเย็นของแอร์ ปวีร์ขยับเปลือกตาค่อยๆลืมตาปรับแสงที่มากระทบตาเมื่อปรับได้แล้วก็หันไปมองภรรยาคนสวยที่นอนหลับอยู่ในอ้อมกอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความสวยไม่เคยเลือนหายเขายังคงหลงใหลร่างกายนี้ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อได้สัมผัสก็ต้องการที่จะสัมผัสมากขึ้นทุกครั้งตอนนี้ก็เช่นกัน ปรางทิพย์ที่อยู่ในชุดนอนเดรสสายเดี่ยวเนื้อผ้าซาตินลื่นมือทำให้เมียของเขาน่าสัมผัสมากขึ้นอีกเท่าตัวปวีร์จับตัวภรรยาคนสวยให้นอนราบกับที่นอนและเริ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอไล่เลียระดมจูบไปตามซอกคอทำให้เกิดเป็นรอยจ้ำแดงระเรื่อที่คอ มือหนาเลื่อนไปบีบขย้ำหนาอกอวบนิ้วแกร่งสะกิดยอกประทุมถันที่ชูชันอีกข้างก็เลื่อนลงไปที่กลีบกุหลาบงาม ปวีร์พรมจูบไล่ลงมาจนถึงกลีบกุหลาบงามมือหนาถอดกางเกงในของปรางทิพย์ออกและเลิกชายกระโปรงขึ้นลิ้นร้อนไล่เลียไปตามรอยแยกนิ้วแกร่งสอดเขาไปในร่
20 ปีผ่านไป ตอนนี้ลูกของประธานหนุ่มและภรรยาโตเป็นหนุ่มเรียนมหาวิทยาลัยกันหมดทุกคนแล้ว ปริ๊น หรือ ปรินทร์ อัศวภัทชกุล ลูกชายคนโตของปวีร์และปรางทิพย์ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปีสี่ ปริ๊นเริ่มเข้ามาช่วยงานพ่อตั้งแต่ขึ้นมหาลัยเพราะอยากช่วยงานพ่อแต่ช่วงนี้ก็เริ่มที่จะเข้ามาทำมากขึ้นส่วนเด็กแฝดทั้งสองคนก็เรียนมหาลัยที่เดียวกับพี่ชายท้องที่สองเธอได้แฝดชายหญิงซึ่งสมใจพ่อเขานั้นแหละ “หนูวันนี้โทรบอกลูกๆแล้วใช่ไหมว่าให้เข้ามาทานข้าวที่บ้าน” ท่านประธานวัย54แต่ยังดูดีเหมือนคนวัย30ต้นๆ เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านเอ่ยถามภรรยาที่ยังสวยไม่เปลี่ยนตั้งแต่วันแรกที่เจอกันถึงแม้จะอายุเลขสี่แล้วก็ตาม “โทรบอกแล้วค่ะ เดี๋ยวก็คงจะมากัน” “ครับ แล้วนี่หนูทำอะไรอยู่ครับ”ปวีร์เดินมานั่งข้างภรรยาโอบเอวไว้หลวมและเอ่ยถาม “ นั่งดูอะไรไปเรื่อยค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะ”
1 เดือนผ่านไปอ๊วกๆ อ๊วกๆ อ๊วกๆ เสียงโก่งคออาเจียนของประธานหนุ่มดังขึ้นอย่างนี้มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วหญิงสาวบอกให้ไปหาหมอก็ไม่ยอมไปบอกแต่ว่าไม่เป็นอะไรอาจจะเป็นผลมาจากการทำงาน “เฮียไหวไหมคะ ไปหาหมดเถอะนะ”หญิงสาวคะยั้นคะยอให้สามีไปหาหมอเพราะเป็นห่วงกลัวว่าสามีจะเป็นโรคร้ายแรง “เฮียไม่เป็นอะไรจริงๆครับ”ประธานหนุ่มพูดแล้วเอามือลูบหัวหญิงสาวให้คลายกังวล “ตะ...” “ป๊าม๊าเสร็จยังครับ เดี๋ยวพี่ปริ๊นไปเรียนสายนะ”ลูกชายตัวแสบเปิดประตูวิ่งเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู “พี่ปริ๊นครับ ไม่เสียงดังนะครับป๊าไม่สบายอยู่นะ”หญิงสาวบอกลูกชายให้เบาเสียงลง “ป๊าไม่สบายเหรอครับ งั้นม๊าอยู่ดูแลป๊านะครับ เดี๋ยวพี่ปริ๊นให้อากิตต์ไปส่ง”เด็กชายที่มีความคิดโตเกินเด็กวัยเดียวกันหันไปมองหน้าพ่อและพูดบอ
“ป๊า/ม๊าครับ พี่ปริ๊นมาแล้ว”เสียงเด็กชายเรียกพ่อกับแม่เข้าดังขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองกำลังเดินมาในโรงเรียน ประธานหนุ่มและหญิงสาวขับรถมารับลูกชายหลังเลิกงานทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปด้านในก็ได้ยินเสียงเจ้าแสบดังมาแต่ไกลเรียกพวกเขาทำให้ประธานหนุ่มและหญิงสาวหันหน้ามองกันและยิ้มให้กับความน่ารักของลูกชาย “เป็นไงครับ มาเรียนวันแรกมีเพื่อนหรือยังครับ แล้วนี่ดื้อกับคุณครูหรือเปล่า”หญิงสาวย่อตัวตัวลงให้เสมอกับลูกชายและยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู “วันนี้พี่ปริ๊นไม่ดื้อครับ ไม่เชื่อถามคุณครูได้เลย”เด็กชายพยายามหาพยานเพื่อยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้ดื้อ “พี่ปริ๊นดื้อไหมคะ คุณครู”หญิงสาวลุกขึ้นและส่งลูกชายไปให้สามีก่อนจะเอ่ยถามว่าวันนี้ลูกของเธออยู่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง “พี่ปริ๊นไม่ดื้อเลยค่ะ เข้ากับเพื่อนในห้องได้ทุกคน โดยเฉพาะน้องเกลค่ะพี่ปริ๊นชอ
“พี่ปริ๊นครับลูก ตื่นได้แล้วครับ วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกหนูจำไม่ได้เหรอลูก” คุณม๊าคนสวยเดินขึ้นมาปลุกลูกชายวัยสองขวบที่วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกของเธอต้องไปเรียนวันแรกตอนบอกเรื่องโรงเรียนลูกชายของเธอดีใจกระโดดโลดเต้นยกใหญ่ แต่ทำไมคนที่ดีอกดีใจที่จะได้ไปเรียนถึงกลับไม่ยอมตื่นเสียที “พี่ปริ้นครับ ตื่นได้แล้วลูกเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”คุณม๊าคนสวยไม่ลดความพยายามที่จะปลุกลูกชาย “ม๊าครับ พี่ปริ๊นยังอยากนอนอยู่เลย”เด็กชายงอแงไม่อยากตื่นและซุกหน้าลงหมอนหลับต่อแอดดดด “เอ้า ทำไมพี่ปริ๊นยังนอนอยู่ล่ะครับ ไหนว่าไปเรียนวันแรกไง”ประธานหนุ่มเปิดประตูเข้ามาในห้องลูกชายก็เห็นเมียนั่งมองลูกชายนอนหลับไหนว่าขึ้นมาปลุกแต่ทำไมเจ้าตัวแสบยังนอนอุตุอยู่ “ม๊าปลุกแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ยอมตื่นบอกว่ายังอยากนอนอยู่เลย สงสัยอาหารเช้าของโปรดคงต้องเททิ้งแล้วสิ”หญิงสาวทำทีพูดว่าจะเอาของโปรดที่ลู
6 เดือนต่อมา หญิงสาวย้ายออกมาจากบ้านใหญ่เข้ามาอยู่บ้านที่ประธานหนุ่มซื้อไว้ตั้งแต่ลูกชายอยู่ในท้องยังไม่คลอดด้วยซ้ำ เป็นบ้านที่ประธานหนุ่มสั่งให้ทำห้องเด็กเพิ่มเพราะตัวบ้านเดิมไม่มีห้องของเด็ก บ้านหลังนี้จะมีห้าห้องนอน หกห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว ที่จอดรถ สนามหญ้าหน้าบ้านและก็สระว่ายน้ำส่วนแม่บ้านตอนแรกประธานหนุ่มจะจ้างคนใหม่แต่มารดาไม่ไว้ใจกลัวมาทำร้ายหลานเธอตามที่ข่าวออกเธอจึงส่งคนที่บ้านใหญ่มาสองคนซึ่งเป็นแม่บ้านที่ทำงานมานานและไว้ใจได้ ตอนนี้ลูกชายเธอน้องปริ๊นอายุเจ็บเดือนแล้วกำลังเริ่มหัดคลานคุณปู่คุณย่าก็แวะมาหาหลานเกือบทุกวัน ส่วนกิตต์คนนั้นต้องเรียกได้ว่าหลงหลานตามใจหลานทุกอย่างไม่เคยขัดจนหญิงสาวต้องคอยห้ามไว้เพราะกลัวลูกชายจะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจพูดไม่ฟังตึงๆตึงๆ “น้องปริ๊นอย่าคลานเร็วนักสิลูก แหะๆ”หญิงสาวร้องเรียกตามลูกชายที่กำลังจะคลานไปหน้าบ้าน เผลอไม่ได้เลยลูกคนนี้ “คุณปรางมีอะไรให้สายใจช่วยไหมคะ”สายใจสา
1 เดือนต่อมา หลังหญิงสาวออกจากโรงพยาบาลพร้อมลูกชายตัวน้อย เธอจึงกลับมาพักที่บ้านใหญ่ตอนแรกประธานหนุ่มอยากเข้าไปอยู่บ้านที่เขาซื้อไว้แต่มารดาของสามีไม่ยอมบอกให้อยู่บ้านใหญ่สักเดือนสองเดือนก่อน ประธานหนุ่มที่ไม่เคยพูดชนะมารดาก็จำใจต้องยอมอยู่จนกว่าลูกชายจะสองเดือน แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้มีคนช่วยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กแอ้ๆแอ้ๆแอ้ๆ เสียงเด็กน้อยดังอ้อแอ้มาจากแปลเด็กในตอนเช้าเด็กน้อยจะตื่นแต่เช้าทุกวันพอตื่นมาก็จะส่งเสียงอ้อแอ้ให้ป๊ากับม๊าได้ยินจะเป็นแบบนี้ประจำทุกวันตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลูกน้อยของเธอถือว่าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายไม่งอแงจะมีร้องบ้างแค่ตอนหิวหรือรู้สึกไม่สบายตัวและตื่นบ่อยตามปกติของเด็กแรกเกิด “น้องปริ๊นตื่นแล้วเหรอคะ คนแก่งของม๊าไปปลุกป๊ากัน” น้องปริ๊นหรือด.ช. ปรินทร์ อัศวภัทชกุล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและหลานสุดรักสุดหวงของคุณหญิงมณีรัตน์และคุณเอกภพ ชื่อนี้ประธานหนุ่มเป็นคนคิดตั้งแต่เจ้าลูกชายแปดเดือนช่วงนั้นสามีของเธอเคร
ทุกคนต่างให้ความสนใจสมาชิกใหม่ของบ้าน แต่คนที่ดูจะเห่อลูกชายเขามากที่สุดน่าจะเป็นคุณหญิงมณีรัตน์มารดาของประธานหนุ่ม เพราะข้าวของลูกชายเขาส่วนมากที่มีตอนนี้จนแทบจะล้นบ้านก็มาจากแม่เขาทั้งนั้น “ไหนดูสิหลานย่า น่าเกียจน่าชังจังเลยลูก ดูสิคะหน้าเหมือนตาวีร์ตอนเล็กๆเลย” ประธานหนุ่มยืนดูมารดาอุ้มลูกน้อยของเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ประธานหนุ่มรู้สึกได้ถึงแรงขยับข้างเตียงก่อนจะหันไปดูก็เห็นว่าหญิงสาวตื่นแล้ว ประธานหนุ่มช่วงพยุงหญิงสาวลุกขึ้นนั่งและหยิบน้ำมาให้หญิงสาวดื่ม “ดื่มน้ำก่อนครับ”ประธานหนุ่มยื่นแก้วน้ำไปให้หญิงสาวดื่ม “ขอบคุณค่ะ ดูคุณแม่จะเห่อหลานมาเลยนะคะ”หญิงสาวทักขึ้นยิ้มๆเธอดีใจที่ลูกชายของเธอเป็นที่รักของทุกคน “ใช่ครับ คุณแม่ท่านอยากได้หลานมาตั้งนานแล้วแต่เฮียไม่ยอมมีให้สักที”ประธานหนุ่มหันไปมองมารดาที่อุ้มหลานชายไปมารอบห้องด้วนรอยยิ้ม