เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา
นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
ทางด้านประธานหนุ่มที่นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานของตัวเองอย่างตั้งใจแต่ในหัวของเขากลับวนคิดถึงแต่ใบหน้าและรูปร่างนุ่มนิ่มน่าสัมผัสนั้นตลอดเวลาจนไม่มีสมาธิทำงาน ช่วงสายเขาต้องไปพบลูกค้าเพื่อทำสัญญาตกแต่งภายในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งถือว่าเป็นโปรเจกที่ใหญ่แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับบริษัทเขาเพราะที่นี่รับงานเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งก็อกๆ “ขออนุญาตครับ” “อืมเข้ามา” “ช่วงสิบโมงท่านมีไปพบลูกค้านะครับ” กิตต์แจ้งนัดหมายลูกค้าให้ประธานหนุ่มทราบ “ท่านจะไปเลยไหมครับ ผมจะได้ไปเตรียมเอกสารสัญญาและให้คนขับรถเตรียมรถไว้รอ” “อืม ไปเลยก็ได้เพื่อรถติด ไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน” “ครับ เดี๋ยวผมขอไปเตรียมเอกสารสักครู่นะครับ” “ได้ เอ่อ แล้วปรางทิพย์เป็นยังไงบ้าง”ประธ
หญิงสาวหลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็รีบขึ้นไปหาประธานหนุ่มทันทีนิ้วเรียวกดไปที่ชั้นสามสิบชั้นที่เธอเคยขึ้นไปแล้วเมื่อเช้านี้ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์ก็เกิดความเงียบเข้ามาปกคลุมเพราะภายในมีเพียงแค่เธอคนเดียวตอนนี้ยังไม่หมดเวลาพักเลยไม่มีคนใช้ลิฟต์มากนะ เมื่อเกิดความเงียบก็ทำให้ความคิดต่างๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวของหญิงสาวมากมายและให้คิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่เกิดขึ้นถ้าหากเลขาของประธานหนุ่มเข้าไปช้ากว่าไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หญิงสาวคิดไม่ตกเลยว่าท่านประธานจะเรียกเธอไปพบเรื่องอะไรซึ่งทำให้เธอหวั่นใจไม่น้อยเพราะน้ำเสียงที่เข้าใช้เรียกเธอไปพบมันช่างน่าขนลุกเหมือนกับว่ามีใครไปทำอะไรให้เขาโกรธอย่างนั้นแหละแล้วไหนจะสายตาที่เข้ามองเธอสลับกับดินอีกติ้ง !!! ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้คิดอะไรไปมากว่านี้เสียงลิฟต์ก็ดังเตือนว่าถึงชั้นที่เธอต้องการแล้วหญิงสาวสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออกจากหัวแล้วก้าวเท้าเดินออกจากลิฟต์ 
ประธานหนุ่มประกบปากจูบแลกลิ้นกับหญิงสาวเนินนานหลายนาทีจนเกิดเป็นเสียงจูบดังไปทั่วห้องทำงานของประธานหนุ่ม มือของเขาก็ไม่อยู่นิ่งลูบไล้ไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาว ทำให้ขนในกายของหญิงสาวลุกชูชันหัวใจดวงน้อยเต้นเร็วผิดจังหวะกับความรู้สึกวาบหวามที่เกิดจากคนตรงหน้า เขามีที่ความชำนาญและช่ำชองทำให้หญิงสาวเคลิ้มไปตามแรงอารมณ์ของเขาได้ไม่ยาก ประธานหนุ่มเลื่อนมือมากอบกุมหน้าอกใหญ่ของหญิงสาวขย้ำอย่างมันมือผ่านเสื้อนักศึกษาของเธอ ส่วนอีกมือเลื่อนไปที่เนินสามเหลี่ยมที่เขาสัมผัสมาแล้วครั้งหนึ่งมันสวยน่าหลงไหลอย่าหวังว่าจะมีใครได้สัมผัสมันนอกจากเขา หญิงสาวจากที่ตอนแรกขัดขืนประธานหนุ่มกลับต้องยอมแพ้ให้กับเขาเพราะไม่อาจต้านแรงอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ ประธานหนุ่มใช้นิ้วบดขยี้ติ่งเสียวของหญิงสาวเพื่อเพิ่มความเสียวซ่านให้กับหญิงสาว น้ำหวานสีใสค่อยๆไหลออกมาจากปากถ้ำของเธอประธานหนุ่มเมื่อเห็นว่าร่องสวาทของเธอเริ่มหลั่งน้ำหวานออกมาแล้วก็ค่อยๆสอดนิ้วกลางเข
ประธานหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวสลบไปแล้วจากความเหนื่อยล้าเขาจึงเร่งกระแทกแก่นกายใหญ่ใส่ช่องทางรักเน้นๆสองสามทีแล้วปลดปล่อยสายธารขาวขุ่นเข้าไปในร่องสวาทของหญิงสาวเป็นครั้งสุดท้ายแล้วค่อยถอนแก่นกายใหญ่ออกจนทำให้เกิดเสียงน่าอาย น้ำรักที่เขาหลั่งเข้าไปไหลย้อนออกมาจากช่องทางรักของหญิงสาวจำนวนมากป็อก!!! ประธานหนุ่มเห็นอย่างนั้นเขาจึงเอาทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดกลีบกุหลาบที่ตอนนี้มีสีแดงจากการูกกระแทกของประธารหนุ่มเพราะกว่าอารมณ์สวาทของทั้งสองจะดับลงก็ใช้เวลาไปถึงสามชั่วโมงตั้งแต่ช่วงบ่ายจนตอนนี้สี่โมงเกือบจะใกล้เวลาเลิกงานของเธอ นั่นก็เท่ากับว่าวันนี้เธอได้ทำงานแค่ช่วงเช้าเท่านั้น ประธานหนุ่มหลังจากที่ทำความสะอาดกลีบกุหลาบจนสะอาดแล้วก็เดินไปหยิบเอาเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเองมาให้หญิงสาวใส่โดยที่ภายในเขาไม่ได้ใส่ชั้นในให้เธอทั้งส่วนบนและล่าง มีเพียงเสื้อเชิ้ตตัวบางเพียงตัวเดียวแล้วจัดการห่มผ้าให้หญิงสาวแต่มิวายบรรจงจูบประทับตราบนหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน จากนั้นเขาก็เดินไปจัดการกับตัวเองแล้วออกมา
คล้อยหลังเมื่อเลขาหนุ่มออกจากห้องไปประธานหนุ่มก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานแล้วเดินไปที่ห้องพักหลังห้องทำงานทซึ่งมีเมียตัวน้อยของเขานอนหลับอยู่ด้วยความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากบทลงโทษของเขาเมื่อช่วงบ่าย ประธานหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่เตียงนอนที่มีร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาวนอนอยู่บนเรือนร่างมีเพียงแค่เสื้อเชิ้ตตัวบางของเขาเพียงตัวเดียวเท่านั้นไม่มีแม้แต่ชั้นในเพื่อปกปิดของสงวนแม้แต่ชิ้นเดียว ประธานหนุ่มนั่งบนเตียงใช้มือหนาเกลี่ยไรผมที่ปรกคลุมใบหน้าน่ารักของหญิงสาว ตาคมมองสำรวจด้วยความหลงใหลมือหนาลูบไหลไปทั่วกรอบหน้าของหญิงสาวที่หลับใหลอยู่ในห้วงนิทราจนเกิดเสียงอื้ออึงออกมาจากริมฝีปากบางที่เกิดจากการรบกวนการนอนหลับของเธอ "อื้อออออ"หญิงสาวครางออกมาเบาๆ ประธานหนุ่มที่ใช้มือเกลี่ยไปหน้าเรียวงามก็รับรู้ได้ถึงไออุ่นที่ออกมาจากใบหน้าเรียวงามของหญิงสาว ประธานหนุ่มเมื่อเห็นว่าหญิงสาวมีไข้อ่อนๆก็ลุกขึ้นจากเตียงเดินหายเข้าไปที่ห้องน้ำและกลับออกม
ประธานหนุ่มนั่งทำงานจนเวลาร่วงเลยมาถึงห้าโมงเย็นโดยปกติแล้วเป็นเวลาเลิกงานของพนักงานทุกคน แต่ไม่ใช่กับเขาที่มักจะทำงานจนดึกหรือบางครั้งถ้างานเยอะมากเขาก็มักที่จะนอนที่บริษัทแล้วตื่นมาทำงานต่อเช้าอีกวัน เขาว่ามันสะดวกกว่ากลับไปนอนที่คอนโดหรือที่บ้าน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ห้องนอนของเขาจะโดนเจ้าของคนใหม่ยึดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นึกขึ้นได้อย่างนั้นประธานหนุ่มก็วางมือจากกองเอกสารที่ทำอยู่ลุกขึ้นจากเก้าอีกเดินตรงที่ห้องนอนที่มีหญิงสาวนอนหลับอยู่แอ็ดดด ประธานหนุ่มเปิดประตูเข้ามาในห้องก็พบกับร่างนุ่มนิ่มนอนอุตุอยู่บนเตียงกว้างไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาง่ายๆ ประธานหนุ่มเดินมาหยุดที่เตียงนอนจ้องมองใบหน้าเรียวน่ารักด้วยความหลงใหลสักพักแล้วนั่งลงข้างคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องจากอาการไข้เมื่อบ่าย มือหนายกมือขึ้นไปสัมผัสที่หน้าผากของหญิงสาวเพื่อเช็คอาการไข้ “อืม ไข้ลดแล้วนิ” ประธานหนุ่มพูดขึ้นหลังจากที่ใช้หลังมือแตะดูที่หน้าผากแล้วเห็นว่าอุณห
ช่วงเที่ยงของวันปรางทิพย์นั่งเล่นอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพียงลำพังเพราะสามีและลูกคนโตออกไปทำงานกันส่วนสองแฝดก็ไปเรียน เธอจึงต้องอยู่บ้านคนเดียวอย่างเหงาๆเพราะตั้งแต่มีลูกเธอก็ไม่ได้ทำงานอีกเลย “ม๊าขา อยู่ไหมคะ”ปริมลูกสาวคนเดียวของบ้านตะโกนเรียกมารดามาตั้งแต่อยู่หน้าบ้านจนกระทั่งเข้ามาถึงภายในตัวบ้าน “ม๊าอยู่ที่ห้องนั่งเล่นลูก”ปรางทิพย์ขานตอบลูกสาวปริมเมื่อได้ยินเสียงมารดาดังมาจากห้องนั่งเล่นก็รีบวิ่งเข้าไปหามารดาทันทีปรางทิพย์เห็นว่าลูกสาววิ่งหน้าตั้งตาตื่นก็ตกใจนึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้น “ปริมมีอะไร เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่ทำไมกลับมาเร็วไม่มีเรียนเหรอคะ”ปรางทิพย์รัวคำถามใส่ลูกสาวที่วันนี้บอกว่ามีเรียนเลิกสี่โมงเย็นแต่นี่พึ่งบ่ายสองทำไมกลับมาเร็ว “อาจารย์ยกคลาสค่ะ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ เพราะมีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นอีกค่ะ”ปริมพูดด้วยความตื่นตระหนกราวกับเ
เช้าวันใหม่แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนของสองสามีภรรยาที่นอนกอดกันไม่ยอมตื่นลมแอร์ปะทะร่างกายทำให้ต้องกระชับกอดกันให้แน่นขึ้นเพราะความเย็นของแอร์ ปวีร์ขยับเปลือกตาค่อยๆลืมตาปรับแสงที่มากระทบตาเมื่อปรับได้แล้วก็หันไปมองภรรยาคนสวยที่นอนหลับอยู่ในอ้อมกอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความสวยไม่เคยเลือนหายเขายังคงหลงใหลร่างกายนี้ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อได้สัมผัสก็ต้องการที่จะสัมผัสมากขึ้นทุกครั้งตอนนี้ก็เช่นกัน ปรางทิพย์ที่อยู่ในชุดนอนเดรสสายเดี่ยวเนื้อผ้าซาตินลื่นมือทำให้เมียของเขาน่าสัมผัสมากขึ้นอีกเท่าตัวปวีร์จับตัวภรรยาคนสวยให้นอนราบกับที่นอนและเริ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอไล่เลียระดมจูบไปตามซอกคอทำให้เกิดเป็นรอยจ้ำแดงระเรื่อที่คอ มือหนาเลื่อนไปบีบขย้ำหนาอกอวบนิ้วแกร่งสะกิดยอกประทุมถันที่ชูชันอีกข้างก็เลื่อนลงไปที่กลีบกุหลาบงาม ปวีร์พรมจูบไล่ลงมาจนถึงกลีบกุหลาบงามมือหนาถอดกางเกงในของปรางทิพย์ออกและเลิกชายกระโปรงขึ้นลิ้นร้อนไล่เลียไปตามรอยแยกนิ้วแกร่งสอดเขาไปในร่
20 ปีผ่านไป ตอนนี้ลูกของประธานหนุ่มและภรรยาโตเป็นหนุ่มเรียนมหาวิทยาลัยกันหมดทุกคนแล้ว ปริ๊น หรือ ปรินทร์ อัศวภัทชกุล ลูกชายคนโตของปวีร์และปรางทิพย์ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปีสี่ ปริ๊นเริ่มเข้ามาช่วยงานพ่อตั้งแต่ขึ้นมหาลัยเพราะอยากช่วยงานพ่อแต่ช่วงนี้ก็เริ่มที่จะเข้ามาทำมากขึ้นส่วนเด็กแฝดทั้งสองคนก็เรียนมหาลัยที่เดียวกับพี่ชายท้องที่สองเธอได้แฝดชายหญิงซึ่งสมใจพ่อเขานั้นแหละ “หนูวันนี้โทรบอกลูกๆแล้วใช่ไหมว่าให้เข้ามาทานข้าวที่บ้าน” ท่านประธานวัย54แต่ยังดูดีเหมือนคนวัย30ต้นๆ เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านเอ่ยถามภรรยาที่ยังสวยไม่เปลี่ยนตั้งแต่วันแรกที่เจอกันถึงแม้จะอายุเลขสี่แล้วก็ตาม “โทรบอกแล้วค่ะ เดี๋ยวก็คงจะมากัน” “ครับ แล้วนี่หนูทำอะไรอยู่ครับ”ปวีร์เดินมานั่งข้างภรรยาโอบเอวไว้หลวมและเอ่ยถาม “ นั่งดูอะไรไปเรื่อยค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะ”
1 เดือนผ่านไปอ๊วกๆ อ๊วกๆ อ๊วกๆ เสียงโก่งคออาเจียนของประธานหนุ่มดังขึ้นอย่างนี้มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วหญิงสาวบอกให้ไปหาหมอก็ไม่ยอมไปบอกแต่ว่าไม่เป็นอะไรอาจจะเป็นผลมาจากการทำงาน “เฮียไหวไหมคะ ไปหาหมดเถอะนะ”หญิงสาวคะยั้นคะยอให้สามีไปหาหมอเพราะเป็นห่วงกลัวว่าสามีจะเป็นโรคร้ายแรง “เฮียไม่เป็นอะไรจริงๆครับ”ประธานหนุ่มพูดแล้วเอามือลูบหัวหญิงสาวให้คลายกังวล “ตะ...” “ป๊าม๊าเสร็จยังครับ เดี๋ยวพี่ปริ๊นไปเรียนสายนะ”ลูกชายตัวแสบเปิดประตูวิ่งเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู “พี่ปริ๊นครับ ไม่เสียงดังนะครับป๊าไม่สบายอยู่นะ”หญิงสาวบอกลูกชายให้เบาเสียงลง “ป๊าไม่สบายเหรอครับ งั้นม๊าอยู่ดูแลป๊านะครับ เดี๋ยวพี่ปริ๊นให้อากิตต์ไปส่ง”เด็กชายที่มีความคิดโตเกินเด็กวัยเดียวกันหันไปมองหน้าพ่อและพูดบอ
“ป๊า/ม๊าครับ พี่ปริ๊นมาแล้ว”เสียงเด็กชายเรียกพ่อกับแม่เข้าดังขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองกำลังเดินมาในโรงเรียน ประธานหนุ่มและหญิงสาวขับรถมารับลูกชายหลังเลิกงานทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปด้านในก็ได้ยินเสียงเจ้าแสบดังมาแต่ไกลเรียกพวกเขาทำให้ประธานหนุ่มและหญิงสาวหันหน้ามองกันและยิ้มให้กับความน่ารักของลูกชาย “เป็นไงครับ มาเรียนวันแรกมีเพื่อนหรือยังครับ แล้วนี่ดื้อกับคุณครูหรือเปล่า”หญิงสาวย่อตัวตัวลงให้เสมอกับลูกชายและยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู “วันนี้พี่ปริ๊นไม่ดื้อครับ ไม่เชื่อถามคุณครูได้เลย”เด็กชายพยายามหาพยานเพื่อยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้ดื้อ “พี่ปริ๊นดื้อไหมคะ คุณครู”หญิงสาวลุกขึ้นและส่งลูกชายไปให้สามีก่อนจะเอ่ยถามว่าวันนี้ลูกของเธออยู่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง “พี่ปริ๊นไม่ดื้อเลยค่ะ เข้ากับเพื่อนในห้องได้ทุกคน โดยเฉพาะน้องเกลค่ะพี่ปริ๊นชอ
“พี่ปริ๊นครับลูก ตื่นได้แล้วครับ วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกหนูจำไม่ได้เหรอลูก” คุณม๊าคนสวยเดินขึ้นมาปลุกลูกชายวัยสองขวบที่วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกของเธอต้องไปเรียนวันแรกตอนบอกเรื่องโรงเรียนลูกชายของเธอดีใจกระโดดโลดเต้นยกใหญ่ แต่ทำไมคนที่ดีอกดีใจที่จะได้ไปเรียนถึงกลับไม่ยอมตื่นเสียที “พี่ปริ้นครับ ตื่นได้แล้วลูกเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”คุณม๊าคนสวยไม่ลดความพยายามที่จะปลุกลูกชาย “ม๊าครับ พี่ปริ๊นยังอยากนอนอยู่เลย”เด็กชายงอแงไม่อยากตื่นและซุกหน้าลงหมอนหลับต่อแอดดดด “เอ้า ทำไมพี่ปริ๊นยังนอนอยู่ล่ะครับ ไหนว่าไปเรียนวันแรกไง”ประธานหนุ่มเปิดประตูเข้ามาในห้องลูกชายก็เห็นเมียนั่งมองลูกชายนอนหลับไหนว่าขึ้นมาปลุกแต่ทำไมเจ้าตัวแสบยังนอนอุตุอยู่ “ม๊าปลุกแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ยอมตื่นบอกว่ายังอยากนอนอยู่เลย สงสัยอาหารเช้าของโปรดคงต้องเททิ้งแล้วสิ”หญิงสาวทำทีพูดว่าจะเอาของโปรดที่ลู
6 เดือนต่อมา หญิงสาวย้ายออกมาจากบ้านใหญ่เข้ามาอยู่บ้านที่ประธานหนุ่มซื้อไว้ตั้งแต่ลูกชายอยู่ในท้องยังไม่คลอดด้วยซ้ำ เป็นบ้านที่ประธานหนุ่มสั่งให้ทำห้องเด็กเพิ่มเพราะตัวบ้านเดิมไม่มีห้องของเด็ก บ้านหลังนี้จะมีห้าห้องนอน หกห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว ที่จอดรถ สนามหญ้าหน้าบ้านและก็สระว่ายน้ำส่วนแม่บ้านตอนแรกประธานหนุ่มจะจ้างคนใหม่แต่มารดาไม่ไว้ใจกลัวมาทำร้ายหลานเธอตามที่ข่าวออกเธอจึงส่งคนที่บ้านใหญ่มาสองคนซึ่งเป็นแม่บ้านที่ทำงานมานานและไว้ใจได้ ตอนนี้ลูกชายเธอน้องปริ๊นอายุเจ็บเดือนแล้วกำลังเริ่มหัดคลานคุณปู่คุณย่าก็แวะมาหาหลานเกือบทุกวัน ส่วนกิตต์คนนั้นต้องเรียกได้ว่าหลงหลานตามใจหลานทุกอย่างไม่เคยขัดจนหญิงสาวต้องคอยห้ามไว้เพราะกลัวลูกชายจะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจพูดไม่ฟังตึงๆตึงๆ “น้องปริ๊นอย่าคลานเร็วนักสิลูก แหะๆ”หญิงสาวร้องเรียกตามลูกชายที่กำลังจะคลานไปหน้าบ้าน เผลอไม่ได้เลยลูกคนนี้ “คุณปรางมีอะไรให้สายใจช่วยไหมคะ”สายใจสา
1 เดือนต่อมา หลังหญิงสาวออกจากโรงพยาบาลพร้อมลูกชายตัวน้อย เธอจึงกลับมาพักที่บ้านใหญ่ตอนแรกประธานหนุ่มอยากเข้าไปอยู่บ้านที่เขาซื้อไว้แต่มารดาของสามีไม่ยอมบอกให้อยู่บ้านใหญ่สักเดือนสองเดือนก่อน ประธานหนุ่มที่ไม่เคยพูดชนะมารดาก็จำใจต้องยอมอยู่จนกว่าลูกชายจะสองเดือน แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้มีคนช่วยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กแอ้ๆแอ้ๆแอ้ๆ เสียงเด็กน้อยดังอ้อแอ้มาจากแปลเด็กในตอนเช้าเด็กน้อยจะตื่นแต่เช้าทุกวันพอตื่นมาก็จะส่งเสียงอ้อแอ้ให้ป๊ากับม๊าได้ยินจะเป็นแบบนี้ประจำทุกวันตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลูกน้อยของเธอถือว่าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายไม่งอแงจะมีร้องบ้างแค่ตอนหิวหรือรู้สึกไม่สบายตัวและตื่นบ่อยตามปกติของเด็กแรกเกิด “น้องปริ๊นตื่นแล้วเหรอคะ คนแก่งของม๊าไปปลุกป๊ากัน” น้องปริ๊นหรือด.ช. ปรินทร์ อัศวภัทชกุล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและหลานสุดรักสุดหวงของคุณหญิงมณีรัตน์และคุณเอกภพ ชื่อนี้ประธานหนุ่มเป็นคนคิดตั้งแต่เจ้าลูกชายแปดเดือนช่วงนั้นสามีของเธอเคร
ทุกคนต่างให้ความสนใจสมาชิกใหม่ของบ้าน แต่คนที่ดูจะเห่อลูกชายเขามากที่สุดน่าจะเป็นคุณหญิงมณีรัตน์มารดาของประธานหนุ่ม เพราะข้าวของลูกชายเขาส่วนมากที่มีตอนนี้จนแทบจะล้นบ้านก็มาจากแม่เขาทั้งนั้น “ไหนดูสิหลานย่า น่าเกียจน่าชังจังเลยลูก ดูสิคะหน้าเหมือนตาวีร์ตอนเล็กๆเลย” ประธานหนุ่มยืนดูมารดาอุ้มลูกน้อยของเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ประธานหนุ่มรู้สึกได้ถึงแรงขยับข้างเตียงก่อนจะหันไปดูก็เห็นว่าหญิงสาวตื่นแล้ว ประธานหนุ่มช่วงพยุงหญิงสาวลุกขึ้นนั่งและหยิบน้ำมาให้หญิงสาวดื่ม “ดื่มน้ำก่อนครับ”ประธานหนุ่มยื่นแก้วน้ำไปให้หญิงสาวดื่ม “ขอบคุณค่ะ ดูคุณแม่จะเห่อหลานมาเลยนะคะ”หญิงสาวทักขึ้นยิ้มๆเธอดีใจที่ลูกชายของเธอเป็นที่รักของทุกคน “ใช่ครับ คุณแม่ท่านอยากได้หลานมาตั้งนานแล้วแต่เฮียไม่ยอมมีให้สักที”ประธานหนุ่มหันไปมองมารดาที่อุ้มหลานชายไปมารอบห้องด้วนรอยยิ้ม