KT Pub 20:00 น.
เสียงดนตรีดังกระหึ่มเข้ามาให้โสตประสาทของหญิงสาวทันทีเมื่อขาเรียวก้าวเหยียบเท้าเข้ามาเพียงแต่หน้าทางเข้าของผับเท่านั้น ผู้คนหนุ่มสาวมากมายต่างก็โยกย้ายร่างกายไปตามเสียงเพลงที่ดีเจเปิดเพื่อเพิ่มบรรยากาศในการดื่มของเหล่านักท่องราตรี ผู้คนจำนวนมากต่างเบียดเสียดกันจนหน้าอึดอัดไปหมดหญิงสาวใช้สายตาสอดส่องมองเพื่อนสาวของเธอท่ามกลางแสงไฟสลัวที่แทบจะมองอะไรไม่เห็นแม้แต่ทางเดิน และในที่สุดความพยายามของเธอก็ประสบความสำเร็จหญิงสาวใช้สายตามองหาเพื่อนสาวของเธอจนเจอในที่สุด ที่ยอมมาตามนัดในวันนี้เพราะเธอปฏิเสธเพื่อนหลานครั้งแล้วซึ่งก่อนหน้าที่หญิงสาวจะถึงที่หมายเพื่อนของเธอก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยก่อนหน้าไม่นาน เมื่อเจอเป้าหมายหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาเพื่อนของเธอทันที แต่เมื่อหญิงสาวมาถึงโต๊ะก็เกิดอาการแปลกใจไม่น้อยที่ในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวของเธอแต่มีชายหนุ่มหน้าตาดี แต่แววตานั้นเจ้าเล่ห์ดูไม่เป็นมิตรแต่ยังไม่ที่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยทักถามเพื่อคลายความสงสัยเพื่อนเธอก็ทักขึ้นมาเสียก่อนและแนะนำเขาให้รู้จัก
“นี่ยัยปรางฉันคิดว่าแกจะเทฉันอีกแล้ว” มีนกระเง้ากระงอดหญิงสาวเพราะเธอคิดว่าจะโดนเพื่อนเทเหมือนกับทุกครั้งที่ชวนเสียแล้ว
“แกก็เวอร์นี่เลยเวลานัดยังไม่ถึงสิบนาทีเลยด้วยซ้ำ” หญิงสาวตอบกลับเพื่อนด้วยรอยยิ้มเพราะรู้จักนิสัยเพื่อนคนนี้ดีว่าเป็นคนขี้เล่นเพียงใด ที่พูดก็เพียงแค่อยากหยอกเย้าเพื่อนเล่นก็เท่านั้น
“เอ้อ นี่พีทเพื่อนสมัยเด็กฉัน แล้วพีทนี่ปรางเพื่อนที่มหาลัยฉันที่เคยเหล่าให้ฟัง” มีนแนะนำเพื่อนทั้งสองให้รู้จักกัน
“หึ ยินดีที่ได้รู้จักนะปราง เราพีท” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอหนึ่งครั้งก่อนจะเอ่ยทักทายเพื่อนใหม่อย่างสุภาพ
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน เราปราง” ปรางทักทายกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เธอรู้สึกไม่ค่อยชอบใจมากนักกับสายตา ที่พีทมองเธอมันดูเจ้าเล่ห์ในสายตาเธอ ถึงแม้สำหรับคนอื่นพีทจะจัดว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีผิวพันธุ์ดี การศึกษาดี รวย ใครก็อยากเข้าหาแต่สำหรับตัวหญิงสาวแล้วขอแค่รู้จักแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว อยู่ห่างได้จะดีที่สุด เธออาจจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเสมอมาแต่ก็ใช่ว่าเธอจะมองคนไม่ออกว่าใครคิดเช่นไรกับตัวเองและควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้ตัวเองปลอดภัย
หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างทักทายกันเรียบร้อยแล้วทั้งสามก็นั่งดื่มนั่งกินกันไปสักพัก แต่ก็มีบ้างที่ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะจะเหลือบมองปรางเป็นระยะ เพราะเขานั้นเกิดสนใจเพื่อนของเพื่อนคนนี้เข้าให้ เขาเคยได้ยินเพียงคำบอกเล่าเกี่ยวกับหญิงสาวตรงหน้าจากเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นตัวเขาเองก็มีความคิดที่จะไม่ได้สนใจอะไรใสตัวของเธอเพียงแค่รับฟังเท่านั้น แต่พอชายหนุ่มได้เห็นตัวจริงเพื่อนของเพื่อนก็เกิดลุ่มหลงในความน่ารักและมีเสน่ห์ดึงดูดให้อยากเข้าหาได้ไม่ยากของเธอ แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวเพื่อนของเพื่อนจะดูคนเก่งไม่เบาเพราะเธอนั้นเว้นระยะกับเขาพอสมควรและในระหว่างที่ร่วมโต๊ะกันนั้นเธอก็ไม่แม้แต่จะสบตาหรือคุยกับเขาแม้แต่น้อย มีแต่เขาเองที่เป็นฝ่ายถามเธอเสียมากกว่าแต่เป็นแค่การที่ถามคำตอบคำเมื่อเขาหยุดถามเธอก็หันไปคุยกับมีนต่อโดยที่ไม่สนใจเขาชายคนเดียวที่นั้นร่วมโต๊ะอยู่ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงวิ่งเข้าหาแล้ว ผิดกับเธอที่พยายามเว้นระยะห่างจากเขาและนั้นมันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสนใจในตัวเธอมากขึ้น ยิ่งได้ยากแบบนี้แหละยิ่งดีท้าทายดีเขาชอบ กระตุ้นความอยากได้หญิงสาวเพื่อนของเพื่อนมาไว้ครอบครองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ยิ่งได้ยากเขายิ่งชอบ เธอไม่มีทางรอดจากเขาหรอก หึ...
22:00 น.
“อุ๊ย เครื่องดื่มหมดแล้วอ่ะ” มีนเพื่อนของหญิงสาวอุทานออกมา เมื่อเห็นว่าเครื่องดื่มบนโต๊ะหมดแล้ว
“หมดแล้วก็พอได้แล้ว กลับกันเถอะ แกดื่มไปเยอะแล้วเดี๋ยวกับบ้านไม่ไหวหรอก” หญิงสาวบอกกับเพื่อนของเธอ แล้วชวนเพื่อนกลับบ้านเพราะเธอไม่ค่อยชอบที่แบบนี้สักเท่าไหร่แต่ที่ยอมมาเพราะเธอเบี้ยวนัดเพื่อนหลายครั้งแล้ว เธอเองก็อยากกลับแล้วเหมือนกันและอีกสาเหตุคือเธออึดอัดกับสายตาที่พีทมองเธอราวจะกลืนกินเธอไปทั้งตัวเสียให้ได้
“ไม่เอาหรอก พีทนายไปสั่งเครื่องดื่มให้ฉันกับยัยปรางหน่อยสิ” มีนตอบเพื่อนสาวของเธอในตอนแรกและหันไปไหว้วานพีทให้ไปสั่งเครื่องดื่มให้พวกเธอ
“พอได้แล้วมีน แกเมามากแล้วนะ”ปรางปรามเพื่อนที่ตอนนี้เมาจนแทบไม่ได้สติแล้ว
“อือ” พีทตอบรับในลำคอแล้วเดินนออกไปสั่งเครื่องดื่ม ซึ่งก็เป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้เอาเพื่อนของเพื่อนของเขาคนนี้มาเป็นของเขา ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตามถ้ามันจะทำให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เขาต้องการเขาก็จะทำ พีทเอายาปลุกเซ็กที่เขาพกมาเผื่อได้ใช้ออกมา เขาก็ไม่คิดว่าจะได้ใช้จากนั้นก็จัดการเทลงไปในแก้วที่เป็นของปรางแล้วนำเอาไปให้ทั้งสองสาวที่โต๊ะ
“พีททำไมนายไปนานจังแค่ให้ไปสั่งเครื่องดื่ม ฉันไม่ได้ให้นายไปรอเอามาด้วยสักหน่อย” มีนบ่นเพื่อนสมัยเด็กของเธอที่ไปนานปล่อยให้พวกเธอรอ
“เออน่า ก็ได้แล้วนี่ไง เธอจะบ่นอะไรมีน” พีทตอบกลับมีนและทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด
“เออๆแล้วไหน เครื่องดื่มของฉันกับปราง เอามาสิ” มีนทวงถามเครื่องดื่มจากเพื่อน
“อะ อันนี้ของแก ส่วนอันนี้ของปราง” พีทเลื่อนแก้วเครื่องดื่มไปให้มีนก่อนเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตแล้วค่อยเลื่อนไปให้ปรางแต่ก็มิวายส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้ปรางด้วย จนทำให้ปรางรู้สึกขนลุกกับสายตาคู่นี้และอยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด พีทยังคงจับจ้องทุกการกระทำของเธอไม่วางตา
“นี่มีน หมดแก้วนี้แล้วกลับกันนะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานเดี๋ยวตื่นไม่ไหว” หญิงสาวรู้สึกไม่ปลอดภัยจากสายตาของพีทเหมือนคนที่กำลังคิดบางอย่างอยู่ตลอดเวลา จึงเอ่ยชวนมีนกลับอีกครั้งพร้อมบอกเหตุผลของเธอที่คิดว่าจะทำให้เพื่อนเธอยอมกลับได้
“โอเค ได้ๆ แก้วนี้หมดแล้วกลับเลยก็ได้นี่เห็นว่าแกต้องไปทำงานพรุ่งนี้หรอกนะเลยยอมกลับ”หญิงสาวกระดกเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายลงคอ เหล้าที่ดื่มลงไปไหลผ่านลำคอระหงทำให้รู้สึกร้อนคอมากกว่าปกติและทำให้รับรู้ได้ว่าเครื่องดื่มแก้วนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่จำนวนมากกว่าปกติ
“ป่ะ หมดแล้วกลับกัน แล้วนี่แกกลับยังไงให้ฉันไปส่งไหม” มีนตอบตกลงอย่างจำยอมที่เห็นว่าปรางต้องไปทำงานพรุ่งนี้ แต่ก็มิวายถามเพื่อนว่ากลับบ้านอย่างไรเพราะเพื่อนของเธอไม่มีรถจะให้กลับเองคนเดียวดึกๆก็เป็นห่วงเพื่อน
“ฉันนั่งแท็กซี่กลับ แกกลับไปก่อนเลย เดี๋ยวขอไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าหน่อยรู้สึกมึนหัวยังไงไม่รู้” หญิงสาวตอบกลับเพื่อนให้เพื่อนนั้นคลายกังวล
“โอเค งั้นแกกลับดีๆนะ อ้าวพีท แล้วนายจะนั่งอีกนานไหมไม่กลับหรือไง” มีนกล่าวลาปราง แล้วหันไปถามพีทที่ไม่ยอมลุกตามเธอเพราะทั้งคู่บ้านอยู่ใกล้กัน
“ยัง ฉันว่าจะนั่งอีกสักพักค่อยกลับ เธอกลับไปก่อนเลย” พีทตอบกลับมีนแต่สายตาก็ยังรอบมองปฏิกิริยาของยาฤทธิ์ที่เขาใส่ลงไปในแก้วของปรางว่าออกฤทธิ์หรือยัง และเมื่อเขาเห็นอาการที่แปลกไปของหญิงสาวชายหนุ่มก็เผยยิ้มร้ายออกมาโดยที่สองสาวไม่ทันได้สังเกตอย่างผู้ชนะ
หญิงสาวหลังจากที่แยกกับเพื่อนแล้วก็ตรงไปที่ห้องน้ำของผับทันทีเพื่อไปล้างหน้าล้างตาให้หายจากอาการที่เป็นอยู่ แล้วค่อยบ้านแต่ในระหว่างที่หญิงสาวเดินไปเข้าห้องน้ำหญิงสาวก็เกิดอาการร้อนวูบวาบในกายขึ้นมามากกว่าเดิม ซึ่งหญิงสาวไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน หญิงสาวพยายามประคองร่างตัวเองให้ไปถึงห้องน้ำให้เร็วที่สุด แต่หารู้ไม่ว่ามีร่างชายคนสองคนกำลังเดินตามเธอมาแต่ต่างจุดประสงค์กันนั่นก็คือพีทและชายอีกคนที่เดินตามหลังพีทมาอยู่ห่างๆเพื่อเฝ้ามาว่าพีทจะทำอย่างไรต่อไป พีทเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเดินไปทางห้องน้ำเขาก็เดินตามเธอไปทางห้องน้ำเช่นกัน แต่เขาเว้นระยะเวลาไว้สักพักก่อนที่จะเดินตามเธอออกไป โดยทิ้งระยะห่างกับเธอเพื่อไม่ให้เธอสงสัย ซึ่งตลอดเวลาที่เดินตามเธอเขาก็เฝ้าสังเกตอาการเธออยู่ไม่ห่างและดูเหมือนว่ายาที่เขาใส่ลงไปจะออกฤทธิ์มากขึ้นกว่าเก่าจนไม่ทันได้สังเกตว่าในขณะเดียวกันก็มีคนเดิมตามหลังพวกเขามาอีกที ทางด้านชายหนุ่มที่เดินตามหลังของทั้งคู่อยู่เห็นอาการของหญิงสาวเริ่มจะไม่สู้ดีนักจึงเร่งสาวเท้าก้าวยาวๆแซงพีทไป เพื่อจะเดินให้ถึงตัวของหญิงสาวก่อนที่พีทจะไปถึงตัวเธอ ชายหนุ่มไม่ได้เพียงพึ่งเห็นเธอแต่เขาเห็นเธอและจ้องมองตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในร้านจนถึงตอนนี้เขาก็ยังจับตามองเธออยู่ไม่ห่างและเขาก็เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและการกระทำที่คิดไม่ซื่อของพีทอีกด้วย……
KT Pub20:00 น. ประธานหนุ่มมาถึงสถานบันเทิงที่นัดหมายกับเพื่อนไว้ก็ตรงไปหาเพื่อนๆที่ชั้นสองของผับซึ่งเป็นโซนสำหรับลูกค้าVIPเท่านั้นโดยปกติแล้วเวลาที่พวกเขามาสังสรรค์กันพวกเขาก็มักจะไปนั่งดื่มกันชั้นสอง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเมื่อมาถึงห้องที่มีเพื่อนของเขาอยู่ประธานหนุ่มจึงเปิดประตูเข้าไปโดยภายในห้องไม่มีผู้หญิงหรือใครอื่นนอกจากพวกเขา เพราะเพื่อนเขาทุกคนต่างก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ก็จะเหลือเพียงแค่ประธานหนุ่มที่ยังไม่มีคู่กับเขาสักที เพราะความบ้างานของตัวเองทำแต่งานไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัว ถึงแม้จุดที่พวกเข้านั่งอยู่จะเป็นห้องVIPมีความเป็นส่วนตัว แต่ในจุดที่พวกเขานั่งดื่มนั้นสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งผับเพราะด้านข้างเป็นกระจกที่จะมีแค่คนที่นั่งอยู่ในห้องเท่านั่นจะมองเห็นแต่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ข้างในห้องได้ได้ ในขณะที่ประธานหนุ่มกำลังดื่มฉลองให้กับลูกคนที่สามของเพื่อนอยู่นั่นสายตาของเขาก็มาไปรอบๆทำให้สายตาของเขาไปสะดุดที่หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในร้านหน้าตาน
ปังงง!!!!!!!!!!!!! ประธานหนุ่มปิดประตูเสียงดังโดยไม่กลัวว่าประตูห้องจะพัง เมื่อประตูห้องปิดลงประธานหนุ่มก็วางหญิงสาวลง ปากหนาประกบจูบไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวตรงหน้าทันที หญิงสาวที่โดนฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กเล่นงานอย่างหนักเธอไม่นึกเขินอายที่ต้องมาจูบกับชายแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จักเพราะความต้องการที่มีมากกว่าความอายของเธอทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ตอนนี้หญิงสาวต้องการปลดปล่อยมากกว่าที่จะมานั่งเขินอาย ประธานหนุ่มเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี้ยวกระหวัดลิ้นของหญิงสาว มือทั้งสองข้างของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายที่สมส่วนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความต้องการที่มีมากไม่ต่างกัน มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนมาอยู่ที่เต้ากลมสวยใหญ่จนล้นมือของเขา ประธานหนุ่มคลึงบริเวณยอดประทุมถันของเธอ จึงทำให้หญิงสาวส่งเสียงครางอื้ออึงออกมากด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยได้รับมาก่อน “อื้อ อย่าทำ บะ แบบนั้น” หญิงสาวเอยเสียงกระท่อนกระแท่นประธานหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจที่สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวตรงหน้าได้ ปากของทั้งสองยัง
06:00 น. “อื้ออออออ” หญิงสาวขยับร่างที่ไร้ซึ่งอาภรมีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปิดบังเรือนร่างก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะและปวดเมื่อยร่างกายไม่น้อยดวงตาสวยกระทบกับแสงแดดเธอกระพริบตาสองสามทีไร้อาการมึนงงเรียกสติตัวเอง เพื่อนึกย้อนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเธอและทำอะไรลงไปบ้างเมื่อคืนนี้ พอตั้งสติได้ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามาในโสตประสาทของเธอ ถึงแม้หญิงสาวจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมดว่าเธอทำอะไรลงไปบ้างก็ตาม แต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและฝืนฤทธิ์ของยาที่ดื่มเข้าไปไม่ได้ บวกกับการเล้าโลมของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้ทั้งที่เธอไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ จำได้เพียงว่าครั้งแรกที่เธอเจอเขาคือที่ผับเมื่อคืนและครั้งล่าสุดคือตอนนี้ที่เขานอนเอาแขนหนักๆมากอดที่เอวของเธอ หญิงสาวทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจนปะติดปะต่อได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เธอต้องทำต่อจากนี้คือการออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะตื่นเสียก่อน พอคิดได้อย่างนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเตี
1 เดือนผ่านไป หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นหญิงสาวก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช้าตื่นไปทำงานเลิกงานก็กลับบ้านชีวิตประจำวันของเธอก็มีอยู่แค่นี้ แต่ก็จะมีบ้างนัดเจอกัน ทานข้าว ดูหนัง เดินห้างกับมีนเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอตามภาษาวัยรุ่น นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เจอพีทอีกเลยเช่นกัน มีนบอกว่าเขาไปต่างประเทศแล้ว เหตุการณ์การวันนั้นเธอไม่ได้บอกมีนและก็ไม่คิดที่จะบอกเด็ดขาด เธอไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง เรื่องมันแล้วมาก็ปล่อยให้แล้วไปไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ถึงแม้เธอจะรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากฝีมือของพีทเป็นคนเอายาปลุกเซ็กใส่ในแก้วเครื่องดื่มของเธอเพราะนอกจากเครื่องดื่มที่มีนชงให้ก็มีเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเท่านั้นที่พีทเป็นคนเอามายื่นให้เธอ ซึ่งอาการแปลกๆก็เกิดขึ้นกับเธอขึ้นหลังดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นของพีท หลังเกิดเรื่องคืนนั้นหญิงสาวก็ไม่มีความคิดที่จะกลับไปหาชายแปลกหน้าคนนั้นเพื่อที่จะให้เขารับผิดชอบเธอกับอะไรก้ตามที่เสียไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ถึงแม้เธอจะจำใบหน้าหล่อเหลาเขาได้อย่างแม่นยำ
เช้าแห่งการเริ่มฝึกงานวันแรกหญิงสาวเดินมาหยุดอยู่หน้าบริษัทออกแบบภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของประเทศใครหลายคนก็อยากเข้ามาทำงาน แม้แต่นักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและกำลังหาที่ฝึกงานต่างก็ต้องการจะมาฝึกงานที่นี่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงานและหวังว่าจะได้ทำงานที่นี่ต่อเมื่อสิ้นสุดการฝึกงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะได้เข้ามาทำงานหรือฝึกงานในบริษัทแห่งนี้เนื่องจากมีการคัดกรองพนักงานที่จะเข้ามาทำงานอย่างเข้มงวด และยิ่งเป็นนักศึกษาฝึกงานยิ่งยากเพราะปีหนึ่งจะรับแค่ไม่เกินสองคนเท่านั้น ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนคลาสเดียวกับเธอหลายคนก็ยื่นสมัครฝึกงานไม่น้อยแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากทางบริษัท แต่ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากความโด่งดังของบริษัทก็ยังมีความฮอตปรอทแตกของท่านประธานที่ถึงแม้ว่าอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตามแต่ก็ยังดูดีเหมือนเด็กวัยยี่สิบต้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บรรดานักศึกษาหรือสาวๆอยากมาฝึกงานที่นี่เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความฮอตปรอทแตกของท่านประทานบริษัทนี้จ
จ๊วบๆจ๊วบๆจ๊วบๆ ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามันไม่มีใครยอมใครเป็นเวลานานหลายนาที ประธานหนุ่มผละจูบออกแล้วย้ายมาจูบซอกคอหอมหญิงสาวมือที่ขย้ำบีบหน้าออกหญิงสาวอยู่ตอนนี้ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเม็ดแรกของหญิงสาวออกเผยให้เห็นเนินอกขาวเนียน หญิงสาวเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่มไม่แม้แต่คิดที่จะห้ามการกระทำของเขาราวกับคนหูหนวกตาบอด ยิ่งโดยสัมผัสมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นมากขึ้นความทรงจำคืนนั้นหลั่งไหล่เข้าถึงในโสตประสาทเป็นฉากๆ แม้ว่าในคืนนั้นสติจะไม่เต็มร้อยแต่เธอก็จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านประธานหนุ่มไว้ได้อยู่ หญิงสาวรู้สึกโหยหาสัมผัสทของประธานหนุ่มต้อวการให้เขาสัมผัสเธอให้มากกว่านี้เหมือนคืนนั้น แม้จะเป็นครั้งเดียวที่เขาและเธอมีอะไรกันก็ตามแต่เธอกลับจำมันได้ขึ้นใจ ประธานหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงนักศึกษาใช้มือสัมผัสกลีบกุหลาบงามของหญิงสาวที่ตอนนี้มีน้ำใสๆไหลออกมาจากร่องสวาทที่เขาเคยสัมผัสและเข้าไปทักทายมันมาแล้วครั้ง
หญิงสาวเดินตามเลขาหนุ่มไปแผนกที่เธอจะต้องฝึกงานอย่างเงียบๆและรอบสังเกตท่าทีของเขาที่แตกต่างจากตอนที่อยู่ในลิฟต์และห้องของประธานหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปเป็นอีกคนดูเงียบและสุขุมไม่ต่างจากผู้เป็นนายแม้แต่น้อย นี่สินะที่เขาว่ากันว่าคนเราก็เหมือนเหรียญที่มักจะมีสองด้านด้วยเสมอ กิตต์พาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งน่าจะเป็นแผนกที่หญิงสาวฝึกงานทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงานก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเลขาหนุ่มดังขึ้น “อืม ทุกคนนี่คือปรางทิพย์นักศึกษาฝึกงานที่จะมาฝึกงานที่แผนกของพวกคุณ” “ผมฝากด้วย” เลขาหนุ่มบอกเสียงเรียบเป็นเสียงที่พนักงานทุกคนในบริษัททุกคนต่างคุ้นชินกันดีแต่คงไม่ใช่กับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ หนูชื่อปรางทิพย์ค่ะ เรียกปรางก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดแนะนำตัว “นั่นคุณรุ้งนภาเป็นผู้จัดการแผนกออ
ทางด้านประธานหนุ่มที่นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานของตัวเองอย่างตั้งใจแต่ในหัวของเขากลับวนคิดถึงแต่ใบหน้าและรูปร่างนุ่มนิ่มน่าสัมผัสนั้นตลอดเวลาจนไม่มีสมาธิทำงาน ช่วงสายเขาต้องไปพบลูกค้าเพื่อทำสัญญาตกแต่งภายในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งถือว่าเป็นโปรเจกที่ใหญ่แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับบริษัทเขาเพราะที่นี่รับงานเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งก็อกๆ “ขออนุญาตครับ” “อืมเข้ามา” “ช่วงสิบโมงท่านมีไปพบลูกค้านะครับ” กิตต์แจ้งนัดหมายลูกค้าให้ประธานหนุ่มทราบ “ท่านจะไปเลยไหมครับ ผมจะได้ไปเตรียมเอกสารสัญญาและให้คนขับรถเตรียมรถไว้รอ” “อืม ไปเลยก็ได้เพื่อรถติด ไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน” “ครับ เดี๋ยวผมขอไปเตรียมเอกสารสักครู่นะครับ” “ได้ เอ่อ แล้วปรางทิพย์เป็นยังไงบ้าง”ประธ
ช่วงเที่ยงของวันปรางทิพย์นั่งเล่นอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพียงลำพังเพราะสามีและลูกคนโตออกไปทำงานกันส่วนสองแฝดก็ไปเรียน เธอจึงต้องอยู่บ้านคนเดียวอย่างเหงาๆเพราะตั้งแต่มีลูกเธอก็ไม่ได้ทำงานอีกเลย “ม๊าขา อยู่ไหมคะ”ปริมลูกสาวคนเดียวของบ้านตะโกนเรียกมารดามาตั้งแต่อยู่หน้าบ้านจนกระทั่งเข้ามาถึงภายในตัวบ้าน “ม๊าอยู่ที่ห้องนั่งเล่นลูก”ปรางทิพย์ขานตอบลูกสาวปริมเมื่อได้ยินเสียงมารดาดังมาจากห้องนั่งเล่นก็รีบวิ่งเข้าไปหามารดาทันทีปรางทิพย์เห็นว่าลูกสาววิ่งหน้าตั้งตาตื่นก็ตกใจนึกว่าเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้น “ปริมมีอะไร เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่ทำไมกลับมาเร็วไม่มีเรียนเหรอคะ”ปรางทิพย์รัวคำถามใส่ลูกสาวที่วันนี้บอกว่ามีเรียนเลิกสี่โมงเย็นแต่นี่พึ่งบ่ายสองทำไมกลับมาเร็ว “อาจารย์ยกคลาสค่ะ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ เพราะมีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นอีกค่ะ”ปริมพูดด้วยความตื่นตระหนกราวกับเ
เช้าวันใหม่แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนของสองสามีภรรยาที่นอนกอดกันไม่ยอมตื่นลมแอร์ปะทะร่างกายทำให้ต้องกระชับกอดกันให้แน่นขึ้นเพราะความเย็นของแอร์ ปวีร์ขยับเปลือกตาค่อยๆลืมตาปรับแสงที่มากระทบตาเมื่อปรับได้แล้วก็หันไปมองภรรยาคนสวยที่นอนหลับอยู่ในอ้อมกอด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความสวยไม่เคยเลือนหายเขายังคงหลงใหลร่างกายนี้ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อได้สัมผัสก็ต้องการที่จะสัมผัสมากขึ้นทุกครั้งตอนนี้ก็เช่นกัน ปรางทิพย์ที่อยู่ในชุดนอนเดรสสายเดี่ยวเนื้อผ้าซาตินลื่นมือทำให้เมียของเขาน่าสัมผัสมากขึ้นอีกเท่าตัวปวีร์จับตัวภรรยาคนสวยให้นอนราบกับที่นอนและเริ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอไล่เลียระดมจูบไปตามซอกคอทำให้เกิดเป็นรอยจ้ำแดงระเรื่อที่คอ มือหนาเลื่อนไปบีบขย้ำหนาอกอวบนิ้วแกร่งสะกิดยอกประทุมถันที่ชูชันอีกข้างก็เลื่อนลงไปที่กลีบกุหลาบงาม ปวีร์พรมจูบไล่ลงมาจนถึงกลีบกุหลาบงามมือหนาถอดกางเกงในของปรางทิพย์ออกและเลิกชายกระโปรงขึ้นลิ้นร้อนไล่เลียไปตามรอยแยกนิ้วแกร่งสอดเขาไปในร่
20 ปีผ่านไป ตอนนี้ลูกของประธานหนุ่มและภรรยาโตเป็นหนุ่มเรียนมหาวิทยาลัยกันหมดทุกคนแล้ว ปริ๊น หรือ ปรินทร์ อัศวภัทชกุล ลูกชายคนโตของปวีร์และปรางทิพย์ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปีสี่ ปริ๊นเริ่มเข้ามาช่วยงานพ่อตั้งแต่ขึ้นมหาลัยเพราะอยากช่วยงานพ่อแต่ช่วงนี้ก็เริ่มที่จะเข้ามาทำมากขึ้นส่วนเด็กแฝดทั้งสองคนก็เรียนมหาลัยที่เดียวกับพี่ชายท้องที่สองเธอได้แฝดชายหญิงซึ่งสมใจพ่อเขานั้นแหละ “หนูวันนี้โทรบอกลูกๆแล้วใช่ไหมว่าให้เข้ามาทานข้าวที่บ้าน” ท่านประธานวัย54แต่ยังดูดีเหมือนคนวัย30ต้นๆ เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านเอ่ยถามภรรยาที่ยังสวยไม่เปลี่ยนตั้งแต่วันแรกที่เจอกันถึงแม้จะอายุเลขสี่แล้วก็ตาม “โทรบอกแล้วค่ะ เดี๋ยวก็คงจะมากัน” “ครับ แล้วนี่หนูทำอะไรอยู่ครับ”ปวีร์เดินมานั่งข้างภรรยาโอบเอวไว้หลวมและเอ่ยถาม “ นั่งดูอะไรไปเรื่อยค่ะ ว่าแต่ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะ”
1 เดือนผ่านไปอ๊วกๆ อ๊วกๆ อ๊วกๆ เสียงโก่งคออาเจียนของประธานหนุ่มดังขึ้นอย่างนี้มาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วหญิงสาวบอกให้ไปหาหมอก็ไม่ยอมไปบอกแต่ว่าไม่เป็นอะไรอาจจะเป็นผลมาจากการทำงาน “เฮียไหวไหมคะ ไปหาหมดเถอะนะ”หญิงสาวคะยั้นคะยอให้สามีไปหาหมอเพราะเป็นห่วงกลัวว่าสามีจะเป็นโรคร้ายแรง “เฮียไม่เป็นอะไรจริงๆครับ”ประธานหนุ่มพูดแล้วเอามือลูบหัวหญิงสาวให้คลายกังวล “ตะ...” “ป๊าม๊าเสร็จยังครับ เดี๋ยวพี่ปริ๊นไปเรียนสายนะ”ลูกชายตัวแสบเปิดประตูวิ่งเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู “พี่ปริ๊นครับ ไม่เสียงดังนะครับป๊าไม่สบายอยู่นะ”หญิงสาวบอกลูกชายให้เบาเสียงลง “ป๊าไม่สบายเหรอครับ งั้นม๊าอยู่ดูแลป๊านะครับ เดี๋ยวพี่ปริ๊นให้อากิตต์ไปส่ง”เด็กชายที่มีความคิดโตเกินเด็กวัยเดียวกันหันไปมองหน้าพ่อและพูดบอ
“ป๊า/ม๊าครับ พี่ปริ๊นมาแล้ว”เสียงเด็กชายเรียกพ่อกับแม่เข้าดังขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองกำลังเดินมาในโรงเรียน ประธานหนุ่มและหญิงสาวขับรถมารับลูกชายหลังเลิกงานทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปด้านในก็ได้ยินเสียงเจ้าแสบดังมาแต่ไกลเรียกพวกเขาทำให้ประธานหนุ่มและหญิงสาวหันหน้ามองกันและยิ้มให้กับความน่ารักของลูกชาย “เป็นไงครับ มาเรียนวันแรกมีเพื่อนหรือยังครับ แล้วนี่ดื้อกับคุณครูหรือเปล่า”หญิงสาวย่อตัวตัวลงให้เสมอกับลูกชายและยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายอย่างเอ็นดู “วันนี้พี่ปริ๊นไม่ดื้อครับ ไม่เชื่อถามคุณครูได้เลย”เด็กชายพยายามหาพยานเพื่อยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้ดื้อ “พี่ปริ๊นดื้อไหมคะ คุณครู”หญิงสาวลุกขึ้นและส่งลูกชายไปให้สามีก่อนจะเอ่ยถามว่าวันนี้ลูกของเธออยู่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง “พี่ปริ๊นไม่ดื้อเลยค่ะ เข้ากับเพื่อนในห้องได้ทุกคน โดยเฉพาะน้องเกลค่ะพี่ปริ๊นชอ
“พี่ปริ๊นครับลูก ตื่นได้แล้วครับ วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกหนูจำไม่ได้เหรอลูก” คุณม๊าคนสวยเดินขึ้นมาปลุกลูกชายวัยสองขวบที่วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกของเธอต้องไปเรียนวันแรกตอนบอกเรื่องโรงเรียนลูกชายของเธอดีใจกระโดดโลดเต้นยกใหญ่ แต่ทำไมคนที่ดีอกดีใจที่จะได้ไปเรียนถึงกลับไม่ยอมตื่นเสียที “พี่ปริ้นครับ ตื่นได้แล้วลูกเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”คุณม๊าคนสวยไม่ลดความพยายามที่จะปลุกลูกชาย “ม๊าครับ พี่ปริ๊นยังอยากนอนอยู่เลย”เด็กชายงอแงไม่อยากตื่นและซุกหน้าลงหมอนหลับต่อแอดดดด “เอ้า ทำไมพี่ปริ๊นยังนอนอยู่ล่ะครับ ไหนว่าไปเรียนวันแรกไง”ประธานหนุ่มเปิดประตูเข้ามาในห้องลูกชายก็เห็นเมียนั่งมองลูกชายนอนหลับไหนว่าขึ้นมาปลุกแต่ทำไมเจ้าตัวแสบยังนอนอุตุอยู่ “ม๊าปลุกแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ยอมตื่นบอกว่ายังอยากนอนอยู่เลย สงสัยอาหารเช้าของโปรดคงต้องเททิ้งแล้วสิ”หญิงสาวทำทีพูดว่าจะเอาของโปรดที่ลู
6 เดือนต่อมา หญิงสาวย้ายออกมาจากบ้านใหญ่เข้ามาอยู่บ้านที่ประธานหนุ่มซื้อไว้ตั้งแต่ลูกชายอยู่ในท้องยังไม่คลอดด้วยซ้ำ เป็นบ้านที่ประธานหนุ่มสั่งให้ทำห้องเด็กเพิ่มเพราะตัวบ้านเดิมไม่มีห้องของเด็ก บ้านหลังนี้จะมีห้าห้องนอน หกห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว ที่จอดรถ สนามหญ้าหน้าบ้านและก็สระว่ายน้ำส่วนแม่บ้านตอนแรกประธานหนุ่มจะจ้างคนใหม่แต่มารดาไม่ไว้ใจกลัวมาทำร้ายหลานเธอตามที่ข่าวออกเธอจึงส่งคนที่บ้านใหญ่มาสองคนซึ่งเป็นแม่บ้านที่ทำงานมานานและไว้ใจได้ ตอนนี้ลูกชายเธอน้องปริ๊นอายุเจ็บเดือนแล้วกำลังเริ่มหัดคลานคุณปู่คุณย่าก็แวะมาหาหลานเกือบทุกวัน ส่วนกิตต์คนนั้นต้องเรียกได้ว่าหลงหลานตามใจหลานทุกอย่างไม่เคยขัดจนหญิงสาวต้องคอยห้ามไว้เพราะกลัวลูกชายจะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจพูดไม่ฟังตึงๆตึงๆ “น้องปริ๊นอย่าคลานเร็วนักสิลูก แหะๆ”หญิงสาวร้องเรียกตามลูกชายที่กำลังจะคลานไปหน้าบ้าน เผลอไม่ได้เลยลูกคนนี้ “คุณปรางมีอะไรให้สายใจช่วยไหมคะ”สายใจสา
1 เดือนต่อมา หลังหญิงสาวออกจากโรงพยาบาลพร้อมลูกชายตัวน้อย เธอจึงกลับมาพักที่บ้านใหญ่ตอนแรกประธานหนุ่มอยากเข้าไปอยู่บ้านที่เขาซื้อไว้แต่มารดาของสามีไม่ยอมบอกให้อยู่บ้านใหญ่สักเดือนสองเดือนก่อน ประธานหนุ่มที่ไม่เคยพูดชนะมารดาก็จำใจต้องยอมอยู่จนกว่าลูกชายจะสองเดือน แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้มีคนช่วยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กแอ้ๆแอ้ๆแอ้ๆ เสียงเด็กน้อยดังอ้อแอ้มาจากแปลเด็กในตอนเช้าเด็กน้อยจะตื่นแต่เช้าทุกวันพอตื่นมาก็จะส่งเสียงอ้อแอ้ให้ป๊ากับม๊าได้ยินจะเป็นแบบนี้ประจำทุกวันตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลูกน้อยของเธอถือว่าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายไม่งอแงจะมีร้องบ้างแค่ตอนหิวหรือรู้สึกไม่สบายตัวและตื่นบ่อยตามปกติของเด็กแรกเกิด “น้องปริ๊นตื่นแล้วเหรอคะ คนแก่งของม๊าไปปลุกป๊ากัน” น้องปริ๊นหรือด.ช. ปรินทร์ อัศวภัทชกุล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและหลานสุดรักสุดหวงของคุณหญิงมณีรัตน์และคุณเอกภพ ชื่อนี้ประธานหนุ่มเป็นคนคิดตั้งแต่เจ้าลูกชายแปดเดือนช่วงนั้นสามีของเธอเคร
ทุกคนต่างให้ความสนใจสมาชิกใหม่ของบ้าน แต่คนที่ดูจะเห่อลูกชายเขามากที่สุดน่าจะเป็นคุณหญิงมณีรัตน์มารดาของประธานหนุ่ม เพราะข้าวของลูกชายเขาส่วนมากที่มีตอนนี้จนแทบจะล้นบ้านก็มาจากแม่เขาทั้งนั้น “ไหนดูสิหลานย่า น่าเกียจน่าชังจังเลยลูก ดูสิคะหน้าเหมือนตาวีร์ตอนเล็กๆเลย” ประธานหนุ่มยืนดูมารดาอุ้มลูกน้อยของเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ประธานหนุ่มรู้สึกได้ถึงแรงขยับข้างเตียงก่อนจะหันไปดูก็เห็นว่าหญิงสาวตื่นแล้ว ประธานหนุ่มช่วงพยุงหญิงสาวลุกขึ้นนั่งและหยิบน้ำมาให้หญิงสาวดื่ม “ดื่มน้ำก่อนครับ”ประธานหนุ่มยื่นแก้วน้ำไปให้หญิงสาวดื่ม “ขอบคุณค่ะ ดูคุณแม่จะเห่อหลานมาเลยนะคะ”หญิงสาวทักขึ้นยิ้มๆเธอดีใจที่ลูกชายของเธอเป็นที่รักของทุกคน “ใช่ครับ คุณแม่ท่านอยากได้หลานมาตั้งนานแล้วแต่เฮียไม่ยอมมีให้สักที”ประธานหนุ่มหันไปมองมารดาที่อุ้มหลานชายไปมารอบห้องด้วนรอยยิ้ม