"แหม พูดถึงนี่ยิ้มเลยนะครับนะแต่กูก็ว่าน้องเค้าน่ารักนะ เลี้ยงต้อยซัก 7-8 ปีคงใช้งานได้" เทนว่ายิ้ม ๆ
"มึงนี่ก็ คิดอะไรบาปไปนะไอ้เทน กูแค่เอ็นดูน้องเค้า ตัวแค่นี้รู้จักทำมาหากิน แล้วพูดเก่งมากกูว่าถ้ามีน้องสาวแบบนี้คงจะหนวกหูดี ดีกว่าอยู่เงียบ ๆ" มาร์คว่าขำ ๆ ตามความคิดของตัวเอง
"อ่อ... อยากเป็นพี่ชาย น้องมัน?" โรมเลิกคิ้วถาม
"เออ... กูว่ามันน่าจะดีกว่าน้องชายปากหมา ๆ อย่างไอ้เนส กับใจร้อนอย่างไอ้นิคว่ะ" มาร์คบอกเพื่อนพลางกระดกเบียร์หมดกระป๋องแล้วจะคว้ากระป๋องใหม่มาเปิด
"ของกู" เทนรีบคว้าก่อนทำให้ได้รับค้อนวงน้อย ๆ จากเพื่อนก่อนที่มาร์คจะลุกขึ้นไปหยิบมาใหม่อีก 3 กระป๋อง
"กูว่าเราสั่งข้าวมากินกันเถอะจะบ่ายละ นอนซักพักกูต้องออกไปร้าน เมื่อคืนพวกเมาแล้วตีกันเละเทะฉิบหาย" โรมว่าพลางเปิดแอปสั่งอาหาร
"อือ ดี กูก็เพลีย ๆ ว่ะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พวกมึงต้องไปดูบ้านกับกูนะ เฟอร์บางส่วนกูจะขนออกมาเก็บหลังร้านก่อนแล้วค่อยทยอยขนไปเดือนละอย่าง 2 อย่าง มีเยอะเดี๋ยวไอ้เนสมันสงสัย" มาร์คบอกความคิดกับเพื่อน ใจเขาคิดว่าเมื่อบอกว่าซื้อบ้านมือสอง หลุดจำนองมันควรเป็นบ้านโล่ง ๆ เฟอร์นิเจอร์ไม่เยอะแต่ตอนนี้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านพ่อเขาซื้อไว้ครบทุกอย่าง เขาจึงจะเอาออกมาเก็บที่อื่นก่อน แล้วค่อย ๆ ทยอยเอาเข้าเหมือนว่าเก็บเงินซื้อใหม่
"แหม... ฉลาดนะมึงนี่ หัวแหลมจังนะไอ้มาร์ค" เทนว่าขำ ๆ
"บ้านมือสองมันควรโล่ง ๆ รก ๆ เว้ย ช่วงนี้ไม่ได้เข้าไปดูนานเกือบ 2 เดือน กูว่าหญ้าคงเยอะบรรลัยล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงให้รถที่ร้านไปขนเฟอร์ช่วยกูนะแล้วกูจะถ่ายรูปส่งไปให้มันดู ให้มันมาดายหญ้า" มาร์คว่าพลางยิ้มมุมปากอย่างมีแผน
ตกเย็นหลังจากที่ 3 หนุ่มมาถึงร้านก่อนร้านจะเปิดค่อนข้างนาน เพราะโรมต้องมาดูความเรียบร้อยของร้านก่อนจึงมาพร้อมกัน เมื่อถึงเวลาใกล้ที่แม่ค้าตัวเล็กจะเอามาลัยมาส่งชายหนุ่มจึงเดินมาชวนเพื่อนไปรอที่หน้าร้านเพื่อให้เพื่อนได้เห็นความน่ารักของเด็กสาวที่เขาถูกชะตาคนนี้
"มาลัยมาแล้วจ้า" เสียงเล็ก ๆ หวาน ๆ ดังแว่วมาแต่ไกลพร้อมกับการปรากฎตัวของแม่ค้าแก้มใส ๆ แดง ๆ ที่เดินยิ้มร่าเข้ามาหา ชายหนุ่มจึงสะกิดโรมที่กำลังก้มเขี่ยมือถืออยู่ข้าง ๆ ในขณะที่เทนยืนยิ้มมองเจ้าตัวเล็กอยู่อย่างถูกชะตา
"สวัสดีค่ะพี่มาร์คหนูเอามาลัยมาส่งค่ะ" ไหว้สวยมาแต่ไกลพร้อมกับยื่นพวงมาลัยทั้ง 6 มาให้ชายหนุ่ม โรมมองหน้าเด็กน้อยตาโตแก้มแดงอย่างเอ็นดู พวกเขา 3 คนเป็นครอบครัวที่มีแต่ผู้ชายล้วนไม่เคยมีน้องผู้หญิง เมื่อเจอเด็กสาวตัวเล็กคนนี้จึงรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก
"อะ ตังค์ (ว่าพลางยื่นแบงก์ร้อยให้ 2 ใบ) นี่เพื่อนพี่ พี่โรมกับพี่เทน เราทำงานที่ร้านนี้กัน" มาร์คแนะนำเพื่อนยิ้ม ๆ แต่ยังไม่ได้รับมาลัยมาจากเธอ
"สวัสดีค่ะ หนูชื่อน้ำหวาน พี่ ๆ สั่งมาลัยกับหนูมาไหว้ศาลได้นะคะ พวงเดียวหนูก็ส่งนะ หนูมาส่งร้านก๋วยเตี๋ยวกับข้าวมันไก่ทุกวันค่ะ" เด็กน้อยยกมือไหว้พร้อมทั้งแนะนำตัวเองและขายของไปในตัวอย่างคล่องแคล่วแล้วรับเงินจากชายหนุ่มมาใส่กระเป๋าสะพายใบเล็กพร้อมกับหยิบแบงก์ยี่สิบออกมานับทอน แต่มืออีกข้างหนึ่งยังถือมาลัยอยู่
"ขายเก่งนะเราเนี่ย พี่ไม่เอาเงินทอนหรอก ช่วยค่าหมูกระทะแล้วฝากไหว้เหมือนเดิมนะ" มาร์คว่ายิ้ม ๆ
"ขอบคุณค่ะ งั้น อะ (ยกมือไหว้พร้อมกับยื่นมาลัยให้มาร์ค 1 พวง) แล้วพวกพี่ไหว้ด้วยมั้ยคะจะได้เฮง ๆ ปัง ๆ" เด็กน้อยหันไปถามเพื่อนของชายหนุ่มตาใส ถ้า 2 คนนี้ไหว้ก็เท่ากับว่าไหว้ศาลร้านนี้ 4 พวง เธอจะวิ่งข้ามถนนไปไหว้ฝั่งตรงข้ามอีกพวง เหลือพวงสุดท้ายจะเอาไปไหว้ศาลหน้าห้างที่จะเข้าไปซื้อของมาทำหมูกระทะกินกับตามันจะประหยัดเวลาเธอได้มากเลยทีเดียว
"มา ไหว้ก็ไหว้ เผื่อจะได้ติ๊บหนัก ๆ เหมือนไอ้มาร์คมั่ง" โรมว่าพร้อมกับเอื้อมมือมาขอมาลัย แม่ค้าตัวน้อยรีบยื่นให้โรมกับเทนคนละพวงแล้วลากแขนมาร์คไปหาศาลพระภูมิแบบที่เคยทำ ไหว้ศาลขอพรให้ชายหนุ่มเรียบร้อย พร้อมกับหันมายกมือไหว้ลาคนทั้ง 3 เตรียมจะวิ่งข้ามถนน
"แล้วอีก 2 พวงนั่นล่ะ" เทนถามแม่ค้าตัวน้อยก่อนเธอจะออกวิ่ง
"ไหว้ศาลตรงข้าม 1 พวงกับไหว้ศาลหน้าห้างค่ะ หนูจะไปซื้อของมาทำหมูกระทะฉลองปิดเทอมกับตา" แม่ค้าตัวน้อยหันมาตอบเสร็จเตรียมจะเดินอีกรอบ
"แล้วไม่ไปซื้อตลาดล่ะ ไม่ใกล้กว่ารึไง" มาร์คเอ่ยถามเด็กน้อยด้วยความเป็นห่วงเพราะจากนี่ไปถึงห้างที่ว่าก็เกือบกิโลกว่าจะกลับถึงบ้านก็คงค่ำมืดพอดี
"ก็ตอนเย็นที่ห้างของสดมันลดราคานี่คะ เดินไกลอีกหน่อยเดียว ตังค์เท่ากันแต่ได้ของเยอะกว่านะ กินได้หลายวันกว่าด้วย ไปนะคะ สวัสดีค่ะ" หันมาตอบชายหนุ่มเสียงแจ๋ว ๆ พร้อมกับยกมือไหว้ลาอีกรอบแล้วมองซ้ายมองขวาวิ่งข้ามถนนไปศาลตรงข้ามทันที
"เออ... น่ารักดีจริงว่ะ พูดจาน่ารักเชียวถึงว่าทำไมไอ้มาร์คมันถูกชะตา ถ้าแม่กูเห็นคงอยากได้ลูกเค้าเลยล่ะมั้งนั่น หลานเกิดมาก็ผู้ชายอีก แล้วกูว่าน้องมันคงวิ่งมาไกลนะแก้มแดงเป็นมะเขือเทศเลย" โรมมองตามร่างเล็ก ๆ วิ่งข้ามถนนพลางพูดกับเพื่อน
"แล้ววันนี้น้องมันเพิ่งไปฟังผลสอบมา ได้เกียรติบัตรถึงได้ดีใจจะฉลองหมูกระทะนั่นไง" มาร์คว่าขึ้นยิ้ม ๆ
"ถึงว่าสิรีบจัง ปะ เข้าร้าน จะได้เฮง ๆ ปัง ๆ" โรมว่าพร้อมกับตบไหล่เพื่อน ๆ เข้าร้าน
วันรุ่งขึ้น 3 หนุ่ม มาร์ค โรม เทนก็พากันไปที่บ้านที่พ่อมาร์คซื้อไว้ซึ่งอยู่ไกลจากมหาลัยพอสมควร แต่ก็ถือว่ายังใกล้ถ้าเทียบกับการไปกลับมหาลัยกับบ้านของเนส ซึ่งบางครั้งเขาต้องอาศัยนอนห้องเพื่อน
"หลังใหญ่ดีนี่หว่ามาร์ค แบบนี้พวกกูก็มานอนด้วยได้นะนี่" เทนว่ายิ้ม ๆ
"อือ ใหญ่ แต่ไกลว่ะถ้าเทียบกับคอนโดกูน่ะ กูว่าจะมาอยู่กับมันซักพักแล้วก็กลับไปนอนที่คอนโดเหมือนเดิม บอกว่ากูไปนอนที่ร้านพี่รันละกัน กูขี้เกียจตื่น" มาร์คว่าพลางหัวเราะ เขาอยู่คนเดียวมานาน นาน ๆ เพื่อน ๆ จะมานอนด้วยที่ห้อง การที่เขาจะมาอยู่ร่วมกับคนอื่นแบบนี้ เขาไม่ชินแล้วยังเป็นคนที่เคยทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็กด้วยเขายิ่งไม่อยากอยู่แต่ที่ต้องมาอยู่เพราะเป็นคำขอร้องของแม่เลี้ยงเท่านั้น
"แล้วมันจะมาเมื่อไหร่" เทนถามขึ้นพลางมองไปรอบ ๆ บ้าน
"ใกล้ ๆ เปิดเทอมนี่แหละ เดี๋ยวขนของเสร็จกูจะโทรหาน้านารถ บอกว่ามาดูบ้านแล้วบอกให้มันมาทำความสะอาดเอง" มาร์คว่ายิ้ม ๆ และเมื่อจัดการขนเฟอร์นิเจอร์ออกจากบ้านแทบหมด มาร์คก็โทรหาแม่เลี้ยงเล่าแผนการของตัวเองให้ฟัง ซึ่งท่านก็เห็นดีเห็นงามทั้งยังเรียกลูกชายคนโตของตัวเองมาคุยกับพี่ชายต่างแม่เพื่อวีดีโอคอลดูบ้านที่บอกว่ามาร์คจะผ่อนกับเพื่อนแต่อยู่ไกลจากมหาลัยพอสมควร ซึ่งเนสดีใจมาก อย่างน้อยก็ร่นระยะทางไปกลับได้เกินร้อยกิโล และสัญญาว่าจะจ่ายค่าไฟค่าส่วนกลางตามที่เคยบอกไว้
"งั้นเอาหลังนี้เลยนะ กูจะบอกไอ้ศิลาเลย" มาร์คว่ากับน้องชายต่างแม่แล้วหมุนกล้องให้ดูรอบบ้าน
"อือ ๆ แม่บอกว่าจะโอนตังค์ให้มึงซื้อของเข้าบ้านด้วยนะ แล้วจะหาวันทำบุญก่อนเข้าอยู่ด้วย" เนสว่าอย่างตื่นเต้น
"งั้นเดี๋ยวกูโทรคุยกับไอ้ศิแล้วมึงก็มาทำความสะอาด จะได้ไม่ต้องเสียค่าจ้าง เอาตังค์ไปซื้อของเข้าบ้าน" มาร์คว่าตามแผน
"แล้วเพื่อนมึงจะให้หลังนี้จริงเปล่าเหอะ ไม่ใช่ทำเสร็จมึงกู้ไม่ผ่านกูก็เหนื่อยฟรีมั้ย มึงคุยให้รู้เรื่องเหอะ ถ้าผ่านกูไปทำเองก็ได้" เนสว่าอย่างไม่มั่นใจนักเพราะเขากลัวว่ามาร์คจะกู้ไม่ผ่านแล้วเหนื่อยฟรี เพราะบ้านค่อนข้างหลังใหญ่มาก ราคาน่าจะเกือบ 10 ล้านได้
"เฮ้ย ... มึงดูถูกไอ้มาร์คมันไปนะไอ้เนส…
"เฮ้ย ... มึงดูถูกไอ้มาร์คมันไปนะไอ้เนส มันนี่หลานรักคุณปู่ไอ้ศิเลยนะเว้ย บ้านแบบนี้ขอฟรียังได้นับอะไรกับขอผ่อนวะ" โรมว่าแทรกเข้ามาในเครื่อง"ใช่โรม มึงเตรียมมาทำความสะอาดก่อนขึ้นบ้านใหม่เลยไอ้เนส ถ้าไอ้มาร์คมันกู้ไอ้ศิไม่ได้ กูซื้อให้มันผ่อนกับกูเอง" เทนว่าพลางเดินมากอดคอเพื่อนแล้วยักคิ้วให้กล้อง"ตามนี้นะเนส มึงพูดแล้วนะว่าจะมาทำความสะอาดเองน่ะ" มาร์คว่ากับน้องชายต่างแม่ยิ้ม ๆ"แล้วมึงไม่ช่วย?" เนสสวนมาทันที"กูต้องทำงานเว้ย กลับบ้านไปเงินเก็บกูหมดทุกบาท อีกไม่กี่วันก็ค่าน้ำค่าไฟค่าเทอมกูแล้วเทอมนี้มึงแค่รักษาสถานภาพไม่กี่พันกูนี่เป็นแสนเลยนะ มึงก็มาทำเองแล้วกัน เออ...ถ้าน้านารถจะให้ตังค์มาซื้อของก็โอนมาละกัน แล้วบอกว่าจะซื้ออะไรให้มึงมั่งกูจะได้สั่งร้านเขาเอามาส่ง มึงมาจะได้มีใช้" มาร์คให้เหตุผลที่น่าสงสารของตัวเอง จนเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลั้นขำ"เออ... ให้มันได้จริง ๆ เหอะไม่ใช่ให้แม่ดีใจเก้อ จะให้ลงไปทำเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกันแล้วมึงจะไม่ซื้อของมึงล่ะ" เนสว่าพลางหลบสายตาพี่ชายต่างแม่ทั้งยังรู้สึกละอายใจที่ผ่านมาเขาได้ใช้เงินแบบสบาย
เปิดเทอมวันแรกที่แสนจะวุ่นวายของภาคเรียนที่ 2 ของโรงเรียนขยายโอกาสไม่ไกลจากมหาลัยวิทยาลัยชื่อดังเท่าไหร่นัก เด็กหญิงพรสิตาวิ่งกระหืดกระหอบแก้มแดงเข้าโรงเรียนจนผมหน้าม้าฟูฟ่องเปิดหน้าผากมันแผล็บมาแต่ไกล แล้วไปหยุดก้มจับเข่าหอบแฮ่ก ๆ อยู่หน้าห้องเรียนที่เพื่อนกำลังช่วยกันจัดโต๊ะเรียนให้เข้าที่ สภาพเธอตอนนี้เสื้อนักเรียนคอบัวสีขาวที่เธอบรรจงรีดไว้อย่างดีเมื่อคืนถูกโคลนสาดจนกลายเป็นสีน้ำตาลเกินครึ่ง กระโปรงนักเรียนที่อัดกลีบจนมันมีน้ำสีน้ำตาลหยดที่ชายกระโปรงลงพื้นเป็นระยะ ดูแล้วมอมแมมจนครูประจำชั้นขมวดคิ้ว"พรสิตาไปทำอะไรมาลูก ทำไมสภาพเป็นแบบนั้นล่ะ" ครูประจำชั้นเอ่ยถามเด็กน้อยอย่างเป็นห่วงสภาพนี้เธอจะนั่งเรียนกับเพื่อนได้ยังไง"ตอนหนูวิ่งมา รถขนปลาเหยียบน้ำที่หน้าตลาดใส่ค่ะแต่หนูเห็นว่ามันจะสายแล้ว แล้วโรงเรียนก็ใกล้กว่าหนูเลยไม่กลับไปเปลี่ยนค่ะ เดี๋ยวมันก็แห้ง" เด็กน้อยว่าหงอย ๆ วันนี้เธอตั้งใจแต่งชุดสวยมาเปิดเรียนวันแรกแถมโบผูกผมอันใหม่ที่เธออยากได้ เธอกลั้นใจซื้อมาจากห้างก็เปื้อนไปด้วย"โถ่...แล้วจะนั่งเรียนยังไงล่ะลูก" คุณครูใจดีว่าอย่างสงสาร"หนูยืนตรงน
"มึงมีน้องสาวเหรอ?" ศิลาถามขึ้นนิ่ง ๆ"ไม่มี แค่เด็กขายพวงมาลัย กูเห็นน้องมันขายหน้าแดงหน้าดำกูเลยอุดหนุนไอ้พวกนี้ก็แซวแรงไป" มาร์คตอบเพื่อนรักตัดรำคาญ พร้อมทั้งนึกถึงหน้าใส ๆ แก้มแดง ๆ เมื่อเช้า ที่เขาพานั่งหน้ารถไปส่งที่บ้านแล้วพากลับไปส่งที่โรงเรียน เจ้าตัวไหว้สวยทั้งไปทั้งกลับ ถ้าตอนเย็นเจออีกก็คงจะไหว้อีกแน่ ๆ เมื่อคิดถึงตอนนั้นชายหนุ่มจึงเผลอยิ้มออกมา พร้อมทั้งส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างเอ็นดู"เคลิ้มครับ ยิ้มครับ พูดถึงแล้วหน้าบานไม่หุบ มึงบอกว่าน้องมันอยู่กับตา ไม่ไปขอมาเลี้ยงเองเลยล่ะ ตัวแค่นั้นไม่กินเปลืองอะไรหรอกมั้ง" โรมหันมาว่าเพื่อนขำ ๆ"ไอ้โรม น้ำหวานไม่ใช่หมากูจะได้ขอมาเลี้ยงเล่น มึงจะกลับบ้านก็ไปซะที ลากกูเข้าคุกอยู่นั่นแหละ" มาร์คว่าเสียงดังใส่เพื่อนไม่จริงจัง พร้อมกับลุกขึ้นถอดเสื้อเดินเข้าห้องส่วนตัวไป"มึงก็หยอกแรงไปไอ้โรม กูว่าไอ้มาร์คมันเอ็นดูน้องมันจริง ๆ นั่นแหละ ขนาดกูเจอครั้งเดียวยังถูกชะตาเลย หรือมึงไม่ถูกชะตาน้องมัน" เทนหันไปว่าเพื่อนด้วยกลัวว่าเพื่อนอีกคนจะโกรธจริง เพราะเขาก็ไม่เคยมีน้องผู้หญิง เขาเองก็คิดว่าน่าจะดีถ้าได้ยินเสียงแจ๋
"ไม่รบกวนหรอกลูก ถ้าไม่รังเกียจก็ทานด้วยกันถือว่าตาขอบใจที่พาเจ้าหวานมาส่ง" ตาน้อยว่าอย่างใจดี ท่านมองสายตาคนออกว่าแต่ละคนคิดกับหลานสาวท่านยังไงและมองออกว่าสายตาที่โรมกับมาร์คมองนั้นเหมือนสายตาที่ผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กมากกว่าจะมองไปถึงเรื่องชู้สาว"งั้นผมไม่เกรงใจนะครับตาแล้วเห็นน้องหวานบอกว่าจะไปเยี่ยมเพื่อนนี่ครับ" โรมยังเอ่ยถามคำถามเดิมแต่ตอนนี้น้ำหวานหายไปแล้ว"อ๋อ...น้องเพลงหลานลุงกรณ์ข้างบ้านเรานี่แหละ เพื่อนเรียนด้วยกัน ป่วยเป็นมะเร็งก้านสมอง ตอนนี้หมอให้มารักษาที่บ้าน" ตาน้อยตอบพลางถอนหายใจเบา ๆ"ตาจ๋าหาข้าวเลยนะคะ เดี๋ยวจะเลยเวลากินยาแล้วเดี๋ยวกินเสร็จหนูจะเอาส้มไปฝากเพลงนะคะ หนูซื้อมาให้ตาด้วยนะ" เสียงแจ๋ว ๆ ว่ามาจากในครัว พร้อมกับร่างเล็กในชุดอยู่บ้านเป็นกางเกงสามส่วนเสมอเข่ากับเสื้อกีฬาตัวใหญ่ประคองถาดกับข้าวที่มี 2-3 อย่างเข้ามาด้วยแล้ววางบนโต๊ะเล็กก่อนจะเดินไปหยิบเสื่อกระจูดที่วางอยู่มุมห้องมาปูแล้วยกถาดมาวางด้านล่าง"บ้านเราไม่มีโต๊ะทานข้าวนะคะพี่โรม พี่เคยนั่งทานแบบนี้มั้ยคะ เดี๋ยวหนูแบ่งให้พี่นั่งทานบนโต๊ะเขียนหนังสือหนูนะคะ" คนตัวเล็กว่าอย่างเก
"อ่อ...ครับ พวกผมไม่มีน้องสาวกันครับ พอมาเจอเจ้าตัวเล็กนี่พูดจ๋อย ๆ ก็หนวกหูดีครับตา ดีกว่าไอ้พวกน้องชายหลานชายผมเยอะเลยครับ" โรมพูดออกมาขำๆ"โอ๊ย... เจ้านี่เค้าพูดมากเชียวล่ะ แต่ยายเค้าสอนให้พูดสุภาพ พูดให้เป็นมงคลปาก ยายเค้าสอนตั้งแต่จำความได้เชียว" ตาน้อยพูดถึงการอบรมหลานของภรรยายิ้ม ๆ"แบบนี้ผมขอมาเล่นกับน้องจะน่าเกลียดมั้ยครับตา ผมถูกชะตาน้องยิ่งไอ้มาร์คยิ่งชอบใจใหญ่ บ้านมันมีแต่น้องชายตีกันประจำ" โรมขออนุญาตตาของแม่ค้าตัวน้อยพร้อมทั้งพูดถึงมาร์คขำ ๆ"ถ้าพอดีไม่เกินงามก็ได้ลูก มีคนเอ็นดูดีกว่าคนนินทา แต่ก็พองาม" ตาน้อยเอ่ยอนุญาตพลางปรามไปในตัว"ขอบคุณครับตา งั้นวันนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับตา" โรมกล่าวลาพร้อมกับยกมือไหว้แล้วเดินออกไปหารถที่จอดอยู่ข้างรั้วหน้าบ้านแล้วขับกลับไปที่ร้านหาเพื่อนและเมื่ออยู่กัน 3 คน โรม มาร์ค เทนโรมได้เล่าเรื่องของน้ำหวานให้เพื่อนรักทั้ง 2 ฟัง ซึ่งทั้ง 2 พอรู้ก็ยิ่งสงสารที่เด็กสาวตัวแค่นี้สู้ชีวิตขนาดนี้และไม่เคยเอ่ยถามหาพ่อแม่ให้ตาได้ยินเลยตั้งแต่เริ่มพูด ทั้งการทำอะไรที่เรีย
"เอ้อ...ไอ้นี่ก็เร่งน้อง เอาถุง 200 ถุงนึงครับแม่ค้า" โรมดุมาร์คพลางหันไปสั่งแม่ค้าพร้อมกับยิ้มหวานตามสไตล์คาสโนว่าตัวพ่อแห่งสรันบาร์จนแม่ค้าอายม้วนไปทันที"แต่หนูยังไม่ได้ตัดสินใจเลยนะคะพี่โรม" เสียงเล็กว่าขึ้นอย่างเกรงใจ ไม่ใช่ไม่อร่อยแต่โรมสั่งถุงละ 200 ซึ่งมันแพงไปสำหรับเธอ"อันนี้เขาเรียกว่ากับแกล้มครับอิหนู หวานกับตากินกับข้าวต้มหรือกินเล่นได้แต่พวกพี่กินกับเบียร์กับเหล้าครับ" โรมว่าพลางยื่นเงินให้แม่ค้า"แล้วกินกับเหล้ากับเบียร์นี่หวานชิมด้วยได้มั้ยคะ" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นถามตาแป๋วแล้วยิ้มอย่างทะเล้น"ทะลึ่ง!!" 3 เสียงประสานกันจนคนที่มาตลาดหันมามอง "ตัวเท่าเมี่ยงจะกินเหล้ากินเบียร์ ไป กลับ เอาอะไรอีกมั้ยเดี๋ยวตะวันตกดินไม่ได้เล่นน้ำนะ" มาร์คหันมาดุคนตัวเล็กที่ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่ตรงกลางกลุ่ม"ค่า... ดุจัง อย่าให้โตเต็มวัยนะ จะกินแข่งพี่มาร์คเลยแล้วหนูก็จะ 13 แล้วด้วยนะคะ ไม่ใช่เท่าเมี่ยง" คนตัวเล็กว่าเสียงหวาน แต่ปนความงอนงอแงนิด ๆ ถึงพวกเขาจะรู้จักกันแค่ไม่กี่เดือนแต่เธอก็สนิทใจมากพอที่จะกล้างอแงได้เพราะเห็นว่าพวกพี่ ๆ ใจดีและตาน้อยก็ไว้
"อ่อ.... หวง ไอ้ห่าเอ้ย แล้วตัวเองมานั่งเปล่งแสงอยู่ตรงนี้ กูว่ามึงเรียกสายตามากกว่าน้องอีกนะ อย่างน้อยน้องมันก็นั่งข้างกูไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรอก" โรมว่าขำ ๆ พลางหันมองเพื่อนที่นั่งขาวออร่าอยู่ข้างตัวเอง"ก็เสื้อน้องมันบางแล้วน้องมันกำลังโต ไอ้บ้า" มาร์คว่าพลางลุกขึ้นเดินไปนั่งลงข้าง ๆ คนตัวเล็กแล้วแอบส่งสายตาดุ ๆ ฟาดไปยังกลุ่มเด็กมัธยมผู้ชาย 4-5 คนที่เล่นน้ำอยู่ไม่ห่างนัก"ตัวเล็กพรุ่งนี้ไปเกาะ ใส่เสื้อสีทึบนะห้ามใส่เสื้อขาวลงน้ำ" แล้วหันมาบอกคนตัวเล็กเสียงดุทันที"แหะ ๆ ขอโทษค่ะหนูลืม แต่ไม่เป็นไรหรอก หนูยังไม่โตนี่คะไม่เหมือนพี่สาวพวกนั้น ขนาดใส่เสื้อชมพูยังมองเห็นเสื้อชั้นในเลยแถมโตแล้วด้วย" คนตัวเล็กทำหน้าแหย ๆ พยักพเยิดไปที่พวกหญิงสาวที่เล่นน้ำกรี๊ดกร๊าดอยู่ไม่ไกลแล้วยิ้มให้สาวใส่เสื้อสีชมพูที่กำลังมองมาร์คตาเยิ้มอย่างยั่วยวนอยู่ตรงนั้น"น้ำหวาน ไอ้ที่ว่าโตนี่หมายถึงอายุเค้าใช่มั้ย" โรมก้มลงถามขำ ๆ"แหะ... หมายถึงอายุก็ได้ค่ะ" คนตัวเล็กหันไปตอบพร้อมกับยิ้มทะเล้นให้ เลยได้กำปั้นป๊อกหัวมาเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว"แหม... ทีแรกว
"อ๋อ... ถุงพลาสติก" โรมพยักหน้าเข้าใจ"คิดไม่ดีใช่มั้ยมึงเนี่ย" เทนได้ทีว่าให้เพื่อนทันที"ไอ้บ้า ใครจะไม่สงสัยวะ พวกมึงก็ด้วยแหละ" โรมว่าพลางเตะขาเพื่อน"ป้าว่าเราไปกันเถอะจ่ะ น้องหวานไปได้หรือยังลูกเดี๋ยวแดดจะร้อน ลงน้ำไม่ได้นะ" ป้าแม่บ้านว่ายิ้ม ๆ"ไปค่ะ หนูไหว" ว่าพลางกระโดดขึ้นเรือก่อนใครพร้อมทั้งยื่นมือมารับป้าแม่บ้านแล้วก็ตาของตัวเองอย่างแข็งขัน แต่เมื่อเรือออกจากฝั่งไม่ถึง 10นาทีคนเก่งก็นั่งซบลงที่ตักของตาพลางหลับตาแน่น"จะอ้วกหรือลูก" ตาถามพลางลูบหลังให้เบา ๆ"มันโคลงเคลงค่ะตา เวลาหลับตาลงเหมือนเรานอนในเปลเลย" คนตัวเล็กว่าพลางขยับเข้าหาตักตา"งั้นมานอนที่ตักพี่มา เดี๋ยวตาเป็นตะคริวพอดีกว่าจะถึง" มาร์คเอ่ยขึ้นเสียงทุ้มพร้อมกับรั้งแขนเล็ก ๆ ให้ลุกขึ้นแล้วซบลงมาที่ตักตัวเองแทน "ไหวมั้ย เอาถุงหรือเปล่า" ก้มลงถามพร้อมกับลูบหัวเบา ๆ"ไม่เอา" เสียงหวานตอบกลับมาเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้ายุกยิกบนตักก่อนจะนิ่งไป ขณะที่มาร์คยังลูบหัวลูบหลังให้ตลอดทางจนถึงท่าเรือของเกาะ"ลุกไหวมั้ย" ชายหนุ่มก้มลงถา
"นี่รถไอ้มาร์คมันเหรอ" เนสเลิกคิ้วถามพลางมองรถคันสวยที่มาร์คขับมา ขณะที่เด็กสาวเปิดประตูก้มไปหยิบเอาหลอดดูดน้ำ มือถือของเธอและของมาร์คตรงคอนโซลกลางมาถือไว้แล้วปิดประตูล็อกรถเรียบร้อย"ไม่รู้สิคะ ปกติพี่มาร์คกลับไทยคุณปู่ก็จะส่งรถมีคนขับมาให้ด้วย หวานเลยไม่ได้ถามว่ารถใครแต่คงไม่ใช่รถศิลาหรอก คันนี้ไม่เคยเห็นที่บ้านศิลา" คนตัวเล็กแบบไม่ได้คิดอะไร"ไปบ้านศิลามาด้วยเหรอ?""ไปสิคะ ตอนที่ตายังไม่ป่วยหนักก็ไปบ่อยค่ะ คุณป้าสั่งให้ไปนอนด้วย เรายังแอบเอารถของศิลามาขับเล่นกันเลย แต่ต่อไปคงทำไม่ได้แล้วล่ะพี่มาร์ครู้แล้วเดี๋ยวฟ้องศิลา หวานกับเพื่อนคงได้โดนดุข้ามประเทศมาแน่ ๆ""ปกติก็โดนไอ้มาร์คดุข้ามประเทศอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง" เนสว่าขำ ๆ *เออ...พูดเก่งดีว่ะ เป็นนกแก้วนกขุนทองดี*"ฮี่... ก็โดนค่ะแต่เราก็ชินแล้วไง แต่พี่ศิลายังไม่เคยดุพวกเราไงคะต้องกลัวไว้ก่อน" คนตัวเล็กหันมายิ้มแห้ง ๆ เมื่อถึงหน้าบ้านแล้วพากันเดินเข้าไปในห้องวันนี้คุณย่าผกาทานข้าวได้จนหมดชามจากการป้อนของลูกสะใภ้คนโต คนที่เธอไม่เคยมองเป็นลูกสะใภ้นอกจากมองเป็นผู้อาศัยที่ขัดผลประโยชน์เม
บ้านอามนตรีบ้านหลังใหญ่ท่ามกลางสวนผลไม้ รถกระบะ 4 ประตูยกสูงคันใหญ่วิ่งเข้าไปในบริเวณบ้านตามมาด้วยรถเก๋งยุโรป2 คันวิ่งตามกันมาติด ๆ แล้วเข้าไปจอดข้างกัน"พี่มาร์ค!!!" เสียงแหลมเล็กเรียกชายหนุ่มที่เพิ่งเปิดประตูลงจากรถคันหรูอย่างตื่นเต้นพร้อมทั้งวิ่งเข้ามากอด จนทำให้คนโดนกอดเซไปชนกับประตูรถอย่างจัง อึ่ก!"หยุดนะ!!" มาร์คตะคอกเสียงดุทันทีที่หญิงสาวทำท่าจะหอมแก้มตัวเองทั้งมองอย่างไม่พอใจ"ทำไมล่ะคะแค่ทักทาย" หญิงสาวว่าเสียงหวานในขณะที่น้ำหวานเปิดประตูลงมาจากรถและคุณนงนารถรีบเดินเข้ามาโอบเอวของเด็กสาวไว้และลูบหัวอย่างเอ็นดู"ทักทาย? เธอทักทายคนที่ไม่ได้เจอกันเกือบ 7 ปี แบบนี้ทุกคนหรือไง" มาร์คว่าเสียงห้วนพร้อมทั้งแกะมือหญิงสาวออกจากเอว พอดีกับอาสะใภ้เดินยิ้มออกมาจากบ้าน"พี่นารถสวัสดีค่ะ มาร์ค เนส นิค" หญิงวัยกลางคนร่างท้วมเอ่ยทักทายผู้มาใหม่ยิ้ม ๆ"สวัสดีครับอาเดือน" 3 หมุ่นยกมือไหว้อาสะใภ้และน้ำหวานก็ยกมือไหว้ตามเงียบ ๆ"เดือนนี่น้องตัวเล็กจ่ะ น้องพี่มาร์คเค้า ตัวเล็กลูกนี่อาเดือน
รุ่งเช้า เนส นิค ออกมารอแม่ที่ลานด้านหน้ารีสอร์ต พลันสะดุดเข้ากับมัสแตง จีที 500 สีน้ำเงินคาดขาวจอดอยู่ไม่ไกลจากรถของพวกเขานัก"ว้าว... โคตรสวยเลยพี่เนส รุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานตัวจริงแม่งสวยกว่าในรูปอีกว่ะ" นิคว่าอย่างตื่นเต้นพร้อมทั้งเดินไปแตะเบา ๆ ด้านหลัง"อือ... สวย ตัวนี้ตัวท็อปมั้ยเกือบ ๆ 5 ล้านเลยมั้งนั่น จับมั่วนะมึงเดี๋ยวแม่งแหกปากเรียกพ่อมันออกมาหรอก" เนสว่าเสียงทุ้มพร้อมทั้งเอ่ยปากเตือนน้องชาย รถพวกนี้ระบบเตือนภัยเป็นเลิศแค่โดนแบบไม่ได้ตั้งใจบางครั้งก็ส่งสัญญาณถึงเจ้าของแล้วและขณะที่ทั้ง 2 กำลังยืนคุยกันไม่ไกลจากรถของตัวเองและมัสแตงคันสวยมากนัก พลันสายตาเนสก็เห็นเด็กสาวที่เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนเขาเคยแอบถ่ายรูปเธอส่งให้แม่ดูเป็นประจำ เดินหอบเสื้อแขนยาวและกระเป๋าเอกสารสีดำใบใหญ่เดินออกมาจากรีสอร์ตข้าง ๆ แล้วตรงมายังที่จอดรถในขณะที่คอเหน็บมือถือคุยกับปลายสายไม่ได้สนใจ 2 หนุ่มที่ยืนอยู่ท้ายรถ"ค่ะตา... ยังไม่ถึงเลยค่ะ... กำลังจะออกไป... เมื่อคืนพี่มาร์คประชุมออนไลน์ถึงตี 1 แล้วนั่งทำวิจัยต่อ ตอนนี้ยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย ยังเลยค่ะ แต่โชคดีนะคะที่น
เกือบเที่ยง น้ำหวานสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรียกเข้าของมือถือของชายหนุ่ม มือใหญ่ควานขึ้นหาแล้วกดวางสายโดยที่ไม่ดูชื่อคนโทรเข้าก่อนจะรั้งหัวของเธอเข้ามาซุกอกแกร่งแล้วทำท่าจะนอนต่อ"ไม่รับล่ะค่ะ" เด็กสาวถามพลางเงยหน้าขึ้นมองคางคนหลับ"ช่างมัน...." ว่าพลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นพร้อมกับลูบหัวคนตัวเล็กกล่อมเบา ๆ ทำให้เด็กสาวถอนหายใจแล้วจำต้องหลับต่ออีกครั้งแล้วรู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีมือใหญ่มาไล้ที่กรอบหน้าและริมฝีปากบางของเธอ"หวานไปลำปางกับพี่นะ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับปอยผมของเธอทัดที่ใบหูเล็ก แล้วมองหน้าเด็กสาวยิ้ม ๆ ทำเอาคนพึ่งตื่นมองตาปริบ ๆ งง ๆ"ลำปาง?""อืม...""ให้หวานไปด้วยทำไมคะ พี่มาร์คจะไปธุระไม่ใช่หรือไง" คนตัวเล็กถามงง ๆ แล้วมองคนที่นั่งถอดเสื้ออยู่ข้าง ๆ อึ้ง ๆ **อิพ่อจะถอดเสื้อทำไมก่อน...** น้ำหวานคิดในใจพลางแอบกลืนน้ำลายลงคอฝืด ๆ"ไปเป็นเพื่อนไงไม่มีใครว่างเลย พี่ไม่ได้ขับรถไกลนาน ๆ กลัวหลับใน""แต่ตา..." "เดี๋ยวพี่ไปบอกลุงกรณ์ให้มาอยู่เป็นเพื่อนตาเอง ลุก ไปซื้อกับข้าวไปกินกับตากันดีกว่า พี่ไม่ได้กินเ
"สรุปว่ามึงจะไม่ไป" มาร์คว่าพรางมองหน้าเพื่อน"กูยังเรียนไม่จบ" คำตอบของเพื่อนรักทำเอาผู้ช่วยมากความสามารถอย่างมาร์คถึงกับมองบนทันที"งั้นรอบนี้กูก็ไม่ไป" ว่าจบมาร์คก็ลุกจากโซฟาทันที"ทำไม?" "กูก็ยังเรียนไม่จบ" มาร์คสวนเพื่อนรักอย่างหมั่นไส้แล้วเตรียมจะเดินหนีออกจากห้อง"มึงจะไปไหนมาร์ค?""กลับห้องกูครับ ว่าที่ท่านประธาน" มาร์คประชดเสียงห้วน"กูหิว..." เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นปลดเนคไทร์ออกหลวม ๆ แล้วแกะกระดุมที่แขนเสื้อออกพับจนถึงครึ่งศอกทั้ง 2 ข้าง"บอกกูเพื่อ? ไปบอกเลขามึงนู่น กูผู้ช่วยไม่ใช่เลขา""ไปกินเหล้ากัน" ว่าพลางเดินออกจากโต๊ะทำงานมากอดคอมาร์คที่ตัวไล่เลี่ยกันเดินไปทางลิฟต์ส่วนตัวทางด้านหลังห้อง"เดี๋ยว...ไอ้ศิ เชี้ย...หิวเหล้าตอนเที่ยงนี่นะ" ชายหนุ่มร้องท้วงเพื่อนทั้งรั้งตัวเองแล้วถอดสูทออกโยนไปพาดที่พนักโซฟาก่อนจะถอดไทร์ออกโยนไปไว้ด้วยกันแล้วแกะกระดุมแขนเสื้อพับขึ้นถึงศอกคล้ายกัน ๆ เดินตามเพื่อนรักเข้าไปในลิฟต์"มึงถอนหายใจ? …ไม่อยากกลับไทย?" ศิลาถามเสียงทุ้มอย่างเป็นห่วง หลา
"งั้นโชคดีแล้วล่ะที่หนูไม่อยู่ ไม่งั้นก็คงหูชาเหมือนตานั่นแหละเดี๋ยวตอนเย็นก็โทรมาบ่นอีกรอบเชื่อสิ" เด็กสาวว่าพลางวางกล่องโฟมสีขาวลงบนแคร่ "ป้าจันทร์สั่งเพิ่มอีก 20 นะคะตา บอกว่าจะมาเอาบ่าย 2 แล้วป้าทิพย์บอกว่าถ้าอ้วนมาเอามาลัยแต่ไม่จ่ายตังค์ตาอย่าไปให้อีกนะคะ ป้าทิพย์ให้เงินค่ามาลัยอ้วนมาแล้ว ของเมื่อวานป้าจ่ายมาแล้วนะคะ 600 แล้วก็นี่ (ว่าพลางชูถุงข้าวมันไก่ 2 ห่อในมือแล้วยิ้มตาหยีอย่างน่ารัก) เมื่อเช้าหนูไปช่วยป้านีตั้งร้านมา ป้านีให้พี่โต้งเอาค่าจ้างมาให้" เด็กสาวพูดเจื้อยแจ้วทำเอาคนที่นั่งฟังอยู่ในรถถึงกับหันมองหน้ากัน"พี่เขาบอกให้ไปเก็บของออกจากตู้เย็นที่คอนโดน่ะลูก เหลือไว้แต่น้ำก็พอเผื่อพี่เทนกับพี่โรมเค้าไปนอนจะได้มีกิน" ตาน้อยว่าพลางวางมือจากมาลัยแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปล้างมือที่ข้างบ้าน ส่วนน้ำหวานเดินหายเข้าไปในบ้านแล้วกลับออกมาพร้อมกับถาดใส่ข้าวมันไก่และน้ำซุปมาวางที่แคร่ แล้วเดินหายเข้าไปอีกครั้ง กลับออกมาพร้อมกับแก้วเล็ก ๆ ใส่ยามาหลายเม็ดและขวดน้ำแก้วน้ำมาวางไว้ข้างตาก่อนจะขึ้นไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยทานข้าวบนแคร่ ทำให้คุณนงนารถถึงกับถอนหายใจ นั่งมอ
3 ทุ่ม SARAN BARโรมเดินเข้ามาในห้องทำงานชั้น 2 ของร้านแต่ต้องขมวดคิ้วแล้วหันไปมองที่โซฟารับแขกในห้อง..."น้านารถ เนส นิค มานานแล้วหรือครับ" โรมเอ่ยถามยิ้ม ๆ แล้วเดินมานั่งที่โซฟาเดี่ยวข้าง ๆ"น้ามารอถามอะไรจากโรมนิดหน่อย" คุณนงนารถมองหน้าชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ"ว่ามาเลยครับ" โรมตอบเสียงเย็นพอกันและพอจะเดาออกว่าคุณนงนารถจะถามเรื่องอะไร"เด็กผู้หญิงที่มาร์คกอดไม่ปล่อยก่อนขึ้นเครื่องคือใคร" คุณนงนารถเอ่ยถามนิ่ง ๆ"ฟังจากน้ำเสียงน้านารถเหมือนไม่ค่อยพอใจเลยนะครับ" โรมพูดขึ้นเสียงเย็นพร้อมกับจ้องหน้าคุณนงนารถกลับ"โรมอย่ามองน้าแบบนั้น น้าแค่สงสัย เด็กนั่นน่าจะยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะแล้วมาร์คกอดหอมขนาดนั้น ถ้าพ่อแม่เขาเอาเรื่องจะทำยังไง โรมก็เห็นว่ามาร์คกำลังจะมีอนาคตที่ดีได้งานที่ดี ได้เรียนที่ดี น้าไม่อยากให้มาร์คเสียอนาคตเพราะเด็กแบบนี้" คุณนงนารถว่าเสียงแข็ง เธอมองว่าเด็กคนนี้อาจทำให้อนาคตของลูกเลี้ยงเธอมัวหมองได้ อายุแค่นี้ยังทำตัวแบบนี้เกิดผู้ใหญ่ทางนั้นเอาเรื่องมาร์คจะหมดอนาคตได้"แบบนั้นแล้วมันแบบไหน
"คร้าบ... คุณพี่ ผมจะพยายามใจเย็นลงครับ ผมเห็นแล้วว่าการใจเย็นแบบพี่ได้อะไรบ้างอย่างน้อยก็โรเล็กซ์เรือนนี้" นิคขานรับพร้อมกับชูนาฬิกาที่มาร์คได้มาจากแฟนคลับแล้วยกให้ตนยิ้ม ๆ"แล้วคอนโดนี่ยังไงลูกจะให้น้าเข้ามาดูแลให้มั้ยหรือจะปล่อยเช่าจริง ๆ" คุณนงนารถว่าอย่างนึกได้พร้อมทั้งนึกเสียดายถ้าจะปล่อยเช่าเพราะเฟอร์นิเจอร์ในห้องมาร์คมีแต่ของดีมียี่ห้อทั้งนั้น"ไม่ลำบากหรอกครับน้านารถ ผมมีคนดูแลอยู่แล้วไม่ปล่อยเช่าหรอก" มาร์คว่ายิ้ม ๆ"แล้วนี่มาร์คขึ้นเครื่องกี่โมงลูก" คุณนงนารถถามชายหนุ่มที่ตอนนี้ลุกขึ้นยืนแล้วมองนาฬิกาถี่ ๆ"เที่ยงครึ่งครับ" ปากตอบแต่ตามองประตูทางเข้าเหมือนรอใครอย่างใจจดใจจ่อ"รอใครว้า...คอยาวจะจรดหลังคาอยู่แล้ว น้องคนเมื่อคืนหรือเปล่าว้า...." เนสแซวพี่ชายคนโตของบ้านลอย ๆ ขณะที่กำลังพิมพ์ไลน์คุยกับเพื่อน"หุบปากเลยไอ้เนส อย่าก้าวข้ามพื้นที่ของกูก่อนได้รับอนุญาต" มาร์คว่าเสียงดุแล้วต้องยิ้มกว้างที่เห็นเทนเดินเข้าประตูมาเพราะเมื่อคืนเทนไปนอนบ้านตาน้อยและเขาคิดว่าคนตัวเล็กของเขาต้องมาพร้อมกับเทนแน่นอน"เทน!" มาร์คร้อง
"หวาน เตรียมตัวนะเดี๋ยวพี่จะให้หน้าม้าชวนไอ้มาร์คหันหน้าไปคุยทางนั้นแล้วพี่จะส่งหวานขึ้นเวทีเอาดอกไม้ไปให้มัน" โรมเตี๊ยมเด็กสาวอยู่ที่มุมข้างเวทีและตอนนี้ในมือของน้ำหวานมีกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ที่สั่งจัดมาอย่างสวยงามอุ้มอยู่ด้วย"หวานตื่นเต้นจังเลยพี่โรมพี่มาร์คจะไม่โกรธใช่มั้ยคะ" น้ำหวานว่าขึ้นอย่างไม่มั่นใจพร้อมก้มมองช่อกุหลาบอ้อมแขนตัวเอง"ไม่โกรธ เชื่อพี่ มั่นใจหน่อยสิอิหนู เตรียมตัวท่อนสุดท้ายแล้ว" เทนว่าพลางรั้งแขนน้องเล็กให้ลุกขึ้นแล้วจัดผมและเสื้อผ้าให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะพาเดินไปที่บันไดข้างเวทีแล้วส่งสัญญาณให้หน้าม้าเรียกมาร์คให้หันไปพูดคุยกับแฟนคลับด้านข้างเวทีอีกฝั่ง"ไป ไอ้ตัวเล็ก ไอ้มาร์คมันกำลังเผลอ"เทนว่ายิ้ม ๆ พลางยกกำปั้นขึ้นชนกับกำปั้นน้อย ๆ ของเด็กสาวซึ่งคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างอย่างน่ารักแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขึ้นเวทีไปยืนยิ้มอยู่ด้านข้างของมาร์คพร้อมกับกุหลาบช่อใหญ่ในมือ ในขณะที่โรมขึ้นเวทีแล้วยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเพื่อบอกให้คนด้านล่างเงียบรอลุ้นดูปฏิกิริยาของเพื่อนรักและก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากแฟนค