Home / โรแมนติก / ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม / บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

Share

ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม
ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม
Author: แกบบี้ เอ็มมานูเอล

บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

Author: แกบบี้ เอ็มมานูเอล
last update Last Updated: 2024-12-03 16:27:30
(มุมมองของแอเรียล)

กลิ่นหอมของอาหารมื้อค่ำลอยอวลไปทั่วห้อง ขณะที่ฉันจ้องมองไปที่จาเร็ด สามีของฉัน ผมสีเข้มของเขาตกลงมาอย่างพอเหมาะ ล้อมกรอบจมูกโด่งและกรามที่คมชัด แม้จะอยู่ในชุดลำลอง ชายคนนี้ก็ยังมีเสน่ห์ที่ปฏิเสธไม่ได้ ไหล่กว้าง หน้าอกกำยำ เขาดูราวกับหลุดมาจากนิตยสาร แต่เขากลับอยู่ตรงนี้กับฉัน

มันเป็นวันครบรอบของเรา และเพื่อระลึกถึงวันพิเศษนี้ ฉันจึงเสนอว่าเราควรทานมื้อค่ำอยู่ในบ้าน แค่เราสองคนเท่านั้น

แม้ปกติจะเป็นคนที่ดูห่างเหิน จาเร็ดก็ยังสละเวลาจากตารางงานที่แสนยุ่งของเขามาให้ และนั่นเป็นท่าทีที่ฉันคิดว่าน่ารัก โดยเฉพาะเมื่อเขาเงยหน้ามองฉันด้วยดวงตาที่เปล่งประกายร้อนแรงคู่นั้น มันช่างยากที่จะรู้สึกไม่พอใจเขาได้ไหว

ฉันเลือกที่จะนั่งตรงข้ามกับเขา แทนที่จะนั่งข้าง ๆ เขาเหมือนทุกครั้งที่ทานข้าวด้วยกัน เพราะฉันอยากเห็นปฏิกิริยาทั้งหมดของเขา เมื่อฉันบอกข่าวดีให้เขารู้ในที่สุด

ฟังนะ ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันตั้งครรภ์จากหมอประจำครอบครัวเมื่อวานนี้เอง และฉันเก็บข่าวนี้เอาไว้ เพื่อจะบอกให้จาเร็ดรู้ระหว่างมื้อค่ำวันครบรอบของเรา

จะมีวิธีไหนที่ดีไปกว่านี้อีกล่ะ? การฉลองวันครบรอบ และการตั้งครรภ์ลูกน้อย ฟังดูเหมือนเป็นงานเฉลิมฉลองสองเรื่องในคราวเดียวกันสำหรับฉัน

"แอเรียล อาหารมื้อนี้อร่อยมากเลย" จาเร็ดเอ่ยขึ้น ขัดจังหวะความคิดของฉัน "ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงได้ทึ่งในฝีมือการทำอาหารของคุณเสมอ ทั้งๆ ที่คุณก็เป็นเชฟอยู่แล้วนี่นา"

ฉันส่งยิ้มที่สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้เขา รู้สึกเขินอายกับคำชมของเขา "ขอบคุณนะ จาเร็ด คำชมจากคุณมีความหมายมากเลย"

เขายิ้มตอบกลับมา แต่รอยยิ้มของเขาไม่ได้กว้างและสดใสเท่าของฉัน "แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำอาหารตั้งหลายอย่างขนาดนี้หรอกนะ แค่สองสามอย่างก็พอแล้ว เรามีกันแค่สองคนเท่านั้นเอง"

ฉันเดาะลิ้นอย่างระอา เขาก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว ฉันกำลังจะตอบเขา เพื่อบอกเขาว่านี่มันเป็นวันครบรอบของเราและฉันอยากทำให้มันพิเศษ เมื่อโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เสียงแหลมก็ทำลายบรรยากาศที่แสนสงบลง

สีหน้าของจาเร็ดหม่นลงเมื่อเขามองที่หน้าจอ และจากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นขอโทษขอโพย "ขอโทษนะ แอเรียล ผมต้องรับสายนี้ เป็นเรื่องงานน่ะ" เขาพูดพลางลุกขึ้นยืน

ฉันรู้สึกเหมือนมีก้อนจุกอยู่ในลำคอ ขณะที่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก็พยายามซ่อนความผิดหวังเอาไว้

"ไม่เป็นไร ไปเถอะ ฉันจะรออยู่ตรงนี้" ฉันพูด น้ำเสียงของฉันออกมาราบเรียบกว่าที่ตั้งใจไว้

"ผมจะชดเชยให้คุณเอง ผมสัญญา ผมจะซื้อเครื่องประดับชิ้นใหม่ให้ อะไรก็ได้ที่คุณอยากได้" เขาตะโกนบอกขณะที่รีบร้อนออกไปจากห้องอาหาร

ฉันเอนหลังพิงเก้าอี้ ด้วยความหงุดหงิดและผิดหวัง นี่มันสามทุ่มแล้วนะ ใครกันจะออกจากบ้านไปทำงานเวลานี้? นี่มันเป็นวันพิเศษของเราเชียวนะ แล้วจะมาชดเชยด้วยเครื่องประดับงั้นเหรอ?

ดวงตาของฉันกลอกไปมาโดยไม่รู้ตัว พวกผู้ชายควรจะเรียนรู้ได้แล้วว่าของขวัญไม่ใช่กุญแจดอกเดียวที่จะไขหัวใจผู้หญิง แต่การให้ความใส่ใจต่างหากล่ะที่สำคัญ

ฉันถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เขาไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เหมือนเช่นเคย เขาจะยังจำวันครบรอบของเราได้ไหมนะ เมื่อเขาทำงานเสร็จ? อาหารที่เคยดูน่ากิน ตอนนี้กลับดูไม่ชวนรับประทานเอาเสียเลย มื้อค่ำวันครบรอบของเรา พังไปเพราะสายโทรศัพท์เรื่องงาน

จากนั้นฉันก็เริ่มปิดอาหารเอาไว้ ในระหว่างนั้น ฉันตัดสินใจว่าจะรอจาเร็ดที่ห้องนั่งเล่น พลางดูรายการเรียลลิตี้โชว์ที่ฉันชื่นชอบไปด้วย

ฉันไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อรอจาเร็ด อาการแพ้ท้องทำให้ฉันง่วงนอน และก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ฉันก็ผล็อยหลับไปและสะดุ้งตื่นขึ้นมาในอีกหลายชั่วโมงต่อมา ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นขึ้นมาพบกับบ้านที่เงียบสงัดจนน่าขนลุก ฉันยังคงอยู่บนโซฟาคนเดียว

เมื่อมองขึ้นไปที่นาฬิกา หัวใจของฉันก็หล่นวูบ เลยเที่ยงคืนไปแล้วไม่กี่นาที

ความจริงอันเจ็บปวดเริ่มแจ่มชัดขึ้นในใจฉัน วันครบรอบของเราจบลงแล้ว ความโกรธและความผิดหวังเข้าครอบงำฉัน เมื่อรู้ว่าจาเร็ดยังไม่กลับบ้าน

ฉันเคยตื่นเต้นที่จะบอกข่าวดีกับเขา แต่ตอนนี้ มันก็พังไปหมดแล้ว

ฉันเดินไปที่ห้องอาหาร เศษซากของมื้อค่ำวันครบรอบยังคงวางอยู่บนโต๊ะ เอาเถอะ คงเป็นกรรมของฉันแหละมั้ง ที่เป็นเชฟชื่อดังแล้วลาหยุดสองวัน ไม่ได้ทำอาหารให้แขกที่ชื่นชมฝีมือฉัน แต่กลับมาทำอาหารให้สามีของฉัน

ฉันถอนหายใจด้วยความยอมจำนน พลางเก็บโต๊ะและทิ้งอาหารบางส่วนลงถังขยะ

ในยามเช้าตรู่ ฉันมาถึงร้านอาหาร ความวุ่นวายที่คุ้นเคยในครัวต้อนรับฉันราวกับสหายเก่า เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมงานของฉัน สีหน้าของพวกเขาผสมผเสไปด้วยความเป็นห่วงและความอยากรู้อยากเห็น

"แอเรียล! มาแต่เช้าเลยนะ! ผมนึกว่าคุณลาหยุดสองวันเสียอีก"

ฉันฝืนยิ้ม ยังคงรู้สึกเจ็บปวดกับมื้อค่ำวันครบรอบที่พังไม่เป็นท่า

มิสเตอร์สโตน ผู้จัดการของฉัน ชายร่างสูงที่ดูน่าเกรงขามแต่มีรอยยิ้มที่อ่อนโยน เดินเข้ามาหาฉันขณะที่ฉันกำลังดูเมนูที่เพิ่งปรับปรุงใหม่

"แอเรียล พอมีเวลาว่างสักครู่ไหม?" เขาถาม

"ได้ค่ะ" ฉันตอบ พลางเงยหน้าขึ้นจากเมนู

"มีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นเวลาสามปี เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะได้พัฒนาและยกระดับทักษะการทำอาหารของคุณให้ก้าวไปอีกขั้น สนใจไหม?"

ฉันลังเล ขณะที่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง

สามปี ช่วงเวลาที่ต้องจากไปนานทีเดียว โดยเฉพาะในเวลาที่กำลังจะมีลูก แต่ความคิดนี้กลับดึงดูดบางสิ่งลึก ๆ ในตัวฉัน โอกาสที่จะก้าวออกมาจากเงาของจาเร็ด และพิสูจน์ตัวเองในฐานะเชฟด้วยเงื่อนไขของตัวเอง ฉันพึ่งพาการสนับสนุนของเขามาตลอด และแม้ว่าฉันจะรักเขามากแค่ไหน แต่ฉันก็อยากรู้ว่าความสำเร็จที่เกิดจากตัวฉันเอง ไม่ใช่เพราะพวกเรา จะเป็นอย่างไรนะ

มิสเตอร์สโตนสังเกตเห็นความลังเลของฉันและวางมือบนไหล่ฉัน "ใช้เวลาตามสบายนะที่รัก คิดให้ดีและปรึกษากับคู่ของเธอ นี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของชีวิต และฉันอยากให้เธอมั่นใจ" เขาตบหลังฉันเบาๆ และเดินจากไป

ฉันถอนหายใจ ในหัวเต็มไปด้วยความคิดต่าง ๆ ที่ไหลวนไม่หยุด ฉันพยายามชั่งน้ำหนักความเป็นไปได้ต่าง ๆ จาเร็ดจะโอเคกับการเลี้ยงลูกคนเดียวไหมถ้าฉันคลอดลูกแล้ว? แล้วชีวิตแต่งงานของเราอีกล่ะ? เขาจะทนกับระยะทางที่ห่างไกลได้หรือเปล่า?

ความคิดทั้งหมดนี้และอีกมากมายเต็มอยู่ในหัวของฉันเมื่อฉันกลับไปทำงาน มือของฉันยุ่งเป็นระวิงอยู่กับการเตรียมมื้อเที่ยง

หลายชั่วโมงต่อมา พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในครัว สีหน้าฉายแววกังวล "เชฟคะ มีลูกค้าคนหนึ่งยืนกรานจะพบคุณให้ได้" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

"มีปัญหาอะไรงั้นหรือ?" ฉันถามด้วยความประหลาดใจ

"เธอไม่ยอมบอก และเธอก็หยาบคายมากด้วยค่ะ" พนักงานเสิร์ฟตอบ "เธอบอกว่าอยากพบเชฟที่รับผิดชอบ"

ฉันรีบถอดผ้ากันเปื้อน ล้างมือ และตามพนักงานเสิร์ฟออกไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร

"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อแอเรียล เป็นหัวหน้าเชฟ" ฉันพูดขณะหยุดยืนหน้าโต๊ะของลูกค้า "ขอโทษที่ทำให้คุณไม่พอใจด้วยนะคะ คุณช่วยบอกได้ไหมคะว่าอาหารมีปัญหาอะไร?"

ลูกค้าที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาของเธอลุกโชนด้วยความโกรธเกรี้ยว "ปัญหาน่ะเหรอ? ทุกอย่างเลย! อาหารของเธอมันจืดชืดสุด ๆ" เธอแหวใส่ "ฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอกล้าเรียกตัวเองว่าเชฟ"

ฉันอดทนฟัง และหลังจากนั้นก็ปกป้องอาหารของตัวเอง พยายามอธิบายถึงเมนูและส่วนผสม แต่เธอก็ยังยืนกรานเช่นเดิม

"ฉันไม่สนใจว่าเธอจะพูดอะไร" เธอตะคอกใส่ "ฉันจะรอให้สามีฉันมาถึงแล้วไล่เธอออก"

ว่าไงนะ? ฉันขมวดคิ้วนิดหน่อย แต่ก็ยังคงรักษามาดมืออาชีพเอาไว้ “คุณผู้หญิงคะ ฉันขอรับรองว่าอาหารของเราถูกเตรียมด้วยมาตรฐานสูงสุดและใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดค่ะ ถ้าคุณต้องการ ฉันสามารถชดเชยให้ด้วยอาหารจานพิเศษโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายตามที่คุณเลือกได้ค่ะ”

ผู้หญิงคนนั้นสะบัดผมอย่างไม่แยแส "ไม่จำเป็นหรอก ฉันยังต้องการให้เธอถูกไล่ออกอยู่ดี เธอเกือบจะวางยาฉันและลูกในท้องอยู่แล้วนะ รอให้สามีฉันมาถึงก่อน แล้วเขาจะจัดการเธอเอง"

ฉันสูดหายใจลึก ๆ พลางขอโทษและเดินกลับไปที่ห้องทำงานของฉัน เรื่องทั้งหมดนี้ช่างไร้สาระสิ้นดี ฉันเป็นเชฟมาหลายปีและเคยเจอข้อร้องเรียนที่ไร้เหตุผลมามากมาย แต่เรื่องนี้มันต่างออกไป เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร และสามีผู้ทรงอิทธิพลของเธอคือใครถึงจะมีอำนาจไล่ฉันออกได้ตามใจชอบ?

ฉันกำลังจะกลับไปทำงานต่อ ก็มีเสียงเคาะประตูห้องทำงานของฉัน "เขามาแล้วค่ะ เชฟ" พนักงานเสิร์ฟร้องบอก

ฉันถอนหายใจ มันเป็นวันที่หนักหนามากอยู่แล้ว และฉันหวังแค่จะจบเรื่องไร้สาระนี้ให้เร็วที่สุด ฉันตั้งสติและก้าวออกไป ไม่ว่าสามีของเธอจะคิดว่าตัวเองมีอำนาจแค่ไหน ฉันก็ไม่กังวล ฉันรู้จักงานของฉัน และฉันรู้คุณค่าของตัวเองดี

แต่เมื่อฉันเดินกลับเข้าไปในพื้นที่รับประทานอาหาร ฉันถึงกับลมหายใจสะดุดเมื่อเห็นร่างสูงกำลังพูดคุยกับผู้หญิงคนนั้น

เธอเห็นฉันก่อนและบอกสามีของเธอ โดยชี้นิ้วมาที่ฉัน และก่อนที่เขาจะหันมาเผชิญหน้ากับฉันอย่างเต็มตัว ฉันก็รู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร

ความรู้สึกร้อนรุ่มเต็มอกของฉันเมื่อมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลา ซึ่งเป็นคนที่ฉันนอนอยู่ด้วยแทบทุกคืน

เขาคือจาเร็ด สามีของฉันเอง!

Related chapters

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 2 ส่วนเกิน

    (มุมมองของแอเรียล) โอ้ น่าประหลาดใจเสียจริง! ฉันกะพริบตาหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มองผิดไป ดวงตาของฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจ ขณะที่จิตใจพยายามประมวลผลภาพที่อยู่ตรงหน้า จาเร็ด สามีของฉัน ยืนอยู่ข้างผู้หญิงคนอื่น หญิงตั้งครรภ์ที่อ้างตัวว่าเป็นภรรยาของเขาในร้านอาหารที่ฉันทำงานอยู่ คำพูดก่อนหน้านี้ของผู้หญิงคนนั้นดังก้องในหูของฉัน “สามีของฉันจะไล่เธอออก!” หัวใจของฉันเต้นแรง จู่ ๆ ก็หายใจไม่ออกขึ้นมาทันที ฉันรู้สึกเหมือนเพิ่งจะถูกชกเข้าที่ท้อง ฉันก้าวไปข้างหน้า เสียงของฉันแหบพร่าจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ “จาเร็ด?” จาเร็ดสบตาฉัน โดยมีท่าทางนิ่งสงบไม่หวั่นไหว “ไง แอเรียล” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ เสมือนว่าการถูกพบเห็นว่าอยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่อ้างว่าเขาคือสามีของเธอในร้านอาหารที่ภรรยาของเขาทำงาน เป็นเรื่องปกติ ฉันหรี่ตามองเขา เพราะคาดหวังว่าเขาจะให้คำอธิบาย ก่อนที่จาเร็ดจะทันได้ตอบ โซเฟียก็ก้าวมาข้างหน้า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “โอ้ เธอคงจะเป็นแอเรียลสินะ! โทษทีที่สับสน ฉันชื่อโซเฟีย เป็นเพื่อนเก่าของจาเร็ดน่ะ” เมื่อเห็นสีหน้าไร้อารมณ์ของฉัน โซเฟียจึงพูดต่อด้ว

    Last Updated : 2024-12-03
  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 3 เมื่อความสงสัยคืบคลานเข้ามา

    (มุมมองของแอเรียล) "แอชลีย์ ฉันต้องไปแล้ว ขอบคุณสำหรับข่าวนะ เดี๋ยวฉันจะโทรกลับไปหาเธอทีหลัง" หลังจากวางสายของแอชลีย์ ฉันพยายามจัดการกับความคิดที่หมุนวนอยู่ในหัวอย่างสุดกำลัง จาเร็ดเป็นคนที่มีสไตล์ ทั้งยังสุภาพ ถึงขั้นพิถีพิถันเลยก็ว่าได้ หลังจากแต่งงานกันมาสามปี ฉันคิดว่าฉันรู้จักผู้ชายคนนี้ดี แต่ฉันไม่เคยเห็นเขาปกป้องใครต่อหน้าฉันมาก่อนเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องผิดสัญญาถึงสองครั้ง ฉันถอนหายใจขณะที่ก้าวลงจากรถ เมื่อมาถึงบ้าน ไม่มีสิ่งใดเตรียมพร้อมให้ฉันได้เผชิญกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า โซเฟียนั่งเอกเขนกอยู่ในห้องนั่งเล่น และเธอไม่ได้อยู่คนเดียวตามลำพัง เธออยู่กับแม่ของจาเร็ด มิหนำซ้ำพวกเธอกำลังพูดคุยและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ในขณะที่จาเร็ดนั่งอยู่คนเดียวบนโซฟาเดี่ยวข้าง ๆ พวกเธอ "มีอะไรงั้นเหรอ?" ฉันพยายามถามออกไป ทั้งๆ ที่รู้สึกมีก้อนจุกอยู่ในลำคอ เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ จาเร็ดลุกขึ้นอย่างสง่างามพร้อมยื่นมือมารับเสื้อโค้ตของฉัน "ผมพาโซเฟียมาเพราะแม่อยากเจอเธอ" เขาอธิบายด้วยน้ำเสียงสุขุม "คุณน่าจะบอกฉันก่อนนะ" ฉันพูดเสียงเบา "นี่คือสิ่งที่คุณเรียกว่า 'จัดการกับสถานก

    Last Updated : 2024-12-03
  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 4 สวรรค์ของเราเกิดปัญหา

    (มุมมองของแอเรียล)ขณะที่โซเฟียปิดปากแน่นด้วยความตกใจจากการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของจาเร็ด ฉันค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยังคงสับสนกับสิ่งที่ได้ยินมาทั้งหมดหัวใจฉันเจ็บปวด… ไม่ใช่แค่สิ่งที่โซเฟียพูด แต่เป็นความจริงที่ฉันต้องได้ยินมันจากเธอ ไม่ใช่จากจาเร็ดฉันเดินไปทางจาเร็ดและเพิกเฉยต่อเขาอย่างสิ้นเชิงขณะเดินผ่านเขาไป แต่เขาก็พยายามจะคุยกับฉัน“แอเรียล ได้โปรดฟังก่อน…” เขาพูด พยายามจะเอื้อมมือมาหาฉันฉันสะบัดมือเขาออกและเดินขึ้นบันไดไป น้ำตาคลอเบ้า ฉันไปถึงห้องและทรุดตัวลงบนเตียง รู้สึกชา หมดแรงและผิดหวังทันใดนั้น โทรศัพท์ของฉันก็มีข้อความเข้า มันมาจากจาเร็ด ‘ผมขอโทษ’ ข้อความเขียนไว้อย่างนั้นฉันจ้องมองหน้าจอสักครู่ แล้วปิดโทรศัพท์ลง ไม่อยากรับมือกับคำขอโทษของเขา คืนนี้การข่มตานอนช่างยากลำบาก และเมื่อหลับลงได้ในที่สุด มันกลับไม่สงบแถมยังเต็มไปด้วยความปั่นป่วนเช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นขึ้นมาบนเตียงที่ว่างเปล่านั่นหมายความได้อย่างเดียว เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้นอนในห้อง เขาอาจจะนอนในห้องรับแขกที่อยู่ติดกับห้องของเรา เพราะเขามักจะทำอย่างนั้นทุกครั้งที่เรากันทะเลาะกัน‘โอ้ หรือว่าเขาไปนอ

    Last Updated : 2024-12-03
  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 5 ต้องรับมือกับส่วนเกินตัวปัญหา

    (มุมมองของแอเรียล)ก่อนที่ฉันจะได้ระเบิดอารมณ์ออกมา สีหน้าของจาเร็ดก็แข็งกร้าว เสียงของเขาเฉียบคม "โซเฟีย ดอกไม้นั่นไม่ใช่ของเธอ" เขาแย่งดอกไม้กลับคืนมาจากเธอด้วยท่าทางหนักแน่น ก่อนจะยื่นมันให้ฉันแทน"ฉันซื้อให้เมียฉัน" เขาพูดเน้นย้ำ ดวงตาของเขาสบประสานกับฉันใบหน้าของโซเฟียแดงก่ำ ในขณะเดียวกัน ฉันแทบจะกลั้นรอยยิ้มพึงพอใจไว้ไม่อยู่อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรเตรียมฉันให้พร้อมสำหรับการเห็นโซเฟียน้ำตาคลอเบ้าและหันไปหาจาเร็ด "จาเร็ด เจย์เจย์ ฉันขอโทษที่ขัดจังหวะเวลาส่วนตัวของนาย แต่... ดอกไม้นี่มันควรเป็นของฉัน ใช่ไหม? จำได้ไหมสมัยมัธยม นายเคยเอาดอกลาเวนเดอร์มาให้ฉัน โดยเฉพาะในคืนงานพรอมนั่น?"จาเร็ดดูลำบากใจ ขณะที่เขาละสายตาจากฉันไปที่โซเฟีย เอาจริงดิ? เขาคล้อยตามคำพูดของเธอเหรอ? ดอกไม้นั่นเป็นของฉันนะ พระเจ้าช่วย เขาควรจะขอให้เธอคืนมันให้ฉัน ฉันต่างหากเจ้าของที่แท้จริง"แอเรียล" จาเร็ดพูดอย่างใจเย็น "คืนนี้ยกให้เธอไปก่อนแล้วกันนะ พรุ่งนี้ผมจะหาอะไรที่พิเศษกว่านี้ให้คุณ ผมสัญญาเลย"ฉันแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง "คุณนี่มันเหลือเชื่อจริง ๆ จาเร็ด!" ฉันร้องออกมาโซเฟียหันมาหาฉัน ยิ้มเยาะอย่

    Last Updated : 2024-12-03
  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 6 เมื่อเขาเลือกเธอก่อนฉัน

    (มุมมองของแอเรียล)ฉันขึ้นไปบนห้องนอน หัวของฉันเต้นตุบ ๆ ด้วยอาการไมเกรนฉันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้องอาหาร จาเร็ดไม่ได้ดุโซเฟียที่พูดเป็นนัยว่าฉันวางยาเธอ เขา รู้จักฉันดีเกินไป ว่าคนอย่างฉันไม่ทำร้ายแม้แต่แมลงวัน นับประสาอะไรกับมนุษย์ฉันไม่ชอบโซเฟียก็จริง แต่สิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำคือทำร้ายเธอ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอแพ้นม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการใส่มันลงในอาหารของเธอเพื่อทำร้ายเธอตอนนี้เธอคงดีใจที่รู้ว่าแผนการของเธอที่จะทำให้ฉันกับจาเร็ดแตกแยกได้ผล เราไม่สามารถทานอาหารเย็นอย่างสงบสุขได้เลย การปรากฏตัวของเธอรบกวนความสงบสุขในชีวิตแต่งงานของฉันฉันถอนหายใจและทรุดตัวลงบนเตียง คิดหาทางที่จะกำจัดโซเฟียออกไปจากชีวิตของฉันกับจาเร็ดเมื่อรู้ตัวว่ารู้สึกง่วง ฉันจึงลุกจากเตียงและเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำตอนกลางคืน หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันก็สวมชุดคลุมนอนที่สบายตัว ทรุดลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้าไม่รู้ว่าฉันหลับไปนานแค่ไหน แต่ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการคอแห้งและลิ้นสากเพราะความกระหายน้ำ ฉันลุกจากเตียง สวมรองเท้าแตะ เดินลงไปชั้นล่าง ตรงไปที่ห้องครัวฉันเพิ่งขึ้นบันไดและกำลังจะ

    Last Updated : 2024-12-03
  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 7 เมื่อเธอเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่

    ปี๊บ!ปี๊บ!(มุมมองของแอเรียล)ดวงตาของฉันค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้า ๆ มองไปรอบ ๆ อย่างพร่ามัว แสงไฟฟลูออเรสเซนต์ที่สว่างจ้าด้านบนแทงทะลุรูม่านตาของฉัน ส่งสัญญาณไปยังสมอง และทำให้หัวของฉันเต้นตุบ ๆ ฉันสะดุ้ง ยกมือขึ้นเพื่อบังตา แต่ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นผ่านเอวของฉัน สุดท้ายฉันก็กรีดร้องและล้มตัวลงนอนบนหมอนผ่านวิสัยทัศน์ที่พร่ามัว ฉันเห็นแอชลีย์วิ่งมาอยู่ข้างฉัน "เธอโอเคไหม? โอ้พระเจ้า เธอตื่นแล้ว!""แอช… ลีย์?" ฉันพยายามเรียก แต่ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้น จนฉันก็พูดไม่ออก"ชู่ว ผ่อนคลายเข้าไว้ อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย"ฉันพยักหน้า และเมื่อฉันผ่อนคลาย ความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ บรรเทาลง ฉันถามด้วยความรู้สึกมั่นคงขึ้นเล็กน้อย "ฉันอยู่ไหน?""เธออยู่ในโรงพยาบาล" แอชลีย์ตอบ เสียงของเธออ่อนโยนเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ฉันก็มองไปรอบๆ สังเกตสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ ห้องนั้นกว้างขวาง มีผนังสีขาว ผ้าม่านสีฟ้า และหน้าต่างบานใหญ่เปิดที่ให้แสงแดดส่องเข้ามามีเก้าอี้ตั้งอยู่ที่มุมห้อง ซึ่งแอชลีย์เคยนั่งอยู่ ด้านข้างมีโต๊ะเล็ก ๆ สำหรับวางเหยือกน้ำและแก้วน้ำฉันพยายามนึกว่าฉันมาลงเอยที่โรงพยาบาลได้อย่างไร แ

    Last Updated : 2024-12-03
  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 8 ความเจ็บปวด

    (มุมมองของแอเรียล)หลังจากที่แอชลีย์ออกไป จาเร็ดก็เหลือบมองไปที่ประตูเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ยิน ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับฉัน เสียงของเขากดต่ำ "เกิดอะไรขึ้น?""หมายความว่าไง?""เรื่องที่คุณบอกว่าผมละเลยคุณเพื่อโซเฟีย นี่มันอะไรกัน? ผมนึกว่าเราเคลียร์เรื่องนี้กันแล้วเสียอีก" คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างล้ำลึก แต่ไม่มีความหงุดหงิดในน้ำเสียงของเขา… มีเพียงความสับสนฉันจ้องมองเขา "คุณน่าจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร จาเร็ด ฉันตกบันไดอย่างรุนแรง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะโซเฟีย และแทนที่คุณจะช่วยฉัน คุณกลับวิ่งไปหาเธอ หลังจากนั้นเป็นยังไง? คุณทิ้งฉันไว้ให้อยู่กับแอชลีย์เพื่อไปอยู่เฝ้าเธอ ฉันเป็นอะไรสำหรับคุณ จาเร็ด? ตัวตลกเหรอ?"ดวงตาของจาเร็ดหรี่ลงด้วยความสับสน "แอเรียล ฟังนะ" เขาพูดอย่างระมัดระวังมากขึ้น ราวกับว่ากำลังเลือกคำพูดอย่างรอบคอบ "โซเฟียท้อง ผมไม่สามารถเสี่ยงให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือลูกของเธอได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไปหาเธอก่อน แต่เพื่อให้แน่ใจว่าคุณทั้งคู่จะมาถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย ผมเลยโทรหาแอชลีย์ให้มาอยู่เป็นเพื่อนคุณ เพราะผมแยกร่างอยู่สองที่พร้อมกันไม่ได้ มันสมเหตุสมผลแล้วที่จะทิ

    Last Updated : 2024-12-03
  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 9 ฉันอยากให้เธอหายไปซะ

    (มุมมองของแอเรียล)"ฉันรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เธอปิดบังฉันอยู่นะ แอเรียล" แอชลีย์พูด น้ำเสียงของเธอจริงจังและคาดคั้นฉันถอนหายใจและละสายตาจากเธอ เพราะเธอพูดความจริง เราอยู่กันตามลำพังในห้องพักผู้ป่วย และตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นและแข็งแรงขึ้นมาก เพราะฉันได้ล้างหน้า เปลี่ยนเป็นชุดเดรสตัวหนึ่งที่จาเร็ดเอามาให้ และทานอาหารเช้ากับยาเรียบร้อยแล้ว"เธอรู้ไหม มันไม่ยุติธรรมเลยที่เรียกฉันว่าเพื่อนสนิทแล้วปิดบังอะไรบางอย่าง…""ก็ได้" ฉันพูดด้วยความยอมจำนน "เธออยากรู้อะไรล่ะ?""เริ่มจาก ผู้หญิงคนที่ชื่อโซเฟียคือใคร? เธอคือผู้หญิงท้องที่ฉันเคยบอกเธอว่าเห็นจาเร็ดพากลับบ้าน ทำไมแม่นั่นถึงมาอยู่ที่บ้านเธอได้ และเธอมีความสัมพันธ์แบบไหนกับจาเร็ด เพราะเขาดูแลเธอดีมากเลย"ฉันถอนหายใจอีกครั้ง อาจจะเป็นครั้งที่ร้อยตั้งแต่วันนี้ ก่อนจะเล่าเรื่องโซเฟียให้แอชลีย์ฟัง และวิธีที่เธอพยายามเข้ามาในชีวิตของจาเร็ดและฉัน ในทุกสิ่งที่ฉันพูด ฉันมั่นใจว่าฉันเก็บส่วนที่โซเฟียผลักฉัน และข่าวเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของฉันเอาไว้จาเร็ดไม่เชื่อฉัน และฉันก็ไม่มีหลักฐานที่จะดำเนินคดีเช่นกัน เพราะมันเป็นบทสนทนาระหว่างฉันกับโซเ

    Last Updated : 2024-12-03

Latest chapter

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 30 ฉันไม่ไปกับคุณ

    (มุมมองของแอเรียล)จาเร็ดกับฉันหยุดชะงัก แลกเปลี่ยนสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ“เสียงอะไรน่ะ?” ฉันถาม ตอนนี้ความกลัวคืบคลานเข้ามาในสีหน้าของฉัน“ไม่รู้…” จาเร็ดเริ่มพูด แต่หยุดเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ แล้วเขาก็วิ่งเข้าไปในบ้าน ตะโกนว่า “โซเฟีย!”ฉันตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็วิ่งตาม เราวิ่งจนไปถึงห้องนั่งเล่น หายใจหอบกันทั้งคู่ แต่โซเฟียนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา กำลังดูหนัง“เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง โซเฟีย?” ฉันตะโกนก่อนที่จะยั้งตัวเองได้ “จะกรี๊ดทำไม?”เธอไม่พูดอะไร แต่หันมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะหันกลับไปจ้องจอทีวี เธอไม่สนใจการปรากฏตัวของจาเร็ดด้วย เดาว่าเธอน่าจะยังโกรธเขาที่ปฏิเสธเธอในตอนเช้า“โซเฟีย มีคนกำลังพูดกับเธออยู่นะ” จาเร็ดพูดย้ำ เสียงของเขาแฝงไปด้วยความรำคาญ “ทำไมต้องกรี๊ดเสียงดังขนาดนั้น?”ในที่สุดโซเฟียก็มองไปที่จาเร็ด สายตาของเธอดูถูกเหยียดหยาม “เกี่ยวอะไรกับนายล่ะ?”“เธอทำให้เราเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอน่ะสิ… ฉันกับแอเรียล” จาเร็ดตอบพลางชี้มาที่ตัวเองและฉันโซเฟียเยาะเย้ย “โอ๊ย หยุดความกังวลจอมปลอมนั่นเถอะ รู้ไหม ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่านายไม่ได้สนใจฉันอย่างที

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 29 แทรกซึม

    (มุมมองของแอเรียล)“สมน้ำหน้าเป็นบ้า!” แอชลีย์อุทานทางโทรศัพท์ “ฉันจินตนาการสีหน้าตกใจของหล่อนได้เลย”ทันทีที่ฉันไปถึงที่ทำงานและนั่งลง ฉันก็โทรหาแอชลีย์เพื่อเล่าเหตุการณ์ในตอนเช้าให้เธอฟัง เธอทั้งประหลาดใจและสาแก่ใจ และมันก็สะท้อนให้เห็นผ่านเสียงหัวเราะที่ร่าเริงของเธอ“มีแวบหนึ่ง ฉันกลัวว่าเธอจะพุ่งเข้าใส่ฉันด้วยความโกรธ เธอดูแตกตื่นมาก เดาว่าการถูกปฏิเสธเมื่อเธอเคยชินกับการถูกตามใจมาตลอด คงไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีสำหรับเธอ”“ฉันรู้ มันน่าไหมล่ะ? วันนี้จาเร็ดทำดี เขาควรทำแบบนั้นบ่อย ๆ ให้หล่อนรู้ว่าหล่อนไม่สามารถทำเอาแต่ใจตัวเองได้เสมอไป” แอชลีย์ร้องเสียงแหลม“ฉันหวังว่าเขาจะเป็นแบบนี้ไปนาน ๆ” ฉันพูด เสียงของฉันหายไปอย่างกะทันหัน “พูดแล้วมันก็น่าเจ็บปวดที่เห็นเขาอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา คราวนี้เขาปกป้องฉัน คราวหน้าเขาอาจจะทำตามคำสั่งเธอก็ได้”“เอาน่า อย่าคิดแบบนั้นสิ เธอไม่ได้บอกเหรอว่าเมื่อคืนเขาสำนึกผิดและขอโทษเธอแล้ว?”“เขาขอโทษแล้วจริง ๆ แต่…”“ไม่มีแต่ แอเรียล สมิธ ฉันขอโทษที่แนะนำให้พวกเธอหย่ากัน สามีเธอเป็นคนดี ยอมขอโทษเมื่อเขาทำผิด บนโลกนี้มีคนแบบเขาเหลืออยู่ไม่มากนักหรอก ห

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 28 ระหว่างผมกับเธอ… มันเป็นไปไม่ได้

    (มุมมองของแอเรียล)ฉันเห็นจาเร็ดหยุดชะงัก ดวงตาของเขาเบิกกว้างเหมือนไข่ห่าน เกือบจะถลนออกมานอกเบ้า แต่ฉันก็ไม่ได้สะทกสะท้าน ยังคงอยากฟังคำตอบของเขาความเงียบเข้ามาปกคลุมระหว่างเรา“คุณว่าอะไรนะ?” เขาถาม เสียงของเขายังเจือความตกใจ สีหน้าของเขาแข็งทื่อ“คุณอยากอยู่กับเธอนักไม่ใช่เหรอ?” ฉันพูดต่อ เมื่อฉันพูดว่า ‘เธอ’ เขารู้ดีว่าฉันหมายถึงใคร“ขอโทษนะ แต่คุณพูดไม่รู้เรื่องเลย”“ก็ได้ งั้นฉันจะสะกดให้คุณฟัง!” ฉันอุทาน ทันใดนั้นฉันก็เบื่อหน่ายจะเล่นแง่จนอยากเข้าประเด็น“ช่วงนี้ฉันคิดเยอะมาก และก็คิดอะไรบางอย่างออก ถ้าคุณยังปล่อยโซเฟียไปไม่ได้ งั้นฉันจะปล่อยให้คุณไปอยู่ดูแลเธอแทน ฉันจะไม่ขัดขวางไม่ให้คุณได้อยู่กับคนรักเก่าของตัวเอง เราแยกทางกันด้วยดี และถ้าคุณสองคนต้องการ ฉันก็ยินดีจะอวยพรให้”“คุณพูดเรื่องบ้าอะไร!” จาเร็ดโพล่งออกมา ผุดลุกขึ้นยืน ดวงตาสีฟ้าอบอุ่นของเขาตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็ง ลูกกระเดือกของเขากระดกขึ้นลง “ใครป้อนความคิดพวกนี้ให้คุณ? แอชลีย์เหรอ?”ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ไม่พอใจกับการบอกใบ้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในนัยของเขาว่าฉันไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเอ

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 27 คุณอยากหย่ารึเปล่า

    (มุมมองของแอเรียล)เอาล่ะ คราวนี้เขาหงายการ์ด ‘สามีผู้ทรงเสน่ห์’ อีกแล้วฉันยืนนิ่งอยู่กับที่ ครุ่นคิดถึงคำตอบของตัวเอง ความจริงคือฉันไม่ได้วางแผนที่จะกลับบ้านในวันนี้ แม้ฉันรู้ว่าจะต้องกลับไปในที่สุด แต่มันยังไม่ใช่วันนี้“จาเร็ด ฉันไม่คิดว่าวันนี้ฉันอยากกลับบ้านนะ” ฉันโพล่งออกมาคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน “ทำไมล่ะ? คุณยังโกรธผมอยู่ใช่ไหม? เอาล่ะ แอเรียล ผมสัญญาว่าจะอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังถ้าคุณกลับบ้านกับผม”ฉันลังเล “แต่…”“ไม่มีแต่ แอเรียล ได้โปรด กลับบ้านเถอะ คุณหนีจากเรือนหอของเราไม่ได้หรอก”ฉันกลอกตา “ใช่ เรือนหอที่ถูกบุกรุกโดยคนแปลกหน้า” ฉันพึมพำ“ว่าไงนะ?”“เปล่า”ทันใดนั้น รีเบคก้าก็เดินผ่านเรา โบกมือให้อย่างตื่นเต้น ฉันบ่นอุบอยู่ในใจ ก่อนที่จะเดินนำหน้าจาเร็ดไปที่รถโดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น ฉันยังไม่พร้อมให้รีเบคก้ารู้แม้แต่น้อยว่าชีวิตการแต่งงานของฉันกำลังมีปัญหาฉันขึ้นรถ หันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง จาเร็ดขึ้นมานั่งข้าง ๆ ฉันเกือบจะในทันที และมองมาที่ฉันด้วยความเป็นห่วง แต่ฉันแสร้งทำเป็นไม่สนใจ“คุณโกรธผมจริง ๆ ใช่ไหม?” เขาถามพลางสตาร์ทรถ“กลับบ้าน?”“ตามความประสงค์ของอ

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 26 ชีวิตช่างน่าขัน

    (มุมมองของแอเรียล)เมื่อได้ยินเสียงของจาเร็ด โซเฟียก็รีบชักมือกลับและหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับเขา ความเย็นชาในดวงตาถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่น และฉันก็สงสัยว่าเธอเปลี่ยนบุคลิกได้อย่างง่ายดายและไวขนาดนี้ได้อย่างไร“ไม่มีอะไร อย่าซีเรียสสิ แอเรียล เพิ่งมาถึง และฉันก็กำลังบอกเธอว่าพวกเราเป็นห่วงแค่ไหนในช่วงที่เธอไม่อยู่” โซเฟียพูดพร้อมกับยิ้มแย้ม“แอเรียล?” จาเร็ดเรียกและเร่งฝีเท้า ในไม่ช้าเขาก็มาอยู่ตรงหน้าฉัน “คุณทำให้ผมเป็นห่วงนะ เมื่อวานหายไปไหนมา?”“ที่ที่ปลอดภัยไง” ฉันพึมพำ หลีกเลี่ยงการสบตาเขา“ผมเป็นห่วงมากเลย ตอนที่ผมโทรหาแอชลีย์และเธอบอกว่าคุณไม่ได้อยู่กับเธอ ผมจะแจ้งตำรวจแล้วด้วยซ้ำ แต่โซเฟียแนะนำให้รอสักหน่อย เธอค่อนข้างมั่นใจว่าคุณสบายดีและจะกลับบ้านเอง ปรากฏว่าเธอพูดถูก”โซเฟียยิ้มเยาะเย้ยอย่างมีชัยให้ฉันฉันกลั้นหัวเราะเยาะ จาเร็ดตาบอดได้ขนาดนี้เชียว? คำแนะนำของโซเฟียไม่ได้เป็นเพราะเป็นห่วงเป็นใยในสวัสดิภาพของฉัน แต่เป็นเพราะเธอไม่ต้องการให้เขาตามหาฉันมากกว่า แต่เช่นเคย เธอเล่นไพ่ของตัวเองได้ดีมากจนเขามองว่าเธอเป็นแม่พระ ทั้งที่เธอไม่ใช่“เอาล่ะ แอเรียล ผมรู้ว่าคุณคงเจ็บปวด

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 25 เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้จริงเหรอ

    (มุมมองของแอเรียล)วันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ และฉันก็รู้สึกขอบคุณที่ไม่ใช่วันทำงาน เมื่อฉันตื่นจากการนอนหลับ สิ่งที่ฉันทำคืออาบน้ำ ทานอาหารเช้า และดูทีวี เพราะแอชลีย์ไม่ยอมให้ฉันขยับตัวทำอะไรเลย“เฮ้” เธอบีบไหล่ฉันเบา ๆ เลื่อนตัวลงมานั่งบนโซฟาข้าง ๆ ฉัน “เป็นไงบ้าง?”“ไง” ฉันเหลือบมองเธอแล้วหันกลับไปมองทีวี “งานเสร็จแล้วเหรอ?”จุดประสงค์ของคำถามนี้ เป็นเพราะแอชลีย์ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าสางเพื่อตัดแต่งกิ่งดอกไม้ที่ปลูกอยู่ตรงข้างทางเข้าบ้านของเธอ และฉันอยากรู้ว่าเธอจัดการเสร็จแล้วหรือยัง“อืม เสร็จแล้ว ตอนนี้ดอกไม้ดูเรียบร้อยขึ้นเยอะเลย”“เธอควรไปกินมื้อเช้าได้แล้ว ทำงานมาหลายชั่วโมงแล้วนี่” ฉันพูด สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่รายการ“ให้ตายเถอะ เธอจดจ่ออยู่กับทีวีจนไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าฉันตัดแต่งกิ่งดอกไม้เสร็จตั้งนานแล้ว ถึงขั้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แม้แต่ทานอาหารเช้าแล้วด้วย พระเจ้า! คนท้องทุกคนขี้เกียจและไม่ค่อยสังเกตแบบนี้หมดเลยเหรอ?”ฉันหยุดชะงัก “เดี๋ยวก่อน ว่าไงนะ?” ฉันถาม และหันไปมองเธออย่างตั้งใจ ตอนนั้นเองที่ฉันสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเธอ เธออาบน้ำแล้วจริง ๆ เพรา

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 24 ความขัดแย้งเล็กน้อย

    (มุมมองของแอเรียล)ฉันหยุดชะงัก พยายามทำความเข้าใจกับคำพูดของแอชลีย์ช้า ๆ ฉันสบตากับเธอ “เธอล้อเล่นใช่ไหม?”“หน้าฉันดูเหมือนล้อเล่นเหรอ?” แอชลีย์ตอบโต้ เสียงของเธอหนักแน่นและจริงจังฉันหายใจเข้า พยายามทำความเข้าใจกับคำแนะนำของเธออีกครั้ง‘กับจาเร็ด?’ ความคิดนั้นให้ความรู้สึกเหนือจริง แปลกประหลาด ใจของฉันแข่งกันต่อต้านในขณะที่ความคิดนั้นหยั่งราก…ทำไมฉันถึงต้องหย่ากับจาเร็ด? ฉันทุ่มเททุกอย่างให้กับการแต่งงานครั้งนี้ ต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้มันเกิดผล...ฉันส่ายหัว พยายามหัวเราะและขับไล่มันออกไป “ฉันไม่คิดว่าเธอจะจริงจังนะ แอช” ฉันพูด แม้ว่าเสียงของฉันจะสั่นเล็กน้อย“ฉันจริงจัง เธอไม่สามารถเป็นคนที่ระแวงจาเร็ดได้ตลอดเวลาอย่างนี้ แอเรียล เธอเป็นภรรยาของเขา พระเจ้า! เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ควรรู้ว่าที่จริงเขาต้องการใคร ถ้าเขายังยึดติดอยู่กับโซเฟีย เขาก็ควรจะอยู่กับหล่อนไปซะ แต่ถ้าเขาต้องการเธอมากกว่า เขาก็ควรจะตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ วิธีหนึ่งที่จะทำแบบนั้นได้ คือการวางตัวกับโซเฟียไว้ในฐานที่เหมาะสม เชื่อฉันเถอะ ที่ของหล่อนไม่ควรอยู่ในชีวิตของเธอหรือในบ้านที่เป็นเรือนหอของพวกเธอ!”คำพูดข

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 23 ยื่นคำขาด

    (มุมมองของแอเรียล)หลังจากที่จาเร็ดจากไป ฉันก็กังวลจนแทบคลั่ง เกิดอะไรขึ้นกับโซเฟีย? ฉันสงสัย เพิ่งจะผ่านไปแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมงที่จาเร็ดกับฉันออกจากบ้านมาเอง เธอก็ปวดท้องเลยเหรอ?ฉันพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองด้วยความคิดที่ว่าจาเร็ดต้องจัดการกับสถานการณ์ได้ แต่อีกใจหนึ่งของฉันกลับไม่ยอมสงบลง ชั่วขณะหนึ่ง ฉันสงสัยว่ามีการเล่นไม่ซื่อ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันเป็นแผนของโซเฟียที่จะล่อจาเร็ดกลับไปที่บ้าน เพราะเธอไม่ต้องการให้เขาออกมาตั้งแต่แรก?แต่ฉันก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป พยายามที่จะไม่หวาดระแวงและรู้สึกไม่ปลอดภัย ถ้าเธอแสร้งทำ เธอคงไม่กล้าลากแม่ของจาเร็ดมาเกี่ยวข้องหรอก จริงไหม? ยิ่งฉันคิดถึงทุกสิ่ง ฉันก็ยิ่งกระสับกระส่ายแล้วความคิดหนึ่งก็เข้ามาในหัวฉัน จะเป็นยังไงถ้าสถานการณ์วิกฤตเกินกว่าที่จาเร็ดจะรับมือได้? ฉันลุกขึ้นจากเตียงทันที ฉันต้องกลับบ้านเหมือนกัน เผื่อจาเร็ดต้องการความช่วยเหลือดังนั้นโดยไม่คิดซ้ำสอง ฉันคว้าเสื้อผ้าของตัวเองมาสวม ฉันหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วรีบออกไป ข้างนอกโรงแรม ฉันเรียกแท็กซี่และบอกที่อยู่บ้านของฉัน ขณะที่เราอยู่บนท้องถนน ความไม่อดทนของฉันก็เพิ่มขึ้น ถึงขั้

  • ตามรักคืนใจ: คุณเศรษฐีไล่ลาภรรยาโฉม   บทที่ 22 จับโกหก

    (มุมมองของจาเร็ด)“จาเร็ด ลูกอยู่ไหน? โซเฟียเพิ่งโทรหาแม่ เธอกำลังเจ็บปวดมาก ท้องของเธอปวดจนไม่ไหว...”ผมแข็งทื่อกับคำพูดของแม่ ขณะที่ความรู้สึกหนาวเหน็บแล่นไปทั่วกระดูกสันหลังของผม ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเมื่อไหร่ที่เสียงอุทานหลุดออกมาจากปากของตัวเอง “ว่าไงนะ?”“ลูกต้องออกจากที่ที่ลูกอยู่ซะ และไม่ว่าลูกจะทำอะไรอยู่ก็ต้องกลับบ้าน! จะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับ…”นั่นคือทั้งหมดที่ผมได้ยินขณะที่ผมวางสาย ผมตกอยู่ในความตื่นตระหนกทันที ขณะที่ผมพยายามรวบรวมเสื้อผ้าบนพื้น“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงของแอเรียลดังขึ้นข้างหลัง ผมไม่ทันรู้ตัวเลยว่าเธอลงจากเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ ใจของผมเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด“คุณทำให้ฉันกลัวนะ เกิดอะไรขึ้น? ใครโทรมา?” เสียงของแอเรียลแทรกเข้ามาในความคิดของผมอีกครั้ง คราวนี้เธอมายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลผมพยายามจะพูด แต่คำพูดของผมกลับวกวน “โซเฟีย...แม่ผมโทรมา...เธอเจ็บปวดมาก ท้องของเธอ”ดวงตาของแอเรียลเบิกกว้างด้วยความตกใจ “เธอเป็นอะไรไป?”ผมส่ายหัว หัวใจเต้นแรง “ไม่รู้ ผมต้องไปดู ต้องกลับบ้าน”“โอเค ในเมื่อร้ายแรงขนาดนั้น งั้นฉัน

DMCA.com Protection Status