สวมรอยครั้งที่ 10
Shuu part
ผมรีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันทีที่เลขาโทรมาบอกว่าพี่เฌอโดนจอมโจรไนท์บลูที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ดักทำร้าย พอวิ่งเข้ามาก็เห็นว่าคุณเลขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับท้องฟ้าตัวปลอมอยู่หน้าห้องทั้งคู่แสดงสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
"พี่เฌอเป็นไงบ้างครับ" ผมวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณเลขา
"หมอยังไม่ออกมาครับ"
"ฝีมือนายใช่ไหม" ผมหันไปมองคนที่ยืนก้มหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว
"เกี่ยวอะไรกับผม" ท้องฟ้าถามขึ้นมา
"ก็นายร่วมมือกับไอ้เหี้ยนั่นไง"
ผมบีบแขนทั้งสองข้างของเขาแล้วจ้องมองด้วยความรู้สึกโกรธ ผมคิดว่าวันนั้นเขาต้องไปคุยกับแฟนโมบีแล้วร่วมมือกันมาทำร้ายพี่เฌอแน่ เพราะผมจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นพูดว่าจะทำให้ครอบครัวของผมได้รับรู้ถึงการสูญเสีย
"อะไรของพี่" ท้องฟ้าสะบัดมือผมออก
"คุณชู คุณท้องฟ้าครับ นี่โรงพยาบาลนะครับ" โจเซฟเดินมายืนกั้นระหว่างเราทั้งคู่ ผมกับท้องฟ้าต่างสะบัดหน้าหนีไม่มองหน้ากัน เพราะเกรงว่าถ้าเห็นหน้ากันความโกรธของผมมันจะปะทุขึ้นมาอีกแน่
พวกเราสามคนยืนรออยู่นานสักพักประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกพร้อมกับคุณหมอและพยาบาล
"หมอ พี่ผมเป็นไงบ้างครับ" ผมรีบตรงเข้าไปถามคุณหมอทันที
"คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ ดีที่มาทันเวลากระสุนไม่โดนจุดสำคัญ อีกเดี๋ยวจะย้ายไปที่ห้องพักฟื้นนะครับ"
ผมกล่าวขอบคุณหมอทันทีก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พี่เฌอพ้นขีดอันตรายแล้ว โชคดีที่มาทัน และคุณเลขาก็ให้ผมไปคุยกับตำรวจแทน โดยตำรวจให้ผมคุยกับคุณป้าที่เห็นเหตุการณ์ด้วย คุณป้าบอกว่าตอนที่กำลังเก็บของป้าได้ยินเสียงปืนเลยวิ่งมาดู แล้วเห็นผู้ชายที่แต่งตัวเหมือนจอมโจรไนท์บลูที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ยิงพี่เฌอ แล้วเห็นเหมือนกำลังสู้กันสักพักจอมโจรไนท์บลูก็เอาไม้ฟาดหัวพี่เฌอแล้วก็วิ่งหนี ป้าวิ่งมาดูพี่เฌอก็เห็นเธอพยายามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ป้าก็เลยพยายามเอามือพี่เฌอมาสแกนนิ้ว แล้วโทรหาเบอร์ล่าสุดให้ ซึ่งก็คือเบอร์ของคุณเลขา
"ในรถของคุณเฌอ มีสิ่งนี้อยู่ครับ" ตำรวจหยิบซองสีน้ำตาลยื่นมาให้ผม มันมีคราบเลือดติดอยู่ ตำรวจตัดเรื่องที่เป็นการพยายามฆ่าชิงทรัพย์ออกเพราะข้าวของบนรถและบนตัวพี่เฌอไม่มีอะไรหายเลย แม้แต่เงินมันก็ไม่เอาไปสักอย่าง
ผมหยิบของในซองขึ้นมาดูก็พบว่ามันคือประวัติของท้องฟ้าตัวปลอม นี่พี่เฌอก็สงสัยและกำลังค้นหาเหมือนผมอยู่เหรอ แต่ว่าของพี่เฌอมีรูปและชื่อรายละเอียดครบยิ่งกว่าของผมอีก ทั้งรูปและประวัติที่เขียนว่าชื่อ เซย์ยะ ดาร์เลเน่ และข้อมูลที่บอกว่าเขาเป็นพี่น้องกับท้องฟ้าตัวจริงอีก ผมคิดว่าพี่เฌอน่าจะรู้ก็เลยโดนดักทำร้ายเสียก่อน
ผมกลับมาเยี่ยมพี่เฌอหลังจากที่คุยกับตำรวจเสร็จก็เห็นแฟนของพี่เฌอกำลังนั่งเฝ้าพี่เฌออยู่ ใบหน้าสวยมีรอยช้ำที่มุมปากและมีผ้าปิดแผลปิดที่หน้าและไหล่จากการโดนยิง พี่เฌอยังคงนอนนิ่งไม่ฟื้นขึ้นมา
"พี่เฌอยังไม่ฟื้นเหรอครับ"
"ยัง หมอบอกว่าน่าจะอีกสองถึงสามวัน"
ผมหันไปพยักหน้าให้กับคำตอบของพี่เขยที่กำลังนั่งอ่านหนังสือในมืออยู่
"ก่อนหน้านั้นพี่เฌอได้พูดอะไรกับพี่ไหมครับ เรื่องของท้องฟ้า" ผมถามขึ้นมาเพราะคิดว่าพี่เฌออาจจะเอาไปปรึกษาแฟนบ้าง แต่พี่ไวน์กลับส่ายหน้าไปมา
"ไม่นะ จะมีแค่บอกว่าท้องฟ้าทำอาหารเก่งเท่านั้น"
"ผมนึกว่าพี่เฌอกำลังสงสัยสิ่งนี้อยู่ มันอยู่ในรถพี่เฌอ" ผมชูซองสีน้ำตาลขึ้นแต่พี่ไลน์หันมามองเหมือนแปลกใจ
"แต่ตอนเฌอไปส่งพี่ยังไม่มีเลยนะ"
"หมายความว่าไงครับ"
"ก็วันนี้พี่รถเสีย พี่ก็เลยให้เฌอไปส่งที่ร้านหน่อย แล้วเฌอก็บอกว่าจะกลับบ้าน มารู้ตัวอีกทีก็โดนทำร้ายแล้ว" พี่ไวน์พูดขึ้นมาน้ำเสียงแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด
"บางทีพี่เฌออาจจะนัดคุยกับนักสืบก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้ครับ" ผมว่าตามความคิดของตัวเองว่าพี่เฌออาจจะคุยกับนักสืบหลังจากที่ไปส่งพี่ไวน์ก็ได้
"งั้นก็ลองเปิดดูกล้องหน้ารถ หลังจากบ่ายสามครึ่งดูสิ พี่จำได้ว่าเฌอไปส่งพี่ตอนบ่ายสามครึ่ง"
ผมรีบไปขอให้ตำรวจช่วยเปิดดูกล้องจากหน้ารถพี่เฌอตั้งแต่ช่วงบ่ายสามครึ่งเป็นต้นไป พี่เฌอขับรถตามท้องถนนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ไปแวะที่ไหน จนกระทั่งช่วงเกือบสี่โมงก็มีอะไรสักอย่างวิ่งตัดหน้ารถ พี่เฌอวิ่งลงไปดู ก่อนจะเห็นเป็นจอมโจรไนท์บลูกำลังถือปืนวิ่งไล่พี่เฌอ และน่าจะหลังจากนั้นไม่นานพี่เฌอก็น่าจะโดนยิง
จากการเล่าของคุณป้าที่เป็นพยานเธอบอกว่าช่วงเวลาที่เธอเห็นมันประมาณสี่โมงกว่าเพราะเธอกำลังจะกลับบ้าน"ดูนี่สิครับ" ตำรวจพูดขึ้นให้ผมดู มีผู้ชายสวมหมวกโม่งดำมาจอดรถมอเตอร์ไซต์มาจอดอยู่หน้ารถพี่เฌอแล้วเดินถือซองสีน้ำตาลเข้ามา ตำรวจบอกผมว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นคนเอาซองสีน้ำตาลมาไว้ที่รถของพี่เฌอแล้วก็รีบขับรถออกไป
"เราต้องหาผู้ชายคนนี้ให้เจอครับ"
ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเรารู้ตัวคนร้ายได้เร็วที่สุด
แต่โชคชะตาก็ไม่เคยที่จะเข้าข้างผมเมื่อไม่นานตำรวจก็โทรมาบอกว่าเจอศพของผู้ชายดังกล่าวพร้อมกับรถมอเตอร์ไซต์คันเดียวกันที่จอดอยู่หน้ารถพี่เฌอ ผู้ชายคนนี้ตายจากการถูกยิงที่ศีรษะ ทราบภายหลังว่าเป็นแค่คนเร่ร่อนเท่านั้น
สองวันแล้วที่คดียังคงไม่คืบหน้าไม่มีใครพบร่องรอยของจอมโจรไนท์บลู หลังจากที่ทำร้ายพี่เฌอมันก็ไม่ปรากฏตัวมาอีกเลย พี่เฌอก็ยังไม่ฟื้นผมเดินกลับเข้ามาในบ้านหลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบเลยทั้งสองวันตอนที่ยุ่งอยู่กับเรื่องพี่เฌอผมก็ไปนอนที่คอนโดแทน และผมสั่งคนในบ้านว่าห้ามบอกโชนและชินเพราะเกรงว่าทั้งสองคนจะคิดมากช่วงนี้เป็นช่วงสอบมิดเทอมแล้วด้วย
"คุณชูได้เรื่องอะไรบ้างคะ" แม่นมเดินตรงเข้ามาหาผมด้วยท่าทีร้อนรน แต่ผมก็ทำเพียงแค่ส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ
"คุณชูครับ แย่แล้วครับ" คนสวนวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาผมจนผมกับคุณป้าต้องหันไปมอง
"ครับลุง"
"ไอ้มีคนขับรถ มันโดนดักทำร้ายครับ แล้วโทรไปที่โรงเรียนเขาบอกว่ามีคนรับคุณชินกับคุณท้องฟ้าไปแล้วครับ" ลุงสามคนสวนของบ้านพูดพร้อมกับหอบด้วยอาการเหนื่อย ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เรื่องพี่เฌอผมยังจัดการไม่ได้เลยมีเรื่องใหม่มาอีกแล้วเหรอ
"แล้วโชนล่ะ" ผมถามขึ้นอย่างร้อนรนเพราะไม่มีชื่อของน้องชายอีกคน
"วันนี้คุณโชนป่วยเลยไม่ได้ไปโรงเรียนค่ะ" ป้าแม่นมเป็นฝ่ายตอบแทน
"แจ้งตำรวจไหมครับ" คุณลุงถามขึ้นทันที
"ไม่ต้องครับ ผมมีคนที่จะช่วยเราได้เร็วกว่าตำรวจอีก" ผมว่าก่อนจะขอตัวขึ้นมาบนห้องเพื่อคุยโทรศัพท์
ผมไม่รอช้ารีบต่อสายหาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวทันที คนที่จะช่วยผมและทำงานได้เร็วกว่าตำรวจเสียอีก
"ผืนป่า กูมีเรื่องให้ช่วย" ไม่รอให้ปลายสายเอ่ยทักทายผมรีบชิงพูดกับปลายสาย
"จำคนเมื่อคืนนั้นที่มึงอยากได้ ได้ไหม"
(จำได้ ทำไม)
"ช่วยกูหาตัวเขา จับเป็นนะ"
(ทำไมวะ เขาทำอะไร)
"เขาจับตัวชินไป"
(เชี่ย จริงหรอ)
"เออ"
(ได้บังอาจมาจับตัวน้องชายสุดที่รักกู ให้กูจับไปให้ที่ไหน)
"บ้านกู"
ผมตอบมันแล้วกดตัดสาย ตอนนี้ก็แค่รอให้ผืนป่ามันจับตัวท้องฟ้าตัวปลอมมา ไม่สิเขาคือเซย์ยะต่างหาก ผมอ่านประวัติในซองสีน้ำตาลหมดแล้ว มันระบุชัดเจนว่าเขาคือสายลับและเขาสนิทกับท้องฟ้า มันก็จะลงล๊อคพอดีกับการที่ข้อมูลที่นักสืบส่งมาให้ผมทำไมเขาถึงได้ทำหลายอาชีพ แถมข้อมูลยังมีหลายข้อมูลอีก เพราะเขาเป็นสายลับ
และในกระดาษแผ่นสุดท้ายก็มีระบุว่าท้องฟ้าจ้างให้เขามาทำลายครอบครัวของพวกเรา และพี่เฌอก็คงรู้เรื่องนี้ถึงได้เตรียมจะเอาข้อมูลมาบอกพวกเรา แต่ไม่ทันเธอโดนดักทำร้ายเสียก่อน
คอยดูผมจะทำให้เขาได้รู้ว่าการคิดที่จะมาทำลายครอบครัวผมมันไม่ง่าย และเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง
..........
"พี่ชู"
"โชน มีอะไรหรือเปล่า"
"ผมได้ยินว่าพี่เฌออยู่โรงพยาบาล จริงเหรอครับ เกิดอะไรขึ้น"
ผมที่เพิ่งจะเดินเข้าบ้านมาหลังจากที่ไปเยี่ยมพี่เฌอมาถึงกับทำหน้าไม่ถูก เพราะตั้งใจที่จะไม่บอกโชนเรื่องนี้ แต่กลายเป็นว่าผมลืมไปว่าความลับมันไม่ได้มีในโลก โชนคงจะบังเอิญเดินไปได้ยินคนใช้คุยกัน
"อื้ม เกิดเรื่องนิดหน่อย อยากไปหาพี่เฌอไหม"
ผมและโชนเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยก็เห็นพี่เฌอนั่งลงบนเตียงโดยมีแฟนหนุ่มกำลังนั่งป้อนผลไม้อยู่ที่ข้างเตียง ผมและโชนยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะวิ่งไปหาพี่สาวคนโตทันที
"พี่ฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
"หลังจากที่ชูกลับไปแป๊บหนึ่งเอง นี่ตำรวจก็เพิ่งออกไป"
แฟนของพี่เฌอเป็นคนตอบพวกเรา
"แล้วเจ็บตรงไหนไหมครับ"
"ไม่แล้ว"
"พี่พอจะจำอะไรได้ไหม"
"พี่จำได้ว่าอะไรวิ่งตัดรถไม่รู้ พี่ก็เลยลงไปดู แล้วก็เจอผู้ชายใส่ชุดดำ หน้ากากน้ำเงินยืนปืนวิ่งไล่พี่ ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกนอกจากวิ่งหนี ก็เลยวิ่งเข้าไปในป่า" พี่เฌอกลืนแอปเปิลในปากลงคอแล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ให้พวกเราฟัง เธอบอกว่าหลังจากโดนยิงกับทุบหัวก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย จำได้รางๆ ว่าได้ยินเสียงผู้หญิงดูมีอายุพยายามเรียกให้เธอตื่นแล้วจับมือเธอไปสแกนโทรศัพท์หลังจากนั้นสติเธอก็ดับวูบไป
"แล้วซองสีน้ำตาลบนรถ ที่เป็นประวัติของท้องฟ้าละครับ พี่ได้ให้นักสืบสืบเรื่องท้องฟ้าไหม"
ผมถามด้วยความอยากรู้และทุกสายตาก็ถูกจับจ้องมาที่ผม
"ไม่ได้ให้สืบอะไรนะ แล้วซองสีน้ำตาลอะไรเหรอ"
สีหน้าของพี่เฌอบ่งบอกว่าเขาไม่รู้จริงๆ ว่าผมกำลังพูดถึงซองสีน้ำตาลอะไร พอผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้พี่เฌอดูหน้าซองกับประวัติของท้องฟ้าพี่เฌอก็บอกว่าเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก แสดงว่าผู้ชายใส่โม่งจงใจเอามาใส่ในรถพี่เฌอจริงๆ จากนั้นก็ถูกฆ่าปิดปาก
แต่ถ้าพี่เฌอไม่ได้เป็นคนจ้างใครให้สืบแล้วเขาจะเอามาให้พี่เฌอทำไม หรือจงใจให้คิดว่าเป็นท้องฟ้าเหรอ
Rrrrrrr
ผืนป่า
"ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ"
ผมบอกก่อนจะเดินออกจากห้องพักพี่เฌอเพื่อไปรับสายจากผืนป่าก่อนที่มันจะบอกผมว่าเจอตัวท้องฟ้าแล้ว และให้ผมไปตามแผนที่ที่มันส่งให้ทางไลน์ เพราะมันเจอบัตรนักเรียนของชินที่ถูกเผาอยู่ใกล้ตัวของท้องฟ้าตัวปลอมด้วย
ส่วนท้องฟ้าตัวปลอมก็เอาแต่บอกว่าไม่รู้หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา ผมรีบขับรถไปยังที่ที่ผืนป่าบอกทันที พอมาถึงก็เห็นลูกน้องของผืนป่าเกือบสิบคนกำลังยืนอยู่ และมีสองคนที่จับตัวท้องฟ้าที่พยายามดิ้นอยู่ โดยมีผืนป่ายืนล้วงกระเป๋าอยู่ตรงหน้า
"ปล่อย บอกให้ปล่อย!" เสียงของเขาเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ในตอนที่ผมเดินลงจากรถและก้าวขาเข้ามาใกล้กับพวกเขา
"พี่ชูช่วยผมด้วย!" เขาร้องเรียกให้ผมช่วย แต่ผมกลับเลือกที่จะไม่สนใจและหันไปทางผืนป่า ผืนป่ายื่นบัตรนักเรียนของชินที่ถูกเผาไปครึ่งหนึ่งให้กับผม แต่เพราะด้านที่มีรูปถ่ายไม่ถูกเบาทำให้ดูออกว่าเป็นของชิน ผมกำหมัดแน่น
"ชินอยู่ที่ไหน!" ผมหันไปตวาดใส่เขาเสียงดังลั่นด้วยความรู้สึกโกรธ
"ผมไม่รู้" เขาตอบเสียงเบาแล้วหันหน้าไปทางอื่นแทน
"ไม่รู้เหรอ กล้าที่จะพูดว่าไม่รู้ ท้องฟ้ามันสั่งนายมาใช่ไหม!" ผมตะคอกใส่เขาไปอีกครั้งและมันได้ผล ครั้งนี้อีกฝ่ายหันหน้ามา
"คุณผืนป่าครับ เจอคุณชินแล้วครับ" ผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งวิ่งออกมาจากป่าแล้วบอกผืนป่าเสียงดังลั่นทำให้พวกเราต้องรีบวิ่งไปตามทิศทางที่มีคนบอกชินแล้ว
ผมเดินเข้าไปก็เห็นชินในชุดนักเรียนนอนสลบโดยที่มือและปากโดนมัดไว้อยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปหาชินทันที ชินลืมตาขึ้นมามองผมแล้วเอาแต่ร้องไห้ออกมา
"ไม่เป็นไรแล้วนะชิน พี่อยู่นี่แล้ว" ผมแก้มัดให้ชินแล้วกอดชินแน่น ส่วนคนในอ้อมแขนก็เอาแต่ร้องไห้ปล่อยโฮออกมาไม่หยุดจนผมรู้สึกสงสาร ปกติชินเป็นเด็กร่าเริง ผมไม่เคยเห็นน้องร้องไห้เลยนี่เป็นครั้งแรก
"ฮึก ฮือ ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ใช่ท้องฟ้า ฮึก เขาจับตัวผมมาแล้วขู่ฆ่าผม" ชินพูดไปสะอื้นไปเหมือนคนจะขาดใจจนผมต้องลูบหัวเพื่อปลอบคนเป็นน้องชายก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวชินออกมา
ผมเดินออกมาก็เห็นว่าท้องฟ้าโดนคนของผืนป่ามัดเอาไว้และถูกกดให้นั่งลงกับพื้นแทน
"แกเป็นใคร" นั่นคือคำแรกที่ท้องฟ้าตัวปลอมพูดหลังจากที่เจอชิน แต่ชินก็เอาแต่ร้องไห้ซุกอกผมไม่กล้ามองหน้าท้องฟ้าตัวปลอม ราวกับกำลังหวาดกลัวที่เห็นคนตรงหน้า
"เอาไงกับหมอนี่" ผืนป่ามันถามผมแล้วชี้ไปที่ท้องฟ้าตัวปลอม ผมแสยะยิ้มใส่เขา
"เอาไปขังไว้ที่บ้านหลังนั้น เดี๋ยวกูพาชินไปโรงบาลก่อน" บ้านหลังนั้นที่ว่าคือบ้านที่เหมือนห้องขัง มันอยู่ในป่าหลังบ้านผมและมีไม่กี่คนที่รู้ หนึ่งในนั้นก็คือเพื่อนคนนี้ ผืนป่ายิ้มให้ผมอย่างรู้กัน
ผมตอบมันก่อนจะพยุงตัวชินไปขึ้นรถ แต่ผมได้ยินเสียงท้องฟ้าตัวปลอมตะโกนอะไรสักอย่างที่ฟังไม่ได้ความ แต่พอหันไปเขาก็โดนไอ้ผืนป่าเอาเชือกรัดปากไปแล้ว
"เดี๋ยวพี่พาเราไปตรวจร่างกาย แล้วจะพากลับบ้านนะ"
"ผมกลัว"
"ไม่ต้องกลัว พี่อยู่นี่แล้ว จะไม่มีใครทำอะไรเราได้อีก"
ผมลูบหัวชินเพื่อปลอบ ชินพยักหน้าให้ผมก่อนที่คนที่ร้องไห้จะเริ่มหยุดร้องแล้วก็หลับไปในที่สุด
ตอนนี้เหลือแค่พาชินไปตรวจร่างกายแล้วก็กลับไปจัดการคนที่บังอาจมาทำร้ายทั้งพี่สาวและน้องชายคนสำคัญของผมซะ
สวมรอยครั้งที่ 11Seiya partเพราะวันนี้โชนไม่สบายเลยไม่ได้มาโรงเรียน ผมกับชินเลยมาเรียนกันสองคน ถึงใจผมจะไม่อยากมาก็เถอะ ตอนนี้อยากไปสืบเรื่องจอมโจรไนท์บลูใจจะขาด วันนี้ทั้งวันผมเอาแต่คิดเรื่องของมันส่วนชินก็ดููปกติ อาจจะเป็นเพราะเขายังไม่รู้เรื่องพี่เฌอ เนื่องจากพี่ชูสั่งห้ามทุกคนไม่ให้พูดถึงเรื่องพี่เฌอ เพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ไม่อยากให้โชนกับชินมาเครียดด้วยผมหันไปมองชินที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างไม่สนใจใคร จนกระทั่งรถตู้ของที่บ้านขับมาจอดอยู่ที่หน้าตึกเรียนของพวกเราชินถึงได้เงยหน้าแล้วยันตัวลุกขึ้นจากบันได"เชิญครับคุณหนู"คนขับรถพูดขึ้นหลังจากที่เดินมาเลื่อนประตูให้กับพวกเรา แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนเสียงมันถูกส่งผ่านเครื่องแปลงเสียงจัง"คุณลุงไม่สบายเหรอครับ ทำไมใส่แมส"ชินเองก็ถามอย่างแปลกใจเพราะวันนี้คนขับรถดูแปลกตาไปนิดหน่อย แถมยังใส่หมวกปิดแมสอีก ที่สำคัญเอาแต่เงียบและก้ม
สวมรอยครั้งที่ 01seiya partสายลับผู้ไร้เทียมทานนั่นคือฉายาของผม ฉายาที่ใครต่อใครต่างเรียกผมแบบนั้น แรกๆ มันเป็นฉายาที่น่าภูมิใจนะ สำหรับผม แต่พอหันหลังกลับไปผมถึงพบว่า คำว่าไร้เทียมทานมันแลกมาด้วยความเหงา และความโดดเดี่ยวเพราะคำคำนี้มันเหมือนเป็นตัวยืนยันคุณภาพงานของผม แค่มีผมทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ ผมไม่เคยทำภารกิจพลาดเลยสักครั้งตั้งแต่มาเป็นสายลับ และไม่เคยร้องขอให้ใครมาช่วย ผมจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวเสมอปัง!ผมยิงเหนี่ยวไกใส่จอมโจรชุดสีดำรัตติกาลที่กำลังวิ่งอยู่บนโถงทางเดินของโรงแรมหรูที่ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงอัญมณีล้ำค่าจากหลากหลายประเทศคนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีดำเข้มหันมายิงปืนไพ่ใส่ผมที่กำลังวิ่งตามมัน แต่ผมก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้จู่ๆ ก็เกิดควันสีชมพูกระจายทั่วโถงทางเดิน ผมรีบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาปิดจมูกมันคือควันยาสลบ หนึ่งในกลอุบายที่จอมโจรในชุดคลุมสีดำใช้“จอมโจรไนท์บลูอยู่ตรงนั้น”เสียงทุ้มของหนึ่งในลูกน้องของผมดังขึ้นในตอนที่ จอมโจรไนท์บลู อาชญากรที่เลวร้ายที่สุดในมิลาน ณ เวลานี้ กำลังวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า มันมักจะออกปล้นร้านเพชรในช่วงเวลากลางคืนด้วยชุดคลุ
สวมรอยครั้งที่ 02Shuu partเสียดายความรู้สึกแรกที่ตื่นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ผมกำลังรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับเขามากกว่าการมีเซ็กส์ เพราะตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่อยู่ในโรงแรมแล้ว อุตส่าห์เจอคนถูกใจตรงสเปกทุกอย่าง แถมรสนิยมเซ็กส์ของเขาก็น่าสนใจจนทำผมคลั่งทั้งคืน แต่กลับไม่มีโอกาสได้สานต่อ พอยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายผมเก็บของเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมและจากนั้นผมมักไปที่ผับเดิมตลอดสองอาทิตย์เพื่อหวังว่าจะเจอเขา แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า เขาไม่ได้กลับมาที่ผับนี้อีกเลย แม้แต่คนตัวสูงอีกคนที่ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนเขาผมก็ไม่เห็นแม้แต่เงา สุดท้ายก็จนปัญญาและจบที่นั่งกินเหล้าคนเดียวเหงาๆ เหมือนกับทุกวันและเพราะถูกเรียกตัวให้กลับประเทศไทยด่วนผมจึงไม่มีโอกาสได้ตามหาตัวเขาต่อ มันยิ่งทำให้รู้สึกเสียดายยิ่งกว่าเดิมอีก“ถึงบ้านแล้วครับคุณชาย”เสียงของเลขาส่วนตัวที่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับคุณชายคนกลางของบ้านพูดขึ้นมา ทำให้ผมที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ที่เบาะหลังต้องยันตัวลุกขึ้นก่อนจะสะบัดหัวไปมาไล่ความมึนงงในหัวของตัวเองออกไป ผมอุตส่าห์ดื่มเหล้าแล้วบอกว่าแฮงค์จะได้ไม่ต้องมาบ้านหลังนี้ แต่สุดท้ายก
สวมรอยครั้งที่ 03seiya partเกือบไปแล้วผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีที่เข้ามาในห้อง หลังจากผ่านสงครามประสาทกับคนที่เพิ่งจะมีอะไรด้วยกันไปไม่กี่อาทิตย์ก่อน ควบด้วยตำแหน่งพี่ชายคนกลางของบ้านเขาเกือบทำให้ผมโป๊ะตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้แล้ว โชคดีที่เคยปลอมตัวเป็นนักแสดงสมัยเป็นสายลับใหม่ๆ เลยได้สกิลการแสดงละครติดตัวมาบ้าง ไม่รู้จะโทษเลขาที่ไม่ยอมเอาประวัติทุกคนในบ้านมาให้ผมดูก่อน หรือจะโทษโชคชะตาของตัวเองดี ที่ต้องมาปลอมตัวเป็นน้องชายต่างแม่กับคนที่มีอะไรด้วยเนี่ย ตอนที่เห็นเขาผมทั้งตกใจและทำอะไรไม่ถูกแต่ก็พยายามตีหน้านิ่งไว้ ต่างจากเขาที่ตอนนี้คงคิดรังเกียจตัวเองแล้วช็อกไปแล้วก็ได้ให้ตายเถอะนี่มันยิ่งกว่าหายนะ ผมว่าเขาต้องสงสัยแน่นอนว่าผมเป็นตัวปลอม เพราะขนาดเห็นผลดีเอ็นเอที่เลขาทำขึ้นมาเพื่อหลอกทุกคน เขาก็ยังดูไม่เชื่อเลยแต่พอลองคิดดีๆ ตอนที่เข้ามาในบ้านสีหน้าทุกคนดูปกติมากตอนที่เห็นผม ยกเว้นเขาที่ดูตกใจมากที่สุด คิดได้สองทางคือเขาตกใจที่รู้ว่าผมคือน้องชายต่างแม่ของเขา ซึ่งเขาสงสัยว่าผมเป็นตัวปลอม หรือไม่เขาก็คือคนร้าย เพราะมีแค่คนร้ายเท่านั้นที่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า
สวมรอยครั้งที่ 04Shuu partผมเดินออกมาสูดอากาศตอนเช้าที่ระเบียงห้องพร้อมกับจิบกาแฟไปด้วยเหมือนทุกวัน แต่สายตาดันเป็นเห็นคนผมทองในชุดลำลองกำลังเดินอยู่กับน้องชายคนเล็กของผม และพูดคุยหัวเราะกันอย่างถูกคอ ดูเหมือนชินกำลังพาน้องชายต่างแม่เดินสำรวจบ้านอยู่ ไหนบอกจะช่วยผมจัดการไอ้ลูกเมียน้อยไง แต่นี่ดูสนิทกันกว่าที่ผมคิดอีกนะผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับน้องชายคนเล็กที่แสนจะใสซื่อและเข้ากับคนง่ายจนเกินไป ชินมักจะไว้ใจคนอื่นง่ายเสมอแตกต่างจากฝาแฝดอย่างโชนที่เป็นคนค่อนข้างขี้ระแวงและไม่ไว้ใจใครง่ายๆและช่วงสายของวันผมถึงได้ทำกิจวัตรประจำตัวแล้วค่อยออกจากห้องนอน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นป้าเนตรดาวออกมาจากห้องของท้องฟ้าด้วยท่าทางรีบร้อน“คุณป้าเข้าไปทำไมในห้องมันเหรอครับ” ผมถามอย่างแปลกใจก่อนที่เธอจะหันมาชะงักเล็กน้อยที่เห็นผม“อ่อ ป้าแค่มาเช็กดูความเรียบร้อยค่ะ” เธอว่าด้วยรอยยิ้ม แต่ผมก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่คุณแม่นมของสองแฝดเลือกที่จะมาเช็กความเรียบร้อยเอง แทนที่จะให้เด็กรับใช้คนอื่นมาดู“งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ” แต่ยังไม่ทันได้ถามข้อสงสัยของตัวเองต่อ เธอก็ขอตัวชิงลงไปข้างล่างก่อน ผมจึงไม่ได้ว่าอะไรต
สวมรอยครั้งที่05Seiya part“คุณเลขาแน่ใจจริงๆ เหรอครับ ว่าพี่ชูเขาไม่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า”“ใช่ครับ ผมแน่ใจ ทุกคนในบ้านไม่เคยเจอหน้าคุณท้องฟ้าครับ เพราะคุณท้องฟ้าไปอิตาลีตั้งแต่เด็ก”ผมคิดตามคำพูดของคุณเลขา ซึ่งก็เป็นอย่างที่คุณเลขาบอก จำได้ว่าคุณน้าพาท้องฟ้าไปอยู่อิตาลีตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางที่พี่ชูจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าอย่างที่เขาว่า แล้วถ้างั้นคนร้ายจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าได้ยังไงกันแต่ถ้าตามที่พี่ชูพูดเมื่อคืน ถ้าเคยเห็นหน้าจริง เขาก็เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด และเป็นคนที่ดูมีเหตุจูงใจที่สุดด้วย เพื่อไม่ให้มรดกของตัวเองตกไปเป็นของท้องฟ้า เขาอาจจะชิงฆ่าท้องฟ้าก่อน แต่คุณเลขาบอกว่า วันที่ท้องฟ้าโดนทำร้ายยังไม่มีการอ่านพินัยกรรม“แต่เหมือนคุณชูจะเคยเห็นแค่ตอนเป็นทารกนะครับ ไม่น่าจะจำได้”คุณเลขาพูดต่อเมื่อเห็นว่าผมกำลังนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง“หรือว่าเขาเป็นคนทำร้ายท้องฟ้าครับ” ผมถามเสียงเรียบ“ผมเองก็คิ
สวมรอยครั้งที่06Shuu part"มีอะไรหรือเปล่าครับ"ผมถามขึ้นหลังจากเดินขึ้นบันไดมาเห็นท้องฟ้าตัวปลอมกำลังยืนคิ้วขมวด โดยมีพี่เฌอยืนอยู่หน้าห้องของตัวเองพอมองเข้าไปในห้องพี่เฌอ ก็เห็นคนใช้กำลังวุ่นอยู่กับการหาของอะไรสักอย่าง"เข็มกลัดที่คุณพ่อให้พี่มันหายไปไหนไม่รู้" พี่เฌอตอบเสียงเครียด"ลองค้นห้องท้องฟ้าดูไหมครับ เขาอาจจะเอาไปก็ได้" ผมบอกพี่เฌอพร้อมกับหันไปมองคนที่ทำหน้าเครียดอยู่"ผมไม่ได้เอาไป" เขารีบตอบทันควัน"ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ให้ค้นสิ" ผมบอกแล้วเดินไปมองเขาอย่างจับผิด คนผมทองจิ๊ปากเหมือนขัดใจอะไรสักอย่าง ก่อนที่เขาจะมองผมกับพี่เฌอสลับกันไปมา"ถ้างั้นก็เชิญครับ"ร่างเพรียวเดินหลบให้ทุกคนเข้าไปค้นห้องตัวเอง และผมก็เพิ่งสังเกตว่าเขายังสะพายกระเป๋านักเรียนอยู่ เพิ่งกลับมาเหรอ? แต่โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้วนี่ ทำไมถึงเพิ่งกลับ"เจอแล้วค่ะ" แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยถาม คนใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับเข็มกลัดเจ้าปัญหาแล้วส่งมันให้พี่เฌอ ส่วนท้องฟ้าตัวป
สวมรอยครั้งที่07Seiya partบรรยากาศในรถอึดอัดจนน่าขนลุก ทั้งที่เขาเป็นคนบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ตัวเองกลับเอาแต่นั่งเงียบตลอดทางแถมทำหน้านิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์ไม่ถูกอีกในใจเขาคงมีคำถามว่าทำไมผมถึงไปอยู่ในผับจนเกือบโดนผู้ชายตัวใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นคนรู้จักของพี่ชูลากเข้าโรงแรมได้ ก็คงต้องย้อนไปประมาณสักห้าชั่วโมงก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากลูอิสเกี่ยวกับภารกิจสำคัญที่ลูอิสรับเอาไว้ แต่จอมโจรไนท์บลูมันดันออกมาเสียก่อน ลูอิสจึงขอร้องให้ผมมาทำภารกิจนี้แทนหนึ่งวัน จะให้ผมไปจับจอมโจรไนท์บลูแทนก็กลัวว่าผมจะถูกหัวหน้าและคนในองค์กรจับได้ว่าแอบมาปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่โดนพักงานอยู่ แล้วผมอาจจะซวยจนโดนไล่ออกผมจึงต้องจำใจแอบออกจากบ้านมาปลอมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ เพื่อหาตัวเป้าหมายให้ลูอิส มันเป็นแค่ภารกิจจับชู้ธรรมดานั่นแหละ ปกติลูอิสมันคงไม่รับหรอก แต่คงเพราะเงินหนามันถึงได้ยอมรับ แต่คอยดูเถอะถ้าภารกิจสำเร็จผมทวงส่วนแบ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่"ไปต่อกันไหมครับ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่ผ
สวมรอยครั้งที่ 11Seiya partเพราะวันนี้โชนไม่สบายเลยไม่ได้มาโรงเรียน ผมกับชินเลยมาเรียนกันสองคน ถึงใจผมจะไม่อยากมาก็เถอะ ตอนนี้อยากไปสืบเรื่องจอมโจรไนท์บลูใจจะขาด วันนี้ทั้งวันผมเอาแต่คิดเรื่องของมันส่วนชินก็ดููปกติ อาจจะเป็นเพราะเขายังไม่รู้เรื่องพี่เฌอ เนื่องจากพี่ชูสั่งห้ามทุกคนไม่ให้พูดถึงเรื่องพี่เฌอ เพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ไม่อยากให้โชนกับชินมาเครียดด้วยผมหันไปมองชินที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างไม่สนใจใคร จนกระทั่งรถตู้ของที่บ้านขับมาจอดอยู่ที่หน้าตึกเรียนของพวกเราชินถึงได้เงยหน้าแล้วยันตัวลุกขึ้นจากบันได"เชิญครับคุณหนู"คนขับรถพูดขึ้นหลังจากที่เดินมาเลื่อนประตูให้กับพวกเรา แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนเสียงมันถูกส่งผ่านเครื่องแปลงเสียงจัง"คุณลุงไม่สบายเหรอครับ ทำไมใส่แมส"ชินเองก็ถามอย่างแปลกใจเพราะวันนี้คนขับรถดูแปลกตาไปนิดหน่อย แถมยังใส่หมวกปิดแมสอีก ที่สำคัญเอาแต่เงียบและก้ม
สวมรอยครั้งที่ 10Shuu partผมรีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันทีที่เลขาโทรมาบอกว่าพี่เฌอโดนจอมโจรไนท์บลูที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ดักทำร้าย พอวิ่งเข้ามาก็เห็นว่าคุณเลขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับท้องฟ้าตัวปลอมอยู่หน้าห้องทั้งคู่แสดงสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด"พี่เฌอเป็นไงบ้างครับ" ผมวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณเลขา"หมอยังไม่ออกมาครับ""ฝีมือนายใช่ไหม" ผมหันไปมองคนที่ยืนก้มหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว"เกี่ยวอะไรกับผม" ท้องฟ้าถามขึ้นมา"ก็นายร่วมมือกับไอ้เหี้ยนั่นไง"ผมบีบแขนทั้งสองข้างของเขาแล้วจ้องมองด้วยความรู้สึกโกรธ ผมคิดว่าวันนั้นเขาต้องไปคุยกับแฟนโมบีแล้วร่วมมือกันมาทำร้ายพี่เฌอแน่ เพราะผมจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นพูดว่าจะทำให้ครอบครัวของผมได้รับรู้ถึงการสูญเสีย"อะไรของพี่" ท้องฟ้าสะบัดมือผมออก"คุณชู คุณท้องฟ้าครับ นี่โรงพยาบาลนะครับ" โจเซฟเดินมายืนกั้นระหว่างเราทั้งคู่ ผมกับท้องฟ้าต่างสะบัดหน้าหนีไม่มองหน้ากัน เพราะเกรงว่าถ้าเห็นหน้ากันคว
สวมรอยครั้งที่ 09Seiya part"เล่าให้ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"ผมหลุบตาหลบสายตาที่กำลังจ้องมองเหมือนต้องการคาดคั้นผมอยู่ ดูเหมือนว่าผมจะเผลอแสดงทั้งด้านมืดและด้านที่อ่อนแอให้คนที่เกลียดผมเห็นซะแล้วสิ ผมถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงสภาพตัวเองที่ฟิวขาดมือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองอย่างคนคิดหนักแต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจจะเล่าให้เขาฟัง"พวกนั้นมันเข้ามาทำร้ายผมครับ ผมก็เลยป้องกันตัว" ผมบอกและผมรู้ดีว่าต่อให้ไม่ได้เงยหน้าไปมอง ผมก็รู้ว่าเขากำลังจ้องหน้าผมด้วยความสงสัยอยู่"แต่ผมควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เวลาที่ต่อสู้ เหมือนร่างกายมันจะสู้ไปเรื่อยๆ จนกว่าคู่ต่อสู้จะตาย หรือผมจะสลบไป" ผมเล่าให้เขาฟังต่อ มันเป็นความจริงที่ว่าผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ถ้าฟิวขาด อย่างตอนที่ผมต่อยกับพวกสายลับปลายแถวจนโดนพักงาน ถ้าไม่มีคนมาห้าม ผมก็คงต่อยพวกมันปางตายไปแล้วรวมถึงเมื่อตอนเย็นที่มีคนมาหาเรื่องผมก็ด้วย ผมต่อยและสู้กับพวกมัน ยิ่งเห็นว่าพวกมันเก่งผมยิ่งเหมือนคนที่เสีย
สวมรอยครั้งที่ 08Shuu partสองอาทิตย์แล้วที่ท้องฟ้าตัวปลอมมาอยู่ที่นี่ แต่กลับไม่ทำอะไรเลยนอกจากใช้ชีวิตปกติ ปกติแบบที่ไม่ทำอะไรน่าสงสัยเลยนอกจากการติดกล้องที่ห้องตัวเอง ราวกับว่ามีของสำคัญอยู่ในนั้น และกลัวว่ามีใครจะมาเอาไปในตอนแรกผมคิดว่าเขาอาจจะเป็นมิจฉาชีพ แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่ ถ้าจุดประสงค์ของเขาคือการสวมรอยเป็นท้องฟ้าเพื่อขโมยของ เขาคงทำไปนานแล้ว ไม่ปล่อยเวลามานานขนาดนี้หรอกRrrrrrนักสืบ"สวัสดีครับ"(สวัสดีครับคุณชู ผมเจอข้อมูลที่แปลกมาก เดี๋ยวผมส่งไปให้ดูทางเมลนะครับ)"ขอบคุณครับ"ผมกดตัดสายจากนักสืบแล้วจัดการเปิดคอมขึ้นเพื่อเข้าระบบเมลตัวเองไม่ใช่เมลบริษัท รอไม่นานนักสืบก็ส่งข้อมูลมาให้ผม มันเป็นข้อมูลของคนสองคน คนแรกคือท้องฟ้าตัวปลอม ผมไล่อ่านข้อมูลดูมันมีข้อมูลประวัติของเขาขึ้นมา ทั้งหมดสามชื่อชื่อแรก เจย์เลน วิโทรี่ นักฆ่าของแก๊ง มังกรสีนิล ผู้มีอิทธิพลในภาคใต้ ที่ถูกรัฐบาลกวาดล้างไปเมื่อสามปีก่อน
สวมรอยครั้งที่07Seiya partบรรยากาศในรถอึดอัดจนน่าขนลุก ทั้งที่เขาเป็นคนบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ตัวเองกลับเอาแต่นั่งเงียบตลอดทางแถมทำหน้านิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์ไม่ถูกอีกในใจเขาคงมีคำถามว่าทำไมผมถึงไปอยู่ในผับจนเกือบโดนผู้ชายตัวใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นคนรู้จักของพี่ชูลากเข้าโรงแรมได้ ก็คงต้องย้อนไปประมาณสักห้าชั่วโมงก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากลูอิสเกี่ยวกับภารกิจสำคัญที่ลูอิสรับเอาไว้ แต่จอมโจรไนท์บลูมันดันออกมาเสียก่อน ลูอิสจึงขอร้องให้ผมมาทำภารกิจนี้แทนหนึ่งวัน จะให้ผมไปจับจอมโจรไนท์บลูแทนก็กลัวว่าผมจะถูกหัวหน้าและคนในองค์กรจับได้ว่าแอบมาปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่โดนพักงานอยู่ แล้วผมอาจจะซวยจนโดนไล่ออกผมจึงต้องจำใจแอบออกจากบ้านมาปลอมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ เพื่อหาตัวเป้าหมายให้ลูอิส มันเป็นแค่ภารกิจจับชู้ธรรมดานั่นแหละ ปกติลูอิสมันคงไม่รับหรอก แต่คงเพราะเงินหนามันถึงได้ยอมรับ แต่คอยดูเถอะถ้าภารกิจสำเร็จผมทวงส่วนแบ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่"ไปต่อกันไหมครับ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่ผ
สวมรอยครั้งที่06Shuu part"มีอะไรหรือเปล่าครับ"ผมถามขึ้นหลังจากเดินขึ้นบันไดมาเห็นท้องฟ้าตัวปลอมกำลังยืนคิ้วขมวด โดยมีพี่เฌอยืนอยู่หน้าห้องของตัวเองพอมองเข้าไปในห้องพี่เฌอ ก็เห็นคนใช้กำลังวุ่นอยู่กับการหาของอะไรสักอย่าง"เข็มกลัดที่คุณพ่อให้พี่มันหายไปไหนไม่รู้" พี่เฌอตอบเสียงเครียด"ลองค้นห้องท้องฟ้าดูไหมครับ เขาอาจจะเอาไปก็ได้" ผมบอกพี่เฌอพร้อมกับหันไปมองคนที่ทำหน้าเครียดอยู่"ผมไม่ได้เอาไป" เขารีบตอบทันควัน"ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ให้ค้นสิ" ผมบอกแล้วเดินไปมองเขาอย่างจับผิด คนผมทองจิ๊ปากเหมือนขัดใจอะไรสักอย่าง ก่อนที่เขาจะมองผมกับพี่เฌอสลับกันไปมา"ถ้างั้นก็เชิญครับ"ร่างเพรียวเดินหลบให้ทุกคนเข้าไปค้นห้องตัวเอง และผมก็เพิ่งสังเกตว่าเขายังสะพายกระเป๋านักเรียนอยู่ เพิ่งกลับมาเหรอ? แต่โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้วนี่ ทำไมถึงเพิ่งกลับ"เจอแล้วค่ะ" แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยถาม คนใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับเข็มกลัดเจ้าปัญหาแล้วส่งมันให้พี่เฌอ ส่วนท้องฟ้าตัวป
สวมรอยครั้งที่05Seiya part“คุณเลขาแน่ใจจริงๆ เหรอครับ ว่าพี่ชูเขาไม่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า”“ใช่ครับ ผมแน่ใจ ทุกคนในบ้านไม่เคยเจอหน้าคุณท้องฟ้าครับ เพราะคุณท้องฟ้าไปอิตาลีตั้งแต่เด็ก”ผมคิดตามคำพูดของคุณเลขา ซึ่งก็เป็นอย่างที่คุณเลขาบอก จำได้ว่าคุณน้าพาท้องฟ้าไปอยู่อิตาลีตั้งแต่เด็ก ไม่มีทางที่พี่ชูจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าอย่างที่เขาว่า แล้วถ้างั้นคนร้ายจะเคยเห็นหน้าท้องฟ้าได้ยังไงกันแต่ถ้าตามที่พี่ชูพูดเมื่อคืน ถ้าเคยเห็นหน้าจริง เขาก็เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด และเป็นคนที่ดูมีเหตุจูงใจที่สุดด้วย เพื่อไม่ให้มรดกของตัวเองตกไปเป็นของท้องฟ้า เขาอาจจะชิงฆ่าท้องฟ้าก่อน แต่คุณเลขาบอกว่า วันที่ท้องฟ้าโดนทำร้ายยังไม่มีการอ่านพินัยกรรม“แต่เหมือนคุณชูจะเคยเห็นแค่ตอนเป็นทารกนะครับ ไม่น่าจะจำได้”คุณเลขาพูดต่อเมื่อเห็นว่าผมกำลังนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง“หรือว่าเขาเป็นคนทำร้ายท้องฟ้าครับ” ผมถามเสียงเรียบ“ผมเองก็คิ
สวมรอยครั้งที่ 04Shuu partผมเดินออกมาสูดอากาศตอนเช้าที่ระเบียงห้องพร้อมกับจิบกาแฟไปด้วยเหมือนทุกวัน แต่สายตาดันเป็นเห็นคนผมทองในชุดลำลองกำลังเดินอยู่กับน้องชายคนเล็กของผม และพูดคุยหัวเราะกันอย่างถูกคอ ดูเหมือนชินกำลังพาน้องชายต่างแม่เดินสำรวจบ้านอยู่ ไหนบอกจะช่วยผมจัดการไอ้ลูกเมียน้อยไง แต่นี่ดูสนิทกันกว่าที่ผมคิดอีกนะผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับน้องชายคนเล็กที่แสนจะใสซื่อและเข้ากับคนง่ายจนเกินไป ชินมักจะไว้ใจคนอื่นง่ายเสมอแตกต่างจากฝาแฝดอย่างโชนที่เป็นคนค่อนข้างขี้ระแวงและไม่ไว้ใจใครง่ายๆและช่วงสายของวันผมถึงได้ทำกิจวัตรประจำตัวแล้วค่อยออกจากห้องนอน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นป้าเนตรดาวออกมาจากห้องของท้องฟ้าด้วยท่าทางรีบร้อน“คุณป้าเข้าไปทำไมในห้องมันเหรอครับ” ผมถามอย่างแปลกใจก่อนที่เธอจะหันมาชะงักเล็กน้อยที่เห็นผม“อ่อ ป้าแค่มาเช็กดูความเรียบร้อยค่ะ” เธอว่าด้วยรอยยิ้ม แต่ผมก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่คุณแม่นมของสองแฝดเลือกที่จะมาเช็กความเรียบร้อยเอง แทนที่จะให้เด็กรับใช้คนอื่นมาดู“งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ” แต่ยังไม่ทันได้ถามข้อสงสัยของตัวเองต่อ เธอก็ขอตัวชิงลงไปข้างล่างก่อน ผมจึงไม่ได้ว่าอะไรต
สวมรอยครั้งที่ 03seiya partเกือบไปแล้วผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีที่เข้ามาในห้อง หลังจากผ่านสงครามประสาทกับคนที่เพิ่งจะมีอะไรด้วยกันไปไม่กี่อาทิตย์ก่อน ควบด้วยตำแหน่งพี่ชายคนกลางของบ้านเขาเกือบทำให้ผมโป๊ะตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้แล้ว โชคดีที่เคยปลอมตัวเป็นนักแสดงสมัยเป็นสายลับใหม่ๆ เลยได้สกิลการแสดงละครติดตัวมาบ้าง ไม่รู้จะโทษเลขาที่ไม่ยอมเอาประวัติทุกคนในบ้านมาให้ผมดูก่อน หรือจะโทษโชคชะตาของตัวเองดี ที่ต้องมาปลอมตัวเป็นน้องชายต่างแม่กับคนที่มีอะไรด้วยเนี่ย ตอนที่เห็นเขาผมทั้งตกใจและทำอะไรไม่ถูกแต่ก็พยายามตีหน้านิ่งไว้ ต่างจากเขาที่ตอนนี้คงคิดรังเกียจตัวเองแล้วช็อกไปแล้วก็ได้ให้ตายเถอะนี่มันยิ่งกว่าหายนะ ผมว่าเขาต้องสงสัยแน่นอนว่าผมเป็นตัวปลอม เพราะขนาดเห็นผลดีเอ็นเอที่เลขาทำขึ้นมาเพื่อหลอกทุกคน เขาก็ยังดูไม่เชื่อเลยแต่พอลองคิดดีๆ ตอนที่เข้ามาในบ้านสีหน้าทุกคนดูปกติมากตอนที่เห็นผม ยกเว้นเขาที่ดูตกใจมากที่สุด คิดได้สองทางคือเขาตกใจที่รู้ว่าผมคือน้องชายต่างแม่ของเขา ซึ่งเขาสงสัยว่าผมเป็นตัวปลอม หรือไม่เขาก็คือคนร้าย เพราะมีแค่คนร้ายเท่านั้นที่เคยเห็นหน้าท้องฟ้า