สวมรอยครั้งที่ 09
Seiya part
"เล่าให้ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
ผมหลุบตาหลบสายตาที่กำลังจ้องมองเหมือนต้องการคาดคั้นผมอยู่ ดูเหมือนว่าผมจะเผลอแสดงทั้งด้านมืดและด้านที่อ่อนแอให้คนที่เกลียดผมเห็นซะแล้วสิ ผมถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงสภาพตัวเองที่ฟิวขาด
มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองอย่างคนคิดหนักแต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจจะเล่าให้เขาฟัง
"พวกนั้นมันเข้ามาทำร้ายผมครับ ผมก็เลยป้องกันตัว" ผมบอกและผมรู้ดีว่าต่อให้ไม่ได้เงยหน้าไปมอง ผมก็รู้ว่าเขากำลังจ้องหน้าผมด้วยความสงสัยอยู่
"แต่ผมควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เวลาที่ต่อสู้ เหมือนร่างกายมันจะสู้ไปเรื่อยๆ จนกว่าคู่ต่อสู้จะตาย หรือผมจะสลบไป" ผมเล่าให้เขาฟังต่อ มันเป็นความจริงที่ว่าผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ถ้าฟิวขาด อย่างตอนที่ผมต่อยกับพวกสายลับปลายแถวจนโดนพักงาน ถ้าไม่มีคนมาห้าม ผมก็คงต่อยพวกมันปางตายไปแล้ว
รวมถึงเมื่อตอนเย็นที่มีคนมาหาเรื่องผมก็ด้วย ผมต่อยและสู้กับพวกมัน ยิ่งเห็นว่าพวกมันเก่งผมยิ่งเหมือนคนที่เสียการควบคุม ผมสู้กับพวกมันด้วยความคิดเดียวที่อยู่ในหัวผมตอนนั้นคือ ผมต้องชนะ ต่อให้ตายขอแค่จัดการไอ้สามคนนี้ได้ แต่แล้วเสียงเรียกของพี่ชูก็ดึงสติให้ผมกลับมา
"เพราะงั้นตอนที่ได้สติก็เลยร้องไห้เหรอ"
พี่ชูพูดขึ้นมาหลังจากที่ผมเงียบไปนาน ผมพยักหน้าเพื่อเป็นคำตอบ
"ครับ เพราะผมสัญญากับคนคนหนึ่งไว้ว่าจะสู้แค่ป้องกันตัว จะไม่สู้แบบตายกันไปข้างหนึ่งแล้ว"
ทุกครั้งที่ได้สติผมก็จะนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับท้องฟ้า และจากนั้นน้ำตาของความรู้สึกผิดมันก็จะไหลออกมาเอง ผมได้แต่ขอโทษที่รักษาสัญญาไม่ได้ แล้วก็เอาแต่ร้องขอโทษเขาในใจ ที่ปล่อยให้อารมณ์โกรธมันอยู่เหนือการควบคุมของผมอีกแล้ว และผมก็ควบคุมความเสียใจของตัวเองไม่ได้ จนจบที่ร้องไห้จนสลบไปเหมือนกับวันนี้
"ใครเหรอ"
พี่ชูถาม ผมรู้ว่าเขาคงถามเพื่อให้บรรยากาศเราไม่เงียบ แต่ผมก็บอกไม่ได้ เพราะถ้าบอกก็ไม่ต่างจากการเฉลยว่าตัวเองคือท้องฟ้าตัวปลอมเลย
"ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร พักผ่อนเถอะ" เพราะเห็นผมนิ่งเงียบไม่ตอบเขาจึงเลือกที่จะลุกขึ้นยืนเตรียมออกจากห้อง
"ขอบคุณนะครับ ที่ทำแผลให้" ผมเงยหน้ามาเพื่อขอบคุณเขา ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่สายตาของเขาดูอ่อนลงกว่าทุกครั้ง
"อื้ม"เขาขานรับในลำคอก่อนจะเดินออกไปแต่ก่อนจะปิดประตูก็หันหน้ามาหาผมอีกรอบ "จะกินข้าวข้างล่างหรือกินบนนี้" พี่ชูถามผม
"บนนี้ดีกว่าครับ"
"เดี๋ยวบอกแม่บ้านให้"
"ขอบคุณครับ"
แล้วประตูก็ปิดลง ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยิบยาควบคุมอารมณ์ที่หมอประจำตัวเคยให้มากินทั้งที่ไม่ได้กินมานานแล้ว อาจจะเป็นเพราะผมหลอกตัวเองมาตลอดว่าตัวเองหายแล้วถึงได้ไม่กินมัน แต่เหตุการณ์วันนี้ทำให้ผมรู้ว่า โรคบกพร่องทางอารมณ์ของผมมันไม่เคยหายเลย
ผมกินยาเสร็จก็เตรียมจะกลับมานอนพักผ่อนสักหน่อยแต่คนรับใช้ก็ดันเอาอาหารขึ้นมาให้เสียก่อน ผมบอกขอบคุณเธอ ก่อนจะจัดการกินไปแค่เล็กน้อย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เชิญครับ"
ตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นคนรับใช้มาเก็บจานข้าว แต่ดันเป็นชินที่เดินเข้ามาพร้อมชุดยูนิฟอร์มนักเรียนไม่ต่างจากผมที่ยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนชุดเลย
"อ้าวกินข้าวอยู่เหรอ" ชินที่เดินถือสมุดกับกระเป๋าดินสอเริ่มหยุดอยู่ข้างโต๊ะทำงานที่ตอนนี้ผมใช้เป็นโต๊ะกินข้าวไปแล้ว
"อิ่มพอดี มีอะไรเหรอ" ผมเลื่อนถาดข้าวให้ออกห่างตัวก่อนจะเงยหน้ามาถามเขา
"ช่วยสอนการบ้านหน่อย" ชินว่าพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ผม
"โชนล่ะ"
"โชนอธิบายเข้าใจยาก ชอบบ่นด้วย"
"ก็ได้ มาสิ"
ผมว่าก่อนจะขยับเก้าอี้ให้เขามานั่งใกล้ๆ ตัวเอง
"ว่าแต่ไปโดนอะไรมา ใครแกล้งนักเรียนโรงเรียนเราเหรอ แต่ตอนเลิกเรียนยังไม่มีเลยนี่" ชินดึงหน้าผมไปใกล้แล้วจับพลิกไปพลิกมาเหมือนสำรวจหาว่าผมมีแผลตรงไหนบนใบหน้าบ้าง
"เปล่าๆ นักเลงข้างถนน" ผมบอกปัดไปเพราะไม่อยากให้ชินต้องคิดมาก
"เจ็บมั้ย"
"จิ๊บๆ ที่อิตาลีเจอบ่อยกว่านี้อีก"
"แล้วตอนเย็นไปไหนมาเหรอ ที่ไม่ยอมกลับด้วยกัน"
"ไปหาคนรู้จัก" พอชินถามเรื่องนี้ผมก็เลยนึกถึงสิ่งที่คุยกับพี่คัทเตอร์ในร้านกาแฟได้
พี่คัทเตอร์บอกว่าแม่นมรู้ว่าพี่คัทเตอร์แค้นบริษัทของพี่ชู เลยจ้างพี่คัทเตอร์ให้ฆ่าชินทิ้ง และจะเอาตัวปลอมมาสวมรอยในอีกไม่กี่วัน และบอกให้ผมระวังตัวด้วย ไอ้ไมค์กับแม่นมก็วางแผนที่จะฆ่าผมเหมือนกัน
ผมขอร้องให้พี่คัทเตอร์ไม่ทำ โดยแลกกับถ้าหาคนร้ายเจอ จับคนร้ายเข้าคุกได้ ผมจะไม่เกี่ยวข้องกับคนตระกูลนี้อีก ซึ่งผมก็รับปาก เพราะเดิมทีก็ตั้งใจจะไม่เกี่ยวข้องกันอีก ถ้าเรื่องของท้องฟ้าจบ ผมก็คงไม่มายุ่งกับครอบครัวนี้อีกแล้ว และผมเชื่อว่าพี่คัทเตอร์จะรักษาสัญญา
"ชิน" ผมเรียกคนที่ตั้งใจลอกการบ้านผมอยู่ทั้งที่ตอนแรกบอกจะให้สอนแท้ๆ
"หื้ม" เขาขานรับทั้งที่ยังจดจ่ออยู่การลอกวิชาคณิตศาสตร์
"ช่วงนี้ระวังตัวเองด้วยนะ ห้ามไปไหนคนเดียว" ผมเตือนเขาด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไงให้เขาเข้าใจ
"ทำไม" ชินเงยหน้ามาถาม
"เปล่า แค่เป็นห่วง"
ผมบอกก่อนจะทำการสอนการบ้านเขาในบางข้อที่เขาไม่เข้าใจ ผมไม่รู้ว่าทำไมแม่นมที่เลี้ยงดูชินกับโชนตั้งแต่เด็กถึงได้คิดแผนที่จะฆ่าเด็กคนนี้ได้
แต่ผมจะปกป้องเขาไม่ให้เขาต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับท้องฟ้าเด็ดขาด และตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าแม่นมนี่แหละคือคนร้ายที่ทำร้ายท้องฟ้า เพียงแต่ผมยังไม่มีหลักฐานกับเหตุจูงใจของเธอ แต่อีกไม่นานผมจะจับเธอเข้าคุกให้ได้ ด้วยน้ำมือของผมเอง
"แล้วทำไมแม่นมถึงมาดูแลพวกนายเหรอ"
"คุณป้าเนตรดาวบอกว่าเอ็นดูพวกเราเหมือนลูกเพราะคุณป้าไม่มีลูก"
แล้วไอ้ไมค์ล่ะ?
"คุณป้าลงทุนลาออกจากวงการมาดูแลพวกเราเลยนะ"
"วงการ?"
"ใช่เมื่อก่อนป้าเนตรดาวเคยเป็นดารา"
แม่นมเคยเป็นนักแสดง
ผมจัดการรีบเปิดคอมหลังจากที่ชินกลับไปแล้ว ผมพิมพ์ชื่อเนตรดาวตามด้วยคำว่าดารา ก็มีข้อมูลและรูปภาพของคุณแม่นมเมื่อสมัยตอนยังเป็นสาวขึ้นมา เธอมีผลงานละคร ภาพยนตร์เยอะมากในยุคนั้น ผมเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ก็เห็นข่าวที่ว่าเธอกลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง ข่าวมันตั้งแต่เมื่อสิบเจ็ดปีก่อน ผมกดเข้าไปดูเนื้อหาของข่าว
ในข่าวระบุว่าเธอในวัยสามสิบกลับมาแสดงละครอีกครั้งหลังจากที่หายไปอยู่ต่างประเทศนานสองปี ผมไล่สายตาอ่านเนื้อข่าวอย่างละเอียดก็พบว่าช่วงที่เธอหายไปเป็นช่วงเวลาปีที่ผมและไมค์เกิด แสดงว่าเธอเป็นแม่ของไอ้ไมค์คู่อริผมไม่ผิดแน่ และช่วงเวลาที่เธอกลับมาทำงานก็เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันที่ฝาแฝดชินและโชนเกิด รวมไปถึงท้องฟ้าด้วย ผมหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนเรียงไทม์ไลน์ตามที่คิดและกดออกไปอ่านข่าวอื่นๆ ต่อ
พอเลื่อนลงมาก็เป็นข่าวในช่วงระยะเวลาสิบเจ็ดปีก่อนเช่นเดียวกันในเนื้อหาข่าวระบุว่าเธอจะเล่นละครเรื่อง ตะวันวันไร้แสงเป็นเรื่องสุดท้าย เพราะหลังจากที่น้องสาวเพียงคนเดียวเสียชีวิต เธอก็ขออำลาวงการเพื่อไปดูแลหลานชายฝาแฝดแทนน้องสาวซึ่งฝาแฝดที่ว่าก็คือโชนและชินนั่นเอง นอกจากนั้นพอไปกดดูกระทู้เมาส์ดาราก็มีคนเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่เธอเป็นชู้กับสามีน้องสาวตัวเองซึ่งก็คือเจ้าของบ้านหลังนี้ ผู้เป็นพ่อของสองแฝด และพี่เฌอกับพี่ชูด้วย
ผมแคปหน้าจอกระทู้นั้นไว้ในเครื่องแต่ก่อนจะกดออกผมก็ดันไปเห็นคอมเม้น คอมเม้นหนึ่ง ที่บอกว่าคุณเนตรดาวอาจเป็นคนฆ่าคุณเนตรนภาน้องสาวของตัวเอง แต่ก็มีแต่คนด่าความคิดเห็นนี้ ว่าบ้าดูละครมากเกินไป บ้างก็ว่าขอให้โดนฟ้อง และบางคนก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้เพราะสองพี่น้องรักกันดี
แต่ถ้าเราตัดความเป็นไปไม่ได้ออกมันก็จะเหลือแต่ความเป็นไปได้ไม่ใช่เหรอ
มีคนแต่งตัวคล้ายจอมโจรไนท์บลูออกฆ่าคนในตอนกลางคืน....
ผมหันไปมองข่าวบนหน้าจอทีวี เมื่อรายงานข่าวว่าจอมโจรไนท์บลูฆ่าคน ทำเอาผมคิ้วขมวดเพราะปกติจอมโจรไนท์บลูมันไม่ฆ่าคน
ภาพหน้าจอฉายภาพของคนที่แต่งตัวเหมือนจอมโจรไนท์บลูกำลังใช้มีดแทงคนและวิ่งหนี ผมมองคลิปนั้นซ้ำๆ
ตัวปลอม
แค่มองก็รู้แล้วเพราะจอมโจรไนท์บลูมันตัวบางและเตี้ยกว่านี้ ดูก็รู้ว่าเป็นการแต่งตัวให้เหมือน แล้วสร้างเรื่องโยนความผิดให้จอมโจรไนท์บลู แต่ผมเชื่อว่าลูอิสและหัวหน้าต้องดูออกแน่
บ่ายวันเสาร์ผมนัดเจอลูอิสอีกครั้งเพื่อคุยเรื่องความคืบหน้าของทั้งเรื่องท้องฟ้าและเรื่องจอมโจรไนท์บลู ผมเดินเข้ามาในร้านกาแฟร้านเดิมที่นัดคุยกับพี่คัทเตอร์เมื่อวานก่อน ผมเดินไปสั่งขนมและชาโปรดของตัวเองและของลูอิสก่อนจะไปนั่งรอที่โต๊ะมุมสุดของร้าน นั่งมองนาฬิกาข้อมือตัวเองอยู่นานก็ไม่มีวี่แววว่าเพื่อนสนิทจะมาเลย ตอนแรกผมตั้งใจจะโทรไปหา เผื่อมันลืม แต่ยังไม่ทันจะได้หยิบโทรศัพท์ร่างสูงของคนที่ผมรอก็เดินเข้ามาในร้านพอดี ผมโบกมือให้มัน ลูอิสใส่ชุดเสื้อฮู้ดสีดำ กางเกงสีดำแล้วนำหมวกเสื้อฮู้ดมาคุมหัวไว้ เหมือนกลัวว่าใครจะเห็นตัวเอง
"เห็นข่าวไนท์บลูหรือยัง" ลูอิสถามผมเสียงเบาพร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามของผม
"เห็นแล้ว ดูก็รู้ว่าตัวปลอม"
"ใช่ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นตัวปลอม ส่วนตัวจริงก็อยู่อิตาลีนั่นแหละ" ลูอิสว่าตอบกลับคำถามของผมและพูดเสริมต่อ
"คนร้ายตั้งใจที่จะโยนความผิดให้ไนท์บลูสินะ"
"ใช่ แต่ไนท์บลูตัวจริง มันหายเงียบไปเลย"
"แปลก"
"ใช่ มันเงียบไปเลย หรือมันกำลังวางแผนอะไร"
ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของลูอิส มันแปลกที่จู่ๆ ตัวจริงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ตั้งแต่วันที่ผมเกือบจับตัวมันได้ จนตอนนี้ก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะโผล่มาอีกเลย กลับกันดันมีตัวปลอมโผล่ออกมาและแต่งตัวใส่หน้ากากเหมือนกับจอมโจรไนท์บลูทุกอย่าง ต่างกันตรงที่ตัวปลอมมันฆ่าคน แต่ตัวจริงมันแค่ขโมยเพชร อัญมณีแล้วโยนทิ้ง
"ส่วนเรื่องท้องฟ้า ฉันเจอสิ่งที่แกอาจจะช็อก" ไม่ว่าเปล่าลูอิสยังหยิบรูปสองใบจากกระเป๋าเสื้อฮู้ดขึ้นมาดู มันทำหน้าเหมือนกำลังลังเลว่าจะเอาให้ผมดูดีไหม
"อะไร" ผมถามเมื่อมันไม่ยอมส่งรูปนั้นมาให้ผมดูสักที และสุดท้ายมันก็ยอมยื่นรูปมาวางไว้ตรงหน้าของผม
"ดูเอาเอง"
ผมหยิบรูปสองใบขึ้นมาดูสลับกันไปมาก่อนที่คิ้วของผมตอนนี้คงจะผูกเป็นปมอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ตั้งแต่เริ่มก้าวขามาสืบเรื่องนี้ ภาพของผู้ชายสองคนที่กำลังยิ้มและจับมือกันราวกับคู่รัก ผู้ชายคนแรกเป็นเด็กม.ปลายที่ผมคุ้นหน้าดี ท้องฟ้าในชุดนักเรียนกำลังยืนยิ้มให้กับคนที่อยู่ในชุดไปรเวท คนที่ผมคุ้นหน้าไม่ต่างกัน เพราะมันคือคู่อริคนเดียวของผม
"ไอ้ไมค์กับท้องฟ้า เป็นไปได้ไง" ผมพูดชื่อของคนทั้งคู่ออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
"ไม่รู้สิ"
ลูอิสส่ายหน้าให้ผมเป็นเชิงบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน และเล่าต่อว่ามันให้ลูกน้องของมันเอารูปท้องฟ้าไปถามพิพิธภัณฑ์ที่ท้องฟ้าเคยไปบ่อยๆ เขาบอกว่าท้องฟ้ามักจะมากับผู้ชายอีกคน แล้วก่อนที่จะโดนทำร้ายประมาณสามวันก็มาที่นี่ท้องฟ้ามักจะยืนดูรูปทุกรูปอย่างพิจารณาราวกับต้องการที่จะเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งที่ศิลปินต้องการถ่ายทอดออกมาผ่านรูปภาพ และสักพักผู้ชายอีกคนก็จะเดินเข้ามาคุยด้วยอย่างสนิทสนม และคนคนนั้นก็คือไมค์ คนดูแลพิพิธภัณฑ์เห็นว่าเป็นคู่ที่น่ารักดีเลยแอบถ่ายเก็บไว้
คนร้ายก็ยังจับไม่ได้แบบคาหนังคาเขา ยังจะมีเรื่องใหม่เข้ามาอีก ในหัวผมมีแต่คำว่านี่มันอะไรกันเนี่ย ท้องฟ้ากับไมค์ไปรู้จักกันได้ยังไง จะว่าไอ้ไมค์เข้าหาท้องฟ้าเพื่อลอบกัดผมก็คงไม่ใช่ เพราะท้องฟ้าไม่เคยพูดถึงไอ้ไมค์เลย เวลาผมบ่นเรื่องไอ้ไมค์ให้ฟังท้องฟ้าก็แค่ฟังเฉยๆ เท่านั้น
หรือสองคนนี้จะแอบคบกันลับหลังผม
แล้วถ้างั้นมันตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่ผมพลาดอะไรไป หรือช่วงที่ผมไปทำภารกิจต่างประเทศจนไม่ได้มาดูแลท้องฟ้าเหรอ แต่แม่ของลูอิสก็ไม่เห็นจะเล่าให้ผมฟังว่าไอ้ไมค์มาวุ่นวาย คุณน้าบอกว่าก็เห็นท้องฟ้าตื่นเช้าไปโรงเรียน แล้วก็กลับมา ก่อนกลับก็แวะซื้อขนมหวานร้านประจำมากินทุกครั้ง แถมยังกลับบ้านตรงเวลาอีก
ไม่มีทางที่สองคนนี้จะแอบคบกันได้เลย แต่รอยยิ้มของคนทั้งคู่ในรูปกลับทำให้คำว่าเป็นไปไม่ได้ของผมมันสั่นคลอน ก็เพราะรอยยิ้มของน้องชายร่วมสาบานของผม เขาดูมีความสุขจริงๆ ตอนที่อยู่กับคู่อริของผม ในเมื่อท้องฟ้าตอบไม่ได้ ผมก็คงต้องไปคาดคั้นจากอริตัวเอง
Rrrrrr
โทรศัพท์เครื่องหรูสั่นเรียกสติให้ผมที่กำลังมองรูปท้องฟ้ากับไมค์แล้วจมกับความคิดของตัวเองให้หันไปหยิบมันขึ้นมา เป็นโจเซฟ เลขาคนสนิทของพ่อท้องฟ้าที่โทรมา ผมกดรับสายอย่างไม่ลังเล
"สวัสดีครับคุณเลขา"
ผมกรอกสายไปหาปลายสายก่อนที่คุณเลขาจะพูดด้วยน้ำเสียงแต่งตื่นทำเอาใบหน้าของผมซีดเผือดจนต้องหันไปมองเพื่อนสนิทตัวเอง
"พี่เฌอโดนไนท์บลูทำร้าย!?"
เราทั้งคู่มองกันอย่างไม่อยากจะเชื่อกับคำบอกเล่า คุณเลขาบอกโรงพยาบาลและสถานที่เกิดเหตุให้กับผม ผมรีบบอกให้ลูอิสไปสถานที่เกิดเหตุ และผมก็รีบไปที่โรงพยาบาลทันที
ผมและลูอิสคิดเหมือนกันว่าคนที่ทำร้ายพี่เฌอน่าจะเป็นจอมโจรไนท์บลูตัวปลอมไม่ผิดแน่ แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงเลือกที่จะทำร้ายตอนกลางวันแทนที่จะเป็นตอนกลางคืน หรือคุณป้าเนตรดาวจะสั่งให้คนปลอมตัวเป็นจอมโจรไนท์บลูเพื่อทำร้ายพี่เฌอ ถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่าเป้าหมายของคุณป้าเนตรดาวไม่ใช่แค่ชินอย่างที่พี่คัทเตอร์บอก
แต่เป็นปริญรัตนพงษ์ทั้งตระกูลเลยต่างหาก
สวมรอยครั้งที่ 10Shuu partผมรีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันทีที่เลขาโทรมาบอกว่าพี่เฌอโดนจอมโจรไนท์บลูที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ดักทำร้าย พอวิ่งเข้ามาก็เห็นว่าคุณเลขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับท้องฟ้าตัวปลอมอยู่หน้าห้องทั้งคู่แสดงสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด"พี่เฌอเป็นไงบ้างครับ" ผมวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณเลขา"หมอยังไม่ออกมาครับ""ฝีมือนายใช่ไหม" ผมหันไปมองคนที่ยืนก้มหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว"เกี่ยวอะไรกับผม" ท้องฟ้าถามขึ้นมา"ก็นายร่วมมือกับไอ้เหี้ยนั่นไง"ผมบีบแขนทั้งสองข้างของเขาแล้วจ้องมองด้วยความรู้สึกโกรธ ผมคิดว่าวันนั้นเขาต้องไปคุยกับแฟนโมบีแล้วร่วมมือกันมาทำร้ายพี่เฌอแน่ เพราะผมจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นพูดว่าจะทำให้ครอบครัวของผมได้รับรู้ถึงการสูญเสีย"อะไรของพี่" ท้องฟ้าสะบัดมือผมออก"คุณชู คุณท้องฟ้าครับ นี่โรงพยาบาลนะครับ" โจเซฟเดินมายืนกั้นระหว่างเราทั้งคู่ ผมกับท้องฟ้าต่างสะบัดหน้าหนีไม่มองหน้ากัน เพราะเกรงว่าถ้าเห็นหน้ากันคว
สวมรอยครั้งที่ 11Seiya partเพราะวันนี้โชนไม่สบายเลยไม่ได้มาโรงเรียน ผมกับชินเลยมาเรียนกันสองคน ถึงใจผมจะไม่อยากมาก็เถอะ ตอนนี้อยากไปสืบเรื่องจอมโจรไนท์บลูใจจะขาด วันนี้ทั้งวันผมเอาแต่คิดเรื่องของมันส่วนชินก็ดููปกติ อาจจะเป็นเพราะเขายังไม่รู้เรื่องพี่เฌอ เนื่องจากพี่ชูสั่งห้ามทุกคนไม่ให้พูดถึงเรื่องพี่เฌอ เพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ไม่อยากให้โชนกับชินมาเครียดด้วยผมหันไปมองชินที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างไม่สนใจใคร จนกระทั่งรถตู้ของที่บ้านขับมาจอดอยู่ที่หน้าตึกเรียนของพวกเราชินถึงได้เงยหน้าแล้วยันตัวลุกขึ้นจากบันได"เชิญครับคุณหนู"คนขับรถพูดขึ้นหลังจากที่เดินมาเลื่อนประตูให้กับพวกเรา แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนเสียงมันถูกส่งผ่านเครื่องแปลงเสียงจัง"คุณลุงไม่สบายเหรอครับ ทำไมใส่แมส"ชินเองก็ถามอย่างแปลกใจเพราะวันนี้คนขับรถดูแปลกตาไปนิดหน่อย แถมยังใส่หมวกปิดแมสอีก ที่สำคัญเอาแต่เงียบและก้ม
SPE. Cutter x Chin Ep.1Chin part"นายบอกให้รีบจัดการ""รู้แล้ว ให้เด็กมันตื่นก่อนสิ""จะทำอะไรก็รีบทำ"เสียงใครกัน?ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกปวดหนึบที่หัวเหมือนมีใครมาบีบเส้นประสาทจนต้องปิดตาไปอีกครั้ง และเริ่มลืมตาขึ้นมาใหม่ปรับโฟกัสสายตาไม่นานก่อนจะพบกับ บรรยากาศรอบข้างที่มืดสนิท ตรงหน้าผมมีชายร่างสูงผมยาวสีควันบุหรี่กำลังยืนคุยกับร่างหนาผิวเข้มหน้าตาดูดุ ข้างตัวเขามีถังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นถังน้ำมัน เพราะกลิ่นของน้ำมันเครื่องมันลอยมาเตะจมูกผมสายตาของผมเริ่มมองสำรวจบริเวณโดยรอบ มันเป็นป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดผมนอนอยู่บนรถของที่บ้านไม่ใช่เหรอแขนของผมถูกมัดไว้ข้างหลังและถูกบังคับให้นั่งอยู่บนก้อนหิน ผมหันหน้ากลับมามองผู้ชายสองคนที่กำลังยืนเถียงกันอีกครั้ง ผมเพิ่งสังเกตว่าคนหน้าดูแต่
SPE. cutter x chin Ep.2Chin part"นายหัวภู" ไอ้โรคจิตมันเรียกชื่อเจ้าของเกาะเสียงสั่นใบหน้าเริ่มฉายแววหวาดกลัว"มึงทำอะไรไอ้จักร" นายหัวภูถามเสียงเหี้ยม ไอ้โรคจิตที่ชื่อจักรมันก็รีบคุกเข่าแสร้งทำตัวหดแล้วพนมมือขอโทษไปทางนายหัวของเกาะทั้งที่สภาพร่างกายยังเปลือยเปล่า"ไอ้หมอนั่นมันจะทำร้ายฉันนายหัว มันโยนทรายใส่ฉันด้วยดูสิ" มันโยนความผิดทุกอย่างมาใส่ผมพร้อมกับชี้หน้าตัวเองที่มีทรายเลอะอยู่จากการโดนผมขว้างทรายใส่ ส่วนพี่คัทเตอร์ก็หันมามองผมสายตาเขายังดูดุและน่ากลัวเหมือนเดิม"ข เขาจะข่มขืนผม" ผมพูดเสียงสั่นและเบาก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขาทั้งที่ตัวเองกำลังสั่นด้วยความรู้สึกกลัวอยู่"ผมฝากนายหัวจัดการด้วยนะครับ ส่วนนายมานี่""มึงจะพาเมียกูไปไหน โอ้ย"พี่คัทเตอร์เตรียมจะลากผมกลับไปที่บ้านแล้วแต่จักรมันก็ไม่ยอม พุ่งตัวจะมากระชากแขนผมจนโดนพี่คัทเตอร์เตะกระเด็นไปกองกับ
สวมรอยครั้งที่ 12Shuu partหลังจากพาชินไปตรวจร่างกาย หมอบอกว่าปกติดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผมจะพาน้องไปเยี่ยมพี่เฌอแล้ว แต่ชินก็เอาแต่ร้องไห้อยากกลับบ้าน ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะสภาพจิตใจน้องตอนนี้น่าจะยังไม่พร้อมที่จะเจอใครก็ได้ ผมพยุงตัวชินเดินเข้ามาในบ้าน แม่นมก็วิ่งออกมารับด้วยความเป็นห่วงทันที ผมมองภาพแม่นมที่ทั้งกอดและพูดปลอบชินอย่างเป็นห่วง กลับกันโชนที่เป็นพี่ชายฝาแฝดกลับยืนมองเฉยๆ จนผมแอบสงสัย แต่ก็คิดว่าโชนคงเป็นประเภทที่แสดงออกไม่เก่งละมั้ง เลยไม่ได้ถามไถ่อะไรชิน"ช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ฟังได้ไหม" ผมถามชินเมื่อเห็นว่าตอนนี้ชินหยุดร้องไห้แล้ว ชินแสดงสีหน้าเศร้าจนผมรู้สึกผิด"เขาชื่อเซย์ยะครับ ท้องฟ้าจ้างให้เขามาหลอกพวกเรา เพราะหวังสมบัติ แล้วก็คิดที่จะฆ่าพวกเราครับ" ชินเล่าให้พวกเราฟังเสียงสั่นจนแม่นมต้องโอบไหล่เพื่อเป็นการปลอบประโลม"แล้วเรารอดมาได้ยังไง""ผมไม่รู้ครับ เขาฟาดหัวผมแล้วเอาผมไปทิ้งในป่า" คำตอบของชินท
สวมรอยครั้งที่ 13Seiya partสามวันแล้วที่ผมอยู่ในสถานะนักโทษ?ผมไม่รู้จะนิยามสถานะตัวเองตอนนี้ยังไง หลังจากวันที่พวกเราทะเลาะกันจนผมเกือบลงมือฆ่าเขา ผมจำได้ว่าตัวเองร้องไห้อย่างหนักตอนที่ได้สติก่อนจะหลับไป พอฟื้นขึ้นมาก็ถูกมัดไว้ที่เก้าอี้เหมือนเดิม แต่คราวนี้เชือกที่มัดผมเปลี่ยนเป็นโซ่แทน ไฟที่กะพริบจนทำให้ผมปวดตาก็ถูกเปลี่ยนใหม่โดยคนที่ยั่วโมโหผมผมไม่เข้าใจการกระทำของคนที่จับผมสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่เขาเข้ามายั่วโมโหผม แล้วปลอบผมตอนร้องไห้เขาก็ทำตัวปกติ แถมไม่ได้เค้นข้อมูลอะไรเลยสายตาของผมเริ่มมองสำรวจห้องมืดที่ว่างเปล่า มันโล่งเกินกว่าจะเป็นห้องเก็บของด้วยซ้ำ ราวกับเป็นห้องที่ไม่ได้ใช้มานานแล้วแกร็กประตูถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงของพี่ชู ที่มักจะเดินเข้ามาเพื่อเอาข้าวมาให้ผมเหมือนกับทุกครั้ง"มีอะไรจะพูดกับผมหรือไง" ผมถามคนที่เพิ่งจะวางข้าวไว้บนลังไม้"เปล่า" เขาปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง ทั้งที่ใบหน้าแสดงออกชัดว่าเขามีอะไรในใจ"จะก
สวมรอยครั้งที่ 01seiya partสายลับผู้ไร้เทียมทานนั่นคือฉายาของผม ฉายาที่ใครต่อใครต่างเรียกผมแบบนั้น แรกๆ มันเป็นฉายาที่น่าภูมิใจนะ สำหรับผม แต่พอหันหลังกลับไปผมถึงพบว่า คำว่าไร้เทียมทานมันแลกมาด้วยความเหงา และความโดดเดี่ยวเพราะคำคำนี้มันเหมือนเป็นตัวยืนยันคุณภาพงานของผม แค่มีผมทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ ผมไม่เคยทำภารกิจพลาดเลยสักครั้งตั้งแต่มาเป็นสายลับ และไม่เคยร้องขอให้ใครมาช่วย ผมจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวเสมอปัง!ผมยิงเหนี่ยวไกใส่จอมโจรชุดสีดำรัตติกาลที่กำลังวิ่งอยู่บนโถงทางเดินของโรงแรมหรูที่ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงอัญมณีล้ำค่าจากหลากหลายประเทศคนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีดำเข้มหันมายิงปืนไพ่ใส่ผมที่กำลังวิ่งตามมัน แต่ผมก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้จู่ๆ ก็เกิดควันสีชมพูกระจายทั่วโถงทางเดิน ผมรีบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นมาปิดจมูกมันคือควันยาสลบ หนึ่งในกลอุบายที่จอมโจรในชุดคลุมสีดำใช้“จอมโจรไนท์บลูอยู่ตรงนั้น”เสียงทุ้มของหนึ่งในลูกน้องของผมดังขึ้นในตอนที่ จอมโจรไนท์บลู อาชญากรที่เลวร้ายที่สุดในมิลาน ณ เวลานี้ กำลังวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า มันมักจะออกปล้นร้านเพชรในช่วงเวลากลางคืนด้วยชุดคลุ
สวมรอยครั้งที่ 02Shuu partเสียดายความรู้สึกแรกที่ตื่นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ผมกำลังรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำความรู้จักกับเขามากกว่าการมีเซ็กส์ เพราะตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่อยู่ในโรงแรมแล้ว อุตส่าห์เจอคนถูกใจตรงสเปกทุกอย่าง แถมรสนิยมเซ็กส์ของเขาก็น่าสนใจจนทำผมคลั่งทั้งคืน แต่กลับไม่มีโอกาสได้สานต่อ พอยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายผมเก็บของเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมและจากนั้นผมมักไปที่ผับเดิมตลอดสองอาทิตย์เพื่อหวังว่าจะเจอเขา แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า เขาไม่ได้กลับมาที่ผับนี้อีกเลย แม้แต่คนตัวสูงอีกคนที่ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนเขาผมก็ไม่เห็นแม้แต่เงา สุดท้ายก็จนปัญญาและจบที่นั่งกินเหล้าคนเดียวเหงาๆ เหมือนกับทุกวันและเพราะถูกเรียกตัวให้กลับประเทศไทยด่วนผมจึงไม่มีโอกาสได้ตามหาตัวเขาต่อ มันยิ่งทำให้รู้สึกเสียดายยิ่งกว่าเดิมอีก“ถึงบ้านแล้วครับคุณชาย”เสียงของเลขาส่วนตัวที่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับคุณชายคนกลางของบ้านพูดขึ้นมา ทำให้ผมที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ที่เบาะหลังต้องยันตัวลุกขึ้นก่อนจะสะบัดหัวไปมาไล่ความมึนงงในหัวของตัวเองออกไป ผมอุตส่าห์ดื่มเหล้าแล้วบอกว่าแฮงค์จะได้ไม่ต้องมาบ้านหลังนี้ แต่สุดท้ายก
สวมรอยครั้งที่ 13Seiya partสามวันแล้วที่ผมอยู่ในสถานะนักโทษ?ผมไม่รู้จะนิยามสถานะตัวเองตอนนี้ยังไง หลังจากวันที่พวกเราทะเลาะกันจนผมเกือบลงมือฆ่าเขา ผมจำได้ว่าตัวเองร้องไห้อย่างหนักตอนที่ได้สติก่อนจะหลับไป พอฟื้นขึ้นมาก็ถูกมัดไว้ที่เก้าอี้เหมือนเดิม แต่คราวนี้เชือกที่มัดผมเปลี่ยนเป็นโซ่แทน ไฟที่กะพริบจนทำให้ผมปวดตาก็ถูกเปลี่ยนใหม่โดยคนที่ยั่วโมโหผมผมไม่เข้าใจการกระทำของคนที่จับผมสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่เขาเข้ามายั่วโมโหผม แล้วปลอบผมตอนร้องไห้เขาก็ทำตัวปกติ แถมไม่ได้เค้นข้อมูลอะไรเลยสายตาของผมเริ่มมองสำรวจห้องมืดที่ว่างเปล่า มันโล่งเกินกว่าจะเป็นห้องเก็บของด้วยซ้ำ ราวกับเป็นห้องที่ไม่ได้ใช้มานานแล้วแกร็กประตูถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงของพี่ชู ที่มักจะเดินเข้ามาเพื่อเอาข้าวมาให้ผมเหมือนกับทุกครั้ง"มีอะไรจะพูดกับผมหรือไง" ผมถามคนที่เพิ่งจะวางข้าวไว้บนลังไม้"เปล่า" เขาปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง ทั้งที่ใบหน้าแสดงออกชัดว่าเขามีอะไรในใจ"จะก
สวมรอยครั้งที่ 12Shuu partหลังจากพาชินไปตรวจร่างกาย หมอบอกว่าปกติดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผมจะพาน้องไปเยี่ยมพี่เฌอแล้ว แต่ชินก็เอาแต่ร้องไห้อยากกลับบ้าน ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะสภาพจิตใจน้องตอนนี้น่าจะยังไม่พร้อมที่จะเจอใครก็ได้ ผมพยุงตัวชินเดินเข้ามาในบ้าน แม่นมก็วิ่งออกมารับด้วยความเป็นห่วงทันที ผมมองภาพแม่นมที่ทั้งกอดและพูดปลอบชินอย่างเป็นห่วง กลับกันโชนที่เป็นพี่ชายฝาแฝดกลับยืนมองเฉยๆ จนผมแอบสงสัย แต่ก็คิดว่าโชนคงเป็นประเภทที่แสดงออกไม่เก่งละมั้ง เลยไม่ได้ถามไถ่อะไรชิน"ช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ฟังได้ไหม" ผมถามชินเมื่อเห็นว่าตอนนี้ชินหยุดร้องไห้แล้ว ชินแสดงสีหน้าเศร้าจนผมรู้สึกผิด"เขาชื่อเซย์ยะครับ ท้องฟ้าจ้างให้เขามาหลอกพวกเรา เพราะหวังสมบัติ แล้วก็คิดที่จะฆ่าพวกเราครับ" ชินเล่าให้พวกเราฟังเสียงสั่นจนแม่นมต้องโอบไหล่เพื่อเป็นการปลอบประโลม"แล้วเรารอดมาได้ยังไง""ผมไม่รู้ครับ เขาฟาดหัวผมแล้วเอาผมไปทิ้งในป่า" คำตอบของชินท
SPE. cutter x chin Ep.2Chin part"นายหัวภู" ไอ้โรคจิตมันเรียกชื่อเจ้าของเกาะเสียงสั่นใบหน้าเริ่มฉายแววหวาดกลัว"มึงทำอะไรไอ้จักร" นายหัวภูถามเสียงเหี้ยม ไอ้โรคจิตที่ชื่อจักรมันก็รีบคุกเข่าแสร้งทำตัวหดแล้วพนมมือขอโทษไปทางนายหัวของเกาะทั้งที่สภาพร่างกายยังเปลือยเปล่า"ไอ้หมอนั่นมันจะทำร้ายฉันนายหัว มันโยนทรายใส่ฉันด้วยดูสิ" มันโยนความผิดทุกอย่างมาใส่ผมพร้อมกับชี้หน้าตัวเองที่มีทรายเลอะอยู่จากการโดนผมขว้างทรายใส่ ส่วนพี่คัทเตอร์ก็หันมามองผมสายตาเขายังดูดุและน่ากลัวเหมือนเดิม"ข เขาจะข่มขืนผม" ผมพูดเสียงสั่นและเบาก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขาทั้งที่ตัวเองกำลังสั่นด้วยความรู้สึกกลัวอยู่"ผมฝากนายหัวจัดการด้วยนะครับ ส่วนนายมานี่""มึงจะพาเมียกูไปไหน โอ้ย"พี่คัทเตอร์เตรียมจะลากผมกลับไปที่บ้านแล้วแต่จักรมันก็ไม่ยอม พุ่งตัวจะมากระชากแขนผมจนโดนพี่คัทเตอร์เตะกระเด็นไปกองกับ
SPE. Cutter x Chin Ep.1Chin part"นายบอกให้รีบจัดการ""รู้แล้ว ให้เด็กมันตื่นก่อนสิ""จะทำอะไรก็รีบทำ"เสียงใครกัน?ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกปวดหนึบที่หัวเหมือนมีใครมาบีบเส้นประสาทจนต้องปิดตาไปอีกครั้ง และเริ่มลืมตาขึ้นมาใหม่ปรับโฟกัสสายตาไม่นานก่อนจะพบกับ บรรยากาศรอบข้างที่มืดสนิท ตรงหน้าผมมีชายร่างสูงผมยาวสีควันบุหรี่กำลังยืนคุยกับร่างหนาผิวเข้มหน้าตาดูดุ ข้างตัวเขามีถังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นถังน้ำมัน เพราะกลิ่นของน้ำมันเครื่องมันลอยมาเตะจมูกผมสายตาของผมเริ่มมองสำรวจบริเวณโดยรอบ มันเป็นป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดผมนอนอยู่บนรถของที่บ้านไม่ใช่เหรอแขนของผมถูกมัดไว้ข้างหลังและถูกบังคับให้นั่งอยู่บนก้อนหิน ผมหันหน้ากลับมามองผู้ชายสองคนที่กำลังยืนเถียงกันอีกครั้ง ผมเพิ่งสังเกตว่าคนหน้าดูแต่
สวมรอยครั้งที่ 11Seiya partเพราะวันนี้โชนไม่สบายเลยไม่ได้มาโรงเรียน ผมกับชินเลยมาเรียนกันสองคน ถึงใจผมจะไม่อยากมาก็เถอะ ตอนนี้อยากไปสืบเรื่องจอมโจรไนท์บลูใจจะขาด วันนี้ทั้งวันผมเอาแต่คิดเรื่องของมันส่วนชินก็ดููปกติ อาจจะเป็นเพราะเขายังไม่รู้เรื่องพี่เฌอ เนื่องจากพี่ชูสั่งห้ามทุกคนไม่ให้พูดถึงเรื่องพี่เฌอ เพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ไม่อยากให้โชนกับชินมาเครียดด้วยผมหันไปมองชินที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างไม่สนใจใคร จนกระทั่งรถตู้ของที่บ้านขับมาจอดอยู่ที่หน้าตึกเรียนของพวกเราชินถึงได้เงยหน้าแล้วยันตัวลุกขึ้นจากบันได"เชิญครับคุณหนู"คนขับรถพูดขึ้นหลังจากที่เดินมาเลื่อนประตูให้กับพวกเรา แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนเสียงมันถูกส่งผ่านเครื่องแปลงเสียงจัง"คุณลุงไม่สบายเหรอครับ ทำไมใส่แมส"ชินเองก็ถามอย่างแปลกใจเพราะวันนี้คนขับรถดูแปลกตาไปนิดหน่อย แถมยังใส่หมวกปิดแมสอีก ที่สำคัญเอาแต่เงียบและก้ม
สวมรอยครั้งที่ 10Shuu partผมรีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันทีที่เลขาโทรมาบอกว่าพี่เฌอโดนจอมโจรไนท์บลูที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ดักทำร้าย พอวิ่งเข้ามาก็เห็นว่าคุณเลขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับท้องฟ้าตัวปลอมอยู่หน้าห้องทั้งคู่แสดงสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด"พี่เฌอเป็นไงบ้างครับ" ผมวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณเลขา"หมอยังไม่ออกมาครับ""ฝีมือนายใช่ไหม" ผมหันไปมองคนที่ยืนก้มหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว"เกี่ยวอะไรกับผม" ท้องฟ้าถามขึ้นมา"ก็นายร่วมมือกับไอ้เหี้ยนั่นไง"ผมบีบแขนทั้งสองข้างของเขาแล้วจ้องมองด้วยความรู้สึกโกรธ ผมคิดว่าวันนั้นเขาต้องไปคุยกับแฟนโมบีแล้วร่วมมือกันมาทำร้ายพี่เฌอแน่ เพราะผมจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นพูดว่าจะทำให้ครอบครัวของผมได้รับรู้ถึงการสูญเสีย"อะไรของพี่" ท้องฟ้าสะบัดมือผมออก"คุณชู คุณท้องฟ้าครับ นี่โรงพยาบาลนะครับ" โจเซฟเดินมายืนกั้นระหว่างเราทั้งคู่ ผมกับท้องฟ้าต่างสะบัดหน้าหนีไม่มองหน้ากัน เพราะเกรงว่าถ้าเห็นหน้ากันคว
สวมรอยครั้งที่ 09Seiya part"เล่าให้ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"ผมหลุบตาหลบสายตาที่กำลังจ้องมองเหมือนต้องการคาดคั้นผมอยู่ ดูเหมือนว่าผมจะเผลอแสดงทั้งด้านมืดและด้านที่อ่อนแอให้คนที่เกลียดผมเห็นซะแล้วสิ ผมถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงสภาพตัวเองที่ฟิวขาดมือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองอย่างคนคิดหนักแต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจจะเล่าให้เขาฟัง"พวกนั้นมันเข้ามาทำร้ายผมครับ ผมก็เลยป้องกันตัว" ผมบอกและผมรู้ดีว่าต่อให้ไม่ได้เงยหน้าไปมอง ผมก็รู้ว่าเขากำลังจ้องหน้าผมด้วยความสงสัยอยู่"แต่ผมควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เวลาที่ต่อสู้ เหมือนร่างกายมันจะสู้ไปเรื่อยๆ จนกว่าคู่ต่อสู้จะตาย หรือผมจะสลบไป" ผมเล่าให้เขาฟังต่อ มันเป็นความจริงที่ว่าผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ถ้าฟิวขาด อย่างตอนที่ผมต่อยกับพวกสายลับปลายแถวจนโดนพักงาน ถ้าไม่มีคนมาห้าม ผมก็คงต่อยพวกมันปางตายไปแล้วรวมถึงเมื่อตอนเย็นที่มีคนมาหาเรื่องผมก็ด้วย ผมต่อยและสู้กับพวกมัน ยิ่งเห็นว่าพวกมันเก่งผมยิ่งเหมือนคนที่เสีย
สวมรอยครั้งที่ 08Shuu partสองอาทิตย์แล้วที่ท้องฟ้าตัวปลอมมาอยู่ที่นี่ แต่กลับไม่ทำอะไรเลยนอกจากใช้ชีวิตปกติ ปกติแบบที่ไม่ทำอะไรน่าสงสัยเลยนอกจากการติดกล้องที่ห้องตัวเอง ราวกับว่ามีของสำคัญอยู่ในนั้น และกลัวว่ามีใครจะมาเอาไปในตอนแรกผมคิดว่าเขาอาจจะเป็นมิจฉาชีพ แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่ ถ้าจุดประสงค์ของเขาคือการสวมรอยเป็นท้องฟ้าเพื่อขโมยของ เขาคงทำไปนานแล้ว ไม่ปล่อยเวลามานานขนาดนี้หรอกRrrrrrนักสืบ"สวัสดีครับ"(สวัสดีครับคุณชู ผมเจอข้อมูลที่แปลกมาก เดี๋ยวผมส่งไปให้ดูทางเมลนะครับ)"ขอบคุณครับ"ผมกดตัดสายจากนักสืบแล้วจัดการเปิดคอมขึ้นเพื่อเข้าระบบเมลตัวเองไม่ใช่เมลบริษัท รอไม่นานนักสืบก็ส่งข้อมูลมาให้ผม มันเป็นข้อมูลของคนสองคน คนแรกคือท้องฟ้าตัวปลอม ผมไล่อ่านข้อมูลดูมันมีข้อมูลประวัติของเขาขึ้นมา ทั้งหมดสามชื่อชื่อแรก เจย์เลน วิโทรี่ นักฆ่าของแก๊ง มังกรสีนิล ผู้มีอิทธิพลในภาคใต้ ที่ถูกรัฐบาลกวาดล้างไปเมื่อสามปีก่อน
สวมรอยครั้งที่07Seiya partบรรยากาศในรถอึดอัดจนน่าขนลุก ทั้งที่เขาเป็นคนบอกผมว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ตัวเองกลับเอาแต่นั่งเงียบตลอดทางแถมทำหน้านิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์ไม่ถูกอีกในใจเขาคงมีคำถามว่าทำไมผมถึงไปอยู่ในผับจนเกือบโดนผู้ชายตัวใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นคนรู้จักของพี่ชูลากเข้าโรงแรมได้ ก็คงต้องย้อนไปประมาณสักห้าชั่วโมงก่อนผมได้รับโทรศัพท์จากลูอิสเกี่ยวกับภารกิจสำคัญที่ลูอิสรับเอาไว้ แต่จอมโจรไนท์บลูมันดันออกมาเสียก่อน ลูอิสจึงขอร้องให้ผมมาทำภารกิจนี้แทนหนึ่งวัน จะให้ผมไปจับจอมโจรไนท์บลูแทนก็กลัวว่าผมจะถูกหัวหน้าและคนในองค์กรจับได้ว่าแอบมาปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่โดนพักงานอยู่ แล้วผมอาจจะซวยจนโดนไล่ออกผมจึงต้องจำใจแอบออกจากบ้านมาปลอมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ เพื่อหาตัวเป้าหมายให้ลูอิส มันเป็นแค่ภารกิจจับชู้ธรรมดานั่นแหละ ปกติลูอิสมันคงไม่รับหรอก แต่คงเพราะเงินหนามันถึงได้ยอมรับ แต่คอยดูเถอะถ้าภารกิจสำเร็จผมทวงส่วนแบ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่"ไปต่อกันไหมครับ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่ผ