“โถ่โว้ย” หมวดตะวันลุกขึ้นอาละวาดอยู่ในห้องสอบสวน ดวงตาคมแดงก่ำ กัดฟันกรอด นี่เขากำลังจะหมดอำนาจในมือจริงๆ หรือ เพียงแค่อยากร่วมมือกับภรรยากลั่นแกล้งไร่ของปารวี เป็นเหตุบานปลายถึงขั้นถูกสาวไส้คดีของเขาจนเบื้องสูงรับรู้ เขาประมาทพวกมันเกินไปจริงๆ
กลับออกจากโรงพยาบาลในช่วงบ่ายปารวีก็ขับรถแวะเข้าไปที่บ้านของไก่หวานตามนัดของเพื่อนๆ รถเก๋งสีขาวเข้ามาจอดในรั้วบ้านจัดสรรค์ที่อยู่ด้านในสุดของโครงการ ปารวีพอดับเครื่องยนต์ได้ก็เห็นเพื่อนๆ ทั้งสามออกมายืนรอกันที่หน้าประตูบ้านเรียบร้อยแล้ว
“ได้ข่าวว่าหมวดตะวันถูกตำรวจรวบไปแล้วจริงไหม แล้วแกว่ามันจะรอดอีกรึเปล่า” คำถามแรกจากมุขรินทร์เอ่ยขึ้นตั้งแต่ปารวียังไม่ทันที่จะได้ถอดรองเท้าเสร็จเรียบร้อย
“จริง มาคุยกันข้างใน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทุกอย่างเลย” ปารวีเดินผ่านหน้าเพื่อนทั้งสามเข้าไปยังห้องนั่งเล่น พอทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาสีแดงราคาแพงของไก่หวานได้ เพื่อนทั้งสามก็นั่งเรียงหน้ากระดานมองจ้องมายังเธอกันตาไม่กระพริบ และแล้วปารวีก็ได้เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้เพื่อนๆ ของเธอได้ฟังในรวดเดียวจนจบด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เพราะงานนี้สามีของเธอดูเป็นฮีโร่ที่สุด
“ฉันว่าแล้วเชียวจะต้องเป็นยัยพิ้งค์กี้” มุขรินทร์ตบเข่าฉาด เธอคิดเอาไว้แล้วไม่มีผิด
“คงเห็นว่าทั่งพ่อทั้งผัวตัวเองใหญ่มากมั้ง คิดจะทำอะไรกับใครก็ได้” อารยาส่ายหัวน้อยๆ ทว่าตอนนี้พันแพรวาก็จะได้รู้เสียทีว่าไม่มีใครใหญ่โตเกินกฎหมาย
“ขี้อิจฉาไม่พอ ยังทำตัวเป็นหมาลอบกัดอีก” ไก่หวานกอดอกพ่นเสียงแข็ง แต่ก็สาแก่ใจที่พันแพรวาและหมวดตะวันถูกดำเนินคดีจนได้
“ฉันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเลยคอยดู” แววตาของปารวีฉายแววโกรธเคือง แค่ทำกับไร่ของเธอยังไม่พอ ยังมาทำให้พ่อของเธอบาดเจ็บจนต้องนอนอยู่โรงพยาบาลอีก ถึงเธอจะเป็นคนขี้สงสารและเห็นใจเพื่อนร่วมโลกมากเพียงใด ทว่าคนอย่างพันแพรวาและหมวดตะวันก็เป็นคนที่ไม่น่าให้อภัยเป็นที่สุด และหวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้สองคนนั้นก็คงจะไม่กล้ามายุ่งอะไรกับเธออีก
“เรื่องนี้ก็จบไปซะทีนะ ตอนนี้ได้เวลาที่ฉันจะคุยกับแกแล้วยัยเพิร์ล” ไก่หวานเห็นมุขรินทร์ซักถามปารวีจนรับรู้เรื่องราวทุกอย่างพอใจแล้ว คราวนี้ก็เป็นตาของเธอถามมุขรินทร์ถึงเรื่องที่คาใจบ้าง
“คุยไร” มุขรินทร์หันขวับมองจ้องหน้าไก่หวานด้วยแววตาฉงน เรื่องของเธอมีอะไรที่จะต้องคุย
“ไปเที่ยวที่โน่นตั้งหลายวัน ไปเจอใครบ้างรึเปล่า”
“ถามทำไมอะ” มุขรินทร์เริ่มอึกอัก มีสายตาล่อกแล่ก
“ก็ปกติแกต้องกลับมาเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวให้พวกฉันฟัง แต่นี่กลับมาก็ไม่เคยเล่า พอถามถึงตอนที่อยู่ที่โน่นก็พยายามทำเลี่ยงไม่ยอมตอบ ฉันเป็นเพื่อนกับแกมาตั้งกี่ปีมีหรือจะเดาไม่ออกว่ามันมีอะไรแปลกไป” ไก่หวานหลี่สายตามองมุขรินทร์ที่กำลังหลบสายตาของเธอไม่วางตา ยิ่งเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งรู้ได้เลยว่ามุขรินทร์ต้องมีอะไรปิดบังอยู่แน่ๆ
“ฉันไม่มีอะไรจะเล่า”
“ฉันถามแกก็ได้ลูกปลา” เมื่อถามเจ้าตัวไม่ได้ก็ต้องหันมาหาคนที่เดินทางไปด้วยกัน
“ห้ามพูดนะ” มุขรินทร์รีบพุ่งตัวเข้ามาส่ายหัวพัลวันต่อหน้าปารวี
“ฉันยังไม่ได้คิดจะพูดอะไรเลย” ปารวีอมยิ้มขบขันกับพฤติกรรมร้อนตัวของมุขรินทร์
“นี่ไง แกมันร้อนตัว” ไก่หวานลุกขึ้นไปนั่งอยู่ข้างกับปารวี และยังคงจ้องหน้ามุขรินทร์อยู่ตลอด
“ถ้าแกถามฉันอีกฉันจะเรียกแกว่าโต้งลูกตาต๋อย”
“อ๊าย...เดี๋ยวตบปากแตก”
“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เล่าไปเถอะน่าเพิร์ล เพราะฉันคิดว่ายังไงแกก็ต้องเล่าสักวัน เพราะฉันรู้มาว่าอีกไม่นานคุณแอลจะบินมาหาแกที่นี่” ปารวีพูดสิ่งที่รับรู้จากราเดนให้มุขรินทร์ได้ฟัง ทำเอาคนที่ยังเคืองใจซีโวลอดไม่หายถึงกับหน้าบึ้งตึงกะทันหัน
“แอลคือใคร ใครคือแอล พูดมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างงั้นฉันไม่ยอมให้แกกลับบ้านแน่” ไก่หวานเค้นมุขรินทร์หนัก
“อยากฟังเหมือนกัน” อารยาเข้ามาเกาะแขนไก่หวาน อยากรู้อยากเห็นเรื่องของเพื่อนเหมือนกัน
“เฮ้อ...” มุขรินทร์นั่งถอนหายใจอ่อน และแล้วเธอก็ต้องจำยอมเล่าเรื่องที่เธอไปอยู่บ้านซีโวลอดหลายวัน เพราะถูกเขาหลอกว่าเครื่องบินที่จะพาเธอกลับบ้านยังซ่อมไม่เสร็จ
“โห เท่าที่แกเล่ามาเค้าก็ดีกับแกทุกอย่างเลยนะ แล้วเค้าจะโกหกแกไปทำไมอะ” อารยายังไม่เข้าใจเรื่องราวเท่าไรว่าซีโวลอดทำเช่นนั้นไปทำไม หรือว่าผู้ชายคนนั้นชอบเพื่อนของเธอ
“คงเห็นฉันเป็นคนเอเชีย น่าจะเห็นฉันเป็นตัวตลกมั้ง”
ปารวีรีบส่ายหัวให้กับสิ่งที่มุขรินทร์คิด “ฉันคุยกับพี่เรแล้ว แล้วก็คิดว่าคุณแอลชอบแก เลยอยากให้แกอยู่ด้วยนานๆ”
“ชอบฉัน!”
“อืม”
“ฉันก็คิดอย่างงั้นนะ แล้วเค้าหล่อมากไหม รวยมากเปล่า” อารยาเห็นด้วยกับสิ่งที่ปารวีคิด
“รวยมาก แต่หล่อมากไหมพวกแกตัดสินเอา” ปารวีเปิดรูปภาพของซีโวลอดในโซเชียลมีเดียของชายหนุ่มให้อารยากับไก่หวานได้ดู แล้วคนที่ดูจะตาลุกวาวที่สุดก็เห็นจะเป็นไก่หวาน
“โห ถ้าเค้ามาขอแกเป็นแฟนยอมรับไปเลย”
“ไม่อะ ฉันไม่ชอบคนโกหก” มุขรินทร์ยังคงนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับ เธอเสียความรู้สึกกับซีโวลอดไปมากจริงๆ
“โอ้ย...ถ้าเป็นฉัน ชอบไม่ชอบ หล่อรวยขนาดนี้ฉันคบไปก่อนย่ะ ฉันจะสูบเงินให้ตั้งตัวได้เลยล่ะ เรื่องเข้ากันได้ไหมค่อยว่ากันอีกที” ไก่หวานรู้มาตลอดว่ามุขรินทร์ไม่ชอบคนโกหก แล้วการที่ซีโวลอดเสี่ยงตายเพื่อช่วยชีวิตนั้นไม่ได้ทำให้เพื่อนเธอเห็นความดีของเขาบ้างเลยหรือไง“ฉันไม่ใช่แกนี่” มุขรินทร์นั่งหน้ามุ่ย ก้มหน้างุดไม่ยอมสบตาเพื่อนๆ จะว่าเธอไม่เห็นความดีของซีโวลอดสักนิดก็ไม่ใช่ ทว่าเธอไม่ชอบการโกหกเป็นที่สุด มันผิดด้วยหรือที่เธอจะโกรธเขา อุตส่าห์ไม่อยากจะต้องพูดถึงเขาแล้วเชียวแต่ก็ต้องพูดขึ้นมาจนได้ ไม่น่ามานั่งอยู่ตรงนี้เลยจริงๆหญิงสาวในเดรสชุดนอนสีชมพูหวานนั่งกอดเข่ามองท้องฟ้าในคืนเดือนหงาย ยิ่งมองไร่องุ่นที่ถูกไฟไหม้อยู่ไกลๆ เธอก็อดที่จะน้ำตาไหลอีกครั้งไม่ได้ แต่หัวใจของเธอก็เข้มแข็งกว่าวันที่มาเห็นไร่หลังจากถูกไฟไหม้มาก คิดว่าอีกไม่นานเธอก็จะได้เห็นไร่ผูกรักริมธารกลับมาเขียวขจีสลับสีสันของลูกองุ่นเหมือนเดิมแล้ว“แอบมาร้องให้คนเดียวอีกแล้ว” ได้ยินเสียงทุ้มจากด้านหลังก็รีบปาดน้ำตาลวกๆ“ดื่มกันหน่อยไหม” ราเดนในชุดเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงนอนขายาวลายสก็อตขาวเทา เขาย่อตัวนั่งข้างๆ คนตัวเล็กก่อน
สาวเจ้าตอบสนองกับสัมผัสของเขาได้เป็นอย่างดี เมื่อครู่ใครว่าตัวเขาไม่น่ามอง เธอเพียงเขินอายกับการที่จะต้องจ้องกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ กับตัวตนใหญ่ยาวเต็มตาต่างหาก จะเจ็บมากเหมือนครั้งก่อนหน้าไหมหากเขาจะเอาตัวตนมาสอดประสานกับช่องทางรักของเธอ“อือ...อื้อ” ไม่ทันที่จะหายสงสัยราเดนก็ยัดความใหญ่โตเข้ามาในตัวของเธอแล้วกดแช่เอาไว้ไม่ยอมขยับ เสียงร้องของความเจ็บปนจุกถูกกลืนเข้าไปในลำคอของเขา ความรู้สึกแน่นที่หน้าท้องทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ และแล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลรินล่วงหล่นมาจากหางตา มันเจ็บไม่ได้ต่างจากการร่วมสวาทกับเขาครั้งแรกสักนิด“โอเคไหม” เขาผละจูบหันมาก่ายกระซิบข้างใบหูขาว คนที่กำลังมีน้ำตาได้แต่ส่ายหัวน้อยๆ “เจ็บจังเลยค่ะ” สิ้นเสียงสั่นเครือราเดนต้องข่มใจกัดฟันเอาไว้แน่น เขาพยายามสูดลมหายใจลึกๆ สองสามรอบจนสุดท้ายรู้สึกว่าทนที่จะรออีกต่อไปไม่ไหว เขาจึงบดจูบคนตัวเล็กด้วยลีลาเร่าร้อน จากนั้นก็เริ่มขยับสะโพกแกร่งส่งตัวตนใหญ่ยาวเข้าออกช่องทางรักอันคับแคบโดยไม่สนเสียงร้องท้วงของคนตัวเล็ก ราเดนกระแทกกระทั้นช่วงล่างของปารวีครั้งแล้วครั้งเล่าหนักๆ เน้นๆ เต็มอารมณ์สวาทในกาย ยิ่งได้ใกล้ยิ่งหลงไหล ยิ่งล
มือที่กำลังหยิบไข่ไก่ใบที่สามต้องหยุดแล้ววางของในมือลง ชายหนุ่มเงียบไปดื้อๆ ดวงตาคมเริ่มหลี่ลง ลูกอย่างงั้นเหรอ? จะว่าไปเขาก็ไม่เคยมีเรื่องลูกอยู่ในหัวแม้สักครั้งเดียว เพราะมันจำกัดเรื่องนั้นตั้งแต่เขาไม่ได้คิดอยากจะมีครอบครัวแล้ว“เป็นอะไรคะ” ความเงียบของเขาทำเอารอยยิ้มบนใบหน้าของปารวีเริ่มเจื่อนลง“เปล่าหรอก พี่ยังไม่เคยนึกถึงตัวเองตอนที่มีลูก”คราวนี้รอยยิ้มไม่หลงเหลือบนใบหน้าของปารวีแม้แต่น้อย เขาพูดเช่นนี้หมายความว่าไม่เคยนึกถึงอนาคตของชีวิตคู่ในวันข้างหน้าเลยงั้นเหรอ“แล้วพี่เรอยากมีลูกไหมคะ” ปารวีอ้อมแอ้มถามด้วยหัวใจเต้นไม่ค่อยเป็นจังหวะสักเท่าไร“ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าไม่มีก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้ามีก็คงจะเลี้ยงได้มั้ง”“เหรอคะ แต่ลูกปลาอยากมีลูกกับพี่เรนะคะ”ราเดนมองใบหน้าหวานด้วยสีหน้าราบเรียบ “เรื่องนั้นค่อยว่ากัน จะสอนพี่ทำไข่เจียวไม่ใช่เหรอ”“ค่ะ” ปารวีหันมาสนใจถ้วยที่ราเดนตอกไข่ใส่เอาไว้ เธอจะพักเรื่องลูกเอาไว้ก่อน จะว่าไปอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้จะปฏิเสธเรื่องนี้เสียทีเดียว เธอจึงยังพอใจชื้นได้บ้าง หากผ่านเวลาไปนานกว่านี้อีกสักหน่อยเขาอาจจะตัดสินใจเรื่องลูกเด็ดขาดได้ แต่เธอก็ยังภาวนาใน
“ลูกปลาได้ข่าวพิ้งค์กี้กับหมวดตะวันมาค่ะ” เธอเอ่ยกับราเดนขณะนั่งรับประทานของว่างยามบ่ายแก่ๆ อยู่ในห้องนั่งเล่น“อะไรเหรอ” ราเดนพอจะรู้ว่าเรื่องราวมันจะดำเนินเดินไปเช่นไร ทว่าก็ยังทำไขสือไม่รู้ไม่ชี้“สองคนนั้นพากันหนีไปแล้วค่ะ”“หึ่...” ราเดนรู้ว่าการหลบหนีมันไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นไปกว่าเดิมสักนิด แม้ไม่ได้ลำบากในคุก ทว่าก็ต้องระหกระเหินอยู่ไม่ติดที่ และไม่สามารถใช้ชีวิตอิสระได้ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการติดคุกอยู่ดี ดีไม่ดีหากสองคนนั้นยอมรับผลของกฎหมาย ก็อาจจะได้กลับมาใช้ชีวิตอิสระเช่นเดิมภายในเวลาไม่นานก็ได้ ทว่าคนโง่ก็ย่อมเลือกวิธีโง่ๆ อยู่แล้ว“ตอนแรกลูกปลาก็สมน้ำหน้าสองคนนั้นที่โดนจับนะคะ แต่ตอนนี้เวทนายังไงก็ไม่รู้”“เลิกคิดเรื่องคนพวกนั้นได้แล้ว”“ค่ะ อืม... แล้วคุณมักซิมเค้ากลับไปทำธุระอะไรเหรอคะ แล้วจะกลับมาที่นี่วันไหนเหรอ”“บอกได้แค่ว่าแม็กซ์จะกลับมาอาทิตย์หน้า ส่วนธุระเรื่องอะไร เดี๋ยวแม็กซ์กลับมาลูกปลาก็รู้เอง”“โอเค...ไม่อยากรู้ตอนนี้ก็ได้ค่ะ”“แต่ตอนนี้รู้ตัวรึเปล่าว่าจะถูกทำอะไร” ราเดนพุ่งตัวขึงคนตัวเล็กเอาไว้กับโซฟาดวงตาคู่สวยเริ่มเบิกกว้าง กลืนน้ำลายไม่ลงคอ เมื่อ
“สวยหรือไม่สวยบอกลูกปลาด้วยนะคะ” ปารวีเปลี่ยนจากการถือตะกร้าหวายใบขนาดกลางที่มีองุ่นสีสวยลูกโตอยู่เต็มตะกร้า มาเป็นการคล้องตะกร้าเอาไว้ที่แขน จากนั้นก็ยื่นมือไปจับองุ่นพวงสวยที่ห้อยอยู่ไม่ไกลจากใบหน้าของเธอ“เมียพี่สวยตลอดเวลาอยู่แล้ว”“พี่เร...” เขาชมเธอมาแบบนี้เธอก็ปั้นหน้าไม่ถูกกันพอดีทว่าวินาทีที่หญิงสาวกำลังยิ้มเขินแล้วถือตะกร้าหวายที่มีองุ่นลูกโตสีสวยเต็มตะกร้า ทำให้ราเดนต้องรีบรัวกดชัตเตอร์ ความเป็นธรรมชาติของเธอนี่แหละเป็นภาพที่สวยที่สุดในสายตาของเขาทั้งสองอยู่ในบ้านหลังเล็กด้วยกันตั้งแต่วันที่เห็นซากต้นองุ่นที่ถูกไฟไหม้ ผ่านวันที่เห็นเหล่าคนงานช่วยกันเอาต้นองุ่นที่ถูกเผาออกจากไร่ ผ่านวันที่คนที่ไร่ผูกรักริมธารร่วมแรงร่วมใจกับคนที่ไร่สหายเสือร่วมกันไถที่ปรับหน้าดิน ช่วยกันฉีดสารบำรุงดินที่ผ่านความร้อน จนมาถึงวันที่ต้นกล้าองุ่นนับพันมากองอยู่ตามผืนไร่เตรียมลงปลูกและคนที่จะลงมือปลูกองุ่นชุดใหม่เป็นคนแรกก็คือราเดน คนที่ช่วยเหลือเยียวยาทั้งคนทั้งไร่แห่งนี้เป็นครั้งที่สอง“เรียบร้อย ใช้ได้ไหมครับลุงหงวน” ราเดลงต้นองุ่นในหลุมแรกกลางไร่ เมื่อเขาย่ำดินกดให้ยึดกับต้นองุ่นจนพอสวยแล้ว
“ไหนคุณบอกให้ฉันเชื่อใจคุณไง ฮือ ฮือ ฮือ...”“ใช่ แล้วคุณก็เชื่อใจผมเอง”“คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงคะ ฉันรักคุณ ให้เกียรติคุณทุกอย่าง ทำไม...” ปารวีเริ่มโวยวายกระชากคอเสื้อราเดนด้วยความโมโหโกรธเคืองเป็นที่สุด“ผิดหวังมากก็หย่ากับผมไปสิ”มือทั้งสองที่กำคอเสื้อราเดนแน่นเริ่มไร้เรี่ยวแรง คำว่าหย่าที่เขาพูดออกมาเมื่อครู่ เขาพูดมันออกมาอย่างง่ายดายโดยที่ไม่คิดจะสนใจความรู้สึกของเธอแม้แต่น้อย มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนที่เป็นคนดีพร้อมอย่างเขาถึงได้มากระทำให้เธอชอกช้ำหัวใจเช่นนี้ราเดนยื่นเอกสารให้หญิงสาวที่กำลังนั่งปากดน้ำตาลวกๆ “เอานี่ไปอ่านให้ถี่ถ้วน แล้วผมจะกลับมาคุยกับคุณอีกรอบ แต่ตอนนี้ผมต้องขอตัว” พูดจบก็ปล่อยให้หญิงสาวได้อยู่กับตัวเอง ส่วนเขาก็ออกไปนั่งรอที่จะคุยกับเธออีกรอบข้างนอกปารวีพยายามตั้งสติ อยากจะรู้นักว่าเขาเอาอะไรมายัดมือของเธอ ทว่าเมื่ออ่านข้อความในเอกสารไม่กี่บรรทัด หัวใจของเธอก็เต้นแรง ทั้งยังปวดหนึบมากขึ้นเท่าทวีเหมือนมีมือของใครมาคอยบีบเอาไว้ไม่ยอมปล่อยในเอกสารพิมพ์เอาไว้ว่าหากเธอได้จดทะเบียนสมรสกับราเดนเรียบร้อยแล้ว ไร่ผูกรักริมธารก็จะตกเป็นของสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายทั
เช้าของวันใหม่ปารวีเลือกที่จะขับรถออกมาจากบ้าน พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบ เธอเหยียบคันเร่งพารถเก๋งคู่ใจไปเรื่อยๆ โดยที่ยังนึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหน ขอแค่ให้ออกพ้นมาจากไร่ก็พอหญิงสาวขับรถช้าๆ ไปด้วยสายตาที่เหม่อลอยได้ครู่หนึ่งก็ต้องจอดรถและตั้งสติใหม่อีกครั้ง เพราะหากเธอยังคงเหม่อลอยไปเรื่อยเช่นนี้อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเองและคนมที่ใช้รถใช้ถนน เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว“น้ำตกเหรอ” ที่แรกที่ขึ้นมาในการหาข้อมูลคือรีสอร์ทที่อยู่ถัดไปอีกจังหวัดที่เธออยู่ ที่นั่นมีวิวทิวทัศน์ภูเขา เต็มไปด้วยความสงบ และธารน้ำตกอันสวยงาม ปารวีเลือกที่จะปักหมุดจุดหมายไปที่นั่นจากนั้นก็ตั้งใจขับรถตจรงไปยังจุดหมายทันทีหญิงสาวขับรกเก๋งคู่ใจไม่ได้หยุดพักร่วมชั่วโมงกว่าจนมาถึงรีสอร์ทขนาดใหญ่ ที่พักที่นี่มีทั้งโซนที่เป็นตึกห้องพัก มีสระว่ายน้ำรวมกว้างใหญ่ และเป็นบ้านพักหลังใหญ่แยกต่างหาก รวมไปถึงห้องพักสไตล์แคมป์ปิ้งที่อยู่ติดกับธรรมชาติที่สุดปารวีเลือกที่จะไปเช็กอินและเลือกห้องพักสไตล์แคมป์ปิ้งที่อยู่ติดกับธรรมชาติมากที่สุดอย่างไม่มีกำหนดว่าจะกลับวันไหน เพราะเธอต้
“เปล่า แค่ไม่อยากเอาเรื่องไม่ดีเล่าให้พวกแกฟัง” ปารวีเอ่ยกับเพื่อนทั้งสามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและเริ่มที่จะมีน้ำตาพรั่งพรูออกมาอีกรอบปารวีซุกใบหน้าบนบ่าของไก่หวาน ตัวของเธอสั่นเทาจนเพื่อนๆ รับรู้ได้ว่าความทุกข์ในใจของปารวีนั้นมีมากจริงๆ ทว่าก็ยังอยากจะรู้ว่ามันคือเรื่องอะไรที่ทำให้ปารวีทุกข์ได้มากขนาดนี้อารยาและมุขรินทร์เข้าไปกอดปารวีพร้อมกัน และเป็นอารยาที่เริ่มเอ่ยออกมา “แล้วแกจะมีเพื่อนไว้ทำไม พวกฉันพร้อมรับฟังแกทุกเรื่องนะลูกปลา แกสุขใจพวกฉันก็ดีใจด้วย แต่ถ้าแกทุกข์ใจเรื่องอะไรพวกฉันก็พร้อมช่วยแก้ปัญหา”“พี่เร... พี่เรกำลังจะแต่งงานกับคนอื่น”“ฮะ!” ทั้งสามอุทานพร้อมกันเสียงดัง ทั้งยังมองหน้ากันด้วยความงงงวยพูดอะไรกันไม่ออก และไม่รู้จะเริ่มถามคำถามอะไรต่อไปเพราะยังตกใจกับเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้กันพอสมควรเป็นไก่หวานทีเริ่มจะตั้งสติได้คนแรกจึงดึงตัวปารวีไปนั่งที่เก้าอี้ จากนั้นเพื่อนๆ ก็เข้ามาล้อมวง“มันเกิดอะไรขึ้น พอจะเล่าให้ฉันฟังได้ไหม” ไก่หวานยังคงจ้องปารวีที่กำลังนั่งสะอึกสะอื้นไม่วางตาปารวีพยายามสงบอารมณ์ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เริ่มเล่าเล่าเรื่องราวที่ได้เจอมาให้กับเพื่อนๆ ได้
“อ้าวพี่เร ไหนบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงคะ”“ธุระเสร็จไวพี่ก็เลยรีบกลับ ลูกๆ บ่นคิดถึงพี่บ้างรึเปล่า” ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีดำเข้ามาสวมกอดพร้อมกอดหอมพวงแก้มนวลของคนเป็นภรรยาฟอดใหญ่“คนตามใจไม่อยู่ทั้งคนจะไม่บ่นถึงได้ยังไงล่ะคะ”“รู้สึกเหมือนกำลังโดนบ่นยังไงก็ไม่รู้”“แล้วทานอะไรมารึยังคะ”“เรียบร้อยครับ แล้วสิ่งที่อยากทานตอนนี้ก็คือเมีย” เขาช้อนก้นอุ้มคนตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะก่อนจะแทรกตัวกึ่งกลางขาเรียวทั้งสอง จากนั้นก็รวบใบหน้าหวานด้วยมือทั้งสองประคองบดจูบด้วยความโหยหาปารวียกแขนทั้งสองคล้องคอคนเป็นสามีอย่างรู้งานก่อนจะแลกลิ้นอุ่นนุ่มกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ใช่ว่าเขาโหยหาเธอเพียงฝ่ายเดียว เธอเองก็เฝ้าคิดถึงสัมผัสของเขาแทบทุกวินาทีที่ต้องห่างเช่นกันราเดนละมือจากใบหน้าหวานเลื่อนลงมาปลดกางเกงปลดปล่อยแท่งร้อนที่กำลังผงาดหัวปูดเป่งออกมาเผชิญโลกกว้างก่อนจะถลกชุดคลุมตัวบางจากหัวไหล่มนคนเป็นภรรยาให้ไปกองอยู่กับหน้าโต๊ะเมื่อคนตัวเล็กล่อนจ้อนเผยผิวเนื้อนวลเนียนชวนสัมผัสเขาก็วาดแขนประคองแผ่นหลังบางไล่พรมจูบตั้งแต่ลำคอระหงส์สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้เต็มปอดจนมาบรรจบอยู่ที่เนินอกอวบ
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผันนานร่วมสามปีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากมายโดยเฉพาะชีวิตของปารวี จากก่อนหน้านี้เธอเป็นเพียงเจ้าของไร่ผูกรักริมธาร มีหน้าที่บริหารไร่ และต้อนรับนักท่องเที่ยวตอนนี้เธอกลายเป็นคุณแม่ลูกสองที่ทำหน้าที่ดูแลลูก และเป็นผู้บริหารรีสอร์ทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไปแล้ว หลังจากที่เธอคืนดีกับราเดนได้ เขาก็เข้ามาพัฒนาไร่ของเธออย่างเต็มที่ ส่วนงานที่คลังอาวุธก็ยังคงบินไปดูแลอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะใช้ชีวิตอยู่กับเธอที่ไร่ส่วนเพื่อนๆ ของเธอตอนี้ต่างคนต่างก็มีชีวิตเช่นที่ฝัน ไก่หวานเปิดธุรกิจร้านเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วดูท่าทุกอย่างก็กำลังไปได้สวย ส่วนอารยาก็เป็นเภสัชอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือร้านยาของเธอได้ขยายไปอีกสามสาขาส่วนมุขรินทร์ตอนนี้ก็เลิกทำงานเป็นบัญชีฟรีแลนซ์ แล้วเข้าไปช่วยสามีบริหารงานอยู่ที่รัสเซีย ใช่แล้ว ตอนนี้สองคนนั้นแต่งงานกันเรียบร้อย และตอนนี้ก็กำลังจะมีโซ่ทองคล้องใจออกมาลืมตาดูโลกแล้วด้วยส่วนสามภพก็กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ไหนจะดูแลไวน์ที่โรงบ่ม และยังเป็นนักขายตัวยงที่หาลูกค้าได้เก่งมากๆ จนราเดนไม่ต้องเข้าไปช่วยทำอะไรในส่วนของชวิน ต
ราเดนได้แต่ก้มหน้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ แม้จะเห็นว่าปารวีไม่ได้อยากจะเชียร์เขาสักนิด ทว่าเขาก็ยังอยากจะทำในสิ่งที่รับคำท้าชวิน วันนี้เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เขา หรือ ชวิน ที่จะเป็นผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้พักใหญ่แล้วที่เสียงของท่อไอเสียรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ดังลั่นสนั่นไปทั้งสนาม บีบให้หัวใจของคนที่เฝ้ามองไม่ละสายตาได้เต้นแรงตามเสียงนั้นไปด้วยปารวีแทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นว่าราเดนแทบจะหลุดโค้งทุกครั้งที่เข้าโค้ง ทว่าชวินกลับขับรถในสนามได้อย่างชำนาญ แต่ก็ทิ้งห่างราเดนได้ไม่ไกลมากนัก“รอบสุดท้ายแล้ว ใครจะชนะล่ะเนี่ย”เสียงของไก่หวานยิ่งทำให้ปารวีใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอและจับจ้องไปยังรถของราเดนตาไม่กระพริบ ยอมรับกับหัวใจตัวเองเลยว่าตอนนี้เขาอยากให้เป็นราเดนที่เข้าเส้นชัยไม่ใช่ชวิน ทว่าเหมือนเธอจะมองไม่เห็นโอกาสนั้นเลยและในโค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นชัย รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สองคันก็ได้ตีคู่กันมาติดๆ เล่นเอาคนที่เกาะขอบสนามแทบจะหยุดหายใจเพราะลุ้นไปตามๆ กัน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น“อ๊าย...พี่เร!...” ปารวีร้องเสียงหลงเมื่อรถของราเดนพุ่งออกไปจากสนามแข่งแล้วไ
หวังว่าการยอมลงทุนเรียกคะแนนความสงสารจากคนตัวเล็กจะทำให้เธอกลับมาเป็นของเขาได้โดยเร็ว เขาจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนที่พยายามจะขโมยหัวใจของเขาไปเช้านี้ชวินเลือกที่จะไปเยี่ยมราเดนพร้อมกับทุกคน เพราะเมื่อคืนเขาเจอหลักฐานเด็ดที่ทำให้เห็นว่าการที่ราเดนต้องเข้าโรงพยาบาลมันไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ทว่าเขาเชื่อว่าราเดนต้องการเรียกร้องความสนใจจากปารวีต่างหาก“ดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ”ทุกคนมองไปยังชวินกันเป็นตาเดียวที่เห็นเขาเข้าไปหาราเดนเป็นคนแรกทั้งที่ก็ไม่ค่อยจะชอบหน้ากันสักเท่าไร“อืม ก็ดีขึ้นมากแล้ว” ราเดนพยักหน้าน้อยๆ ตอบชวินเสียงห้วน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหนถึงได้แสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยเขาก่อนทุกคน“เมื่อวานผมดูกล้องวงจรปิดแล้ว ผมเห็นว่าคุณเข้าไปเล่นกับลูกหมาตัวนั้นเอง ไม่ใช่ลูกหมาตัวนั้นวิ่งมาหาคุณ เรียกคะแนนสงสารจากลูกปลาสินะครับ” เมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่กันครบ ชวินก็ไม่รีรอที่จะเผยธาตุแท้ของราเดน โดยเฉพาะปารวี เขาอยากให้เธอรู้ว่าราเดนกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออีกแล้ว ดูสิว่าหากหญิงสาวรู้แล้วมันจะเป็นยังไง“จริงเหรอคะ” ปารวีมองจ้องคนตัวโตที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงด้วยแววตาผิ
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าไปร่วมโต๊ะล่ะ”“ไม่ กลัวอดใจกระทืบคนไม่ได้”“หึ่...” ซีโวลอดขำพรืดกับคำตอบของเพื่อนรัก นับว่าไม่ผิดหวังกับคำตอบที่ออกมาจากปากของราเดน“ขำอะไรของนายนักหนา”“ก็ตั้งแต่คบกันมาฉันไม่เคยเห็นแกหึงผู้หญิงนี่หว่า เอาน่า... ฉันเชื่อว่าแกเอาลูกปลากลับคืนมาได้อยู่แล้ว แต่อย่าใจร้อนทำให้เธอโกรธอีก ห้ามบังคับ แต่ควรหัดใช้สมองให้เป็น”“พูดให้มันเข้าใจง่ายๆ หน่อยสิ” ราเดนเริ่มขมวดคิ้วระหว่างส่งเครื่องดื่มให้ซีโวลอด“เรื่องอื่นล่ะเก่งเหลือเกิน มาตกม้าตายเพราะเรื่องผู้หญิง” พูดจบก็ยกแก้วดื่มน้ำเมาสีสวยอึกใหญ่ ทั้งอมยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อนที่ดูจะไร้เดียงสาเรื่องหัวใจ“ขอความเห็น ไม่ใช่ให้มาด่าฉัน”“ฉันว่ายังไงลูกปลาก็ยังหลงเหลือความรักให้นายอยู่ แค่ทำตัวน่าสงสารให้เธอเห็นใจนาย เดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนกับนายเอง แต่ตอนนี้ห้ามทำอะไรให้เธอโกรธเด็ดขาดถึงจะหมั่นไส้หมอนั่นแค่ไหนก็ช่าง เข้าใจไหม”ราเดนนั่งเงียบ ดวงตาคมยังคงจับจ้องไปยังกลุ่มคนที่ร่วมโต๊ะดินเนอร์กันที่ริมชายหาด ไม่ค่อยชอบใจนักที่เห็นปารวีนั่งหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับชวิน เพราะรอยยิ้มที่เธอให้ชวินมันควรจะเป็นของเขา เขาหลี่ตามากขึ้นเรื่
“ก็ฉันจะอยู่รีสอร์ทพี่โชน ทำไมคะ หรือจะบังคับเอาฉันไปขังที่อื่นอีก บอกเลยนะคะว่าให้ฉันเจ็บตัวมากกว่านี้เพื่อหนีไปจากคุณฉันก็ยอม” สาวเจ้าในชุดมินิเดรสคอบัวแขนสั้นสีชมพูนั่งกอดอกบุ้ยปาก ดวงตามีแต่ความแข็งกร้าว ทำเอาคนที่มองจ้องอยู่ต้องถอนหายใจอ่อน“จะให้พี่ทำยังไงถึงจะหายโกรธพี่” ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเริ่มที่จะประชดประชันเขาขึ้นมา“ก็แค่เซ็นใบหย่ากัน แล้วก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะ”“ถ้าพี่บอกว่าจะยอมเซ็นใบหย่าให้ จะไปอยู่รีสอร์ทอื่นได้ไหม”“คุณมีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับฉันคะ”ราเดนยืนกัดฟันถอนหายใจและเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็ต้องทำตามใจปารวี เมื่อเก็บของเรียบร้อยก็พาเธอไปที่รีสอร์ทของชวินเมื่อมาถึงเขาก็ต้องพยายามสงบอารมณ์ให้มากที่สุดเท่าที่เคยทำมา เพราะหลังจากชวินรู้ว่าปารวีกลับมาพักที่รีสอร์ทของตัวเองก็รับเดินทางจากบ้านมาหาภรรยาของเขาทันที แถมยังทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ พูดคุยกันอย่างออกรสทำเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ด้วย จนเขาต้องเดินหนีมาหาที่สงบอารมณ์ดีที่เขารู้ว่าซีโวลอดกับมุขรินทร์ยังเที่ยวด้วยกันอยู่แถวนี้เลยได้โทรตามให้ทั้งสองมาที่นี่ อย่างน้อยเขาก็ยังมีซีโวลอดเป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก สองสายตามองไปยังประตูห้องหลังจากได้ยินเสียงเคาะ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นมุขรินทร์ก็เดินนำหน้าซีโวลอดเข้ามาข้างใน“แกเป็นไงบ้าง” หญิงสาวหน้าสวยในชุดเดรสกระโปรงยาวสีขาวเดินพุ่งตรงมายังเตียงคนป่วยทันที มุขรินทร์กวาดสายตามองบริเวณของของปารวีที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้จนหนาก็อดรู้สึกเจ็บแทนเพื่อนไม่ได้“ไม่เป็นไรมากแล้ว” ปารวีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ใจชื้นที่เห็นเพื่อนเธออยู่ตรงนี้ จะได้ถือโอกาสนี้ให้มุขรินทร์อยู่เฝ้าเธอเสียเลย“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ” ซีโวลอดเขายื่นกระเป๋าที่เตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ในนั้นให้กับราเดน“อืม” ราเดนรับของจากซีโวลอดได้ก็พุ่งตัวไปที่ห้องน้ำทันทีให้หลังราเดนไปได้ซีโวลอดก็หันมายิ้มให้ปารวี “แล้วต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานไหมครับ”“คุณเรบอกว่าประมาณอาทิตย์นึงค่ะ แล้วนี่คุณเรโทรให้มาเยี่ยมเหรอคะ”“เปล่าครับ ผมรู้เรื่องจากเรก็เลยรีบมา”“แล้วทำไมเพิร์ลมาด้วย หรือว่าทุกคนรู้เรื่องที่ฉันเจ็บตัวหมดแล้วคะ” ใบหน้าหวานซีดเซียวเริ่มมีสีหน้าของความกังวล เธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้เรื่องนี้ด้วย“เปล่าครับที่เพิร์ลมาด้วยเพราะผมไปหาเธอที่บ้านพอดี ตอนนี้คนอื่นๆ ยังไม่รู้เรื่อง
หลังจากซีโวลอดวางสายจากราเดนได้ มุขรินทร์ก็รู้ว่าสิ่งที่เธอคาดการณ์เอาไว้ไม่ผิด ตอนนี้ปารวีบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเพราะต้องการหนีจากราเดน เธอจึงรีบเดินทางไปหาราเดนและปารวีพร้อมกับซีโวลอดในทันทีชวินบินจากภูเก็ตได้ก็ตรงมายังไร่ผูกรักริมธารเพราะคิดว่าปารวีจะอยู่ที่นี่ ทว่ามาถึงเขาก็ไม่เจอใคร เขาจึงขับรถเข้ามาหาสามภพที่ไร่สหายเสือ แล้วก็ได้รู้เรื่องที่น่าหงุดหงิดใจที่เพื่อนของเขากำลังร่วมหุ้นหับราเดนทำโรงบ่มไวน์โดยที่ไม่คิดจะปรึกษากับเขาสักคำ“แกกำลังจะทำโรงบ่มไวน์กับราเดนทำไมไม่บอกฉัน”“แล้วแกโมโหไรวะ” สามภพเท้าเอวขมวดคิ้ว มองเพื่อนตนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความฉงน เพราะไม่รู้ว่าทำไมชวินถึงได้มาอารมณ์เสียกับเรื่องแค่นี้ เพราะไม่ช้าไม่นานเขาก็ต้องบอกให้ชวินรับรู้อยู่แล้ว“ฉันไม่ชอบหน้าหมอนั่น” ชวินสบถเสียงแข็ง“ฉันมองออกว่าแกคิดอะไรกับลูกปลา แต่ก็ไม่ควรพาลมาเรื่องงานของฉันนะโว้ย”“แกไม่รู้หรือไงว่าราเดนทำอะไรกับลูกปลาไว้ เค้าทำให้เธอเสียใจ หลอกเธอให้เธอจดทะเบียนด้วยแล้วก็หักหลังเธอจะไปแต่งงานกับคนอื่น” ชวินละล่ำละละลัก เรื่องไม่พอใจที่ราเดนได้ปารวีไปครอบครองเขายอมรับ ทว่าเขาก็ไม่อยากให้เ
ปารวีมองตามหลังคนตัวโตจนเขาเดินออกไปพ้นประตูจากนั้นเธอก็รีบเดินไปล็อคกลอนแน่นหนาก่อนจะสาวเท้ามาที่หน้าต่างเพื่อดูทางหนีทีไล่ เธอไม่ได้สนใจข้าวผัดกับกุ้งย่างตัวโตบนถาดอาหารแม้ท้องจะหิวแค่ไหน ตอนนี้เธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นคนตัวเล็กสูดหายใจก่อนจะปีนออกไปทางหน้าต่าง ดีที่บ้านหลังนี้ไม่สูงมากไม่เช่นนั้นเธอคงได้เจ็บตัวก่อนที่จะหนีไปหาคนอีกฝั่งของเกาะแน่นอนราเดนกลับมานั่งหน้าเศร้าที่เก้าอี้หน้าชานบ้าน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแทบจะผูกโบว์ ไม่ชอบเวลาที่เห็นปารวีเมินเฉยต่อตัวเองแม้แต่น้อย ทว่าก็ยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรให้เธอได้ยอมเปิดใจให้อภัยไม่ทันที่จะได้คิดตก ความหูไวของเขาก็หูทำให้รู้สึกถึงสัญญาณไม่ดีบางอย่างที่ข้างบ้าน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าห้องนอนใหญ่มีหน้าต่าง เขารีบสาวเท้าไปชะโงกหน้ามองตามเสียงกิ่งไม้หักก็เห็นหลังไวๆ ของปารวี ตอนนี้เธอวิ่งหนีเขาเข้าป่าไปแล้ว“ลูกปลา มันอันตราย” ราเดนตะโกนจนสุดเสียง เขาไม่น่าประมาทเธอเลย“อ๊าย...”ตะโกนยังไม่ทันขาดคำเสียงกรีดร้อง ของหญิงสาวก็ดังขึ้นเขาจึงรีบสาวเท้าสับวิ่งไปหาเธอทันที วิ่งตามได้ไม่กี่วินาทีเขาก็อยู่ชะงัก อ้าป