“ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ”
“อืม...” “หน้าตายังดูเพลียๆ อยู่เลย อยากนอนต่อก่อนไหม” “ไม่ๆ เดี๋ยวต้องไปทำงาน” แฟนมีตยืดแขนขากลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอย่างที่ชอบทำประจำ เพื่อไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากร่างกาย เมื่อคืนก็ดันนอนดึกเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพาสต้า “เห้ยยย” “เอ้า มาตกใจอะไรกันอีก” “เปล่า..ผมแค่ยังไม่ชิน เมื่อกี้งัวเงียอยู่เลยงงๆ นิดหน่อย” “ครับ...ก็น่ารักดี” “ว่าไงนะ” “เปล่าๆ งั้นแฟนมีตทำธุระส่วนตัวเถอะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอบบ้านรอ” หลังจากพูดจบพาสต้าก็เดินทะลุประตูหายไป แฟนมีตพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกกับตัวเองว่าทุดอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ความฝัน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเริ่มจากใครเพราะเรื่องของพาสต้ามันก็ผ่านมาตั้ง 25 ปีแล้ว เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลย ยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจว่าสิ่งที่เขาพยายามจะช่วยเหลืออีกฝ่ายมันจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า : ร้านกาแฟ Penne's Cafe “ไงแฟนมีตหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไหวไหม?” “ไหวครับพี่เพนเน่ผมเอาเหมือนเดิมแก้วหนึ่ง แล้วนี่พายุกับน้ำหนาวยังไม่มาเหรอครับ” “อ๋อไอ้เจ้าแฝดกำลังมาน่ะเห็นว่าวันนี้เข้าสาย อะนี่กาแฟคั่วเข้มขมปี๋ของคุณชายแฟนมีต ตั้งใจทำงานนะ” “ขอบคุณครับพี่” เพนเน่ เจ้าของร้านกาแฟที่แฟนมีตเคยมาสมัครทำงาน Part time ช่วงระหว่างที่รอเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาได้ยินพนักงานคุยกันว่าจริงๆ แล้วพี่เพนเน่อายุเยอะแล้ว แต่หน้าเด็กพอๆ กับสาวมหาวิทยาลัยเพราะมียาดี ก็เลยไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเธออายุเท่าไร พอถามก็ได้คำตอบเชิงเล่นมาตลอด แต่เท่าที่สังเกตุดูแฟนมีตเองคิดว่าข่าวที่บอกเพนเน่อายุเกินสี่สิบคือมั่วแน่นอนอย่างมากเธอก็คงเป็นลูกของเศรษฐีแถวนี้ เลยมีทุนมาทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อยอะไรทำนองนั้นมากกว่า “เพนเน่...” เสียงอุทานของพาสต้าดังมาจากด้านหลังของแฟนมีต “มีอะไรเหรอ” “อ๋อเปล่าๆ คุณไปทำงานเถอะครับ ผมขอเดินเล่นเรื่อยเปื่อย เผื่อจะนึกหาวิธีออกว่าเราสองคนควรจะเริ่มทำอะไรกันต่อไป” “อืม..” แฟนมีตทำเพียงตอบรับในลำคอเบาๆ เพราะตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในที่สาธารณะ จะให้มาพูดคุยกันเหมือนตอนอยู่ที่บ้านก็คงไม่ได้ คนเขาคงได้หาว่าแฟนมีตเป็นคนป่วยแน่ๆ ตลอดทั้งวันแฟนมีตทำงานแทบไม่ได้พัก ยิ่งช่วงปลายปีแบบนี้ งานเก่า งานใหม่ โปรเจคใหญ่ปีหน้า พากันหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด ขนาดพักเที่ยงที่ตั้งใจจะมาจิบกาแฟแสนอร่อยในร้านของเพนเน่ แฟนมีตยังต้องหอบงานเข้ามาทำด้วย “พี่แฟนมีต~” “ว่าไงพายุ” “ผมน้ำหนาวเว้ย เมื่อไรจะแยกออกสักที หน้าผมหล่อกว่าไอ้ยุตั้งเยอะ” “คราวหน้าก็แขวนชื่อสิจะได้เรียกถูก” แฟนมีตถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความขี้โวยวายของแฝดน้องอย่างน้ำหนาว พายุ กับ น้ำหนาว เป็นพี่น้องฝาแฝดที่เหมือนชนิดที่ว่าถ้ายืนหันหน้าเข้าหากันก็ไม่ต่างจากส่องกระจก แฟนมีตพยายามแยกสองคนนี้แต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที และเขาก็จะถูกทั้งสองคนบ่นทุกครั้งที่เรียกชื่อผิดสุดท้ายอาจจะกลายเป็นว่าเขาต้องทำป้ายแขวนชื่อเอาไว้จริงๆ “ว่าแต่มีอะไร” “ก็วันนี้พี่เพนเน่บอกว่าจะปิดร้านเร็ว ก็เลยว่าจะมาชวนไปหาอะไรกินหลังเลิกงานครับ” “วันนี้เหรอ” “ช่ายย เดือนละครั้งเลยนะพี่แฟนมีตที่พี่เพนเน่ปิดร้านเร็วให้พวกผมได้พักหายใจหายคอ” น้ำเสียงน้ำหนาวดูตื่นเต้นกับการปิดร้านเร็วของเพนเน่พอสมควร แฟนมีตจำได้ว่าตอนมาทำงาน Part Time ที่นี่ถึงแม้งานจะค่อนข้างหนัก แต่การที่เพนเน่ปิดร้านเร็วก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจอะไรขนาดนั้น “แล้วทำไมต้องตื่นเต้น” “อ๋อ ตอนนั้นมาทำงานไม่นานก็เลยไม่รู้เรื่องใช่ม่ะ” “เรื่องอะไร?” แฟนมีตทำตาใสใส่น้ำหนาวเพราะตอนนั้นเขาทำงานอยู่ไม่ถึงหกเดือนด้วยซ้ำจะให้เขาไปรู้อะไรมากมาย ลำพังชื่อเมนูกาแฟยังจำได้ไม่หมดด้วยซ้ำ “ก็ที่นี่ เดือนนึงมันจะมีหนึ่งวันที่พี่เพนเน่จะปิดร้านเร็ว เขามีข่าวลือกันว่าเป็นวันที่พี่เพนเน่แกต้องไปนอนแคปซูลรับยา” “ยาอะไร?” “ก็ยาอายุวัฒนะที่ทำให้แกสวยไม่สร่างแบบนี้ไง” “เลอะเทอะ..นี่เพิ่งไปดูกัปตันอเมริกามาใช่ไหม” “เอ้า ก็เขาเล่ากันมาแบบนี้” “เพ้อไปใหญ่ ไม่คุยด้วยละไปทำงานต่อดีกว่า กลับบ้านดีๆ ล่ะ” แฟนมีตเลิกให้ความสนใจประโยคบอกเล่าจากน้ำหนาวแล้วหันไปเก็บข้าวของอันพะรุงพะรังกลับขึ้นที่ทำงานเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานช่วงบ่าย หางตาแอบเหลือบไปเห็นพาสต้าอยู่ในห้องทำงานของเพนเน่แต่มันก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะพอสังเกตุดูดีๆ ก็พบว่ามีเพียงเจ้าของห้องที่อยู่ตามลำพัง “พี่แฟนมีตอย่าเพิ่งไป พี่เพนเน่เรียก” เสียงเด็กหนุ่มตะโกนออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ “อ่อๆ โอเค ขอบใจนะ” แฟนมีตหันไปขอบคุณพายุที่รีบวิ่งออกมาจากห้องทำงานเพนเน่ก่อนจะวางของลงที่เดิมแล้วไปหาเพนเน่ในห้องทำงาน “มาพอดีเลยแฟนมีต รู้แล้วใช่ไหมว่าวันนี้พี่จะปิดร้านเร็ว” “ครับ” “แต่พอดีพวกเอกสารพี่ยังไม่เรียบร้อยแล้วก็มันต้องส่งพรุ่งนี้ด้วย ได้ข่าวว่าเราจบบริหารเกียรตินิยม ช่วยพี่ดูเอกสารหน่อยสิเดี๋ยวพี่ให้ค่าตอบแทน คนอื่นก็เอาแต่หนีเวลาพี่เรียกทำงานไม่คุ้มเงินเดือนเหมือนแฟนมีตสักคน” แฟนมีตเหลือบมองกองเอกสารด้านข้างโต๊ะทำงานของเพนเน่แล้วอดแปลกใจไม่ได้ว่าลำพังแค่ร้านคาเฟ่ เบเกอร์รี่ ทำไมเอกสารมันถึงได้เยอะแยะขนาดนี้ “พี่กวนแฟนมีตหรือเปล่า” “เปล่าครับ...แต่เดี๋ยวตอนบ่ายผมมีงานต้องรีบเคลียร์ให้จบ เอาเป็นว่าช่วงเลิกงานผมแวะมาดูให้ได้ไหมครับ พี่เพนเน่ทิ้งกุญแจไว้ก็ได้ถ้าสะดวก” “ได้สิ เอาตามที่แฟนมีตสะดวกเลย” เพนเน่ส่งยิ้มหวานมาให้ “สงสัยใช่ไหมว่าทำไมเอกสารเยอะขนาดนี้ คือพี่มีธุรกิจอย่างอื่นด้วยเอกสารก็เลยเยอะหน่อย” “อะอ๋อ..ครับ” “ช่วยพี่หน่อยแล้วกันนะ ฝากจัดเข้าแฟ้มด้วย ธุระดันมาตรงกับสิ้นเดือนวุ่นวายไปหมด” “ไม่เป็นไรครับ ช่วงนี้กลับบ้านไปก็ไม่ได้ทำอะไร มานั่งจัดเอกสารแก้เบื่อก็ดีเหมือนกัน” “น่ารักที่สุด งั้นเอาไว้มารับรางวัลเป็นโปรดื่มกาแฟฟรีตลอดปีนะ” แฟนมีตได้แต่พยักหน้าและทำตามที่เพนเน่บอกแล้วเตรียมตัวกลับไปทำงาน ตกเย็นหลังจากเสร็จงานชายหนุ่มก็ได้หยิบกุญแจที่วางแอบไว้ที่ใต้กระถางต้นไม้ตรงป้ายร้านกาแฟมาไขเปิดประตูเข้าไปทันที ถ้าเป็นคนอื่นคงอยากจะรีบกลับบ้านไปพัก แต่เขาเป็นประเภทไม่ค่อยชอบอยู่เฉย และช่วงที่เขามาทำงานที่นี่เพนเน่ก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี อะไรที่พอจะช่วยเธอได้แฟนมีตก็ยินดีช่วยเต็มที่รวมถึงเรื่องนี้ด้วยที่เขาคิดไว้ว่าจะปฎิเสธเงินตอบแทนและรับเป็นกินกาแฟฟรีก็เกินพอ คงจะประหยัดค่ากาแฟไปได้หลายบาท เอกสารหลายฉบับถูกจัดเรียงตามวันที่กองแยกกันไว้จนเกือบเรียบร้อย ตั้งแต่เขารู้จักเพนเน่มาเขาไม่เคยเห็นพี่น้องหรือครอบครัวของเพนเน่เลย แม้แต่แฟนก็ไม่เคยระแคะระคายว่าเธอมี ทั้งๆ ที่เป็นคนสวยครบเครื่องขนาดนี้ จริงๆ มันก็น่าแปลกอยู่ “ไม่กลับบ้านหรือไง” “พาสต้า! ผมต้องบอกคุณกี่ครั้งว่าอย่าโผล่มาแบบนี้” “ผมไม่ได้โผล่มาสักหน่อย ผมยืนอยู่ตั้งนานแล้ว คุณนั่นแหละใจลอยไปไหน คิดถึงเจ้าของร้านคนสวยอยู่หรือไง” พาสต้าเหล่ตามองแฟนมีตอย่างรู้ทัน แต่คำว่า ‘คิดถึง’ ในความหมายของพาสต้ากับเขาคงต่างความหมายกันแน่ๆ : - TBC - #hgdคุณผีที่รักคุณคิดว่าชื่อผมแปลกหรือเปล่า ผมชื่อ “แฟนมีต” มันคือชื่อของผม ชื่อจริงๆ ตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลกประวัติของผมเป็นที่เลื่องลือจนกระทั่งตอนนี้ผมอายุเกือบจะ25แล้ว ผมก็ยังพบเจอภาพบรรยากาศการคลอดของผมลอยอยู่เต็มโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ชื่อดัง ผมไม่ต้องมานั่งถามแม่เลยด้วยซ้ำว่าตอนเกิดผมเป็นยังไง ร้องไห้เสียงดังไหม คลอดง่ายคลอดยาก เพราะผมเห็นด้วยตาของผมเอง ใช่ครับ..พวกคุณอ่านไม่ผิด ที่ผมเห็นทุกอย่างเพราะแม่คลอดผมกลางงานคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้องชื่อดัง!!!กลางงานที่มีคนดูนับพันคน เสียงร้องของผมที่ดังแข่งกับเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ และผมก็ไม่รู้ว่าแม่จะดีใจหรือเสียใจที่ผมคลอดออกมาวันนั้นเพราะมันเป็นวันที่ “พาสต้า” นักร้องในดวงใจของแม่ถูกยิงร่วงกลางงานคอนเสิร์ตเช่นกัน รถพยาบาลสองคันจอดเทียบคู่กันคันหนึ่งรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิด ส่วนอีกคันรับหนึ่งชีวิตที่กำลังจะตาย แล้วผมก็ได้ชื่อนี้มาอย่างไม่มีข้อกังขา ส่วนนักร้องคนนั้นเท่าที่ทราบมาเขาน่าจะเสียชีวิตไปแล้วก่อนจะถึงโรงพยาบาลเสียอีก ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องชื่อประหลาดๆ ของผม จนกระทั่งผมบังเอิญไปเจอคลิปของแม่ที่กำลังเจ็บท้องคลอดกลางงานคอนเสิ
‘มีความสุขมากๆ นะแฟนมีต’‘หล่อๆ รวยๆ นะมึง ไอ้ที่รวยอยู่แล้วก็แบ่งกูบ้าง’‘ไว้นัดกินข้าวกันนะมึง’‘แก่ขึ้นอีกปีแล้ว...คิดถึงมึงว่ะ’‘เจอกันที่บริษัทนะเว้ยยย เลี้ยงข้าวกูด้วย’หลากหลายข้อความอวยพรวันเกิดหลั่งไหลเข้ามาในมือถือราคาแพงของแฟนมีต แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจหรือตื่นเต้นเท่ากับเรื่องตรงหน้าของเขาในตอนนี้สักเท่าไหร่ชีวิตคนๆ หนึ่งมันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากับการได้นั่งคุยกับผีแบบนี้“จ้องขนาดนี้สงสัยอะไร”“คุณตายแล้ว”“ผมบอกว่าผมแค่เกือบตาย แต่ยังไม่ตาย”“ตายแล้ววว ตายมานานแล้วด้วย”“แฮร่!!!”“เห้ยยยยยยย”แฟนมีตสะดุ้งโหยงถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆ วิญญาณพาสต้าก็พุ่งตัวเข้ามา“หล่อขนาดนี้ คุณมองผมเป็นผีได้ลงคอเลยเหรอ”“นี่กูต้องฝันอยู่แน่ๆ”“ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ฝัน”“แต่นี่มันไม่ใช่ละครไง คนอะไรจะมาเห็นผีนั่งคุยกับผีแบบนี้ หรือกูบ้าไปแล้ว?”“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ และผมคงต้องย้ำกับคุณอีกรอบ แฟนมีตคุณฟังนะผมยังไม่ตายแต่ร่างผมอยู่ที่ไหนสักที่และคุณคือคนที่ต้องช่วยผมตามหาให้เจอ!”พาสต้าทำเสียงจริงจังพลางมองหน้าแฟนมีตไม่ละสายตาจนอีกฝ่ายเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเขาไ
“แล้วเรื่องที่ผมอาจจะเป็นพ่อคุณ...”“เรื่องนั้นตัดทิ้งไปก่อน ต่อให้คุณเป็นพ่อผมจริงก็คงทำอะไรไม่ได้ผมก็คงจัดการเรื่องคุณให้จบๆ ไป บอกตามตรงผมใช้ชีวิตอยู่กับแม่มานานขนาดนี้ พ่ออาจจะเป็นแค่คนในความทรงจำของผมไปแล้ว”ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แฟนมีตรู้สึกว่ายังมีอีกหลายอย่างที่พาสต้าไม่ได้พูดออกมา“พาสต้าไม่ว่าคุณจะรู้อะไร คิดอะไร หรือมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคุณ คุณต้องเล่าให้ผมฟังเพราะเราจะได้รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน”“อืมม งั้นคืนนี้ผมเล่าเรื่องของผมก่อนจะตายให้ฟังเอาไหมครับ”“ไม่ง่วงหรือไง”“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้นอนมา 25 ปีแล้ว”“งั้นก็หัดนอนซะ ผมเป็นคนและผมต้องการพักผ่อน ส่วนคุณเป็น..เป็นอะไรก็ช่างเหอะ แต่ก็ไม่ควรรบกวนคนอื่น ฉะนั้นแยกย้ายพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”พาสต้าก็กระตุกยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็กๆ ที่แก้มด้านขวา เขาดูเป็นผู้ชายที่รอยยิ้มสวยมากคนหนึ่งก็ว่าได้“เลิกยิ้มหลอนๆแบบนั้นได้แล้วไม่งั้นผมจะไม่ช่วยคุณจริงๆ นะ”“ผมก็แค่ดีใจที่คุณไม่เรียกผมว่าผี”“ผมไปนอนล่ะ ส่วนคุณถ้าไม่นอนก็ช่วยอยู่เงียบๆ ด้วยแล้วกัน”แฟนมีตเดินกลับเข้ามาในห้องนอนปล่อยให้พาสต้ายืนชมวิวด้านนอ
“ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ”“อืม...”“หน้าตายังดูเพลียๆ อยู่เลย อยากนอนต่อก่อนไหม”“ไม่ๆ เดี๋ยวต้องไปทำงาน”แฟนมีตยืดแขนขากลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอย่างที่ชอบทำประจำ เพื่อไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากร่างกายเมื่อคืนก็ดันนอนดึกเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพาสต้า“เห้ยยย”“เอ้า มาตกใจอะไรกันอีก”“เปล่า..ผมแค่ยังไม่ชิน เมื่อกี้งัวเงียอยู่เลยงงๆ นิดหน่อย”“ครับ...ก็น่ารักดี”“ว่าไงนะ”“เปล่าๆ งั้นแฟนมีตทำธุระส่วนตัวเถอะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอบบ้านรอ”หลังจากพูดจบพาสต้าก็เดินทะลุประตูหายไปแฟนมีตพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกกับตัวเองว่าทุดอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ความฝันแต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเริ่มจากใครเพราะเรื่องของพาสต้ามันก็ผ่านมาตั้ง 25 ปีแล้ว เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลยยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจว่าสิ่งที่เขาพยายามจะช่วยเหลืออีกฝ่ายมันจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า:ร้านกาแฟ Penne's Cafe“ไงแฟนมีตหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไหวไหม?”“ไหวครับพี่เพนเน่ผมเอาเหมือนเดิมแก้วหนึ่ง แล้วนี่พายุกับน้ำหนาวยังไม่มาเหรอครับ”“อ๋อไอ้เจ้าแฝดกำลังมาน่ะเห็นว่าวันนี้เข้าสาย อะนี่กาแฟคั่วเข้มขมปี๋ของคุณชายแฟนมีต ตั้ง
“แล้วเรื่องที่ผมอาจจะเป็นพ่อคุณ...”“เรื่องนั้นตัดทิ้งไปก่อน ต่อให้คุณเป็นพ่อผมจริงก็คงทำอะไรไม่ได้ผมก็คงจัดการเรื่องคุณให้จบๆ ไป บอกตามตรงผมใช้ชีวิตอยู่กับแม่มานานขนาดนี้ พ่ออาจจะเป็นแค่คนในความทรงจำของผมไปแล้ว”ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แฟนมีตรู้สึกว่ายังมีอีกหลายอย่างที่พาสต้าไม่ได้พูดออกมา“พาสต้าไม่ว่าคุณจะรู้อะไร คิดอะไร หรือมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคุณ คุณต้องเล่าให้ผมฟังเพราะเราจะได้รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน”“อืมม งั้นคืนนี้ผมเล่าเรื่องของผมก่อนจะตายให้ฟังเอาไหมครับ”“ไม่ง่วงหรือไง”“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้นอนมา 25 ปีแล้ว”“งั้นก็หัดนอนซะ ผมเป็นคนและผมต้องการพักผ่อน ส่วนคุณเป็น..เป็นอะไรก็ช่างเหอะ แต่ก็ไม่ควรรบกวนคนอื่น ฉะนั้นแยกย้ายพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”พาสต้าก็กระตุกยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็กๆ ที่แก้มด้านขวา เขาดูเป็นผู้ชายที่รอยยิ้มสวยมากคนหนึ่งก็ว่าได้“เลิกยิ้มหลอนๆแบบนั้นได้แล้วไม่งั้นผมจะไม่ช่วยคุณจริงๆ นะ”“ผมก็แค่ดีใจที่คุณไม่เรียกผมว่าผี”“ผมไปนอนล่ะ ส่วนคุณถ้าไม่นอนก็ช่วยอยู่เงียบๆ ด้วยแล้วกัน”แฟนมีตเดินกลับเข้ามาในห้องนอนปล่อยให้พาสต้ายืนชมวิวด้านนอ
‘มีความสุขมากๆ นะแฟนมีต’‘หล่อๆ รวยๆ นะมึง ไอ้ที่รวยอยู่แล้วก็แบ่งกูบ้าง’‘ไว้นัดกินข้าวกันนะมึง’‘แก่ขึ้นอีกปีแล้ว...คิดถึงมึงว่ะ’‘เจอกันที่บริษัทนะเว้ยยย เลี้ยงข้าวกูด้วย’หลากหลายข้อความอวยพรวันเกิดหลั่งไหลเข้ามาในมือถือราคาแพงของแฟนมีต แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจหรือตื่นเต้นเท่ากับเรื่องตรงหน้าของเขาในตอนนี้สักเท่าไหร่ชีวิตคนๆ หนึ่งมันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากับการได้นั่งคุยกับผีแบบนี้“จ้องขนาดนี้สงสัยอะไร”“คุณตายแล้ว”“ผมบอกว่าผมแค่เกือบตาย แต่ยังไม่ตาย”“ตายแล้ววว ตายมานานแล้วด้วย”“แฮร่!!!”“เห้ยยยยยยย”แฟนมีตสะดุ้งโหยงถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆ วิญญาณพาสต้าก็พุ่งตัวเข้ามา“หล่อขนาดนี้ คุณมองผมเป็นผีได้ลงคอเลยเหรอ”“นี่กูต้องฝันอยู่แน่ๆ”“ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ฝัน”“แต่นี่มันไม่ใช่ละครไง คนอะไรจะมาเห็นผีนั่งคุยกับผีแบบนี้ หรือกูบ้าไปแล้ว?”“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ และผมคงต้องย้ำกับคุณอีกรอบ แฟนมีตคุณฟังนะผมยังไม่ตายแต่ร่างผมอยู่ที่ไหนสักที่และคุณคือคนที่ต้องช่วยผมตามหาให้เจอ!”พาสต้าทำเสียงจริงจังพลางมองหน้าแฟนมีตไม่ละสายตาจนอีกฝ่ายเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเขาไ
คุณคิดว่าชื่อผมแปลกหรือเปล่า ผมชื่อ “แฟนมีต” มันคือชื่อของผม ชื่อจริงๆ ตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลกประวัติของผมเป็นที่เลื่องลือจนกระทั่งตอนนี้ผมอายุเกือบจะ25แล้ว ผมก็ยังพบเจอภาพบรรยากาศการคลอดของผมลอยอยู่เต็มโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ชื่อดัง ผมไม่ต้องมานั่งถามแม่เลยด้วยซ้ำว่าตอนเกิดผมเป็นยังไง ร้องไห้เสียงดังไหม คลอดง่ายคลอดยาก เพราะผมเห็นด้วยตาของผมเอง ใช่ครับ..พวกคุณอ่านไม่ผิด ที่ผมเห็นทุกอย่างเพราะแม่คลอดผมกลางงานคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้องชื่อดัง!!!กลางงานที่มีคนดูนับพันคน เสียงร้องของผมที่ดังแข่งกับเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ และผมก็ไม่รู้ว่าแม่จะดีใจหรือเสียใจที่ผมคลอดออกมาวันนั้นเพราะมันเป็นวันที่ “พาสต้า” นักร้องในดวงใจของแม่ถูกยิงร่วงกลางงานคอนเสิร์ตเช่นกัน รถพยาบาลสองคันจอดเทียบคู่กันคันหนึ่งรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิด ส่วนอีกคันรับหนึ่งชีวิตที่กำลังจะตาย แล้วผมก็ได้ชื่อนี้มาอย่างไม่มีข้อกังขา ส่วนนักร้องคนนั้นเท่าที่ทราบมาเขาน่าจะเสียชีวิตไปแล้วก่อนจะถึงโรงพยาบาลเสียอีก ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องชื่อประหลาดๆ ของผม จนกระทั่งผมบังเอิญไปเจอคลิปของแม่ที่กำลังเจ็บท้องคลอดกลางงานคอนเสิ