“ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ”
“อืม...” “หน้าตายังดูเพลียๆ อยู่เลย อยากนอนต่อก่อนไหม” “ไม่ๆ เดี๋ยวต้องไปทำงาน” แฟนมีตยืดแขนขากลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอย่างที่ชอบทำประจำ เพื่อไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากร่างกาย เมื่อคืนก็ดันนอนดึกเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพาสต้า “เห้ยยย” “เอ้า มาตกใจอะไรกันอีก” “เปล่า..ผมแค่ยังไม่ชิน เมื่อกี้งัวเงียอยู่เลยงงๆ นิดหน่อย” “ครับ...ก็น่ารักดี” “ว่าไงนะ” “เปล่าๆ งั้นแฟนมีตทำธุระส่วนตัวเถอะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอบบ้านรอ” หลังจากพูดจบพาสต้าก็เดินทะลุประตูหายไป แฟนมีตพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกกับตัวเองว่าทุดอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ความฝัน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเริ่มจากใครเพราะเรื่องของพาสต้ามันก็ผ่านมาตั้ง 25 ปีแล้ว เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลย ยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจว่าสิ่งที่เขาพยายามจะช่วยเหลืออีกฝ่ายมันจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า : ร้านกาแฟ Penne's Cafe “ไงแฟนมีตหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไหวไหม?” “ไหวครับพี่เพนเน่ผมเอาเหมือนเดิมแก้วหนึ่ง แล้วนี่พายุกับน้ำหนาวยังไม่มาเหรอครับ” “อ๋อไอ้เจ้าแฝดกำลังมาน่ะเห็นว่าวันนี้เข้าสาย อะนี่กาแฟคั่วเข้มขมปี๋ของคุณชายแฟนมีต ตั้งใจทำงานนะ” “ขอบคุณครับพี่” เพนเน่ เจ้าของร้านกาแฟที่แฟนมีตเคยมาสมัครทำงาน Part time ช่วงระหว่างที่รอเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาได้ยินพนักงานคุยกันว่าจริงๆ แล้วพี่เพนเน่อายุเยอะแล้ว แต่หน้าเด็กพอๆ กับสาวมหาวิทยาลัยเพราะมียาดี ก็เลยไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเธออายุเท่าไร พอถามก็ได้คำตอบเชิงเล่นมาตลอด แต่เท่าที่สังเกตุดูแฟนมีตเองคิดว่าข่าวที่บอกเพนเน่อายุเกินสี่สิบคือมั่วแน่นอนอย่างมากเธอก็คงเป็นลูกของเศรษฐีแถวนี้ เลยมีทุนมาทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อยอะไรทำนองนั้นมากกว่า “เพนเน่...” เสียงอุทานของพาสต้าดังมาจากด้านหลังของแฟนมีต “มีอะไรเหรอ” “อ๋อเปล่าๆ คุณไปทำงานเถอะครับ ผมขอเดินเล่นเรื่อยเปื่อย เผื่อจะนึกหาวิธีออกว่าเราสองคนควรจะเริ่มทำอะไรกันต่อไป” “อืม..” แฟนมีตทำเพียงตอบรับในลำคอเบาๆ เพราะตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ในที่สาธารณะ จะให้มาพูดคุยกันเหมือนตอนอยู่ที่บ้านก็คงไม่ได้ คนเขาคงได้หาว่าแฟนมีตเป็นคนป่วยแน่ๆ ตลอดทั้งวันแฟนมีตทำงานแทบไม่ได้พัก ยิ่งช่วงปลายปีแบบนี้ งานเก่า งานใหม่ โปรเจคใหญ่ปีหน้า พากันหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด ขนาดพักเที่ยงที่ตั้งใจจะมาจิบกาแฟแสนอร่อยในร้านของเพนเน่ แฟนมีตยังต้องหอบงานเข้ามาทำด้วย “พี่แฟนมีต~” “ว่าไงพายุ” “ผมน้ำหนาวเว้ย เมื่อไรจะแยกออกสักที หน้าผมหล่อกว่าไอ้ยุตั้งเยอะ” “คราวหน้าก็แขวนชื่อสิจะได้เรียกถูก” แฟนมีตถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความขี้โวยวายของแฝดน้องอย่างน้ำหนาว พายุ กับ น้ำหนาว เป็นพี่น้องฝาแฝดที่เหมือนชนิดที่ว่าถ้ายืนหันหน้าเข้าหากันก็ไม่ต่างจากส่องกระจก แฟนมีตพยายามแยกสองคนนี้แต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที และเขาก็จะถูกทั้งสองคนบ่นทุกครั้งที่เรียกชื่อผิดสุดท้ายอาจจะกลายเป็นว่าเขาต้องทำป้ายแขวนชื่อเอาไว้จริงๆ “ว่าแต่มีอะไร” “ก็วันนี้พี่เพนเน่บอกว่าจะปิดร้านเร็ว ก็เลยว่าจะมาชวนไปหาอะไรกินหลังเลิกงานครับ” “วันนี้เหรอ” “ช่ายย เดือนละครั้งเลยนะพี่แฟนมีตที่พี่เพนเน่ปิดร้านเร็วให้พวกผมได้พักหายใจหายคอ” น้ำเสียงน้ำหนาวดูตื่นเต้นกับการปิดร้านเร็วของเพนเน่พอสมควร แฟนมีตจำได้ว่าตอนมาทำงาน Part Time ที่นี่ถึงแม้งานจะค่อนข้างหนัก แต่การที่เพนเน่ปิดร้านเร็วก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจอะไรขนาดนั้น “แล้วทำไมต้องตื่นเต้น” “อ๋อ ตอนนั้นมาทำงานไม่นานก็เลยไม่รู้เรื่องใช่ม่ะ” “เรื่องอะไร?” แฟนมีตทำตาใสใส่น้ำหนาวเพราะตอนนั้นเขาทำงานอยู่ไม่ถึงหกเดือนด้วยซ้ำจะให้เขาไปรู้อะไรมากมาย ลำพังชื่อเมนูกาแฟยังจำได้ไม่หมดด้วยซ้ำ “ก็ที่นี่ เดือนนึงมันจะมีหนึ่งวันที่พี่เพนเน่จะปิดร้านเร็ว เขามีข่าวลือกันว่าเป็นวันที่พี่เพนเน่แกต้องไปนอนแคปซูลรับยา” “ยาอะไร?” “ก็ยาอายุวัฒนะที่ทำให้แกสวยไม่สร่างแบบนี้ไง” “เลอะเทอะ..นี่เพิ่งไปดูกัปตันอเมริกามาใช่ไหม” “เอ้า ก็เขาเล่ากันมาแบบนี้” “เพ้อไปใหญ่ ไม่คุยด้วยละไปทำงานต่อดีกว่า กลับบ้านดีๆ ล่ะ” แฟนมีตเลิกให้ความสนใจประโยคบอกเล่าจากน้ำหนาวแล้วหันไปเก็บข้าวของอันพะรุงพะรังกลับขึ้นที่ทำงานเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานช่วงบ่าย หางตาแอบเหลือบไปเห็นพาสต้าอยู่ในห้องทำงานของเพนเน่แต่มันก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะพอสังเกตุดูดีๆ ก็พบว่ามีเพียงเจ้าของห้องที่อยู่ตามลำพัง “พี่แฟนมีตอย่าเพิ่งไป พี่เพนเน่เรียก” เสียงเด็กหนุ่มตะโกนออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ “อ่อๆ โอเค ขอบใจนะ” แฟนมีตหันไปขอบคุณพายุที่รีบวิ่งออกมาจากห้องทำงานเพนเน่ก่อนจะวางของลงที่เดิมแล้วไปหาเพนเน่ในห้องทำงาน “มาพอดีเลยแฟนมีต รู้แล้วใช่ไหมว่าวันนี้พี่จะปิดร้านเร็ว” “ครับ” “แต่พอดีพวกเอกสารพี่ยังไม่เรียบร้อยแล้วก็มันต้องส่งพรุ่งนี้ด้วย ได้ข่าวว่าเราจบบริหารเกียรตินิยม ช่วยพี่ดูเอกสารหน่อยสิเดี๋ยวพี่ให้ค่าตอบแทน คนอื่นก็เอาแต่หนีเวลาพี่เรียกทำงานไม่คุ้มเงินเดือนเหมือนแฟนมีตสักคน” แฟนมีตเหลือบมองกองเอกสารด้านข้างโต๊ะทำงานของเพนเน่แล้วอดแปลกใจไม่ได้ว่าลำพังแค่ร้านคาเฟ่ เบเกอร์รี่ ทำไมเอกสารมันถึงได้เยอะแยะขนาดนี้ “พี่กวนแฟนมีตหรือเปล่า” “เปล่าครับ...แต่เดี๋ยวตอนบ่ายผมมีงานต้องรีบเคลียร์ให้จบ เอาเป็นว่าช่วงเลิกงานผมแวะมาดูให้ได้ไหมครับ พี่เพนเน่ทิ้งกุญแจไว้ก็ได้ถ้าสะดวก” “ได้สิ เอาตามที่แฟนมีตสะดวกเลย” เพนเน่ส่งยิ้มหวานมาให้ “สงสัยใช่ไหมว่าทำไมเอกสารเยอะขนาดนี้ คือพี่มีธุรกิจอย่างอื่นด้วยเอกสารก็เลยเยอะหน่อย” “อะอ๋อ..ครับ” “ช่วยพี่หน่อยแล้วกันนะ ฝากจัดเข้าแฟ้มด้วย ธุระดันมาตรงกับสิ้นเดือนวุ่นวายไปหมด” “ไม่เป็นไรครับ ช่วงนี้กลับบ้านไปก็ไม่ได้ทำอะไร มานั่งจัดเอกสารแก้เบื่อก็ดีเหมือนกัน” “น่ารักที่สุด งั้นเอาไว้มารับรางวัลเป็นโปรดื่มกาแฟฟรีตลอดปีนะ” แฟนมีตได้แต่พยักหน้าและทำตามที่เพนเน่บอกแล้วเตรียมตัวกลับไปทำงาน ตกเย็นหลังจากเสร็จงานชายหนุ่มก็ได้หยิบกุญแจที่วางแอบไว้ที่ใต้กระถางต้นไม้ตรงป้ายร้านกาแฟมาไขเปิดประตูเข้าไปทันที ถ้าเป็นคนอื่นคงอยากจะรีบกลับบ้านไปพัก แต่เขาเป็นประเภทไม่ค่อยชอบอยู่เฉย และช่วงที่เขามาทำงานที่นี่เพนเน่ก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี อะไรที่พอจะช่วยเธอได้แฟนมีตก็ยินดีช่วยเต็มที่รวมถึงเรื่องนี้ด้วยที่เขาคิดไว้ว่าจะปฎิเสธเงินตอบแทนและรับเป็นกินกาแฟฟรีก็เกินพอ คงจะประหยัดค่ากาแฟไปได้หลายบาท เอกสารหลายฉบับถูกจัดเรียงตามวันที่กองแยกกันไว้จนเกือบเรียบร้อย ตั้งแต่เขารู้จักเพนเน่มาเขาไม่เคยเห็นพี่น้องหรือครอบครัวของเพนเน่เลย แม้แต่แฟนก็ไม่เคยระแคะระคายว่าเธอมี ทั้งๆ ที่เป็นคนสวยครบเครื่องขนาดนี้ จริงๆ มันก็น่าแปลกอยู่ “ไม่กลับบ้านหรือไง” “พาสต้า! ผมต้องบอกคุณกี่ครั้งว่าอย่าโผล่มาแบบนี้” “ผมไม่ได้โผล่มาสักหน่อย ผมยืนอยู่ตั้งนานแล้ว คุณนั่นแหละใจลอยไปไหน คิดถึงเจ้าของร้านคนสวยอยู่หรือไง” พาสต้าเหล่ตามองแฟนมีตอย่างรู้ทัน แต่คำว่า ‘คิดถึง’ ในความหมายของพาสต้ากับเขาคงต่างความหมายกันแน่ๆ : - TBC - #hgdคุณผีที่รัก“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คุณเล่าเรื่องของคุณมาหน่อยสิพาสต้า ผมจะได้รู้ว่าผมควรจะไปเริ่มจากตรงไหนดี”การจัดเอกสารมันก็ดูน่าเบื่ออยู่เหมือนกัน แฟนมีตเลยคิดว่าวิธีการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการฟังชีวิตของพาสต้าเสียเลยและเจ้าตัวก็ดูจะยินดี พร้อมเล่าแทบจะทันที“ผมมีพี่สาวหนึ่งคน น้องสาวหนึ่งคน ผมเป็นลูกชายคนกลางพ่อกับแม่ก็เลยตามใจมากเลยแหละ”แววตาของพาสต้าเป็นประกายในยามที่เขากำลังพูดถึงเรื่องราวในอดีตของตัวเอง“บ้านผมเป็นหมอกันทั้งบ้าน แม่กับพ่อก็เป็นด็อกเตอร์ ผม พี่สาว กับน้องสาวก็ตั้งใจจะเรียนเป็นหมอตามพ่อกับแม่ แต่เพราะผมหล่อมากก่อนเป็นหมอเลยได้มาเป็นดาราซะก่อน”แฟนมีตเบะปากเบาๆ ที่พาสต้ากล้าชมตัวเองโดยไม่สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด ถึงแม้ว่าเขาจะหล่อจริงๆ ก็ตาม“จริงๆ การที่ผมได้มาเป็นนักร้องผมก็ต้องขอบคุณพลอยนะ”พลอยคือชื่อแม่ของแฟนมีต คนเดียวกันกับที่พาสต้ากล่าวอ้างว่าเคยเป็นแฟนกับเขามาก่อน“เกี่ยวอะไรกับแม่ผม” แฟนมีตหันไปถามในทันทีเขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าเรื่องที่พาสต้าบอกว่าเขาเป็นแฟนกับพลอยแม่ของเขามันมีความจริงที่เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนให้พูดตามตรง จนถึงตอนนี้แฟนมีตก็ยังปักใจเชื่อไม
‘อุแว้...’เสียงของชีวิตใหม่ดังขึ้นท่ามกลางความโล่งใจของทีมที่เข้าไปช่วยเหลือเมื่อเห็นว่าทั้งแม่และเด็กปลอดภัยดีดวงตาของคนบนเวทีค่อยๆ ปิดลง พร้อมกับแสงสีขาวที่พุ่งออกมาจากร่างนั้นโดยไม่มีใครเห็นวิญญาณของนักร้องหนุ่มยืนมองเด็กน้อยตรงหน้า ไม่นานรถพยาบาลก็มาถึงคันหนึ่งพาแม่และเด็กออกจากสถานที่จัดคอนเสิร์ตอย่างรวดเร็วอีกคันกำลังใช้ผ้าขาวห่อร่างไร้วิญญาณในคืนงานคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของชีวิต“คุณตายแล้ว”แฟนมีตเอ่ยขึ้นเมื่อฟังเหตุการณ์คืนนั้นจากปากพาสต้าอย่างละเอียด เขายังคิดไม่ออกว่าทำไมพาสต้าถึงบอกว่าตัวเองยังไม่ตาย ในเมื่อเหตุการณ์มันชัดเจนขนาดนั้น“ผมแค่เกือบตาย”“เกือบยังไง”“พ่อกับแม่ผมตามมาในที่เกิดเหตุ ท่านขอจัดการเรื่องรักษาผมด้วยตัวเอง ท่านพาร่างผมไป...ผมรู้แค่นี้”“แล้วทำไมคุณไม่ตามไปตั้งแต่ตอนนั้นจะได้รู้ว่าเขาพาคุณไปไหน”“โลกเรามันไม่ได้มีแค่วิทยาศาสตร์หรอกนะ ยังมีอีกหลายอย่างที่มันอยู่กับเรามานาน”“คุณหมายถึงไสยศาสตร์ มนต์ดำอะไรพวกนั้นเหรอ”พาสต้าพยักหน้าตอบรับช้าๆ“พ่อผมท่านเคยไปต่างประเทศเพื่อร่ำเรียนวิชาอะไรพวกนี้มาบ้าง ผมอาจจะไม่ใช่ผีเพราะผมยังไม่ตาย แต่ผมก็คือจิตหรือว
“ไอ้ฟ้า มึงอยู่บ้านหรือเปล่า““อยู่ๆ มีอะไรวะ”“ไม่มีอะไรแค่เบื่อ เดี๋ยวกูแวะไปหา”แฟนมีตกดโทรศัพท์มือถือไปหา ‘ขอบฟ้า’ เพื่อนสนิทที่มีชื่อชวนให้แปลกใจไม่ต่างกันขอบฟ้าเคยบอกแค่สั้นๆ ว่าพ่อกับแม่ของเขาเจอกันที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ในวันที่มีนักร้องดังไปร้องที่นั่น ซึ่งก็น่าจะเป็นวันเดียวกันที่เขาถูกใครสักคนส่งลงมาเกิดพอดิบพอดีแต่ถึงอย่างไร ทุกวันนี้แฟนมีตยังคงเชื่อมั่น ว่าความเป็นมาของชื่อคนรอบตัวเขาไม่มีใครน่าจดจำไปได้มากกว่าตัวเขาเองอีกแล้วและเพราะเรื่องราวการเกิดของเขาในตอนนั้นมันก็ทำให้ชีวิตตอนนี้ของแฟนมีตเองจับต้นชนปลายไม่ถูกเช่นกัน“มีตจะไปไหนลูก เพิ่งกลับมาเอง”พลอยที่กำลังเตรียมตั้งโต๊ะอาหารเย็นหันไปเห็นลูกชายของเธอสะพายกระเป๋าลงมาจากห้องนอน“คืนนี้มีตไปนอนบ้านไอ้ฟ้า แม่ไม่ต้องรอนะ มีตขอไปอยู่เงียบๆ สัก 2-3 วัน แล้วเดี๋ยวจะกลับมา”ถ้าใครมาเห็นภาพนี้ก็คงจะมองว่าแฟนมีตดูเป็นลูกที่ใจร้าย แต่สำหรับเขามันก็คงจะดีกว่าการที่เขาต้องมาทนมองหน้าแม่ของตัวเองแล้วรู้สึกไม่สนิทใจเพราะไม่รู้ว่าเธอกำลังมีเรื่องราวความลับอะไรที่ปิดบังไว้อีกหรือเปล่าเขาแค่อยากห่างออกไปตั้งสติคิดทบทวนดู บางทีมัน
‘ก๊อกๆๆ’เสียงเคาะประตูดังขึ้น“ทำอะไรอยู่วะ แม่กูให้เอานมอุ่นมาให้”นี่ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ทำให้แฟนมีตชอบมาที่นี่ เพราะคนที่บ้านนี้ดูแลเขาเป็นอย่างดี“กูก็กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”“แล้วไอเรื่องที่คิด มึงพร้อมเล่าให้กูฟังหรือยัง”แฟนมีตยกแก้วนมอุ่นขึ้นดื่ม สายตาเหลือบมองเพื่อนสนิทเล็กน้อย“ไอ้ฟ้า มึงชอบดูพวกหนังผีหนังวิทยาศาตร์ใช่ไหม”“ถามทำไมวะ มึงอยากดูหนังหรอ”“เปล่า คือ..มึงว่าวิญญาณคนเราออกจากร่างมาโดยที่ยังไม่ตายได้หรือเปล่า”“ก็น่าจะได้นะ แบบพวกพระอาจารย์ถอดจิตในหนังไทยไงมึง”แฟนมีตเองก็ไม่เข้าใจว่าตอนนี้เขากำลังมานั่งถามเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ แต่มันก็คงดีกว่าจมอยู่กับความเงียบ ให้ถือเสียว่าหาเรื่องคุยเรื่อยเปื่อยระหว่างที่นอนไม่หลับ“แล้วมึงว่าถ้าเขาออกจากร่างมานานหลายปี ร่างเขาจะไม่เน่าเปื่อยเหรอวะ”“นี่มึงจริงจังมากไหมกูจะได้ตอบถูก”ขอบฟ้าหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ตัวสีขาว มือหยิบนมอุ่นที่แฟนมีตเพิ่งจะดื่มไปเมื่อครู่กระดกที่เดียวจนหมดแก้ว“คือถ้าให้พูดตามเนื้อหาหนังมันเป็นไปได้หมดแหละมึง แวมไพร์ยังหล่อเท่ คนติดเรือกลางทะเลกับเสือยังไม่โดนเสือแดก เอเลี่ยนมารวมร่างกับคนกระโดดลงบ่อไป
“เราควรจะเริ่มจากตรงไหนดี”“พ่อกับแม่ของผม”“เขาคือใคร ชื่ออะไร และเขาอยู่ที่ไหน”“พ่อผมชื่อภานุ ส่วนคุณแม่ชื่อเรนิสา ทั้งสองคนเป็นหมอภาควิชาพิเศษ ผมมีพี่สาวหนึ่งคนและน้องชายหนึ่งคน เรื่องอื่นๆ นับตั้งแต่วันที่ผมถูกยิงบนเวที ผมก็ไม่ได้เจอพวกเขาอีกเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”พาสต้าพยายามนึกถึงเรื่องราวของตัวเองเท่าที่พอจะจำได้มันเหมือนมีบางอย่างที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ที่ทำให้เขาคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก“เรื่องมันผ่านมา25ปีแล้วไม่รู้ป่านนี้พ่อกับแม่ของผมท่านจะเป็นยังไงบ้าง”“นั่นซิ ผ่านมานานขนาดนั้น แต่ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวผมลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตดู ต่อให้มันจะนานแค่ไหนถ้าเป็นถึงพ่อกับแม่ของนักร้องชื่อดังผมเชื่อว่าเราน่าจะเจอได้ไม่ยาก”แฟนมีตพิมพ์ชื่อของพาสต้าลงไปในช่องค้นหาของเว็บไซต์ชื่อดังข่าวส่วนใหญ่ที่ปรากฎอยู่ล้วนแต่เป็นภาพการเสียชีวิตของเขา รวมถึงผลงานบางส่วนที่ผ่านมาน่าแปลกที่ไม่ว่าแฟนมีตจะพยายามค้นหาเรื่องครอบครัวของพาสต้าเท่าไหร่ ข้อมูลที่ควรจะได้พบกลับไม่ได้เป็นประโยชน์เพิ่มเติมขึ้นมาเลยสักนิดพ่อ แม่ พี่และน้อง ไม่แม้แต่จะมีภาพถ่ายให้เขาได้เห็น หรือแม้แต่ข้อมูลอื่นๆ ก็ไม่ปรา
“ลมพายุลูกไหนพัดพี่แฟนมีตสุดหล่อมาได้ครับเนี่ย ถึงกับส่งข้อความมาชวนผมกับพี่พายุกินข้าว”สองพี่น้องฝาแฝดมาถึงร้านอาหารตามเวลานัดหมาย โดยที่แฟนมีตเลือกร้านอาหารที่อยู่แถวๆ บ้านของขอบฟ้าซึ่งไม่ได้ไกลจากที่ทำงานสักเท่าไหร่“ก็วันก่อนนายสองคนมาชวนแล้วพี่ไม่ว่างไงวันนี้ก็เลยจะไถ่โทษให้ อยากกินอะไรก็สั่งได้เลยนะตามสบาย”“ผมว่าพี่มีพิรุธนะ” น้ำหนาวหรี่ตามองแฟนมีตอย่างจับผิด“อะไร คนอยากเลี้ยงข้าวมันต้องมีอะไรน่าสงสัยด้วยหรือไง”“พี่ยิ่งพูดแบบนี้ผมยิ่งเห็นด้วยกับพี่พายุมันแล้วนะ บอกมาตามตรงเลยดีกว่าว่าพี่ต้องการอะไร ไม่งั้นผมสองคนกลับ” น้ำหนาวเตรียมดึงแขนพี่ชายให้ลุกออกจากโต๊ะ“เออๆ แค่มีเรื่องอยากคุยด้วย แต่ก็ตั้งใจจะเลี้ยงข้าวด้วยเหมือนกัน กินข้าวก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกที”“ก็แค่นั้น”เพราะโดยนิสัยแฟนมีตก็ไม่ใช่คนที่จะเล่นละครโกหกตบตาใครได้อยู่แล้ว อีกอย่างการยอมรับความจริงสำหรับแฟนมีตก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ถึงยังไงเขาก็เชื่อว่าเขาสามารถไว้ใจพายุกับน้ำหนาวได้“วันนี้มีแต่คนแปลกๆ เต็มไปหมด”หลังจากสั่งอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อย น้ำหนาวที่นั่งจ้องหน้าแฟนมีตอยู่นานก็พูดขึ้น“ใครเหรอที่ว่าแปลก
“เป็นไงบ้างไปคุยกับเพื่อนคุณมาได้เรื่องอะไรบ้างไหม”“ก็เยอะพอสมควร”ทันทีที่แฟนมีตกลับมาที่บ้านขอบฟ้า เขาก็เจอกับพาสต้าที่นั่งรอเขาอยู่ในห้องนอนก่อนแล้ว“คุณเคยบอกผมว่าพ่อกับแม่คุณเป็นหมอแล้วเขาทำการทดลองเก็บร่างของมนุษย์เอาไว้โดยที่ทำให้มันไม่เน่าเปื่อยใช่ไหม”“ใช่ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ เพราะบอกตามตรงความทรงจำในหัวของผมมันผุดขึ้นสลับกันไปมา ผมต้องปะติดปะต่อหลายๆ อย่างเข้าด้วยกันก็เลยพอรู้และก็จำได้แค่บางส่วนเท่านั้น”พาสต้าพยายามนึกคิดเรื่องราวของเขาในช่วงที่ตัวเองมีชีวิตอยู่ แต่บางอย่างมันก็กลับตกหล่นสูญหายเหมือนมีใครบางคนเข้าไปลบความทรงจำในตอนนั้นออกไป“คุณบอกคุณมีน้องชายกับพี่สาวด้วยถูกไหม”“ใช่ครับ”“แต่คุณจำชื่อกับหน้าเขาสองคนไม่ได้”“ครับ ทำไมเหรอครับ”“บางมีมันอาจจะเป็นผลมาจากตอนที่คุณมีชีวิตอยู่”“คุณกำลังจะบอกอะไรผมกันแน่?”แฟนมีตนั่งคิดทบทวนเรื่องที่พายุและน้ำหนาวเล่าให้เขาฟัง ประกอบกับเรื่องของพาสต้าที่เจ้าตัวพูดกับเขาเอาไว้ในวันแรกที่ได้เจอกันก่อนที่เขาจะลองเชื่อมโยงความน่าจะเป็นที่พอจะเกิดขึ้นได้ของทั้งสองคนเข้าด้วยกัน“พ่อกับแม่คุณอาจจะให้คุณลองใช้ยาบางอย่างในการทดลองของพวกเข
“มีต กลับมาแล้วเหรอลูก”“ครับแม่ แล้วน้ากิ่งไปไหนเหรอครับ”ทันทีที่ได้ยินเสียงรถของลูกชายเลี้ยวมาจอดในตัวบ้าน พลอยก็รีบวางมือจากงานบ้านทุกอย่างแล้วออกมาเจอหน้าลูกชายของเธอทันที“มีตไม่โกรธแม่แล้วใช่ไหมลูก แม่ขอโทษที่แม่โกหกมีตเรื่องพาสต้า แต่แม่ยืนยันได้นะลูกว่าแม่กับพาส..”“พอก่อนนะครับแม่ ผมยังไม่อยากคุยอะไรเรื่องนี้ ผมเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ขอตัวไปพักก่อน”“ได้เลยลูก ไปอาบน้ำอาบท่านอนพักนะ แล้วเดี่ยวแม่กับน้ากิ่งทำมื้อเย็นเสร็จจะขึ้นไปเรียก”“ขอบคุณครับ”พลอยไม่อยากซักไซ้อะไรลูกชายของเธอมากแค่ช่วงที่เขาไม่อยู่เธอเองก็เป็นห่วงจนไม่เป็นอันกินอันนอน และการที่แฟนมีตยอมกลับมาบ้านสำหรับเธอ มันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วส่วนเรื่องอื่นๆ เธอเองก็ไม่อยากพูดถึงด้วยเช่นกัน ถ้าหากมันไม่จำเป็น“พาสต้าอยู่หรือเปล่า”“อยู่ครับ” พาสต้าปรากฏตัวขึ้นที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งของแฟนมีต“พรุ่งนี้ผมจะไปที่โรงเรียนมัธยมของเฟลเล่ คุณจะไปกับผมไหม”“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนมันอยู่ที่ไหน”“ก็จากตราบนชุดนักเรียนของเขานั่นแหละมันเคยเป็นโรงเรียนชายล้วนแล้วก็อยู่ไม่ได้ไกลจากที่ทำงานผมเท่าไหร่”“แล้วคุณจะไปทำอะไร”“
“มีตกลับมาแล้วเหรอลูกแม่เห็นข่าวเรื่องที่บ้านของพาสต้า มีตไม่เป็นอะไรใช่ไหม”“ผมสบายดีครับแม่”พลอยแทบไม่เป็นอันทำอะไรในตอนที่ข่าวหน้าจอทีวีกำลังรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเพียงสิงขรเธอสังหรณ์ใจว่าลูกชายของเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พอได้เห็นว่าแฟนมีตปลอดภัยดีเธอจึงยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ“ว่าแต่แม่เถอะครับเป็นไงบ้างผมไม่อยู่ตั้งสามวัน” “แม่จะเป็นอะไร ก็สบายมากๆ เลยไงมีทั้งน้ากิ่ง อาเวลมาช่วยดูแลแม่อยู่ตั้งสองคน”“จริงเหรอครับแล้วตอนนี้น้ากิ่งเขาอยู่ที่ไหน”แฟนมีตมองไปรอบๆ บ้าน เห็นแค่เพียงเวลที่กำลังนั่งซ่อมวิทยุตัวเก่งให้แม่ของเขาอยู่ที่มุมห้อง“เหมือนจะอยู่ในห้องนอนนะเห็นว่าเข้าไปหาอะไรสักอย่าง”“งั้นเหรอครับ ขอไปทักทายสักหน่อยดีกว่าจะได้รู้ว่าหลานรักกลับมาแล้ว”แฟนมีตเดินตรงไปยังห้องรับรองที่เขาเป็นคนจัดเอาไว้เพื่อให้กิ่งแก้วใช้เป็นที่นอนชั่วคราวระหว่างรอต่อเติมบ้าน“น้ากิ่งเขาไม่อยู่แล้วนิครับ เสื้อผ้าก็ไม่มี”“หมายความว่ายังไงลูก”“เป็นไปได้ยังไงก็ก่อนที่พลอยจะเข้าไปล้างจานในครัวอายังเห็นเขาอยู่ในห้องเลยนะ”พลอยกับเวลรีบตามลูกชายเข้าไป ถึงได้เห็นว่าภายในห้องไม่มีแม้แต
“พาสต้าคุณโอเคหรือเปล่า”หลังจากที่น้ำหนาวและพายุขอตัวกลับ แฟนมีตก็รีบขึ้นมาดูอาการของพาสต้าทันที“ดีขึ้นแล้วครับ เป็นยังไงบ้างน้ำหนาวกับพายุได้เรื่องหรือเปล่า”“ยิ่งกว่าได้เรื่องอีก อย่างแรกผมกู้คืนคลิปวิดีโอจากในมือถือตัวเองได้แล้วนะ ตอนนี้ผมเก็บไฟล์ทั้งหมดใส่ไดร์ฟเรียบร้อยแล้ว”แฟนมีตพูดพร้อมกับโชว์แฟลชไดร์ฟสีดำในมืออันเป็นหลักฐานสำคัญ“ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องเครื่องติดตามพี่เพนเน่มีตัวส่งสัญญาณอีกหนึ่งตัวที่พายุเก็บเอาไว้ ตอนนี้กำลังดูว่าสัญญาณรถของพี่เพนเน่จะไปอยู่ที่ไหน”“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป”“หลังจากที่ผมแน่ใจแล้วว่าของทุกอย่างในโกดังมันถูกย้ายไปไว้ที่ไหน ผมจะส่งเรื่องทั้งหมดให้กับตำรวจและให้เขาเข้าไปจัดการ ถึงตอนนั้นคุณน่าจะเข้าไปใกล้ร่างของคุณได้แล้ว”แฟนมีตบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่พาสต้ากลับดูท่าทางคิดหนัก ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นสิ่งที่เขารอคอยมันมาตลอด แต่เวลานี้เขากลับดูไม่ได้ดีใจกับมันเสียเลย“คุณต้องรีบหาวิธีกลับเขาร่างให้เร็วที่สุด คุณสัญญากับผมได้ไหมพาสต้า”“สัญญาอะไรเหรอครับ”“คุณต้องกลับเข้าร่างของคุณให้ได้นะ มันไม่ใช่เพราะว่าผมอุตส่าห์ลงทุนช่วยคุณมาถึงตอนนี้”“แล้ว
“ตื่นแล้วเหรอแฟนมีต”“กี่โมงแล้ว”“น่าจะเกือบเที่ยงได้แล้วมั้ง”“อะไรนะ นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ”แฟนมีตรีบเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนทันทีแม้จะยังรู้สึกเจ็บกับบาดแผลตามลำตัวอยู่เล็กน้อยก็ตาม“คงเพราะว่าคุณเพลียมากนั่นแหละ ตอนเช้าขอบฟ้าเข้ามาดูอาการคุณไปรอบหนึ่งแล้วนะเห็นบ่นว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนี้เลยไม่มีใครอยู่บ้านสักคน”พาสต้าจัดการไล่เรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนที่แฟนมีตนอนหลับให้เขาฟัง“แล้วที่ร้านพี่เพนเน่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”“ผมไปมาแล้ว ร้านปิดแถมยังขึ้นป้ายว่าปิดไม่มีกำหนดอีกต่างหาก”“อะไรนะคนอย่างพี่เพนเน่เหรอจะมาปิดร้านอย่างไม่มีกำหนดแบบนี้”“ก็คงมาจากเรื่องที่คุณบุกเข้าไปในโกดังเขาเมื่อคืนนั่นแหละ ตอนนี้ที่โกดังไม่มีใครอยู่เลยสักคน”พาสต้าใช้เวลาในช่วงที่แฟนมีตได้พักผ่อนออกไปตรวจสอบทุกที่มาจนหมดเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเขาปล่อยให้แฟนมีตมาจัดการเรื่องนี้อยู่คนเดียว และมันก็ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดพยายามทำลายหลักฐานเพื่อหนีความผิดในครั้งนี้“เป็นไปได้ยังไง?”“พวกเขาย้ายออกจากที่นั่นไปแล้ว ไปพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหมดของโกดังน่าจะขนออกไปต
“อาเวลครับแม่หลับไปแล้วหรือยังครับ”แฟนมีตไม่กล้ากลับไปที่บ้านของตัวเองในเวลานี้จึงตัดสินใจมาที่บ้านของขอบฟ้าแทน‘พลอยหลับไปแล้ว อาบอกว่ามีตจะไปค้างบ้านเพื่อนพลอยเขาพยายามโทรหามีตตั้งหลายสายแต่ก็ไม่มีคนรับ’“พอดีผมทำโทรศัพท์หายครับอา นี่ผมก็มายืมโทรศัพท์ไอ้ฟ้ามันจะโทรมาฝากอาบอกแม่ด้วยแล้วกันนะครับว่าผมขออยู่บ้านฟ้ามันสักสองสามวัน พอดีฟ้ามันให้มาช่วยงาน”‘แน่ใจนะมีตว่าเราไม่ได้เป็นอะไร’เพราะน้ำเสียงแฟนมีตที่ตะกุกตะกักผิดปกติ ทำให้เวลจับผิดได้ไม่ยากว่าคนปลายสายกำลังโกหกเขาอยู่“นะครับอาทำตามที่ผมบอก”‘ก็ได้ แต่จบเรื่องนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ’“ว่าแต่ทางนั้นมีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่าครับ”เมื่อเห็นว่าเวลยอมให้ความร่วมมือ แฟนมีตจึงถามถึงเรื่องสำคัญที่ฝากเอาไว้ทันที‘ก็ไม่มีนะ กิ่งแก้วดูปกติดีไม่ได้ทำอะไร จะมีก็แค่เขาดูไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยที่อามาอยู่ที่นี่’“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขอร้องให้อาหาเรื่องอยู่ที่บ้านนั้นกับแม่ไปก่อนจนกว่าผมจะกลับไป”‘มีตจะให้อาทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ’“ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ แล้วครับอา และผมก็มีอีกเรื่องสำคัญที่จะฝากให้อาช่วย”ด้วยทุกอย่างมันผิดจากแผนเดิมไปจนหมด และแ
แฟนมีตเดินลัดเลาะไปที่ด้านหลังของโกดังซึ่งอยู่ติดกับทุ่งนาของชาวบ้านรั้วสูงถูกพันเอาไว้ด้วยลวดหนาม เป็นหนทางเดียวที่เขาจะสามารถเข้าไปด้านในได้ และเขาต้องยอมเสี่ยงแฟนมีตสำรวจไปรอบๆ เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่มีใครมาเจอตัวของเขาก่อนที่เขาจะเข้าไปในโกดังได้หนามจากลวดเกี่ยวเข้าที่แขนและขาของชายหนุ่มจนเป็นรอยยาว โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงสามารถข้ามเข้ามาในฝั่งของโกดังได้อย่างปลอดภัย“คุณแม่มาถึงหรือยัง”“ด็อกเตอร์กำลังเดินทางมาครับ อีกประมาณ 15 นาทีจะถึง เห็นท่านแจ้งว่าวันนี้รถค่อนข้างติด”ผู้ชายวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับเพนเน่ที่ด้านหลังโกดังซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นที่จอดรถ ชายคนนั้นสวมชุดขาวคล้ายกับชุดป้องกันรังสีเหมือนในภาพยนต์ที่เคยเห็น“ก็จริง กว่าฉันจะมาถึงได้ก็เสียเวลาไปหลายนาทีอยู่ แล้วข้างในเป็นยังไงบ้าง”“ด็อกเตอร์สั่งปรับสูตรยาตัวใหม่ให้มีประสิทธิภาพที่แรงขึ้นกว่าเดิมสองเท่าครับ”“สองเท่าเองเหรอ?”“ใช่ครับ ฟังดูมันอาจจะน้อยนะครับคุณเพนเน่ แต่สองเท่าสำหรับยาสูตรนี้ถ้าหากเป็นคุณเพนเน่คนเดิมที่เพิ่งเคยใช้ยาตัวนี้เป็นครั้งแรกอาจจะไม่ต้องใช้ยาไปอีกเลยถึงสามเดือน”ผู้ดูแลอวดอ้างสรรพ
แฟนมีตหลับสนิทไปแล้ว ส่วนพาสต้ายังคงนอนตะแคงมองใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นถ้าวันหนึ่งเขากลับเข้าร่างไปได้ เขาจะมีโอกาสมาอยู่แบบนี้อีกหรือเปล่า แฟนมีตจะหายไปจากชีวิตของเขาไหม หรือเขาจะต้องไปอยู่ที่ไหนกันแน่เรื่องที่เรนิสากับภานุทำเอาไว้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าความจริงถูกเปิดเผยพ่อกับแม่ของเขาก็คงต้องไปชดใช้ความผิดตามกฎหมายที่ไม่รู้ว่ามันจะหนักหนามากสักแค่ไหนแต่ที่แน่ๆ มันอาจจะนานมากพอที่จะทำให้ยาอายุวัฒนะที่อยู่ในร่างกายของคนพวกนั้นหมดฤทธิ์แล้วธรรมชาติก็จะได้กลับมาทำหน้าที่ของมัน..:“แม่คะ หนูรู้สึกว่ายารอบนี้ประสิทธิภาพมันลดลงนะคะ”เพนเน่กลับมาจากร้านกาแฟ เธอรีบตรงไปหาเรนิสาที่ห้องทำงานทันที หลังจากที่เธอเจอความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย“เกิดอะไรขึ้น?”“คือหลังจากหนูรับยาไปได้ 1 สัปดาห์ร่างกายก็เริ่มรู้สึกอ่อนเพลียแล้วก็เหมือนมันจะมีอาการคล้ายๆ กับเวลายามันหมดฤทธิ์”“เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อตัวยานี้มันสามารถดูดซึมอยู่ในร่างกายถึง 1 เดือนหรือเพราะมีอะไรผิดพลาด”เรนิสาถอดแว่นตาออกก่อนจะเดินรอบๆ ตัวของลูกสาวเธอเพื่อสำรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้น“หนูเองก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะแม่ แต่มันเป็นแบบน
“สวัสดีครับน้ากิ่ง”“ว่าไงแฟนมีต ขอน้ามาอยู่ด้วยชั่วคราวนะ”หลังจากที่แฟนมีตกับพาสต้ากลับมาถึงบ้านได้ไม่นาน กิ่งแก้วก็มาพอดีพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่สองใบในมือ“ครับ แม่เขาบอกผมแล้วว่าบ้านน้ากิ่งกำลังต่อเติมเลยจะมาขออยู่ด้วย ผมจัดห้องนอนไว้ให้แล้วนะครับ น้ากิ่งเอาของเข้าไปเก็บไว้ห้องก่อนได้เลย”“แล้วเย็นนี้น้ากิ่งอยากกินอะไรไหมครับ”“เดี๋ยวน้าทำให้ดีกว่าไหม”“ไม่เป็นไรครับผมว่าผมทำเองดีกว่า น้ากิ่งมาเหนื่อยๆ วันนี้แม่ก็ไปข้างนอกมาดูเพลียๆ ไปพักเถอะครับเดี๋ยวผมจัดการให้”“ก็ได้จ้า งั้นน้ากินอะไรก็ได้แล้วแต่มีตเลย”กิ่งแก้วหิ้วกระเป๋าเดินหายไปในห้องรับรองชั้นล่าง ส่วนแฟนมีตที่พยายามอดกลั้นความรู้สึกเสียใจเอาไว้ได้แต่บอกตัวเองว่าต้องทำตามแผนให้สำเร็จ เพราะเขาไม่รู้เลยว่าเรื่องยาที่พาสต้าไปได้ยินมา มันจะเป็นผลดีหรือผลเสียต่อแม่ของเขาอย่างไร“มีตทำอะไรเหรอลูก?”พลอยที่ตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นเดินเข้าไปหาลูกชายในครัว“กำลังเตรียมมื้อเย็นครับแม่”“ทำไมไม่ปลุกแม่ล่ะ มาเดี๋ยวแม่ทำเอง”“ไม่เป็นไรครับ วันนี้แม่ดูเพลียๆ ให้ผมทำให้ดีกว่า”พลอยเตรียมจะไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ แต่ก็ถูกลูกชายดึงคืนไปเสียก่อนพ
“เป็นน้ากิ่งจริงๆ เหรอเนี่ย..”แฟนมีตทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขก หลังจากที่ทุกๆ อย่างมันอยู่เหนือความคาดหมายที่เขาคิดเอาไว้“ผมบอกตามตรงนะพาสต้าผมพยายามจะไม่เชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง คุณอาจจะเข้าใจอะไรผิด แต่ตอนนี้ผมหลอกตัวเองต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว”“ใจเย็นๆ ก่อนนะแฟนมีต ผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องบ้าพวกนี้มันจะไปจบลงที่ตรงไหนกันแน่ ตอนนี้ผมเองก็สับสนไปหมด”“แล้วเมื่อเช้าพวกเขาคุยอะไรกันบ้าง”“ตอนผมไปถึงเขาก็คุยกันไปได้สักพักแล้วแต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่าน้าของคุณคงไม่ใช่แค่คนรู้จักของคนที่บ้านผมแน่ๆ”“ทำไมคุณคิดแบบนั้น?”“จากที่ฟังเมื่อเช้าที่พวกเขาคุยกันบนโต๊ะอาหารผมว่าบางทีพวกเขาอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือข้อตกลงอะไรกันมาก่อน ไม่อย่างนั้นจู่ๆ พ่อกับแม่ของผมจะฝากให้พี่เพนเน่เอายามาให้กิ่งแก้วทำไม”ยาขวดสีน้ำตาลลักษณะเป็นน้ำใสๆ ที่พาสต้าคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาเคยเห็นมาจากที่ไหนสักแห่งแต่ตอนนี้เขาเองยังนึกไม่ออกและเพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการ เขาจึงหันมาให้ความสนใจเรื่องของกิ่งแก้วในเวลานี้แทน“มันก็น่าจะเป็นแบบนั้น แต่ที่สำคัญคือยาที่น้ากิ่งเขาไปเอามามันคือยาอะไร”“จะเป็นยาอะไรผมว่าเดี๋
“พาสต้าได้เรื่องอะไรมาบ้างหรือเปล่า”แฟนมีตนั่งรออยู่นาน จนกระทั่งพาสต้าปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของพาสต้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก“ได้มาเยอะมากเลย อย่างแรกเมื่อเช้าพลอยเขาได้บอกหรือเปล่าว่าเขาจะออกไปไหน”“ก็ตั้งแต่เมื่อคืนพอคุยกับอาเวลจบผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับแม่อีกเลย”“งั้นเรารีบไปที่ร้านกาแฟของเพนเน่เถอะพลอยกำลังไปที่นั่น”“แม่รู้จักพี่เพ่นเน่ด้วยเหรอ”“ถ้ามาถึงขนาดนี้ผมว่าเขาก็คงรู้จักกันแล้วแหละ เราไปดูให้เห็นกับตาดีกว่าว่าจริงเท็จแค่ไหน ก่อนที่มันจะไม่ทัน”แฟนมีตรีบออกรถทันทีที่ได้รับข่าวเรื่องของแม่ตัวเองถึงแม้พลอยจะบอกว่าเธอเป็นเพื่อนกับพาสต้าแต่เพราะครอบครัวพาสต้าค่อนข้างเก็บตัวและตัวพลอยเองก็ไม่เคยเล่าว่าเธอรู้จักพี่สาวของพาสต้ามาก่อนที่สำคัญถ้าแม่ของเขารู้จักกับเพนเน่จริง เรื่องที่มีข่าวว่าเพนเน่ใช้ยาอายุวัฒนะกับเรื่องที่พาสต้าหายตัวไป พลอยเองก็อาจจะไปรู้หรือเห็นอะไรมามากกว่าที่เธอเคยเล่าให้ลูกชายฟัง:“ไงพลอยไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”“พี่เพนเน่ก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ”วันนี้เป็นวันหยุดของพนักงานบริษัท ลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้านจึงไม่ได้หนาแน่นสักเท่าไหร่พลอยมานั่งรอเพนเน่ตั้งแต่