“แล้วเรื่องที่ผมอาจจะเป็นพ่อคุณ...”
“เรื่องนั้นตัดทิ้งไปก่อน ต่อให้คุณเป็นพ่อผมจริงก็คงทำอะไรไม่ได้ผมก็คงจัดการเรื่องคุณให้จบๆ ไป บอกตามตรงผมใช้ชีวิตอยู่กับแม่มานานขนาดนี้ พ่ออาจจะเป็นแค่คนในความทรงจำของผมไปแล้ว”
ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แฟนมีตรู้สึกว่ายังมีอีกหลายอย่างที่พาสต้าไม่ได้พูดออกมา
“พาสต้าไม่ว่าคุณจะรู้อะไร คิดอะไร หรือมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคุณ คุณต้องเล่าให้ผมฟังเพราะเราจะได้รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน”
“อืมม งั้นคืนนี้ผมเล่าเรื่องของผมก่อนจะตายให้ฟังเอาไหมครับ”
“ไม่ง่วงหรือไง”
“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้นอนมา 25 ปีแล้ว”
“งั้นก็หัดนอนซะ ผมเป็นคนและผมต้องการพักผ่อน ส่วนคุณเป็น..เป็นอะไรก็ช่างเหอะ แต่ก็ไม่ควรรบกวนคนอื่น ฉะนั้นแยกย้ายพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
พาสต้าก็กระตุกยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็กๆ ที่แก้มด้านขวา เขาดูเป็นผู้ชายที่รอยยิ้มสวยมากคนหนึ่งก็ว่าได้
“เลิกยิ้มหลอนๆแบบนั้นได้แล้วไม่งั้นผมจะไม่ช่วยคุณจริงๆ นะ”
“ผมก็แค่ดีใจที่คุณไม่เรียกผมว่าผี”
“ผมไปนอนล่ะ ส่วนคุณถ้าไม่นอนก็ช่วยอยู่เงียบๆ ด้วยแล้วกัน”
แฟนมีตเดินกลับเข้ามาในห้องนอนปล่อยให้พาสต้ายืนชมวิวด้านนอกเพียงลำพัง
:
:
สองชั่วโมงต่อมา
“แฟนมีตนอนไม่หลับเหรอครับ”
“เห้ย...พาสต้า!!!”
“ทำไมต้องตกใจ”
“ถ้าบอกว่าตัวเองไม่ใช่ผีก็ช่วยอย่าทำตัวเหมือนผีจะได้ไหม”
“แล้วทำไมแค่นี้ต้องเสียงดังด้วย ผมแค่ถามเอง”
“แล้วจู่ๆ โผล่มาทำไม”
“ก็ผม..”
“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง”
พาสต้าเอียงคอมองหน้าแฟนมีต ไม่ต่างจากลูกหมาเชื่องๆ ที่กำลังสงสัยในประโยคที่เขากำลังพูดออกไป
“ก็ผมนอนอยู่กับคุณมาตั้งนาน มาตกใจอะไรเอาตอนนี้”
“นอนมาตั้งนาน หมายถึงอะไร”
แฟนมีตชันตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียง ส่วนพาสต้ากำลังนอนกลิ้งไปมาบนที่นอนอย่างสบายใจ
“ก็ตั้งแต่วันแรกที่คุณอยู่บ้านนี้ผมก็อยู่กับคุณตลอด เคยบอกไปแล้วว่าเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันแรกที่คุณเกิด”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับห้องนอนผม”
“ก็ผมก็อยู่ข้างๆ คุณตลอดไง ตอนกิน ตอนนอน ตอนอึ ตอนฉี่ ตอน..”
“พอๆๆๆๆ นี่เป็นแม่ซื้อหรือไง ตามติดผมขนาดนี้เนี่ย”
แฟนมีตต้องรีบยกมือห้ามเพราะเกิดรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาที่จู่ๆ วันหนึ่งก็ได้มารู้ว่าทุกๆ เวลาในช่วงชีวิตเขามีอีกหนึ่งคนเฝ้ามองดูอยู่ตลอด...
“ตอนอาบน้ำด้วยหรือเปล่า?!?”
“เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ยย”
“ก็แค่ถามดูเฉยๆ”
แฟนมีตเผลอสบตากับพาสต้าอีกครั้ง...
“หรือว่าตอนนั้นคุณก็มองเห็นผมเหรอ เขาว่าเด็กชอบมีสัมผัสพิเศษ”
“เลอะเทอะ!”
แฟนมีตตัดบทเพราะรู้สึกยิ่งคุยบทสนทนาของทั้งสองคนมันเต็มไปด้วยความผูกพันธ์มากมายที่พาสต้าจดจำและรับรู้เพียงคนเดียว
และมันก็กลายเป็นตัวของแฟนมีตเองที่มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนเรื่องราวในอดีตหลายช่วงเวลาถูกบางอย่างกลืนหายไป
“ว่าแต่...ตอนนั้นคุณอายุเท่าไหร่นะ”
“ว๊าววว~สนใจเรื่องของผมขึ้นมาบ้างแล้ว”
“นี่พาสต้าอย่าทำเป็นเล่น”
“ครับ ครับ ตอนนั้นเหรอ..ผมอายุ 25 พอดีเลย คืนจบคอนเสิร์ตผมก็จะไปฉลองอายุครบ 25 อยู่แล้วเชียว”
“เดี๋ยวนะ...ผมเกิด 22 ตุลา คืนงานคอนเสิร์ต วันเกิดผมก็คือวันเกิดของคุณด้วยงั้นเหรอ”
“ใช่แล้ววว วันเดียวกับคุณนั่นแหละครับ”
รอยยิ้มพาสต้าตอนพูดถึงวันเกิดของตัวเองดูเศร้ามากแต่น้ำเสียงกลับสดใส
“เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที”
“แบบไหน..”
“ก็อมทุกข์..วันนี้วันเกิดไม่ใช่หรือไง”
พาสต้าส่งยิ้มจางๆ มาให้เพราะตัวเองยังคงอายุเท่าเดิมมาตลอด
“นี่..พาสต้า”
“ครับ?”
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
“อื้ออ ขอบคุณนะครับ”
แล้วเสียงรอบๆ ตัวก็ถูกกลืนหายเหลือเพียงเสียงหัวใจที่เต้นถี่ของแฟนมีตเองตอนที่ได้เห็นรอยยิ้มสดใสของพาสต้ากลับคืนมาดูมีชีวิตชีวาเหมือนในรูปที่เคยเปิดดู
“นอนได้แล้วนะผมไม่กวนแล้ว เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เจอกันนะ”
“แล้วคุณจะไปไหน”
“ก็เดี๋ยวไปเดินเล่นรอบๆ บ้านก็ได้ เมื่อก่อนคุณไม่เห็นผมเลยไม่รู้สึกอะไรใช่ไหมล่ะ พอตอนนี้ก็เลยทำตัวไม่ถูก ผมเลยคิดว่าผมไปเดินเล่นข้างนอกดีกว่าเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน”
พาสต้าเด้งตัวออกจากเตียงนอนหลังจากที่กลิ้งไปมาอยู่นาน
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็ชิน คุณอยากทำอะไรก็ทำเหอะ ผมเป็นคนหลับง่าย เดี๋ยวง่วงก็หลับเอง”
“แน่ใจนะครับ”
“อื้อ”
“งั้นผมจะนอนตรงนี้เงียบๆ ไม่รบกวนแล้วกัน”
แฟนมีตเหล่มองสิ่งที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรเรียกเขาว่าอะไร
ไม่ใช่ผีแต่ก็ไม่ใช่คน...
ร่างกายของพาสต้าดูปกติทุกอย่าง เหมือนคนทั่วไปแค่ไม่มีเงา
เดินไปมาเท้าติดพื้น แต่ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า แถมยังเดินเร็วมากๆ แบบโผล่ตรงนั้นทีตรงนี้ทีสบายๆ ชนิดที่เขาไม่ทันตั้งตัว
“คิดอะไรอยู่?”
“ไม่รู้สิ แปลกๆ”
“ก็บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวออกไปข้างนอกให้”
“ไม่ได้แปลกแบบนั้น”
“แล้วแปลกแบบไหน”
“ก็ผมแค่คิดว่าถ้าคุณบอกว่าคุณยังไม่ตาย คุณไม่ใช่ผี ไม่ใช่วิญญาณ แล้วผมควรจะเรียกคุณว่าอะไรดี”
ประโยคคำถามของแฟนมีตไม่รู้มีอะไรน่าสนใจเมื่อจู่ๆ พาสต้าถึงจ้องมองอยู่แบบนั้นแถมยังยิ้มโชว์ฟันขาวจนแทบครบทุกซี่
“ผมชื่อพาสต้าครับ”
“รู้แล้ว”
“ก็เรียกผมว่าพาสต้าไง หรือ พาสก็ได้ เพื่อนๆ ผมเรียกผมแบบนั้น”
พาสต้ากระตุกรอยยิ้มมุมปาก
“ยิ้มอะไร” แฟนมีตเกิดสงสัย
“เปล่าแค่เห็นว่าคุณทำหน้าตาตลกดี”
“ตลกยังไง”
“ก็เหมือน..”
“เหมือนอะไร??”
“เหมือนหมา!”
“ไอ้พาสต้า!!”
“อ้าวๆๆพูดจาไม่เพราะเลย แต่ไม่เป็นไรผมให้อภัย แต่ถ้าเราเป็นพ่อลูกกันจริงๆ พูดไม่เพราะกับผมแบบนี้ผมตีนะ”
“เรื่องนั้นตัดทิ้งไปได้เลย คุณไม่ใช่พ่อผมแน่นอน เพราะถ้าคุณบอกคุณอายุ 25 ตอนนั้นแม่ผมก็น่าจะสัก 30 แล้ว”
“เขาเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยผมเอง เราเรียนคณะเดียวกัน”
“หน้าอย่างคุณเนี่ยนะเรียนหมอ”
“ก็หน้าอย่างผมนี่แหละทำไม?”
“พอๆ เหนื่อยจะพูดผมง่วงแล้ว”
“แฟนมีต...”
“ว่าไง...”
“ที่ยอมคุยกับผมดีๆ เพราะตกลงว่าจะช่วยผมจริงๆ แล้วใช่ไหมครับ”
“ไม่รู้คิดดูก่อน แต่ถ้าคุณตกลงตามที่ผมบอกก็คงไม่ติดอะไร เสร็จธุระต่างคนต่างไป แยกย้ายโอเคไหมล่ะ”
“แค่นี้ก็ขอบคุณมากๆ แล้ว”
“ตามนั้น งั้นผมนอนละ”
แล้วแฟนมีตก็กลายร่างเป็นของเหลว พาตัวเองไหลลงจากหัวเตียงซุกเข้าไปใต้ผ้าห่ม
ดวงตาสองข้างที่ปิดสนิทเพียงเพื่อตัดทุกอย่างออกจากความคิด แม้จะยังไม่มีอาการง่วงสักนิดเลยก็ตาม...
“สุขสันต์วันเกิดนะ..แฟนมีต”
เสียงอ่อนโยนดังอยู่ข้างหู พร้อมกับลมเย็นเบาๆ ที่พัดผ่านเข้ามาในเสี้ยววินาทีที่เขาได้ยินเสียงนั่นมันทำให้เกิดความรู้สึกมากมาย รวมถึงหลากหลายคำถาม
ว่าควรช่วยเขาไหม?
พาสต้าคือพ่อของเขาจริงๆ หรือเปล่า?
ที่ผ่านมาระหว่างแม่กับเขามันคืออะไรกันแน่?
แล้วถ้าพาสต้ายังไม่ตาย ตอนนี้ร่างของเขาอยู่ไหน ทำไมตลอด 25 ปีที่ผ่านมาถึงไม่มีเรื่องพวกนี้เล็ดลอดออกมาเลย
ดูเหมือนว่าวันเกิดครบ 25 ปีของแฟนมีตในปีนี้ ของขวัญที่ได้รับจะเกินความคาดหมายไปไกล และมันน่าจะไกลมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงทุกๆ อย่างในชีวิตของเขาก็เป็นได้
:
- TBC -
#hgdคุณผีที่รัก
“ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ”“อืม...”“หน้าตายังดูเพลียๆ อยู่เลย อยากนอนต่อก่อนไหม”“ไม่ๆ เดี๋ยวต้องไปทำงาน”แฟนมีตยืดแขนขากลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอย่างที่ชอบทำประจำ เพื่อไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากร่างกายเมื่อคืนก็ดันนอนดึกเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพาสต้า“เห้ยยย”“เอ้า มาตกใจอะไรกันอีก”“เปล่า..ผมแค่ยังไม่ชิน เมื่อกี้งัวเงียอยู่เลยงงๆ นิดหน่อย”“ครับ...ก็น่ารักดี”“ว่าไงนะ”“เปล่าๆ งั้นแฟนมีตทำธุระส่วนตัวเถอะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอบบ้านรอ”หลังจากพูดจบพาสต้าก็เดินทะลุประตูหายไปแฟนมีตพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกกับตัวเองว่าทุดอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ความฝันแต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเริ่มจากใครเพราะเรื่องของพาสต้ามันก็ผ่านมาตั้ง 25 ปีแล้ว เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลยยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจว่าสิ่งที่เขาพยายามจะช่วยเหลืออีกฝ่ายมันจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า:ร้านกาแฟ Penne's Cafe“ไงแฟนมีตหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไหวไหม?”“ไหวครับพี่เพนเน่ผมเอาเหมือนเดิมแก้วหนึ่ง แล้วนี่พายุกับน้ำหนาวยังไม่มาเหรอครับ”“อ๋อไอ้เจ้าแฝดกำลังมาน่ะเห็นว่าวันนี้เข้าสาย อะนี่กาแฟคั่วเข้มขมปี๋ของคุณชายแฟนมีต ตั้ง
คุณคิดว่าชื่อผมแปลกหรือเปล่า ผมชื่อ “แฟนมีต” มันคือชื่อของผม ชื่อจริงๆ ตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลกประวัติของผมเป็นที่เลื่องลือจนกระทั่งตอนนี้ผมอายุเกือบจะ25แล้ว ผมก็ยังพบเจอภาพบรรยากาศการคลอดของผมลอยอยู่เต็มโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ชื่อดัง ผมไม่ต้องมานั่งถามแม่เลยด้วยซ้ำว่าตอนเกิดผมเป็นยังไง ร้องไห้เสียงดังไหม คลอดง่ายคลอดยาก เพราะผมเห็นด้วยตาของผมเอง ใช่ครับ..พวกคุณอ่านไม่ผิด ที่ผมเห็นทุกอย่างเพราะแม่คลอดผมกลางงานคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้องชื่อดัง!!!กลางงานที่มีคนดูนับพันคน เสียงร้องของผมที่ดังแข่งกับเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ และผมก็ไม่รู้ว่าแม่จะดีใจหรือเสียใจที่ผมคลอดออกมาวันนั้นเพราะมันเป็นวันที่ “พาสต้า” นักร้องในดวงใจของแม่ถูกยิงร่วงกลางงานคอนเสิร์ตเช่นกัน รถพยาบาลสองคันจอดเทียบคู่กันคันหนึ่งรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิด ส่วนอีกคันรับหนึ่งชีวิตที่กำลังจะตาย แล้วผมก็ได้ชื่อนี้มาอย่างไม่มีข้อกังขา ส่วนนักร้องคนนั้นเท่าที่ทราบมาเขาน่าจะเสียชีวิตไปแล้วก่อนจะถึงโรงพยาบาลเสียอีก ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องชื่อประหลาดๆ ของผม จนกระทั่งผมบังเอิญไปเจอคลิปของแม่ที่กำลังเจ็บท้องคลอดกลางงานคอนเสิ
‘มีความสุขมากๆ นะแฟนมีต’‘หล่อๆ รวยๆ นะมึง ไอ้ที่รวยอยู่แล้วก็แบ่งกูบ้าง’‘ไว้นัดกินข้าวกันนะมึง’‘แก่ขึ้นอีกปีแล้ว...คิดถึงมึงว่ะ’‘เจอกันที่บริษัทนะเว้ยยย เลี้ยงข้าวกูด้วย’หลากหลายข้อความอวยพรวันเกิดหลั่งไหลเข้ามาในมือถือราคาแพงของแฟนมีต แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจหรือตื่นเต้นเท่ากับเรื่องตรงหน้าของเขาในตอนนี้สักเท่าไหร่ชีวิตคนๆ หนึ่งมันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากับการได้นั่งคุยกับผีแบบนี้“จ้องขนาดนี้สงสัยอะไร”“คุณตายแล้ว”“ผมบอกว่าผมแค่เกือบตาย แต่ยังไม่ตาย”“ตายแล้ววว ตายมานานแล้วด้วย”“แฮร่!!!”“เห้ยยยยยยย”แฟนมีตสะดุ้งโหยงถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆ วิญญาณพาสต้าก็พุ่งตัวเข้ามา“หล่อขนาดนี้ คุณมองผมเป็นผีได้ลงคอเลยเหรอ”“นี่กูต้องฝันอยู่แน่ๆ”“ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ฝัน”“แต่นี่มันไม่ใช่ละครไง คนอะไรจะมาเห็นผีนั่งคุยกับผีแบบนี้ หรือกูบ้าไปแล้ว?”“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ และผมคงต้องย้ำกับคุณอีกรอบ แฟนมีตคุณฟังนะผมยังไม่ตายแต่ร่างผมอยู่ที่ไหนสักที่และคุณคือคนที่ต้องช่วยผมตามหาให้เจอ!”พาสต้าทำเสียงจริงจังพลางมองหน้าแฟนมีตไม่ละสายตาจนอีกฝ่ายเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเขาไ
“ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ”“อืม...”“หน้าตายังดูเพลียๆ อยู่เลย อยากนอนต่อก่อนไหม”“ไม่ๆ เดี๋ยวต้องไปทำงาน”แฟนมีตยืดแขนขากลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอย่างที่ชอบทำประจำ เพื่อไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากร่างกายเมื่อคืนก็ดันนอนดึกเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพาสต้า“เห้ยยย”“เอ้า มาตกใจอะไรกันอีก”“เปล่า..ผมแค่ยังไม่ชิน เมื่อกี้งัวเงียอยู่เลยงงๆ นิดหน่อย”“ครับ...ก็น่ารักดี”“ว่าไงนะ”“เปล่าๆ งั้นแฟนมีตทำธุระส่วนตัวเถอะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอบบ้านรอ”หลังจากพูดจบพาสต้าก็เดินทะลุประตูหายไปแฟนมีตพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกกับตัวเองว่าทุดอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ความฝันแต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเริ่มจากใครเพราะเรื่องของพาสต้ามันก็ผ่านมาตั้ง 25 ปีแล้ว เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลยยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจว่าสิ่งที่เขาพยายามจะช่วยเหลืออีกฝ่ายมันจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า:ร้านกาแฟ Penne's Cafe“ไงแฟนมีตหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไหวไหม?”“ไหวครับพี่เพนเน่ผมเอาเหมือนเดิมแก้วหนึ่ง แล้วนี่พายุกับน้ำหนาวยังไม่มาเหรอครับ”“อ๋อไอ้เจ้าแฝดกำลังมาน่ะเห็นว่าวันนี้เข้าสาย อะนี่กาแฟคั่วเข้มขมปี๋ของคุณชายแฟนมีต ตั้ง
“แล้วเรื่องที่ผมอาจจะเป็นพ่อคุณ...”“เรื่องนั้นตัดทิ้งไปก่อน ต่อให้คุณเป็นพ่อผมจริงก็คงทำอะไรไม่ได้ผมก็คงจัดการเรื่องคุณให้จบๆ ไป บอกตามตรงผมใช้ชีวิตอยู่กับแม่มานานขนาดนี้ พ่ออาจจะเป็นแค่คนในความทรงจำของผมไปแล้ว”ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แฟนมีตรู้สึกว่ายังมีอีกหลายอย่างที่พาสต้าไม่ได้พูดออกมา“พาสต้าไม่ว่าคุณจะรู้อะไร คิดอะไร หรือมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคุณ คุณต้องเล่าให้ผมฟังเพราะเราจะได้รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน”“อืมม งั้นคืนนี้ผมเล่าเรื่องของผมก่อนจะตายให้ฟังเอาไหมครับ”“ไม่ง่วงหรือไง”“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้นอนมา 25 ปีแล้ว”“งั้นก็หัดนอนซะ ผมเป็นคนและผมต้องการพักผ่อน ส่วนคุณเป็น..เป็นอะไรก็ช่างเหอะ แต่ก็ไม่ควรรบกวนคนอื่น ฉะนั้นแยกย้ายพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”พาสต้าก็กระตุกยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็กๆ ที่แก้มด้านขวา เขาดูเป็นผู้ชายที่รอยยิ้มสวยมากคนหนึ่งก็ว่าได้“เลิกยิ้มหลอนๆแบบนั้นได้แล้วไม่งั้นผมจะไม่ช่วยคุณจริงๆ นะ”“ผมก็แค่ดีใจที่คุณไม่เรียกผมว่าผี”“ผมไปนอนล่ะ ส่วนคุณถ้าไม่นอนก็ช่วยอยู่เงียบๆ ด้วยแล้วกัน”แฟนมีตเดินกลับเข้ามาในห้องนอนปล่อยให้พาสต้ายืนชมวิวด้านนอ
‘มีความสุขมากๆ นะแฟนมีต’‘หล่อๆ รวยๆ นะมึง ไอ้ที่รวยอยู่แล้วก็แบ่งกูบ้าง’‘ไว้นัดกินข้าวกันนะมึง’‘แก่ขึ้นอีกปีแล้ว...คิดถึงมึงว่ะ’‘เจอกันที่บริษัทนะเว้ยยย เลี้ยงข้าวกูด้วย’หลากหลายข้อความอวยพรวันเกิดหลั่งไหลเข้ามาในมือถือราคาแพงของแฟนมีต แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจหรือตื่นเต้นเท่ากับเรื่องตรงหน้าของเขาในตอนนี้สักเท่าไหร่ชีวิตคนๆ หนึ่งมันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากับการได้นั่งคุยกับผีแบบนี้“จ้องขนาดนี้สงสัยอะไร”“คุณตายแล้ว”“ผมบอกว่าผมแค่เกือบตาย แต่ยังไม่ตาย”“ตายแล้ววว ตายมานานแล้วด้วย”“แฮร่!!!”“เห้ยยยยยยย”แฟนมีตสะดุ้งโหยงถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆ วิญญาณพาสต้าก็พุ่งตัวเข้ามา“หล่อขนาดนี้ คุณมองผมเป็นผีได้ลงคอเลยเหรอ”“นี่กูต้องฝันอยู่แน่ๆ”“ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ฝัน”“แต่นี่มันไม่ใช่ละครไง คนอะไรจะมาเห็นผีนั่งคุยกับผีแบบนี้ หรือกูบ้าไปแล้ว?”“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ และผมคงต้องย้ำกับคุณอีกรอบ แฟนมีตคุณฟังนะผมยังไม่ตายแต่ร่างผมอยู่ที่ไหนสักที่และคุณคือคนที่ต้องช่วยผมตามหาให้เจอ!”พาสต้าทำเสียงจริงจังพลางมองหน้าแฟนมีตไม่ละสายตาจนอีกฝ่ายเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเขาไ
คุณคิดว่าชื่อผมแปลกหรือเปล่า ผมชื่อ “แฟนมีต” มันคือชื่อของผม ชื่อจริงๆ ตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลกประวัติของผมเป็นที่เลื่องลือจนกระทั่งตอนนี้ผมอายุเกือบจะ25แล้ว ผมก็ยังพบเจอภาพบรรยากาศการคลอดของผมลอยอยู่เต็มโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ชื่อดัง ผมไม่ต้องมานั่งถามแม่เลยด้วยซ้ำว่าตอนเกิดผมเป็นยังไง ร้องไห้เสียงดังไหม คลอดง่ายคลอดยาก เพราะผมเห็นด้วยตาของผมเอง ใช่ครับ..พวกคุณอ่านไม่ผิด ที่ผมเห็นทุกอย่างเพราะแม่คลอดผมกลางงานคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้องชื่อดัง!!!กลางงานที่มีคนดูนับพันคน เสียงร้องของผมที่ดังแข่งกับเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ และผมก็ไม่รู้ว่าแม่จะดีใจหรือเสียใจที่ผมคลอดออกมาวันนั้นเพราะมันเป็นวันที่ “พาสต้า” นักร้องในดวงใจของแม่ถูกยิงร่วงกลางงานคอนเสิร์ตเช่นกัน รถพยาบาลสองคันจอดเทียบคู่กันคันหนึ่งรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิด ส่วนอีกคันรับหนึ่งชีวิตที่กำลังจะตาย แล้วผมก็ได้ชื่อนี้มาอย่างไม่มีข้อกังขา ส่วนนักร้องคนนั้นเท่าที่ทราบมาเขาน่าจะเสียชีวิตไปแล้วก่อนจะถึงโรงพยาบาลเสียอีก ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องชื่อประหลาดๆ ของผม จนกระทั่งผมบังเอิญไปเจอคลิปของแม่ที่กำลังเจ็บท้องคลอดกลางงานคอนเสิ