“ลมพายุลูกไหนพัดพี่แฟนมีตสุดหล่อมาได้ครับเนี่ย ถึงกับส่งข้อความมาชวนผมกับพี่พายุกินข้าว”
สองพี่น้องฝาแฝดมาถึงร้านอาหารตามเวลานัดหมาย โดยที่แฟนมีตเลือกร้านอาหารที่อยู่แถวๆ บ้านของขอบฟ้าซึ่งไม่ได้ไกลจากที่ทำงานสักเท่าไหร่ “ก็วันก่อนนายสองคนมาชวนแล้วพี่ไม่ว่างไงวันนี้ก็เลยจะไถ่โทษให้ อยากกินอะไรก็สั่งได้เลยนะตามสบาย” “ผมว่าพี่มีพิรุธนะ” น้ำหนาวหรี่ตามองแฟนมีตอย่างจับผิด “อะไร คนอยากเลี้ยงข้าวมันต้องมีอะไรน่าสงสัยด้วยหรือไง” “พี่ยิ่งพูดแบบนี้ผมยิ่งเห็นด้วยกับพี่พายุมันแล้วนะ บอกมาตามตรงเลยดีกว่าว่าพี่ต้องการอะไร ไม่งั้นผมสองคนกลับ” น้ำหนาวเตรียมดึงแขนพี่ชายให้ลุกออกจากโต๊ะ “เออๆ แค่มีเรื่องอยากคุยด้วย แต่ก็ตั้งใจจะเลี้ยงข้าวด้วยเหมือนกัน กินข้าวก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกที” “ก็แค่นั้น” เพราะโดยนิสัยแฟนมีตก็ไม่ใช่คนที่จะเล่นละครโกหกตบตาใครได้อยู่แล้ว อีกอย่างการยอมรับความจริงสำหรับแฟนมีตก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ถึงยังไงเขาก็เชื่อว่าเขาสามารถไว้ใจพายุกับน้ำหนาวได้ “วันนี้มีแต่คนแปลกๆ เต็มไปหมด” หลังจากสั่งอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อย น้ำหนาวที่นั่งจ้องหน้าแฟนมีตอยู่นานก็พูดขึ้น “ใครเหรอที่ว่าแปลก” “พี่เพนเน่ไงครับ” “ทำไมเหรอ พี่เขาเป็นอะไร” “ก็วันนี้ดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตอนลูกค้าเยอะออกมาช่วยงานก็ชงเครื่องดื่มผิดๆ ถูกๆ บางทีก็ดูเหม่อ ใจลอยเหมือนคิดอะไรอยู่ ทำตัวอย่างกับคนอกหัก” “ไหนเคยบอกว่าพี่เพนเน่เขาไม่มีแฟนไง” “ก็เพราะไม่มีไงครับ มันก็เลยยิ่งน่าสงสัยว่าพี่เขาเป็นอะไร” ว่าแล้วน้ำหนาวก็นั่งนึกย้อนไปเมื่อช่วงเช้าจนถึงเย็นของวันนี้ เขากับพายุสังเกตุเห็นว่าเพนเน่มีสีหน้าแปลกๆ ตั้งแต่ตอนมาเปิดร้าน ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธออาจจะป่วย แต่เธอก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นอะไร จนช่วงเย็นเพนเน่ก็มาฝากเขาสองคนปิดร้านบอกว่ามีธุระด่วนต้องไปทำ ทั้งๆ ที่โดยปกติถ้าไม่ใช่วันปิดร้านประจำเดือน เพนเน่จะไม่เคยทิ้งร้านไปไหน “ช่างพี่เพนเน่เขาเถอะ ผมว่าเรามาเรื่องของพี่ดีกว่า ที่นัดพวกผมกินข้าว พี่อยากจะรู้เรื่องอะไรกันแน่ครับ” พอน้ำหนาวละความสนใจจากเรื่องเจ้านาย เพราะกำลังมีคนต่อไปที่ทำตัวพิรุธไม่ต่างกันซึ่งคนๆ นั้นก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขากับพายุในตอนนี้ “คือพี่จำได้ว่านายสองคนเคยเล่าเรื่องที่คนเขาลือเกี่ยวกับพี่เพนเน่ว่าพี่เขาอายุเยอะแล้วแต่ที่ยังสาวและสวยอยู่เพราะไปทำอะไรบางอย่างมา” แฟนมีตลดเสียงของตัวเองลงพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆ ราวกับว่ากลัวใครจะผ่านมาได้ยินบทสนทนาของเขาเข้า “ทำไมจู่ๆ พี่ถึงมาสนใจเรื่องนี้ล่ะครับ” พายุถามกลับ “นั่นสิตอนนั้นพี่ยังด่าผมสองคนว่าเหลวไหลอยู่เลย” น้ำหนาวเสริม “ก็เล่าเรื่องที่พวกนายเคยได้ยินมาให้พี่ฟังก่อน แล้วพี่จะบอกว่าทำไมพี่ถึงอยากรู้ ตกลงไหม” พี่น้องฝาแฝดหันมองหน้ากันเล็กน้อย เหมือนต้องการสื่อสารกันทางสายตาก่อนที่จะหันมาพยักหน้าตกลง “มีคนบอกว่าพ่อกับแม่ของพี่เพนเน่เป็นหมอชื่อดัง ที่แอบทำงานวิจัยศึกษาเกี่ยวกับตัวยาอายุวัฒนะมานานหลายปี โดยเอาลูกๆ ของตัวเองมาเป็นหนูทดลอง” พายุค่อยๆ เรียบเรียงเรื่องทั้งหมดช้าๆ มันเป็นข้อมูลที่เขาไปได้ยิน และได้ฟังจากคนรอบตัว ตั้งแต่ตอนที่เข้าทำงานในร้านนี้ใหม่ๆ จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคงมีคนพูดถึงเรื่องของเพนเน่กันอยู่เรื่อยๆ “จริงๆ พี่เพนเน่มีน้องชายสองคนแต่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าน้องชายเขาเลยนะ จนเมื่อหลายปีก่อนมีคนถ่ายรูปรูปหนึ่งมาแล้วในนั้นมันมีภาพของพี่เพนเน่อยู่ติดมาด้วย” “แล้วมันแปลกตรงไหน” แฟนมีตรีบถามกลับทันที “ก็เพราะว่ารูปนั้นมันถ่ายเมื่อ 20 ปีก่อนไงครับ แต่หน้าของพี่เพนเน่คือเหมือนเดิมกับตอนนี้ทุกอย่าง” “คนหน้าคล้ายกันหรือเปล่า” แฟนมีตลองหาข้ออ้างในความน่าจะเป็นที่มันสามารถเกิดขึ้นได้จริง “เหมือนกระทั่งไฝ กับรอยปานเป็นที่มือของพี่เขาเลยเหรอครับ” น้ำหนาวตั้งคำถามกลับไปบ้าง “นายสองคนพอจะมีรูปนั้นไหม” “มีครับผมเก็บเอาไว้ในมือถือ จริงๆ มันเคยมีลงอยู่ในอินเตอร์เน็ต แต่พอเรื่องเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นดูเหมือนกระทู้พวกนั้นก็ถูกสั่งลบทิ้งไปจนหมด” พายุเปิดหาภาพถ่ายอ้างอิงจากในมือถือของเขาก่อนที่จะส่งให้แฟนมีตดู ภาพถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่งในสวนสาธารณะ ที่กำลังจ้องมองมามีหน้าตาเหมือนเพนเน่อย่างที่พายุกับน้ำหนาวยืนยันจริงๆ ที่สำคัญไฝเหนือแก้มด้านซ้ายของเธอ กับปานแดงที่ข้อมือขวา มันเด่นชัดจนแฟนมีตไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าคนในภาพไม่ใช่เพนเน่ แต่ถ้ารูปมันถูกถ่ายเมื่อ20ปีก่อน คนในภาพก็น่าจะอายุอยู่ที่ 20 กว่าๆ แล้วด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็หมายความว่าเพนเน่คนในปัจจุบัน ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี คนเราต่อให้ดูแลรักษาตัวเองดีแค่ไหน มันไม่มีทางเลยที่ทุกอย่างจะยังคงอยู่ในสัดส่วนเท่าเดิมขนาดนี้ “ก็อย่างที่เห็นครับ คนเขาก็เลยคิดว่าพ่อกับแม่ของพี่เพนเน่คงคิดค้นยาสำเร็จโดยมีพี่เพนเน่เป็นหนูทดลอง พี่เขาถึงยังดูสาวและสวยมาก นั่นคงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้พวกเราไม่เคยมีใครรู้เลยว่าพี่เพนเน่อายุเท่าไหร่” “แล้วถ้ามันมีของอะไรพวกนี้อยู่จริง ป่านนี้มันก็คงจะเป็นข่าวแล้วหรือเปล่า ยาที่มีประสิทธิภาพชะลอความแก่ให้ย้อนกลับไปเป็นสาวได้เป็นสิบสิบปี คนคงได้แตกตื่น ภาครัฐ ภาคเอกชนคงแห่กันไปซื้อมาทำขายแล้วมั๊ง” “ผมก็เคยคิดแบบพี่นั่นแหละ แต่ดูเหมือนเรื่องราวพ่อกับแม่ของพี่เพนเน่เขาก็ไม่ธรรมดา” พอน้ำหนาวพูดถึงครอบครัวเพนเน่ ก็กลายเป็นว่าเขาเบาเสียงตัวเองลงอีก “มีอะไร?” “เพราะมีคนบอกว่าเขาใช้ลูกชายของตัวเองทำการทดลองอะไรบางอย่างเพิ่มเติมจากตัวอายุวัฒนะที่ใช้กับพี่เพนเน่ แล้วมันเกิดข้อผิดพลาดทำให้มีคนตาย โครงการทั้งหมดเลยถูกระงับไป” “แล้วพี่เพนเน่” “ก็ตามที่เห็นแหละพี่ จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเคยเห็นหน้าพ่อแม่พี่น้องของพี่เขาสักคน แม้แต่ชื่อกับนามสกุลเอาไปเสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ตยังไม่เจอเลย” แฟนมีตคิดย้อนไปถึงตอนที่เขาหาข้อมูลของพาสต้า เหตุการณ์ช่างคล้ายกันไม่มีผิด “แล้วนายสองคนรู้จักผู้ชายที่ชื่อพาสต้าไหม เป็นนักร้องดัง” “ใช่คนที่ถูกยิงตายกลางงานคอนเสิร์ตเมื่อหลายสิบปีก่อนไหมครับ” พายุที่ดูเหมือนจะนึกออกเป็นคนแรกรีบถามกลับมาเพื่อความแน่ใจ “แล้วเคยได้ยินข่าวที่ว่ามีแฟนคลับคลอดลูกกลางงานวันนั้นของเขาไหม” “เคยนะครับ ผมกับน้ำหนาวนั่งคุยกันอยู่เลยว่าท้องแก่ใกล้คลอดขนาดนั้น ทำไมถึงเลือกไปคอนเสิร์ตแทนที่จะไปหาหมอ สงสารเด็กถ้าผมเป็นเด็กคนนั้น แล้วโตขึ้นต้องมาเล่าเรื่องที่ไปที่มาของการเกิดของตัวเองก็คงอายน่าดู” “อืม..เด็กคนนั้นคือพี่เอง” ‘เกร๊งง’ ช้อนกับส้อมในมือสองพี่น้องหลุดมือลงกระทบกับจานจนเสียงดัง “พี่พูดจริงเหรอครับ” “จริงสิพี่ถึงชื่อแฟนมีตนี่ไง” “แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกันกับที่พี่อยากรู้เรื่องของพี่เพนเน่เหรอครับ” “คือพี่กำลังคิดว่าถ้าพี่เพนเน่เป็นผลสำเร็จจากอายุวัฒนะที่มีอยู่จริง ก็แปลว่าเขาอาจจะรู้จักพาสต้านักร้องคนนั้น” “แล้วพี่อยากจะรู้เรื่องของนักร้องคนนั้นไปทำไมหรอครับ"” “พี่มีเรื่องสำคัญที่ต้องตามหาความจริงให้เจอ และเห็นทีว่าพี่อาจจะต้องขอให้เราสองคนช่วยส่งข่าวสำคัญบอกพี่หน่อย” พายุกับน้ำหนาวเริ่มรู้สึกระแวง เพราะสายตาของแฟนมีตดูเจ้าเล่ห์อย่างบอกไม่ถูก “พี่จะให้พวกผมสองคนทำอะไร” พายุเป็นหน่วยกล้าตายเอ่ยปากถามแฟนมีตเป็นคนแรก “พี่อยากได้กำหนดวันที่พวกเราเคยบอกว่าพี่เขาจะปิดร้านเร็วเดือนละครั้ง” “พี่แฟนมีต พี่จะทำอะไร” “นายสองคนไม่อยากรู้เหรอว่าเรื่องที่ได้ยินมา จริงๆ แล้วมันสามารถเชื่อถือได้หรือเปล่า หรือแค่ใครบางคนพยายามปั้นเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง” แฟนมีตหันไปสบตาพายุกับน้ำหนาว เขาเองก็รู้ว่าเรื่องที่ทั้งสองคนได้ยินมามันก็คงสร้างความคลางแคลงใจให้กับพวกเขาไม่น้อย เพียงแค่ไม่รู้ว่าควรจะไปหาข้อมูลหรือตามความจริงของเรื่องนี้จากที่ไหนก็เท่านั้น “ว่าไง นายสองคนพอจะช่วยพี่เรื่องนี้ได้หรือเปล่า” “ไอช่วยมันก็พอช่วยได้อยู่นะครับ แต่ว่า..” พายุหันไปมองหน้าของน้องชายตัวเอง “ผมกับพี่พายุเองก็มีข้อแลกเปลี่ยนมาเสนอพี่เหมือนกัน” น้ำหนาวพูดขึ้นมาอย่างรู้ทันในความคิดของพี่ชายคงจะเป็นความสามารถพิเศษของคนเกิดมาเป็นฝาแฝดกัน ที่สามารถสื่อสารและรู้ใจกันโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องพูดอะไรออกมา “ลองพูดมาสิ ถ้าพี่ทำให้ได้พี่ก็จะทำให้” “ผมสองคนจะคอยส่งข่าวให้พี่เรื่องของพี่เพนเน่ แต่พี่ต้องมาบอกพวกผมทุกเรื่องด้วยเหมือนกัน ว่าพี่ได้ข้อมูลอะไรบ้างเกี่ยวกับพี่เพนเน่” “ใช่ครับ พี่อยากได้ข้อมูลพี่เพนเน่ผมกับน้องก็ต้องการด้วยเหมือนกัน” “แล้วนายสองคนจะอยากรู้เรื่องพี่เพนเน่ไปทำไม หรือมีเรื่องอะไรที่พี่ยังไม่รู้หรือเปล่า” แฟนมีตมองหน้าสองพี่น้องด้วยความไม่เข้าใจ ถ้าเป็นเพียงเพราะอยากฟังเรื่องเล่าเหนือธรรมชาติเพื่อความบันเทิงทั้งสองคนก็ดูไม่น่าจะใส่ใจถึงขนาดนี้ แต่นี่พายุและน้ำหนาวมีแววตาที่จริงจังและมุ่งมั่น ราวกับว่าถ้าความจริงเรื่องของเพนเน่เปิดเผยขึ้นมา พวกเขาก็อาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ “เพราะผมสองคนก็มีเหตุผลสำคัญที่ต้องการความจริงไม่ต่างไปจากพี่หรอกครับ เอาไว้ความจริงมันเปิดเผยออกมา พี่บอกเหตุผลของพี่ ผมเล่าเรื่องราวของพวกผม แล้วเราต่างคนต่างแยกย้ายไปจัดการเรื่องของตัวเองแบบนั้นแฟร์ดีไหมครับ” คำพูดของน้ำหนาวในครั้งนี้ยิ่งทำให้แฟนมีตแน่ใจว่าสิ่งที่เขากำลังสงสัย และเรื่องราวที่เป็นปริศนาอยู่ อาจจะไม่ได้มีเพียงแค่เขาที่กำลังตามหาความจริง “ว่ายังไงครับพี่แฟนมีต ข้อตกลงนี้ผ่านไหมครับ” “ได้ไม่มีปัญหา พวกนายก็ไปเตรียมตัวจัดการตามที่พี่บอกได้เลย” แฟนมีตจับมือทำสัญญาใจกับน้ำหนาวและพายุ เป็นสัญญาณการเริ่มต้นปฏิบัติการตามหาความจริงจากเพนเน่ ที่แฟนมีตเชื่อว่ามันต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งจากความจริงของเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับพาสต้าอย่างแน่นอน : - TBC - #hgdคุณผีที่รัก“เป็นไงบ้างไปคุยกับเพื่อนคุณมาได้เรื่องอะไรบ้างไหม”“ก็เยอะพอสมควร”ทันทีที่แฟนมีตกลับมาที่บ้านขอบฟ้า เขาก็เจอกับพาสต้าที่นั่งรอเขาอยู่ในห้องนอนก่อนแล้ว“คุณเคยบอกผมว่าพ่อกับแม่คุณเป็นหมอแล้วเขาทำการทดลองเก็บร่างของมนุษย์เอาไว้โดยที่ทำให้มันไม่เน่าเปื่อยใช่ไหม”“ใช่ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ เพราะบอกตามตรงความทรงจำในหัวของผมมันผุดขึ้นสลับกันไปมา ผมต้องปะติดปะต่อหลายๆ อย่างเข้าด้วยกันก็เลยพอรู้และก็จำได้แค่บางส่วนเท่านั้น”พาสต้าพยายามนึกคิดเรื่องราวของเขาในช่วงที่ตัวเองมีชีวิตอยู่ แต่บางอย่างมันก็กลับตกหล่นสูญหายเหมือนมีใครบางคนเข้าไปลบความทรงจำในตอนนั้นออกไป“คุณบอกคุณมีน้องชายกับพี่สาวด้วยถูกไหม”“ใช่ครับ”“แต่คุณจำชื่อกับหน้าเขาสองคนไม่ได้”“ครับ ทำไมเหรอครับ”“บางมีมันอาจจะเป็นผลมาจากตอนที่คุณมีชีวิตอยู่”“คุณกำลังจะบอกอะไรผมกันแน่?”แฟนมีตนั่งคิดทบทวนเรื่องที่พายุและน้ำหนาวเล่าให้เขาฟัง ประกอบกับเรื่องของพาสต้าที่เจ้าตัวพูดกับเขาเอาไว้ในวันแรกที่ได้เจอกันก่อนที่เขาจะลองเชื่อมโยงความน่าจะเป็นที่พอจะเกิดขึ้นได้ของทั้งสองคนเข้าด้วยกัน“พ่อกับแม่คุณอาจจะให้คุณลองใช้ยาบางอย่างในการทดลองของพวกเข
“มีต กลับมาแล้วเหรอลูก”“ครับแม่ แล้วน้ากิ่งไปไหนเหรอครับ”ทันทีที่ได้ยินเสียงรถของลูกชายเลี้ยวมาจอดในตัวบ้าน พลอยก็รีบวางมือจากงานบ้านทุกอย่างแล้วออกมาเจอหน้าลูกชายของเธอทันที“มีตไม่โกรธแม่แล้วใช่ไหมลูก แม่ขอโทษที่แม่โกหกมีตเรื่องพาสต้า แต่แม่ยืนยันได้นะลูกว่าแม่กับพาส..”“พอก่อนนะครับแม่ ผมยังไม่อยากคุยอะไรเรื่องนี้ ผมเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ขอตัวไปพักก่อน”“ได้เลยลูก ไปอาบน้ำอาบท่านอนพักนะ แล้วเดี่ยวแม่กับน้ากิ่งทำมื้อเย็นเสร็จจะขึ้นไปเรียก”“ขอบคุณครับ”พลอยไม่อยากซักไซ้อะไรลูกชายของเธอมากแค่ช่วงที่เขาไม่อยู่เธอเองก็เป็นห่วงจนไม่เป็นอันกินอันนอน และการที่แฟนมีตยอมกลับมาบ้านสำหรับเธอ มันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วส่วนเรื่องอื่นๆ เธอเองก็ไม่อยากพูดถึงด้วยเช่นกัน ถ้าหากมันไม่จำเป็น“พาสต้าอยู่หรือเปล่า”“อยู่ครับ” พาสต้าปรากฏตัวขึ้นที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งของแฟนมีต“พรุ่งนี้ผมจะไปที่โรงเรียนมัธยมของเฟลเล่ คุณจะไปกับผมไหม”“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนมันอยู่ที่ไหน”“ก็จากตราบนชุดนักเรียนของเขานั่นแหละมันเคยเป็นโรงเรียนชายล้วนแล้วก็อยู่ไม่ได้ไกลจากที่ทำงานผมเท่าไหร่”“แล้วคุณจะไปทำอะไร”“
แฟนมีตเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนและพบว่าพาสต้านั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว“สรุปว่าคุณ พี่เพนเน่และก็เฟลเล่คือพี่น้องกันจริงๆ ที่นี้มันก็กลายเป็นคำถามต่อมาว่าทำไมพี่เพนเน่ถึงต้องโกหก”“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปเหรอแฟนมีต”“ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ผมคงต้องรอวันที่พี่เพนเน่เขาจะปิดร้านเร็วเพื่อไปทำอะไรบางอย่างในทุกๆ เดือน ผมมั่นใจว่าเราต้องได้อะไรเพิ่มเติมแน่นอน”“ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้ผมก็จะพยายามช่วยนึกแล้วกันนะ ว่ามีเรื่องอะไรอีกบ้างที่ผมพอจะจำได้”นับว่าข้อมูลที่ทั้งสองคนได้มาวันนี้เป็นความคืบหน้ามากพอสมควร อย่างน้อยๆ ก็ได้รู้ว่าครอบครัวของพาสต้าคือใคร“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าพาสต้า ทำไมทำหน้าเป็นกังวลขนาดนั้น”“ผมแค่คิดอะไรบางอย่าง”“เล่าให้ผมฟังได้ไหม”“จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกนะ ผมแค่คิดว่าถ้าผมเป็นน้องชายของคุณเพนเน่จริงทำไมเขาถึงบอกว่าเขาไม่ได้รู้จักผม ทำไมเรื่องราวของผมถึงถูกทำให้หายไป มันเป็นเพราะมีบางอย่างที่พวกเขาไม่อยากให้คนนอกมารับรู้ หรือเพียงแค่ไม่อยากจดจำผมในฐานะของคนในครอบครัวพวกเขากันแน่”น้ำเสียงและแววตาของพาสต้าดูเศร้าลง คล้ายกับเขากำลังพยายามข่มความรู้สึกของตัวเองเอาไ
เวล จอม และพาสต้า เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายและพวกเขาได้มารู้จักพลอยตอนช่วงปีหนึ่งแรกๆ ทั้งสามคนก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่เพราะความใกล้ชิดของผู้ชายและผู้หญิง จึงทำให้บางอย่างมันไม่สามารถหักห้ามกันอีกต่อไปได้พาสต้ากับเวลตกหลุมรักพลอย แต่สุดท้ายพลอยก็เลือกที่จะคบกับเวล พาสต้าเป็นสุภาพบุรุษมากพอและเคารพการตัดสินใจของพลอย ทั้งสี่คนจึงยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้จนต่างคนต่างเริ่มทำงาน พลอยหันมาเปิดธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า เวลไปเป็นนายแบบ จอมช่วยงานที่บ้าน ส่วนพาสต้าก็ได้เป็นนักร้องชื่อดังชื่อเสียงมาพร้อมกับความทะนงตัว พลอยกับเวลเจอกันน้อยลงทะเลาะกันบ่อยขึ้นในขณะที่พาสต้าไปมาหาสู่พลอยและใช้ชื่อเสียงของตัวเองในการช่วยให้แบรนด์เสื้อผ้าของพลอยเป็นที่รู้จัก“สรุปแล้วคุณไม่ใช่พ่อผม แต่เรื่องที่คุณช่วยแม่ผมในตอนที่เขาเปิดร้านขายเสื้อผ้ามันคือเรื่องจริง”“ผมเองก็งงเหมือนกัน ทำไมในความทรงจำของผมมันถึงบอกว่าผมคือคนรักของพลอยและเป็นพ่อของลูกพลอย ผมไม่เข้าใจเลย”“ผมว่ามาถึงตอนนี้แล้วแม่คงไม่ได้โกหก”“ผมรู้ ผมเองก็คิดแบบนั้น แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี”หลังจากที่เวลมีชื่อเสียงได้ไม่นาน
“ตอนนี้เรื่องราวในอดีตของผมมันก็คงไม่มีอะไรให้น่าค้นหาอีกแล้วผมรู้ความจริงทุกอย่างทั้งเรื่องที่ตัวเองอยากรู้แล้วเรื่องก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น”น้ำเสียงของแฟนมีตดูเหนื่อยล้าเกินกว่าที่เขาจะสามารถรับรู้อะไรไปได้มากกว่านี้“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”“ผมไม่เป็นอะไรหรอก แค่รู้สึกตกใจนิดหน่อยที่จู่ๆ เรื่องมันก็กลายมาเป็นแบบนี้ไปได้”“ผมขอโทษนะ ผมไม่รู้จริงๆ ว่า..”“มันไม่ใช่ความผิดคุณหรอกพาสต้า ไม่สินี่ผมควรจะเรียกคุณเหมือนอย่างที่ผมเรียกอาเวลด้วยหรือเปล่าก็คุณเป็นเพื่อนแม่ผมนี่หน่า” แฟนมีตจ้องมองพาสต้าด้วยแววตาสับสนถึงเขาจะมั่นใจแต่แรกว่าพ่อของเขาไม่ใช่พาสต้า แต่พอคิดไปคิดคิดมา หากพาสต้าอยู่มาจนถึงตอนนี้เขาก็จะอายุพอๆ กับพลอยนั่นหมายความว่าการที่แฟนมีตเรียกเพียงแค่ชื่อของพาสต้าเฉยๆ เลยทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา“ไม่ต้องหรอกคุณเรียกแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ผมไม่ได้อยากแก่สักหน่อย อีกอย่างร่างของผมก็มีอายุเท่ากับคุณตอนนี้ ฉะนั้นผมกับคุณเราเป็นเพื่อนกันได้”พาสต้าส่งยิ้มให้กับแฟนมีต เขาเข้าใจว่าตอนนี้ความรู้สึกของแฟนมีตกำลังเปราะบางมากแค่ไหนแต่เขาเชื่อว่าแฟนมีตจะต้องกลับมาเข้มแข็งได้ตามเดิมในเร็ววัน
“พาสต้าได้เรื่องอะไรมาบ้างหรือเปล่า”แฟนมีตนั่งรออยู่นาน จนกระทั่งพาสต้าปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของพาสต้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก“ได้มาเยอะมากเลย อย่างแรกเมื่อเช้าพลอยเขาได้บอกหรือเปล่าว่าเขาจะออกไปไหน”“ก็ตั้งแต่เมื่อคืนพอคุยกับอาเวลจบผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับแม่อีกเลย”“งั้นเรารีบไปที่ร้านกาแฟของเพนเน่เถอะพลอยกำลังไปที่นั่น”“แม่รู้จักพี่เพ่นเน่ด้วยเหรอ”“ถ้ามาถึงขนาดนี้ผมว่าเขาก็คงรู้จักกันแล้วแหละ เราไปดูให้เห็นกับตาดีกว่าว่าจริงเท็จแค่ไหน ก่อนที่มันจะไม่ทัน”แฟนมีตรีบออกรถทันทีที่ได้รับข่าวเรื่องของแม่ตัวเองถึงแม้พลอยจะบอกว่าเธอเป็นเพื่อนกับพาสต้าแต่เพราะครอบครัวพาสต้าค่อนข้างเก็บตัวและตัวพลอยเองก็ไม่เคยเล่าว่าเธอรู้จักพี่สาวของพาสต้ามาก่อนที่สำคัญถ้าแม่ของเขารู้จักกับเพนเน่จริง เรื่องที่มีข่าวว่าเพนเน่ใช้ยาอายุวัฒนะกับเรื่องที่พาสต้าหายตัวไป พลอยเองก็อาจจะไปรู้หรือเห็นอะไรมามากกว่าที่เธอเคยเล่าให้ลูกชายฟัง:“ไงพลอยไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”“พี่เพนเน่ก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ”วันนี้เป็นวันหยุดของพนักงานบริษัท ลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้านจึงไม่ได้หนาแน่นสักเท่าไหร่พลอยมานั่งรอเพนเน่ตั้งแต่
“เป็นน้ากิ่งจริงๆ เหรอเนี่ย..”แฟนมีตทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขก หลังจากที่ทุกๆ อย่างมันอยู่เหนือความคาดหมายที่เขาคิดเอาไว้“ผมบอกตามตรงนะพาสต้าผมพยายามจะไม่เชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง คุณอาจจะเข้าใจอะไรผิด แต่ตอนนี้ผมหลอกตัวเองต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว”“ใจเย็นๆ ก่อนนะแฟนมีต ผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องบ้าพวกนี้มันจะไปจบลงที่ตรงไหนกันแน่ ตอนนี้ผมเองก็สับสนไปหมด”“แล้วเมื่อเช้าพวกเขาคุยอะไรกันบ้าง”“ตอนผมไปถึงเขาก็คุยกันไปได้สักพักแล้วแต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่าน้าของคุณคงไม่ใช่แค่คนรู้จักของคนที่บ้านผมแน่ๆ”“ทำไมคุณคิดแบบนั้น?”“จากที่ฟังเมื่อเช้าที่พวกเขาคุยกันบนโต๊ะอาหารผมว่าบางทีพวกเขาอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือข้อตกลงอะไรกันมาก่อน ไม่อย่างนั้นจู่ๆ พ่อกับแม่ของผมจะฝากให้พี่เพนเน่เอายามาให้กิ่งแก้วทำไม”ยาขวดสีน้ำตาลลักษณะเป็นน้ำใสๆ ที่พาสต้าคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาเคยเห็นมาจากที่ไหนสักแห่งแต่ตอนนี้เขาเองยังนึกไม่ออกและเพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการ เขาจึงหันมาให้ความสนใจเรื่องของกิ่งแก้วในเวลานี้แทน“มันก็น่าจะเป็นแบบนั้น แต่ที่สำคัญคือยาที่น้ากิ่งเขาไปเอามามันคือยาอะไร”“จะเป็นยาอะไรผมว่าเดี๋
“สวัสดีครับน้ากิ่ง”“ว่าไงแฟนมีต ขอน้ามาอยู่ด้วยชั่วคราวนะ”หลังจากที่แฟนมีตกับพาสต้ากลับมาถึงบ้านได้ไม่นาน กิ่งแก้วก็มาพอดีพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่สองใบในมือ“ครับ แม่เขาบอกผมแล้วว่าบ้านน้ากิ่งกำลังต่อเติมเลยจะมาขออยู่ด้วย ผมจัดห้องนอนไว้ให้แล้วนะครับ น้ากิ่งเอาของเข้าไปเก็บไว้ห้องก่อนได้เลย”“แล้วเย็นนี้น้ากิ่งอยากกินอะไรไหมครับ”“เดี๋ยวน้าทำให้ดีกว่าไหม”“ไม่เป็นไรครับผมว่าผมทำเองดีกว่า น้ากิ่งมาเหนื่อยๆ วันนี้แม่ก็ไปข้างนอกมาดูเพลียๆ ไปพักเถอะครับเดี๋ยวผมจัดการให้”“ก็ได้จ้า งั้นน้ากินอะไรก็ได้แล้วแต่มีตเลย”กิ่งแก้วหิ้วกระเป๋าเดินหายไปในห้องรับรองชั้นล่าง ส่วนแฟนมีตที่พยายามอดกลั้นความรู้สึกเสียใจเอาไว้ได้แต่บอกตัวเองว่าต้องทำตามแผนให้สำเร็จ เพราะเขาไม่รู้เลยว่าเรื่องยาที่พาสต้าไปได้ยินมา มันจะเป็นผลดีหรือผลเสียต่อแม่ของเขาอย่างไร“มีตทำอะไรเหรอลูก?”พลอยที่ตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นเดินเข้าไปหาลูกชายในครัว“กำลังเตรียมมื้อเย็นครับแม่”“ทำไมไม่ปลุกแม่ล่ะ มาเดี๋ยวแม่ทำเอง”“ไม่เป็นไรครับ วันนี้แม่ดูเพลียๆ ให้ผมทำให้ดีกว่า”พลอยเตรียมจะไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ แต่ก็ถูกลูกชายดึงคืนไปเสียก่อนพ
“มีตกลับมาแล้วเหรอลูกแม่เห็นข่าวเรื่องที่บ้านของพาสต้า มีตไม่เป็นอะไรใช่ไหม”“ผมสบายดีครับแม่”พลอยแทบไม่เป็นอันทำอะไรในตอนที่ข่าวหน้าจอทีวีกำลังรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเพียงสิงขรเธอสังหรณ์ใจว่าลูกชายของเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พอได้เห็นว่าแฟนมีตปลอดภัยดีเธอจึงยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ“ว่าแต่แม่เถอะครับเป็นไงบ้างผมไม่อยู่ตั้งสามวัน” “แม่จะเป็นอะไร ก็สบายมากๆ เลยไงมีทั้งน้ากิ่ง อาเวลมาช่วยดูแลแม่อยู่ตั้งสองคน”“จริงเหรอครับแล้วตอนนี้น้ากิ่งเขาอยู่ที่ไหน”แฟนมีตมองไปรอบๆ บ้าน เห็นแค่เพียงเวลที่กำลังนั่งซ่อมวิทยุตัวเก่งให้แม่ของเขาอยู่ที่มุมห้อง“เหมือนจะอยู่ในห้องนอนนะเห็นว่าเข้าไปหาอะไรสักอย่าง”“งั้นเหรอครับ ขอไปทักทายสักหน่อยดีกว่าจะได้รู้ว่าหลานรักกลับมาแล้ว”แฟนมีตเดินตรงไปยังห้องรับรองที่เขาเป็นคนจัดเอาไว้เพื่อให้กิ่งแก้วใช้เป็นที่นอนชั่วคราวระหว่างรอต่อเติมบ้าน“น้ากิ่งเขาไม่อยู่แล้วนิครับ เสื้อผ้าก็ไม่มี”“หมายความว่ายังไงลูก”“เป็นไปได้ยังไงก็ก่อนที่พลอยจะเข้าไปล้างจานในครัวอายังเห็นเขาอยู่ในห้องเลยนะ”พลอยกับเวลรีบตามลูกชายเข้าไป ถึงได้เห็นว่าภายในห้องไม่มีแม้แต
“พาสต้าคุณโอเคหรือเปล่า”หลังจากที่น้ำหนาวและพายุขอตัวกลับ แฟนมีตก็รีบขึ้นมาดูอาการของพาสต้าทันที“ดีขึ้นแล้วครับ เป็นยังไงบ้างน้ำหนาวกับพายุได้เรื่องหรือเปล่า”“ยิ่งกว่าได้เรื่องอีก อย่างแรกผมกู้คืนคลิปวิดีโอจากในมือถือตัวเองได้แล้วนะ ตอนนี้ผมเก็บไฟล์ทั้งหมดใส่ไดร์ฟเรียบร้อยแล้ว”แฟนมีตพูดพร้อมกับโชว์แฟลชไดร์ฟสีดำในมืออันเป็นหลักฐานสำคัญ“ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องเครื่องติดตามพี่เพนเน่มีตัวส่งสัญญาณอีกหนึ่งตัวที่พายุเก็บเอาไว้ ตอนนี้กำลังดูว่าสัญญาณรถของพี่เพนเน่จะไปอยู่ที่ไหน”“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป”“หลังจากที่ผมแน่ใจแล้วว่าของทุกอย่างในโกดังมันถูกย้ายไปไว้ที่ไหน ผมจะส่งเรื่องทั้งหมดให้กับตำรวจและให้เขาเข้าไปจัดการ ถึงตอนนั้นคุณน่าจะเข้าไปใกล้ร่างของคุณได้แล้ว”แฟนมีตบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่พาสต้ากลับดูท่าทางคิดหนัก ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นสิ่งที่เขารอคอยมันมาตลอด แต่เวลานี้เขากลับดูไม่ได้ดีใจกับมันเสียเลย“คุณต้องรีบหาวิธีกลับเขาร่างให้เร็วที่สุด คุณสัญญากับผมได้ไหมพาสต้า”“สัญญาอะไรเหรอครับ”“คุณต้องกลับเข้าร่างของคุณให้ได้นะ มันไม่ใช่เพราะว่าผมอุตส่าห์ลงทุนช่วยคุณมาถึงตอนนี้”“แล้ว
“ตื่นแล้วเหรอแฟนมีต”“กี่โมงแล้ว”“น่าจะเกือบเที่ยงได้แล้วมั้ง”“อะไรนะ นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ”แฟนมีตรีบเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนทันทีแม้จะยังรู้สึกเจ็บกับบาดแผลตามลำตัวอยู่เล็กน้อยก็ตาม“คงเพราะว่าคุณเพลียมากนั่นแหละ ตอนเช้าขอบฟ้าเข้ามาดูอาการคุณไปรอบหนึ่งแล้วนะเห็นบ่นว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนี้เลยไม่มีใครอยู่บ้านสักคน”พาสต้าจัดการไล่เรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนที่แฟนมีตนอนหลับให้เขาฟัง“แล้วที่ร้านพี่เพนเน่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”“ผมไปมาแล้ว ร้านปิดแถมยังขึ้นป้ายว่าปิดไม่มีกำหนดอีกต่างหาก”“อะไรนะคนอย่างพี่เพนเน่เหรอจะมาปิดร้านอย่างไม่มีกำหนดแบบนี้”“ก็คงมาจากเรื่องที่คุณบุกเข้าไปในโกดังเขาเมื่อคืนนั่นแหละ ตอนนี้ที่โกดังไม่มีใครอยู่เลยสักคน”พาสต้าใช้เวลาในช่วงที่แฟนมีตได้พักผ่อนออกไปตรวจสอบทุกที่มาจนหมดเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเขาปล่อยให้แฟนมีตมาจัดการเรื่องนี้อยู่คนเดียว และมันก็ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดพยายามทำลายหลักฐานเพื่อหนีความผิดในครั้งนี้“เป็นไปได้ยังไง?”“พวกเขาย้ายออกจากที่นั่นไปแล้ว ไปพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหมดของโกดังน่าจะขนออกไปต
“อาเวลครับแม่หลับไปแล้วหรือยังครับ”แฟนมีตไม่กล้ากลับไปที่บ้านของตัวเองในเวลานี้จึงตัดสินใจมาที่บ้านของขอบฟ้าแทน‘พลอยหลับไปแล้ว อาบอกว่ามีตจะไปค้างบ้านเพื่อนพลอยเขาพยายามโทรหามีตตั้งหลายสายแต่ก็ไม่มีคนรับ’“พอดีผมทำโทรศัพท์หายครับอา นี่ผมก็มายืมโทรศัพท์ไอ้ฟ้ามันจะโทรมาฝากอาบอกแม่ด้วยแล้วกันนะครับว่าผมขออยู่บ้านฟ้ามันสักสองสามวัน พอดีฟ้ามันให้มาช่วยงาน”‘แน่ใจนะมีตว่าเราไม่ได้เป็นอะไร’เพราะน้ำเสียงแฟนมีตที่ตะกุกตะกักผิดปกติ ทำให้เวลจับผิดได้ไม่ยากว่าคนปลายสายกำลังโกหกเขาอยู่“นะครับอาทำตามที่ผมบอก”‘ก็ได้ แต่จบเรื่องนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ’“ว่าแต่ทางนั้นมีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่าครับ”เมื่อเห็นว่าเวลยอมให้ความร่วมมือ แฟนมีตจึงถามถึงเรื่องสำคัญที่ฝากเอาไว้ทันที‘ก็ไม่มีนะ กิ่งแก้วดูปกติดีไม่ได้ทำอะไร จะมีก็แค่เขาดูไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยที่อามาอยู่ที่นี่’“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขอร้องให้อาหาเรื่องอยู่ที่บ้านนั้นกับแม่ไปก่อนจนกว่าผมจะกลับไป”‘มีตจะให้อาทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ’“ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ แล้วครับอา และผมก็มีอีกเรื่องสำคัญที่จะฝากให้อาช่วย”ด้วยทุกอย่างมันผิดจากแผนเดิมไปจนหมด และแ
แฟนมีตเดินลัดเลาะไปที่ด้านหลังของโกดังซึ่งอยู่ติดกับทุ่งนาของชาวบ้านรั้วสูงถูกพันเอาไว้ด้วยลวดหนาม เป็นหนทางเดียวที่เขาจะสามารถเข้าไปด้านในได้ และเขาต้องยอมเสี่ยงแฟนมีตสำรวจไปรอบๆ เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่มีใครมาเจอตัวของเขาก่อนที่เขาจะเข้าไปในโกดังได้หนามจากลวดเกี่ยวเข้าที่แขนและขาของชายหนุ่มจนเป็นรอยยาว โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงสามารถข้ามเข้ามาในฝั่งของโกดังได้อย่างปลอดภัย“คุณแม่มาถึงหรือยัง”“ด็อกเตอร์กำลังเดินทางมาครับ อีกประมาณ 15 นาทีจะถึง เห็นท่านแจ้งว่าวันนี้รถค่อนข้างติด”ผู้ชายวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับเพนเน่ที่ด้านหลังโกดังซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นที่จอดรถ ชายคนนั้นสวมชุดขาวคล้ายกับชุดป้องกันรังสีเหมือนในภาพยนต์ที่เคยเห็น“ก็จริง กว่าฉันจะมาถึงได้ก็เสียเวลาไปหลายนาทีอยู่ แล้วข้างในเป็นยังไงบ้าง”“ด็อกเตอร์สั่งปรับสูตรยาตัวใหม่ให้มีประสิทธิภาพที่แรงขึ้นกว่าเดิมสองเท่าครับ”“สองเท่าเองเหรอ?”“ใช่ครับ ฟังดูมันอาจจะน้อยนะครับคุณเพนเน่ แต่สองเท่าสำหรับยาสูตรนี้ถ้าหากเป็นคุณเพนเน่คนเดิมที่เพิ่งเคยใช้ยาตัวนี้เป็นครั้งแรกอาจจะไม่ต้องใช้ยาไปอีกเลยถึงสามเดือน”ผู้ดูแลอวดอ้างสรรพ
แฟนมีตหลับสนิทไปแล้ว ส่วนพาสต้ายังคงนอนตะแคงมองใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นถ้าวันหนึ่งเขากลับเข้าร่างไปได้ เขาจะมีโอกาสมาอยู่แบบนี้อีกหรือเปล่า แฟนมีตจะหายไปจากชีวิตของเขาไหม หรือเขาจะต้องไปอยู่ที่ไหนกันแน่เรื่องที่เรนิสากับภานุทำเอาไว้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าความจริงถูกเปิดเผยพ่อกับแม่ของเขาก็คงต้องไปชดใช้ความผิดตามกฎหมายที่ไม่รู้ว่ามันจะหนักหนามากสักแค่ไหนแต่ที่แน่ๆ มันอาจจะนานมากพอที่จะทำให้ยาอายุวัฒนะที่อยู่ในร่างกายของคนพวกนั้นหมดฤทธิ์แล้วธรรมชาติก็จะได้กลับมาทำหน้าที่ของมัน..:“แม่คะ หนูรู้สึกว่ายารอบนี้ประสิทธิภาพมันลดลงนะคะ”เพนเน่กลับมาจากร้านกาแฟ เธอรีบตรงไปหาเรนิสาที่ห้องทำงานทันที หลังจากที่เธอเจอความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย“เกิดอะไรขึ้น?”“คือหลังจากหนูรับยาไปได้ 1 สัปดาห์ร่างกายก็เริ่มรู้สึกอ่อนเพลียแล้วก็เหมือนมันจะมีอาการคล้ายๆ กับเวลายามันหมดฤทธิ์”“เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อตัวยานี้มันสามารถดูดซึมอยู่ในร่างกายถึง 1 เดือนหรือเพราะมีอะไรผิดพลาด”เรนิสาถอดแว่นตาออกก่อนจะเดินรอบๆ ตัวของลูกสาวเธอเพื่อสำรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้น“หนูเองก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะแม่ แต่มันเป็นแบบน
“สวัสดีครับน้ากิ่ง”“ว่าไงแฟนมีต ขอน้ามาอยู่ด้วยชั่วคราวนะ”หลังจากที่แฟนมีตกับพาสต้ากลับมาถึงบ้านได้ไม่นาน กิ่งแก้วก็มาพอดีพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่สองใบในมือ“ครับ แม่เขาบอกผมแล้วว่าบ้านน้ากิ่งกำลังต่อเติมเลยจะมาขออยู่ด้วย ผมจัดห้องนอนไว้ให้แล้วนะครับ น้ากิ่งเอาของเข้าไปเก็บไว้ห้องก่อนได้เลย”“แล้วเย็นนี้น้ากิ่งอยากกินอะไรไหมครับ”“เดี๋ยวน้าทำให้ดีกว่าไหม”“ไม่เป็นไรครับผมว่าผมทำเองดีกว่า น้ากิ่งมาเหนื่อยๆ วันนี้แม่ก็ไปข้างนอกมาดูเพลียๆ ไปพักเถอะครับเดี๋ยวผมจัดการให้”“ก็ได้จ้า งั้นน้ากินอะไรก็ได้แล้วแต่มีตเลย”กิ่งแก้วหิ้วกระเป๋าเดินหายไปในห้องรับรองชั้นล่าง ส่วนแฟนมีตที่พยายามอดกลั้นความรู้สึกเสียใจเอาไว้ได้แต่บอกตัวเองว่าต้องทำตามแผนให้สำเร็จ เพราะเขาไม่รู้เลยว่าเรื่องยาที่พาสต้าไปได้ยินมา มันจะเป็นผลดีหรือผลเสียต่อแม่ของเขาอย่างไร“มีตทำอะไรเหรอลูก?”พลอยที่ตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นเดินเข้าไปหาลูกชายในครัว“กำลังเตรียมมื้อเย็นครับแม่”“ทำไมไม่ปลุกแม่ล่ะ มาเดี๋ยวแม่ทำเอง”“ไม่เป็นไรครับ วันนี้แม่ดูเพลียๆ ให้ผมทำให้ดีกว่า”พลอยเตรียมจะไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ แต่ก็ถูกลูกชายดึงคืนไปเสียก่อนพ
“เป็นน้ากิ่งจริงๆ เหรอเนี่ย..”แฟนมีตทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขก หลังจากที่ทุกๆ อย่างมันอยู่เหนือความคาดหมายที่เขาคิดเอาไว้“ผมบอกตามตรงนะพาสต้าผมพยายามจะไม่เชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง คุณอาจจะเข้าใจอะไรผิด แต่ตอนนี้ผมหลอกตัวเองต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว”“ใจเย็นๆ ก่อนนะแฟนมีต ผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องบ้าพวกนี้มันจะไปจบลงที่ตรงไหนกันแน่ ตอนนี้ผมเองก็สับสนไปหมด”“แล้วเมื่อเช้าพวกเขาคุยอะไรกันบ้าง”“ตอนผมไปถึงเขาก็คุยกันไปได้สักพักแล้วแต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่าน้าของคุณคงไม่ใช่แค่คนรู้จักของคนที่บ้านผมแน่ๆ”“ทำไมคุณคิดแบบนั้น?”“จากที่ฟังเมื่อเช้าที่พวกเขาคุยกันบนโต๊ะอาหารผมว่าบางทีพวกเขาอาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียหรือข้อตกลงอะไรกันมาก่อน ไม่อย่างนั้นจู่ๆ พ่อกับแม่ของผมจะฝากให้พี่เพนเน่เอายามาให้กิ่งแก้วทำไม”ยาขวดสีน้ำตาลลักษณะเป็นน้ำใสๆ ที่พาสต้าคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาเคยเห็นมาจากที่ไหนสักแห่งแต่ตอนนี้เขาเองยังนึกไม่ออกและเพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการ เขาจึงหันมาให้ความสนใจเรื่องของกิ่งแก้วในเวลานี้แทน“มันก็น่าจะเป็นแบบนั้น แต่ที่สำคัญคือยาที่น้ากิ่งเขาไปเอามามันคือยาอะไร”“จะเป็นยาอะไรผมว่าเดี๋
“พาสต้าได้เรื่องอะไรมาบ้างหรือเปล่า”แฟนมีตนั่งรออยู่นาน จนกระทั่งพาสต้าปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของพาสต้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก“ได้มาเยอะมากเลย อย่างแรกเมื่อเช้าพลอยเขาได้บอกหรือเปล่าว่าเขาจะออกไปไหน”“ก็ตั้งแต่เมื่อคืนพอคุยกับอาเวลจบผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับแม่อีกเลย”“งั้นเรารีบไปที่ร้านกาแฟของเพนเน่เถอะพลอยกำลังไปที่นั่น”“แม่รู้จักพี่เพ่นเน่ด้วยเหรอ”“ถ้ามาถึงขนาดนี้ผมว่าเขาก็คงรู้จักกันแล้วแหละ เราไปดูให้เห็นกับตาดีกว่าว่าจริงเท็จแค่ไหน ก่อนที่มันจะไม่ทัน”แฟนมีตรีบออกรถทันทีที่ได้รับข่าวเรื่องของแม่ตัวเองถึงแม้พลอยจะบอกว่าเธอเป็นเพื่อนกับพาสต้าแต่เพราะครอบครัวพาสต้าค่อนข้างเก็บตัวและตัวพลอยเองก็ไม่เคยเล่าว่าเธอรู้จักพี่สาวของพาสต้ามาก่อนที่สำคัญถ้าแม่ของเขารู้จักกับเพนเน่จริง เรื่องที่มีข่าวว่าเพนเน่ใช้ยาอายุวัฒนะกับเรื่องที่พาสต้าหายตัวไป พลอยเองก็อาจจะไปรู้หรือเห็นอะไรมามากกว่าที่เธอเคยเล่าให้ลูกชายฟัง:“ไงพลอยไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”“พี่เพนเน่ก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ”วันนี้เป็นวันหยุดของพนักงานบริษัท ลูกค้าที่มาใช้บริการภายในร้านจึงไม่ได้หนาแน่นสักเท่าไหร่พลอยมานั่งรอเพนเน่ตั้งแต่