แชร์

ตอนที่ 3 เพราะเธอคือมารดาตัวร้าย

ผู้เขียน: จินเหมยเทียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-01 23:50:28

ตอนที่ 3 เพราะเธอคือมารดาตัวร้าย

หรงผิงใช้เวลาช่วงบ่ายหมดไปกับการทำงานบ้าน

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ห่างไกลจากบ้านหลังอื่น เพราะไม่สามารถอยู่รวมกับครอบครัวสามีได้เลยต้องออกมาอยู่เองต่างหาก และเพราะเจ้าของร่างเดิมไม่ถูกกับใครในหมู่บ้าน เลยต้องมาซื้อที่ดินอาศัยอยู่ห่างไกลจากคนอื่น ๆ

หรงผิงตักน้ำไว้ใช้จนครบหมดทุกที่ เธอเก็บเสื้อผ้าซักตากเต็มหลังบ้าน ทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุม และได้สำรวจด้วยว่าขาดเหลืออะไรบ้าง บางอย่างไม่จำเป็นแต่กลับมี บางอย่างที่ควรมีกลับไม่มี เธอต้องจัดการของที่ไม่จำเป็นออกให้หมด และต้องเริ่มปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ทั้งของตัวเองและของฝาแฝดด้วยเหมือนกัน

หากให้บอกว่าร่างเดิมเอาเงินไปใช้สิ้นเปลืองทั้งหมดก็ไม่ใช่ เพราะยังเอามาสร้างบ้านจนดูดีกว่าคนอื่น และยังสร้างกำแพงสูงอีกด้วย บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเหมือนบ้านเศรษฐีที่อยู่ในเมือง เงินที่เอามาสร้างก็มาจากเงินสามีที่เป็นทหาร ซึ่งเบิกเงินล่วงหน้ามาสร้างบ้านตามที่ร่างเดิมต้องการ

ความจริงเป็นแบบไหนเธอก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะจากที่รู้มาส่วนมากมาจากความทรงจำเดิม และบางอย่างที่เธอคิดและมองแบบคนนอก เลยมองเห็นภาพที่แตกต่างจากเจ้าของร่างเดิม

สามียอมตามใจเจ้าของร่างเดิมเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง เพราะต้องทำงานใช้หนี้ที่เบิกมาสร้างบ้านสร้างกำแพง เขาเลยแทบไม่มีวันหยุด และด้วยเหตุนี้ร่างเดิมจึงคิดว่าสามีคงมีคนอื่น ไม่ยอมกลับบ้านมาหาเธอกับลูก จึงเริ่มลงมือทำร้ายลูกเพื่อเรียกร้องให้สามีสนใจ และนับวันยิ่งหนักมือขึ้นเรื่อย ๆ 

"วันนี้มีแค่ข้าวต้มนะ วันหลังแม่จะทำอย่างอื่นให้กินอีก" หรงผิงบอกสองแฝดที่ช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ช่วย จนบางครั้งเธอต้องบอกให้หยุดทำ

ทั้งสองมองหน้าแม่อย่างระแวง ไม่รู้ว่าแม่จะใจดีแบบนี้อีกนานแค่ไหน กลัวว่าผ่านคืนนี้ไปแล้วแม่จะกลับมาใจร้ายแบบเดิมอีก วันนี้แม่เก็บบ้านทำงานบ้านทั้งหมด เก็บผ้าซักแทบหมดบ้าน และยังเข้าไปเก็บห้องนอนทั้งสองห้องอีกด้วย

"คืนนี้นอนด้วยกันที่ห้องใหญ่นะ" หรงผิงบอกก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อเงียบ ๆ 

ที่บอกแบบนั้น เพราะห้องนอนเล็กไม่มีเตียงเตา ทั้งสองปูผ้านอนกับพื้นทั้งที่อากาศเย็น แต่ห้องนอนใหญ่มีเตียงเตา และเตียงกว้างพอให้นอนได้ทั้งสามคน

"นอนได้จริง ๆ เหรอคะ" ซือหงกลั้นใจถามออกไป หากนอนได้พวกเธอจะไม่หนาว ไม่ต้องขนเสื้อผ้ามาทับตัวให้อุ่น ไม่ต้องนอนกอดกันเหมือนเดิม เพราะห้องแม่มีเตียงเตา แค่นอนที่พื้นใกล้ ๆ เตียงเตาก็อุ่นแล้ว

"อืม รีบกินแล้วจะได้รีบอาบน้ำ" หรงผิงบอกทั้งสองก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อ ไม่ชวนคุยและไม่จ้องมองทั้งสอง เพราะหากจ้องมองทั้งสองก็จะเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก ทั้งสองจะกลัวถูกทำร้าย หรงผิงเข้าใจดีเลยต้องเงียบ ๆ พูดเท่าที่ควรพูด เพราะเท่านี้ก็ทำให้ฝาแฝดมองเธอแปลก ๆ แล้ว

"อาบกันเองได้ไหมหรือต้องให้อาบให้" เมื่อต้มน้ำเตรียมให้เด็ก ๆ เรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ถามก่อน ใจจริงแล้วอยากอาบให้ด้วยซ้ำ แต่เพราะเธอไม่อยากรีบเข้าหาทั้งสองมากนัก จึงต้องถามก่อน

"อาบเองได้ครับ" จือหมิงรีบตอบกลับ ที่แม่ทำมาตั้งแต่บ่ายก็ทำให้เขากับน้องสาวไม่สบายใจแล้ว ถึงจะชอบที่แม่ใจดี แต่มันก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำแบบนี้ทำไม

หรงผิงพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะออกจากห้องน้ำหลังจากเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็มาจัดที่นอนในห้องนอนใหญ่ เพื่อให้สองแฝดได้นอนกันอย่างสบาย

หลังจากที่คิดว่าทำอะไรเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมายืนหน้าบ้าน มองทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ถึงแม้จะรับรู้ว่ายุคนี้เป็นยุคที่ยากลำบาก แต่หากเทียบกับที่ที่จากมาถือว่าที่แห่งนี้ยังดีกว่ามาก ยังมีแหล่งน้ำ และยังมีต้นไม้ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ 

"ใคร!! " หลินหลินรู้สึกว่ามีคนจ้องมองอยู่ เลยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่กดดัน เพื่อให้คนที่ซ่อนตัวอยู่แสดงตัวออกมา

เมื่อรู้ว่าสัญชาตญาณของตนไม่ได้หายไปไหน ก็ทำให้ดีใจขึ้นมาทันที เธอยังมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดจากวันสิ้นโลก และเธอคาดหวังว่าพรวิเศษที่เคยได้รับในครั้งนั้นจะตามมาด้วยเช่นเดียวกัน

"ฉันเอง" เสียงดังขึ้นพร้อมคนที่เดินออกมาจากพุ่มไม้ข้าง ๆ กำแพงบ้าน

"แม่เหรอ... มาแล้วทำไมไม่เข้าบ้าน" หรงผิงจำได้ว่าคนคนนี้คือแม่ของร่างเดิม 

"ได้ยินมาว่าไม่สบาย หายหรือยัง" เหลียนฟาง มองหน้าลูกสาว แล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นว่าลูกสาวมีท่าทางเปลี่ยนไป

"ดีขึ้นแล้ว แม่รู้ได้อย่างไร เข้าบ้านก่อนดีกว่า" หรงผิงรู้ว่าทำไมแม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะร่างเดิมไม่ใช่แม่ที่ใจร้ายเพียงอย่างเดียว... ทว่ายังเป็นลูกสาวที่เอาแต่ใจอีกด้วย

เหตุการณ์ล่าสุดที่จำได้คือ... ร่างเดิมทะเลาะกับแม่แล้วบอกไม่ให้แม่อย่ามายุ่งเรื่องของเธออีกต่อไป

จากที่รับรู้ ครอบครัวพ่อแม่พี่ชายก็รักเธอมาก ครอบครัวสามีก็ไม่ได้ร้ายมากมาย หากเทียบกับนิสัยร่างเดิมแล้ว... ร่างเดิมร้ายกว่าเป็นไหน ๆ 

"มียากินไหม แล้วกินข้าวหรือยัง" เหลียนฟางถามก่อนจะเดินตามลูกสาวเข้าบ้าน

"ฉันกินแล้ว แม่ล่ะกินแล้วหรือยัง" หรงผิงตอบและถามกลับ

"กินแล้วก็มานี่แหละ แต่เดี๋ยวต้องรีบกลับก่อนมืด เด็ก ๆ ไปไหนหมด" ความจริงแล้วเธออยากถามว่าหลาน ๆ กินข้าวหรือยัง เพราะรู้ดีว่าลูกสาวไม่สนใจลูกของตัวเองมากนัก

ลูกสาวสนใจแต่สามี ต้องการความรักจากสามี ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สามีคนนี้มา ต้องบอกว่าแย่งมาเลยก็ว่าได้เพราะลูกเขยมีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่เพราะลูกสาวเธออยากได้จึงลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มารู้เรื่องอีกทีก็เปลี่ยนจากข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกเสียแล้ว

"เด็ก ๆ กินข้าวแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว แม่... หากพ่อเด็ก ๆ กลับมาแล้วขอหย่า แม่จะว่าอะไรไหม" หรงผิงไม่รู้หรอกว่าที่นี่เป็นแบบนี้ แต่เธอคิดว่าอีกไม่นานพ่อของเด็ก ๆ จะกลับมา 

"ทำไมถึงพูดแบบนั้น" เธอใจหายใจคว่ำกับลูกสาวคนนี้อยู่เรื่อย ตั้งแต่มีสามี และนี่มาพูดเรื่องหย่าทั้งที่ลูกสาวไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย

"ฉันแค่ถามแม่ดูเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหรอก" หรงผิงยิ้มให้แม่ของร่างเดิม

ใครจะกล้าบอกว่าร่างเดิมส่งโทรเลขไปหาสามี บอกว่าหากไม่กลับมาจะไม่ให้เขาเจอหน้าลูกสองคนอีกเลย ที่ทำแบบนั้นเพราะร่างเดิมได้ยินคนพูดว่าสามีของเธอกำลังจะยื่นหนังสือขอหย่า

พอได้ยินข่าวมา ร่างเดิมก็รีบเดินเท้าฝ่าหิมะเข้าไปในเมือง เพื่อส่งโทรเลขไปขู่สามี ต้องการให้สามีกลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง แต่พอขากลับตัวเองกลับลื่นลงไปในคลองหน้าหมู่บ้าน แต่ก็ยังช่วยตัวเองขึ้นมาจนกลับมาถึงบ้านด้วยสภาพที่เปียกไปทั้งตัว

ด้วยเหตุนี้ร่างเดิมจึงไม่สบายและน่าจะตาย... จนเธอเข้ามาอยู่ในร่างแทน...

"ไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกหย่าหรอก" ถึงจะรู้ว่าลูกสาวใจร้ายกับลูกกับสามี และรู้ดีว่าลูกเขยรังเกียจลูกสาว แต่เธอที่เป็นแม่ก็ไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองต้องหย่าจากสามีอยู่ดี

"แม่จะอายไหม" หรงผิงถามต่อ เพราะคนที่นี่ให้ความสนใจกับเรื่องแบบนี้

คนส่วนมากจะทนอยู่กันไป หากไม่เลวร้ายสุด ๆ ก็ไม่มีการหย่าขาด แต่สำหรับเธอที่เป็นมารดาตัวร้าย อาจจะถูกสามียื่นเอกสารขอหย่าก็ได้

"อายตั้งแต่ที่แกมอมเหล้าเขาแล้วปลุกปล้ำจนได้เจ้าแฝดมานี่แหละ" เหลียนฟางพึมพำเบา ๆ ตอนนี้ไม่ต้องบอกหรอกว่าอายไหม เลยคำว่าอายมาแล้ว แต่เพราะครอบครัวรักลูกสาวจึงต้องแอบมาดู แอบมาหาอยู่อย่างนี้

แต่ก่อนไม่ต้องแอบมาหา แต่เพราะล่าสุดเธอสอนลูกให้รักลูก และให้เห็นใจสามี เท่านั้นแหละลูกสาวกลับไม่ยินยอม หาว่าเข้าข้างคนอื่น แทนที่จะเข้าข้างลูกตัวเอง

หรงผิงได้ยินในสิ่งที่แม่พูดก็เข้าใจดี แต่หากพ่อของเด็กแฝดอยากจะหย่าจริง ๆ เธอก็คงต้องยอม เพราะอย่างไรเธอก็ไม่ใช่แม่ของเด็กแฝด เธอเป็นเพียงคนที่มีชื่อแซ่เดียวกันเท่านั้น อย่างอื่นไม่เหมือนเลย แม้แต่รูปร่างหน้าตายังไม่มีส่วนคล้ายกันสักนิดเดียว

"แต่หากเขาหย่าจริง ๆ ก็กลับไปอยู่บ้านเราก่อน จะเอาอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกที" ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้ยินเรื่องนี้ ขนาดเธออยู่หมู่บ้านข้าง ๆ ยังได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่ที่แปลกใจคือลูกสาวนั่งนิ่งเหมือนยินยอมเกี่ยวกับเรื่องนี้

"อาจมีเพียงฉัน หลานแม่คงไม่ได้ไปด้วย" หรงผิงแค่พูดเผื่อไว้เท่านั้น เพราะสาเหตุที่สามีขอหย่า เพราะเธอคือมารดาตัวร้าย ไม่เหมาะแก่การเป็นแม่คนหรือไม่เหมาะกับการดูแลเด็กเล็ก

ซึ่งหรงผิงเข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี หากเทียบกับนิสัยร่างเดิมมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ เธอเลยยอมหากสามีของร่างเดิมต้องการดูแลลูกเอง เพราะอย่างไรเขาก็เป็นพ่อลูกกัน ส่วนเธอในตอนนี้คือคนอื่น...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 4 กรรมที่เคยทำ

    ตอนที่ 4 กรรมที่เคยทำเมื่อได้พูดคุยและส่งแม่กลับเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ปิดบ้าน เตรียมตัวเข้าบ้านอาบน้ำนอน วันนี้เธอเจอมาหลายเรื่องแล้ว รับรู้มาหลายอย่าง เหมือนเป็นเธอที่กำลังมารับกรรมแทนร่างเดิมเลย แต่จะทำอย่างไรได้ ชีวิตคนเรามันไม่เคยมีอะไรง่ายอยู่แล้ว..."ทำไมนอนกันตรงนี้" เมื่อเข้ามาในห้องก็เห็นว่าฝาแฝดนอนกับพื้นข้าง ๆ เตียงเตา"แม่เคยให้นอนตรงนี้" ซือหงตอบเสียงเบา"ขึ้นไปบนเตียง ทั้งสองคนเลย" หรงผิงสั่งเสร็จก็ไปจัดการจุดถ่านเพื่อที่จะได้เอามาไว้ใต้เตียงเตาเมื่อกลับมาแล้วก็เห็นสองพี่น้องนอนอยู่บนเตียงเตาแล้ว เธอเลยไม่พูดอะไรนอกจากเติมไฟให้เรียบร้อย ก่อนจะออกไปเตรียมอาบน้ำ เธอใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน หลังจากสำรวจตัวเองแล้วก็รีบออกมา เธอแอบไปดูฝาแฝด ก่อนจะเอาผ้าที่ร่างเดิมหวงนักหวงหนามาห่มให้ทั้งสอง และออกมานั่งที่หน้าบ้านจากตอนแรกคิดว่าตัวเองจะรีบนอนพักผ่อน พอเอาเข้าจริง ๆ กลับมีหลายเรื่องให้คิดจนไม่อยากจะนอน เลยออกมาใช้เวลาอยู่กับตัวเอง เพื่อทบทวนว่า หากเธอต้องมาอยู่ในร่างมารดาตัวร้ายจริง ๆ เธอจะทำอะไรต่อจากนี้เรื่องทำมาหากินเอาตัวรอดนั้นไม่กลัวเลย แต่เรื่องที่เจ้าของร่างเดิมสร้างเรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 5 ชดเชยให้

    ตอนที่ 5 ชดเชยให้หรงผิงพาฝาแฝดเดินดูรอบ ๆ หมู่บ้าน ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่แม่น้ำที่ร่างเดิมตกลงไป หากเป็นโลกเดิม ปลาแทบไม่มีแล้ว เพราะมีสารพิษในแม่น้ำ แต่ที่เห็นในตอนนี้สายน้ำยังใส ถึงจะรับรู้จากความทรงจำว่าหากุ้งหอยปูปลาได้ยาก แต่คิดว่าอย่างไรมันก็ต้องมีสัตว์น้ำอาศัยอยู่อย่างแน่นอน"แม่ไม่เข้าไปในเมืองเหรอคะ" ซือหงที่ตอนนี้กล้าถามกล้าพูดคุยกับแม่มากขึ้นกว่าเดิมนิดหนึ่ง ก็มองเส้นทางเข้าเมืองที่แม่ชอบไปบ่อย ๆ"เข้า... แต่ขอทำอะไรไว้สักหน่อย" หรงผิงถกกางเกงขึ้นแล้วเอาเถาวัลย์มัดไว้ ก่อนจะเอาไม้ที่หาได้ค่อย ๆ ขุดหลุมดักปลา ในเมื่อตอนนี้เธอยังไม่ได้เตรียมอุปกรณ์จับปลา สิ่งเดียวที่ทำได้คือหลุมดักปลา!!"ผมช่วย แม่ต้องทำแบบไหน" จือหมิงไม่เคยเห็นแม่ทำแบบนี้มาก่อน แต่ในเมื่อแม่เปลี่ยนเป็นคนใจดีแล้ว เขาก็พร้อมที่จะช่วยเช่นเดียวกันก่อนหน้านี้เขาก็เห็นใจแม่เหมือนกันที่คนอื่นรุมว่าแม่ เขาทำได้เพียงแค่มองเท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าแม่ใจร้ายจะออกมาตอนไหน หากแม่ใจร้ายออกมา เขาต้องพาน้องสาวหนีกลับมาตั้งหลักก่อน แต่พอเห็นแม่ใจดียังอยู่ก็ได้แต่แอบดีใจอยู่เงียบ ๆ"ก่อนหน้านี้เคยได้ผล ไม่รู้ว่าตอนนี้จะได้ผลไหม"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 6 แม่ใจร้ายตายไปแล้ว

    ตอนที่ 6 แม่ใจร้ายตายไปแล้วเช้าวันใหม่ สองพี่น้องรีบตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาช่วยแม่ทำงาน ทั้งสามถือกระป๋องเดินไปที่ลำธารในบริเวณที่ทำหลุมดักปลา ทั้งสองจำได้ดีว่าวันแรกได้ปลากลับบ้านไปตั้งหนึ่งตัว!! แม่ใจดีทำน้ำแกงปลาให้กินอีกด้วย บอกเลยว่ามันอร่อยมาก!!นับตั้งแต่วันนั้น พวกเขาจะมาดูปลาแต่เช้ามืดทุกวัน ซือหงหักนิ้วนับจำนวนวันที่แม่ใจดีมาอยู่ด้วย จากการนับแบบผิด ๆ ถูก ๆ ทำให้เธอนับได้จำนวนห้าวันแล้ว แต่พี่ชายบอกว่าเจ็ดวัน!! ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าใครที่นับวันผิดหรือถูก!!"หากวันนี้ได้ปลา แม่จะทำน้ำแกงแล้วให้พวกลูกเอาไปให้ย่า" หรงผิงบอกลูกทั้งสอง ตอนนี้เธอเริ่มชินกับการดูแลฝาแฝดแล้วตลอดเวลา 10 วันที่เธอมาอยู่ที่นี่ เธอค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ เสื้อผ้า อาหารการกิน ตอนนี้ฝาแฝดกินข้าวครบ 3 มื้อ มีนมกินก่อนนอนทุกวัน มีเสื้อผ้าที่สะอาดใส่ บ้านเรือนถูกจัดให้น่าอยู่มากขึ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาจากพวกเธอทั้งสามคน ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่เปลี่ยนแปลง เจ้าแฝดก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกันตั้งแต่ทำหลุมดักปลา ก็มีปลามาติดทุกวัน อย่างน้อยก็ยังได้วันละตัว บางวันได้ถึงห้าตัว ตอนนี้เธอทำปลาตากแห้ง ปลาบาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 7 คนบ้านเฉิน

    ตอนที่ 7 คนบ้านเฉินเมื่อเห็นหลานเดินไปแล้ว คนเป็นย่าก็ได้แต่ถอนหายใจ จากที่เห็นคือหลานดูดีขึ้น หน้าตาสดชื่นแจ่มใส และหลานทั้งสองเชื่อว่าแม่กลายเป็นคนดีแล้ว หากคนเราเปลี่ยนแปลงง่ายขนาดนั้นคงเปลี่ยนไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานขนาดนี้หรอกรุ่ยจิวแต่งงานกับสามีและมีลูกชายทั้งหมดสามคน สามีเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตคอมมูน ลูกชายทั้งสามรับราชการเป็นทหารทั้งหมด ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวเธอดีกว่าบ้านอื่น ๆ สะใภ้ไม่ต้องทำงานอะไร นอกจากดูแลบ้านและดูแลลูกเพียงเท่านั้นด้วยความที่มีลูกชายหน้าตาดี และทุกคนทยอยสมัครเข้าไปเป็นทหาร ทำให้มีหญิงสาวอยากแต่งเข้าบ้านเฉินกันทั้งนั้น แต่เพราะลูกชายคนโตกับคนรองมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เหลือแต่คนเล็กเท่านั้นที่ยังไม่มี จึงทำให้สาว ๆ หลายคนถอดใจไปบ้างแต่แล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับลูกชายคนรอง หรือก็คือพ่อของเจ้าแฝดที่ดื่มกินจนเมาและได้เสียกับสะใภ้รองจนมีเจ้าแฝด ตั้งแต่นั้นหลายอย่างก็เปลี่ยนไป เพราะลูกคนรองต้องแต่งงานกับแม่เจ้าแฝด ลูกชายของเธอทำผิดต่อคู่หมั้นของตัวเองเรื่องขอถอนหมั้นก็ไม่ใช่เรื่องดีและไม่ควรทำเช่นกัน เพราะฝ่ายหญิงไม่ได้ทำอะไรผิดเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 8 ว่าด้วยเรื่องของการหย่า

    ตอนที่ 8 ว่าด้วยเรื่องของการหย่าผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วที่หรงผิงเข้าไปที่บ้านเฉิน หลังจากที่กลับมา เธอก็ไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้านอีกเลย แต่ให้ฝาแฝดเอาปลาเป็นเข้าไปให้บ้านย่าแทน ที่ทำแบบนั้นเพราะคิดว่าควรทำ เพราะหากหย่าแล้วจะได้จบกันด้วยดี"ปลาแห้งของเราเยอะมาก" จือหมิงมองปลาแห้งที่แม่ทำไว้เยอะมาก ๆ แม่บอกว่าเอาเก็บไว้กินได้นาน ๆ พอเห็นว่ามีอาหารอยู่มาก เลยทำให้ยิ้มอย่างสุขใจ"แม่ใจดีมาอยู่กี่วันแล้วหรือคะ หนูหักนิ้วได้ 15 วัน พี่ใหญ่บอก 17 วัน" ซือหงตัดสินใจถามแม่ น่าจะให้คำตอบกับเธอได้บ้าง"22 วัน" หรงผิงตอบออกไป เธอจำได้เป็นอย่างดี ตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่ เธอได้สำรวจและรู้ว่าช่วงนี้ยังทำอะไรมากไม่ได้ เพราะยังอยู่ในฤดูหนาว และเธอรอให้เรื่องหย่าคลี่คลายก่อนไม่รู้ว่าพ่อของเด็ก ๆ จะมาไม้ไหน เธอได้ข่าวที่ชาวบ้านพูดต่อ ๆ กันเพียงเท่านั้น จบจากเรื่องหย่าแล้วค่อยคิดว่าตัวเองจะทำอะไรต่อ จากที่นับวันเวลาดูแล้วคงเหลืออีกไม่กี่วัน พ่อของเด็ก ๆ คงมาจัดการเรื่องหย่าแล้ว"ผิดทั้งคู่!!" ซือหงหันไปหัวเราะกับพี่ชาย ที่ต่างเถียงกันแต่กลับผิดทั้งคู่"แม่... หย่าคืออะไร" จือหมิงอยากรู้เรื่องนี้มาก เขาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหา

    ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหาหรงผิงคิดว่าตัวเองน่าจะมาอยู่ที่สถานีตำรวจ เธอไม่ค่อยเข้าใจระบบระเบียบของยุคนี้มากนัก จึงทำได้เพียงเงียบและคอยมองสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เธอไม่รู้ว่าพ่อของเด็กแฝดจะทำแบบไหนบ้างอยากเห็นหน้าสักครั้ง คนแบบไหนที่ทำให้ร่างเดิมรักแบบหัวปักหัวปำขนาดนี้!!ดูใจร้ายเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้ ไม่มาเจอหน้า ไม่มาเจรจา แต่ยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่จัดการเอง นั่นเท่ากับว่าเขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ตัวเธอนั้นพอเข้าใจที่เขาทำแบบนี้ เพราะรู้ดีว่าร่างเดิมเป็นแบบไหน รับรองว่าถ้าเจ้าของร่างเดิมยังอยู่ก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ ๆ อย่าว่าแต่พ่อของเด็กแฝดเลือกทำแบบนี้เลย หากเป็นเธอที่ต้องการจัดการปัญหากับคนแบบเจ้าของร่างเดิม ก็เลือกที่จะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน"พออ่านหนังสือได้ใช่ไหม" เจ้าหน้าที่นั่งลง ก่อนจะถามหญิงสาวที่นั่งรออยู่เงียบ ๆ"พออ่านได้ค่ะ แต่อยากให้แจ้งมาด้วย เพราะอ่านไม่ค่อยคล่องสักเท่าไร" หรงผิงเลือกที่จะอ่านและฟังจากปากของเจ้าหน้าที่ด้วย"จะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ แล้วกัน" เจ้าหน้าที่คิดว่าหากอ่านทุกตัวอักษร มันจะเป็นประโยคทางการพอสมควร ชาวบ้านทั่วไปจะไม่ค่อยเข้าใจ อย่าว่าแต่ช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดี

    ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดีฝาแฝดเดินตามย่ามาที่ร้านค้าของหมู่บ้าน หากเป็นแต่ก่อนทั้งสองจะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อยากจะมาดูว่าร้านค้ามีอะไรขายบ้าง แม้ไม่ได้ซื้ออะไรเลยก็ตามแต่หลังจากเหตุการณ์ที่ทุกคนต่อว่าแม่ และคนขายไม่ยอมขายของให้ด้วย ทำให้พวกเธอไม่ค่อยอยากมาสักเท่าไร แต่ที่มาวันนี้เพราะจะได้มารอแม่ หากแม่กลับมาจะต้องผ่านเส้นทางนี้ เพราะตอนออกไป... แม่ก็นั่งรถผ่านเส้นทางนี้เหมือนกัน"พี่ใหญ่ หรือว่าแม่จะเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนที่พาเราเข้าไปในเมือง" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแม่อาจมาอีกเส้นทางหนึ่งก็เริ่มที่จะลังเลไม่อยากเดินต่อ"เดินเร็ว ๆ ย่าจะซื้อลูกอมนมกระต่ายขาวให้" รุ่ยจิวเร่งหลานทั้งสอง ตอนนี้พยายามที่จะให้หลานลืมเรื่องแม่ไปก่อน"ย่าครับ แม่จะมาเส้นทางนี้ไหมครับ" จือหมิงถามย่าเพื่อความแน่ใจ"ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไปเลือกขนมได้เลย อยากได้อะไรก็เลือกเอาเลย" รุ่ยจิวตอบหลานแล้วดันตัวหลานให้เข้าไปในร้านค้า เพื่อเลือกซื้อขนมตามที่ต้องการเมื่อให้หลานเข้าไปแล้ว ตัวเองก็นั่งรออยู่บริเวณหน้าร้านค้า ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ตอนนี้หลานทั้งสองดูเหมือนจะติดแม่มาก ๆ แค่หายไปไม่นานก็พากันออกมานั่งรอที่หน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียว

    ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียววันต่อมา หรงผิงก็พาลูกมาที่บ้านพ่อกับแม่ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งไม่ห่างกันมากนัก เธอทำตามที่ได้รับปากแม่ตั้งแต่เมื่อวาน และก่อนจะออกจากบ้าน เธอก็ให้ลูกไปบอกย่าว่าจะพากันไปนอนที่บ้านของยาย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กังวลว่าหลานหายไปไหนหลายวันในตอนแรกเธอคิดว่าบอกให้รับรู้แล้ว... ทุกคนจะได้วางใจ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด พวกเขากลัวว่าเธอจะพาลูกหนี!! จนต้องเดือดร้อนพ่อสามีเอารถแทรกเตอร์ของฝ่ายผลิตมาส่งพวกเธอถึงบ้านและนัดวันมารับกลับอีกด้วยหรงผิงไหนเลยจะไม่รู้ว่าพวกเขากลัวอะไร แต่เพราะเธอบริสุทธิ์ใจเลยยอมตกลงง่าย ๆ ดีเสียอีก ไม่ต้องพาลูกเดินให้เหนื่อย และไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วยเป็นใครก็ต้องระแวง เพราะคำว่าแม่ตัวร้ายนั้นไม่ใช่แค่คำเรียก การกระทำที่กล้าลงมือกับทุกคน ลงมือกับลูกต่างหากที่ทำให้คนเรียกแม่ของเจ้าแฝดว่าเป็นมารดาตัวร้าย!!หรงผิงเข้าใจดีเลยแหละ เธอไม่โกรธคนพวกนั้นเลย บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นห่วงเจ้าแฝด แบบนี้ยิ่งดี หากเธอหย่ากับพ่อของเด็ก ๆ แล้วก็สบายใจได้เลยว่า พวกเขาจะรักและดูแลเจ้าแฝดเป็นอย่างดี"ไม่ได้ไปทำงานกันเหรอคะ" หรงผิงมองหน้าพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ และหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05

บทล่าสุด

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิด

    ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิดหรงผิงเลือกซื้อสิ่งของที่ต้องการทุกอย่างด้วยเวลาอันรวดเร็ว อาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องซื้ออะไรบ้าง และอีกอย่างเธอต้องรีบเร่ง เพราะเธอต้องรีบไปรับลูกตามที่นัดไว้อีกด้วย"ซื้อสักหน่อยไม่น่าจะเสียเวลามาก" หรงผิงเห็นร้านขนมที่ขายอยู่ในห้างจึงตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อเพื่อเอาไปฝากลูก ขนมที่แปลกใหม่จะทำให้สองแฝดยิ้มได้อย่างแน่นอนหรงผิงใช้เงินซื้อของให้ลูกทั้งสองคนเกือบร้อยหยวน เธอซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หมวก เสื้อกันหนาว และทุกอย่างเธอซื้ออย่างละสองชิ้น!! หากถามว่าซื้อเยอะไหม ก็บอกเลยว่าเยอะ!! แต่เทียบกับจำนวนเงินที่หามาได้และความจำเป็นในสิ่งที่ซื้อก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอนหลังจากที่เข้าไปซื้อขนมเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ออกจากห้างเตรียมตัวกลับบ้านโดยเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนขามา สองเท้าก้าวเดิน ในหัวก็เริ่มวางแผน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวพ่อกับแม่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอมาตลอดถึงแม้สถานะทางบ้านไม่ได้ขัดสนมากนัก แต่พี่ชายทั้งสองคนกับพ่อก็ยังทำงานหนักอยู่ดี เธอคิดว่าคงช่วยแค่ทางบ้านตัวเอง คงไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือครอบครัวของพ่อเด็ก ๆ เพราะถึงอย่างไรเ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 16 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 16 เงินก้อนแรกเมื่อมาถึงในเมือง หรงผิงก็รีบตรงไปที่ตลาดมืดตามที่ตั้งใจไว้ วันนี้มีงานเทศกาลจึงทำให้มีผู้คนเข้ามาในเมืองค่อนข้างเยอะ และเธอรู้ว่าแม่สามีจะพาฝาแฝดมาเดินเที่ยวงานในวันนี้เช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ลูกหรือครอบครัวของสามีต้องมาเจอเธอในตอนนี้ตลาดมืดตามความทรงจำนั้น มันอยู่ในตรอกเล็ก ๆ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่มิดชิดขนาดนั้น ทุกอย่างเลยต้องรีบซื้อรีบขาย บางวันทั้งคนซื้อและคนขายยังต้องวิ่งหนีเจ้าหน้าที่กันอย่างอุตลุด เรื่องนี้เธอได้มาจากความทรงจำของร่างเดิม จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่อาจตอบได้จนกว่าจะไปเห็นกับตาตัวเองเท่านั้นการอำพรางตัวเข้ามานั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับหรงผิง เพราะเธอเคยเอาตัวรอดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ พอเข้ามาในเขตตลาดมืดก็เริ่มจากสำรวจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ สอบถามราคาสินค้า และคอยเฝ้ามองผู้คนไปด้วย หากต้องการขายของอย่างปลอดภัยจะต้องจับตามองลูกค้าให้ดี ๆ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็มาในรูปแบบของลูกค้าเช่นเดียวกัน"ฉันมีข้าวสาร พี่สาวสนใจไหม" เมื่อรู้ราคาสินค้าและยังได้จับตามองดูลูกค้ามาสักพักแล้ว จึงทำให้กล้าและมั่นใจที่จะเข้

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์ม

    ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์มหลังจากที่ส่งลูกทั้งสองไปบ้านย่าเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็กลับบ้านมาจัดการทุกอย่างให้พร้อม เธอเตรียมชุดกับให้เงินลูกพกติดตัวไปด้วย ถึงจะไม่มากมายแต่ก็ยังมีให้ติดตัวไปบ้าง หรงผิงดีใจที่เด็กทั้งสองเชื่อฟัง ถึงแม้เจ้าตัวเล็กซือหงจะอยากให้แม่ไปด้วยก็ตาม แต่พอบอกเหตุผลก็ยอมฟัง และหอบผ้าตามพี่ชายไปนอนบ้านปู่บ้านย่าด้วยสีหน้าเหงาหงอยพออยู่ด้วยกันนานนับเดือนก็มีความรู้สึกห่วงใยกันและกันเป็นธรรมดา เธอค่อนข้างห่วงเด็กทั้งสอง แต่ก็มั่นใจว่าครอบครัวของพ่อเด็กจะสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี"ไอ้คนแซ่เฉิน!! เมื่อไรจะกลับมาจัดการให้เรียบร้อย" หรงผิงนึกถึงพ่อของเด็กแฝดแล้วก็คิดว่าเขานั้นทำอะไรชักช้าเหลือเกิน ตอนนี้เธออยากหย่าขาดจากเขาแล้ว!!"บางครั้งฉันก็คิดว่านายใจร้ายเหมือนกันนะ" หรงผิงพึมพำเกี่ยวกับพ่อของเด็ก ๆ ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาก็ใจร้ายเหมือนกันหรงผิงสะบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเอง เธอไม่ชอบคุยกับคนอื่น แต่ชอบคุยกับตัวเอง เถียงกับตัวเองมากกว่า อาจเพราะติดนิสัยการเอาตัวรอดมาจากวันสิ้นโลก หากไม่จำเป็นจะไม่มีการพูดคุยกับคนอื่น เพราะเวลาเดินท

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไปชุนหลินรอแม่สามีที่บอกว่าจะไปหาสะใภ้รองอย่างเป็นกังวล เพราะแม่หายไปนานมากแล้วแต่ยังไม่กลับมา จึงทำให้เธออยู่รอที่บ้านไม่ไหว จนต้องเดินออกมาตาม หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน"ฉันกำลังจะออกไปตามแม่... " ชุนหลินเดินมาถึงครึ่งทางแล้วก็เจอแม่สามีพอดี เธอนั้นร้อนใจตั้งแต่ที่แม่บอกจะไปหาสะใภ้รอง และแม่ยังหายมานานอีกด้วย!!"พอดีคุยกับเจ้าแฝดเพลินเลยช้าไปหน่อย... กลับบ้านก่อนค่อยคุยกัน" รุ่ยจิวรีบบอกให้ลูกสะใภ้กลับบ้าน เพราะอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังเมื่อมาถึงบ้านก็เห็นลูกสะใภ้เล็กนั่งรออยู่แล้ว รุ่ยจิวเลยให้หลาน ๆ พากันออกไปเล่น ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตัวเองไปเจอมาให้ทั้งสองสะใภ้ได้ฟัง"แม่... หรือพี่สะใภ้รองจะรู้ตัวว่าทำผิดจริง ๆ " ซูเยว่พูดขึ้นหลังจากที่ฟังแม่สามีเล่าเรื่องจนจบ"พักนี้ไม่มีข่าวอะไรเลยนะ ปกติแล้วชาวบ้านจะต้องเล่าว่าไปเจอที่ไหนและโดนอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้ชาวบ้านไม่เห็นจะพูดถึงเลย แม้แต่เจอตัวก็ยังไม่มีใครได้เจอเลย" ชุนหลินก็บอกถึงเรื่องที่ตัวเองมักได้ยินเป็นประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไร จะบอกว่าคนอื่นเลิก

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 13 ความเชื่อใจ

    ตอนที่ 13 ความเชื่อใจหรงผิงและลูกทั้งสองตื่นแต่เช้า เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เด็ก ๆ จะมีหน้าที่ช่วยงานบ้านเท่าที่จะช่วยได้ และยังต้องหัดเขียนหนังสือที่ลานหน้าบ้านในตอนเช้าของทุกวันอีกด้วยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าในมิติฟาร์มยังมีสมุดหนังสือและดินสอที่สามารถนำออกมาใช้งานได้ เลยปล่อยให้ลูกทั้งสองคนเขียนหนังสืออยู่ที่ลานหน้าบ้านก่อน ส่วนตัวเธออ้างว่าต้องการไปเข้าห้องน้ำ แต่ความจริงแล้วเธอเข้ามาในมิติฟาร์มหรงผิงเคยได้รับบทเรียนมาจากโลกเดิมแล้วว่า... ความลับบางอย่างก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ เธอยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่เชื่อใจใครเลยสักคน ชาติที่แล้วตายเพราะญาติที่คิดว่าดีแสนดี ชาตินี้จะไม่มีทางทำเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด!!"คิดถึงกลิ่นนี้มากกก... " หรงผิงลากเสียงยาวทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือ ก่อนจะค่อย ๆ หาดินสอและหยิบสมุดเล่มเล็กตามที่ตัวเองตั้งใจมาเอาตั้งแต่แรก"ในนี้ทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย... ในครัวเรามีตู้ใส่อาหาร!! " เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ตัวเองจะตายมีเสบียงหลงเหลืออยู่ในครัว จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ เพราะในมิติฟาร์มทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม"

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน

    ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันผ่านมาสามวันแล้วที่หรงผิงกลับมาจากบ้านของพ่อและแม่ ทุกคนในครอบครัวเข้าใจเธอเป็นอย่างดี และยังยอมรับฟังเหตุผลของเธออีกด้วย เธอรู้ว่าโลกนี้ ยุคนี้ ค่อนข้างใจร้ายกับผู้หญิงที่หย่าจากสามี แต่พอมีครอบครัวที่พร้อมจะเคียงข้าง มันเลยทำให้เธอสบายใจมากขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร เธอสนใจแค่เจ้าแฝดและครอบครัวของพ่อแม่เพียงเท่านั้น"ใกล้แล้ว... ใกล้ที่ฉันจะเป็นอิสระแล้ว... " หรงผิงพึมพำคนเดียวเบา ๆหลังจากที่พาเจ้าแฝดเข้านอนแล้ว สถานที่ที่เธอชอบมานอนเวลาต้องการใช้ความคิดมากที่สุดคือบริเวณหน้าบ้าน อาจเพราะเธอชอบบรรยากาศและอากาศที่เย็นสบาย เธอรู้สึกว่าสมองแล่นได้ดีและคิดอะไรออกง่ายกว่าเวลาที่เจออากาศร้อนหรงผิงนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไปเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... เพราะเธอนอนดิ้นจนหล่นจากโต๊ะ!! ความรู้สึกที่กำลังจะร่วงหล่นลงพื้นทำให้เธอลืมตาตื่นทันทีตุ๊บ!!"อ่า... อยู่แบบคนธรรมดาเพียงไม่กี่เดือน... หลงลืมสัญชาตญาณที่เคยมีไปจนหมดสิ้น ไม่ดี ไม่ดี แบบนี้ไม่ดีเลย" หรงผิงสะบัดหัวเพื่อทำให้ตื่นตัวได้เต็มที่ ก่อนจะค่อย ๆ พยุงต

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียว

    ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียววันต่อมา หรงผิงก็พาลูกมาที่บ้านพ่อกับแม่ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งไม่ห่างกันมากนัก เธอทำตามที่ได้รับปากแม่ตั้งแต่เมื่อวาน และก่อนจะออกจากบ้าน เธอก็ให้ลูกไปบอกย่าว่าจะพากันไปนอนที่บ้านของยาย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กังวลว่าหลานหายไปไหนหลายวันในตอนแรกเธอคิดว่าบอกให้รับรู้แล้ว... ทุกคนจะได้วางใจ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด พวกเขากลัวว่าเธอจะพาลูกหนี!! จนต้องเดือดร้อนพ่อสามีเอารถแทรกเตอร์ของฝ่ายผลิตมาส่งพวกเธอถึงบ้านและนัดวันมารับกลับอีกด้วยหรงผิงไหนเลยจะไม่รู้ว่าพวกเขากลัวอะไร แต่เพราะเธอบริสุทธิ์ใจเลยยอมตกลงง่าย ๆ ดีเสียอีก ไม่ต้องพาลูกเดินให้เหนื่อย และไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วยเป็นใครก็ต้องระแวง เพราะคำว่าแม่ตัวร้ายนั้นไม่ใช่แค่คำเรียก การกระทำที่กล้าลงมือกับทุกคน ลงมือกับลูกต่างหากที่ทำให้คนเรียกแม่ของเจ้าแฝดว่าเป็นมารดาตัวร้าย!!หรงผิงเข้าใจดีเลยแหละ เธอไม่โกรธคนพวกนั้นเลย บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นห่วงเจ้าแฝด แบบนี้ยิ่งดี หากเธอหย่ากับพ่อของเด็ก ๆ แล้วก็สบายใจได้เลยว่า พวกเขาจะรักและดูแลเจ้าแฝดเป็นอย่างดี"ไม่ได้ไปทำงานกันเหรอคะ" หรงผิงมองหน้าพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ และหล

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดี

    ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดีฝาแฝดเดินตามย่ามาที่ร้านค้าของหมู่บ้าน หากเป็นแต่ก่อนทั้งสองจะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อยากจะมาดูว่าร้านค้ามีอะไรขายบ้าง แม้ไม่ได้ซื้ออะไรเลยก็ตามแต่หลังจากเหตุการณ์ที่ทุกคนต่อว่าแม่ และคนขายไม่ยอมขายของให้ด้วย ทำให้พวกเธอไม่ค่อยอยากมาสักเท่าไร แต่ที่มาวันนี้เพราะจะได้มารอแม่ หากแม่กลับมาจะต้องผ่านเส้นทางนี้ เพราะตอนออกไป... แม่ก็นั่งรถผ่านเส้นทางนี้เหมือนกัน"พี่ใหญ่ หรือว่าแม่จะเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนที่พาเราเข้าไปในเมือง" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแม่อาจมาอีกเส้นทางหนึ่งก็เริ่มที่จะลังเลไม่อยากเดินต่อ"เดินเร็ว ๆ ย่าจะซื้อลูกอมนมกระต่ายขาวให้" รุ่ยจิวเร่งหลานทั้งสอง ตอนนี้พยายามที่จะให้หลานลืมเรื่องแม่ไปก่อน"ย่าครับ แม่จะมาเส้นทางนี้ไหมครับ" จือหมิงถามย่าเพื่อความแน่ใจ"ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไปเลือกขนมได้เลย อยากได้อะไรก็เลือกเอาเลย" รุ่ยจิวตอบหลานแล้วดันตัวหลานให้เข้าไปในร้านค้า เพื่อเลือกซื้อขนมตามที่ต้องการเมื่อให้หลานเข้าไปแล้ว ตัวเองก็นั่งรออยู่บริเวณหน้าร้านค้า ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ตอนนี้หลานทั้งสองดูเหมือนจะติดแม่มาก ๆ แค่หายไปไม่นานก็พากันออกมานั่งรอที่หน้า

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหา

    ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหาหรงผิงคิดว่าตัวเองน่าจะมาอยู่ที่สถานีตำรวจ เธอไม่ค่อยเข้าใจระบบระเบียบของยุคนี้มากนัก จึงทำได้เพียงเงียบและคอยมองสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เธอไม่รู้ว่าพ่อของเด็กแฝดจะทำแบบไหนบ้างอยากเห็นหน้าสักครั้ง คนแบบไหนที่ทำให้ร่างเดิมรักแบบหัวปักหัวปำขนาดนี้!!ดูใจร้ายเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้ ไม่มาเจอหน้า ไม่มาเจรจา แต่ยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่จัดการเอง นั่นเท่ากับว่าเขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ตัวเธอนั้นพอเข้าใจที่เขาทำแบบนี้ เพราะรู้ดีว่าร่างเดิมเป็นแบบไหน รับรองว่าถ้าเจ้าของร่างเดิมยังอยู่ก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ ๆ อย่าว่าแต่พ่อของเด็กแฝดเลือกทำแบบนี้เลย หากเป็นเธอที่ต้องการจัดการปัญหากับคนแบบเจ้าของร่างเดิม ก็เลือกที่จะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน"พออ่านหนังสือได้ใช่ไหม" เจ้าหน้าที่นั่งลง ก่อนจะถามหญิงสาวที่นั่งรออยู่เงียบ ๆ"พออ่านได้ค่ะ แต่อยากให้แจ้งมาด้วย เพราะอ่านไม่ค่อยคล่องสักเท่าไร" หรงผิงเลือกที่จะอ่านและฟังจากปากของเจ้าหน้าที่ด้วย"จะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ แล้วกัน" เจ้าหน้าที่คิดว่าหากอ่านทุกตัวอักษร มันจะเป็นประโยคทางการพอสมควร ชาวบ้านทั่วไปจะไม่ค่อยเข้าใจ อย่าว่าแต่ช

DMCA.com Protection Status