แชร์

ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียว

ผู้เขียน: จินเหมยเทียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-05 20:42:44

ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียว

วันต่อมา หรงผิงก็พาลูกมาที่บ้านพ่อกับแม่ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งไม่ห่างกันมากนัก เธอทำตามที่ได้รับปากแม่ตั้งแต่เมื่อวาน และก่อนจะออกจากบ้าน เธอก็ให้ลูกไปบอกย่าว่าจะพากันไปนอนที่บ้านของยาย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กังวลว่าหลานหายไปไหนหลายวัน

ในตอนแรกเธอคิดว่าบอกให้รับรู้แล้ว... ทุกคนจะได้วางใจ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด พวกเขากลัวว่าเธอจะพาลูกหนี!! จนต้องเดือดร้อนพ่อสามีเอารถแทรกเตอร์ของฝ่ายผลิตมาส่งพวกเธอถึงบ้านและนัดวันมารับกลับอีกด้วย

หรงผิงไหนเลยจะไม่รู้ว่าพวกเขากลัวอะไร แต่เพราะเธอบริสุทธิ์ใจเลยยอมตกลงง่าย ๆ ดีเสียอีก ไม่ต้องพาลูกเดินให้เหนื่อย และไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วย

เป็นใครก็ต้องระแวง เพราะคำว่าแม่ตัวร้ายนั้นไม่ใช่แค่คำเรียก การกระทำที่กล้าลงมือกับทุกคน ลงมือกับลูกต่างหากที่ทำให้คนเรียกแม่ของเจ้าแฝดว่าเป็นมารดาตัวร้าย!!

หรงผิงเข้าใจดีเลยแหละ เธอไม่โกรธคนพวกนั้นเลย บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นห่วงเจ้าแฝด แบบนี้ยิ่งดี หากเธอหย่ากับพ่อของเด็ก ๆ แล้วก็สบายใจได้เลยว่า พวกเขาจะรักและดูแลเจ้าแฝดเป็นอย่างดี

"ไม่ได้ไปทำงานกันเหรอคะ" หรงผิงมองหน้าพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ และหลาน ๆ ที่อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

"ไม่เจอหน้านานแล้วเลยอยากอยู่ดูว่าน้องสาวยังสวยเหมือนเดิมไหม" เซียวฉวน พี่ชายคนรองยิ้มกว้างส่งให้น้องสาว และยังลูบศีรษะของหลานทั้งสองคนอย่างรักใคร่

"กินข้าวหรือยัง เข้าบ้านกันก่อนเร็ว" เซียวหยวน พี่ชายคนโตรีบบอกทุกคนให้เข้าบ้าน ไม่อยากให้อยู่หน้าบ้านกันนาน เพราะคนอยากรู้อยากเห็นมีเยอะเหลือเกิน

หรงผิงพาลูกเดินเข้าบ้าน จากความทรงจำนั้นเธอมีพี่ชายสองคน เธอคือลูกสาวคนเล็ก เป็นครอบครัวที่รักกันดี พี่สะใภ้ก็ดี ไม่ค่อยมีปากมีเสียงสักเท่าไร

จากที่หรงผิงรับรู้ ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวมีแต่คนดีทั้งนั้น มีเพียงร่างเดิมเท่านั้นแหละที่ร้ายกาจกับคนรอบตัว แต่ที่น่าเศร้าใจกว่านั่นคือ เธอรับรู้ได้ว่าร่างเดิมคิดแบบไหน ร่างเดิมไม่ได้สำนึกและไม่เคยคิดว่าตัวเองทำผิด

ต้องบอกว่าเป็นคนที่แยกแยะไม่ออกว่าสิ่งไหนผิดหรือถูก แยกได้แค่ตัวเองอยากทำหรือไม่อยากทำ และคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำคือถูกทั้งหมด นี่แหละถึงได้น่ากลัว

หากคนเราเลยจุดที่คนอื่นเตือนไม่ได้ ว่าไม่ได้เมื่อไร... หายนะได้เข้ามาในชีวิตตัวเองและคนรอบตัวแล้วล่ะ เธอถึงบอกว่าตาย ๆ ไปเถอะ อย่าอยู่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีกเลย

"กี่เดือนแล้วพี่สะใภ้รอง" หรงผิงรู้ว่าสะใภ้บ้านนี้ก็หลีกเลี่ยงที่จะคุยกับเธอมาแต่ไหนแต่ไร เพราะนิสัยของร่างเดิมอีกนั่นแหละ เธอเข้าใจดีเลยเลือกที่จะถามก่อน

"7 เดือนแล้วล่ะ" ชิงอี ตอบคำถามของน้องสามี หรือที่เธอพาลูกเรียกว่าอาเล็กนั่นเอง

"มีน้องกี่คนเหรอคะ" ซือหงเอามือมาลูบ ๆ ท้องที่นูนออกมาอย่างสนใจ

"มีแค่คนเดียว เท่านี้ป้ารองก็จะเดินไม่ไหวแล้ว" ชิงอียิ้มให้สาวน้อยที่ไม่ได้เห็นหน้ากันนานแล้ว

"กินข้าวมาหรือยังน้องเล็ก" หลิงเฟย สะใภ้ใหญ่ถามน้องสามีหลังจากพากันเดินเข้ามาในบ้านแล้ว

"กินมาแล้วค่ะ" หรงผิงยิ้มให้พี่สะใภ้อย่างที่ไม่เคยยิ้มกันมาก่อน

ตอนนี้สะใภ้ทั้งสองต่างแอบมองน้องของสามี เพราะมีความรู้สึกเห็นใจและกังวลใจจากเรื่องราวที่ได้ฟังจากแม่สามี

หรงผิงรู้ว่าสะใภ้ทั้งสองยังหวาดระแวงในตัวเธอ แต่พี่ชายพ่อและแม่นั้นไม่มีความหวาดระแวงในตัวของลูกสาวหรือน้องสาวเลย ไม่ว่าเธอจะเป็นแบบไหน พวกเขาก็รักน้อง รักลูกเหมือนเดิม

เธอจึงปล่อยให้สองสะใภ้มองได้ตามสบาย ส่วนตัวเธอก็เอาของไปวางไว้ก่อนจะมานั่งคุยกับพี่ชายและคุยกับแม่ต่อ ส่วนฝาแฝดก็ไปเล่นกับลูกพี่ชาย และแน่นอนว่าฝาแฝดเข้ากับคนอื่นได้ง่ายมาก จนเธอคิดว่านิสัยแบบนี้น่าจะมาจากทางพ่อของเจ้าแฝดแน่ ๆ เพราะร่างเดิมไม่ชอบผูกมิตร แต่ชอบสร้างศัตรูมากกว่า

"พ่อไปไหนเหรอคะ" ตอนมานั้นเห็นอยู่หน้าบ้าน และแค่ยิ้มให้เท่านั้นยังไม่ได้ทักทายกันเลย

"รีบเข้าไปหาผู้ใหญ่บ้าน อีกไม่นานก็กลับ" เหลียนฟางตอบลูกสาวก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นลูกสาวดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย กลายเป็นตัวเธอเองเสียอีกที่เดือดร้อนแทน

"นั่นไงมาแล้ว" เซียวฉวนหันไปเจอพ่อที่หน้าบ้านพอดีเลยบอกน้องสาวที่นั่งหันหลังอยู่ให้ได้รับรู้

"มีอะไรเหรอ" เซียวเหวิน มองหน้าลูกทั้งสามและมองหน้าภรรยาอย่างสงสัย เพราะทุกคนมองหน้าเขาเป็นตาเดียว

"พ่อกลับมาทัน... หนูจะได้บอกทุกคนทีเดียว" หรงผิงรู้ว่าทุกคนอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อ จะหย่าจริงหรือไม่ แล้วลูกจะอยู่กับใคร ทุกอย่างที่พวกเขาสงสัย เธอจะเป็นคนตอบคำถามนั้นเอง

ตอนนี้สะใภ้ทั้งสองแยกออกไปอยู่กับเด็ก ๆ ที่หลังบ้าน เหมือนต้องการปล่อยให้พ่อแม่พี่น้องพูดคุยปรึกษากันเอาเอง ไม่ว่าจะตัดสินใจทำอย่างไร พวกเธอก็เห็นด้วยทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะแบบนี้ครอบครัวเลยไม่มีปัญหาในบ้านเลย ทุกคนพูดคุยเข้าใจกัน ช่วยเหลือกันตลอด หากน้องสามีกลับตัวได้เหมือนที่แม่สามีบอก มันจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับครอบครัวเซียวเลยแหละ

"แม่เล่าให้พ่อกับพี่ ๆ ฟังหรือยังคะ" ถึงจะพอเดาได้ว่าคงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังแล้ว แต่ก็ต้องถามเพื่อความมั่นใจ

"เมื่อวานแกบอกมาอย่างไร ฉันก็เล่าให้คนในบ้านฟังแบบนั้นแหละ ไม่อย่างนั้นพ่อแกจะรีบไปหาผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่เช้าทำไม" เหลียนฟางตอบลูกสาว

"พ่อไปทำไมเหรอคะ" หรงผิงนึกว่าพ่อไปเรื่องงาน ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเธอ แต่พอแม่บอกมาแบบนี้เลยรู้สึกว่ามันต้องเกี่ยวกับเธอแน่นอน

"ลองไปถามดูว่ามีที่ดินส่วนไหนว่างบ้าง ความจริงแล้วก็อยากให้อยู่ในบ้าน แต่กลัวลูกจะไม่ชอบ" ทุกอย่างนี้เอามาจากนิสัยเดิมของลูกสาว กลัวลูกจะทะเลาะกับพี่สะใภ้ เขาเลยต้องไปดูที่ดินไว้สร้างบ้านให้ลูกสาวใหม่ เพราะลูกสาวชอบอยู่คนเดียวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายด้วยสักเท่าไร

"ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงฉัน แต่ฉันอยู่บ้านได้ ฉันคงมาแค่คนเดียว เพราะพ่อของเด็ก ๆ ต้องการเลี้ยงลูกเอง และอีกอย่าง คิดว่าคงอยู่ไม่นาน ฉันก็คงต้องทำงานหรือหาอาชีพทำเหมือนกัน ตอนนี้รอให้ทำเรื่องหย่าเรียบร้อยก่อนเท่านั้นเอง" ในเมื่อทุกคนรู้รายละเอียดที่เกิดขึ้นแล้ว เธอเลยเลือกที่จะบอกถึงสิ่งที่จะทำในอนาคต

"เราบอกเจ้าหน้าที่ว่าสั่งสอนลูกหลานไม่ได้หรืออย่างไร น้องไม่อยากเอาลูกมาอยู่ด้วยเหรอ หลานกำลังน่ารักเลย" เซียวฉวนช่วยคิดหาทางออกให้น้องสาว คนอื่นเวลาตีลูกหลานก็อ้างสั่งสอนทั้งนั้น 

"อย่างที่พวกพี่รู้ ฉันทำผิดและผิดมากด้วย ให้ลูกอยู่กับพ่อและย่านั่นแหละดีแล้ว ทุกคนรู้ดีว่าเวลาฉันร้ายเป็นแบบไหน" ที่ยอมพ่อเด็ก ๆ เพราะผิดจริง ๆ และรู้ว่าอย่างไรพวกเขาก็ดูแลฝาแฝดได้ดี และที่สำคัญ... ถึงเธอจะรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยทั้งสอง แต่เธอไม่ใช่แม่จริง ๆ ของฝาแฝด เธอคือคนอื่นที่มาอาศัยอยู่ในร่างนี้เท่านั้น

"แต่ไม่ต้องกลัว ฉันจะไปเยี่ยมลูกบ่อย ๆ ไม่ทิ้งแน่นอน ฉันบอกจะปรับปรุงตัว ก็คือปรับปรุง ให้โอกาสฉันพิสูจน์ตัวเองหน่อยนะคะ" หรงผิงยังคงพูดต่อ

"พ่ออยากให้ลูกรู้ไว้ว่า... คนเราไม่ได้มีโอกาสบ่อย ๆ หากได้รับจงพิสูจน์ให้คนอื่นเห็น แต่สำหรับครอบครัวเรา ลูกมีโอกาสเสมอ เราจะพยายามไปด้วยกัน" เซียวเหวินบอกลูกสาวให้เข้าใจ 

"หนูขอแค่กับคนครอบครัวเท่านั้นค่ะ กับคนอื่นช่างมัน และหวังว่าพ่อจะไม่ทำแบบที่กำลังคิดอยู่นะคะ" คำพูดแปลก ๆ นั้นทำให้หรงผิงเข้าใจได้ทันทีว่าครอบครัวของเธอจะไปขอร้องครอบครัวของสามี เพื่อขอโอกาสให้เธอปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นแน่ ๆ

"น้องจะทนที่คนอื่นมองได้ไหม หย่ากันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ " เซียวหยวนรู้ว่าน้องทนอะไรได้ไม่นาน หากเจอชาวบ้านพูดไม่ดีใส่ น้องสาวจะต้องเล่นงานคนพวกนั้นแน่ ๆ และจากที่บอกว่าจะปรับปรุงตัวเอง ก็จะไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจ!!

"หากไม่มากจนเกินไปก็ไม่มีปัญหา ฉันยอมได้ แต่ใช่ว่าจะยอมทุกอย่าง ตอนนี้ฉันก็หลีกเลี่ยงที่จะเข้าหาคนในหมู่บ้าน ฉันถึงบอกว่ามาอยู่ที่นี่ก่อน หากอยู่ที่นี่แล้วมีปัญหา ฉันจะย้ายไปหางานที่อื่นทำ เรามีญาติพี่น้องอยู่หลายเมือง คงหางานให้ฉันทำได้บ้าง จริงไหมคะพ่อ" หรงผิงบอกและขอความคิดเห็นจากพ่อให้สนับสนุนอีกด้วย

"ลูกไม่คิดจะอยู่ที่นี่เหรอ" เซียวเหวินขมวดคิ้วอย่างสงสัย ลูกสาวมีความคิดที่จะไปทำงานที่อื่นด้วยหรืออย่างไร 

"ฉันแค่คิดเผื่อไว้เท่านั้นเอง ตอนนี้ต้องรอดูก่อนว่าทางนั้นจะกลับมาหย่าเมื่อไร" ความจริงเธอยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าพ่อของเด็ก ๆ จะแจ้งความเอาผิดเธอเลยไหม เพราะหากเขาทำแบบนั้นจริง ๆ เธอก็ต้องถูกส่งไปใช้แรงงานที่อื่นอยู่ดี

"เมืองข้าง ๆ มีโรงงานหลายแห่ง ฉันพอจะรู้จักคนที่ทำงานในนั้นอยู่บ้าง มันอาจจะดีกว่าแบบที่น้องบอกก็ได้ อย่างไรน้องก็หลีกเลี่ยงคนแถวนี้ไม่ได้อยู่ดี" เซียวหยวนเห็นด้วยกับน้องสาว ลองไปอยู่ที่อื่นก่อนอาจจะดีขึ้น

"เจ้าใหญ่ลองถามไว้ก็ได้ เมืองข้าง ๆ ยังพอที่จะกล้าปล่อยให้ไปอยู่เองได้ แต่หากไปไกล ๆ ก็ไม่อยากให้ไป" เหลียนฟางบอกลูกชายคนโต ก่อนที่ทุกคนจะพยักหน้าเห็นด้วยเพราะไม่ไกลมากนัก หากคิดถึงยังไปหาได้ง่าย ๆ 

"แต่หากน้องเล็กไม่อยากทำ มาอยู่บ้านเราได้เสมอเข้าใจไหม" เซียวเหวินมองหน้าน้องสาวแล้วไม่อยากให้ทำงานหนักเลย งานโรงงานถึงจะสบายกว่าทำไร่ทำนา แต่น้องสาวไม่เคยทำ อาจจะทำไม่ไหวก็ได้

"ให้ฉันลองก่อนแล้วกัน" หรงผิงยิ้มให้ทุกคนในครอบครัวเซียว

นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าครอบครัวจริง ๆ ทุกคนดูห่วงเธอไปหมดทุกอย่าง ขนาดทำตัวร้ายกาจ ทุกคนยังรักและพร้อมที่จะให้โอกาสเสมอ เธอเคยมีความรู้สึกแบบนี้เมื่อครั้งที่พ่อแม่จริง ๆ ยังอยู่ แต่พอพวกท่านจากไปแล้ว เธอก็ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นเลย

ตอนแรกคิดว่าอยู่กับญาติ ๆ ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันต่างกันมาก และที่สำคัญ ญาติพวกนั้นทำให้เธอต้องตายจนดวงวิญญาณหลุดลอยเข้ามาอยู่ในร่างของมารดาตัวร้ายที่ผู้คนรังเกียจและหวาดกลัว...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน

    ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันผ่านมาสามวันแล้วที่หรงผิงกลับมาจากบ้านของพ่อและแม่ ทุกคนในครอบครัวเข้าใจเธอเป็นอย่างดี และยังยอมรับฟังเหตุผลของเธออีกด้วย เธอรู้ว่าโลกนี้ ยุคนี้ ค่อนข้างใจร้ายกับผู้หญิงที่หย่าจากสามี แต่พอมีครอบครัวที่พร้อมจะเคียงข้าง มันเลยทำให้เธอสบายใจมากขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร เธอสนใจแค่เจ้าแฝดและครอบครัวของพ่อแม่เพียงเท่านั้น"ใกล้แล้ว... ใกล้ที่ฉันจะเป็นอิสระแล้ว... " หรงผิงพึมพำคนเดียวเบา ๆหลังจากที่พาเจ้าแฝดเข้านอนแล้ว สถานที่ที่เธอชอบมานอนเวลาต้องการใช้ความคิดมากที่สุดคือบริเวณหน้าบ้าน อาจเพราะเธอชอบบรรยากาศและอากาศที่เย็นสบาย เธอรู้สึกว่าสมองแล่นได้ดีและคิดอะไรออกง่ายกว่าเวลาที่เจออากาศร้อนหรงผิงนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไปเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... เพราะเธอนอนดิ้นจนหล่นจากโต๊ะ!! ความรู้สึกที่กำลังจะร่วงหล่นลงพื้นทำให้เธอลืมตาตื่นทันทีตุ๊บ!!"อ่า... อยู่แบบคนธรรมดาเพียงไม่กี่เดือน... หลงลืมสัญชาตญาณที่เคยมีไปจนหมดสิ้น ไม่ดี ไม่ดี แบบนี้ไม่ดีเลย" หรงผิงสะบัดหัวเพื่อทำให้ตื่นตัวได้เต็มที่ ก่อนจะค่อย ๆ พยุงต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 13 ความเชื่อใจ

    ตอนที่ 13 ความเชื่อใจหรงผิงและลูกทั้งสองตื่นแต่เช้า เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เด็ก ๆ จะมีหน้าที่ช่วยงานบ้านเท่าที่จะช่วยได้ และยังต้องหัดเขียนหนังสือที่ลานหน้าบ้านในตอนเช้าของทุกวันอีกด้วยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าในมิติฟาร์มยังมีสมุดหนังสือและดินสอที่สามารถนำออกมาใช้งานได้ เลยปล่อยให้ลูกทั้งสองคนเขียนหนังสืออยู่ที่ลานหน้าบ้านก่อน ส่วนตัวเธออ้างว่าต้องการไปเข้าห้องน้ำ แต่ความจริงแล้วเธอเข้ามาในมิติฟาร์มหรงผิงเคยได้รับบทเรียนมาจากโลกเดิมแล้วว่า... ความลับบางอย่างก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ เธอยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่เชื่อใจใครเลยสักคน ชาติที่แล้วตายเพราะญาติที่คิดว่าดีแสนดี ชาตินี้จะไม่มีทางทำเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด!!"คิดถึงกลิ่นนี้มากกก... " หรงผิงลากเสียงยาวทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือ ก่อนจะค่อย ๆ หาดินสอและหยิบสมุดเล่มเล็กตามที่ตัวเองตั้งใจมาเอาตั้งแต่แรก"ในนี้ทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย... ในครัวเรามีตู้ใส่อาหาร!! " เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ตัวเองจะตายมีเสบียงหลงเหลืออยู่ในครัว จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ เพราะในมิติฟาร์มทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไปชุนหลินรอแม่สามีที่บอกว่าจะไปหาสะใภ้รองอย่างเป็นกังวล เพราะแม่หายไปนานมากแล้วแต่ยังไม่กลับมา จึงทำให้เธออยู่รอที่บ้านไม่ไหว จนต้องเดินออกมาตาม หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน"ฉันกำลังจะออกไปตามแม่... " ชุนหลินเดินมาถึงครึ่งทางแล้วก็เจอแม่สามีพอดี เธอนั้นร้อนใจตั้งแต่ที่แม่บอกจะไปหาสะใภ้รอง และแม่ยังหายมานานอีกด้วย!!"พอดีคุยกับเจ้าแฝดเพลินเลยช้าไปหน่อย... กลับบ้านก่อนค่อยคุยกัน" รุ่ยจิวรีบบอกให้ลูกสะใภ้กลับบ้าน เพราะอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังเมื่อมาถึงบ้านก็เห็นลูกสะใภ้เล็กนั่งรออยู่แล้ว รุ่ยจิวเลยให้หลาน ๆ พากันออกไปเล่น ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตัวเองไปเจอมาให้ทั้งสองสะใภ้ได้ฟัง"แม่... หรือพี่สะใภ้รองจะรู้ตัวว่าทำผิดจริง ๆ " ซูเยว่พูดขึ้นหลังจากที่ฟังแม่สามีเล่าเรื่องจนจบ"พักนี้ไม่มีข่าวอะไรเลยนะ ปกติแล้วชาวบ้านจะต้องเล่าว่าไปเจอที่ไหนและโดนอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้ชาวบ้านไม่เห็นจะพูดถึงเลย แม้แต่เจอตัวก็ยังไม่มีใครได้เจอเลย" ชุนหลินก็บอกถึงเรื่องที่ตัวเองมักได้ยินเป็นประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไร จะบอกว่าคนอื่นเลิก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์ม

    ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์มหลังจากที่ส่งลูกทั้งสองไปบ้านย่าเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็กลับบ้านมาจัดการทุกอย่างให้พร้อม เธอเตรียมชุดกับให้เงินลูกพกติดตัวไปด้วย ถึงจะไม่มากมายแต่ก็ยังมีให้ติดตัวไปบ้าง หรงผิงดีใจที่เด็กทั้งสองเชื่อฟัง ถึงแม้เจ้าตัวเล็กซือหงจะอยากให้แม่ไปด้วยก็ตาม แต่พอบอกเหตุผลก็ยอมฟัง และหอบผ้าตามพี่ชายไปนอนบ้านปู่บ้านย่าด้วยสีหน้าเหงาหงอยพออยู่ด้วยกันนานนับเดือนก็มีความรู้สึกห่วงใยกันและกันเป็นธรรมดา เธอค่อนข้างห่วงเด็กทั้งสอง แต่ก็มั่นใจว่าครอบครัวของพ่อเด็กจะสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี"ไอ้คนแซ่เฉิน!! เมื่อไรจะกลับมาจัดการให้เรียบร้อย" หรงผิงนึกถึงพ่อของเด็กแฝดแล้วก็คิดว่าเขานั้นทำอะไรชักช้าเหลือเกิน ตอนนี้เธออยากหย่าขาดจากเขาแล้ว!!"บางครั้งฉันก็คิดว่านายใจร้ายเหมือนกันนะ" หรงผิงพึมพำเกี่ยวกับพ่อของเด็ก ๆ ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาก็ใจร้ายเหมือนกันหรงผิงสะบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเอง เธอไม่ชอบคุยกับคนอื่น แต่ชอบคุยกับตัวเอง เถียงกับตัวเองมากกว่า อาจเพราะติดนิสัยการเอาตัวรอดมาจากวันสิ้นโลก หากไม่จำเป็นจะไม่มีการพูดคุยกับคนอื่น เพราะเวลาเดินท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 16 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 16 เงินก้อนแรกเมื่อมาถึงในเมือง หรงผิงก็รีบตรงไปที่ตลาดมืดตามที่ตั้งใจไว้ วันนี้มีงานเทศกาลจึงทำให้มีผู้คนเข้ามาในเมืองค่อนข้างเยอะ และเธอรู้ว่าแม่สามีจะพาฝาแฝดมาเดินเที่ยวงานในวันนี้เช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ลูกหรือครอบครัวของสามีต้องมาเจอเธอในตอนนี้ตลาดมืดตามความทรงจำนั้น มันอยู่ในตรอกเล็ก ๆ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่มิดชิดขนาดนั้น ทุกอย่างเลยต้องรีบซื้อรีบขาย บางวันทั้งคนซื้อและคนขายยังต้องวิ่งหนีเจ้าหน้าที่กันอย่างอุตลุด เรื่องนี้เธอได้มาจากความทรงจำของร่างเดิม จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่อาจตอบได้จนกว่าจะไปเห็นกับตาตัวเองเท่านั้นการอำพรางตัวเข้ามานั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับหรงผิง เพราะเธอเคยเอาตัวรอดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ พอเข้ามาในเขตตลาดมืดก็เริ่มจากสำรวจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ สอบถามราคาสินค้า และคอยเฝ้ามองผู้คนไปด้วย หากต้องการขายของอย่างปลอดภัยจะต้องจับตามองลูกค้าให้ดี ๆ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็มาในรูปแบบของลูกค้าเช่นเดียวกัน"ฉันมีข้าวสาร พี่สาวสนใจไหม" เมื่อรู้ราคาสินค้าและยังได้จับตามองดูลูกค้ามาสักพักแล้ว จึงทำให้กล้าและมั่นใจที่จะเข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิด

    ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิดหรงผิงเลือกซื้อสิ่งของที่ต้องการทุกอย่างด้วยเวลาอันรวดเร็ว อาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องซื้ออะไรบ้าง และอีกอย่างเธอต้องรีบเร่ง เพราะเธอต้องรีบไปรับลูกตามที่นัดไว้อีกด้วย"ซื้อสักหน่อยไม่น่าจะเสียเวลามาก" หรงผิงเห็นร้านขนมที่ขายอยู่ในห้างจึงตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อเพื่อเอาไปฝากลูก ขนมที่แปลกใหม่จะทำให้สองแฝดยิ้มได้อย่างแน่นอนหรงผิงใช้เงินซื้อของให้ลูกทั้งสองคนเกือบร้อยหยวน เธอซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หมวก เสื้อกันหนาว และทุกอย่างเธอซื้ออย่างละสองชิ้น!! หากถามว่าซื้อเยอะไหม ก็บอกเลยว่าเยอะ!! แต่เทียบกับจำนวนเงินที่หามาได้และความจำเป็นในสิ่งที่ซื้อก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอนหลังจากที่เข้าไปซื้อขนมเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ออกจากห้างเตรียมตัวกลับบ้านโดยเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนขามา สองเท้าก้าวเดิน ในหัวก็เริ่มวางแผน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวพ่อกับแม่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอมาตลอดถึงแม้สถานะทางบ้านไม่ได้ขัดสนมากนัก แต่พี่ชายทั้งสองคนกับพ่อก็ยังทำงานหนักอยู่ดี เธอคิดว่าคงช่วยแค่ทางบ้านตัวเอง คงไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือครอบครัวของพ่อเด็ก ๆ เพราะถึงอย่างไรเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 1 ตัวฉันอีกคน

    ตอนที่ 1 ตัวฉันอีกคนเซียวหรงผิง ตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนอย่างรุนแรง จนทำให้เธอรู้สึกเวียนศีรษะอยากจะอาเจียนออกมา และยังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเพิ่มเข้ามาอีกด้วยหรงผิง อาเจียนอย่างหนัก ทั้งที่ไม่มีอะไรออกมาเลย และยังมองเห็นภาพการใช้ชีวิตของใครบางคนที่เธอไม่รู้จัก... ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าตัวเธอนั้นตายไปแล้ว แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนที่ตายแล้วจะยังมีความรู้สึก เจ็บปวดและทรมานเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก เพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว...หรงผิงดิ้นรนเอาตัวรอดในโลกที่มีแต่ความแห้งแล้ง โลกที่มนุษย์ต่างต้องการอาหาร โลกที่มีฝูงผีดิบอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง เธอสามารถอยู่รอดมาได้หลายปีจนมนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการ ร่างกายของคนที่เหลือรอดเริ่มมีการปรับเปลี่ยน หรือที่ทุกคนเข้าใจว่ามันคือพรสวรรค์หรือพลังวิเศษในการเอาตัวรอด ทุกคนจะมีพลังแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าร่างกายจะปรับเปลี่ยนเป็นแบบไหนซึ่งเธอก็ได้รับพลังวิเศษนี้ด้วยเช่นกัน และด้วยพลังที่ได้รับนี้ จึงทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายของคนอีกหลายกลุ่ม เพราะเธอได้รับมิติที่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 2 มารดาเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 2 มารดาเปลี่ยนไปหรงผิงใช้เวลาในการตั้งสตินานหลายชั่วโมง ก่อนจะลุกขึ้นสำรวจบ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีสองห้องนอน หนึ่งห้องส้วม หนึ่งห้องอาบน้ำ หนึ่งห้องครัว และหนึ่งห้องโถง จากที่รับรู้ ถือว่าบ้านหลังนี้ดีกว่าบ้านหลังอื่น ๆ ในหมู่บ้านเสียอีกคนส่วนใหญ่ค่อนข้างยากจนจึงสร้างบ้านด้วยดิน มีการทำงานตามหน่วยคอมมูน ทำงานรับจ้าง และทำงานโรงงาน หรงผิงไม่แน่ใจว่ายุคนี้มันเป็นยุคไหน เพราะโลกที่เธอจากมาไม่ได้มียุคสมัยแบบนี้ หรือหากจะมีก็น่าจะย้อนยุคและผ่านมานานแล้วจนเธอไม่รู้ยังดีที่เธอมีความทรงจำของร่างเดิม ยังพอที่จะปรับตัวได้บ้าง ไม่อย่างนั้นอาจทำให้ลำบากมากกว่านี้แน่ ๆ หรงผิงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้านที่ดูดีกว่าบ้านคนอื่น แต่กลับรกจนไม่รู้จะรกอย่างไรแล้ว"เสื้อผ้าของตัวเองยังดูดี แต่ลูกกลับใส่เสื้อผ้าขาด ๆ " หรงผิงบ่นพึมพำเกี่ยวกับเจ้าของร่างเดิมหรงผิงตัดสินใจจัดการสิ่งของทุกอย่างที่อยู่ในห้อง จัดทุกอย่าง และแยกเสื้อผ้าทั้งหมดออกมา เพราะจากที่ดูแล้วมันต้องซักใหม่ทั้งหมด หรงผิงเก็บของ ทำความสะอาดบ้านไปด้วย พลางนึกถึงร่างเดิมว่าร้ายขนาดไหน ขนาดไม่สบายหลับไปสามวันยังไม่มีใครมาดูดำดูดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01

บทล่าสุด

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิด

    ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิดหรงผิงเลือกซื้อสิ่งของที่ต้องการทุกอย่างด้วยเวลาอันรวดเร็ว อาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องซื้ออะไรบ้าง และอีกอย่างเธอต้องรีบเร่ง เพราะเธอต้องรีบไปรับลูกตามที่นัดไว้อีกด้วย"ซื้อสักหน่อยไม่น่าจะเสียเวลามาก" หรงผิงเห็นร้านขนมที่ขายอยู่ในห้างจึงตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อเพื่อเอาไปฝากลูก ขนมที่แปลกใหม่จะทำให้สองแฝดยิ้มได้อย่างแน่นอนหรงผิงใช้เงินซื้อของให้ลูกทั้งสองคนเกือบร้อยหยวน เธอซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หมวก เสื้อกันหนาว และทุกอย่างเธอซื้ออย่างละสองชิ้น!! หากถามว่าซื้อเยอะไหม ก็บอกเลยว่าเยอะ!! แต่เทียบกับจำนวนเงินที่หามาได้และความจำเป็นในสิ่งที่ซื้อก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอนหลังจากที่เข้าไปซื้อขนมเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ออกจากห้างเตรียมตัวกลับบ้านโดยเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนขามา สองเท้าก้าวเดิน ในหัวก็เริ่มวางแผน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวพ่อกับแม่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอมาตลอดถึงแม้สถานะทางบ้านไม่ได้ขัดสนมากนัก แต่พี่ชายทั้งสองคนกับพ่อก็ยังทำงานหนักอยู่ดี เธอคิดว่าคงช่วยแค่ทางบ้านตัวเอง คงไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือครอบครัวของพ่อเด็ก ๆ เพราะถึงอย่างไรเ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 16 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 16 เงินก้อนแรกเมื่อมาถึงในเมือง หรงผิงก็รีบตรงไปที่ตลาดมืดตามที่ตั้งใจไว้ วันนี้มีงานเทศกาลจึงทำให้มีผู้คนเข้ามาในเมืองค่อนข้างเยอะ และเธอรู้ว่าแม่สามีจะพาฝาแฝดมาเดินเที่ยวงานในวันนี้เช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ลูกหรือครอบครัวของสามีต้องมาเจอเธอในตอนนี้ตลาดมืดตามความทรงจำนั้น มันอยู่ในตรอกเล็ก ๆ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่มิดชิดขนาดนั้น ทุกอย่างเลยต้องรีบซื้อรีบขาย บางวันทั้งคนซื้อและคนขายยังต้องวิ่งหนีเจ้าหน้าที่กันอย่างอุตลุด เรื่องนี้เธอได้มาจากความทรงจำของร่างเดิม จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่อาจตอบได้จนกว่าจะไปเห็นกับตาตัวเองเท่านั้นการอำพรางตัวเข้ามานั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับหรงผิง เพราะเธอเคยเอาตัวรอดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ พอเข้ามาในเขตตลาดมืดก็เริ่มจากสำรวจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ สอบถามราคาสินค้า และคอยเฝ้ามองผู้คนไปด้วย หากต้องการขายของอย่างปลอดภัยจะต้องจับตามองลูกค้าให้ดี ๆ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็มาในรูปแบบของลูกค้าเช่นเดียวกัน"ฉันมีข้าวสาร พี่สาวสนใจไหม" เมื่อรู้ราคาสินค้าและยังได้จับตามองดูลูกค้ามาสักพักแล้ว จึงทำให้กล้าและมั่นใจที่จะเข้

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์ม

    ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์มหลังจากที่ส่งลูกทั้งสองไปบ้านย่าเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็กลับบ้านมาจัดการทุกอย่างให้พร้อม เธอเตรียมชุดกับให้เงินลูกพกติดตัวไปด้วย ถึงจะไม่มากมายแต่ก็ยังมีให้ติดตัวไปบ้าง หรงผิงดีใจที่เด็กทั้งสองเชื่อฟัง ถึงแม้เจ้าตัวเล็กซือหงจะอยากให้แม่ไปด้วยก็ตาม แต่พอบอกเหตุผลก็ยอมฟัง และหอบผ้าตามพี่ชายไปนอนบ้านปู่บ้านย่าด้วยสีหน้าเหงาหงอยพออยู่ด้วยกันนานนับเดือนก็มีความรู้สึกห่วงใยกันและกันเป็นธรรมดา เธอค่อนข้างห่วงเด็กทั้งสอง แต่ก็มั่นใจว่าครอบครัวของพ่อเด็กจะสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี"ไอ้คนแซ่เฉิน!! เมื่อไรจะกลับมาจัดการให้เรียบร้อย" หรงผิงนึกถึงพ่อของเด็กแฝดแล้วก็คิดว่าเขานั้นทำอะไรชักช้าเหลือเกิน ตอนนี้เธออยากหย่าขาดจากเขาแล้ว!!"บางครั้งฉันก็คิดว่านายใจร้ายเหมือนกันนะ" หรงผิงพึมพำเกี่ยวกับพ่อของเด็ก ๆ ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาก็ใจร้ายเหมือนกันหรงผิงสะบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเอง เธอไม่ชอบคุยกับคนอื่น แต่ชอบคุยกับตัวเอง เถียงกับตัวเองมากกว่า อาจเพราะติดนิสัยการเอาตัวรอดมาจากวันสิ้นโลก หากไม่จำเป็นจะไม่มีการพูดคุยกับคนอื่น เพราะเวลาเดินท

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไปชุนหลินรอแม่สามีที่บอกว่าจะไปหาสะใภ้รองอย่างเป็นกังวล เพราะแม่หายไปนานมากแล้วแต่ยังไม่กลับมา จึงทำให้เธออยู่รอที่บ้านไม่ไหว จนต้องเดินออกมาตาม หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน"ฉันกำลังจะออกไปตามแม่... " ชุนหลินเดินมาถึงครึ่งทางแล้วก็เจอแม่สามีพอดี เธอนั้นร้อนใจตั้งแต่ที่แม่บอกจะไปหาสะใภ้รอง และแม่ยังหายมานานอีกด้วย!!"พอดีคุยกับเจ้าแฝดเพลินเลยช้าไปหน่อย... กลับบ้านก่อนค่อยคุยกัน" รุ่ยจิวรีบบอกให้ลูกสะใภ้กลับบ้าน เพราะอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังเมื่อมาถึงบ้านก็เห็นลูกสะใภ้เล็กนั่งรออยู่แล้ว รุ่ยจิวเลยให้หลาน ๆ พากันออกไปเล่น ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตัวเองไปเจอมาให้ทั้งสองสะใภ้ได้ฟัง"แม่... หรือพี่สะใภ้รองจะรู้ตัวว่าทำผิดจริง ๆ " ซูเยว่พูดขึ้นหลังจากที่ฟังแม่สามีเล่าเรื่องจนจบ"พักนี้ไม่มีข่าวอะไรเลยนะ ปกติแล้วชาวบ้านจะต้องเล่าว่าไปเจอที่ไหนและโดนอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้ชาวบ้านไม่เห็นจะพูดถึงเลย แม้แต่เจอตัวก็ยังไม่มีใครได้เจอเลย" ชุนหลินก็บอกถึงเรื่องที่ตัวเองมักได้ยินเป็นประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไร จะบอกว่าคนอื่นเลิก

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 13 ความเชื่อใจ

    ตอนที่ 13 ความเชื่อใจหรงผิงและลูกทั้งสองตื่นแต่เช้า เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เด็ก ๆ จะมีหน้าที่ช่วยงานบ้านเท่าที่จะช่วยได้ และยังต้องหัดเขียนหนังสือที่ลานหน้าบ้านในตอนเช้าของทุกวันอีกด้วยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าในมิติฟาร์มยังมีสมุดหนังสือและดินสอที่สามารถนำออกมาใช้งานได้ เลยปล่อยให้ลูกทั้งสองคนเขียนหนังสืออยู่ที่ลานหน้าบ้านก่อน ส่วนตัวเธออ้างว่าต้องการไปเข้าห้องน้ำ แต่ความจริงแล้วเธอเข้ามาในมิติฟาร์มหรงผิงเคยได้รับบทเรียนมาจากโลกเดิมแล้วว่า... ความลับบางอย่างก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ เธอยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่เชื่อใจใครเลยสักคน ชาติที่แล้วตายเพราะญาติที่คิดว่าดีแสนดี ชาตินี้จะไม่มีทางทำเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด!!"คิดถึงกลิ่นนี้มากกก... " หรงผิงลากเสียงยาวทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือ ก่อนจะค่อย ๆ หาดินสอและหยิบสมุดเล่มเล็กตามที่ตัวเองตั้งใจมาเอาตั้งแต่แรก"ในนี้ทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย... ในครัวเรามีตู้ใส่อาหาร!! " เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ตัวเองจะตายมีเสบียงหลงเหลืออยู่ในครัว จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ เพราะในมิติฟาร์มทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม"

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน

    ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันผ่านมาสามวันแล้วที่หรงผิงกลับมาจากบ้านของพ่อและแม่ ทุกคนในครอบครัวเข้าใจเธอเป็นอย่างดี และยังยอมรับฟังเหตุผลของเธออีกด้วย เธอรู้ว่าโลกนี้ ยุคนี้ ค่อนข้างใจร้ายกับผู้หญิงที่หย่าจากสามี แต่พอมีครอบครัวที่พร้อมจะเคียงข้าง มันเลยทำให้เธอสบายใจมากขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร เธอสนใจแค่เจ้าแฝดและครอบครัวของพ่อแม่เพียงเท่านั้น"ใกล้แล้ว... ใกล้ที่ฉันจะเป็นอิสระแล้ว... " หรงผิงพึมพำคนเดียวเบา ๆหลังจากที่พาเจ้าแฝดเข้านอนแล้ว สถานที่ที่เธอชอบมานอนเวลาต้องการใช้ความคิดมากที่สุดคือบริเวณหน้าบ้าน อาจเพราะเธอชอบบรรยากาศและอากาศที่เย็นสบาย เธอรู้สึกว่าสมองแล่นได้ดีและคิดอะไรออกง่ายกว่าเวลาที่เจออากาศร้อนหรงผิงนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไปเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... เพราะเธอนอนดิ้นจนหล่นจากโต๊ะ!! ความรู้สึกที่กำลังจะร่วงหล่นลงพื้นทำให้เธอลืมตาตื่นทันทีตุ๊บ!!"อ่า... อยู่แบบคนธรรมดาเพียงไม่กี่เดือน... หลงลืมสัญชาตญาณที่เคยมีไปจนหมดสิ้น ไม่ดี ไม่ดี แบบนี้ไม่ดีเลย" หรงผิงสะบัดหัวเพื่อทำให้ตื่นตัวได้เต็มที่ ก่อนจะค่อย ๆ พยุงต

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียว

    ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียววันต่อมา หรงผิงก็พาลูกมาที่บ้านพ่อกับแม่ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งไม่ห่างกันมากนัก เธอทำตามที่ได้รับปากแม่ตั้งแต่เมื่อวาน และก่อนจะออกจากบ้าน เธอก็ให้ลูกไปบอกย่าว่าจะพากันไปนอนที่บ้านของยาย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กังวลว่าหลานหายไปไหนหลายวันในตอนแรกเธอคิดว่าบอกให้รับรู้แล้ว... ทุกคนจะได้วางใจ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด พวกเขากลัวว่าเธอจะพาลูกหนี!! จนต้องเดือดร้อนพ่อสามีเอารถแทรกเตอร์ของฝ่ายผลิตมาส่งพวกเธอถึงบ้านและนัดวันมารับกลับอีกด้วยหรงผิงไหนเลยจะไม่รู้ว่าพวกเขากลัวอะไร แต่เพราะเธอบริสุทธิ์ใจเลยยอมตกลงง่าย ๆ ดีเสียอีก ไม่ต้องพาลูกเดินให้เหนื่อย และไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วยเป็นใครก็ต้องระแวง เพราะคำว่าแม่ตัวร้ายนั้นไม่ใช่แค่คำเรียก การกระทำที่กล้าลงมือกับทุกคน ลงมือกับลูกต่างหากที่ทำให้คนเรียกแม่ของเจ้าแฝดว่าเป็นมารดาตัวร้าย!!หรงผิงเข้าใจดีเลยแหละ เธอไม่โกรธคนพวกนั้นเลย บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นห่วงเจ้าแฝด แบบนี้ยิ่งดี หากเธอหย่ากับพ่อของเด็ก ๆ แล้วก็สบายใจได้เลยว่า พวกเขาจะรักและดูแลเจ้าแฝดเป็นอย่างดี"ไม่ได้ไปทำงานกันเหรอคะ" หรงผิงมองหน้าพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ และหล

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดี

    ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดีฝาแฝดเดินตามย่ามาที่ร้านค้าของหมู่บ้าน หากเป็นแต่ก่อนทั้งสองจะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อยากจะมาดูว่าร้านค้ามีอะไรขายบ้าง แม้ไม่ได้ซื้ออะไรเลยก็ตามแต่หลังจากเหตุการณ์ที่ทุกคนต่อว่าแม่ และคนขายไม่ยอมขายของให้ด้วย ทำให้พวกเธอไม่ค่อยอยากมาสักเท่าไร แต่ที่มาวันนี้เพราะจะได้มารอแม่ หากแม่กลับมาจะต้องผ่านเส้นทางนี้ เพราะตอนออกไป... แม่ก็นั่งรถผ่านเส้นทางนี้เหมือนกัน"พี่ใหญ่ หรือว่าแม่จะเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนที่พาเราเข้าไปในเมือง" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแม่อาจมาอีกเส้นทางหนึ่งก็เริ่มที่จะลังเลไม่อยากเดินต่อ"เดินเร็ว ๆ ย่าจะซื้อลูกอมนมกระต่ายขาวให้" รุ่ยจิวเร่งหลานทั้งสอง ตอนนี้พยายามที่จะให้หลานลืมเรื่องแม่ไปก่อน"ย่าครับ แม่จะมาเส้นทางนี้ไหมครับ" จือหมิงถามย่าเพื่อความแน่ใจ"ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไปเลือกขนมได้เลย อยากได้อะไรก็เลือกเอาเลย" รุ่ยจิวตอบหลานแล้วดันตัวหลานให้เข้าไปในร้านค้า เพื่อเลือกซื้อขนมตามที่ต้องการเมื่อให้หลานเข้าไปแล้ว ตัวเองก็นั่งรออยู่บริเวณหน้าร้านค้า ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ตอนนี้หลานทั้งสองดูเหมือนจะติดแม่มาก ๆ แค่หายไปไม่นานก็พากันออกมานั่งรอที่หน้า

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหา

    ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหาหรงผิงคิดว่าตัวเองน่าจะมาอยู่ที่สถานีตำรวจ เธอไม่ค่อยเข้าใจระบบระเบียบของยุคนี้มากนัก จึงทำได้เพียงเงียบและคอยมองสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เธอไม่รู้ว่าพ่อของเด็กแฝดจะทำแบบไหนบ้างอยากเห็นหน้าสักครั้ง คนแบบไหนที่ทำให้ร่างเดิมรักแบบหัวปักหัวปำขนาดนี้!!ดูใจร้ายเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้ ไม่มาเจอหน้า ไม่มาเจรจา แต่ยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่จัดการเอง นั่นเท่ากับว่าเขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ตัวเธอนั้นพอเข้าใจที่เขาทำแบบนี้ เพราะรู้ดีว่าร่างเดิมเป็นแบบไหน รับรองว่าถ้าเจ้าของร่างเดิมยังอยู่ก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ ๆ อย่าว่าแต่พ่อของเด็กแฝดเลือกทำแบบนี้เลย หากเป็นเธอที่ต้องการจัดการปัญหากับคนแบบเจ้าของร่างเดิม ก็เลือกที่จะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน"พออ่านหนังสือได้ใช่ไหม" เจ้าหน้าที่นั่งลง ก่อนจะถามหญิงสาวที่นั่งรออยู่เงียบ ๆ"พออ่านได้ค่ะ แต่อยากให้แจ้งมาด้วย เพราะอ่านไม่ค่อยคล่องสักเท่าไร" หรงผิงเลือกที่จะอ่านและฟังจากปากของเจ้าหน้าที่ด้วย"จะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ แล้วกัน" เจ้าหน้าที่คิดว่าหากอ่านทุกตัวอักษร มันจะเป็นประโยคทางการพอสมควร ชาวบ้านทั่วไปจะไม่ค่อยเข้าใจ อย่าว่าแต่ช

DMCA.com Protection Status