แชร์

ตอนที่ 13 ความเชื่อใจ

ผู้เขียน: จินเหมยเทียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-06 22:49:30

ตอนที่ 13 ความเชื่อใจ

หรงผิงและลูกทั้งสองตื่นแต่เช้า เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน

เด็ก ๆ จะมีหน้าที่ช่วยงานบ้านเท่าที่จะช่วยได้ และยังต้องหัดเขียนหนังสือที่ลานหน้าบ้านในตอนเช้าของทุกวันอีกด้วย

เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าในมิติฟาร์มยังมีสมุดหนังสือและดินสอที่สามารถนำออกมาใช้งานได้ เลยปล่อยให้ลูกทั้งสองคนเขียนหนังสืออยู่ที่ลานหน้าบ้านก่อน ส่วนตัวเธออ้างว่าต้องการไปเข้าห้องน้ำ แต่ความจริงแล้วเธอเข้ามาในมิติฟาร์ม

หรงผิงเคยได้รับบทเรียนมาจากโลกเดิมแล้วว่า... ความลับบางอย่างก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ เธอยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่เชื่อใจใครเลยสักคน ชาติที่แล้วตายเพราะญาติที่คิดว่าดีแสนดี ชาตินี้จะไม่มีทางทำเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด!!

"คิดถึงกลิ่นนี้มากกก... " หรงผิงลากเสียงยาวทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือ ก่อนจะค่อย ๆ หาดินสอและหยิบสมุดเล่มเล็กตามที่ตัวเองตั้งใจมาเอาตั้งแต่แรก

"ในนี้ทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย... ในครัวเรามีตู้ใส่อาหาร!! " เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ตัวเองจะตายมีเสบียงหลงเหลืออยู่ในครัว จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ เพราะในมิติฟาร์มทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม

"อ่าา... หายหมด... แต่ไม่เป็นไร แค่ตามมาก็ดีแล้ว" เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรหลงเหลือเลย จึงได้แต่ปลอบใจตัวเอง

เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลา หรงผิงจึงเดินไปที่ลานเกษตร เพื่อตรวจสอบดูว่าต้นกล้าโตขึ้นบ้างไหม พอมาถึงก็ทำให้เจ้าตัวถึงกับยิ้มกว้างออกมา เพราะจากที่ดูแล้วทุกอย่างยังคงทำงานเหมือนเดิม เธอจะเข้ามาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก็ต่อเมื่อครบหนึ่งวันหรือ 24 ชั่วโมงนั่นเอง

หลังจากที่ตรวจดูผลผลิตแล้ว เธอตัดสินใจเดินไปที่โกดังจอดรถ เพื่อที่จะดูให้แน่ใจว่ารถเกี่ยวข้าวยังอยู่ดีหรือไม่ ด้วยเวลาที่มีน้อย ทำให้เมื่อคืนเธอสำรวจคร่าว ๆ เพียงเท่านั้น และในตอนนั้นเธออยากทดลองปลูกพืชที่ลานเกษตรก่อนเป็นอันดับแรก

"คงต้องให้รอเจ้าแฝดหลับก่อนแล้วค่อยเข้ามาทำงานทีหลัง" ตอนนี้เวลามีน้อยเกินไป เธอไม่ต้องการให้คนอื่นสงสัย จึงต้องออกมาอยู่กับลูกเสียก่อน เธอคิดว่าคงต้องใช้เวลาในตอนกลางคืนทำงานในมิติฟาร์ม ส่วนตอนกลางวันก็ใช้ชีวิตแบบปกติอย่างที่เคยทำ

"แม่ครับ... ย่ามาหา" จือหมิงเดินมาเรียกแม่สองรอบแล้ว แต่แม่กลับเงียบ เขาจึงตัดสินใจนั่งรออยู่หน้าห้องส้วมจนกว่าแม่จะออกมา

"มานานหรือยัง" หรงผิงเห็นเจ้าตัวเล็กนั่งเฝ้าหน้าห้องน้ำเลยอดถามไม่ได้ เพราะหากเธออยู่ในมิติแล้วจะไม่ได้ยินหรือรับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวด้านนอกเลยแม้แต่นิดเดียว

"ผมเรียกแม่สองรอบ แต่แม่ไม่ตอบ" จือหมิงไม่แน่ใจว่ารอแม่นานไหม แต่รู้ว่าเรียกสองรอบแล้วแม่ไม่ตอบ

"แม่ไม่ได้ยิน" หรงผิงแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ ก่อนจะดันลูกชายให้เดินนำหน้า

"แม่ ๆ ย่ามาทำไมก็ไม่รู้" ซือหงมาดักรอแม่นานแล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่าแม่กับพี่ชายจะออกมาสักที

"พี่บอกให้เอาน้ำไปให้ย่า จำที่แม่สอนเวลาแขกมาบ้านไม่ได้เหรอน้องเล็ก" จือหมิงมองน้องสาวอย่างสงสัย เพราะทั้งสองแบ่งงานกันทำ เขารับหน้าที่มาตามแม่ ส่วนน้องสาวมีหน้าที่เอาน้ำไปต้อนรับย่า แต่ทำไมน้องสาวถึงมาดักรออยู่ตรงนี้!!!

"หนูเอาไปให้แล้ว ก็รีบมาตามแม่กับพี่ใหญ่อย่างไรล่ะ" ซือหงหันมาบอกพี่ชาย เธอทำหน้าที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เป็นพี่ใหญ่นั่นแหละที่หายมานานเอง!!

"แม่จะไปคุยกับย่าเอง... พวกลูกเอาสมุดนี่ไปหัดเขียนตัวเลขและตัวอักษรที่แม่เคยสอน แม่คุยกับย่าเสร็จแล้วจะมาตรวจว่าเขียนได้ถูกต้องไหม" หรงผิงส่งสมุดให้ทั้งสองที่ยืนทำตาโตกับสิ่งที่เห็น แต่ก่อนลานหน้าบ้านคือสมุดและหนังสือเรียน ตอนนี้มีสมุดจริง ๆ แล้ว!!

เมื่อสองพี่น้องได้สมุดก็รีบพากันไปเขียนหนังสือตามที่แม่บอก ตั้งแต่ที่แม่ใจดีมาอยู่ด้วยก็ทำให้ทั้งสองคนมีความสุขมาก ๆ ก่อนหน้านั้นซือหงจะหักนิ้วนับจำนวนวันที่แม่ใจดีมาอยู่ด้วย แต่พอมันเลยจำนวนนิ้วมือแล้วก็นับต่อไม่ถูก นับผิดนับถูกจนไม่นับต่อแล้ว รู้แต่ว่าแม่มาอยู่ด้วยนานแล้ว และแม่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป!!

"แม่มีอะไรเหรอคะ" หรงผิงถามแม่สามีทันทีที่ออกมาเจอ เพราะจากที่จำได้ ปกติแล้วแม่สามีไม่เคยมาหาเธอโดยตรง ส่วนมากจะแอบมาหาหลานมากกว่า

หากความทรงจำที่ได้รับไม่มีอะไรผิดพลาด หรงผิงคิดว่านี่คือครั้งแรกที่แม่สามีมาหา และยังมาหาเธอโดยตรง ไม่ได้มาหาหลานอีกด้วย

"พรุ่งนี้มีงานในเมือง ฉันจะพาเจ้าแฝดไปเดินเที่ยวงาน เลยมาบอกไว้ก่อน" รุ่ยจิวไม่เคยได้พาหลานแฝดไปเที่ยวงานเลยสักครั้ง ทั้งที่ลูกหลานบ้านเฉินนั้นได้ไปเดินเที่ยวในเมืองทุกครั้งที่มีงานเทศกาล

"หล่อนอยากไปด้วยก็ได้นะ ฉันอยากให้หลานได้ไปเห็นอะไรบ้าง" เมื่อยังเห็นว่าลูกสะใภ้ยังคงเงียบ รุ่ยจิวเลยเอ่ยออกมาอย่างใจกว้าง

"แม่พาเด็ก ๆ ไปได้เลยค่ะ หากฉันไปด้วยอาจหมดสนุกเอาได้" คนที่หมดสนุกคือคนอื่น ๆ ส่วนสองแฝดนั้นไม่น่าจะมีปัญหา

หรงผิงมาอยู่ที่นี่นานนับเดือน ช่วงแรก ๆ ฝาแฝดยังหวาดกลัวเธออยู่มาก แต่พอผ่านมาได้ไม่นานทั้งสองก็กล้าที่จะเข้าหาเธอมากขึ้น จนตอนนี้เธอรับรู้ได้ว่าเด็กทั้งสองไม่ได้หวาดกลัวเธอเหมือนแต่ก่อนแล้ว การที่ทำให้เด็กเชื่อใจมันง่ายกว่าการทำให้ผู้ใหญ่เชื่อใจ สิ่งนี้เธอเข้าใจดี หากเป็นเธอก็คงไม่เชื่อเช่นเดียวกัน

"หากฉันพาไปนอนค้างด้วยจะได้ไหม" รุ่ยจิวยังคงมองหน้าลูกสะใภ้ที่มีท่าทีนิ่งสงบอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเห็นอะไรแบบนี้ ทั้งที่แต่ก่อนแค่มองหน้าก็ตาขวางใส่แล้ว ส่วนคำพูดนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย!!

"ได้ค่ะ แต่ฉันมีเรื่องหนึ่งที่อยากให้แม่ช่วยเหลือสักหน่อย" หรงผิงตอบและยังขอความช่วยเหลืออีกด้วย

"หากทำได้ฉันก็พร้อม แต่หากมากเกินไปฉันก็ไม่รับปาก" รุ่ยจิวคิดว่าอาจเป็นเรื่องหย่า ถึงเธอจะเป็นแม่ แต่ทุกอย่างเธอให้ลูกชายจัดการตั้งแต่แรก ที่เห็นด้วยเพราะสะใภ้รองนั่นแหละที่ทำร้ายลูกตัวเอง และยังทำตัวร้ายกาจอีกด้วย เธอเลยไม่ห้ามลูกชาย มีแต่บอกให้รีบจัดการให้เรียบร้อย เพราะสงสารหลานตัวน้อย ๆ

"ฉันยอมหย่า แต่มีเงื่อนไขคือขอมาเจอลูกบ้าง ขอพาลูกไปเที่ยวบ้างบางครั้ง แต่ทุกครั้งฉันจะบอกก่อนล่วงหน้า และเรื่องที่ฉันกังวลใจคือ เรื่องที่เด็ก ๆ ยังไม่รู้เรื่องนี้ ยังเข้าใจว่าการหย่าคือการแยกกันไปทำงาน ฉันอยากให้แม่หรือพ่อของเด็ก ๆ ช่วยพูดและอธิบายให้ทั้งสองคนเข้าใจ แม่พอที่จะช่วยฉันได้ไหม" เธอยอมรับว่าเรื่องนี้คือเรื่องยากสำหรับเธอ

หากเธอเลือกใช้คำพูดที่ตรงเกินไป มันจะทำให้เด็กรู้สึกไม่ดีได้ ยอมรับว่าการที่จะทำให้เด็กเข้าใจโดยที่ไม่ทำร้ายความรู้สึกนั้นมันยากเกินไปสำหรับเธอจริง ๆ

"ฉันจะช่วยพูดก็แล้วกัน" รุ่ยจิวคิดว่าบอกนั้นมันง่าย แต่ทำให้หลานเข้าใจนั้นยากมากกว่า แต่ไม่เป็นไร... เพราะมีคนในหมู่บ้านที่พ่อแม่หย่ากันพอที่จะเอามาเป็นตัวอย่างแล้วบอกให้หลานเข้าใจได้บ้าง

"หลังมื้อกลางวัน ฉันจะไปส่งเด็ก ๆ นะคะ" หรงผิงสรุปเองจะได้รีบแยกย้าย เพราะรู้สึกว่าการพูดคุยมันไม่ธรรมชาติ อาจเพราะแต่ก่อนไม่เคยได้คุยกัน จึงทำให้แม่สามีค่อนข้างที่จะระแวงเธออย่างเห็นได้ชัด

"ได้ ๆ เดี๋ยวกลับจากในเมืองแล้วจะพามาส่งที่บ้าน" เมื่อคุยเรียบร้อยแล้วเธอก็จะได้กลับบ้าน เอาเรื่องนี้ไปบอกคนที่บ้านให้รับรู้ เพราะนี่คือครั้งแรกที่เธอมาขอให้หลานไปเที่ยวด้วยกัน และเป็นครั้งที่สองที่พูดคุยกันดี ๆ โดยไม่มีสีหน้าท่าทางที่บ่งบอกว่าไม่อยากพูดคุยเลยแม้แต่นิดเดียว

"ฉันจะไปรับเด็ก ๆ ช่วงเย็นเอง ฝากแม่ดูเจ้าแฝดด้วยนะคะ" เธอมีสถานที่ที่ต้องไปเหมือนกัน ในเมื่อคืนนี้มีเวลาที่จะทำงานในมิติฟาร์ม เท่ากับว่าเธอจะมีผลผลิตมากพอที่จะเอาออกมาขายได้ พรุ่งนี้เธอก็ต้องหาแหล่งขายเพื่อหารายได้ให้ตัวเอง

"แบบนั้นก็ได้ ฉันกลับก่อนแล้วกัน อาหมิง อาหง... ย่ากลับก่อนนะ" รุ่ยจิวบอกลูกสะใภ้ ก่อนที่จะตะโกนบอกหลาน ๆ ที่นั่งหัวชนกัน

หากเดาไม่ผิดคงเขียนหนังสือแน่ ๆ เพราะตอนที่เธอมานั้น หลาน ๆ กำลังเอาไม้เขียนพื้นที่ลานหน้าบ้าน แล้วบอกว่ากำลังหัดเขียนหนังสือตามที่แม่สอน ต้องยอมรับว่าแปลกใจมาก!! บอกเลยว่าตอนนี้ลูกสะใภ้รองทำให้เธอนั้นทั้งตกใจและประหลาดใจได้นับครั้งไม่ถ้วน

"ย่า ๆ ดูก่อน หนูเขียนเอง" ซือหงรีบวิ่งหน้าตั้งเอาสมุดที่ตัวเองเขียนเสร็จแล้วมาอวดย่า ตอนนี้เธอเขียนหนังสือได้หลายตัวแล้ว แม่บอกว่าคนเราหากอ่านออกเขียนได้จะมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ทั้งที่ไม่รู้ว่าโอกาสคืออะไร แต่แม่บอกดี เธอกับพี่ชายก็ต้องบอกว่าดีไม่ต่างกัน!!

"เขียนได้ด้วยหรือ" รุ่ยจิวรับสมุดมาดู เธอก็พออ่านได้ แต่ไม่ค่อยคล่องสักเท่าไร

"แม่สอนค่ะ" ซือหงเชิดหน้าน้อย ๆ ขึ้นนิดหนึ่ง ยืดตัวรอรับคำชมจากย่า บอกแล้ว ถึงจะเขียนตัวใหญ่ไปหน่อยแต่เขียนถูกแน่นอน!!

"ของผมก็มีครับ" จือหมิงเอาสมุดของตัวเองออกมาให้ย่าดูด้วยเหมือนกัน

ตอนแรกรุ่ยจิวคิดว่าจะกลับบ้านเลย แต่พอหลาน ๆ ต่างชวนพูดคุยเรื่องที่ตัวเองหัดเขียนหนังสือ หัดนับเลขโดยมีแม่เป็นคนคอยบอกคอยสอนให้ทุกวัน จึงทำให้กว่าจะได้กลับบ้านจริง ๆ ก็เป็นเวลาช่วงบ่ายเลยทีเดียว...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไปชุนหลินรอแม่สามีที่บอกว่าจะไปหาสะใภ้รองอย่างเป็นกังวล เพราะแม่หายไปนานมากแล้วแต่ยังไม่กลับมา จึงทำให้เธออยู่รอที่บ้านไม่ไหว จนต้องเดินออกมาตาม หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน"ฉันกำลังจะออกไปตามแม่... " ชุนหลินเดินมาถึงครึ่งทางแล้วก็เจอแม่สามีพอดี เธอนั้นร้อนใจตั้งแต่ที่แม่บอกจะไปหาสะใภ้รอง และแม่ยังหายมานานอีกด้วย!!"พอดีคุยกับเจ้าแฝดเพลินเลยช้าไปหน่อย... กลับบ้านก่อนค่อยคุยกัน" รุ่ยจิวรีบบอกให้ลูกสะใภ้กลับบ้าน เพราะอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังเมื่อมาถึงบ้านก็เห็นลูกสะใภ้เล็กนั่งรออยู่แล้ว รุ่ยจิวเลยให้หลาน ๆ พากันออกไปเล่น ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตัวเองไปเจอมาให้ทั้งสองสะใภ้ได้ฟัง"แม่... หรือพี่สะใภ้รองจะรู้ตัวว่าทำผิดจริง ๆ " ซูเยว่พูดขึ้นหลังจากที่ฟังแม่สามีเล่าเรื่องจนจบ"พักนี้ไม่มีข่าวอะไรเลยนะ ปกติแล้วชาวบ้านจะต้องเล่าว่าไปเจอที่ไหนและโดนอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้ชาวบ้านไม่เห็นจะพูดถึงเลย แม้แต่เจอตัวก็ยังไม่มีใครได้เจอเลย" ชุนหลินก็บอกถึงเรื่องที่ตัวเองมักได้ยินเป็นประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไร จะบอกว่าคนอื่นเลิก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์ม

    ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์มหลังจากที่ส่งลูกทั้งสองไปบ้านย่าเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็กลับบ้านมาจัดการทุกอย่างให้พร้อม เธอเตรียมชุดกับให้เงินลูกพกติดตัวไปด้วย ถึงจะไม่มากมายแต่ก็ยังมีให้ติดตัวไปบ้าง หรงผิงดีใจที่เด็กทั้งสองเชื่อฟัง ถึงแม้เจ้าตัวเล็กซือหงจะอยากให้แม่ไปด้วยก็ตาม แต่พอบอกเหตุผลก็ยอมฟัง และหอบผ้าตามพี่ชายไปนอนบ้านปู่บ้านย่าด้วยสีหน้าเหงาหงอยพออยู่ด้วยกันนานนับเดือนก็มีความรู้สึกห่วงใยกันและกันเป็นธรรมดา เธอค่อนข้างห่วงเด็กทั้งสอง แต่ก็มั่นใจว่าครอบครัวของพ่อเด็กจะสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี"ไอ้คนแซ่เฉิน!! เมื่อไรจะกลับมาจัดการให้เรียบร้อย" หรงผิงนึกถึงพ่อของเด็กแฝดแล้วก็คิดว่าเขานั้นทำอะไรชักช้าเหลือเกิน ตอนนี้เธออยากหย่าขาดจากเขาแล้ว!!"บางครั้งฉันก็คิดว่านายใจร้ายเหมือนกันนะ" หรงผิงพึมพำเกี่ยวกับพ่อของเด็ก ๆ ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาก็ใจร้ายเหมือนกันหรงผิงสะบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเอง เธอไม่ชอบคุยกับคนอื่น แต่ชอบคุยกับตัวเอง เถียงกับตัวเองมากกว่า อาจเพราะติดนิสัยการเอาตัวรอดมาจากวันสิ้นโลก หากไม่จำเป็นจะไม่มีการพูดคุยกับคนอื่น เพราะเวลาเดินท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 16 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 16 เงินก้อนแรกเมื่อมาถึงในเมือง หรงผิงก็รีบตรงไปที่ตลาดมืดตามที่ตั้งใจไว้ วันนี้มีงานเทศกาลจึงทำให้มีผู้คนเข้ามาในเมืองค่อนข้างเยอะ และเธอรู้ว่าแม่สามีจะพาฝาแฝดมาเดินเที่ยวงานในวันนี้เช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ลูกหรือครอบครัวของสามีต้องมาเจอเธอในตอนนี้ตลาดมืดตามความทรงจำนั้น มันอยู่ในตรอกเล็ก ๆ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่มิดชิดขนาดนั้น ทุกอย่างเลยต้องรีบซื้อรีบขาย บางวันทั้งคนซื้อและคนขายยังต้องวิ่งหนีเจ้าหน้าที่กันอย่างอุตลุด เรื่องนี้เธอได้มาจากความทรงจำของร่างเดิม จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่อาจตอบได้จนกว่าจะไปเห็นกับตาตัวเองเท่านั้นการอำพรางตัวเข้ามานั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับหรงผิง เพราะเธอเคยเอาตัวรอดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ พอเข้ามาในเขตตลาดมืดก็เริ่มจากสำรวจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ สอบถามราคาสินค้า และคอยเฝ้ามองผู้คนไปด้วย หากต้องการขายของอย่างปลอดภัยจะต้องจับตามองลูกค้าให้ดี ๆ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็มาในรูปแบบของลูกค้าเช่นเดียวกัน"ฉันมีข้าวสาร พี่สาวสนใจไหม" เมื่อรู้ราคาสินค้าและยังได้จับตามองดูลูกค้ามาสักพักแล้ว จึงทำให้กล้าและมั่นใจที่จะเข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิด

    ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิดหรงผิงเลือกซื้อสิ่งของที่ต้องการทุกอย่างด้วยเวลาอันรวดเร็ว อาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องซื้ออะไรบ้าง และอีกอย่างเธอต้องรีบเร่ง เพราะเธอต้องรีบไปรับลูกตามที่นัดไว้อีกด้วย"ซื้อสักหน่อยไม่น่าจะเสียเวลามาก" หรงผิงเห็นร้านขนมที่ขายอยู่ในห้างจึงตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อเพื่อเอาไปฝากลูก ขนมที่แปลกใหม่จะทำให้สองแฝดยิ้มได้อย่างแน่นอนหรงผิงใช้เงินซื้อของให้ลูกทั้งสองคนเกือบร้อยหยวน เธอซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หมวก เสื้อกันหนาว และทุกอย่างเธอซื้ออย่างละสองชิ้น!! หากถามว่าซื้อเยอะไหม ก็บอกเลยว่าเยอะ!! แต่เทียบกับจำนวนเงินที่หามาได้และความจำเป็นในสิ่งที่ซื้อก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอนหลังจากที่เข้าไปซื้อขนมเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ออกจากห้างเตรียมตัวกลับบ้านโดยเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนขามา สองเท้าก้าวเดิน ในหัวก็เริ่มวางแผน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวพ่อกับแม่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอมาตลอดถึงแม้สถานะทางบ้านไม่ได้ขัดสนมากนัก แต่พี่ชายทั้งสองคนกับพ่อก็ยังทำงานหนักอยู่ดี เธอคิดว่าคงช่วยแค่ทางบ้านตัวเอง คงไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือครอบครัวของพ่อเด็ก ๆ เพราะถึงอย่างไรเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 18 ในที่สุดก็ได้เจอ

    ตอนที่ 18 ในที่สุดก็ได้เจอหรงผิงเดินเข้ามาในห้องคนป่วยพร้อมกับลูกทั้งสองคน สายตาสอดส่องไปที่เตียงที่มีคนป่วยนอนอยู่บนเตียงทั้งสามคน ยอมรับว่าไม่แน่ใจว่าคนไหนคือสามีของร่างเดิม เพราะจากที่เห็น พวกเขามีหน้าตาคล้าย ๆ กัน และจากความทรงจำของร่างเดิมก็ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับสามพี่น้องมากนัก อาจเพราะส่วนมากพวกเขาไม่ค่อยได้อยู่ที่หมู่บ้าน เลยไม่ค่อยรู้เรื่องราวของพวกเขาสักเท่าไร"จำที่แม่เคยบอกได้ไหม" หรงผิงรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกจ้องมองจากทุกคน จึงก้มลงบอกลูกให้ทำในสิ่งที่เธอเคยสอน และเธอจะได้รู้ว่าใครเป็นใครหรงผิงมองสองแฝดที่เดินเข้าไปกล่าวสวัสดีทั้งสามคน จึงทำให้เธอได้รู้ว่าใครเป็นใคร ทำให้รู้ว่าคนไหนคือพ่อของเจ้าแฝด และแน่นอนว่าเธอแค่ยืนอยู่ห่าง ๆ ปล่อยให้คนอื่นพูดคุยกัน เธอทำเพียงยืนมองสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ หรงผิงมองดูพ่อของเจ้าแฝด คอยมองว่าเขามีปฏิกิริยาแบบไหนบ้าง เขาก็มองมาทางเธอบ่อย ๆ เช่นกัน หากเดาไม่ผิดก็คงเฝ้าดูไม่ต่างจากเธอแน่นอนตอนนี้เธอกำลังคิดถึงร่างเดิม คิดถึงความน่าจะเป็นว่าเหตุใดร่างเดิมถึงได้รักสามีคนนี้มากนัก หากรักเพราะหน้าตาก็ไม่น่าจะใช่ เพราะจากที่ดูแล้ว พ่อข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 19 ตระกูลเฉินสายหลัก

    ตอนที่ 19 ตระกูลเฉินสายหลักซือหงคอยแอบมองพ่อกับแม่อยู่ตลอด นานแล้วที่พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จะบอกว่านานแล้วก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเท่าที่จำได้ เธอไม่เคยเห็นพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันเลยนาน ๆ ครั้งพ่อถึงจะกลับบ้าน แต่พ่อจะพักอยู่ในเมืองมากกว่า ไม่เคยมาบ้านและไม่เคยมาเจอกับแม่เลย เพราะหากมาเจอแล้วแม่จะใจร้ายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเธอรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดี เพราะแม่จะตีหลายครั้งและยังตีแรง ๆ แม่ทั้งหยิกทั้งดุด่า บางครั้งก็เอาไม้ตีหัวเธอกับพี่ชายซือหงไม่เคยพูดหรือบอกใครว่าพ่อมาหา เพราะหากแม่รู้ แม่จะใจร้ายมากขึ้นกว่าเดิม แต่ตอนนี้แม่เจอพ่อแล้ว เธอเลยกลัวว่าแม่ใจร้ายจะกลับมาไหม เลยไม่อยากไปไหน ไม่อยากไปกินข้าวทั้งที่ตัวเองก็รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน แต่ก็อยากเฝ้าแม่ไว้ด้วย เธอไม่อยากให้แม่ใจดีคนนี้หายไป"แม่อย่าไปไหนนะ แม่คนนี้ต้องอยู่กับหนูนะ" ซือหงเดินเข้ากอดขาแม่พร้อมทั้งเอานิ้วเล็ก ๆ ชี้ที่ขาแม่ เพื่อยืนยันว่าต้องการแม่คนนี้จริง ๆ "แม่ครับ... นี่คือครั้งแรกที่เราอยู่พร้อมกันเหมือนพ่อแม่คนในหมู่บ้าน ผมอยากให้แม่ใจดีอยู่นะครับ" จือหมิงก็คิดไม่ต่างจากน้องสาว เพราะพ่อกับย่าจะบอกไว้เสมอว่าห้ามบอกเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 20 ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

    ตอนที่ 20 ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจือหมิงดึงมือน้องสาวให้เดินมาหาพ่อกับแม่ที่เตียง พร้อมทั้งก้มหน้าไม่กล้าสบตาใคร เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองทำผิดที่พูดแทรกขึ้นมา แต่เขาเข้าใจน้องสาวดีว่าไม่ต้องการให้ใครเข้าใจเรื่องพ่อกับแม่ผิดแบบนี้"หากญาติต้องการที่จะพูดคุยธุระเชิญด้านนอกนะคะ ตอนนี้ควรปล่อยให้คนไข้พักผ่อน" เจ้าหน้าที่ย้ำอีกรอบไม่ใช่แค่พูดเท่านั้น เจ้าหน้าที่ยังเดินไปยืนกดดันอีกด้วย จากตอนแรกนึกว่าคนบ้านหลักกำลังจะเปิดศึกกับเธอ ดูท่าแล้วชื่อเสียงของเธอก็คงไปไกลพอสมควร แม้แต่เรื่องหย่า ครอบครัวสายหลักยังรู้เรื่องเลย"ออกไปคุยกันให้รู้เรื่อง ทีหลังสั่งสอนลูกหลานบ้างนะ เป็นเด็กเป็นเล็กพูดแบบนี้ได้อย่างไร แม่เป็นเช่นไรลูกก็เป็นเช่นนั้น!! " แม่เฒ่าเฉินหันไปบอกลูกชายกับลูกสะใภ้ ก่อนจะหันมามองเด็กทั้งสองคนที่กล้าพูดขึ้นทั้งที่ผู้ใหญ่ยืนอยู่กันเต็มห้อง!!หรงผิงหันไปมองคนบ้านหลักที่กำลังเดินออกไป แต่ก่อนเดินออกไปก็หันมาจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง ต้องบอกว่าคนบ้านหลักนั้นมองคนบ้านรองด้วยสายตาเอาเรื่องทุกคนนั่นแหละ"ยาจะมาพร้อมอาหารนะคะ" เมื่อเจ้าหน้าที่ยืนมองญาติออกไปแล้วก็หันมาบอกคนไข้กับญาติที่เหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-08
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 1 ตัวฉันอีกคน

    ตอนที่ 1 ตัวฉันอีกคนเซียวหรงผิง ตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนอย่างรุนแรง จนทำให้เธอรู้สึกเวียนศีรษะอยากจะอาเจียนออกมา และยังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเพิ่มเข้ามาอีกด้วยหรงผิง อาเจียนอย่างหนัก ทั้งที่ไม่มีอะไรออกมาเลย และยังมองเห็นภาพการใช้ชีวิตของใครบางคนที่เธอไม่รู้จัก... ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าตัวเธอนั้นตายไปแล้ว แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนที่ตายแล้วจะยังมีความรู้สึก เจ็บปวดและทรมานเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก เพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว...หรงผิงดิ้นรนเอาตัวรอดในโลกที่มีแต่ความแห้งแล้ง โลกที่มนุษย์ต่างต้องการอาหาร โลกที่มีฝูงผีดิบอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง เธอสามารถอยู่รอดมาได้หลายปีจนมนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการ ร่างกายของคนที่เหลือรอดเริ่มมีการปรับเปลี่ยน หรือที่ทุกคนเข้าใจว่ามันคือพรสวรรค์หรือพลังวิเศษในการเอาตัวรอด ทุกคนจะมีพลังแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าร่างกายจะปรับเปลี่ยนเป็นแบบไหนซึ่งเธอก็ได้รับพลังวิเศษนี้ด้วยเช่นกัน และด้วยพลังที่ได้รับนี้ จึงทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายของคนอีกหลายกลุ่ม เพราะเธอได้รับมิติที่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01

บทล่าสุด

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 20 ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

    ตอนที่ 20 ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจือหมิงดึงมือน้องสาวให้เดินมาหาพ่อกับแม่ที่เตียง พร้อมทั้งก้มหน้าไม่กล้าสบตาใคร เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองทำผิดที่พูดแทรกขึ้นมา แต่เขาเข้าใจน้องสาวดีว่าไม่ต้องการให้ใครเข้าใจเรื่องพ่อกับแม่ผิดแบบนี้"หากญาติต้องการที่จะพูดคุยธุระเชิญด้านนอกนะคะ ตอนนี้ควรปล่อยให้คนไข้พักผ่อน" เจ้าหน้าที่ย้ำอีกรอบไม่ใช่แค่พูดเท่านั้น เจ้าหน้าที่ยังเดินไปยืนกดดันอีกด้วย จากตอนแรกนึกว่าคนบ้านหลักกำลังจะเปิดศึกกับเธอ ดูท่าแล้วชื่อเสียงของเธอก็คงไปไกลพอสมควร แม้แต่เรื่องหย่า ครอบครัวสายหลักยังรู้เรื่องเลย"ออกไปคุยกันให้รู้เรื่อง ทีหลังสั่งสอนลูกหลานบ้างนะ เป็นเด็กเป็นเล็กพูดแบบนี้ได้อย่างไร แม่เป็นเช่นไรลูกก็เป็นเช่นนั้น!! " แม่เฒ่าเฉินหันไปบอกลูกชายกับลูกสะใภ้ ก่อนจะหันมามองเด็กทั้งสองคนที่กล้าพูดขึ้นทั้งที่ผู้ใหญ่ยืนอยู่กันเต็มห้อง!!หรงผิงหันไปมองคนบ้านหลักที่กำลังเดินออกไป แต่ก่อนเดินออกไปก็หันมาจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง ต้องบอกว่าคนบ้านหลักนั้นมองคนบ้านรองด้วยสายตาเอาเรื่องทุกคนนั่นแหละ"ยาจะมาพร้อมอาหารนะคะ" เมื่อเจ้าหน้าที่ยืนมองญาติออกไปแล้วก็หันมาบอกคนไข้กับญาติที่เหล

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 19 ตระกูลเฉินสายหลัก

    ตอนที่ 19 ตระกูลเฉินสายหลักซือหงคอยแอบมองพ่อกับแม่อยู่ตลอด นานแล้วที่พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จะบอกว่านานแล้วก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเท่าที่จำได้ เธอไม่เคยเห็นพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันเลยนาน ๆ ครั้งพ่อถึงจะกลับบ้าน แต่พ่อจะพักอยู่ในเมืองมากกว่า ไม่เคยมาบ้านและไม่เคยมาเจอกับแม่เลย เพราะหากมาเจอแล้วแม่จะใจร้ายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเธอรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดี เพราะแม่จะตีหลายครั้งและยังตีแรง ๆ แม่ทั้งหยิกทั้งดุด่า บางครั้งก็เอาไม้ตีหัวเธอกับพี่ชายซือหงไม่เคยพูดหรือบอกใครว่าพ่อมาหา เพราะหากแม่รู้ แม่จะใจร้ายมากขึ้นกว่าเดิม แต่ตอนนี้แม่เจอพ่อแล้ว เธอเลยกลัวว่าแม่ใจร้ายจะกลับมาไหม เลยไม่อยากไปไหน ไม่อยากไปกินข้าวทั้งที่ตัวเองก็รู้สึกหิวแล้วเหมือนกัน แต่ก็อยากเฝ้าแม่ไว้ด้วย เธอไม่อยากให้แม่ใจดีคนนี้หายไป"แม่อย่าไปไหนนะ แม่คนนี้ต้องอยู่กับหนูนะ" ซือหงเดินเข้ากอดขาแม่พร้อมทั้งเอานิ้วเล็ก ๆ ชี้ที่ขาแม่ เพื่อยืนยันว่าต้องการแม่คนนี้จริง ๆ "แม่ครับ... นี่คือครั้งแรกที่เราอยู่พร้อมกันเหมือนพ่อแม่คนในหมู่บ้าน ผมอยากให้แม่ใจดีอยู่นะครับ" จือหมิงก็คิดไม่ต่างจากน้องสาว เพราะพ่อกับย่าจะบอกไว้เสมอว่าห้ามบอกเร

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 18 ในที่สุดก็ได้เจอ

    ตอนที่ 18 ในที่สุดก็ได้เจอหรงผิงเดินเข้ามาในห้องคนป่วยพร้อมกับลูกทั้งสองคน สายตาสอดส่องไปที่เตียงที่มีคนป่วยนอนอยู่บนเตียงทั้งสามคน ยอมรับว่าไม่แน่ใจว่าคนไหนคือสามีของร่างเดิม เพราะจากที่เห็น พวกเขามีหน้าตาคล้าย ๆ กัน และจากความทรงจำของร่างเดิมก็ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับสามพี่น้องมากนัก อาจเพราะส่วนมากพวกเขาไม่ค่อยได้อยู่ที่หมู่บ้าน เลยไม่ค่อยรู้เรื่องราวของพวกเขาสักเท่าไร"จำที่แม่เคยบอกได้ไหม" หรงผิงรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกจ้องมองจากทุกคน จึงก้มลงบอกลูกให้ทำในสิ่งที่เธอเคยสอน และเธอจะได้รู้ว่าใครเป็นใครหรงผิงมองสองแฝดที่เดินเข้าไปกล่าวสวัสดีทั้งสามคน จึงทำให้เธอได้รู้ว่าใครเป็นใคร ทำให้รู้ว่าคนไหนคือพ่อของเจ้าแฝด และแน่นอนว่าเธอแค่ยืนอยู่ห่าง ๆ ปล่อยให้คนอื่นพูดคุยกัน เธอทำเพียงยืนมองสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ หรงผิงมองดูพ่อของเจ้าแฝด คอยมองว่าเขามีปฏิกิริยาแบบไหนบ้าง เขาก็มองมาทางเธอบ่อย ๆ เช่นกัน หากเดาไม่ผิดก็คงเฝ้าดูไม่ต่างจากเธอแน่นอนตอนนี้เธอกำลังคิดถึงร่างเดิม คิดถึงความน่าจะเป็นว่าเหตุใดร่างเดิมถึงได้รักสามีคนนี้มากนัก หากรักเพราะหน้าตาก็ไม่น่าจะใช่ เพราะจากที่ดูแล้ว พ่อข

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิด

    ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิดหรงผิงเลือกซื้อสิ่งของที่ต้องการทุกอย่างด้วยเวลาอันรวดเร็ว อาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องซื้ออะไรบ้าง และอีกอย่างเธอต้องรีบเร่ง เพราะเธอต้องรีบไปรับลูกตามที่นัดไว้อีกด้วย"ซื้อสักหน่อยไม่น่าจะเสียเวลามาก" หรงผิงเห็นร้านขนมที่ขายอยู่ในห้างจึงตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อเพื่อเอาไปฝากลูก ขนมที่แปลกใหม่จะทำให้สองแฝดยิ้มได้อย่างแน่นอนหรงผิงใช้เงินซื้อของให้ลูกทั้งสองคนเกือบร้อยหยวน เธอซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หมวก เสื้อกันหนาว และทุกอย่างเธอซื้ออย่างละสองชิ้น!! หากถามว่าซื้อเยอะไหม ก็บอกเลยว่าเยอะ!! แต่เทียบกับจำนวนเงินที่หามาได้และความจำเป็นในสิ่งที่ซื้อก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอนหลังจากที่เข้าไปซื้อขนมเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ออกจากห้างเตรียมตัวกลับบ้านโดยเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนขามา สองเท้าก้าวเดิน ในหัวก็เริ่มวางแผน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวพ่อกับแม่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอมาตลอดถึงแม้สถานะทางบ้านไม่ได้ขัดสนมากนัก แต่พี่ชายทั้งสองคนกับพ่อก็ยังทำงานหนักอยู่ดี เธอคิดว่าคงช่วยแค่ทางบ้านตัวเอง คงไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือครอบครัวของพ่อเด็ก ๆ เพราะถึงอย่างไรเ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 16 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 16 เงินก้อนแรกเมื่อมาถึงในเมือง หรงผิงก็รีบตรงไปที่ตลาดมืดตามที่ตั้งใจไว้ วันนี้มีงานเทศกาลจึงทำให้มีผู้คนเข้ามาในเมืองค่อนข้างเยอะ และเธอรู้ว่าแม่สามีจะพาฝาแฝดมาเดินเที่ยวงานในวันนี้เช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ลูกหรือครอบครัวของสามีต้องมาเจอเธอในตอนนี้ตลาดมืดตามความทรงจำนั้น มันอยู่ในตรอกเล็ก ๆ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่มิดชิดขนาดนั้น ทุกอย่างเลยต้องรีบซื้อรีบขาย บางวันทั้งคนซื้อและคนขายยังต้องวิ่งหนีเจ้าหน้าที่กันอย่างอุตลุด เรื่องนี้เธอได้มาจากความทรงจำของร่างเดิม จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่อาจตอบได้จนกว่าจะไปเห็นกับตาตัวเองเท่านั้นการอำพรางตัวเข้ามานั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับหรงผิง เพราะเธอเคยเอาตัวรอดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ พอเข้ามาในเขตตลาดมืดก็เริ่มจากสำรวจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ สอบถามราคาสินค้า และคอยเฝ้ามองผู้คนไปด้วย หากต้องการขายของอย่างปลอดภัยจะต้องจับตามองลูกค้าให้ดี ๆ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็มาในรูปแบบของลูกค้าเช่นเดียวกัน"ฉันมีข้าวสาร พี่สาวสนใจไหม" เมื่อรู้ราคาสินค้าและยังได้จับตามองดูลูกค้ามาสักพักแล้ว จึงทำให้กล้าและมั่นใจที่จะเข้

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์ม

    ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์มหลังจากที่ส่งลูกทั้งสองไปบ้านย่าเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็กลับบ้านมาจัดการทุกอย่างให้พร้อม เธอเตรียมชุดกับให้เงินลูกพกติดตัวไปด้วย ถึงจะไม่มากมายแต่ก็ยังมีให้ติดตัวไปบ้าง หรงผิงดีใจที่เด็กทั้งสองเชื่อฟัง ถึงแม้เจ้าตัวเล็กซือหงจะอยากให้แม่ไปด้วยก็ตาม แต่พอบอกเหตุผลก็ยอมฟัง และหอบผ้าตามพี่ชายไปนอนบ้านปู่บ้านย่าด้วยสีหน้าเหงาหงอยพออยู่ด้วยกันนานนับเดือนก็มีความรู้สึกห่วงใยกันและกันเป็นธรรมดา เธอค่อนข้างห่วงเด็กทั้งสอง แต่ก็มั่นใจว่าครอบครัวของพ่อเด็กจะสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี"ไอ้คนแซ่เฉิน!! เมื่อไรจะกลับมาจัดการให้เรียบร้อย" หรงผิงนึกถึงพ่อของเด็กแฝดแล้วก็คิดว่าเขานั้นทำอะไรชักช้าเหลือเกิน ตอนนี้เธออยากหย่าขาดจากเขาแล้ว!!"บางครั้งฉันก็คิดว่านายใจร้ายเหมือนกันนะ" หรงผิงพึมพำเกี่ยวกับพ่อของเด็ก ๆ ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาก็ใจร้ายเหมือนกันหรงผิงสะบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเอง เธอไม่ชอบคุยกับคนอื่น แต่ชอบคุยกับตัวเอง เถียงกับตัวเองมากกว่า อาจเพราะติดนิสัยการเอาตัวรอดมาจากวันสิ้นโลก หากไม่จำเป็นจะไม่มีการพูดคุยกับคนอื่น เพราะเวลาเดินท

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไปชุนหลินรอแม่สามีที่บอกว่าจะไปหาสะใภ้รองอย่างเป็นกังวล เพราะแม่หายไปนานมากแล้วแต่ยังไม่กลับมา จึงทำให้เธออยู่รอที่บ้านไม่ไหว จนต้องเดินออกมาตาม หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน"ฉันกำลังจะออกไปตามแม่... " ชุนหลินเดินมาถึงครึ่งทางแล้วก็เจอแม่สามีพอดี เธอนั้นร้อนใจตั้งแต่ที่แม่บอกจะไปหาสะใภ้รอง และแม่ยังหายมานานอีกด้วย!!"พอดีคุยกับเจ้าแฝดเพลินเลยช้าไปหน่อย... กลับบ้านก่อนค่อยคุยกัน" รุ่ยจิวรีบบอกให้ลูกสะใภ้กลับบ้าน เพราะอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังเมื่อมาถึงบ้านก็เห็นลูกสะใภ้เล็กนั่งรออยู่แล้ว รุ่ยจิวเลยให้หลาน ๆ พากันออกไปเล่น ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตัวเองไปเจอมาให้ทั้งสองสะใภ้ได้ฟัง"แม่... หรือพี่สะใภ้รองจะรู้ตัวว่าทำผิดจริง ๆ " ซูเยว่พูดขึ้นหลังจากที่ฟังแม่สามีเล่าเรื่องจนจบ"พักนี้ไม่มีข่าวอะไรเลยนะ ปกติแล้วชาวบ้านจะต้องเล่าว่าไปเจอที่ไหนและโดนอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้ชาวบ้านไม่เห็นจะพูดถึงเลย แม้แต่เจอตัวก็ยังไม่มีใครได้เจอเลย" ชุนหลินก็บอกถึงเรื่องที่ตัวเองมักได้ยินเป็นประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไร จะบอกว่าคนอื่นเลิก

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 13 ความเชื่อใจ

    ตอนที่ 13 ความเชื่อใจหรงผิงและลูกทั้งสองตื่นแต่เช้า เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เด็ก ๆ จะมีหน้าที่ช่วยงานบ้านเท่าที่จะช่วยได้ และยังต้องหัดเขียนหนังสือที่ลานหน้าบ้านในตอนเช้าของทุกวันอีกด้วยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าในมิติฟาร์มยังมีสมุดหนังสือและดินสอที่สามารถนำออกมาใช้งานได้ เลยปล่อยให้ลูกทั้งสองคนเขียนหนังสืออยู่ที่ลานหน้าบ้านก่อน ส่วนตัวเธออ้างว่าต้องการไปเข้าห้องน้ำ แต่ความจริงแล้วเธอเข้ามาในมิติฟาร์มหรงผิงเคยได้รับบทเรียนมาจากโลกเดิมแล้วว่า... ความลับบางอย่างก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ เธอยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่เชื่อใจใครเลยสักคน ชาติที่แล้วตายเพราะญาติที่คิดว่าดีแสนดี ชาตินี้จะไม่มีทางทำเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด!!"คิดถึงกลิ่นนี้มากกก... " หรงผิงลากเสียงยาวทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือ ก่อนจะค่อย ๆ หาดินสอและหยิบสมุดเล่มเล็กตามที่ตัวเองตั้งใจมาเอาตั้งแต่แรก"ในนี้ทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย... ในครัวเรามีตู้ใส่อาหาร!! " เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ตัวเองจะตายมีเสบียงหลงเหลืออยู่ในครัว จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ เพราะในมิติฟาร์มทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม"

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน

    ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันผ่านมาสามวันแล้วที่หรงผิงกลับมาจากบ้านของพ่อและแม่ ทุกคนในครอบครัวเข้าใจเธอเป็นอย่างดี และยังยอมรับฟังเหตุผลของเธออีกด้วย เธอรู้ว่าโลกนี้ ยุคนี้ ค่อนข้างใจร้ายกับผู้หญิงที่หย่าจากสามี แต่พอมีครอบครัวที่พร้อมจะเคียงข้าง มันเลยทำให้เธอสบายใจมากขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร เธอสนใจแค่เจ้าแฝดและครอบครัวของพ่อแม่เพียงเท่านั้น"ใกล้แล้ว... ใกล้ที่ฉันจะเป็นอิสระแล้ว... " หรงผิงพึมพำคนเดียวเบา ๆหลังจากที่พาเจ้าแฝดเข้านอนแล้ว สถานที่ที่เธอชอบมานอนเวลาต้องการใช้ความคิดมากที่สุดคือบริเวณหน้าบ้าน อาจเพราะเธอชอบบรรยากาศและอากาศที่เย็นสบาย เธอรู้สึกว่าสมองแล่นได้ดีและคิดอะไรออกง่ายกว่าเวลาที่เจออากาศร้อนหรงผิงนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไปเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... เพราะเธอนอนดิ้นจนหล่นจากโต๊ะ!! ความรู้สึกที่กำลังจะร่วงหล่นลงพื้นทำให้เธอลืมตาตื่นทันทีตุ๊บ!!"อ่า... อยู่แบบคนธรรมดาเพียงไม่กี่เดือน... หลงลืมสัญชาตญาณที่เคยมีไปจนหมดสิ้น ไม่ดี ไม่ดี แบบนี้ไม่ดีเลย" หรงผิงสะบัดหัวเพื่อทำให้ตื่นตัวได้เต็มที่ ก่อนจะค่อย ๆ พยุงต

DMCA.com Protection Status