Share

ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน

last update Last Updated: 2025-01-05 20:42:49

ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน

ผ่านมาสามวันแล้วที่หรงผิงกลับมาจากบ้านของพ่อและแม่

ทุกคนในครอบครัวเข้าใจเธอเป็นอย่างดี และยังยอมรับฟังเหตุผลของเธออีกด้วย เธอรู้ว่าโลกนี้ ยุคนี้ ค่อนข้างใจร้ายกับผู้หญิงที่หย่าจากสามี แต่พอมีครอบครัวที่พร้อมจะเคียงข้าง มันเลยทำให้เธอสบายใจมากขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร เธอสนใจแค่เจ้าแฝดและครอบครัวของพ่อแม่เพียงเท่านั้น

"ใกล้แล้ว... ใกล้ที่ฉันจะเป็นอิสระแล้ว... " หรงผิงพึมพำคนเดียวเบา ๆ

หลังจากที่พาเจ้าแฝดเข้านอนแล้ว สถานที่ที่เธอชอบมานอนเวลาต้องการใช้ความคิดมากที่สุดคือบริเวณหน้าบ้าน อาจเพราะเธอชอบบรรยากาศและอากาศที่เย็นสบาย เธอรู้สึกว่าสมองแล่นได้ดีและคิดอะไรออกง่ายกว่าเวลาที่เจออากาศร้อน

หรงผิงนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไปเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... เพราะเธอนอนดิ้นจนหล่นจากโต๊ะ!! ความรู้สึกที่กำลังจะร่วงหล่นลงพื้นทำให้เธอลืมตาตื่นทันที

ตุ๊บ!!

"อ่า... อยู่แบบคนธรรมดาเพียงไม่กี่เดือน... หลงลืมสัญชาตญาณที่เคยมีไปจนหมดสิ้น ไม่ดี ไม่ดี แบบนี้ไม่ดีเลย" หรงผิงสะบัดหัวเพื่อทำให้ตื่นตัวได้เต็มที่ ก่อนจะค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้น พร้อมกับเริ่มขมวดคิ้วอย่างสงสัย เพราะเธอรู้สึกว่ามันมีบางอย่างเปลี่ยนไป!!

"โอ้ มาย ก็อด!! วอท เดอะ...!! " พอได้เห็นสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวก็ทำให้หรงผิงถึงกลับหลุดคำพูดที่ชอบพูดติดปากตอนที่ยังเคยอาศัยอยู่บนโลกเดิม

"ขอบคุณ ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน!! " ไม่มีอะไรที่จะทำให้คนอย่างหรงผิงหลุดจากการเป็นคนนิ่ง ๆ เหมือนที่เป็นอยู่ประจำได้ นอกจากสิ่งที่เคยเป็นของเธอได้กลับมาอยู่กับเธออีกครั้ง!! มิติฟาร์ม ตามเธอมาด้วย!! และตอนนี้เธอก็อยู่ในมิติฟาร์มของตัวเอง!!

"ขอให้ทุกอย่างเหมือนเดิม!! ต่อไปจะได้ไม่ต้องหาที่อยู่ให้ยุ่งยากอีกแล้ว ไม่ต้องกลัวที่จะอดอีกด้วย!! " หรงผิงตะโกนเสียงดัง กล้าที่จะทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ ในนี้ เพราะรู้ดีว่าเธออยู่ในนี้เพียงคนเดียว

เมื่อแสดงความดีใจกับตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาสำรวจมิติฟาร์ม ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร ทำไมมิติฟาร์มถึงมาช้าเป็นเดือน ๆ แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ก็ขอให้อยู่ด้วยกันต่อไปเรื่อย ๆ อย่าได้ทิ้งกันไปไหนอีกเลย มาช้าไม่เป็นไร... หรงผิงคนนี้ไม่เรื่องมากอยู่แล้ว ขอแค่ให้มาอยู่ด้วยกันเท่านั้นก็พอแล้ว

ในมิติฟาร์มมีบ้านหลังหนึ่งอยู่แล้ว บ้านหลังนี้มีเครื่องใช้ทุกอย่างที่ทันสมัย ทุกอย่างใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ทั้งหมด ภายในบ้านมีห้องนอนจำนวน 4 ห้อง มีห้องน้ำจำนวน 3ฟ้อง  มีห้องอาบน้ำจำนวน 3 ห้อง มีห้องรับแขกจำนวน 1 ห้อง มีห้องทำงานจำนวน 1 ห้อง มีห้องโถงจำนวน 1 ห้อง และยังมีห้องหนังสืออีก 1 ห้อง ในแต่ละห้องจะถูกตกแต่งไว้พร้อมสำหรับใช้งานอีกด้วย

บ้านหลังนี้มาพร้อมกับมิติฟาร์มตั้งแต่แรก แต่อุปกรณ์เครื่องใช้บางอย่างเธอต้องเสาะหามาเอง ไม่ว่าจะเป็นแผงโซลาเซลล์ เครื่องซักผ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งหลาย เธอเก็บรวบรวมไว้ใช้งานตั้งแต่ตอนที่ยังอาศัยอยู่บนโลกใบเดิม

"ของในบ้านน่าจะยังอยู่ครบ" หรงผิงพึมพำกับตัวเองหลังจากที่สำรวจเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น ก่อนจะก้มลงเปลี่ยนเป็นรองเท้าบูตสูง เพื่อความสะดวกเวลาที่ต้องออกสำรวจบริเวณนอกตัวบ้าน

"เสื้อผ้ายังอยู่ครบ แต่บางตัวอาจเอาออกไปใช้ด้านนอกไม่ได้" เธอเปลี่ยนรองเท้าไปด้วย พลางคุยกับตัวเองไปด้วย ตอนนี้ในหัวเริ่มที่จะวางแผนงานต่าง ๆ แล้ว

พื้นที่ในมิติไม่ได้กว้างมาก มีบ้านหนึ่งหลัง มีโกดังเก็บของจำนวนสองหลัง มีบ่อน้ำที่ใช้สำหรับดื่มกินจำนวนหนึ่งบ่อ มีทะเลสาบขนาดเล็ก และมีโรงจอดรถ ภายในมีรถชนิดต่าง ๆ ที่ใช้งานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และมีลานกว้างไว้สำหรับทำการเพาะปลูก หรือที่เธอชอบเรียกว่า ลานเกษตร และมีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนห้าต้น ที่เอาไว้อาศัยร่มเงาเท่านั้น

หากต้องการพืชผักหรือผลไม้ชนิดไหน ก็แค่เอาเมล็ดพันธุ์มาปลูกบริเวณลานเกษตร ถึงจะมีพื้นที่ขนาดเล็ก แต่สิ่งที่ปลูกในลานเกษตรนั้นจะได้ผลผลิตในเวลาอันรวดเร็ว เพียง 24 ชั่วโมงก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว และที่สำคัญ ใช้เมล็ดพันธุ์พืชที่ต้องการปลูกเพียงหนึ่งเมล็ดพันธุ์ ก็สามารถทำให้พืชชนิดนั้นขึ้นเต็มพื้นที่บริเวณลานเกษตรแล้ว

แต่การเก็บเกี่ยวจะต้องทำด้วยตัวเอง หากเป็นผลไม้ เธอก็ต้องเดินเก็บจนหมด พอหมดต้นแล้วทุกอย่างจะสลายกลายเป็นดินไปเลย แต่หากเป็นข้าว เธอจะมีรถเกี่ยวข้าวขนาดเล็กซึ่งใช้งานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ถึงแม้จะเป็นรถขนาดเล็ก แต่มีหลากหลายโปรแกรมให้เลือก เมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จสามารถตั้งโปรแกรมสีข้าว แล้วบรรจุปริมาณตามที่เราต้องการได้ด้วย

หรงผิงจำได้ว่ากว่าจะได้รถคันนี้มา เธอต้องออกเดินทางตามหารถเกี่ยวข้าวในระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรเลยก็ว่าได้ แต่การออกจากกลุ่มในครั้งนั้น ก็ทำให้เธอได้เครื่องอำนวยความสะดวกและรถชนิดต่าง ๆ กลับไปด้วยเช่นกัน แม้แต่รถขุดพืชตระกูลถั่วหรือพืชที่โตใต้ดินก็ยังได้มาด้วยเหมือนกัน ที่สำคัญสิ่งที่เธอได้มานั้นล้วนใช้งานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด

หวังว่ามันจะสามารถใช้งานได้เลย เธอไม่อยากซ่อมมันอีกแล้ว เพราะฝีมือการซ่อมของเธอมันไม่ได้เรื่องจริง ๆ ไม่อย่างนั้นต้องเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยสองมือ ซึ่งมันต้องใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวนานมากเลยทีเดียว

"ไม่มีอะไรเหลือเลย" หรงผิงมาเปิดโกดังเก็บของที่เคยมีข้าวสารอาหารต่าง ๆ เก็บไว้จำนวนมาก ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือเลย มีเพียงโกดังที่ว่างเปล่าเพียงเท่านั้น

ถึงจะสงสัยว่าทุกอย่างหายไปไหน แต่เพราะบางอย่างในนี้ไม่สามารถหาคำตอบได้ จึงไม่จำเป็นต้องหาคำตอบให้เสียเวลา ลงมือทำงานปลูกพืชที่ต้องการแบบนั้นดีที่สุด เพราะหากลงมือทำ รับรองเลยว่าได้ผลผลิตตามที่ต้องการแน่นอน พอคิดได้แบบนั้นแล้วก็รีบออกมาข้างนอก เพื่อหยิบเมล็ดพันธุ์พืชที่ตัวเองเก็บไว้ทันที

"ยังดีที่ทำจนติดเป็นนิสัย" หรงผิงหยิบถุงผ้าที่ใส่เมล็ดพันธุ์ออกมาถือไว้ ในนั้นมีเมล็ดพันธุ์พืชอยู่สามชนิด มีข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่วลิสง ที่เธอเก็บเวลาที่เจอตามสถานที่ต่าง ๆ 

เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็รีบกลับเข้าไปในมิติฟาร์ม การเข้ามิติฟาร์มเพียงแค่หลับตาแล้วคิดถึงมิติฟาร์มก็สามารถเข้าไปได้แล้ว ส่วนเวลาออกไปก็คิดแค่ว่าต้องการออกเพียงเท่านั้น เข้าบริเวณไหนจะออกบริเวณนั้น ไม่สามารถกำหนดสถานที่จะออกไปได้ ไม่เหมือนตอนที่จะเข้าไปในมิติฟาร์มที่สามารถกำหนดว่าต้องการไปโผล่บริเวณไหนก็สามารถทำได้เลย

"ขอข้าวก่อนแล้วกัน" หรงผิงเอาเมล็ดข้าวเปลือกฝังลงบนพื้นที่ลานเกษตร แล้วปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินการไปเอง

ครั้งแรกที่เธอได้รับมิติฟาร์มนั้น เธอไม่รู้เลยว่ามันสามารถทำฟาร์มหรือทำการเกษตรได้ นึกว่าเป็นเพียงลานนั่งเล่นทั่วไป เพราะมันเหมือนลานหน้าบ้านมากกว่าลานเพาะปลูก แต่เพราะเธอทำเมล็ดถั่วร่วงลงไปแล้วเก็บขึ้นมาไม่หมด พอตื่นเช้ามาก็มีต้นถั่วขึ้นเต็มพื้นที่ จึงทำให้รู้ว่าลานตรงนี้สามารถปลูกพืชได้ผลผลิตในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่กว่าจะรู้และกระจ่างแจ้งก็ลองผิดลองถูกอยู่นานเหมือนกัน

ตอนนี้มีบางอย่างที่เธอไม่เคยลองเลย นั่นคือการปล่อยปลาลงในทะเลสาบ ในเมื่อมีปลาเป็นที่ถูกขังไว้ในถังอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจทดลองปล่อยปลาจำนวนสองตัวลงในทะเลสาบ ผลผลิตในฟาร์มจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ก็ต่อเมื่อครบตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยปกติแล้วเวลาที่ใช้คือจำนวนหนึ่งวันหรือ 24 ชั่วโมง ตอนนี้จึงทำได้แค่รอเวลาเท่านั้น

"ข้าวจ๋า... ปลาจ๋า... หวังว่าพรุ่งนี้เราจะได้เจอกัน" หรงผิงยกยิ้มขึ้นหลังจากที่ทดลองปล่อยปลาและปลูกข้าวเรียบร้อยแล้ว

เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวออกไปข้างนอก ถึงจะอยากนอนในมิติฟาร์ม แต่เธอไม่อยากปล่อยฝาแฝดไว้ข้างนอก เลยตัดสินใจออกไปนอนกับเด็ก ๆ น่าจะดีกว่า และอีกอย่าง เธออยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มาก ๆ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนที่พวกเธอจะต้องแยกจากกัน เลยอยากมีเวลาร่วมกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...

Related chapters

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 13 ความเชื่อใจ

    ตอนที่ 13 ความเชื่อใจหรงผิงและลูกทั้งสองตื่นแต่เช้า เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เด็ก ๆ จะมีหน้าที่ช่วยงานบ้านเท่าที่จะช่วยได้ และยังต้องหัดเขียนหนังสือที่ลานหน้าบ้านในตอนเช้าของทุกวันอีกด้วยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าในมิติฟาร์มยังมีสมุดหนังสือและดินสอที่สามารถนำออกมาใช้งานได้ เลยปล่อยให้ลูกทั้งสองคนเขียนหนังสืออยู่ที่ลานหน้าบ้านก่อน ส่วนตัวเธออ้างว่าต้องการไปเข้าห้องน้ำ แต่ความจริงแล้วเธอเข้ามาในมิติฟาร์มหรงผิงเคยได้รับบทเรียนมาจากโลกเดิมแล้วว่า... ความลับบางอย่างก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ เธอยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่เชื่อใจใครเลยสักคน ชาติที่แล้วตายเพราะญาติที่คิดว่าดีแสนดี ชาตินี้จะไม่มีทางทำเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด!!"คิดถึงกลิ่นนี้มากกก... " หรงผิงลากเสียงยาวทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือ ก่อนจะค่อย ๆ หาดินสอและหยิบสมุดเล่มเล็กตามที่ตัวเองตั้งใจมาเอาตั้งแต่แรก"ในนี้ทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย... ในครัวเรามีตู้ใส่อาหาร!! " เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ตัวเองจะตายมีเสบียงหลงเหลืออยู่ในครัว จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ เพราะในมิติฟาร์มทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม"

    Last Updated : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไปชุนหลินรอแม่สามีที่บอกว่าจะไปหาสะใภ้รองอย่างเป็นกังวล เพราะแม่หายไปนานมากแล้วแต่ยังไม่กลับมา จึงทำให้เธออยู่รอที่บ้านไม่ไหว จนต้องเดินออกมาตาม หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน"ฉันกำลังจะออกไปตามแม่... " ชุนหลินเดินมาถึงครึ่งทางแล้วก็เจอแม่สามีพอดี เธอนั้นร้อนใจตั้งแต่ที่แม่บอกจะไปหาสะใภ้รอง และแม่ยังหายมานานอีกด้วย!!"พอดีคุยกับเจ้าแฝดเพลินเลยช้าไปหน่อย... กลับบ้านก่อนค่อยคุยกัน" รุ่ยจิวรีบบอกให้ลูกสะใภ้กลับบ้าน เพราะอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังเมื่อมาถึงบ้านก็เห็นลูกสะใภ้เล็กนั่งรออยู่แล้ว รุ่ยจิวเลยให้หลาน ๆ พากันออกไปเล่น ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตัวเองไปเจอมาให้ทั้งสองสะใภ้ได้ฟัง"แม่... หรือพี่สะใภ้รองจะรู้ตัวว่าทำผิดจริง ๆ " ซูเยว่พูดขึ้นหลังจากที่ฟังแม่สามีเล่าเรื่องจนจบ"พักนี้ไม่มีข่าวอะไรเลยนะ ปกติแล้วชาวบ้านจะต้องเล่าว่าไปเจอที่ไหนและโดนอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้ชาวบ้านไม่เห็นจะพูดถึงเลย แม้แต่เจอตัวก็ยังไม่มีใครได้เจอเลย" ชุนหลินก็บอกถึงเรื่องที่ตัวเองมักได้ยินเป็นประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไร จะบอกว่าคนอื่นเลิก

    Last Updated : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์ม

    ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์มหลังจากที่ส่งลูกทั้งสองไปบ้านย่าเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็กลับบ้านมาจัดการทุกอย่างให้พร้อม เธอเตรียมชุดกับให้เงินลูกพกติดตัวไปด้วย ถึงจะไม่มากมายแต่ก็ยังมีให้ติดตัวไปบ้าง หรงผิงดีใจที่เด็กทั้งสองเชื่อฟัง ถึงแม้เจ้าตัวเล็กซือหงจะอยากให้แม่ไปด้วยก็ตาม แต่พอบอกเหตุผลก็ยอมฟัง และหอบผ้าตามพี่ชายไปนอนบ้านปู่บ้านย่าด้วยสีหน้าเหงาหงอยพออยู่ด้วยกันนานนับเดือนก็มีความรู้สึกห่วงใยกันและกันเป็นธรรมดา เธอค่อนข้างห่วงเด็กทั้งสอง แต่ก็มั่นใจว่าครอบครัวของพ่อเด็กจะสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี"ไอ้คนแซ่เฉิน!! เมื่อไรจะกลับมาจัดการให้เรียบร้อย" หรงผิงนึกถึงพ่อของเด็กแฝดแล้วก็คิดว่าเขานั้นทำอะไรชักช้าเหลือเกิน ตอนนี้เธออยากหย่าขาดจากเขาแล้ว!!"บางครั้งฉันก็คิดว่านายใจร้ายเหมือนกันนะ" หรงผิงพึมพำเกี่ยวกับพ่อของเด็ก ๆ ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาก็ใจร้ายเหมือนกันหรงผิงสะบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเอง เธอไม่ชอบคุยกับคนอื่น แต่ชอบคุยกับตัวเอง เถียงกับตัวเองมากกว่า อาจเพราะติดนิสัยการเอาตัวรอดมาจากวันสิ้นโลก หากไม่จำเป็นจะไม่มีการพูดคุยกับคนอื่น เพราะเวลาเดินท

    Last Updated : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 16 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 16 เงินก้อนแรกเมื่อมาถึงในเมือง หรงผิงก็รีบตรงไปที่ตลาดมืดตามที่ตั้งใจไว้ วันนี้มีงานเทศกาลจึงทำให้มีผู้คนเข้ามาในเมืองค่อนข้างเยอะ และเธอรู้ว่าแม่สามีจะพาฝาแฝดมาเดินเที่ยวงานในวันนี้เช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ลูกหรือครอบครัวของสามีต้องมาเจอเธอในตอนนี้ตลาดมืดตามความทรงจำนั้น มันอยู่ในตรอกเล็ก ๆ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่มิดชิดขนาดนั้น ทุกอย่างเลยต้องรีบซื้อรีบขาย บางวันทั้งคนซื้อและคนขายยังต้องวิ่งหนีเจ้าหน้าที่กันอย่างอุตลุด เรื่องนี้เธอได้มาจากความทรงจำของร่างเดิม จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่อาจตอบได้จนกว่าจะไปเห็นกับตาตัวเองเท่านั้นการอำพรางตัวเข้ามานั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับหรงผิง เพราะเธอเคยเอาตัวรอดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ พอเข้ามาในเขตตลาดมืดก็เริ่มจากสำรวจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ สอบถามราคาสินค้า และคอยเฝ้ามองผู้คนไปด้วย หากต้องการขายของอย่างปลอดภัยจะต้องจับตามองลูกค้าให้ดี ๆ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็มาในรูปแบบของลูกค้าเช่นเดียวกัน"ฉันมีข้าวสาร พี่สาวสนใจไหม" เมื่อรู้ราคาสินค้าและยังได้จับตามองดูลูกค้ามาสักพักแล้ว จึงทำให้กล้าและมั่นใจที่จะเข้

    Last Updated : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิด

    ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิดหรงผิงเลือกซื้อสิ่งของที่ต้องการทุกอย่างด้วยเวลาอันรวดเร็ว อาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องซื้ออะไรบ้าง และอีกอย่างเธอต้องรีบเร่ง เพราะเธอต้องรีบไปรับลูกตามที่นัดไว้อีกด้วย"ซื้อสักหน่อยไม่น่าจะเสียเวลามาก" หรงผิงเห็นร้านขนมที่ขายอยู่ในห้างจึงตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อเพื่อเอาไปฝากลูก ขนมที่แปลกใหม่จะทำให้สองแฝดยิ้มได้อย่างแน่นอนหรงผิงใช้เงินซื้อของให้ลูกทั้งสองคนเกือบร้อยหยวน เธอซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หมวก เสื้อกันหนาว และทุกอย่างเธอซื้ออย่างละสองชิ้น!! หากถามว่าซื้อเยอะไหม ก็บอกเลยว่าเยอะ!! แต่เทียบกับจำนวนเงินที่หามาได้และความจำเป็นในสิ่งที่ซื้อก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอนหลังจากที่เข้าไปซื้อขนมเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ออกจากห้างเตรียมตัวกลับบ้านโดยเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนขามา สองเท้าก้าวเดิน ในหัวก็เริ่มวางแผน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวพ่อกับแม่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอมาตลอดถึงแม้สถานะทางบ้านไม่ได้ขัดสนมากนัก แต่พี่ชายทั้งสองคนกับพ่อก็ยังทำงานหนักอยู่ดี เธอคิดว่าคงช่วยแค่ทางบ้านตัวเอง คงไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือครอบครัวของพ่อเด็ก ๆ เพราะถึงอย่างไรเ

    Last Updated : 2025-01-06
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 1 ตัวฉันอีกคน

    ตอนที่ 1 ตัวฉันอีกคนเซียวหรงผิง ตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนอย่างรุนแรง จนทำให้เธอรู้สึกเวียนศีรษะอยากจะอาเจียนออกมา และยังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเพิ่มเข้ามาอีกด้วยหรงผิง อาเจียนอย่างหนัก ทั้งที่ไม่มีอะไรออกมาเลย และยังมองเห็นภาพการใช้ชีวิตของใครบางคนที่เธอไม่รู้จัก... ความรู้สึกบางอย่างบอกว่าตัวเธอนั้นตายไปแล้ว แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนที่ตายแล้วจะยังมีความรู้สึก เจ็บปวดและทรมานเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก เพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว...หรงผิงดิ้นรนเอาตัวรอดในโลกที่มีแต่ความแห้งแล้ง โลกที่มนุษย์ต่างต้องการอาหาร โลกที่มีฝูงผีดิบอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง เธอสามารถอยู่รอดมาได้หลายปีจนมนุษย์เริ่มมีวิวัฒนาการ ร่างกายของคนที่เหลือรอดเริ่มมีการปรับเปลี่ยน หรือที่ทุกคนเข้าใจว่ามันคือพรสวรรค์หรือพลังวิเศษในการเอาตัวรอด ทุกคนจะมีพลังแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าร่างกายจะปรับเปลี่ยนเป็นแบบไหนซึ่งเธอก็ได้รับพลังวิเศษนี้ด้วยเช่นกัน และด้วยพลังที่ได้รับนี้ จึงทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายของคนอีกหลายกลุ่ม เพราะเธอได้รับมิติที่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยและ

    Last Updated : 2025-01-01
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 2 มารดาเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 2 มารดาเปลี่ยนไปหรงผิงใช้เวลาในการตั้งสตินานหลายชั่วโมง ก่อนจะลุกขึ้นสำรวจบ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีสองห้องนอน หนึ่งห้องส้วม หนึ่งห้องอาบน้ำ หนึ่งห้องครัว และหนึ่งห้องโถง จากที่รับรู้ ถือว่าบ้านหลังนี้ดีกว่าบ้านหลังอื่น ๆ ในหมู่บ้านเสียอีกคนส่วนใหญ่ค่อนข้างยากจนจึงสร้างบ้านด้วยดิน มีการทำงานตามหน่วยคอมมูน ทำงานรับจ้าง และทำงานโรงงาน หรงผิงไม่แน่ใจว่ายุคนี้มันเป็นยุคไหน เพราะโลกที่เธอจากมาไม่ได้มียุคสมัยแบบนี้ หรือหากจะมีก็น่าจะย้อนยุคและผ่านมานานแล้วจนเธอไม่รู้ยังดีที่เธอมีความทรงจำของร่างเดิม ยังพอที่จะปรับตัวได้บ้าง ไม่อย่างนั้นอาจทำให้ลำบากมากกว่านี้แน่ ๆ หรงผิงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้านที่ดูดีกว่าบ้านคนอื่น แต่กลับรกจนไม่รู้จะรกอย่างไรแล้ว"เสื้อผ้าของตัวเองยังดูดี แต่ลูกกลับใส่เสื้อผ้าขาด ๆ " หรงผิงบ่นพึมพำเกี่ยวกับเจ้าของร่างเดิมหรงผิงตัดสินใจจัดการสิ่งของทุกอย่างที่อยู่ในห้อง จัดทุกอย่าง และแยกเสื้อผ้าทั้งหมดออกมา เพราะจากที่ดูแล้วมันต้องซักใหม่ทั้งหมด หรงผิงเก็บของ ทำความสะอาดบ้านไปด้วย พลางนึกถึงร่างเดิมว่าร้ายขนาดไหน ขนาดไม่สบายหลับไปสามวันยังไม่มีใครมาดูดำดูดี

    Last Updated : 2025-01-01
  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 3 เพราะเธอคือมารดาตัวร้าย

    ตอนที่ 3 เพราะเธอคือมารดาตัวร้ายหรงผิงใช้เวลาช่วงบ่ายหมดไปกับการทำงานบ้าน บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ห่างไกลจากบ้านหลังอื่น เพราะไม่สามารถอยู่รวมกับครอบครัวสามีได้เลยต้องออกมาอยู่เองต่างหาก และเพราะเจ้าของร่างเดิมไม่ถูกกับใครในหมู่บ้าน เลยต้องมาซื้อที่ดินอาศัยอยู่ห่างไกลจากคนอื่น ๆหรงผิงตักน้ำไว้ใช้จนครบหมดทุกที่ เธอเก็บเสื้อผ้าซักตากเต็มหลังบ้าน ทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุม และได้สำรวจด้วยว่าขาดเหลืออะไรบ้าง บางอย่างไม่จำเป็นแต่กลับมี บางอย่างที่ควรมีกลับไม่มี เธอต้องจัดการของที่ไม่จำเป็นออกให้หมด และต้องเริ่มปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ทั้งของตัวเองและของฝาแฝดด้วยเหมือนกันหากให้บอกว่าร่างเดิมเอาเงินไปใช้สิ้นเปลืองทั้งหมดก็ไม่ใช่ เพราะยังเอามาสร้างบ้านจนดูดีกว่าคนอื่น และยังสร้างกำแพงสูงอีกด้วย บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นเหมือนบ้านเศรษฐีที่อยู่ในเมือง เงินที่เอามาสร้างก็มาจากเงินสามีที่เป็นทหาร ซึ่งเบิกเงินล่วงหน้ามาสร้างบ้านตามที่ร่างเดิมต้องการความจริงเป็นแบบไหนเธอก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะจากที่รู้มาส่วนมากมาจากความทรงจำเดิม และบางอย่างที่เธอคิดและมองแบบคนนอก เลยมองเห็นภาพที่แตกต่างจากเจ้าของร่างเ

    Last Updated : 2025-01-01

Latest chapter

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิด

    ตอนที่ 17 ไม่เป็นอย่างที่คิดหรงผิงเลือกซื้อสิ่งของที่ต้องการทุกอย่างด้วยเวลาอันรวดเร็ว อาจเพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องซื้ออะไรบ้าง และอีกอย่างเธอต้องรีบเร่ง เพราะเธอต้องรีบไปรับลูกตามที่นัดไว้อีกด้วย"ซื้อสักหน่อยไม่น่าจะเสียเวลามาก" หรงผิงเห็นร้านขนมที่ขายอยู่ในห้างจึงตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อเพื่อเอาไปฝากลูก ขนมที่แปลกใหม่จะทำให้สองแฝดยิ้มได้อย่างแน่นอนหรงผิงใช้เงินซื้อของให้ลูกทั้งสองคนเกือบร้อยหยวน เธอซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หมวก เสื้อกันหนาว และทุกอย่างเธอซื้ออย่างละสองชิ้น!! หากถามว่าซื้อเยอะไหม ก็บอกเลยว่าเยอะ!! แต่เทียบกับจำนวนเงินที่หามาได้และความจำเป็นในสิ่งที่ซื้อก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอนหลังจากที่เข้าไปซื้อขนมเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็ออกจากห้างเตรียมตัวกลับบ้านโดยเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนขามา สองเท้าก้าวเดิน ในหัวก็เริ่มวางแผน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวพ่อกับแม่ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเธอมาตลอดถึงแม้สถานะทางบ้านไม่ได้ขัดสนมากนัก แต่พี่ชายทั้งสองคนกับพ่อก็ยังทำงานหนักอยู่ดี เธอคิดว่าคงช่วยแค่ทางบ้านตัวเอง คงไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือครอบครัวของพ่อเด็ก ๆ เพราะถึงอย่างไรเ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 16 เงินก้อนแรก

    ตอนที่ 16 เงินก้อนแรกเมื่อมาถึงในเมือง หรงผิงก็รีบตรงไปที่ตลาดมืดตามที่ตั้งใจไว้ วันนี้มีงานเทศกาลจึงทำให้มีผู้คนเข้ามาในเมืองค่อนข้างเยอะ และเธอรู้ว่าแม่สามีจะพาฝาแฝดมาเดินเที่ยวงานในวันนี้เช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง เพราะไม่อยากให้ลูกหรือครอบครัวของสามีต้องมาเจอเธอในตอนนี้ตลาดมืดตามความทรงจำนั้น มันอยู่ในตรอกเล็ก ๆ และแน่นอนว่ามันไม่ใช่สถานที่มิดชิดขนาดนั้น ทุกอย่างเลยต้องรีบซื้อรีบขาย บางวันทั้งคนซื้อและคนขายยังต้องวิ่งหนีเจ้าหน้าที่กันอย่างอุตลุด เรื่องนี้เธอได้มาจากความทรงจำของร่างเดิม จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่อาจตอบได้จนกว่าจะไปเห็นกับตาตัวเองเท่านั้นการอำพรางตัวเข้ามานั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับหรงผิง เพราะเธอเคยเอาตัวรอดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ พอเข้ามาในเขตตลาดมืดก็เริ่มจากสำรวจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อย ๆ สอบถามราคาสินค้า และคอยเฝ้ามองผู้คนไปด้วย หากต้องการขายของอย่างปลอดภัยจะต้องจับตามองลูกค้าให้ดี ๆ เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็มาในรูปแบบของลูกค้าเช่นเดียวกัน"ฉันมีข้าวสาร พี่สาวสนใจไหม" เมื่อรู้ราคาสินค้าและยังได้จับตามองดูลูกค้ามาสักพักแล้ว จึงทำให้กล้าและมั่นใจที่จะเข้

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์ม

    ตอนที่ 15 เตรียมความพร้อมกับมิติฟาร์มหลังจากที่ส่งลูกทั้งสองไปบ้านย่าเรียบร้อยแล้ว หรงผิงก็กลับบ้านมาจัดการทุกอย่างให้พร้อม เธอเตรียมชุดกับให้เงินลูกพกติดตัวไปด้วย ถึงจะไม่มากมายแต่ก็ยังมีให้ติดตัวไปบ้าง หรงผิงดีใจที่เด็กทั้งสองเชื่อฟัง ถึงแม้เจ้าตัวเล็กซือหงจะอยากให้แม่ไปด้วยก็ตาม แต่พอบอกเหตุผลก็ยอมฟัง และหอบผ้าตามพี่ชายไปนอนบ้านปู่บ้านย่าด้วยสีหน้าเหงาหงอยพออยู่ด้วยกันนานนับเดือนก็มีความรู้สึกห่วงใยกันและกันเป็นธรรมดา เธอค่อนข้างห่วงเด็กทั้งสอง แต่ก็มั่นใจว่าครอบครัวของพ่อเด็กจะสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี"ไอ้คนแซ่เฉิน!! เมื่อไรจะกลับมาจัดการให้เรียบร้อย" หรงผิงนึกถึงพ่อของเด็กแฝดแล้วก็คิดว่าเขานั้นทำอะไรชักช้าเหลือเกิน ตอนนี้เธออยากหย่าขาดจากเขาแล้ว!!"บางครั้งฉันก็คิดว่านายใจร้ายเหมือนกันนะ" หรงผิงพึมพำเกี่ยวกับพ่อของเด็ก ๆ ถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาก็ใจร้ายเหมือนกันหรงผิงสะบัดหัวเพื่อเรียกสติตัวเอง เธอไม่ชอบคุยกับคนอื่น แต่ชอบคุยกับตัวเอง เถียงกับตัวเองมากกว่า อาจเพราะติดนิสัยการเอาตัวรอดมาจากวันสิ้นโลก หากไม่จำเป็นจะไม่มีการพูดคุยกับคนอื่น เพราะเวลาเดินท

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไป

    ตอนที่ 14 สะใภ้รองเปลี่ยนไปชุนหลินรอแม่สามีที่บอกว่าจะไปหาสะใภ้รองอย่างเป็นกังวล เพราะแม่หายไปนานมากแล้วแต่ยังไม่กลับมา จึงทำให้เธออยู่รอที่บ้านไม่ไหว จนต้องเดินออกมาตาม หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน"ฉันกำลังจะออกไปตามแม่... " ชุนหลินเดินมาถึงครึ่งทางแล้วก็เจอแม่สามีพอดี เธอนั้นร้อนใจตั้งแต่ที่แม่บอกจะไปหาสะใภ้รอง และแม่ยังหายมานานอีกด้วย!!"พอดีคุยกับเจ้าแฝดเพลินเลยช้าไปหน่อย... กลับบ้านก่อนค่อยคุยกัน" รุ่ยจิวรีบบอกให้ลูกสะใภ้กลับบ้าน เพราะอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังเมื่อมาถึงบ้านก็เห็นลูกสะใภ้เล็กนั่งรออยู่แล้ว รุ่ยจิวเลยให้หลาน ๆ พากันออกไปเล่น ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตัวเองไปเจอมาให้ทั้งสองสะใภ้ได้ฟัง"แม่... หรือพี่สะใภ้รองจะรู้ตัวว่าทำผิดจริง ๆ " ซูเยว่พูดขึ้นหลังจากที่ฟังแม่สามีเล่าเรื่องจนจบ"พักนี้ไม่มีข่าวอะไรเลยนะ ปกติแล้วชาวบ้านจะต้องเล่าว่าไปเจอที่ไหนและโดนอะไรมาบ้าง แต่ตอนนี้ชาวบ้านไม่เห็นจะพูดถึงเลย แม้แต่เจอตัวก็ยังไม่มีใครได้เจอเลย" ชุนหลินก็บอกถึงเรื่องที่ตัวเองมักได้ยินเป็นประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไร จะบอกว่าคนอื่นเลิก

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 13 ความเชื่อใจ

    ตอนที่ 13 ความเชื่อใจหรงผิงและลูกทั้งสองตื่นแต่เช้า เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เด็ก ๆ จะมีหน้าที่ช่วยงานบ้านเท่าที่จะช่วยได้ และยังต้องหัดเขียนหนังสือที่ลานหน้าบ้านในตอนเช้าของทุกวันอีกด้วยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าในมิติฟาร์มยังมีสมุดหนังสือและดินสอที่สามารถนำออกมาใช้งานได้ เลยปล่อยให้ลูกทั้งสองคนเขียนหนังสืออยู่ที่ลานหน้าบ้านก่อน ส่วนตัวเธออ้างว่าต้องการไปเข้าห้องน้ำ แต่ความจริงแล้วเธอเข้ามาในมิติฟาร์มหรงผิงเคยได้รับบทเรียนมาจากโลกเดิมแล้วว่า... ความลับบางอย่างก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ เธอยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่เชื่อใจใครเลยสักคน ชาติที่แล้วตายเพราะญาติที่คิดว่าดีแสนดี ชาตินี้จะไม่มีทางทำเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด!!"คิดถึงกลิ่นนี้มากกก... " หรงผิงลากเสียงยาวทันทีที่เข้ามาในห้องหนังสือ ก่อนจะค่อย ๆ หาดินสอและหยิบสมุดเล่มเล็กตามที่ตัวเองตั้งใจมาเอาตั้งแต่แรก"ในนี้ทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย... ในครัวเรามีตู้ใส่อาหาร!! " เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่ตัวเองจะตายมีเสบียงหลงเหลืออยู่ในครัว จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ เพราะในมิติฟาร์มทุกอย่างจะคงสภาพไม่เน่าไม่เสีย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม"

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน

    ตอนที่ 12 ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันผ่านมาสามวันแล้วที่หรงผิงกลับมาจากบ้านของพ่อและแม่ ทุกคนในครอบครัวเข้าใจเธอเป็นอย่างดี และยังยอมรับฟังเหตุผลของเธออีกด้วย เธอรู้ว่าโลกนี้ ยุคนี้ ค่อนข้างใจร้ายกับผู้หญิงที่หย่าจากสามี แต่พอมีครอบครัวที่พร้อมจะเคียงข้าง มันเลยทำให้เธอสบายใจมากขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร เธอสนใจแค่เจ้าแฝดและครอบครัวของพ่อแม่เพียงเท่านั้น"ใกล้แล้ว... ใกล้ที่ฉันจะเป็นอิสระแล้ว... " หรงผิงพึมพำคนเดียวเบา ๆหลังจากที่พาเจ้าแฝดเข้านอนแล้ว สถานที่ที่เธอชอบมานอนเวลาต้องการใช้ความคิดมากที่สุดคือบริเวณหน้าบ้าน อาจเพราะเธอชอบบรรยากาศและอากาศที่เย็นสบาย เธอรู้สึกว่าสมองแล่นได้ดีและคิดอะไรออกง่ายกว่าเวลาที่เจออากาศร้อนหรงผิงนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไปเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... เพราะเธอนอนดิ้นจนหล่นจากโต๊ะ!! ความรู้สึกที่กำลังจะร่วงหล่นลงพื้นทำให้เธอลืมตาตื่นทันทีตุ๊บ!!"อ่า... อยู่แบบคนธรรมดาเพียงไม่กี่เดือน... หลงลืมสัญชาตญาณที่เคยมีไปจนหมดสิ้น ไม่ดี ไม่ดี แบบนี้ไม่ดีเลย" หรงผิงสะบัดหัวเพื่อทำให้ตื่นตัวได้เต็มที่ ก่อนจะค่อย ๆ พยุงต

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียว

    ตอนที่ 11 ครอบครัวเซียววันต่อมา หรงผิงก็พาลูกมาที่บ้านพ่อกับแม่ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งไม่ห่างกันมากนัก เธอทำตามที่ได้รับปากแม่ตั้งแต่เมื่อวาน และก่อนจะออกจากบ้าน เธอก็ให้ลูกไปบอกย่าว่าจะพากันไปนอนที่บ้านของยาย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กังวลว่าหลานหายไปไหนหลายวันในตอนแรกเธอคิดว่าบอกให้รับรู้แล้ว... ทุกคนจะได้วางใจ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด พวกเขากลัวว่าเธอจะพาลูกหนี!! จนต้องเดือดร้อนพ่อสามีเอารถแทรกเตอร์ของฝ่ายผลิตมาส่งพวกเธอถึงบ้านและนัดวันมารับกลับอีกด้วยหรงผิงไหนเลยจะไม่รู้ว่าพวกเขากลัวอะไร แต่เพราะเธอบริสุทธิ์ใจเลยยอมตกลงง่าย ๆ ดีเสียอีก ไม่ต้องพาลูกเดินให้เหนื่อย และไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วยเป็นใครก็ต้องระแวง เพราะคำว่าแม่ตัวร้ายนั้นไม่ใช่แค่คำเรียก การกระทำที่กล้าลงมือกับทุกคน ลงมือกับลูกต่างหากที่ทำให้คนเรียกแม่ของเจ้าแฝดว่าเป็นมารดาตัวร้าย!!หรงผิงเข้าใจดีเลยแหละ เธอไม่โกรธคนพวกนั้นเลย บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นห่วงเจ้าแฝด แบบนี้ยิ่งดี หากเธอหย่ากับพ่อของเด็ก ๆ แล้วก็สบายใจได้เลยว่า พวกเขาจะรักและดูแลเจ้าแฝดเป็นอย่างดี"ไม่ได้ไปทำงานกันเหรอคะ" หรงผิงมองหน้าพ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ และหล

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดี

    ตอนที่ 10 ชาวบ้านผู้หวังดีฝาแฝดเดินตามย่ามาที่ร้านค้าของหมู่บ้าน หากเป็นแต่ก่อนทั้งสองจะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก อยากจะมาดูว่าร้านค้ามีอะไรขายบ้าง แม้ไม่ได้ซื้ออะไรเลยก็ตามแต่หลังจากเหตุการณ์ที่ทุกคนต่อว่าแม่ และคนขายไม่ยอมขายของให้ด้วย ทำให้พวกเธอไม่ค่อยอยากมาสักเท่าไร แต่ที่มาวันนี้เพราะจะได้มารอแม่ หากแม่กลับมาจะต้องผ่านเส้นทางนี้ เพราะตอนออกไป... แม่ก็นั่งรถผ่านเส้นทางนี้เหมือนกัน"พี่ใหญ่ หรือว่าแม่จะเดินลัดทุ่งนาเหมือนตอนที่พาเราเข้าไปในเมือง" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแม่อาจมาอีกเส้นทางหนึ่งก็เริ่มที่จะลังเลไม่อยากเดินต่อ"เดินเร็ว ๆ ย่าจะซื้อลูกอมนมกระต่ายขาวให้" รุ่ยจิวเร่งหลานทั้งสอง ตอนนี้พยายามที่จะให้หลานลืมเรื่องแม่ไปก่อน"ย่าครับ แม่จะมาเส้นทางนี้ไหมครับ" จือหมิงถามย่าเพื่อความแน่ใจ"ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไปเลือกขนมได้เลย อยากได้อะไรก็เลือกเอาเลย" รุ่ยจิวตอบหลานแล้วดันตัวหลานให้เข้าไปในร้านค้า เพื่อเลือกซื้อขนมตามที่ต้องการเมื่อให้หลานเข้าไปแล้ว ตัวเองก็นั่งรออยู่บริเวณหน้าร้านค้า ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ตอนนี้หลานทั้งสองดูเหมือนจะติดแม่มาก ๆ แค่หายไปไม่นานก็พากันออกมานั่งรอที่หน้า

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหา

    ตอนที่ 9 รับทราบข้อกล่าวหาหรงผิงคิดว่าตัวเองน่าจะมาอยู่ที่สถานีตำรวจ เธอไม่ค่อยเข้าใจระบบระเบียบของยุคนี้มากนัก จึงทำได้เพียงเงียบและคอยมองสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว เธอไม่รู้ว่าพ่อของเด็กแฝดจะทำแบบไหนบ้างอยากเห็นหน้าสักครั้ง คนแบบไหนที่ทำให้ร่างเดิมรักแบบหัวปักหัวปำขนาดนี้!!ดูใจร้ายเหมือนกันที่เขาทำแบบนี้ ไม่มาเจอหน้า ไม่มาเจรจา แต่ยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่จัดการเอง นั่นเท่ากับว่าเขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ตัวเธอนั้นพอเข้าใจที่เขาทำแบบนี้ เพราะรู้ดีว่าร่างเดิมเป็นแบบไหน รับรองว่าถ้าเจ้าของร่างเดิมยังอยู่ก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ ๆ อย่าว่าแต่พ่อของเด็กแฝดเลือกทำแบบนี้เลย หากเป็นเธอที่ต้องการจัดการปัญหากับคนแบบเจ้าของร่างเดิม ก็เลือกที่จะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน"พออ่านหนังสือได้ใช่ไหม" เจ้าหน้าที่นั่งลง ก่อนจะถามหญิงสาวที่นั่งรออยู่เงียบ ๆ"พออ่านได้ค่ะ แต่อยากให้แจ้งมาด้วย เพราะอ่านไม่ค่อยคล่องสักเท่าไร" หรงผิงเลือกที่จะอ่านและฟังจากปากของเจ้าหน้าที่ด้วย"จะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ แล้วกัน" เจ้าหน้าที่คิดว่าหากอ่านทุกตัวอักษร มันจะเป็นประโยคทางการพอสมควร ชาวบ้านทั่วไปจะไม่ค่อยเข้าใจ อย่าว่าแต่ช

DMCA.com Protection Status