Share

บทที่ 1135

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ปลายเดือนสี่ คดีมนุษย์โอสถจบลงในที่สุด

ผู้บงการตัวจริงคือมู่หรงสวี้ ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลมู่หรงล้วนพ้นผิด

เหล่าสมาชิกของขบวนการมนุษย์โอสถ ล้วนถูกตัดสินโทษประหาร รอการลงดาบในฤดูใบไม้ร่วง

เมื่อข่าวแพร่ออกไป ชาวบ้านต่างพากันพูดถึงเรื่องนี้ไม่ขาดปาก

“ในที่สุด เรื่องนี้ก็จบลงสักที!”

“ศาลต้าหลี่ทำคดีเก่งกาจยิ่งนัก!”

“เรื่องฉาวโฉ่ของตระกูลมู่หรงช่างมีมากมายจริง ๆ หากพูดว่าคนอื่น ๆ ในตระกูลไม่เกี่ยวข้อง ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด”

“ข้าก็คิดเช่นนี้ ไม่แน่มู่หรงสวี้อาจเป็นแค่แพะรับบาป!”

อย่างไรเสีย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง ไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกลักพาตัวไปทำมนุษย์โอสถอีกต่อไป

ภายใต้แสงตะวัน ทุกสิ่งยังคงดำเนินไป

ต้นเดือนห้า เมืองหลวงเกิดข่าวลือใหม่

ตามโรงน้ำชาและโรงสุรา ผู้คนต่างพากันพูดคุยถึงเรื่องที่กำลังเป็นที่สนใจ

“พวกเจ้ารู้หรือไม่ เมื่อหลายวันก่อนมีนักพรตผู้หนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหลวง บอกว่ามีวิชาทำให้มีชีวิตเป็นอมตะ ผู้คนพากันไปกราบไหว้จนธรณีประตูของเขาแทบพัง!”

“ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล ในใต้หล้าจะมีชีวิตเป็นอมตะได้อย่างไรกัน”

“ข้ายัง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Sojajaa
อ่ะ มีต่อค่ะ ขอโทษๆ...
goodnovel comment avatar
Sojajaa
แอบผิดหวัง คดีมนุษย์โอสถตัดจบแบบด้วนๆ ...
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1136

    นักพรตอาวุโสคนนั้น เป็นนักพรตปลอมที่เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดหามา เขาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาจากแคว้นฉู่ ทว่ามีอายุยืนยาวสามร้อยกว่าปีเป็นเรื่องจริง ใช้แผนการนี้ เพียงเพื่อล่อตัวการของคดีมนุษย์โอสถ เพราะนางสันนิษฐานว่า เป้าหมายสูงสุดของคนผู้นั้น คือการมีชีวิตเป็นอมตะ ดังนั้น คราวนี้จะต้องประสบความสำเร็จให้จงได้ เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเต้นระส่ำ กระสับกระส่ายไม่เป็นสุข เซียวอวี้พูดเตือนนาง “ยาเย็นหมดแล้ว ดื่มยาเสียก่อน” ……ค่ำคืนล่วงเลยไป มีข่าวจากข้างนอกวังมารายงาน...ตามหานักพรตอาวุโสคนนั้นเจอแล้ว เมื่อเซียวอวี้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินข่าวนี้ ต่างก็รู้ว่าต้องมีอีกข่าวหนึ่งตามมาด้วย “ฝ่าบาท พวกหยิ่นเอ้อร์ได้จับตัวคนร้ายไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้กำลังนำตัวไปยังคุกเทียนเหลาเพื่อสอบสวนพ่ะย่ะค่ะ!” อารมณ์เซียวอวี้กระวนกระวาย เขาร้อนรุ่มใจ อยากรู้ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ ไม่อาจทนรอจนถึงรุ่งสาง เขากับเฟิ่งจิ่วเหยียนรีบมุ่งหน้าไปยังคุกเทียนเหลาทันที ครึ่งชั่วยามต่อมา ภายในคุกเทียนเหลา พวกเขาได้เจอคนที่ลักพาตัวนักพรตอาวุโสเฒ่าไป และเป็นไปได้สูงว่านี่คือผู้อยู่เบื้องหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1137

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดต่อไป “ความผิดข้อที่สอง ลอบปลงพระชนม์เชื้อพระวงศ์” มู่หรงจ่างจี๋ปฏิเสธเสียงแข็ง “ฮ่าๆ... เจ้าเด็กโง่เขลา พูดจาเหลวไหล! ฝ่าบาท แม้นต้องการให้ข้าตาย ก็ไม่เห็นต้องใส่ร้ายกันถึงเพียงนี้กระมัง!” สีหน้าของเขาดูแน่วแน่ไม่หวาดหวั่น ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดตามตรง “คนที่เจ้าลอบสังหารคือ ผู้ใกล้ชิดปฐมจักรพรรดิในตอนนั้น” คำพูดนี้ แม้นแต่เซียวอวี้ยังต้องตกตะลึง มู่หรงจ่างจี๋เคยสังหารผู้ใดกัน? จิ่วเหยียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร? เวลานี้ มู่หรงจ่างจี๋กลับเงียบสงบผิดปกติ สายตาจับจ้องเฟิ่งจิ่วเหยียน “ฝ่าบาทเคยตรัสถึงหายนะจากศิลาทิพย์ นับจากสถาปนาแคว้นหนานฉี เหล่าผู้ใกล้ชิดปฐมจักรพรรดิต่างล้มตายอย่างลึกลับ ในเวลานั้นทุกคนเชื่อว่า เป็นเพราะคำสาปของศิลาทิพย์ แต่แท้จริงแล้ว คนเหล่านั้นถูกเจ้ามู่หรงจ่างจี๋ทำร้ายต่างหาก!” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดออกมา นัยน์ตามู่หรงจ่างจี๋หดลงทันที น้ำเสียงของนางราบเรียบ ผู้คนรอบข้างกลับตื่นตระหนกร้อนรน “หากข้าคาดเดาไม่ผิด ตอนนั้นปฐมจักรพรรดิทรงประชวรนัก เจ้ามัวแต่แสวงหาวิธีเป็นอมตะ หลงมัวเมาในศาสตร์มาร ใช้เลือดของผู้ใกล้ชิดไท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1138

    คำพูดของเฟิ่งจิ่วเหยียน กระตุ้นให้มู่หรงจ่างจี๋เผยธาตุแท้ออกมาอย่างหมดเปลือก เขาจับกรงประตูคุก ราวกับอยากฉีกคนที่ยืนอยู่ข้างนอกออกเป็นสองท่อน “เจ้าคนต่ำช้า! กล้าสาปแช่งไท่จู่อย่างนั้นรึ!” “หากไม่ใช่เพราะปฐมจักรพรรดิต่อสู้ก่อตั้งแผ่นดินนี้ขึ้นมา พวกเจ้ายังจะมีวันนี้ได้หรือ? “โดยเฉพาะเจ้า! เจ้าเด็กสกุลเซียว! หากเจ้ายังอยากให้ไท่จู่มีชีวิตอยู่ ก็รีบปล่อยข้าไปเสีย!” สีหน้าเซียวอวี้เยือกเย็น แววตาสงบนิ่ง “ปฐมจักรพรรดิ ตอนนี้อยู่ที่ใด” มู่หรงจ่างจี๋ไม่เชื่อใจเขา “ปล่อยข้าออกไป! มิฉะนั้น เจ้าจะกลายเป็นคนทรยศต่อแผ่นดิน!” น้ำเสียงเซียวอวี้สงบใจเย็น อดกลั้นอารมณ์ขุ่นเคืองไว้“หากไท่จู่ยังมีชีวิตอยู่ ย่อมเป็นเรื่องดี ทว่า เจ้าต้องบอกเรา พระองค์อยู่ที่ใดกันแน่!” มู่หรงจ่างจี๋จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเซียวอวี้ เขาครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยสถานที่ออกมาในที่สุด...ภูเขาลิ่วจื่อ ภูเขาลิ่วจื่อแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองหลวง เซียวอวี้รีบนำคนเดินทางไปด้วยตนเองทันที เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่วางใจ เกรงว่ามู่หรงจ่างจี๋จะวางกับดักหรือซ่อนกลไกไว้ในภูเขาลิ่วจื่อ ดังนั้น นางจึงตัดสินใจต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1139

    หลังจากหมอเทวดาเหยียนตรวจชีพจรให้มู่หรงจ่างจี๋ ก็พบว่าคนผู้นี้สุขภาพแข็งแรงกว่าคนแก่ทั่วไปมาก ไม่ได้มีป่วยร้ายแรงอะไร“ทูลฝ่าบาท ที่คนผู้นี้พูดเหลวไหลไปทั่ว น่าจะเพราะเป็นโรคความจำเสื่อม...”“ข้าไม่ได้บ้านะ! เจ้าต่างหากที่บ้า!” มู่หรงจ่างจี๋เถียงหมอเทวดาเหยียนกลับจากนั้นก็มุ่งไปหาเซียวอวี้“ไล่พวกเขาออกไปเร็วเข้า ข้าจะทำให้ปฐมจักรพรรดิฟื้นคืนชีพ! หากพลาดเวลาไป พวกเจ้าจะต้องถูกตัดหัว!”เซียวอวี้ไม่ได้สนใจมู่หรงจ่างจี๋ เพียงให้คนควบคุมตัวเขาเอาไว้ เขาจะได้ไม่วิ่งไปไหนมั่วซั่วหมอเทวดาเหยียนไม่ถือสาคนป่วยเขาพูดต่อ“โรคความจำเสื่อม เป็นโรคทางใจ“อาการป่วยประเภทนี้ ปกติแล้วสิ่งที่คิดจะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เห็นและได้ยิน อย่างเช่นเห็นภาพเพ้อฝันที่ไม่มีอยู่จริง หรือได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง“สิ่งที่คนปกติเห็นคือกระดูกสีขาว เขากลับเห็นเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ แสดงให้เห็นว่าเขาถูกครอบงำด้วยความหมกมุ่นในใจของเขา อาการหนักจนรักษาไม่ได้แล้ว กระหม่อมจนปัญญา”หมอสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายนอกและภายในได้ ทว่าไม่อาจรักษาใจคนได้โดยเฉพาะความยึดติดที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้เซียวอวี้มองไปย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1140

    ไทฮองไทเฮาอยากจะไปพบบรรพบุรุษที่คุกเทียนเหลา ทว่าฮ่องเต้ทรงมีคำสั่งว่า หากไม่ได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้ ไม่ว่าใครก็เข้าเยี่ยมไม่ได้ด้วยเหตุนี้ ไทฮองไทเฮาจึงได้แต่ส่งคนเข้าไปรายงานในวังก่อนทว่าต่อให้ฮ่องเต้อนุญาต มู่หรงจ่างจี๋ผู้นั้นก็ไม่ยินดีจะพบคนอื่นเขาดึงดันที่จะเชื่อว่ายังมีหนทางช่วยปฐมจักรพรรดิได้ยามนี้ตนถูกขังไว้ที่คุกเทียนเหลา จึงร้อนใจยิ่ง“ฮ่องเต้น้อยอยู่ที่ไหน รีบเรียกเขามาพบข้า!”มู่หรงจ่างจี๋ไม่เห็นหัวเหล่าคนรุ่นหลังแม้แต่น้อยในสายตาของเขา แผ่นดินแคว้นหนานฉีนี้ เป็นเขาที่ช่วยปฐมจักรพรรดิรบชนะมา วีรบุรุษในใต้หล้านี้ เขายอมรับเพียงปฐมจักรพรรดิพระองค์เดียวเท่านั้นเด็กตระกูลเซียวนั่นนับเป็นตัวอะไร ถึงกับกล้าห้ามไม่ให้เขาช่วยปฐมจักรพรรดิ!มู่หรงจ่างจี๋ร้อนใจอยากรีบออกไป ทุกวันตะโกนว่าต้องการพบฝ่าบาทหารู้ไม่ว่าเพื่อที่จะให้มู่หรงจ่างจี๋ยอมรับความผิด เซียวอวี้จึงตั้งใจเมินเขาจนถึงวันที่ห้า ผู้คุมก็บอกมู่หรงจ่างจี๋ “ฝ่าบาทมีคำสั่ง หากเจ้าไม่สารภาพความผิดทั้งหมดออกมาพร้อมลงนาม เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่ไปจนวันตาย!”มู่หรงจ่างจี๋โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“เหิมเหริม! เหลวไหล! เขารู

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1141

    เลี่ยอู๋ซินเองก็นับว่าสร้างผลงานแล้วหากไม่ใช่เขา คงจะมีคนถูกปล่อยเลือดจนแห้งตายอีกเขาจับนักฆ่าพวกนั้นกลับมาแล้ว ส่งไปที่คุกเทียนเหลา สอบปากคำด้วยตนเอง ไม่คิดจะพักแม้แต่น้อยตอนแรกนักฆ่าพวกนั้นไม่ยอมสารภาพต่อมาเมื่อรู้ว่ามู่หรงจ่างจี๋ถูกจับกุม พวกเขาสูญเสียความหวังจากนั้นพวกเขาถึงได้ยอมสารภาพความจริง “พวกเราล้วนปฏิบัติตามคำสั่ง...”ที่จับตัวเซียวจั๋วไป ก็เพื่อเลือดของเขาแม้กระทั่งเรื่องที่ว่าปฐมจักรพรรดิกลายเป็นโครงกระดูกไปเมื่อไหร่ พวกเขาก็ยังพูด“ไม่มีเรื่องอย่างการมีชีวิตอมตะ ปฐมจักรพรรดิเป็นโครงกระดูกองหนึ่งแต่แรกแล้ว!“สองร้อยปีก่อน หลังจากมู่หรงจ่างจี๋ขโมยโครงกระดูกออกมา ก็คิดว่าสามารถฟื้นคือชีพปฐมจักรพรรดิให้กลับมามีชีวิตได้ ที่จริงเป็นความคิดเพ้อเจ้อ!“นั่นมันก็คือคนที่ตายไปแล้ว!”น้ำเสียงที่พวกเขาใช้พูดถึงเรื่องนี้มีความเยาะหยันมู่หรงจ่างจี๋อยู่สองร้อยปีมาแล้วที่มู่หรงจ่างจี๋เอาแต่ทำเรื่องไร้ประโยชน์ในสายตาของพวกเขา คนผู้นี้ก็คือคนโง่ผู้หนึ่งเจ้าหน้าที่และเลี่ยอู๋ซินสอบปากคำพวกเขา “พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าปฐมจักรพรรดิไม่มีพระชนม์ชีพมาก่อน? ถ้ามู่หรงจ่างจี๋

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1142

    ครั้งสุดท้ายที่ได้เข้าเฝ้าปฐมจักรพรรดิ เขาก็นอนป่วยหายใจรวยรินอยู่บนเตียงแล้ว——[จ่างจี๋...น้องรอง เจ้าเข้าใจเราดี เรายังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังทำไม่สำเร็จ ยังไม่ได้จัดตั้งนโยบายบริหารบ้านเมืองใหม่ รัชทายาทก็ยังเด็กนัก...จ่างจี๋เอ๋ย เราเพียงแต่เกลียดที่สวรรค์ใจแคบ ไม่ยอมให้เราอยู่อีกซักสองสามปี ต่อให้เป็นแค่ปีเดียว ให้เราอยู่ต่ออีกซักปีก็ยังดี...อุทกภัยของทางใต้ ความแห้งแล้งของทางเหนือ แคว้นหนานฉีมีศัตรูรอบด้าน แคว้นเป่ยเยี่ยนข่มเหงแคว้นหนานฉี ภายในก็มีกบฏ...จะทำเช่นไรได้เล่า ในเมื่อพญายมต้องการชีวิตของเรา เรา...ก็ได้แต่วางมือ น้องรอง เรื่องในแคว้นเรามอบหมายให้เจ้า เจ้าจงช่วยสนับสนุนองค์รัชทายาท ด้านหนึ่งเจ้าเป็นท่านลุง ทั้งยังเป็นดุจบิดาของเขา น้องรอง เราเชื่อได้เพียงเจ้าเท่านั้น] ภาพของปฐมจักรพรรดิในความทรงจำ กับภาพที่เห็นตรงหน้าทับซ้อนกันมู่หรงจ่างจี๋ร้องไห้สะอึกสะอื้นเบา ๆ เงาแผ่นหลังผอมบาง“พี่ใหญ่! ทุกอย่างที่ท่านต้องการ ข้าทำให้ท่านสำเร็จแล้ว! ท่านจะเป็นอมตะ แคว้นหนานฉีภายใต้การปกครองของท่าน จะต้องเจริญรุ่งเรื่องยิ่งขึ้นไป ภายภาคหน้าจะต้องรวมใต้หล้าเป็นหนึ่ง สร้างคุณูปกา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1143

    โลกนี้มักจะมีเรื่องที่ไม่ตรงตามที่ตนเองคิด เลี่ยอู่ซินมาช้าไปก้าวหนึ่ง ตอนที่เขามาถึงคุกเทียนเหลา มู่หรงจ่างจี๋ก็ขาดใจตายไปแล้วครั้นมองศพของมู่หรงจ่างจี๋ หมัดของเลี่ยอู่ซินก็ทุบไปที่กำแพง แล้วตะโกนเสียงต่ำออกมาว่ากันว่าคนดีมักอายุสั้น คนชั่วกลับอยู่เป็นพันปี เป็นเช่นนั้นจริง ๆ !คนอย่างมู่หรงจ่างจี๋มีอายุถึงสองร้อยกว่าปี ทว่าคนอย่างมู่สิงโจว ยังไม่ทันถึงวัยสวมกวานก็ถูกฆ่าตายแล้วเมื่อคิดถึงตรงนี้ ความโกรธเกลียดของเลี่ยอู่ซินก็ทะยานขึ้นฟ้า ทว่ากลับไม่รู้เลยว่าจะระบายไปที่ผู้ใดได้!เนื่องจากอารมณ์ถูกกระตุ้นมากเกินไป เลี่ยอู่ซินที่เพิ่งจะเดินออกจากคุกเทียนเหลา จึงหมดสติไปภายใต้แสงแดดอันร้อนแรงณ วังหลวงเฟิ่งจิ่วเหยียนมาพักอยู่ในตำหนักจื้อเฉินชั่วคราวนางตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่าแล้ว ท้องค่อย ๆ นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด นี่ค่อยทำให้นางรู้สึกว่าที่นางตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องจริง——ข้างในมีเด็กคนหนึ่งกำลังค่อย ๆ เติบโตจริง ๆเซียวอวี้จัดให้หมอหลวงมาตรวจชีพจรนางทุกวันช่วงนี้อาการครรภ์ของนางคงที่ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องดื่มยาบำรุงครรภ์อีก แค่พักผ่อนให้ดีก็พอเรื่องลูก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ไ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1194

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจำลายมือในกระดาษนั้นได้แน่ชัด ว่าเป็นลายมือของเลี่ยอู๋ซิน เลี่ยอู๋ซินเป็นสหายสนิทของเมิ่งสิงโจวศิษย์พี่ของนาง ก่อนหน้านี้เพื่อสืบหาความจริงคดีมนุษย์โอสถ นางเคยติดต่อกับเลี่ยอู๋ซิน ได้ข่าวว่าหลังจากความจริงกระจ่าง เลี่ยอู๋ซินก้ไปยังแคว้นตงซาน ไล่ล่าซุนโฉวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มมนุษย์โอสถที่หลงเหลือ ครั้งนี้เขาส่งข่าวสารมาโดยมิได้ปรากฏตัว ดูท่าออกจะลึกลับพิกลอยู่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “หากมีสิ่งใดเคลื่อนไหวผิดแผก ไยไม่เขียนบอกให้ชัดเจนโดยตรง?”นางก้มมองข้อความ เซียวอวี้ผู้ยืนอยู่ข้างตัวนางคาดคะเน “เลี่ยอู๋ซินอาจไม่สะดวกปรากฏตน หรือผู้ที่ส่งข่าวครั้งนี้ มิใช่เขาเองก็เป็นได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนโน้มเอียงไปทางข้อสันนิษฐานประการหลังมากกว่า อาจเป็นเลี่ยอู๋ซินมอบหมายให้คนนำข้อความมา หากมิใช่เช่นนั้น คงไม่จำต้องปิดบังอำพรางถึงเพียงนี้“แคว้นตงซาน…” เฟิ่งจิ่วเหยียนพึมพำในลำคอ ครานั้นแต่ละแคว้นโจมตีแคว้นหนานฉี ก็เพราะแคว้นตงซานเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เห็นได้ชัดว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาไม่ธรรมดา ยามนี้แคว้นตงซานเคลื่อนไหวผิดแผก เกรงว่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1193

    หร่วนฝูอวี้ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เรียกสีหน้ากลับมาเป็นปกติ มองรุ่ยอ๋องด้วยแววตาเจือเย้าแหย่ “มิใช่เป็นการแสร้งเล่นละคร หรือว่าเจ้ารักข้าแล้วจริง ๆ ?”เดิมคิดว่าเขาจะปฏิเสธกลับได้ยิน เขาพูดด้วยความแน่วแน่ “ใช่”หร่วนฝูอวี้ : ...นางอึ้งไปชั่วขณะ “‘ใช่’ อะไร?”สายตารุ่ยอ๋องฉายแววร้อนผ่าว ใบหูแดงระเรื่อ “ข้ามิใช่คนที่เอาแต่ใจง่าย ๆ ในเมื่อเราสองคนได้มีสัมพันธ์ฉันสามีภริยาแล้ว นั่นย่อมหมายความว่าทั้งกายและใจล้วนได้มอบให้เจ้าหมด”หร่วนฝูอวี้ถึงกับกระโจนถอยหลังอย่างตกใจ ออกห่างจากเขาทันที มองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้า เจ้า เจ้า...เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร!?”รุ่ยอ๋องก้าวมาข้างหน้า จับบ่าของนางไว้ “ข้าพูดจริงจัง! “เจ้ากับข้าเตรียมมีลูกด้วยกันแล้ว แน่นอนว่าควรตกลงใจจะอยู่ร่วมกันชั่วชีวิต”แทนที่จะเก็บไว้ในใจ สู้พูดออกมาตรง ๆ โดยเฉพาะนางจะเดินทางกลับหนานเจียง กลัวนางไปแล้วไม่หวนกลับมาอีกหร่วนฝูอวี้หัวเราะเย้ยในลำคอ นางผลักเขาออก สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“พอเถิด อะไรคือชั่วชีวิตนิรันดร์ เจ้าเพียงหลับนอนกับข้าครั้งเดียว พอรู้รสสตรีก็คิดจักยึดข้าไว้เป็นของ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1192

    มิอาจตั้งครรภ์ได้ หร่วนฝูอวี้โยนความผิดทั้งหมดไปยังรุ่ยอ๋อง นางเชื่อมั่นว่า ร่างกายของตนเองไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน นางจึงบีบคั้นให้รุ่ยอ๋องไปพบหมอ รุ่ยอ๋องขมวดคิ้วแน่น “ร่างกายของข้าหาได้มีปัญหาใด จะไปพบหมอทำไม?”ในขณะที่พูด ดวงตาอันอ่อนโยนของเขาก็พลันฉายแววเคืองขุ่นเล็กน้อย หร่วนฝูอวี้ไม่เคยรู้จักใช้ถ้อยวาจาอ้อมค้อมอยู่แล้ว สายตาของนางชำเลืองมอง “คนธรรมดาสามารถตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่คราแรก เห็นที ต้องเป็นบุรุษแท้จริงจึงจักสำเร็จได้”นางพร่ำบ่นอยู่ในลำคอ รุ่ยอ๋องถึงกับเดือดดาล เรื่องเช่นนี้จักตัดสินจากเพียงหนึ่งหรือสองคราได้อย่างไร? นางช่างแก้ตัวอย่างไร้เหตุผลนัก “ข้ายังมิได้ถามเจ้า เจ้าผ่านชายมากี่คน? ไยจึงรู้ว่าข้าไร้ความสามารถ? ฝ่าบาทกับฮองเฮาก็อภิเษกกันตั้งนานค่อย…”หร่วนฝูอวี้ก้าวมาถึงตรงหน้าเขาทันที กระชากคอเสื้อของเขาไว้ “ได้ เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้งหนึ่ง”นางกระหวัดแขนหมายจะยกคนขึ้นมาอย่างเคยชิน ทว่าครานี้รุ่ยอ๋องไหวตัวทัน ถอยหลังหนึ่งก้าว “ตอนนี้ข้ามิได้มีอารมณ์”หร่วนฝูอวี้เลิกคิ้ว “ไร้อารมณ์รึ? ง่ายมาก ข้ามียาหลายขนาน”รุ่ยอ๋องสบสายตา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1191

    ณ จวนแม่ทัพ เหล่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองยังคงรอหูย่วนเอ๋อร์อยู่เมื่อเห็นนางกลับมาจากวังหลวง ทุกคนก็สอบถามด้วยความกังวล“ท่านแม่ทัพหู ประมุขแคว้นทรงว่าอย่างไร?”หูย่วนเอ๋อร์มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก“เรื่องของเป่ยเยี่ยน ประมุขแคว้นมิได้เอ่ยอย่างชัดเจน”คนอื่น ๆ พากันถอนหายใจ“นี่เป็นเวลาใดแล้ว ประมุขแคว้นยังระแวดระวังพวกเราอยู่อีกหรือ?”“แม้แต่ท่านแม่ทัพหูก็ยังถามไม่ได้ความอะไร ดูเหมือนว่าประมุขแคว้นจะถือว่าพวกเราเป็นคนนอกจริง ๆ”พวกนางเห็นหูย่วนเอ๋อร์สีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดจา ก็เข้าใจว่านางเหมือนกับพวกนาง ที่ไม่เข้าใจการกระทำของประมุขแคว้นทว่า หูย่วนเอ๋อร์ได้เอ่ยอีกประโยคต่อ“ประมุขแคว้นต้องการสละราชบัลลังก์ให้กับผู้ที่มีคุณธรรมความสามารถแล้วเมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกมา เหล่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปแตกต่างกันหลังจากนิ่งเงียบอย่างประหลาดอยู่ครู่หนึ่ง ก็มีคนเริ่มเอ่ยขึ้นมา“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ในเมื่อประมุขแคว้นทรงไม่ประสงค์จะอยู่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป ก็ไม่สู้สละราชบัลลังก์”“ทว่าตอนนี้กองทัพเยี่ยนยังอยู่ พวกเราต้องพึ่งพาหนานฉี”ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันยังไม่ได้ข้อตกลง สายตาก็หั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1190

    เฉินจี๋เบิกตาโตทันที จ้องมองที่อู๋ไป๋“ลังเลอะไร?”อู๋ไป๋เอ่ยออกมาจากใจจริง“ประมุขแคว้นทรงให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความชอบธรรมอย่างยิ่ง เรื่องที่เคยรับปากกับประมุขแคว้นองค์ก่อน ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะต้องทำให้ได้“ส่วนตอนนี้ก็ได้ครอบครองอำนาจของกษัตริย์อีก...เฮ่อ ไม่ใช่ว่านางจะถูกล่อลวงด้วยอำนาจ ที่จริงคือการแบกรับภาระของอาณาประชาราษฎร์เอาไว้โดยไม่รู้ตัว และยิ่งปล่อยวางไม่ได้“นี่เป็นความร้ายกาจของหญิงชราอย่างโอวหยางเหลียนผู้นั้น ก่อนตายนางให้ประมุขแคว้นไปเยี่ยมราษฎรของแคว้น ก็เพื่อให้ประมุขแคว้นทรงซึมซับเป็นส่วนหนึ่งกับแคว้นซีหนี่ว์อย่างแท้จริง”เฉินจี๋ขมวดคิ้วแน่น“ในเมื่อมีเรื่องเช่นนี้ เหตุใดเจ้าไม่บอกแต่แรก!”อู๋ไป๋ยกไหล่ขึ้น“บอกไปจะมีประโยชน์อันใด? เจ้าขัดขวางไม่ให้ประมุขแคว้นเสด็จไปตรวจดูสถานการณ์ภัยพิบัติได้หรือ?“อีกอย่าง เจ้าคิดว่าประมุขแคว้นทรงไม่รู้แจ้งด้วยพระองค์เองหรือ?“ทว่าความจริงคือ สถานการณ์ภัยพิบัติในแคว้นซีหนี่ว์รุนแรง และประมุขแคว้นก็ทรงทราบถึงเจตนาของโอวหยางเหลียนเป็นอย่างดี แต่ยังคงแน่วแน่ที่จะไปที่นั่น”เฉินจี๋เห็นเขาเข้าใจประมุขแคว้นเช่นนี้ จึงร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1189

    ณ พระราชวังเนื่องจากเฟิ่งจิ่วเหยียนต้องหักโหมกับงานราชกิจ ร่างกายจึงเหนื่อยล้าเซียวอวี้เป็นห่วงนางกับลูกมาตลอด ทว่าหากนางตัดสินใจจะทำสิ่งใดแล้ว ต่อให้เขาพร่ำบ่นอีกก็ไร้ประโยชน์ถ้าเช่นนั้นเขาก็พูดให้น้อย และทำให้มากจะดีกว่าฎีกาของแต่ละวัน เขาจะช่วยนางอ่านก่อน และอธิบายให้เข้าใจ นางจะได้ใช้ความคิดน้อยลงเพื่อช่วยนางแบ่งเบาภาระ เขาจึงตั้งใจเป็นพิเศษที่จะเรียนรู้ลายมือของนางอาหารของนาง เขาก็ยังลงมือทำด้วยตนเองสามีที่ดีเช่นนี้ เดิมควรจะได้รับคำชมเชยจากผู้คนทว่าเหล่าข้าหลวงยังคงดูหมิ่นพระสวามีที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนอย่างเขา คิดว่าเขาไม่ดีเหมือนซ่งหลีที่เป็นมิตรเข้ากับคนง่ายตอนนี้เห็นเขาใส่ใจดูแลประมุขแคว้นเช่นนี้ ต่างก็เข้าใจว่าเขาประจบประแจงอย่างเต็มที่บริเวณวังหลัง ขันทีกลุ่มหนึ่งกำลังวิจารณ์กระซิบกระซาบ “ตอนที่อดีตประมุขแคว้นทรงครองบัลลังก์ วิธีแย่งชิงความสนใจและความหึงหวงในวัง ข้าเห็นมามากแล้ว ส่วนตอนนี้พระสวามีเซียวคนนี้ก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย”“มิเช่นนั้นจะได้รับความโปรดปรานจากประมุขแคว้น จนได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสวามี เพียงแค่อาศัยการรบชนะครั้งเดียวได้อย่างไรเล่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1188

    ชาวบ้านมองดูประมุขแคว้นที่ไม่เหมือนเอ่ยคำพูดเท็จ พร้อมถามด้วยความสงสัย“ท่านประมุขแคว้น แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งใกล้จะถูกเป่ยเยี่ยนยึดครองแล้ว พวกเราจะย้ายเข้าไปได้อย่างไร?”เป่ยเยี่ยนมีอำนาจแข็งแกร่ง นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดีเฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าทีใจเย็น“เราไม่มีทางกล่าวเท็จอย่างเด็ดขาด สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำ คือให้ความร่วมมือกับราชสำนักในการบันทึกจำนวนคน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโยกย้าย “ถึงตอนนั้นย่อมจะมีที่ดินให้พวกเจ้าอย่างแน่นอน”ชาวบ้านยังคงรู้สึกว่าไม่น่าเชื่ออย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่เหล่าขุนนางก็ยังรู้สึกตกใจกองทัพเยี่ยนใกล้จะยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้ทั้งหมดแล้ว แล้วจะเอาที่ดินมาแบ่งให้แคว้นซีหนี่ว์ได้อย่างไร?หรือว่า แคว้นซีหนี่ว์จะต้องทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน?เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ก่อนหน้านี้ประมุขแคว้นก็ไม่เคยเอ่ยถึงมาก่อนไม่ว่าจะอย่างไร ก็ควรหารือกับเหล่าขุนนางในราชสำนักทุกคนมีความคิดที่ต่างกันไป ทว่าก็ไม่กล้าเอ่ยออกมาตรง ๆมีเพียงเซียวอวี้ที่เชื่อมั่นเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างแน่วแน่ พลางแอบจูงมือนางอย่างเงียบ ๆหลังจากกลับไปที่ราชสำนักเหล่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1187

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้มาก่อนแล้วว่า เมื่อสองเดือนก่อน เพื่อเอาชนะแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เซียวอวี้จึงทำให้น้ำท่วมทั้งสามกองทัพมองดูเหมือนเป็นเขาที่ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงขึ้นในพื้นที่ปลายน้ำทว่าในความเป็นจริง ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น น้ำก็ท่วมทุ่งนาอยู่ก่อนแล้ว ชาวบ้านก็ได้พากันย้ายออกไปนางมองไปยังชาวบ้านเหล่านั้น เข้าใจถึงจิตใจของพวกเขาในเวลานี้ที่นาคือทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา หลายคนต้องอาศัยที่นาเหล่านี้ดำรงชีวิตพวกเขาต้องการช่องทางระบายอารมณ์ และต้องการหนทางมีชีวิตรอดภัยธรรมชาติ ไม่อาจโทษฟ้าได้เช่นนั้นก็ต้องโทษมนุษย์“พระสวามีเซียวใช้น้ำเพื่อทำลายศัตรู ได้รับการเห็นชอบจากเรา “เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว โทษฟ้าโทษคนก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้“เราสัญญาว่า ราชสำนักจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่“สิ่งที่ต้องทำอย่างแรก ก็คือการระบายน้ำ”นางเรียกขุนนางท้องถิ่นมา และถามหาความรับผิดชอบต่อหน้าธารกำนัล“เราสั่งให้พวกเจ้าระบายน้ำออกให้ทันกาล เหตุใดจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นผล!”ขุนนางผู้นั้นก้มศีรษะลงต่ำ“ท่านประมุขแคว้นมีสิ่งที่ท่านไม่ทรงทราบ สถานการณ์ของที่นี่ซับซ้อน เนื่องจากตั้งอยู่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1186

    หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status