จากการสอบสวนของรุ่ยอ๋อง ลูกน้องของซุนโฉวผู้นั้นรับสารภาพความจริง“พวก…พวกข้าเป็นคนทำเอง“มู่หรงจ่างจี๋ต้องการโลหิตของท่านอ๋องผู้เฒ่า จึงมอบหมายให้ซุนโฉวไปจัดการ“แต่นั่นคือท่านอ๋อง ทั้งยังมีวิชายุทธ์ไร้เทียมทาน ซุนโฉวจึงใช้แผนการยุแยงตะแคงรั่ว ให้ฮ่องเต้องค์ก่อนสงสัยในตัวท่านอ๋องผู้เฒ่า จากนั้นก็แต่งเรื่องราวสร้างความผิดโทษฐานกบฏให้ท่านอ๋องผู้เฒ่า”เรื่องต่อจากนั้น รุ่ยอ๋องรู้ตั้งนานแล้วแม้นบิดาของเขาจะถูกใส่ความ แต่ก็ยังจงรักภักดีต่อราชสำนักหากกษัตริย์ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางจำต้องตายอย่างเลี่ยงไม่ได้จนกระทั่งถูกเนรเทศ บิดาก็ไม่ได้รวบรวมกองทัพเพื่อช่วยเหลือตัวเองเขายังคงหวังว่า ฮ่องเต้องค์ก่อนจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองแต่สุดท้ายก็เดินหมากพลาดไป คาดการณ์ไม่ถึง ว่ากลุ่มค้ามนุษย์โอสถจะรีบร้อนอยากได้ชีวิตของเขา ด้วยการทำร้ายเขา ระหว่างทางที่เขาถูกเนรเทศเมื่อความจริงปรากฏ รุ่ยอ๋องเหมือนได้ปล่อยวางภาระอันหนักอึ้ง แต่ท้ายที่สุดคนตายไปแล้วก็ไม่อาจฟื้นคืนมาได้ ในใจจึงรู้สึกโศกเศร้าเสียใจอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงเขากลับมาถึงจวน ก็เห็นหร่วนฝูอวี้ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ไกล ๆ เหมือ
ระหว่างคิ้วของเซียวอวี้ฉายด้วยความเบิกบาน“ภรรยาร้องสามีรับ จับมือปรองดองเพื่อความสันติ พระสวามีก็คือสามีเช่นกัน”เมื่อรุ่ยอ๋องได้ฟังคำตอบนี้ หัวใจที่แขวนลอยอยู่ด้วยพะว้าพะวง ในที่สุดก็ตกตายสนิทเขารีบประสานมือคารวะ ห้ามว่า“ฝ่าบาท ไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!“ท่านเป็นกษัตริย์ของแคว้น ไยต้องลดตัวไปอยู่ภายใต้อาณัติของสตรีด้วย?“หากคนรู้เข้า เกรงว่าคงหัวเราะเยาะเป็นแน่!”ในยามปกติรุ่ยอ๋องมีนิสัยอ่อนโยนนุ่มนวล แต่พอเป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญ ก็กลายเป็นคนดื้อรั้นขึ้นมาทันทีเซียวอวี้พูดเสียงเข้ม“เราถึงได้บอก ว่าเรื่องนี้ ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไรยิ่งดี”รุ่ยอ๋องบ่นงึมงำในใจที่แท้ฝ่าบาทก็อายเหมือนกัน“ฮองเฮายอมให้ท่านเป็นพระสวามีหรือ?”เซียวอวี้ขมวดคิ้ว “เหตุใดนางต้องไม่ยอม? หรือว่านางยังสามารถแต่งงานกับบุรุษอื่นได้อีก?”รุ่ยอ๋องเกือบพาตัวเองซวย“กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงอยากถามว่า ฮองเฮารู้หรือไม่ ว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลดีต่อฝ่าบาท…”“รุ่ยหลิน เราเห็นเจ้าเป็นสหาย ถึงได้บอกเรื่องนี้กับเจ้า เรื่องที่เราได้ตัดสินใจแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น เจ้าแค่จัดการร
ร่วนฝูอวี้ชอบผู้หญิงมาโดยตลอด ถึงแม้อยู่กับบุรุษ มีเพียงนางเท่านั้นที่กล้าหยอกล้ออีกฝ่ายเท่านั้นพอตอนนี้เผชิญกับคำสารภาพของรุ่ยอ๋อง นางพลันทำตัวไม่ถูกอีกอย่างเห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาชอบผู้ชาย…รุ่ยอ๋องเห็นนางมีปฏิกิริยาขนาดนี้ ก็รีบอธิบาย“พวกเราเคยประสบพบเจอเรื่องราวเหมือน ๆ กันมา หากใช้ชีวิตด้วยกัน มันก็ดีไม่ใช่หรือ?“หากเจ้าไป ข้าก็ต้องแต่งงานกับคนใหม่ คงไม่มีใครเหมือนเจ้า ที่ไม่ร้องขอสิ่งใดกับข้า “อีกอย่างข้ายังต้องคอยระแวงปกปิดตัวตนอีกด้วย เช่นนี้แล้ว สู้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไปไม่ดีกว่าหรือ”เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ หร่วนฝูอวี้ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก“ที่แท้ท่านก็หมายถึงอย่างนี้นี่เอง”นึกว่าเขาคิดไม่ซื่อกับนางจริง ๆ เสียอีก……ความผิดของมู่หรงจ่างจี๋ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน ก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่เหล่าประชาชนยากที่จะเชื่อ มู่หรงจ่างจี๋ผู้นั้นจะมีอายุยืนมาถึงขนาดนี้“คนผู้นี้ต้องมีวิชาอมตะเป็นแน่ แต่เพราะหวั่นเกรงฝ่าบาท จึงถูกประหาร”“คดีมนุษย์โอสถซับซ้อนซ่อนเงื่อน ก่อนหน้านี้บอกว่าผู้ร้ายตัวจริงคือมู่หรงสวี้ ตอนนี้เปิดเผยออกมาว่าเป็นมู่หรงจ่างจี๋ ครั้งนี้คงไม่ผ
“คุณชายเซียว รอก่อนนะ บะหมี่ใกล้จะเสร็จแล้ว!”ขณะที่เหลียนซวงทำในสิ่งที่ชอบ กลับไม่รู้เลยว่าการที่นางทำตัวยุ่งเช่นนี้ สำหรับเซียวจั๋วมันกลับเป็นภาระทางใจไม่นาน บะหมี่ก็เสร็จเหลียนซวงยกมาวางบนโต๊ะ มองเซียวจั๋วด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม“คุณชายเซียว ขอให้ท่านอายุยืน เหมือนมู่หรงจ่างจี๋…ไม่สิ ๆ ๆ! ปากข้านี่นะ คนชั่วร้ายอย่างมู่หรงจ่างจี๋ คุณชายเซียวจะเหมือนเขาได้อย่างไร”เซียวจั๋วไม่ได้กินบะหมี่ เขาเพียงถามเหลียนซวง“เจ้ามีความสุขหรือไม่?”เหลียนซวงมีสีหน้าชะงักงัน“ข้าก็ต้องดีใจ ที่คนชั่วได้รับผลกรรมแล้ว อีกอย่าง วันนี้หมอยังบอกว่า ดวงตาของท่านเริ่มดีขึ้นแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะกลับมามองเห็นแสงสว่างอีกครั้ง…”“เหลียนซวง ระหว่างข้ากับเจ้าไม่มีทางเป็นไปได้” เซียวจั๋วเม้มปาก เขาเองก็ไม่คิด ว่าสุดท้ายต้องพูดถึงขั้นนี้เหลียนซวงนิ่งงัน จากนั้นก็ยิ้มอย่างปลง ๆ“คุณชายเซียว ข้ารู้ ท่านเป็นถึงเครือญาติของราชวงศ์ ส่วนข้า…”“ไม่เกี่ยวกับเจ้ามีสถานะเช่นไร เหลียนซวง ข้าแก่กว่าเจ้ามาก ไม่อยากให้เจ้าพลอยลำบากไปด้วย”ทันทีที่เหลียนซวงได้ยินคำพูดนี้ นัยน์ตาพลันทอประกาย“ท่านแค่ไม่อยากใ
เดือนห้า อากาศหนาวหมดไปเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้เริ่มเดินทางไปทางทิศตะวันออก ในชุดลำลองสบายตัว และตรวจลาดตระเวนแต่ละเมืองไปในตัวเลี่ยอู๋ซินตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังแคว้นตงซาน ช่วยจับกุมซุนโฉวที่หลบหนีไป เพื่อกำจัดกลุ่มค้ามนุษย์แบบถอนรากถอนโคลน……แคว้นซีหนี่ว์เฟิ่งเวยเฉียงได้รับจดหมายของท่านพี่ บอกว่าส่งตัวแทนมาแล้วทว่านางไม่วางใจมอบหมายราชกิจของแคว้นซีหนี่ว์ให้ตัวแทนดูแล จึงยังดำรงตำแหน่งประมุขแคว้นดั่งเดิมประการแรกกลัวว่าตัวแทนจะเปิดเผยตัวตน จนสร้างหายนะครั้งใหญ่ ประการที่สอง นางเริ่มรับมือเรื่องราวในแคว้นซีหนี่ว์ได้คล่องแล้ว ในเมื่อมีสายเลือดในราชวงศ์ซีหนี่ว์ ก็ถือเสียว่าแบกรับความรับผิดชอบ ทำอะไรเพื่อแคว้นบ้างซ่งหลีโน้มน้าวนางหลายครั้ง หวังว่านางจะกลับแคว้นหนานฉีกับตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าพูดความจริงกับนาง——เพราะกลัวว่าอาการเดิม ๆ ของนางจะกำเริบขึ้นมาอีกครั้งวันนี้ หลังว่าราชกิจเช้าเสร็จเฟิ่งเวยเฉียงรู้สึกปวดหัวแทบร้าวนางวางฏีกาในมือลง ใช้สองมือกุมศีรษะ ลุกขึ้นอย่างเจ็บปวด“ท่านประมุข!” ซ่งหลีที่อยู่ข้าง ๆ นางเห็นเช่นนั้น ก็รีบเข้าไปประคองนางแววตาของเขาแฝงไปด้วยควา
เฟิ่งเวยเฉียงน้อยใจเต็มอกสองคนตรงหน้า คนหนึ่งคือมารดา อีกคนคือสวามีของนางพวกเขาล้วนไม่เชื่อใจนาง“เป็นกษัตริย์ ต้องทุ่มเทเพื่อแคว้น ปวดหัวแค่นี้จะเป็นอะไรไป?“ยามที่ท่านป้าเป็นประมุขแคว้น ได้รับบาดเจ็บนับครั้งไม่ถ้วน เกือบเสียชีวิตไปหลายครั้ง นางยังไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ เหตุใดพวกท่านต้องบอกให้ข้ายอมแพ้?“ข้ารู้ว่าท่านพี่เตรียมตัวแทนไว้แล้ว แต่ข้าอาจจะทำได้ดีกว่าตัวแทนคนนั้นก็ได้ เหตุใดต้องเสี่ยงด้วย?“พวกท่านไม่รู้เลยสักนิด ท่านพี่อยู่ไกลขนาดนั้น ก็ไม่รู้หรอก ว่าตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์เผชิญอันตรายมากมายแค่ไหน“แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งส่งสายลับมามากมาย ในวังล้วนถูกพวกเขาแทรกซึมเข้ามาหมดแล้ว อีกอย่างพวกเขาได้วางกำลังทหาร เพื่อรอบุกโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ และโอกาสที่พวกเขารอคอยอยู่ ก็คือสถานะตัวตนของประมุขแคว้นอย่างข้า“เมื่อใดที่พวกเขารู้ว่าข้าคือตัวปลอม ข้าไม่ใช่ฮองเฮาแห่งแคว้นหนานฉี พวกเขาต้องเคลื่อนทัพเป็นแน่! ตัวแทนรับมือไม่ไหวหรอก!”แต่ไหนแต่ไรนางเป็นคนอ่อนโยนว่าง่าย ปกติเวลาคนอื่นพูดอะไร นางก็จะไม่โต้แย้งแต่ครั้งนี้ เพื่อตำแหน่งประมุขแคว้น นางจึงยืนกรานแน่วแน่เป็นพิเศษซ่งหลี
นอกพระราชวัง ภายในเรือนพักแห่งหนึ่งที่แห่งนี้เฟิ่งเวยเฉียงได้พบกับพี่หญิงที่คนึงหาอยู่ทุกเวลา นางรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ ขณะที่คิดจะเข้าไปสวมกอดอีกฝ่าย กลับเหลือบเห็นท้องที่นูนขึ้นมา“พี่หญิง นี่ท่านกำลัง?”เฟิ่งเวยเฉียงนึกถึงบางอย่าง ทว่าก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ข้าตั้งครรภ์แล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงอ้าปากค้างด้วยความคิดไม่ถึง “จริงหรือ?!”นี่ช่างดีเหลือเกิน!พี่น้องสองคนนั่งลง นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน มีคำพูดมากมายที่อยากเอ่ยในห้องข้าง ๆ กันเซียวอวี้อยู่กับซ่งหลี สีหน้าของซ่งหลีดูแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อนมาก ใต้ตาเป็นรอยคล้ำเหมือนมี “ถุงใต้ตา” ความกลัดกลุ้มเผยออกมาให้เห็นภายนอกเซียวอวี้กลับถามราวไม่ได้สังเกตอะไร“เป็นอย่างไรบ้างกับการเป็นพระสวามี?”ซ่งหลีก้มศีรษะลงต่ำ เย้ยหยันตนเองด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย“ข้าน้อยไร้ความสามารถ ไม่อาจทำได้ดี”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเหตุใดถึงมีสีหน้าอมทุกข์?คงไม่ใช่ว่า เฟิ่งเวยเฉียงผู้นั้นได้ใหม่แล้วลืมเก่า มีสนมชายคนโปรดแล้ว?จู่ ๆ ซ่งหลีก็นึกถึงเรื่องบางอย่าง แววตาเป็นประกายทันทีเขาลุกขึ้นยืน พร้อมปร
ก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียนจะมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ก็มีแผนปฏิบัติการอยู่แล้วแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้จัดส่งสายลับ มุ่งหน้ามายังพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสืบดูว่าประมุขแคว้นคือนางหรือไม่ยิ่งไปกว่านั้น ภายในแคว้นซีหนี่ว์ก็มีคนก่อความวุ่นวาย หมายปองตำแหน่งประมุขแคว้นครั้งนี้ประจวบเหมาะที่จะใช้แผนซ้อนแผนเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงบอกกับซ่งหลี“พรุ่งนี้เจ้าพาเวยเฉียงกลับหนานฉี แคว้นซีหนี่ว์ทางนี้ มีข้ากับฝ่าบาท”นางเอ่ยเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่าซ่งหลีไม่อาจขอร้องสิ่งใดได้เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกกังวลอยู่บ้าง“พี่หญิง ไม่ต้องการให้ข้าช่วยจริงหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งสายตายืนยันต่อนาง“หากเจ้ากับซ่งหลีกลับหนานฉีอย่างปลอดภัย ข้าจะได้ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงพยักหน้า“ได้ ข้าจะเชื่อฟังพี่หญิง”ปากก็ตอบตกลงอย่างแน่วแน่ แต่ในใจกลับรู้สึกอ้างว้างหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางทนไม่ไหวจึงถามออกมา“พี่หญิง หากจัดการปัญหาความไม่สงบของแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเรียบร้อยแล้ว ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ จะเป็นผู้ใดที่มารับตำแหน่ง?”นางรู้ว่า พี่หญิงจะต้องกลับไปแคว้นซีหนี่ว์อย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยี
จันทร์เสี้ยวลอยลงต่ำ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงณ พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ในที่ประชุมเช้า เหล่าขุนนางมองไปยังคนที่อยู่บนบัลลังก์มังกร ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย และความประหลาดใจขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยถามอย่างใจกล้า“คนที่นั่งอยู่บนนั้น เจ้าเป็นใคร! แล้วประมุขแคว้นอยู่ที่ใด!”คนที่อยู่ด้านบน ถึงแม้หน้าตาจะคล้ายกับประมุขแคว้น ทว่าส่วนท้องนูนออกมา เห็นชัดว่าเป็นลักษณะของการตั้งครรภ์ คนผู้นี้กับประมุขแคว้นเมื่อหลายวันก่อนผู้นั้น ไม่ใช่คนเดียวกันโดยสิ้นเชิงความแตกต่างที่เห็นชัดเช่นนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนตาบอด ก็มองออกชัดเจนหลังจากมีคนหนึ่งออกหน้า คนอื่น ๆ ก็พากันเกิดความสงสัยตามมา“รีบบอกมา เจ้าเป็นใครกันแน่!”“เจ้าคนชั่วอาจหาญ กล้าสวมรอยเป็นประมุขแคว้น ยังไม่รีบลงมาอีก!”“ประมุขแคว้นเล่า? ทหารรักษาพระองค์อยู่ที่ใด รีบไปตามหาประมุขแคว้น!”ในราชสำนักเริ่มเกิดความวุ่นวายก่อนหน้านี้หูย่วนเอ๋อร์ก็ถูก “ขัง” อยู่ในคุก มิได้เข้าร่วมประชุมเช้าของวันนี้ จึงมีเพียงโอวหยางเหลียนเท่านั้นที่รู้ความจริงในที่นี้โอวหยางเหลียนยืนอยู่ตรงนั้น โดยไม่เอ่ยสิ่งใดจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่บนบัลลังก์มังกรก
เมิ่งฉวีกับภรรยามองดูคนตรงหน้า ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแม่ทัพเมิ่งเอ่ยเตือนด้วยคำพูดดี ๆ“ต้วนเจิ้ง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรัชทายาท ที่ประทับของฮองเฮา เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”ต้วนเจิ้งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของต้วนไหวซวี่จิ่วเหยียนก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีที่สุด มอบบ้านพักที่เซียวเหยาจวีให้กับเขา ทำให้เขาไม่ต้องเร่ร่อนไร้ที่อยู่ก่อนหน้านี้เพราะหร่านชิวบังคับให้บอกตำแหน่งหลุมฝังศพของต้วนไหวซวี่ จึงจับต้วนเจิ้งไปขังไว้ เพื่อหลบหนีออกจากกรงขัง ต้วนเจิ้งจึงล้มจนขาหักผ่านการพักฟื้นกว่าสองปี ตอนนี้ขาของเขาหายเป็นปกติแล้ว สามารถยืนและเดินได้ฮูหยินเมิ่งมองออกว่า ต้วนเจิ้งผู้นี้โตแค่อายุ ความคิดไม่ได้โตตามไปด้วยเขายังปฏิบัติตนเองเหมือนเป็นเด็ก คิดจะตามติดจิ่วเหยียนตลอดเวลา มีบางคำพูด จิ่วเหยียนไม่อาจทำใจที่จะเอ่ยออกมาตรง ๆ ได้ แต่นางในฐานะอาจารย์หญิง อดรนทนไม่ไหวจริง ๆฮูหยินเมิ่งจึงตัดสินใจอาศัยโอกาสนี้ เอ่ยกับต้วนเจิ้งโดยไม่เหลือความปรานี“ความรู้สึกระหว่างพี่ชายเจ้ากับฮองเฮา กลายเป็นอดีตไปนานแล้ว ต้วนไหวซวี่กับฮองเฮาไม่มีความเกี่ยวพันกันอีก และยิ่งกับเจ้าด้วยแล้ว?“เจ้าพยาย
หลังจากส่งเวยเฉียงกลับไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ได้กลับไปที่พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ทันทีนางให้ตัวแทนกลับเข้าวังไปก่อน จะอาศัยโอกาสนี้ทำให้สายลับเหล่านั้นเกิดความสับสนในเวลาเดียวกัน นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเริ่มคันไม้คันมือ อยากจะลงมือเต็มที่แม่ทัพใหญ่หลายคนกำลังหารือกันอยู่ภายในกระโจมค่ายทหาร ว่าหากมีการบุกโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ จะฝ่าทะลวงเข้าไปตรงจุดใดเพียงแต่ ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือ ประมุขแคว้นของแคว้นซีหนี่ว์ในตอนนี้ แท้จริงแล้วคือฮองเฮาของหนานฉี---เฟิ่งจิ่วเหยียนหรือไม่“สายลับอยู่ไหน ยังไม่มีข่าวหรือ!” หนึ่งในแม่ทัพเอ่ยด้วยความอดทนถึงขีดสุด พร้อมถามอย่างเร่งรีบ“รายงานท่านแม่ทัพ สายลับถึงพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์แล้ว เชื่อว่าไม่นานจะสามารถตรวจสอบตัวตนของประมุขแคว้นผู้นั้นได้อย่างชัดเจน!”ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่อาจคลายความหงุดหงิดในใจของแม่ทัพอีกหลายคนได้“ให้พวกเขาลงมือโดยเร็วที่สุด! เหล่าทหารตั้งค่ายอยู่ที่นี่ แต่ละวันต้องสิ้นเปลืองเสบียงและเบี้ยเลี้ยงไม่น้อย!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ในเวลานี้ แม่ทัพคนหนึ่งของแคว้นเจิ้งเสนอความเห็น“ท่านท
ก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียนจะมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ก็มีแผนปฏิบัติการอยู่แล้วแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้จัดส่งสายลับ มุ่งหน้ามายังพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสืบดูว่าประมุขแคว้นคือนางหรือไม่ยิ่งไปกว่านั้น ภายในแคว้นซีหนี่ว์ก็มีคนก่อความวุ่นวาย หมายปองตำแหน่งประมุขแคว้นครั้งนี้ประจวบเหมาะที่จะใช้แผนซ้อนแผนเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงบอกกับซ่งหลี“พรุ่งนี้เจ้าพาเวยเฉียงกลับหนานฉี แคว้นซีหนี่ว์ทางนี้ มีข้ากับฝ่าบาท”นางเอ่ยเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่าซ่งหลีไม่อาจขอร้องสิ่งใดได้เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกกังวลอยู่บ้าง“พี่หญิง ไม่ต้องการให้ข้าช่วยจริงหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งสายตายืนยันต่อนาง“หากเจ้ากับซ่งหลีกลับหนานฉีอย่างปลอดภัย ข้าจะได้ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงพยักหน้า“ได้ ข้าจะเชื่อฟังพี่หญิง”ปากก็ตอบตกลงอย่างแน่วแน่ แต่ในใจกลับรู้สึกอ้างว้างหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางทนไม่ไหวจึงถามออกมา“พี่หญิง หากจัดการปัญหาความไม่สงบของแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเรียบร้อยแล้ว ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ จะเป็นผู้ใดที่มารับตำแหน่ง?”นางรู้ว่า พี่หญิงจะต้องกลับไปแคว้นซีหนี่ว์อย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยี
นอกพระราชวัง ภายในเรือนพักแห่งหนึ่งที่แห่งนี้เฟิ่งเวยเฉียงได้พบกับพี่หญิงที่คนึงหาอยู่ทุกเวลา นางรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ ขณะที่คิดจะเข้าไปสวมกอดอีกฝ่าย กลับเหลือบเห็นท้องที่นูนขึ้นมา“พี่หญิง นี่ท่านกำลัง?”เฟิ่งเวยเฉียงนึกถึงบางอย่าง ทว่าก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ข้าตั้งครรภ์แล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงอ้าปากค้างด้วยความคิดไม่ถึง “จริงหรือ?!”นี่ช่างดีเหลือเกิน!พี่น้องสองคนนั่งลง นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน มีคำพูดมากมายที่อยากเอ่ยในห้องข้าง ๆ กันเซียวอวี้อยู่กับซ่งหลี สีหน้าของซ่งหลีดูแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อนมาก ใต้ตาเป็นรอยคล้ำเหมือนมี “ถุงใต้ตา” ความกลัดกลุ้มเผยออกมาให้เห็นภายนอกเซียวอวี้กลับถามราวไม่ได้สังเกตอะไร“เป็นอย่างไรบ้างกับการเป็นพระสวามี?”ซ่งหลีก้มศีรษะลงต่ำ เย้ยหยันตนเองด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย“ข้าน้อยไร้ความสามารถ ไม่อาจทำได้ดี”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเหตุใดถึงมีสีหน้าอมทุกข์?คงไม่ใช่ว่า เฟิ่งเวยเฉียงผู้นั้นได้ใหม่แล้วลืมเก่า มีสนมชายคนโปรดแล้ว?จู่ ๆ ซ่งหลีก็นึกถึงเรื่องบางอย่าง แววตาเป็นประกายทันทีเขาลุกขึ้นยืน พร้อมปร
เฟิ่งเวยเฉียงน้อยใจเต็มอกสองคนตรงหน้า คนหนึ่งคือมารดา อีกคนคือสวามีของนางพวกเขาล้วนไม่เชื่อใจนาง“เป็นกษัตริย์ ต้องทุ่มเทเพื่อแคว้น ปวดหัวแค่นี้จะเป็นอะไรไป?“ยามที่ท่านป้าเป็นประมุขแคว้น ได้รับบาดเจ็บนับครั้งไม่ถ้วน เกือบเสียชีวิตไปหลายครั้ง นางยังไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ เหตุใดพวกท่านต้องบอกให้ข้ายอมแพ้?“ข้ารู้ว่าท่านพี่เตรียมตัวแทนไว้แล้ว แต่ข้าอาจจะทำได้ดีกว่าตัวแทนคนนั้นก็ได้ เหตุใดต้องเสี่ยงด้วย?“พวกท่านไม่รู้เลยสักนิด ท่านพี่อยู่ไกลขนาดนั้น ก็ไม่รู้หรอก ว่าตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์เผชิญอันตรายมากมายแค่ไหน“แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งส่งสายลับมามากมาย ในวังล้วนถูกพวกเขาแทรกซึมเข้ามาหมดแล้ว อีกอย่างพวกเขาได้วางกำลังทหาร เพื่อรอบุกโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ และโอกาสที่พวกเขารอคอยอยู่ ก็คือสถานะตัวตนของประมุขแคว้นอย่างข้า“เมื่อใดที่พวกเขารู้ว่าข้าคือตัวปลอม ข้าไม่ใช่ฮองเฮาแห่งแคว้นหนานฉี พวกเขาต้องเคลื่อนทัพเป็นแน่! ตัวแทนรับมือไม่ไหวหรอก!”แต่ไหนแต่ไรนางเป็นคนอ่อนโยนว่าง่าย ปกติเวลาคนอื่นพูดอะไร นางก็จะไม่โต้แย้งแต่ครั้งนี้ เพื่อตำแหน่งประมุขแคว้น นางจึงยืนกรานแน่วแน่เป็นพิเศษซ่งหลี
เดือนห้า อากาศหนาวหมดไปเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้เริ่มเดินทางไปทางทิศตะวันออก ในชุดลำลองสบายตัว และตรวจลาดตระเวนแต่ละเมืองไปในตัวเลี่ยอู๋ซินตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังแคว้นตงซาน ช่วยจับกุมซุนโฉวที่หลบหนีไป เพื่อกำจัดกลุ่มค้ามนุษย์แบบถอนรากถอนโคลน……แคว้นซีหนี่ว์เฟิ่งเวยเฉียงได้รับจดหมายของท่านพี่ บอกว่าส่งตัวแทนมาแล้วทว่านางไม่วางใจมอบหมายราชกิจของแคว้นซีหนี่ว์ให้ตัวแทนดูแล จึงยังดำรงตำแหน่งประมุขแคว้นดั่งเดิมประการแรกกลัวว่าตัวแทนจะเปิดเผยตัวตน จนสร้างหายนะครั้งใหญ่ ประการที่สอง นางเริ่มรับมือเรื่องราวในแคว้นซีหนี่ว์ได้คล่องแล้ว ในเมื่อมีสายเลือดในราชวงศ์ซีหนี่ว์ ก็ถือเสียว่าแบกรับความรับผิดชอบ ทำอะไรเพื่อแคว้นบ้างซ่งหลีโน้มน้าวนางหลายครั้ง หวังว่านางจะกลับแคว้นหนานฉีกับตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าพูดความจริงกับนาง——เพราะกลัวว่าอาการเดิม ๆ ของนางจะกำเริบขึ้นมาอีกครั้งวันนี้ หลังว่าราชกิจเช้าเสร็จเฟิ่งเวยเฉียงรู้สึกปวดหัวแทบร้าวนางวางฏีกาในมือลง ใช้สองมือกุมศีรษะ ลุกขึ้นอย่างเจ็บปวด“ท่านประมุข!” ซ่งหลีที่อยู่ข้าง ๆ นางเห็นเช่นนั้น ก็รีบเข้าไปประคองนางแววตาของเขาแฝงไปด้วยควา
“คุณชายเซียว รอก่อนนะ บะหมี่ใกล้จะเสร็จแล้ว!”ขณะที่เหลียนซวงทำในสิ่งที่ชอบ กลับไม่รู้เลยว่าการที่นางทำตัวยุ่งเช่นนี้ สำหรับเซียวจั๋วมันกลับเป็นภาระทางใจไม่นาน บะหมี่ก็เสร็จเหลียนซวงยกมาวางบนโต๊ะ มองเซียวจั๋วด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม“คุณชายเซียว ขอให้ท่านอายุยืน เหมือนมู่หรงจ่างจี๋…ไม่สิ ๆ ๆ! ปากข้านี่นะ คนชั่วร้ายอย่างมู่หรงจ่างจี๋ คุณชายเซียวจะเหมือนเขาได้อย่างไร”เซียวจั๋วไม่ได้กินบะหมี่ เขาเพียงถามเหลียนซวง“เจ้ามีความสุขหรือไม่?”เหลียนซวงมีสีหน้าชะงักงัน“ข้าก็ต้องดีใจ ที่คนชั่วได้รับผลกรรมแล้ว อีกอย่าง วันนี้หมอยังบอกว่า ดวงตาของท่านเริ่มดีขึ้นแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะกลับมามองเห็นแสงสว่างอีกครั้ง…”“เหลียนซวง ระหว่างข้ากับเจ้าไม่มีทางเป็นไปได้” เซียวจั๋วเม้มปาก เขาเองก็ไม่คิด ว่าสุดท้ายต้องพูดถึงขั้นนี้เหลียนซวงนิ่งงัน จากนั้นก็ยิ้มอย่างปลง ๆ“คุณชายเซียว ข้ารู้ ท่านเป็นถึงเครือญาติของราชวงศ์ ส่วนข้า…”“ไม่เกี่ยวกับเจ้ามีสถานะเช่นไร เหลียนซวง ข้าแก่กว่าเจ้ามาก ไม่อยากให้เจ้าพลอยลำบากไปด้วย”ทันทีที่เหลียนซวงได้ยินคำพูดนี้ นัยน์ตาพลันทอประกาย“ท่านแค่ไม่อยากใ
ร่วนฝูอวี้ชอบผู้หญิงมาโดยตลอด ถึงแม้อยู่กับบุรุษ มีเพียงนางเท่านั้นที่กล้าหยอกล้ออีกฝ่ายเท่านั้นพอตอนนี้เผชิญกับคำสารภาพของรุ่ยอ๋อง นางพลันทำตัวไม่ถูกอีกอย่างเห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาชอบผู้ชาย…รุ่ยอ๋องเห็นนางมีปฏิกิริยาขนาดนี้ ก็รีบอธิบาย“พวกเราเคยประสบพบเจอเรื่องราวเหมือน ๆ กันมา หากใช้ชีวิตด้วยกัน มันก็ดีไม่ใช่หรือ?“หากเจ้าไป ข้าก็ต้องแต่งงานกับคนใหม่ คงไม่มีใครเหมือนเจ้า ที่ไม่ร้องขอสิ่งใดกับข้า “อีกอย่างข้ายังต้องคอยระแวงปกปิดตัวตนอีกด้วย เช่นนี้แล้ว สู้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไปไม่ดีกว่าหรือ”เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ หร่วนฝูอวี้ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก“ที่แท้ท่านก็หมายถึงอย่างนี้นี่เอง”นึกว่าเขาคิดไม่ซื่อกับนางจริง ๆ เสียอีก……ความผิดของมู่หรงจ่างจี๋ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน ก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่เหล่าประชาชนยากที่จะเชื่อ มู่หรงจ่างจี๋ผู้นั้นจะมีอายุยืนมาถึงขนาดนี้“คนผู้นี้ต้องมีวิชาอมตะเป็นแน่ แต่เพราะหวั่นเกรงฝ่าบาท จึงถูกประหาร”“คดีมนุษย์โอสถซับซ้อนซ่อนเงื่อน ก่อนหน้านี้บอกว่าผู้ร้ายตัวจริงคือมู่หรงสวี้ ตอนนี้เปิดเผยออกมาว่าเป็นมู่หรงจ่างจี๋ ครั้งนี้คงไม่ผ