นอกพระราชวัง ภายในเรือนพักแห่งหนึ่งที่แห่งนี้เฟิ่งเวยเฉียงได้พบกับพี่หญิงที่คนึงหาอยู่ทุกเวลา นางรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ ขณะที่คิดจะเข้าไปสวมกอดอีกฝ่าย กลับเหลือบเห็นท้องที่นูนขึ้นมา“พี่หญิง นี่ท่านกำลัง?”เฟิ่งเวยเฉียงนึกถึงบางอย่าง ทว่าก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ข้าตั้งครรภ์แล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงอ้าปากค้างด้วยความคิดไม่ถึง “จริงหรือ?!”นี่ช่างดีเหลือเกิน!พี่น้องสองคนนั่งลง นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน มีคำพูดมากมายที่อยากเอ่ยในห้องข้าง ๆ กันเซียวอวี้อยู่กับซ่งหลี สีหน้าของซ่งหลีดูแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อนมาก ใต้ตาเป็นรอยคล้ำเหมือนมี “ถุงใต้ตา” ความกลัดกลุ้มเผยออกมาให้เห็นภายนอกเซียวอวี้กลับถามราวไม่ได้สังเกตอะไร“เป็นอย่างไรบ้างกับการเป็นพระสวามี?”ซ่งหลีก้มศีรษะลงต่ำ เย้ยหยันตนเองด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย“ข้าน้อยไร้ความสามารถ ไม่อาจทำได้ดี”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเหตุใดถึงมีสีหน้าอมทุกข์?คงไม่ใช่ว่า เฟิ่งเวยเฉียงผู้นั้นได้ใหม่แล้วลืมเก่า มีสนมชายคนโปรดแล้ว?จู่ ๆ ซ่งหลีก็นึกถึงเรื่องบางอย่าง แววตาเป็นประกายทันทีเขาลุกขึ้นยืน พร้อมปร
ก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียนจะมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ก็มีแผนปฏิบัติการอยู่แล้วแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้จัดส่งสายลับ มุ่งหน้ามายังพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสืบดูว่าประมุขแคว้นคือนางหรือไม่ยิ่งไปกว่านั้น ภายในแคว้นซีหนี่ว์ก็มีคนก่อความวุ่นวาย หมายปองตำแหน่งประมุขแคว้นครั้งนี้ประจวบเหมาะที่จะใช้แผนซ้อนแผนเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงบอกกับซ่งหลี“พรุ่งนี้เจ้าพาเวยเฉียงกลับหนานฉี แคว้นซีหนี่ว์ทางนี้ มีข้ากับฝ่าบาท”นางเอ่ยเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่าซ่งหลีไม่อาจขอร้องสิ่งใดได้เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกกังวลอยู่บ้าง“พี่หญิง ไม่ต้องการให้ข้าช่วยจริงหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งสายตายืนยันต่อนาง“หากเจ้ากับซ่งหลีกลับหนานฉีอย่างปลอดภัย ข้าจะได้ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงพยักหน้า“ได้ ข้าจะเชื่อฟังพี่หญิง”ปากก็ตอบตกลงอย่างแน่วแน่ แต่ในใจกลับรู้สึกอ้างว้างหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางทนไม่ไหวจึงถามออกมา“พี่หญิง หากจัดการปัญหาความไม่สงบของแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเรียบร้อยแล้ว ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ จะเป็นผู้ใดที่มารับตำแหน่ง?”นางรู้ว่า พี่หญิงจะต้องกลับไปแคว้นซีหนี่ว์อย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยี
หลังจากส่งเวยเฉียงกลับไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ได้กลับไปที่พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ทันทีนางให้ตัวแทนกลับเข้าวังไปก่อน จะอาศัยโอกาสนี้ทำให้สายลับเหล่านั้นเกิดความสับสนในเวลาเดียวกัน นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเริ่มคันไม้คันมือ อยากจะลงมือเต็มที่แม่ทัพใหญ่หลายคนกำลังหารือกันอยู่ภายในกระโจมค่ายทหาร ว่าหากมีการบุกโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ จะฝ่าทะลวงเข้าไปตรงจุดใดเพียงแต่ ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือ ประมุขแคว้นของแคว้นซีหนี่ว์ในตอนนี้ แท้จริงแล้วคือฮองเฮาของหนานฉี---เฟิ่งจิ่วเหยียนหรือไม่“สายลับอยู่ไหน ยังไม่มีข่าวหรือ!” หนึ่งในแม่ทัพเอ่ยด้วยความอดทนถึงขีดสุด พร้อมถามอย่างเร่งรีบ“รายงานท่านแม่ทัพ สายลับถึงพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์แล้ว เชื่อว่าไม่นานจะสามารถตรวจสอบตัวตนของประมุขแคว้นผู้นั้นได้อย่างชัดเจน!”ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่อาจคลายความหงุดหงิดในใจของแม่ทัพอีกหลายคนได้“ให้พวกเขาลงมือโดยเร็วที่สุด! เหล่าทหารตั้งค่ายอยู่ที่นี่ แต่ละวันต้องสิ้นเปลืองเสบียงและเบี้ยเลี้ยงไม่น้อย!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ในเวลานี้ แม่ทัพคนหนึ่งของแคว้นเจิ้งเสนอความเห็น“ท่านท
เมิ่งฉวีกับภรรยามองดูคนตรงหน้า ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแม่ทัพเมิ่งเอ่ยเตือนด้วยคำพูดดี ๆ“ต้วนเจิ้ง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรัชทายาท ที่ประทับของฮองเฮา เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”ต้วนเจิ้งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของต้วนไหวซวี่จิ่วเหยียนก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีที่สุด มอบบ้านพักที่เซียวเหยาจวีให้กับเขา ทำให้เขาไม่ต้องเร่ร่อนไร้ที่อยู่ก่อนหน้านี้เพราะหร่านชิวบังคับให้บอกตำแหน่งหลุมฝังศพของต้วนไหวซวี่ จึงจับต้วนเจิ้งไปขังไว้ เพื่อหลบหนีออกจากกรงขัง ต้วนเจิ้งจึงล้มจนขาหักผ่านการพักฟื้นกว่าสองปี ตอนนี้ขาของเขาหายเป็นปกติแล้ว สามารถยืนและเดินได้ฮูหยินเมิ่งมองออกว่า ต้วนเจิ้งผู้นี้โตแค่อายุ ความคิดไม่ได้โตตามไปด้วยเขายังปฏิบัติตนเองเหมือนเป็นเด็ก คิดจะตามติดจิ่วเหยียนตลอดเวลา มีบางคำพูด จิ่วเหยียนไม่อาจทำใจที่จะเอ่ยออกมาตรง ๆ ได้ แต่นางในฐานะอาจารย์หญิง อดรนทนไม่ไหวจริง ๆฮูหยินเมิ่งจึงตัดสินใจอาศัยโอกาสนี้ เอ่ยกับต้วนเจิ้งโดยไม่เหลือความปรานี“ความรู้สึกระหว่างพี่ชายเจ้ากับฮองเฮา กลายเป็นอดีตไปนานแล้ว ต้วนไหวซวี่กับฮองเฮาไม่มีความเกี่ยวพันกันอีก และยิ่งกับเจ้าด้วยแล้ว?“เจ้าพยาย
จันทร์เสี้ยวลอยลงต่ำ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงณ พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ในที่ประชุมเช้า เหล่าขุนนางมองไปยังคนที่อยู่บนบัลลังก์มังกร ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย และความประหลาดใจขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยถามอย่างใจกล้า“คนที่นั่งอยู่บนนั้น เจ้าเป็นใคร! แล้วประมุขแคว้นอยู่ที่ใด!”คนที่อยู่ด้านบน ถึงแม้หน้าตาจะคล้ายกับประมุขแคว้น ทว่าส่วนท้องนูนออกมา เห็นชัดว่าเป็นลักษณะของการตั้งครรภ์ คนผู้นี้กับประมุขแคว้นเมื่อหลายวันก่อนผู้นั้น ไม่ใช่คนเดียวกันโดยสิ้นเชิงความแตกต่างที่เห็นชัดเช่นนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนตาบอด ก็มองออกชัดเจนหลังจากมีคนหนึ่งออกหน้า คนอื่น ๆ ก็พากันเกิดความสงสัยตามมา“รีบบอกมา เจ้าเป็นใครกันแน่!”“เจ้าคนชั่วอาจหาญ กล้าสวมรอยเป็นประมุขแคว้น ยังไม่รีบลงมาอีก!”“ประมุขแคว้นเล่า? ทหารรักษาพระองค์อยู่ที่ใด รีบไปตามหาประมุขแคว้น!”ในราชสำนักเริ่มเกิดความวุ่นวายก่อนหน้านี้หูย่วนเอ๋อร์ก็ถูก “ขัง” อยู่ในคุก มิได้เข้าร่วมประชุมเช้าของวันนี้ จึงมีเพียงโอวหยางเหลียนเท่านั้นที่รู้ความจริงในที่นี้โอวหยางเหลียนยืนอยู่ตรงนั้น โดยไม่เอ่ยสิ่งใดจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่บนบัลลังก์มังกรก
“แม่ทัพน้อย สารด่วนที่สุด! คุณหนูใหญ่ได้รับความอัปยศจนปลิดชีพตัวเอง นายหญิงต้องการให้ท่านกลับโดยเร็วที่สุด เพื่ออภิเษกสมรสแทนคุณหนูใหญ่!”ชายแดนแคว้นหนานฉี เกือกม้าย่ำผ่านลำธารที่เพิ่งละลาย หยดน้ำกระเซ็นซ่านเฟิ่งจิ่วเหยียนควบม้านำอยู่หน้าสุด นางสวมอาภรณ์เรียบง่ายแขนสอบสีดำ ใช้ปิ่นไม้อันเดียวรวบผมดำขลับ เส้นผมและชายชุดสะบัดพลิ้ว ในความองอาจเหนือคนนั้นแฝงไว้ซึ่งอารมณ์อันคุกรุ่นนางกับเฟิ่งเวยเฉียงน้องสาวเป็นฝาแฝดกัน แต่เนื่องจากการมีฝาแฝดไม่เป็นมงคล นางจึงถูกเลี้ยงดูอยู่ข้างนอกมาตั้งแต่เล็กเวยเฉียงมีนิสัยอ่อนโยนอ่อนหวาน ไม่เคยผูกความแค้นกับใครนางไม่เข้าใจเลย ใครจะทำร้ายคนที่บริสุทธิ์ดีงามเช่นนั้นนางจะจับคนผู้นั้นมาถลกหนังเลาะกระดูก สับเป็นชิ้น ๆ ป้อนให้สุนัขกินเสีย!องครักษ์เห็นว่าจะตามไม่ทันความเร็วของนางแล้วจึงตะโกนว่า“แม่ทัพน้อย ตอนนี้ควบม้าตายไปสองตัวแล้ว ข้างหน้ามีโรงเตี๊ยม แวะพักก่อนดีหรือไม่...”เฟิ่งจิ่วเหยียนสะบัดแส้ม้า“ตามไม่ทันก็ไสหัวกลับค่ายทหาร! ย่าห์!”โง่เง่า! มีเวลามาพักผ่อนเสียที่ไหน!สิ่งที่นางแบกรับอยู่ตอนนี้คือหนึ่งร้อยกว่าชีวิตในตระกูลเฟิ่ง!องคร
เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่ในห้องหรี่ดวงเนตรงามลงเล็กน้อยวันนี้ไม่ว่าผลตรวจร่างกายเป็นเช่นไร ก็ล้วนแต่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลเฟิ่งทั้งสิ้นหวงกุ้ยเฟยจะต้องตัดสินว่าบุตรีตระกูลเฟิ่งไม่บริสุทธิ์เป็นแน่ จากนั้นก็ใช้เหตุนี้สร้างเรื่องตามมาถ้าคนที่มาสวมรอยแทนอย่างนางถูกตรวจร่างกายได้ผลว่ายังบริสุทธิ์ ถึงจะสามารถป้องกันแผนร้ายของหวงกุ้ยเฟย แต่ก็คงจะทำให้หวงกุ้ยเฟยนึกสงสัยขึ้นมาทันทีที่เรื่องสวมรอยแต่งงานมีพิรุธปรากฏ ถึงยามนั้นโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงก็เพียงพอให้ตระกูลเฟิ่งประสบหายนะได้แล้ว!สายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปข้างหน้า ใช้มือที่จับทวนมาจนชินนั้นแต้มบุปผาตรงหว่างคิ้วของตนเองอย่างหนักแน่นสิ่งที่อาจารย์สั่งสอนนางมีเพียงหลักพิชัยสงครามและหลักการเป็นขุนนางอาจารย์หญิงเคยสอนหลักการครองเรือนให้นาง ในนั้นย่อมมีธรรมเนียมปฏิบัติในวังหลวงด้วยเช่นกัน ยามนั้นแม้นางได้เรียนรู้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้นำมาใช้งานเพราะปณิธานของนางอยู่ที่ใต้หล้า ไม่ต้องการถูกคุมขังไว้ในเรือน เป็นเพียงภรรยาตัวน้อยที่โอนอ่อนผ่อนตามสามีคิดไม่ถึงว่าคนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตนอกห้องขันทีผู้นั้นเดินนำนางกำนัลจากในวังหลวงตรงมา
ณ ตำหนักฉือหนิง ที่ประทับของไทเฮาไทเฮาได้ยินเรื่องที่จวนตระกูลเฟิ่งแล้วก็มีสีพระพักตร์แช่มชื่น กล่าวกับกุ้ยหมัวมัวที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายว่า“ตอนงานวันเกิดของข้าปีที่แล้ว เคยเห็นเฟิ่งเวยเฉียงผู้นั้น นิสัยนางอ่อนโยนเกินไป เวลานั้นข้าก็รู้สึกว่านางยากจะรั้งตำแหน่งฮองเฮาได้“เรื่องในวันนี้กลับแปลกใหม่นัก ถึงกับโต้แย้งคนของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ต่อหน้าธารกำนัล“ข้าต้องมองนางใหม่เสียแล้ว”กุ้ยหมัวมัวเป็นคนเก่าคนแก่ข้างกายไทเฮา เข้าใจความซับซ้อนในวังอย่างลึกซึ้ง นางรินน้ำชาร้อนกรุ่นให้ไทเฮา“แต่ดูจากความโปรดปรานที่ฝ่าบาทมีต่อหวงกุ้ยเฟย แม้ฮองเฮาจะปราดเปรื่องกล้าหาญเพียงไหนก็ยากจะรับมือท่านที่อยู่ตำหนักหลิงเซียวผู้นั้นได้ คืนนี้ ยากจะรับประกันว่าหวงกุ้ยเฟยจะไม่ก่อเรื่องนะเพคะ”เห็นได้ชัดว่านางมีความเห็นแตกต่างจากไทเฮา ไม่คิดว่าฮองเฮาจะมีความสามารถถึงเพียงนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าไทเฮาสลายไป“เจ้าพูดถูก ข้ายังจำได้ว่า วันที่ซิ่วหว่านเข้าวัง เดิมนั้นฝ่าบาทตั้งใจจะไปหานาง ผู้ใดจะคาดคิดว่าหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ผู้นั้นจะเข้ามาขัดขวาง เชิญฝ่าบาทไปหา“น่าสงสารก็แต่ซิ่วหว่านเด็กคนนั้น แม้แต่อาหญิงอย่างข้าก
จันทร์เสี้ยวลอยลงต่ำ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงณ พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ในที่ประชุมเช้า เหล่าขุนนางมองไปยังคนที่อยู่บนบัลลังก์มังกร ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย และความประหลาดใจขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยถามอย่างใจกล้า“คนที่นั่งอยู่บนนั้น เจ้าเป็นใคร! แล้วประมุขแคว้นอยู่ที่ใด!”คนที่อยู่ด้านบน ถึงแม้หน้าตาจะคล้ายกับประมุขแคว้น ทว่าส่วนท้องนูนออกมา เห็นชัดว่าเป็นลักษณะของการตั้งครรภ์ คนผู้นี้กับประมุขแคว้นเมื่อหลายวันก่อนผู้นั้น ไม่ใช่คนเดียวกันโดยสิ้นเชิงความแตกต่างที่เห็นชัดเช่นนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนตาบอด ก็มองออกชัดเจนหลังจากมีคนหนึ่งออกหน้า คนอื่น ๆ ก็พากันเกิดความสงสัยตามมา“รีบบอกมา เจ้าเป็นใครกันแน่!”“เจ้าคนชั่วอาจหาญ กล้าสวมรอยเป็นประมุขแคว้น ยังไม่รีบลงมาอีก!”“ประมุขแคว้นเล่า? ทหารรักษาพระองค์อยู่ที่ใด รีบไปตามหาประมุขแคว้น!”ในราชสำนักเริ่มเกิดความวุ่นวายก่อนหน้านี้หูย่วนเอ๋อร์ก็ถูก “ขัง” อยู่ในคุก มิได้เข้าร่วมประชุมเช้าของวันนี้ จึงมีเพียงโอวหยางเหลียนเท่านั้นที่รู้ความจริงในที่นี้โอวหยางเหลียนยืนอยู่ตรงนั้น โดยไม่เอ่ยสิ่งใดจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่บนบัลลังก์มังกรก
เมิ่งฉวีกับภรรยามองดูคนตรงหน้า ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแม่ทัพเมิ่งเอ่ยเตือนด้วยคำพูดดี ๆ“ต้วนเจิ้ง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรัชทายาท ที่ประทับของฮองเฮา เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”ต้วนเจิ้งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของต้วนไหวซวี่จิ่วเหยียนก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีที่สุด มอบบ้านพักที่เซียวเหยาจวีให้กับเขา ทำให้เขาไม่ต้องเร่ร่อนไร้ที่อยู่ก่อนหน้านี้เพราะหร่านชิวบังคับให้บอกตำแหน่งหลุมฝังศพของต้วนไหวซวี่ จึงจับต้วนเจิ้งไปขังไว้ เพื่อหลบหนีออกจากกรงขัง ต้วนเจิ้งจึงล้มจนขาหักผ่านการพักฟื้นกว่าสองปี ตอนนี้ขาของเขาหายเป็นปกติแล้ว สามารถยืนและเดินได้ฮูหยินเมิ่งมองออกว่า ต้วนเจิ้งผู้นี้โตแค่อายุ ความคิดไม่ได้โตตามไปด้วยเขายังปฏิบัติตนเองเหมือนเป็นเด็ก คิดจะตามติดจิ่วเหยียนตลอดเวลา มีบางคำพูด จิ่วเหยียนไม่อาจทำใจที่จะเอ่ยออกมาตรง ๆ ได้ แต่นางในฐานะอาจารย์หญิง อดรนทนไม่ไหวจริง ๆฮูหยินเมิ่งจึงตัดสินใจอาศัยโอกาสนี้ เอ่ยกับต้วนเจิ้งโดยไม่เหลือความปรานี“ความรู้สึกระหว่างพี่ชายเจ้ากับฮองเฮา กลายเป็นอดีตไปนานแล้ว ต้วนไหวซวี่กับฮองเฮาไม่มีความเกี่ยวพันกันอีก และยิ่งกับเจ้าด้วยแล้ว?“เจ้าพยาย
หลังจากส่งเวยเฉียงกลับไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ได้กลับไปที่พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ทันทีนางให้ตัวแทนกลับเข้าวังไปก่อน จะอาศัยโอกาสนี้ทำให้สายลับเหล่านั้นเกิดความสับสนในเวลาเดียวกัน นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเริ่มคันไม้คันมือ อยากจะลงมือเต็มที่แม่ทัพใหญ่หลายคนกำลังหารือกันอยู่ภายในกระโจมค่ายทหาร ว่าหากมีการบุกโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ จะฝ่าทะลวงเข้าไปตรงจุดใดเพียงแต่ ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือ ประมุขแคว้นของแคว้นซีหนี่ว์ในตอนนี้ แท้จริงแล้วคือฮองเฮาของหนานฉี---เฟิ่งจิ่วเหยียนหรือไม่“สายลับอยู่ไหน ยังไม่มีข่าวหรือ!” หนึ่งในแม่ทัพเอ่ยด้วยความอดทนถึงขีดสุด พร้อมถามอย่างเร่งรีบ“รายงานท่านแม่ทัพ สายลับถึงพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์แล้ว เชื่อว่าไม่นานจะสามารถตรวจสอบตัวตนของประมุขแคว้นผู้นั้นได้อย่างชัดเจน!”ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่อาจคลายความหงุดหงิดในใจของแม่ทัพอีกหลายคนได้“ให้พวกเขาลงมือโดยเร็วที่สุด! เหล่าทหารตั้งค่ายอยู่ที่นี่ แต่ละวันต้องสิ้นเปลืองเสบียงและเบี้ยเลี้ยงไม่น้อย!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ในเวลานี้ แม่ทัพคนหนึ่งของแคว้นเจิ้งเสนอความเห็น“ท่านท
ก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียนจะมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ก็มีแผนปฏิบัติการอยู่แล้วแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้จัดส่งสายลับ มุ่งหน้ามายังพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสืบดูว่าประมุขแคว้นคือนางหรือไม่ยิ่งไปกว่านั้น ภายในแคว้นซีหนี่ว์ก็มีคนก่อความวุ่นวาย หมายปองตำแหน่งประมุขแคว้นครั้งนี้ประจวบเหมาะที่จะใช้แผนซ้อนแผนเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงบอกกับซ่งหลี“พรุ่งนี้เจ้าพาเวยเฉียงกลับหนานฉี แคว้นซีหนี่ว์ทางนี้ มีข้ากับฝ่าบาท”นางเอ่ยเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่าซ่งหลีไม่อาจขอร้องสิ่งใดได้เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกกังวลอยู่บ้าง“พี่หญิง ไม่ต้องการให้ข้าช่วยจริงหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งสายตายืนยันต่อนาง“หากเจ้ากับซ่งหลีกลับหนานฉีอย่างปลอดภัย ข้าจะได้ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงพยักหน้า“ได้ ข้าจะเชื่อฟังพี่หญิง”ปากก็ตอบตกลงอย่างแน่วแน่ แต่ในใจกลับรู้สึกอ้างว้างหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางทนไม่ไหวจึงถามออกมา“พี่หญิง หากจัดการปัญหาความไม่สงบของแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเรียบร้อยแล้ว ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ จะเป็นผู้ใดที่มารับตำแหน่ง?”นางรู้ว่า พี่หญิงจะต้องกลับไปแคว้นซีหนี่ว์อย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยี
นอกพระราชวัง ภายในเรือนพักแห่งหนึ่งที่แห่งนี้เฟิ่งเวยเฉียงได้พบกับพี่หญิงที่คนึงหาอยู่ทุกเวลา นางรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ ขณะที่คิดจะเข้าไปสวมกอดอีกฝ่าย กลับเหลือบเห็นท้องที่นูนขึ้นมา“พี่หญิง นี่ท่านกำลัง?”เฟิ่งเวยเฉียงนึกถึงบางอย่าง ทว่าก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ข้าตั้งครรภ์แล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงอ้าปากค้างด้วยความคิดไม่ถึง “จริงหรือ?!”นี่ช่างดีเหลือเกิน!พี่น้องสองคนนั่งลง นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน มีคำพูดมากมายที่อยากเอ่ยในห้องข้าง ๆ กันเซียวอวี้อยู่กับซ่งหลี สีหน้าของซ่งหลีดูแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อนมาก ใต้ตาเป็นรอยคล้ำเหมือนมี “ถุงใต้ตา” ความกลัดกลุ้มเผยออกมาให้เห็นภายนอกเซียวอวี้กลับถามราวไม่ได้สังเกตอะไร“เป็นอย่างไรบ้างกับการเป็นพระสวามี?”ซ่งหลีก้มศีรษะลงต่ำ เย้ยหยันตนเองด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย“ข้าน้อยไร้ความสามารถ ไม่อาจทำได้ดี”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเหตุใดถึงมีสีหน้าอมทุกข์?คงไม่ใช่ว่า เฟิ่งเวยเฉียงผู้นั้นได้ใหม่แล้วลืมเก่า มีสนมชายคนโปรดแล้ว?จู่ ๆ ซ่งหลีก็นึกถึงเรื่องบางอย่าง แววตาเป็นประกายทันทีเขาลุกขึ้นยืน พร้อมปร
เฟิ่งเวยเฉียงน้อยใจเต็มอกสองคนตรงหน้า คนหนึ่งคือมารดา อีกคนคือสวามีของนางพวกเขาล้วนไม่เชื่อใจนาง“เป็นกษัตริย์ ต้องทุ่มเทเพื่อแคว้น ปวดหัวแค่นี้จะเป็นอะไรไป?“ยามที่ท่านป้าเป็นประมุขแคว้น ได้รับบาดเจ็บนับครั้งไม่ถ้วน เกือบเสียชีวิตไปหลายครั้ง นางยังไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ เหตุใดพวกท่านต้องบอกให้ข้ายอมแพ้?“ข้ารู้ว่าท่านพี่เตรียมตัวแทนไว้แล้ว แต่ข้าอาจจะทำได้ดีกว่าตัวแทนคนนั้นก็ได้ เหตุใดต้องเสี่ยงด้วย?“พวกท่านไม่รู้เลยสักนิด ท่านพี่อยู่ไกลขนาดนั้น ก็ไม่รู้หรอก ว่าตอนนี้แคว้นซีหนี่ว์เผชิญอันตรายมากมายแค่ไหน“แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งส่งสายลับมามากมาย ในวังล้วนถูกพวกเขาแทรกซึมเข้ามาหมดแล้ว อีกอย่างพวกเขาได้วางกำลังทหาร เพื่อรอบุกโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ และโอกาสที่พวกเขารอคอยอยู่ ก็คือสถานะตัวตนของประมุขแคว้นอย่างข้า“เมื่อใดที่พวกเขารู้ว่าข้าคือตัวปลอม ข้าไม่ใช่ฮองเฮาแห่งแคว้นหนานฉี พวกเขาต้องเคลื่อนทัพเป็นแน่! ตัวแทนรับมือไม่ไหวหรอก!”แต่ไหนแต่ไรนางเป็นคนอ่อนโยนว่าง่าย ปกติเวลาคนอื่นพูดอะไร นางก็จะไม่โต้แย้งแต่ครั้งนี้ เพื่อตำแหน่งประมุขแคว้น นางจึงยืนกรานแน่วแน่เป็นพิเศษซ่งหลี
เดือนห้า อากาศหนาวหมดไปเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้เริ่มเดินทางไปทางทิศตะวันออก ในชุดลำลองสบายตัว และตรวจลาดตระเวนแต่ละเมืองไปในตัวเลี่ยอู๋ซินตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังแคว้นตงซาน ช่วยจับกุมซุนโฉวที่หลบหนีไป เพื่อกำจัดกลุ่มค้ามนุษย์แบบถอนรากถอนโคลน……แคว้นซีหนี่ว์เฟิ่งเวยเฉียงได้รับจดหมายของท่านพี่ บอกว่าส่งตัวแทนมาแล้วทว่านางไม่วางใจมอบหมายราชกิจของแคว้นซีหนี่ว์ให้ตัวแทนดูแล จึงยังดำรงตำแหน่งประมุขแคว้นดั่งเดิมประการแรกกลัวว่าตัวแทนจะเปิดเผยตัวตน จนสร้างหายนะครั้งใหญ่ ประการที่สอง นางเริ่มรับมือเรื่องราวในแคว้นซีหนี่ว์ได้คล่องแล้ว ในเมื่อมีสายเลือดในราชวงศ์ซีหนี่ว์ ก็ถือเสียว่าแบกรับความรับผิดชอบ ทำอะไรเพื่อแคว้นบ้างซ่งหลีโน้มน้าวนางหลายครั้ง หวังว่านางจะกลับแคว้นหนานฉีกับตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าพูดความจริงกับนาง——เพราะกลัวว่าอาการเดิม ๆ ของนางจะกำเริบขึ้นมาอีกครั้งวันนี้ หลังว่าราชกิจเช้าเสร็จเฟิ่งเวยเฉียงรู้สึกปวดหัวแทบร้าวนางวางฏีกาในมือลง ใช้สองมือกุมศีรษะ ลุกขึ้นอย่างเจ็บปวด“ท่านประมุข!” ซ่งหลีที่อยู่ข้าง ๆ นางเห็นเช่นนั้น ก็รีบเข้าไปประคองนางแววตาของเขาแฝงไปด้วยควา
“คุณชายเซียว รอก่อนนะ บะหมี่ใกล้จะเสร็จแล้ว!”ขณะที่เหลียนซวงทำในสิ่งที่ชอบ กลับไม่รู้เลยว่าการที่นางทำตัวยุ่งเช่นนี้ สำหรับเซียวจั๋วมันกลับเป็นภาระทางใจไม่นาน บะหมี่ก็เสร็จเหลียนซวงยกมาวางบนโต๊ะ มองเซียวจั๋วด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม“คุณชายเซียว ขอให้ท่านอายุยืน เหมือนมู่หรงจ่างจี๋…ไม่สิ ๆ ๆ! ปากข้านี่นะ คนชั่วร้ายอย่างมู่หรงจ่างจี๋ คุณชายเซียวจะเหมือนเขาได้อย่างไร”เซียวจั๋วไม่ได้กินบะหมี่ เขาเพียงถามเหลียนซวง“เจ้ามีความสุขหรือไม่?”เหลียนซวงมีสีหน้าชะงักงัน“ข้าก็ต้องดีใจ ที่คนชั่วได้รับผลกรรมแล้ว อีกอย่าง วันนี้หมอยังบอกว่า ดวงตาของท่านเริ่มดีขึ้นแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะกลับมามองเห็นแสงสว่างอีกครั้ง…”“เหลียนซวง ระหว่างข้ากับเจ้าไม่มีทางเป็นไปได้” เซียวจั๋วเม้มปาก เขาเองก็ไม่คิด ว่าสุดท้ายต้องพูดถึงขั้นนี้เหลียนซวงนิ่งงัน จากนั้นก็ยิ้มอย่างปลง ๆ“คุณชายเซียว ข้ารู้ ท่านเป็นถึงเครือญาติของราชวงศ์ ส่วนข้า…”“ไม่เกี่ยวกับเจ้ามีสถานะเช่นไร เหลียนซวง ข้าแก่กว่าเจ้ามาก ไม่อยากให้เจ้าพลอยลำบากไปด้วย”ทันทีที่เหลียนซวงได้ยินคำพูดนี้ นัยน์ตาพลันทอประกาย“ท่านแค่ไม่อยากใ
ร่วนฝูอวี้ชอบผู้หญิงมาโดยตลอด ถึงแม้อยู่กับบุรุษ มีเพียงนางเท่านั้นที่กล้าหยอกล้ออีกฝ่ายเท่านั้นพอตอนนี้เผชิญกับคำสารภาพของรุ่ยอ๋อง นางพลันทำตัวไม่ถูกอีกอย่างเห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาชอบผู้ชาย…รุ่ยอ๋องเห็นนางมีปฏิกิริยาขนาดนี้ ก็รีบอธิบาย“พวกเราเคยประสบพบเจอเรื่องราวเหมือน ๆ กันมา หากใช้ชีวิตด้วยกัน มันก็ดีไม่ใช่หรือ?“หากเจ้าไป ข้าก็ต้องแต่งงานกับคนใหม่ คงไม่มีใครเหมือนเจ้า ที่ไม่ร้องขอสิ่งใดกับข้า “อีกอย่างข้ายังต้องคอยระแวงปกปิดตัวตนอีกด้วย เช่นนี้แล้ว สู้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไปไม่ดีกว่าหรือ”เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ หร่วนฝูอวี้ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก“ที่แท้ท่านก็หมายถึงอย่างนี้นี่เอง”นึกว่าเขาคิดไม่ซื่อกับนางจริง ๆ เสียอีก……ความผิดของมู่หรงจ่างจี๋ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน ก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่เหล่าประชาชนยากที่จะเชื่อ มู่หรงจ่างจี๋ผู้นั้นจะมีอายุยืนมาถึงขนาดนี้“คนผู้นี้ต้องมีวิชาอมตะเป็นแน่ แต่เพราะหวั่นเกรงฝ่าบาท จึงถูกประหาร”“คดีมนุษย์โอสถซับซ้อนซ่อนเงื่อน ก่อนหน้านี้บอกว่าผู้ร้ายตัวจริงคือมู่หรงสวี้ ตอนนี้เปิดเผยออกมาว่าเป็นมู่หรงจ่างจี๋ ครั้งนี้คงไม่ผ