ไทฮองไทเฮาอยากจะไปพบบรรพบุรุษที่คุกเทียนเหลา ทว่าฮ่องเต้ทรงมีคำสั่งว่า หากไม่ได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้ ไม่ว่าใครก็เข้าเยี่ยมไม่ได้ด้วยเหตุนี้ ไทฮองไทเฮาจึงได้แต่ส่งคนเข้าไปรายงานในวังก่อนทว่าต่อให้ฮ่องเต้อนุญาต มู่หรงจ่างจี๋ผู้นั้นก็ไม่ยินดีจะพบคนอื่นเขาดึงดันที่จะเชื่อว่ายังมีหนทางช่วยปฐมจักรพรรดิได้ยามนี้ตนถูกขังไว้ที่คุกเทียนเหลา จึงร้อนใจยิ่ง“ฮ่องเต้น้อยอยู่ที่ไหน รีบเรียกเขามาพบข้า!”มู่หรงจ่างจี๋ไม่เห็นหัวเหล่าคนรุ่นหลังแม้แต่น้อยในสายตาของเขา แผ่นดินแคว้นหนานฉีนี้ เป็นเขาที่ช่วยปฐมจักรพรรดิรบชนะมา วีรบุรุษในใต้หล้านี้ เขายอมรับเพียงปฐมจักรพรรดิพระองค์เดียวเท่านั้นเด็กตระกูลเซียวนั่นนับเป็นตัวอะไร ถึงกับกล้าห้ามไม่ให้เขาช่วยปฐมจักรพรรดิ!มู่หรงจ่างจี๋ร้อนใจอยากรีบออกไป ทุกวันตะโกนว่าต้องการพบฝ่าบาทหารู้ไม่ว่าเพื่อที่จะให้มู่หรงจ่างจี๋ยอมรับความผิด เซียวอวี้จึงตั้งใจเมินเขาจนถึงวันที่ห้า ผู้คุมก็บอกมู่หรงจ่างจี๋ “ฝ่าบาทมีคำสั่ง หากเจ้าไม่สารภาพความผิดทั้งหมดออกมาพร้อมลงนาม เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่ไปจนวันตาย!”มู่หรงจ่างจี๋โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“เหิมเหริม! เหลวไหล! เขารู
เลี่ยอู๋ซินเองก็นับว่าสร้างผลงานแล้วหากไม่ใช่เขา คงจะมีคนถูกปล่อยเลือดจนแห้งตายอีกเขาจับนักฆ่าพวกนั้นกลับมาแล้ว ส่งไปที่คุกเทียนเหลา สอบปากคำด้วยตนเอง ไม่คิดจะพักแม้แต่น้อยตอนแรกนักฆ่าพวกนั้นไม่ยอมสารภาพต่อมาเมื่อรู้ว่ามู่หรงจ่างจี๋ถูกจับกุม พวกเขาสูญเสียความหวังจากนั้นพวกเขาถึงได้ยอมสารภาพความจริง “พวกเราล้วนปฏิบัติตามคำสั่ง...”ที่จับตัวเซียวจั๋วไป ก็เพื่อเลือดของเขาแม้กระทั่งเรื่องที่ว่าปฐมจักรพรรดิกลายเป็นโครงกระดูกไปเมื่อไหร่ พวกเขาก็ยังพูด“ไม่มีเรื่องอย่างการมีชีวิตอมตะ ปฐมจักรพรรดิเป็นโครงกระดูกองหนึ่งแต่แรกแล้ว!“สองร้อยปีก่อน หลังจากมู่หรงจ่างจี๋ขโมยโครงกระดูกออกมา ก็คิดว่าสามารถฟื้นคือชีพปฐมจักรพรรดิให้กลับมามีชีวิตได้ ที่จริงเป็นความคิดเพ้อเจ้อ!“นั่นมันก็คือคนที่ตายไปแล้ว!”น้ำเสียงที่พวกเขาใช้พูดถึงเรื่องนี้มีความเยาะหยันมู่หรงจ่างจี๋อยู่สองร้อยปีมาแล้วที่มู่หรงจ่างจี๋เอาแต่ทำเรื่องไร้ประโยชน์ในสายตาของพวกเขา คนผู้นี้ก็คือคนโง่ผู้หนึ่งเจ้าหน้าที่และเลี่ยอู๋ซินสอบปากคำพวกเขา “พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าปฐมจักรพรรดิไม่มีพระชนม์ชีพมาก่อน? ถ้ามู่หรงจ่างจี๋
ครั้งสุดท้ายที่ได้เข้าเฝ้าปฐมจักรพรรดิ เขาก็นอนป่วยหายใจรวยรินอยู่บนเตียงแล้ว——[จ่างจี๋...น้องรอง เจ้าเข้าใจเราดี เรายังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังทำไม่สำเร็จ ยังไม่ได้จัดตั้งนโยบายบริหารบ้านเมืองใหม่ รัชทายาทก็ยังเด็กนัก...จ่างจี๋เอ๋ย เราเพียงแต่เกลียดที่สวรรค์ใจแคบ ไม่ยอมให้เราอยู่อีกซักสองสามปี ต่อให้เป็นแค่ปีเดียว ให้เราอยู่ต่ออีกซักปีก็ยังดี...อุทกภัยของทางใต้ ความแห้งแล้งของทางเหนือ แคว้นหนานฉีมีศัตรูรอบด้าน แคว้นเป่ยเยี่ยนข่มเหงแคว้นหนานฉี ภายในก็มีกบฏ...จะทำเช่นไรได้เล่า ในเมื่อพญายมต้องการชีวิตของเรา เรา...ก็ได้แต่วางมือ น้องรอง เรื่องในแคว้นเรามอบหมายให้เจ้า เจ้าจงช่วยสนับสนุนองค์รัชทายาท ด้านหนึ่งเจ้าเป็นท่านลุง ทั้งยังเป็นดุจบิดาของเขา น้องรอง เราเชื่อได้เพียงเจ้าเท่านั้น] ภาพของปฐมจักรพรรดิในความทรงจำ กับภาพที่เห็นตรงหน้าทับซ้อนกันมู่หรงจ่างจี๋ร้องไห้สะอึกสะอื้นเบา ๆ เงาแผ่นหลังผอมบาง“พี่ใหญ่! ทุกอย่างที่ท่านต้องการ ข้าทำให้ท่านสำเร็จแล้ว! ท่านจะเป็นอมตะ แคว้นหนานฉีภายใต้การปกครองของท่าน จะต้องเจริญรุ่งเรื่องยิ่งขึ้นไป ภายภาคหน้าจะต้องรวมใต้หล้าเป็นหนึ่ง สร้างคุณูปกา
โลกนี้มักจะมีเรื่องที่ไม่ตรงตามที่ตนเองคิด เลี่ยอู่ซินมาช้าไปก้าวหนึ่ง ตอนที่เขามาถึงคุกเทียนเหลา มู่หรงจ่างจี๋ก็ขาดใจตายไปแล้วครั้นมองศพของมู่หรงจ่างจี๋ หมัดของเลี่ยอู่ซินก็ทุบไปที่กำแพง แล้วตะโกนเสียงต่ำออกมาว่ากันว่าคนดีมักอายุสั้น คนชั่วกลับอยู่เป็นพันปี เป็นเช่นนั้นจริง ๆ !คนอย่างมู่หรงจ่างจี๋มีอายุถึงสองร้อยกว่าปี ทว่าคนอย่างมู่สิงโจว ยังไม่ทันถึงวัยสวมกวานก็ถูกฆ่าตายแล้วเมื่อคิดถึงตรงนี้ ความโกรธเกลียดของเลี่ยอู่ซินก็ทะยานขึ้นฟ้า ทว่ากลับไม่รู้เลยว่าจะระบายไปที่ผู้ใดได้!เนื่องจากอารมณ์ถูกกระตุ้นมากเกินไป เลี่ยอู่ซินที่เพิ่งจะเดินออกจากคุกเทียนเหลา จึงหมดสติไปภายใต้แสงแดดอันร้อนแรงณ วังหลวงเฟิ่งจิ่วเหยียนมาพักอยู่ในตำหนักจื้อเฉินชั่วคราวนางตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่าแล้ว ท้องค่อย ๆ นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด นี่ค่อยทำให้นางรู้สึกว่าที่นางตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องจริง——ข้างในมีเด็กคนหนึ่งกำลังค่อย ๆ เติบโตจริง ๆเซียวอวี้จัดให้หมอหลวงมาตรวจชีพจรนางทุกวันช่วงนี้อาการครรภ์ของนางคงที่ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องดื่มยาบำรุงครรภ์อีก แค่พักผ่อนให้ดีก็พอเรื่องลูก เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ไ
จากการสอบสวนของรุ่ยอ๋อง ลูกน้องของซุนโฉวผู้นั้นรับสารภาพความจริง“พวก…พวกข้าเป็นคนทำเอง“มู่หรงจ่างจี๋ต้องการโลหิตของท่านอ๋องผู้เฒ่า จึงมอบหมายให้ซุนโฉวไปจัดการ“แต่นั่นคือท่านอ๋อง ทั้งยังมีวิชายุทธ์ไร้เทียมทาน ซุนโฉวจึงใช้แผนการยุแยงตะแคงรั่ว ให้ฮ่องเต้องค์ก่อนสงสัยในตัวท่านอ๋องผู้เฒ่า จากนั้นก็แต่งเรื่องราวสร้างความผิดโทษฐานกบฏให้ท่านอ๋องผู้เฒ่า”เรื่องต่อจากนั้น รุ่ยอ๋องรู้ตั้งนานแล้วแม้นบิดาของเขาจะถูกใส่ความ แต่ก็ยังจงรักภักดีต่อราชสำนักหากกษัตริย์ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางจำต้องตายอย่างเลี่ยงไม่ได้จนกระทั่งถูกเนรเทศ บิดาก็ไม่ได้รวบรวมกองทัพเพื่อช่วยเหลือตัวเองเขายังคงหวังว่า ฮ่องเต้องค์ก่อนจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองแต่สุดท้ายก็เดินหมากพลาดไป คาดการณ์ไม่ถึง ว่ากลุ่มค้ามนุษย์โอสถจะรีบร้อนอยากได้ชีวิตของเขา ด้วยการทำร้ายเขา ระหว่างทางที่เขาถูกเนรเทศเมื่อความจริงปรากฏ รุ่ยอ๋องเหมือนได้ปล่อยวางภาระอันหนักอึ้ง แต่ท้ายที่สุดคนตายไปแล้วก็ไม่อาจฟื้นคืนมาได้ ในใจจึงรู้สึกโศกเศร้าเสียใจอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงเขากลับมาถึงจวน ก็เห็นหร่วนฝูอวี้ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ไกล ๆ เหมือ
ระหว่างคิ้วของเซียวอวี้ฉายด้วยความเบิกบาน“ภรรยาร้องสามีรับ จับมือปรองดองเพื่อความสันติ พระสวามีก็คือสามีเช่นกัน”เมื่อรุ่ยอ๋องได้ฟังคำตอบนี้ หัวใจที่แขวนลอยอยู่ด้วยพะว้าพะวง ในที่สุดก็ตกตายสนิทเขารีบประสานมือคารวะ ห้ามว่า“ฝ่าบาท ไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!“ท่านเป็นกษัตริย์ของแคว้น ไยต้องลดตัวไปอยู่ภายใต้อาณัติของสตรีด้วย?“หากคนรู้เข้า เกรงว่าคงหัวเราะเยาะเป็นแน่!”ในยามปกติรุ่ยอ๋องมีนิสัยอ่อนโยนนุ่มนวล แต่พอเป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญ ก็กลายเป็นคนดื้อรั้นขึ้นมาทันทีเซียวอวี้พูดเสียงเข้ม“เราถึงได้บอก ว่าเรื่องนี้ ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไรยิ่งดี”รุ่ยอ๋องบ่นงึมงำในใจที่แท้ฝ่าบาทก็อายเหมือนกัน“ฮองเฮายอมให้ท่านเป็นพระสวามีหรือ?”เซียวอวี้ขมวดคิ้ว “เหตุใดนางต้องไม่ยอม? หรือว่านางยังสามารถแต่งงานกับบุรุษอื่นได้อีก?”รุ่ยอ๋องเกือบพาตัวเองซวย“กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงอยากถามว่า ฮองเฮารู้หรือไม่ ว่าเรื่องนี้ไม่ส่งผลดีต่อฝ่าบาท…”“รุ่ยหลิน เราเห็นเจ้าเป็นสหาย ถึงได้บอกเรื่องนี้กับเจ้า เรื่องที่เราได้ตัดสินใจแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น เจ้าแค่จัดการร
ร่วนฝูอวี้ชอบผู้หญิงมาโดยตลอด ถึงแม้อยู่กับบุรุษ มีเพียงนางเท่านั้นที่กล้าหยอกล้ออีกฝ่ายเท่านั้นพอตอนนี้เผชิญกับคำสารภาพของรุ่ยอ๋อง นางพลันทำตัวไม่ถูกอีกอย่างเห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาชอบผู้ชาย…รุ่ยอ๋องเห็นนางมีปฏิกิริยาขนาดนี้ ก็รีบอธิบาย“พวกเราเคยประสบพบเจอเรื่องราวเหมือน ๆ กันมา หากใช้ชีวิตด้วยกัน มันก็ดีไม่ใช่หรือ?“หากเจ้าไป ข้าก็ต้องแต่งงานกับคนใหม่ คงไม่มีใครเหมือนเจ้า ที่ไม่ร้องขอสิ่งใดกับข้า “อีกอย่างข้ายังต้องคอยระแวงปกปิดตัวตนอีกด้วย เช่นนี้แล้ว สู้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไปไม่ดีกว่าหรือ”เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ หร่วนฝูอวี้ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก“ที่แท้ท่านก็หมายถึงอย่างนี้นี่เอง”นึกว่าเขาคิดไม่ซื่อกับนางจริง ๆ เสียอีก……ความผิดของมู่หรงจ่างจี๋ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน ก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่เหล่าประชาชนยากที่จะเชื่อ มู่หรงจ่างจี๋ผู้นั้นจะมีอายุยืนมาถึงขนาดนี้“คนผู้นี้ต้องมีวิชาอมตะเป็นแน่ แต่เพราะหวั่นเกรงฝ่าบาท จึงถูกประหาร”“คดีมนุษย์โอสถซับซ้อนซ่อนเงื่อน ก่อนหน้านี้บอกว่าผู้ร้ายตัวจริงคือมู่หรงสวี้ ตอนนี้เปิดเผยออกมาว่าเป็นมู่หรงจ่างจี๋ ครั้งนี้คงไม่ผ
“คุณชายเซียว รอก่อนนะ บะหมี่ใกล้จะเสร็จแล้ว!”ขณะที่เหลียนซวงทำในสิ่งที่ชอบ กลับไม่รู้เลยว่าการที่นางทำตัวยุ่งเช่นนี้ สำหรับเซียวจั๋วมันกลับเป็นภาระทางใจไม่นาน บะหมี่ก็เสร็จเหลียนซวงยกมาวางบนโต๊ะ มองเซียวจั๋วด้วยความคาดหวังเต็มเปี่ยม“คุณชายเซียว ขอให้ท่านอายุยืน เหมือนมู่หรงจ่างจี๋…ไม่สิ ๆ ๆ! ปากข้านี่นะ คนชั่วร้ายอย่างมู่หรงจ่างจี๋ คุณชายเซียวจะเหมือนเขาได้อย่างไร”เซียวจั๋วไม่ได้กินบะหมี่ เขาเพียงถามเหลียนซวง“เจ้ามีความสุขหรือไม่?”เหลียนซวงมีสีหน้าชะงักงัน“ข้าก็ต้องดีใจ ที่คนชั่วได้รับผลกรรมแล้ว อีกอย่าง วันนี้หมอยังบอกว่า ดวงตาของท่านเริ่มดีขึ้นแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะกลับมามองเห็นแสงสว่างอีกครั้ง…”“เหลียนซวง ระหว่างข้ากับเจ้าไม่มีทางเป็นไปได้” เซียวจั๋วเม้มปาก เขาเองก็ไม่คิด ว่าสุดท้ายต้องพูดถึงขั้นนี้เหลียนซวงนิ่งงัน จากนั้นก็ยิ้มอย่างปลง ๆ“คุณชายเซียว ข้ารู้ ท่านเป็นถึงเครือญาติของราชวงศ์ ส่วนข้า…”“ไม่เกี่ยวกับเจ้ามีสถานะเช่นไร เหลียนซวง ข้าแก่กว่าเจ้ามาก ไม่อยากให้เจ้าพลอยลำบากไปด้วย”ทันทีที่เหลียนซวงได้ยินคำพูดนี้ นัยน์ตาพลันทอประกาย“ท่านแค่ไม่อยากใ
หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ
หร่วนฝูอวี้สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งบางเบา เดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นทันทีรุ่ยอ๋องจ้องมองนางตาไม่กะพริบ เหงื่อในฝ่ามือก็ยิ่งออกมาก“ข้า ข้ายังมีเอกสารทางการ...”เขาไม่มีประสบการณ์เลย จำต้องดูจากสมุดภาพทว่าคำพูดนี้ เขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้ดวงตาของหร่วนฝูอวี้หรี่ลงทันที สายตาราวกับสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อ“เอกสารทางการ? ข้าว่า เจ้าคงคิดจะหนีกระมัง!”นางก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า พร้อมกับข่มขู่: “มาถึงสถานที่ของข้าแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”พูดจบ นางก็ตรงไปแบกคนขึ้นมาทันทีรุ่ยอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า จะเป็นเหตุการณ์เช่นนี้!ศีรษะของเขาคว่ำลง เมื่อเลือดสูบเข้า ก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้?อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษ!ตึง!หร่วนฝูอวี้โยนเขาลงบนเตียง ไม่ทะนุถนอมแม้แต่น้อยจากนั้นด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย นางก็ถอดเข็มขัดบนตัวของรุ่ยอ๋องออกมาในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ได้สติกลับมา รีบคว้าปกคอเสื้อของตนเองไว้“เจ้าช้าก่อน...”นางร้อนใจจนไม่อาจทนไหว!หร่วนฝูอวี้นั่งอยู่บนเอวของเขา กดมือทั้งสองข้างของเขาวางไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านมองเห็นบุรุษที่ยามปกติมีระเบียบแบบแผน เยือกเ
“เจ้าคิดจะ...มีลูกกับข้า?” คิ้วของรุ่ยอ๋องขมวดปมแน่น จ้องมองหร่วนฝูอวี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเหตุใดจู่ ๆ นางถึงมีความคิดเช่นนี้ได้?เพียงเพื่อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับฮองเฮาหรือ? หร่วนฝูอวี้ยังคงจับปกเสื้อของเขาอยู่ พร้อมกับมองสำรวจเขาด้วยท่าทางของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีลูกแล้วจะอย่างไร?“เจ้ายังจะเรื่องมากอีกรึ?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะอย่างแข็งเกร็ง“ข้าเพียงรู้สึกว่า...”นี่ไม่ปกติเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนขัดขวางการกระทำที่ขาดสติของหร่วนฝูอวี้ได้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การจะมีลูกนั้น มีความหมายอย่างไร“ข้าไม่ใช่คนใจง่ายเช่นนั้น” รุ่ยอ๋องผลักนางออกไปโดยแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับหันหลังให้นาง สายตามองไปยังที่ไกล ๆ“ใจง่ายรึ?” หร่วนฝูอวี้หัวเราะด้วยความโมโห เช่นนั้นก็เท่ากับว่านางเป็นคนใจง่ายรึ?บุรุษสุนัขผู้นี้ ปากช่างร้ายกาจนัก!“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปหาคนอื่น!”หร่วนฝูอวี้พูดได้ทำได้ รุ่ยอ๋องจึงรีบคว้าแขนของนางไว้“เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?!”นางเป็นพระชายาของเขา จะมีสัมพันธ์กับชายอื่นได้อย่างไร?หร่วนฝูอวี้เกลียดท่าทางลั
ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ยืนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งได้ยินว่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองเหล่านี้ต้องการทำตามโอวหยางเหลียน ใช้ความตายมาข่มขู่จิ่วเหยียนวิธีนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนักจนกระทั่งตอนที่เห็นพวกนางเดินออกมา และไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เซียวอวี้ถึงค่อยโล่งใจเหล่าเสนาบดีทำเป็นมองไม่เห็นเขา มีเพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่มองเขาด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกซับซ้อนฮ่องเต้ฉีเสด็จมาที่แคว้นซีหนี่ว์ด้วยพระองค์เอง คิดดูแล้วก็คงกังวลพระทัยว่าประมุขแคว้นจะทรงหวั่นไหว ไม่เสด็จกลับไปหนานฉีอีกเห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่อาจคาดเดาจิตใจของประมุขแคว้นได้ช่างน่าเศร้าจริง ๆเมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ หูย่วนเอ๋อร์ก็รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัวยิ่งไปกว่านั้นคำพูดแต่ละคำของประมุขแคว้นนั้นมีความหมายอันลึกซึ้ง สิ่งที่พวกนางพยายามจะรักษาไว้ อย่างมากเพียงชั่วชีวิตเดียวนี่เหมือนกับการที่หมอรักษาโรค รักษาที่ปลายเหตุมิได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อครู่ประมุขแคว้นเอ่ยกับพวกนางมากมาย ทำให้พวกนางเข้าใจว่า ต้นเหตุที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ก็คือ “บาดแผลภายใน”การกดขี่บุรุษภายในแคว้นมากเกินไป
เสนาบดีที่ช่วยปกครองต่างก็เป็นคนสนิทของอดีตประมุข แต่ละคนล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของราชสำนักพวกนางยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร ถึงอายุจะต่างกัน ทว่าล้วนมีความจงรักภักดีและกล้าหาญ“พวกหม่อมฉันขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตาที่แน่วแน่นางจ้องมองเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ด้านนอกตำหนัก ความแน่วแน่ในดวงตาเจือความหม่นหมอง“ให้พวกนางเข้ามา”ไม่นาน เหล่าเสนาบดีก็ทยอยกันเข้ามาด้านใน หูย่วนเอ๋อร์ที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนแคร่หามนั้นเห็นเด่นชัดที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนวางฎีกาที่อยู่ในมือลง กวาดตามองพวกนางแวบหนึ่ง“ต้องการจะพูดสิ่งใด?”“ท่านประมุขแคว้น พวกหม่อมฉันทราบแล้ว เหตุใดใต้เท้าโอวหยางถึงสิ้นใจ” ลมหายใจของหูย่วนเอ๋อร์สงบนิ่ง ทว่ามองเห็นบาดแผลภายในไม่รุนแรงเสนาบดีคนอื่น ๆ จึงเอ่ยต่อ“ใต้เท้าโอวหยางทำเพื่อความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นซีหนี่ว์ นางอาศัยความตาย ขอร้องให้ประมุขแคว้นทรงอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูสงบนิ่ง มิได้เอ่ยขัดจังหวะคำพูดของพวกนางหูย่วนเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก หันไปโน้มศีรษะให้เฟิ่งจิ่วเห
การตายของโอวหยางเหลียน สำหรับหูย่วนเอ๋อแล้ว เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง ในบรรดาขุนนางใหญ่ของราชสำนัก พวกนางทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่สุด ที่สำคัญกว่านั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป หูย่วนเอ๋อร์มิได้เตรียมใจไว้เลย สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง “บ่าวรู้เพียงว่า ใต้เท้าโอวหยางกินยาพิษฆ่าตัวตายเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์ไม่เชื่อ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไฉนใต้เท้าโอวหยางกลับมาฆ่าตัวตาย? “ต้องมีคนวางแผนสังหารนางเป็นแน่! เรื่องนี้ ท่านประมุขแคว้นทราบหรือไม่!” สาวใช้ผงกศีรษะ “ตอนที่ใต้เท้าโอวหยางเกิดเรื่อง ท่านประมุขแคว้นก็อยู่ที่จวนโอวหยางเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์มีน้ำตาคลอหน่วย รู้สึกเสียใจที่ตนเองบาดเจ็บ จึงไม่สามารถออกไปสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง การตายของโอวหยางเหลียน มิใช่เพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่ตกตะลึงสงสัย ยังสร้างความวุ่นวายในราชสำนักด้วย ในการประชุมราชสำนักวันรุ่งขึ้น หัวข้อที่เหล่าขุนนางเอ่ยถึง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโอวหยางเหลียน เสนาบดีสามรัชสมัยผู้นี้ ไม่มีผลงานอะไรยิ่งใหญ่แต่ก็ทำงานอย่างหนักหน่วง ควรได้รับการเชิดชูหลังสิ้
เมื่อหมอหลวงมาถึง โอวหยางเหลียนก็เสียชีวิตจากพิษแล้ว เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างคุกเข่าลงกับพื้น ส่งเสียงร้องไห้ดังระงมไม่ขาดสาย “ใต้เท้า——” สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจดจ้องไปบนเตียง ที่มีโอวหยางเหลียนนอนอยู่บนนั้น ที่จากไปอย่างเด็ดเดี่ยว ยอมตายเพื่อตักเตือน โอวหยางเหลียนทำเช่นนี้ ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องรับภาระที่หนักหน่วง “ฝังศพอย่างสมเกียรติ” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยสั้น ๆ จบ พลันลุกขึ้นและเดินออกไป เสียงร้องไห้ทางด้านหลังนั้น ราวกับลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของนาง เซียวอวี้ยืนอยู่ที่ข้างประตู ยื่นมือให้นางจับไว้อย่างมั่นคง การตายของโอวหยางเหลียน เปรียบเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงทะเลสาบ สร้างแรงกระเพื่อม แต่ก็สงบลงในที่สุด เขาหาได้สนใจความเป็นหรือตายของโอวหยางเหลียนไม่ สนใจเพียงสุขภาพของจิ่วเหยียนเท่านั้น สีหน้าของนางดูมิสู้ดีเลย “กลับวังก่อนเถิด” เขาตัดสินใจแทนนาง ในรถม้า เฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบจนน่าใจหาย เซียวอวี้ไม่ได้รบกวนนาง เพียงอยู่เคียงข้างนาง และคอยเป็นที่พึ่งพิงให้นางเสมอ หลังจากกลับมาถึงวัง คนทั้งสองนั่งอยู่ข้างเตียง
โอวหยางเหลียนมองเห็นความหวั่นไหวในใจของเฟิ่งจิ่วเหยียน นี่คือสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น “ตั้งแต่เยาว์วัยท่านก็แตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปในหนานฉี “ท่านกำเนิดมาเพื่อแคว้นซีหนี่ว์เพคะ “ท่านก็คงจะคิดด้วยว่า หนานฉีกดขี่สตรีที่มีความสามารถเกินไป “แต่ท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้ “ท่านประมุขแคว้น ท่านเคยคิดหรือไม่ หากท่านให้กำเนิดองค์หญิงรัชทายาท ในแคว้นซีหนี่ว์แห่งนี้ นางจะกลายเป็นประมุขแคว้น ทว่าในหนานฉี นางจะเป็นเพียงองค์หญิง แม้จะได้รับความโปรดปราน แต่ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมของการช่วยเหลือสามีและดูแลบุตรได้ “ในหนานฉี ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถเป็นแม่ทัพหญิงเช่นท่านได้ ฮ่องเต้ฉีองค์ปัจจุบันหลักแหลมกว่าใครอย่างมิต้องสงสัย แต่ทายาทรุ่นหลังเล่า? ท่านประมุขแคว้น ท่านไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูก ๆ ของท่านด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้ตกอยู่ในกับดักชั่วร้ายที่โอวหยางเหลียนสร้างขึ้น ใบหน้าของนางแน่วแน่ “สิ่งที่เจ้าพูด ล้วนอ้างแต่มุมมองของผู้หญิง “ลองคิดอีกมุม หากเราให้กำเนิดองค์ชาย สถานการณ์ของเขาในแคว้นซีหนี่ว์ ก็ไม่ต่างกับสถานการณ์ขององค์หญิงในหนานฉี”
หูย่วนเอ๋อร์ถูกลอบสังหาร โอวหยางเหลียนจึงเสนอให้เซียวอวี้เป็นผู้นำทัพ นี่ยิ่งทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดความสงสัยอย่างเลี่ยงมิได้ นางหันกลับไปมองที่โอวหยางเหลียน “เราคิดว่า เจ้าเหมาะที่จะปกป้องเมืองมากกว่าพระสวามี” มีความแปลกประหลาดในแววตาของโอวหยางเหลียน “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยินดีจะไปเพคะ!” นางรับคำสั่งอย่างง่ายดาย หาได้มีพิรุธไม่ เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ต้องการให้โอวหยางเหลียนเป็นผู้นำทัพจริง ๆ ดวงตาของนางมืดมน กล่าวอย่างสื่อความนัย “ท่านป้าอายุมากแล้ว จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร “เมื่อผ่านพ้นวันเกิดปีที่แปดสิบแล้ว มิลองเกษียณแล้วกลับบ้านเกิด มีชีวิตบั้นปลายที่ดีเล่า” ตามกฎระเบียบของแคว้นซีหนี่ว์ เมื่อขุนนางมีอายุครบเจ็ดสิบห้าปี ก็สมควรเกษียณและกลับบ้านเกิด ม่านตาของโอวหยางเหลียนเบิกกว้าง “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยังทำได้...” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดเสียงลง “นี่คือเกียรติยศสุดท้ายที่เราจะมอบให้ท่าน” ทั้งเรื่องซูถงและการลอบสังหารหูย่วนเอ๋อร์คืนนี้ หากจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับโอวหยางเหลียน นางหาได้เชื่อไม่ นางได้จัดสาย