ฟู่จาวหนิงพ่นคำพูดที่ไม่เกรงใจแม้แต่น้อยออกมาเฮือก!ซ่งอวิ๋นเหยาเกือบจะสำลัก สายตาของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อง มองไปทางซ่งหยวนหลินหยวนหลินบอกกับนางว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว นางเดิมทีคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่พอฟู่จาวหนิงพูดมาเช่นนี้ก็ทำให้นางรู้สึกทันทีว่าฟู่จาวหนิงไม่เหมือนเดิมนี่มันคำหยาบที่หญิงสาวคนไหนพูดออกมากัน?นางเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยนเลยนะ ทำไมถึงพูดคำหยาบคายเช่นนี้ออกมา?"ข้าเห็นแม่นางหลินอยู่ที่ริมบ่อน้ำแห่งหนึ่ง ตอนนั้นนางกำลังเล่นน้ำ เสื้อผ้าเองก็เปียกปอนไปหมด แล้วยังบอกไม่ถูกด้วยว่าบ้านของนางอยู่ที่ไหน ตอนนั้นข้างกายนางเองก็ไม่มีใครเลย ข้าจึงไม่มีทางเลือก ถึงต้องหานางกลับมาที่นี่"ซ่งอวิ๋นเหยาพูดออกมาอย่างอ่อนโยน"เพียงแต่เวลาแค่นี้จึงหาชุดที่เหมาะกับตัวนางไม่ได้ ดังนั้นจึงให้นางเปลี่ยนเป็นชุดนี้ คิดไม่ถึงว่าแม่นางหลินจะชอบชุดนี้มาก หลังจากใส่แล้วก็ฮัมเพลงออกมา ข้ากลัวว่านางกลัวว่าอยู่ที่นี่นางจะไม่คุ้นเคยแล้วก็หวาดกลัว ดังนั้นจึงร้องบอกนางว่าให้นางร้องเพลงให้จบท่านก็จะมารับนางไป"ซ่งอวิ๋นเหยา พูดถึงตรงนี้ก็ยังมีรอยยิ้มเชิงขอโทษ"เดิมทีข้าคิดจะนัดท่านออกมาพ
มือของซ่งหยวนหลินกำผ้าเช็ดมือจนแทบจะจิกนิ้วตนเองเจ็บอยู่แล้วนางเองก็อดทนเอาไว้อย่างเต็มที่ท่าทีที่ยกเข้ามาแต่เดิม จะมาถูกฟู่จาวหนิงทำให้โมโหจนพังไม่ได้"ฟู่จาวหนิง!"ซ่งหยวนหลินกลับร้องขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ฟู่จาวหนิงไม่สนใจนาง จากนั้นก็พูดต่อ ยกมุมปากยิ้ม "ผลลัพธ์ท่านลองเดาดูสิ? ยวนยวนของข้าบอกว่า เขาจำหน้าตาของซ่งอวิ๋นเหยาไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ เอาที่ไหนมาพูดว่าความสัมพันธ์เก่า? ที่เจอกันครั้งที่แล้ว เขายังเป็นเด็กอยู่เลย ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็ยังเป็นแค่ถั่วงอกอยู่เลย ความสัมพันธ์เก่าหรือ?"ฟู่จาวหนิงชะงักไปครู่หนึ่ง หัวเราะขึ้นมาคำหนึ่ง "ความสัมพันธ์เก่าบ้าบ้อ""ฟู่จาวหนิง!"ซ่งหยวนหลินโมโหจนไฟสุมหัวอ๊าๆๆ น่าโมโหเหลือเกิน! ฟู่จาวหนิงทำไมพูดจาแบบนี้ นางทำไมถึงพูดจาแบบนี้!ไฟโกรธนี้ข่มไม่ลงเอาเสียเลยซ่งอวิ๋นเหยากัดเหงือกแน่น โมโหจนข้างหน้ามืดมัวไปหมดไม่ได้ นางจะต้องทนไว้แต่ว่า ถั่วงอก? ความสัมพันธ์เก่าบ้าบอ?นางเป็นถั่วงอก?นางไม่เชื่อว่าเซียวหลันยวนจะพูดเช่นนี้!ฟู่จาวหนิงเองก็ทำให้นางโมโหจนสมองขาวโพลนไปแล้ว ทำให้นางลืมไปเลยว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร"ข้าเชื่อยวนยวนของข้านะ ถึ
หลินอันห่าวพูดซ้ำที่นางบอกมาอีกครั้งอย่างว่าง่าย"ใช่แล้ว พูดแบบนี้เลย เสี่ยวเถาเจ้ารู้จักใช่ไหม?""ใช่"ฟู่จาวหนิงยืนขึ้นมา ตะโกนเรียกไปด้านนอก"เสี่ยวเถาเข้ามา"เสี่ยวเถารีบวิ่งเข้ามา"ส่งอันห่าวไปอยู่ข้างกายน้าสะใภ้รองด้วย บอกไปว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องให้นางกังวลมาก กลับไปแล้วข้าจะบอกนางอีกที" ฟู่จาวหนิงดึงหลินอันห่าว เอ่ยเสียงต่ำกับเสี่ยวเถาเสี่ยวเถาพอเห็นเครื่องสำอางบนหน้าหลินอันห่าวก็บื้อตึงไปแล้ว พอได้ยินคำของนางก็พยักหน้าอย่าเร่งร้อน"คุณหนู แล้วท่าน"คุณหนูอยู่ที่นี่จะมีปัญหาไหม?"ไม่เป็นไร ไปเถอะ"เสี่ยวเถาดึงหลินอันห่าวจะเดินออกไป ซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้จึงได้สติกลับมา "ห้ามไป!"นางเกือบจะถูกฟู่จาวหนิงลงไพ่ไม่ตรงหลักจนวุ่นวายไปหมดแล้ว ตั้งสติกลับมาไม่ทัน"เสี่ยวเถา พาอันห่าวออกไป"ฟู่จาวหนิงไม่สนใจนาง เอ่ยกับด้านนอกว่า "สืออี ปกป้องพวกนางออกไปด้วย ถ้าใครขวางก็สังหารทิ้งเสีย"ด้านนอก สืออีส่งเสียงเย็นขรึมเข้ามา"ขอรับ พระชายา"พระชายาคำเรียกนี้ ซัดลงไปบนหัวใจซ่งอวิ๋นเหยาทันที หน้าของนางขาวซีดไปนางจะต้องสัมผัสได้อย่างชัดเจนแล้วแน่ว่าตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนนั้นมีคน
"ข้ารู้เรื่องที่ฟู่หลินซื่อทำำกับอ๋องเจวี้ยนไว้ในอดีต ดังนั้นอ๋องเจวี้ยนตกลงแต่งงานกับเจ้า จะต้องไม่ได้อยากให้เจ้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจริงๆ แน่ ข้ารู้สึกว่าเขาน่าจะมีแผนอะไรอยู่"ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยาพูดกับฟู่จาวหนิง ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเป็นเช่นนี้ ซ่งอวิ๋นเหยาน่าจะไม่ได้พูดโกหก และไม่ได้พูดเกินจริงด้วย นางน่าจะมีเส้นสายอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นคนเหล่านี้ก็คงจะยอมช่วยตรวจสอบเรื่องอะไรบางอย่างแทนนางจริงๆนางเพิ่งกลับมาไม่กี่วัน ก็ตรวจสอบได้มากขนาดนี้ เห็นได้ว่าซ่งอวิ๋นเหยาก็ไม่ใช่คนโง่ยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็ยังเดาถูกถึงความคดของเซียวหลันยวนด้วย"ข้าอยากจะเตือนเจ้าอย่างจริงใจคำหนึ่ง อย่าคาดหวังอะไรจากอ๋องเจวี้ยน"ซ่งอวิ๋นเหยาพูดถึงจุดนี้อารมณ์ของตนเองก็จัดระเบียบเรียบร้อย เมื่อครู่ถูกฟู่จาวหนิงทำให้โมโหจัด ตอนนี้นางสามารถทำตัวเป็นพี่สาวที่รู้ใจได้แล้ว เหมือนกับคิดแทนฟู่จาวหนิงอย่างไรอย่างนั้นสำหรับจุดนี้ ฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกนับถืออยู่ยิ่งไปกว่านั้นซ่งอวิ๋นเหยายังไม่ยอมให้ซ่งหยวนหลินโมโหเป็นฟืนไฟอีกครั้งด้วย"พวกเราแค่วิเคราะห์ความคิดของอ๋องเจวี้ยนนิดหน่อยก็รู้แล้ว ห
หลังจากตรวจสอบถึงจุดนี้ซ่งอวิ๋นเหยาก็รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อจริงๆนางเคยพบกับเซียวเหยียนจิ่ง และเคยพบกับหลี่จื่อเหยา เพราะว่าสองคนนี้พูดได้ว่าเข้าใจตัวฟู่จาวหนิงมากที่สุดแต่เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาล้วนบอกว่า ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้มองไม่ออกเลยว่าแกล้งทำตัวไม่ได้เรื่อง!ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะมองอย่างไร ฟู่จาวหนิงก็เป็นคนที่ไม่มีความรู้ไม่มีวิชา ไม่เหมือนกับเสแสร้งทำตัวด้วยดังนั้นพวกเขาหลายคนหารือกันนานก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเซียวเหยียนจิงค่อนข้างคิดไปว่าเบื้องหลังฟู่จาวหนิงจะต้องมีใครคอยสอนนางแน่ คนระดับปรมาจารย์อะไรแบบนั้น ซ่งอวิ๋นเหยาคิดๆ แล้วนี่ก็เป็นไปได้มากถึงอย่างไรขนาดอ๋องเจวี้ยนนางก็ยังปีนขึ้นไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ผู้อาวุโสจี้รับนางเป็นศิษย์ได้อีก ถ้าจะพบคนที่ลึกลับอยู่เบื้องหลังนางอีกก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้แต่ว่าคนผู้นี้เป็นใครกัน?ซ่งอวิ๋นเหยารู้สึกว่าอาจจะมีความเป็นไปได้หนึ่ง นั่นก็คือคุณชายฟู่กับฟู่หลินซื่อกลับมาแล้วพ่อของฟู่จาวหนิง ขนาดซ่งอวิ๋นเหยาเองก็ยังเคยได้ยินชื่อเสียงเขามา นั่นก็เป็นยอดคนคนหนึ่งจริงๆครั้งนั้นถ้าไม่ใช่ฟู่หลินซื่อเกิดเรื่อง ไม่แน่ว่าตอ
"ให้ข้าจากไปเอง?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ดังนั้นนี่คือความคิดของซ่งอวิ๋นเหยาหรือ?"แน่นอน ข้ารู้ เจ้าเองกว่าจะได้มาเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน คิดว่าข้าจะให้เจ้าปล่อยวางไปเปล่าๆ หรือ ดังนั้น ข้าจะให้ของที่ดีกว่ากับเจ้า"ซ่งอวิ๋นเหยาหันข้างเข้าหานาง กระซิบเสียงต่ำ "ตระกูลฟู่ของเจ้าในแคว้นเจาตอนนี้เป็นแค่ตระกูลตกอับ ยิ่งไปกว่านั้นสมัยก่อนเจ้าเองก็ทำเรื่องน่าขำเรื่องโง่เง่าไปไม่น้อย ในแคว้นเจา อันที่จริงเจ้าอยู่อย่างนี้ต่อไปก็ไม่มีความหมาย ข้าสามารถให้เจ้าไปที่ต้าชื่อ แล้วให้ต้าชื่อเปลี่ยนตัวตนฐานะให้เจ้าได้เริ่มใหม่""เจ้าสามารถเป็นสตรีชั้นสูงที่รู้จักคุ้นเคยกระทั่งองค์รัชทายาท เบียดตัวเข้าวงคนชั้นสูง ใช้วิชาแพทย์ของเจ้าจุดนี้ ข้าสามารถช่วยเจ้ากลายเป็นเหมือนปลาได้น้ำในกลุ่มคุณหนูฮูหยินกระทั่งกลุ่มองค์หญิงท่านหญิงได้เลย ถึงตอนนั้นตัวตนฐานะของเจ้าจะแตกต่างจากตอนนี้แล้ว""แล้วก็ ข้ายังสามารถใช้เส้นสายทั้งหมดช่วยเจ้าตามหาพ่อแม่ ให้บ้านพวกเจ้ากลับมารวมกันอีกครั้งได้"พูดถึงคำนี้ ซ่งอวิ๋นเหยายังจ้องเขม็งที่ฟู่จาวหนิง สังเกตสีหน้าของนางดูว่าตอนที่พูดถึงพ่อแม่ของนาง ฟู่จาวหนิงจ
"วันนี้แค่เจ้าพักในหอจันทร์หยาดนี้สักคืน อ๋องเจวี้ยนจะยอมรับคำขอหย่าจากเจ้าเอง"ที่แท้นี่คือเป้าหมายหลักของนางสินะให้นางค้างคืนที่หอจันทร์หยาดนี้คืนหนึ่งหรือ?ดูแล้วถ้านางรับปากจริง วันนี้ตอนกลางคืนหอจันทร์หยาดแห่งนี้น่าจะมีเรื่องอะไรรอนางอยู่สินะ"ข้ารู้สึกว่า แผนการนี้ของเจ้าเดิมทีก็ดูดีมากอยู่" ฟุ่จาวหนิงจู่ๆ ก็ยิ้มขึ้นมา"เดิมที?""ถูกต้อง เดิมทีก็ดูดีมากอยู่ เพียงแต่ข้าคิดไม่เข้าใจ ทำไมเจ้าต้องดึงอันห่าวเข้ามา"ฟู่จาวหนิงคิดจุดนี้ไม่เข้าใจซ่งอวิ๋นเหยางงงัน"ข้ามาเจอหลินอันห่าวอย่างบังเอิญจริงๆ และช่วยเหลือนางไว้พอดี แน่นอน หลังจากพานางมาที่หอจันทร์หยาดข้าก็เพิ่งนึกออกว่าสามารถใช้นางเพื่อให้เจ้ามาตามนัดได้เร็วขึ้น ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะไม่มาก็ได้นี่?"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ก็รู้ว่านางไม่ได้พูดความจริงจนกระทั่งนางค่อยๆ รู้สึกว่าร่างกายตนเองเริ่มร้อน ฟู่จาวหนิงถึงนึกออก ซ่งอวิ๋นเหยายังมีวิธีการมากกว่าที่นางคิดเอาไว้สายตานางกวาดไปยังเตาเหล่านั้นเมื่อครู่ตอนที่เพิ่งเข้ามานางก็ลองดมดูอย่างละเอียดแล้ว ในนี่ไม่มีกลิ่นหอมประหลาดอะไรแต่ว่าตอนนี้นางพบว่าหลังจากที่น
ซ่งอวิ๋นเหยาตรวจสอบเรื่องมาไม่น้อยเลยอย่างคนที่ตระกูลฟู่ค่อนข้างให้ความสำคัญในตอนนี้ หรือก็คือเซี่ยซือฮูหยินรองหลินกับลูกสาวของนางหลินอันห่าวนี่เรื่องมาจากก่อนหน้าพิธีเดิมพันโอสถ เซี่ยซื่อพาหลินอันห่าวไปบ้านตระกูลฟู่รอบหนึ่งและครั้งนั้นหมอเฉียนก็ยังส่งคนไปลงมือกับหลินอันห่าวอย่างไม่ยอมปล่อยวางอีกด้วย จนเรื่องราวบานปลายใหญ่โต ต่อมาตอนพิธีเดิมพันโอสถ ฟู่จาวหนิงก็จับจ้องไปยังหมอเฉียนอยู่พักหนึ่งซ่งอวิ๋นเหยาส่งคนไปตรวจสอบ และตรวจสอบเรื่องนี้มาได้ หมอเฉียนยังพูดว่าฟู่จาวหนิงเพ่งเล็งเขาโดยเฉพาะเพราะเรื่องนั้นประโยคนี้ ซ่งอวิ๋นเหยาจดจำไว้ในใจที่ทำให้ฟู่จาวหนิงเพ่งเล็งไปยังหมอเฉียนหมอหม่าได้ นี่ก็อธิบายได้ว่านางเป็นห่วงเซี่ยซื่อกับหลินอันห่าวมากผู้เฒ่าฟู่อยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน ยิ่งไปกว่านั้นนางยังให้คนไปตรวจสอบออกี ว่าบ้านตระกูลฟู่มีกี่คนที่คอยคุ้มกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถดึงผู้เฒ่าฟู่ออกมา ไม่อาจลงมือกับพวกเขาได้เช่นนั้นนางก็ต้องพุ่งไปที่หลินอันห่าวเท่านั้นแล้วและตามคาด ฟู่จาวหนิงพอเห็นหลินอันห่าวถูกแต่งตัวเป็นเหมือนนางคณิกา ก็โมโหจนปอดแทบฉีกต่อให้นางดูแล้วเหมือนจะควบคุมไว
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ
เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก
เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน
เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ
เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ