มือของซ่งหยวนหลินกำผ้าเช็ดมือจนแทบจะจิกนิ้วตนเองเจ็บอยู่แล้วนางเองก็อดทนเอาไว้อย่างเต็มที่ท่าทีที่ยกเข้ามาแต่เดิม จะมาถูกฟู่จาวหนิงทำให้โมโหจนพังไม่ได้"ฟู่จาวหนิง!"ซ่งหยวนหลินกลับร้องขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ฟู่จาวหนิงไม่สนใจนาง จากนั้นก็พูดต่อ ยกมุมปากยิ้ม "ผลลัพธ์ท่านลองเดาดูสิ? ยวนยวนของข้าบอกว่า เขาจำหน้าตาของซ่งอวิ๋นเหยาไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ เอาที่ไหนมาพูดว่าความสัมพันธ์เก่า? ที่เจอกันครั้งที่แล้ว เขายังเป็นเด็กอยู่เลย ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็ยังเป็นแค่ถั่วงอกอยู่เลย ความสัมพันธ์เก่าหรือ?"ฟู่จาวหนิงชะงักไปครู่หนึ่ง หัวเราะขึ้นมาคำหนึ่ง "ความสัมพันธ์เก่าบ้าบ้อ""ฟู่จาวหนิง!"ซ่งหยวนหลินโมโหจนไฟสุมหัวอ๊าๆๆ น่าโมโหเหลือเกิน! ฟู่จาวหนิงทำไมพูดจาแบบนี้ นางทำไมถึงพูดจาแบบนี้!ไฟโกรธนี้ข่มไม่ลงเอาเสียเลยซ่งอวิ๋นเหยากัดเหงือกแน่น โมโหจนข้างหน้ามืดมัวไปหมดไม่ได้ นางจะต้องทนไว้แต่ว่า ถั่วงอก? ความสัมพันธ์เก่าบ้าบอ?นางเป็นถั่วงอก?นางไม่เชื่อว่าเซียวหลันยวนจะพูดเช่นนี้!ฟู่จาวหนิงเองก็ทำให้นางโมโหจนสมองขาวโพลนไปแล้ว ทำให้นางลืมไปเลยว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร"ข้าเชื่อยวนยวนของข้านะ ถึ
หลินอันห่าวพูดซ้ำที่นางบอกมาอีกครั้งอย่างว่าง่าย"ใช่แล้ว พูดแบบนี้เลย เสี่ยวเถาเจ้ารู้จักใช่ไหม?""ใช่"ฟู่จาวหนิงยืนขึ้นมา ตะโกนเรียกไปด้านนอก"เสี่ยวเถาเข้ามา"เสี่ยวเถารีบวิ่งเข้ามา"ส่งอันห่าวไปอยู่ข้างกายน้าสะใภ้รองด้วย บอกไปว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องให้นางกังวลมาก กลับไปแล้วข้าจะบอกนางอีกที" ฟู่จาวหนิงดึงหลินอันห่าว เอ่ยเสียงต่ำกับเสี่ยวเถาเสี่ยวเถาพอเห็นเครื่องสำอางบนหน้าหลินอันห่าวก็บื้อตึงไปแล้ว พอได้ยินคำของนางก็พยักหน้าอย่าเร่งร้อน"คุณหนู แล้วท่าน"คุณหนูอยู่ที่นี่จะมีปัญหาไหม?"ไม่เป็นไร ไปเถอะ"เสี่ยวเถาดึงหลินอันห่าวจะเดินออกไป ซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้จึงได้สติกลับมา "ห้ามไป!"นางเกือบจะถูกฟู่จาวหนิงลงไพ่ไม่ตรงหลักจนวุ่นวายไปหมดแล้ว ตั้งสติกลับมาไม่ทัน"เสี่ยวเถา พาอันห่าวออกไป"ฟู่จาวหนิงไม่สนใจนาง เอ่ยกับด้านนอกว่า "สืออี ปกป้องพวกนางออกไปด้วย ถ้าใครขวางก็สังหารทิ้งเสีย"ด้านนอก สืออีส่งเสียงเย็นขรึมเข้ามา"ขอรับ พระชายา"พระชายาคำเรียกนี้ ซัดลงไปบนหัวใจซ่งอวิ๋นเหยาทันที หน้าของนางขาวซีดไปนางจะต้องสัมผัสได้อย่างชัดเจนแล้วแน่ว่าตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนนั้นมีคน
"ข้ารู้เรื่องที่ฟู่หลินซื่อทำำกับอ๋องเจวี้ยนไว้ในอดีต ดังนั้นอ๋องเจวี้ยนตกลงแต่งงานกับเจ้า จะต้องไม่ได้อยากให้เจ้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจริงๆ แน่ ข้ารู้สึกว่าเขาน่าจะมีแผนอะไรอยู่"ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยาพูดกับฟู่จาวหนิง ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเป็นเช่นนี้ ซ่งอวิ๋นเหยาน่าจะไม่ได้พูดโกหก และไม่ได้พูดเกินจริงด้วย นางน่าจะมีเส้นสายอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นคนเหล่านี้ก็คงจะยอมช่วยตรวจสอบเรื่องอะไรบางอย่างแทนนางจริงๆนางเพิ่งกลับมาไม่กี่วัน ก็ตรวจสอบได้มากขนาดนี้ เห็นได้ว่าซ่งอวิ๋นเหยาก็ไม่ใช่คนโง่ยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็ยังเดาถูกถึงความคดของเซียวหลันยวนด้วย"ข้าอยากจะเตือนเจ้าอย่างจริงใจคำหนึ่ง อย่าคาดหวังอะไรจากอ๋องเจวี้ยน"ซ่งอวิ๋นเหยาพูดถึงจุดนี้อารมณ์ของตนเองก็จัดระเบียบเรียบร้อย เมื่อครู่ถูกฟู่จาวหนิงทำให้โมโหจัด ตอนนี้นางสามารถทำตัวเป็นพี่สาวที่รู้ใจได้แล้ว เหมือนกับคิดแทนฟู่จาวหนิงอย่างไรอย่างนั้นสำหรับจุดนี้ ฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกนับถืออยู่ยิ่งไปกว่านั้นซ่งอวิ๋นเหยายังไม่ยอมให้ซ่งหยวนหลินโมโหเป็นฟืนไฟอีกครั้งด้วย"พวกเราแค่วิเคราะห์ความคิดของอ๋องเจวี้ยนนิดหน่อยก็รู้แล้ว ห
หลังจากตรวจสอบถึงจุดนี้ซ่งอวิ๋นเหยาก็รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อจริงๆนางเคยพบกับเซียวเหยียนจิ่ง และเคยพบกับหลี่จื่อเหยา เพราะว่าสองคนนี้พูดได้ว่าเข้าใจตัวฟู่จาวหนิงมากที่สุดแต่เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาล้วนบอกว่า ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้มองไม่ออกเลยว่าแกล้งทำตัวไม่ได้เรื่อง!ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะมองอย่างไร ฟู่จาวหนิงก็เป็นคนที่ไม่มีความรู้ไม่มีวิชา ไม่เหมือนกับเสแสร้งทำตัวด้วยดังนั้นพวกเขาหลายคนหารือกันนานก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเซียวเหยียนจิงค่อนข้างคิดไปว่าเบื้องหลังฟู่จาวหนิงจะต้องมีใครคอยสอนนางแน่ คนระดับปรมาจารย์อะไรแบบนั้น ซ่งอวิ๋นเหยาคิดๆ แล้วนี่ก็เป็นไปได้มากถึงอย่างไรขนาดอ๋องเจวี้ยนนางก็ยังปีนขึ้นไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ผู้อาวุโสจี้รับนางเป็นศิษย์ได้อีก ถ้าจะพบคนที่ลึกลับอยู่เบื้องหลังนางอีกก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้แต่ว่าคนผู้นี้เป็นใครกัน?ซ่งอวิ๋นเหยารู้สึกว่าอาจจะมีความเป็นไปได้หนึ่ง นั่นก็คือคุณชายฟู่กับฟู่หลินซื่อกลับมาแล้วพ่อของฟู่จาวหนิง ขนาดซ่งอวิ๋นเหยาเองก็ยังเคยได้ยินชื่อเสียงเขามา นั่นก็เป็นยอดคนคนหนึ่งจริงๆครั้งนั้นถ้าไม่ใช่ฟู่หลินซื่อเกิดเรื่อง ไม่แน่ว่าตอ
"ให้ข้าจากไปเอง?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ดังนั้นนี่คือความคิดของซ่งอวิ๋นเหยาหรือ?"แน่นอน ข้ารู้ เจ้าเองกว่าจะได้มาเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน คิดว่าข้าจะให้เจ้าปล่อยวางไปเปล่าๆ หรือ ดังนั้น ข้าจะให้ของที่ดีกว่ากับเจ้า"ซ่งอวิ๋นเหยาหันข้างเข้าหานาง กระซิบเสียงต่ำ "ตระกูลฟู่ของเจ้าในแคว้นเจาตอนนี้เป็นแค่ตระกูลตกอับ ยิ่งไปกว่านั้นสมัยก่อนเจ้าเองก็ทำเรื่องน่าขำเรื่องโง่เง่าไปไม่น้อย ในแคว้นเจา อันที่จริงเจ้าอยู่อย่างนี้ต่อไปก็ไม่มีความหมาย ข้าสามารถให้เจ้าไปที่ต้าชื่อ แล้วให้ต้าชื่อเปลี่ยนตัวตนฐานะให้เจ้าได้เริ่มใหม่""เจ้าสามารถเป็นสตรีชั้นสูงที่รู้จักคุ้นเคยกระทั่งองค์รัชทายาท เบียดตัวเข้าวงคนชั้นสูง ใช้วิชาแพทย์ของเจ้าจุดนี้ ข้าสามารถช่วยเจ้ากลายเป็นเหมือนปลาได้น้ำในกลุ่มคุณหนูฮูหยินกระทั่งกลุ่มองค์หญิงท่านหญิงได้เลย ถึงตอนนั้นตัวตนฐานะของเจ้าจะแตกต่างจากตอนนี้แล้ว""แล้วก็ ข้ายังสามารถใช้เส้นสายทั้งหมดช่วยเจ้าตามหาพ่อแม่ ให้บ้านพวกเจ้ากลับมารวมกันอีกครั้งได้"พูดถึงคำนี้ ซ่งอวิ๋นเหยายังจ้องเขม็งที่ฟู่จาวหนิง สังเกตสีหน้าของนางดูว่าตอนที่พูดถึงพ่อแม่ของนาง ฟู่จาวหนิงจ
"วันนี้แค่เจ้าพักในหอจันทร์หยาดนี้สักคืน อ๋องเจวี้ยนจะยอมรับคำขอหย่าจากเจ้าเอง"ที่แท้นี่คือเป้าหมายหลักของนางสินะให้นางค้างคืนที่หอจันทร์หยาดนี้คืนหนึ่งหรือ?ดูแล้วถ้านางรับปากจริง วันนี้ตอนกลางคืนหอจันทร์หยาดแห่งนี้น่าจะมีเรื่องอะไรรอนางอยู่สินะ"ข้ารู้สึกว่า แผนการนี้ของเจ้าเดิมทีก็ดูดีมากอยู่" ฟุ่จาวหนิงจู่ๆ ก็ยิ้มขึ้นมา"เดิมที?""ถูกต้อง เดิมทีก็ดูดีมากอยู่ เพียงแต่ข้าคิดไม่เข้าใจ ทำไมเจ้าต้องดึงอันห่าวเข้ามา"ฟู่จาวหนิงคิดจุดนี้ไม่เข้าใจซ่งอวิ๋นเหยางงงัน"ข้ามาเจอหลินอันห่าวอย่างบังเอิญจริงๆ และช่วยเหลือนางไว้พอดี แน่นอน หลังจากพานางมาที่หอจันทร์หยาดข้าก็เพิ่งนึกออกว่าสามารถใช้นางเพื่อให้เจ้ามาตามนัดได้เร็วขึ้น ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะไม่มาก็ได้นี่?"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ก็รู้ว่านางไม่ได้พูดความจริงจนกระทั่งนางค่อยๆ รู้สึกว่าร่างกายตนเองเริ่มร้อน ฟู่จาวหนิงถึงนึกออก ซ่งอวิ๋นเหยายังมีวิธีการมากกว่าที่นางคิดเอาไว้สายตานางกวาดไปยังเตาเหล่านั้นเมื่อครู่ตอนที่เพิ่งเข้ามานางก็ลองดมดูอย่างละเอียดแล้ว ในนี่ไม่มีกลิ่นหอมประหลาดอะไรแต่ว่าตอนนี้นางพบว่าหลังจากที่น
ซ่งอวิ๋นเหยาตรวจสอบเรื่องมาไม่น้อยเลยอย่างคนที่ตระกูลฟู่ค่อนข้างให้ความสำคัญในตอนนี้ หรือก็คือเซี่ยซือฮูหยินรองหลินกับลูกสาวของนางหลินอันห่าวนี่เรื่องมาจากก่อนหน้าพิธีเดิมพันโอสถ เซี่ยซื่อพาหลินอันห่าวไปบ้านตระกูลฟู่รอบหนึ่งและครั้งนั้นหมอเฉียนก็ยังส่งคนไปลงมือกับหลินอันห่าวอย่างไม่ยอมปล่อยวางอีกด้วย จนเรื่องราวบานปลายใหญ่โต ต่อมาตอนพิธีเดิมพันโอสถ ฟู่จาวหนิงก็จับจ้องไปยังหมอเฉียนอยู่พักหนึ่งซ่งอวิ๋นเหยาส่งคนไปตรวจสอบ และตรวจสอบเรื่องนี้มาได้ หมอเฉียนยังพูดว่าฟู่จาวหนิงเพ่งเล็งเขาโดยเฉพาะเพราะเรื่องนั้นประโยคนี้ ซ่งอวิ๋นเหยาจดจำไว้ในใจที่ทำให้ฟู่จาวหนิงเพ่งเล็งไปยังหมอเฉียนหมอหม่าได้ นี่ก็อธิบายได้ว่านางเป็นห่วงเซี่ยซื่อกับหลินอันห่าวมากผู้เฒ่าฟู่อยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน ยิ่งไปกว่านั้นนางยังให้คนไปตรวจสอบออกี ว่าบ้านตระกูลฟู่มีกี่คนที่คอยคุ้มกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถดึงผู้เฒ่าฟู่ออกมา ไม่อาจลงมือกับพวกเขาได้เช่นนั้นนางก็ต้องพุ่งไปที่หลินอันห่าวเท่านั้นแล้วและตามคาด ฟู่จาวหนิงพอเห็นหลินอันห่าวถูกแต่งตัวเป็นเหมือนนางคณิกา ก็โมโหจนปอดแทบฉีกต่อให้นางดูแล้วเหมือนจะควบคุมไว
สาเหตุที่ตอนนี้ยังไม่ไปแต่ยังอยู่ที่นี่ เพราะอยากจะเห็นว่าซ่งอวิ๋นเหยาถัดจากนี้เตรียมแผนอะไรไว้"หลิงเล่อ"เสียงหนึ่งดังเข้ามาแต่ไกลฟู่จาวหนิงพอได้ยินเสียงนี้ก็จำได้ทันที เสียงของเซียวเหยียนจิ่งนางเข้าใจแผนการของซ่งอวิ๋นเหยาขึ้นมาทันทีถ้าเป็นเซียวเหยียนจิ่งล่ะก็ ต่อให้ไม่สมเหตุสมผลแค่ไหน ถ้ายังมีเรื่องที่นางเอาแต่วิ่งไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งของเมื่อก่อนอยู่ล่ะก็ เป็นใครใครก็เชื่อ!แต่คนที่เซียวเหยียนจิ่งเรียกคือใครกัน?หลิงเล่อ?เสียงฝีเท้ามาถึงนอกศาลาเรือนนี้ ประตูเรือนล้วนถูกบังไว้หมด ด้านนอกศาลามีม่านบังไว้ แล้วยังจุดเตาเติมส่วนผสมลงไป ใครเข้ามาก็คงติดกับกันทั้งนั้นซ่งอวิ๋นเหยาพวกนางก่อนหน้านี้จะต้องกิจยาแก้พิษไว้แล้วแต่เซียวเหลียนจิ่งนี่มันอย่างไรกัน?ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้?"ท่านหญิงหลิงเล่อ ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะนัดข้าออกมา ข้ามาแล้ว หลิงเล่อท่านมีเรื่องอะไรคุยกับข้าหรือ?"เซียวเหยียนจิ่งพอเข้ามาในศาลา ฟู่จาวหนิงก็ได้กลิ่นสุราเข้มข้นลอยเข้ามาแล้วได้ยินว่าเซียวเหยียนจิ่งมาที่หอจันทร์หยาดเพราะชอบสุรา ตอนแรกสุดนางยังคิดจะหมักเหล้าไปขายด้วยซ้ำ แต่ว่าหลังจากเห็นผ
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง
ผู้อาวุโสจี้รู้ว่า จะเตือนไม่ให้ฟู่จาวหนิงไปเมืองเจ้อนั้นเป็นไปไม่ได้การตัดสินใจที่นางพูดออกมา ไม่มีทางเปลี่ยนยิ่งไปวก่านั้น วิชาหมอของนางเองก็ดีขนาดนี้ ไปสถานที่แบบนั้นจะต้องช่วยเหลือชีวิตได้มากมายแน่นอน ผู้อาวุโสจี้ที่ทั้งใจเต็มไปด้วยความดีงามก็ไม่กล้าที่จะห้ามปรามแต่เขาเองก็ยังเป็นห่วงฟู่จาวหนิง"เมืองเจ้อทางนั้นผู้ประสบภัยมากเกินไป จะต้องวุ่นวายแน่นอน เจ้าไปที่นั่นความปลอดภัยเป็นปัญหา ต้องระวังหน่อย แล้วอ๋องเจวี้ยนจัดแจงให้แล้วหรือยัง? เจ้าคงต้องพาองครักษ์ไปมากหน่อย"ถึงแม้ถ้าผู้ประสบภัยก่อจราจลขึ้นมา ต่อให้มีองครักษ์มากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ แต่พาไปหน่อยก็ยังดีกว่าไม่พาไป"เจ้ามีของแปลกๆ ตอนสกัดยาเยอะไม่ใช่หรือ? ทำยาที่เอาไว้ทำให้คนล้มวงกว้างๆ ไว้เยอะหน่อย ถ้าถึงเวลาต้องใช้จริง เจ้าก็ไม่ต้องสนอะไร สาดยาออกไปเลย รักษาตัวเองไว้ก่อนเป็นสำคัญ""ฮ่าๆ ท่านอาจารย์ สอนลูกศิษย์แบบนี้ได้เหรอ?"ฟู่จาวหนิงอดขำขึ้นมาไม่ได้ ผู้อาวุโสจี้สอนให้นางใช้ยาสลบกับผู้ประสบภัยเนี่ยนะผู้อาวุโสจี้ถลึงตา "แค่นี้จะเป็นอะไรไป? ทำอะไรก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ความปลอดภัยของเจ้าสำคัญที่สุด!""ข้าย
"ศิษย์น้องหญิงเจ้าไปงานรับบริจาคของฮ่าวปิงมาหรือ?" ต่งฮ่วนจือเงยหน้ามองนาง"เปล่า ข้าตบนางไปฉาดหนึ่งด้วยซ้ำ"ฟู่จาวหนิงไม่ไว้หน้าเขาเลย เอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ตั้งแต่ต้นจนจบเล่าออกมาอย่างละเอียดรอบหนึ่ง"ดังนั้น ศิษย์พี่รอง ข้าตอนนี้ข้าจะเน้นกับท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เข้าไม่ถูกกับเฉินฮ่าวปิง ถ้านางยังคิดจะมาทำอะไรต่อหน้าข้าอีกจะไม่จบแค่ตบหน้าแล้ว เรื่องที่นางทำมันโง่เง่ามาก ยิ่งไปกว่นั้นนางยังโกรธแค้นแล้วมองข้าเป็ฯศัตรูอีก"ฟู่จาวหนิงกดเสียงต่ำ "ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่เป็นอะไรกับพวกนางข้าไม่สนใจ แต่หลังจากนี้ ถ้าหากศิษย์พี่ยังยืนยันจะยืนอยู่ฝั่งนางทางนั้น ยังคิดจะปกป้องนาง เช่นนั้นข้าก็จะขีดเส้นกั้นกับศิษย์พี่แล้ว"ผู้อาวุโสจี้มองต่งฮ่วนจือหน้าขรึม"หลายปีนี้เจ้าเอาแต่ปกป้องแม่ลูกอย่างพวกนาง แล้วมองไม่ออกถึงความใจร้ายของนังเด็กนั่นเลยหรือ? หลังจากนางถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิงก็ไม่มาสนใจเจ้าอีก เจ้าคิดว่านางยังจำบุญคุณของเจ้าได้ไหม? เจ้าคิดว่าตนเองกับนางมีความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัว แต่นางก็แค่หลอกใช้เจ้า""ถึงอย่างไรคนที่โง่แบบเจ้าก็มีไม่เยอะ! ต่งฮ่วนจือ ศิษย์น้องหญิงของเจ้าพู
ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ"ศิษย์พี่ พวกเราจะซื้อวัตถุดิบยาในราคาเดิม ไม่ต้องลดราคา แค่นี้ได้ไหม?""ถ้าอย่างนี้ก็ได้อยู่...""ต่ง ! ฮ่วน ! จือ!"ผู้อาวุโสจี้โกรธเป็นฟืนไฟแล้วจริงๆ"ท่านอาจารย์ สงบลงก่อน" ฟู่จาวหนิงรีบเดินไปอยู่ข้างๆ ผู้อาวุโสจี้ รินน้ำชาให้กับเขา "ศิษย์พี่ทำงานอย่างเข้มงวด เข้าต้องทำตามกฏการทำงานของพันธมิตรโอสถ อย่าทำให้เขาลำบากใจเลย""อาจารย์ เรื่องนี้ไม่ได้จะคุยกันลกบาก ข้าแค่ต้องใช้เวลาไปคำนวณต้นทุนของวัตถุดิบยาชนิดต่างๆ หน่อย ถึงตอนนั้นก็จะคำนวณส่วนลดลงมาได้"ต่งฮ่วนจือลุกขึ้นยืน ไม่กล้านั่งลงมา"แต่ถ้าศิษย์น้องหญิงไม่ต้องการลดต้นทุนสี่ส่วนล่ะก็ ข้าทางนี้จะหักกำไรทั้งหมดออกได้ ยิ่งไปกว่นั้น พวกเรายังสามารถบริจาควัตถุดิบยาที่ค่อนข้างพิเศษบางอย่างได้นิดหน่อยด้วย ข้าทางนี้ยังมีส่วนที่เหลืออยู่ เพราะสาขาย่อยเมืองเจ้อทางนั้นไม่มีวัตถุดิบยาชนิดนี้ ดังนั้นสิ่งนี้ข้ามอบให้ได้..."ต่งฮ่วนจือพยายามจะอธิบาย"ตัวข้าเองก็ยังบริจาคเงินช่วยได้ เงินพวกนี้เอาไปเพิ่มกับเงินที่ซื้อวัตถุดิบยาก็พอแล้ว ท่านอาจารย์ ข้าไม่ได้ตระหนี่ถี่เหนียวเสียหน่อย""เฮอะ" ผู้อาวุโสจี้โมโหจนหัวเราะ "
ต่งฮ่วนจือหลายวันนี้ดูผ่านไปแบบซึมเศร้าอยู่ ตอนนี้สีหน้าก็ยังไม่ค่อยดีนัก พูดจาเองก็ยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเขาพยายามอธิบายจุดนี้"วัตถุดิบยาชุดใหญ่ที่อ๋องเจวี้ยนต้องการ ก็ล้วนเป็นวัตถุดิบยารักษาหวัดหรืออาการบาดเจ็บภายนอกทั้งนั้น เป็นของที่หาได้ทั่วไป แล้วก็เป็นพวกที่ราคาถูกำไรน้อยพวกนั้น หลายอย่างพวกเราเก็บกำไรแค่หนึ่งถึงสองส่วน รักษาไม่ให้พันธมิตรโอสถต้องขาดทุน ถ้าหากวัตถุดิบยาเหล่านี้ลดราคาต้นทุนไปสี่ส่วน บัญชีของพันธมิตรก็จะมีช่องว่างเบ้อเร่อเลย"ต่งฮ่วนจือบอกกับฟู่จาวหนิงอย่างจนใจ "ศิษย์น้องหญิง ถ้าแบบนี้บัญชีที่ข้าต้องส่งให้พันธมิตรสาขาตอนครึ่งปีจะอธิบายลำบากเอา"เข้าใจ ก็คือ ขาดทุนนั่นล่ะฟู่จาวหนิงยังไม่ทันพูด ผู้อาวุโสจี้ก็ร้องเชอะขึ้นมา "นี่มีอะไรพูดลำบากกัน? ข้าบอกให้เจ้าโยนทั้งหมดมาที่ตัวข้าแล้ว""ท่านอาจารย์ นี่มันทำได้ที่ไหนกัน? ถึงอย่างไรข้าก็ดูแลสาขาของเมืองหลวงนะ เป็นข้าที่ต้องรับผิดชอบ" ต่งฮ่วนจือเองก็ทำเรื่องอย่างการผลักภาระทุกอย่างไปให้อาจารย์หมดไม่ได้"เจ้าเอาแต่กลัวนั่นกลัวนี่ กล้าๆ กลัวๆ ก็แค่เพราะเจ้าเพิ่งมารับช่วงดูแลที่นี่ กลัวจะทำเรื่องโดดเด่นออกมาไม่ได้
เรื่องนี้เจ้ากลับไปถามพ่อเจ้าดู พวกเจาจะเอาของออกมาได้แค่ไหน ข้าจะใช้เงินที่ได้มาจากพวกนาง แล้วข้าเองก็จะเติมเข้าไปส่วนหนึ่ง หลังจากซื้อกับเจ้าทางนั้นก็จะขนไปที่เมืองเจ้อถึงแม้นางจะไม่อยากถูกเฉินฮ่าวปิงชี้นิ้วสั่ง แต่แผนของเฉินฮ่าวปิง ก็มีบางส่วนที่ตรงกับแผนการของนางพอดี"พ่อของข้าอันที่จริงช่วงนี้ก็เตรียมของเอาไว้แล้วส่วนหนึ่ง" ฟางซือฉิงรู้สึกเชิงขอโทษขึ้นมา "ก่อนหน้านี้ตอนที่สถานที่อื่นเกิดภัยพิบัติ พ่อแม่ข้าก็บริจาคสิ่งของกับเงินไป""ผู้เฒ่าฟางไม่เคยบอกมาก่อนหรือ?""ไม่เลย ท่านพ่อบอกข้าว่า ทำเรื่องเหล่านี้ต้องทำด้วยใจ ไม่จำเป็นต้องออกไปตะโกนร้องป่าว""คำพูดนี้ก็ถูกต้อง ผู้เฒ่าฟางเป็นคนดี แต่ว่า วันนี้เจ้าเองก็เห็นแล้ว ขนาดเฉินฮ่าวปิงที่เพิ่งเข้าเมืองหลวงยังไม่ทันหยั่งเท้ามั่นคงดีก็จับจ้องตระกูลฟางเสียแล้ว นี่อธิบายอะไรได้ล่ะ?"ฟู่จาวหนิงรู้สึกนับถือเศรษฐีฟาง เขาไม่ใช่คนที่ไร้ความเมตตาเพื่อความร่ำรวย"อธิบายได้ว่าอะไรหรือ?" ฟางซือฉิงงงงันไป"อธิบายได้ว่าบางครั้ง การทำบุญก็ควรจะพูดออกไปบ้าง"ฟู่จาวหนิงตบมือนางเบาๆ "ชื่อเสียงที่ดีบางครั้งก็เป็นเกราะคุ้มกันอย่างหนึ่ง"เพียงแต
นั่นสิ นางไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงกล้ามาพูดจาไม่เกรงใจเขาแบบนี้?"แล้วก็ หลังจากอ๋องฉยงเข้าไปแล้วก็เตือนท่านหญิงปิงอวี้เสียหน่อย หลังจากนี้อย่ามาโผล่ตรงหน้าข้าอีก ข้าหมดความอดทนกับนางแล้ว"ฟู่จาวหนิงพูดจบคำนี้ ก็หมุนตัวขึ้นม้า "พวกเราไป"รถม้าแล่นออกไป สะบัดก้นรถให้อ๋องฉยงอ๋องฉยงยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถลึงตาอ้าปากค้างมองรถม้าที่แล่นออกไปฟู่จาวหนิงเป็นคนแบบนี้หรือ!บนรถม้า ฟางซือฉิงถอนใจโล่งออกมา จากนั้นจึงระวังขึ้น"จาวหนิง วันนี้ผิดใจกับท่านหญิงปิงอวี้กับองค์หญิงเจ็ดเข้า แล้วยังพวกคุณหนูสี่หลี่นั่นอีก พวกนเางจะร่วมมือกันมารังแกเจ้าไหม?"ถ้าคนเหล่านี้กลับบ้านไปฟ้องผู้อาวุโส แล้วเกือบสิบตระกูลก็จับมือกัน นี่มันจะเรื่องใหญ่เอากระมัง?ยังมีองค์หญิงเจ็ดอีก องค์จักรพรรดิกับตระกูลฝ่ายแม่ขององค์หญิงเจ็ดก็ไม่รู้ว่าจะกดดันมาทางอ๋องเจวี้ยนหรือเปล่า"อ๋องเจวี้ยนเขา..."อ๋องเจวี้ยนก็ตามใจฟู่จาวหนิงจริงๆแต่ฟางซือฉิงเองก็กลัวว่าวันหนึ่งเขาจะรำคาญที่ต้องมาช่วยฟู่จาวหนิงแก้ปัญหาต่างๆ น่ะสิ ถ้าหากฟู่จาวหนิงยังเอาแต่ผิดใจคนมากมายขนาดนี้ สำหรับอ๋องเจวี้ยนแล้วมันเป็นปัญหาใหญ่หรือเปล่า?"ไม
อ๋องฉยงเป็นคนแบบไหน?ฟู่จาวหนิงพอสบกับดวงตาที่สว่างวาวราวกับหลอดไฟของเขาก็รู้แล้วว่าตามหลักการ อ๋องฉยงกล้าทิ้งพระชายาอ๋องฉยงออกจากที่ดินศักดินา แจ้นกลับมาเจรจาธุรกิจกับองค์จักรพรรดิได้ ก็น่าจะเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องราวเป็นหลัก รอบคอบมีการวางแผนเป็นอย่างดีถึงจะถูกแต่ตอนนี้พอเจอกับสายตาเช่นนี้ของอ๋องฉยง ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่า นางก่อนหน้านี้ประเมินอ๋องฉยงไว้สูงเกินไป?แต่ว่า ตอนที่ได้ยินนางบอกว่าต้องเรียกนางว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยน สายตาของอ๋องฉยงก็เก็บกลับไปไม่น้อย สีหน้าจริงจังขึ้นมาพอควรอย่างนี้สิถึงจะถูก?ไม่เช่นนั้นคนที่มองคนแต่รูปลักษณ์ภายนอก จะไปทำเรื่องใหญ่อะไรได้?"พระชายาอ๋องเจวี้ยน เจ้าเห็นข้าแล้ว จะไม่ทักทายหน่อยหรือ? อ๋องเจวี้ยนไม่เคยพูดถึงข้าให้เจ้าฟังหรือ?"อ๋องฉยงตอนนี้จึงยกความอาวุโสเข้ามา"คารวะอ๋องฉยง"ฟู่จาวหนิงทักทายแบบขอไปทีอ๋องฉยงชะงักไป นี่จะบอกว่านางไม่มีมารยาทก็ไม่ใช่ ได้ยินว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนขนาดเข้าวังก็ยังไม่คารวะองค์จักรพรรดิด้วยซ้ำไม่ต้องพูดถึงเขาเลย?"เจ้าเพิ่งออกมาจากวังราชนิเวศน์ เจอกับน้องฮาวปิงบ้างไหม? ข้าได้ยินว่า พวกเจ้ารู้จักกั
อ๋องฉยงอยากพบฟู่จาวหนิงมาตลอดสำหรับหญิงสาวที่อยู่ในใจเซียวหลันยวน เขารู้สึกสนใจมาก แล้วยังตัวตนฐานหมอเทวดาของฟู่จาวหนิงด้วย เขายิ่งรู้สึกปรารถนาแต่ว่าอ๋องเจวี้ยนอาจจะติดโรคร้าย เขาเองก็ไม่กล้าไปจวนอ๋องเจวี้ยนแล้วก็ การร่วมมือกับองค์จักรพรรดิที่เขาคุยไว้ ตอนนี้จำเป็นต้องให้องค์จักรพรรดิเชื่อมั่น ถ้าหากเขาไปที่จวนอ๋องเจวี้ยนส่งเดช องค์จักรพรรดิไม่รู้ว่าจะคาดเดาอะไรไปอีกตอนนี้มาเจอกับฟู่จาวหนิงที่นี่พอดีเขาขอดูก่อนว่าฟู่จาวหนิงคนนี้งดงามแค่ไหน ถึงสามารถทำให้เซียวหลันยวนหลงจนถึงกับปล่อยวางความแค้นเคืองในอดีตไป"ฟู่จาวหนิง หันมาทางนี้!"ฟู่จาวหนิงได้ยินคำสั่งอ๋องฉยง รู้สึกขำขึ้นมาทันที ทำไมถึงรู้สึกว่าคำสั่งของอ๋องฉยงตอนนี้ดูสุดโต่งเหลือเกิน?อีกด้าน องค์หญิงหนานฉือกับอันชิงก็ขึ้นรถม้าแล้ว แต่ยังกงวลสถานการณ์ทางนั้น พอเห็นอ๋องฉยงเรียกฟู่จาวหนิง อันชิงก็กังวลขึ้นมา"พี่สะใภ้ อ๋องฉยงจะสร้างความลำบากให้พี่หญิงจาวหนิงหรือเปล่า?""เข้าไม่ได้เข้าไปในวังราชนิเวศน์ ยังไม่รู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นมา น่าจะไม่หรอก" องค์หญิงหนานฉือตอบถ้าหากอ๋องฉยงรู้ว่าฟู่จาวหนิงตบลูกสาวตนเอง ก็น่าจะโมโ