Share

พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี
พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี
Author: โม่เสียวชี่

บทที่ 1

Author: โม่เสียวชี่
แคว้นจิ้ง ยี่สิบแปดเดือนสิบสอง

มันเป็นวันที่อากาศกำลังหนาวเย็นพอดี

เฉียวเนี่ยนซักเสื้อผ้าชุดสุดท้ายในตอนเช้าเสร็จ ยังไม่ทันเช็ดมือที่หนาวจนชาให้แห้งก็ได้ยินนางกำนัลอาวุโสจากกรมซักล้างตะโกนเรียกนางว่า “เฉียวเนี่ยน เร็วเข้า จวนโหวมีคนมารับเจ้าแล้ว!”

นางยืนอึ้งอยู่ที่เดิม

จวนโหว ช่างเป็นคําที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยยิ่งนัก

นางเคยเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของจวนโหวมาสิบห้าปี แต่เมื่อสามปีก่อนกลับได้รับแจ้งว่าตนเองเป็นตัวปลอม

เป็นนางกำนัลอาวุโสที่ทําคลอดในตอนนั้นที่เห็นแก่ตัว นำลูกของตัวเองกับคุณหนูของจวนโหวแลกเปลี่ยนกัน และก่อนตายก็ค้นพบมโนธรรมและบอกความจริงออกมา

เฉียวเนี่ยนจําได้แม่นว่าวันนั้นที่ท่านโหวสองสามีภรรยาได้รู้จักกับหลินยวนลุกสาวแท้ๆ นั้นตื่นเต้นแค่ไหน พวกเขากอดกันทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ส่วนนางยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างทําอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ที่ตัวเองเรียกมาสิบห้าปี ทําไมจู่ๆ ถึงไม่ใช่พ่อแม่ของตัวเองแล้ว

อาจเป็นเพราะมองเห็นความผิดหวังของนางได้ ท่านโหวหลินจึงสัญญากับนางว่า นางยังคงเป็นคุณหนูของจวนโหว และยังให้หลินยวนเรียกนางว่าพี่สาว แม้แต่ฮูหยินหลินก็ยังบอกว่า พวกเขายังคงรักนางเหมือนลูกสาวแท้ๆ

แต่วันนั้นพวกเขาเห็นหลินยวนทําถ้วยขององค์หญิงแตกด้วยตาตัวเอง เห็นสาวใช้ของหลินยวนผลักความผิดนี้มาที่นาง เห็นนางถูกองค์หญิงตําหนิ เห็นนางถูกส่งมาเป็นทาสรับใช้ที่กรมซักล้างแห่งนี้ พวกเขากลับยืนปกป้องหลินยวนอยู่ข้างๆ ไม่พูดสักคําตั้งแต่ต้นจนจบ

นางก็รู้แล้วว่านางไม่สามารถเป็นลูกสาวของพวกเขาได้อีกต่อไปแล้ว

“เฉียวเนี่ยน มัวนิ่งอยู่ทําไม? อย่าให้ท่านโหวน้อยรอจนร้อนใจสิ!” เสียงเร่งเร้าของนางกำนัลอาวุโสดึงความคิดเฉียวเนี่ยนกลับมา

นางเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูกรมซักล้าง ก็เห็นร่างสูงตระหง่านยืนอยู่ด้านนอก แสงแดดในฤดูหนาวส่องกระทบร่างของเขาจนดูราวกับมีประกายส่องมาจากตัวเขา

เมื่อเห็นใบหน้าที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนที่ไม่รู้สึกอะไรมานานก็บีบรัดอย่างเจ็บปวดโดยไม่ทันตั้งตัว

เป็นหลินเย่ว์

พี่ชายที่นางเรียกมาสิบห้าปี พี่ชายที่เคยเดินทางไปเจียงหนานที่อยู่แสนไกลเพื่อตามหาไข่มุกราตรีที่หายากที่สุดในโลก และพี่ชายที่ผลักนางลงจากชั้นสองเพื่อหลินยวน

ไม่ได้เจอกันสามปี ความรู้สึกคับข้องใจที่หายไปสามปีนั้นพลันพรั่งพรูออกมา

เฉียวเนี่ยนหายใจเข้าลึกๆ และระงับความคับข้องใจนั้นไว้ ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์ใดๆ

นางเดินไปหาหลินเย่ว์ เดินเข้าไปใกล้ด้านหน้าแล้วคุกเข่าลงทําความเคารพ น้ำเสียงราบเรียบ แฝงไปด้วยความห่างเหิน “บ่าวคารวะท่านโหวน้อยเจ้าค่ะ”

ก่อนมา หลินเย่ว์ก็เคยความเพ้อฝันถึงฉากที่พวกเขาพี่น้องได้พบกัน

คิดไปคิดมา ตามนิสัยเดิมของนาง ไม่ก็โผเข้ากอดเขา ออดอ้อนไปพลางร้องไห้พลางบ่นน้อยใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ไม่ยอมพบเขาแม้แต่ครั้งเดียว

คาดไม่ถึงว่านางจะเดินมาหาเขาอย่างใจเย็นและคุกเข่าลง

นี่คือน้องสาวที่เขาตามใจมาสิบห้าปีเชียวนะ!

ความดื้อรั้นและเอาแต่ใจของนาง ความเย่อหยิ่งของนางล้วนถูกตามใจโดยเขา

ทําไมตอนนี้กลับ...

หลินเย่ว์รู้สึกเพียงว่าหัวใจของตัวเองถูกมือที่มองไม่เห็นฉีกกระชากอย่างรุนแรง มือที่ไพล่หลังกําแน่น ลําคอเหมือนถูกมือข้างหนึ่งจับไว้ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงเอ่ยปาก “ท่านย่าคิดถึงเจ้ามาก ฮองเฮาเห็นแก่ความชราของนาง อนุญาตให้เจ้าออกไปจากที่นี่ได้”

พูดจบประโยค หลินเย่ว์ก็รู้สึกว่าน้ำเสียงแข็งกระด้างเกินไป เขาขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อประคองเฉียวเนี่ยนให้ลุกขึ้น จงใจพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ตามพี่กลับบ้านเถอะ!”

ดวงตาที่ก้มต่ำของเฉียวเนี่ยนพลันสั่นไหวระริก

ตามพี่กลับบ้านเถอะ!

ใครจะรู้ว่าประโยคสั้นๆ นี้นางรอคอยมานานแค่ไหนแล้ว

ช่วงที่มากรมซักล้างครั้งแรกนั้น นางเฝ้ารอคอยหลินเย่ว์มารับนางกลับบ้านแทบทั้งวันทั้งคืน

แต่วันแล้ววันเล่า ความหวังก็กลายเป็นความผิดหวัง จนถึงตอนนี้นางไม่มีความเพ้อฝันใดๆ เกี่ยวกับการกลับจวนโหวอีกแล้ว

ไม่คิดว่าเขาจะมา

นางถอยหลังไปหนึ่งก้าว สะบัดมือหลินเย่ว์ออกอย่างเงียบๆ ก้มตัวลงทําความเคารพ “บ่าวขอบพระทัยที่ฮองเฮาทรงเมตตา ขอบคุณที่ฮูหยินเฒ่าเมตตา”

น้ำเสียงของนางจริงใจและท่าทางของเขาก็ดูเคารพมาก แต่ความห่างเหินที่ออกมาจากทุกคําและทุกประโยคนั้นทําให้หัวใจของหลินเย่ว์รู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาชักมือกลับ หัวคิ้วขมวดเป็นปม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธอย่างบอกไม่ถูก “ท่านพ่อไม่เคยถอดฐานะของเจ้าออก แม้เจ้าจะอยู่ในกรมซักล้างมาสามปี แต่ทะเบียนก็ยังอยู่ในจวนโหว เจ้าไม่เคยเป็นทาสรับใช้อะไรทั้งนั้น”

เด็กสาวบอบบางที่เขาโปรดปรานตั้งแต่เด็กจะเป็นทาสได้ยังไงกัน?

แต่เมื่อได้ยินคําพูดนี้ เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกประชดประชัน

สามปีที่ผ่านมา ทุกวันนางต้องตื่นมาซักผ้าก่อนฟ้าสาง ซักจนพระอาทิตย์ตกดิน ซักจนมือทั้งสองเปื่อยยุ่ย

นางกำนัลอาวุโสที่ดูแลกรมซักล้างเอะอะก็ตีหรือด่าใส่นาง ฐานะของนางที่นี่แม้แต่ทาสชั้นต่ำก็ยังสู้ไม่ได้

ฐานะ? ทะเบียนบ้าน?

จะมีประโยชน์อะไรกัน

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนไม่พูดไม่จา หลินเย่ว์จึงทําได้เพียงสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความโกรธที่อธิบายไม่ได้นั้น แล้วพูดว่า “ในบ้านมีทุกอย่าง เจ้าก็ไม่ต้องไปเก็บอะไรอีกแล้ว ไปเถอะ อย่าทําให้ท่านย่าต้องรอนาน”

พูดจบก็หันตัวจากไปก่อน

เดินไปได้ไม่นานเขาก็จะหันกลับมา เห็นเฉียวเนี่ยนเดินตามไปอย่างไม่ใกล้ไม่ไกล สายตามองตรงไปตลอดทาง ไม่มองเขาแม้แต่น้อย นึกถึงท่าทางออดอ้อนออดอ้อนของนางในอดีต ความโกรธในใจยังไงก็ระงับไว้ไม่อยู่แล้ว

จนทําให้ฝีเท้าเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว

หลังจากเฉียวเนี่ยนถูกหลินเย่ว์ผลักตกเรือนไปเมื่อสามปีก่อน ข้อเท้าก็บาดเจ็บจนตกเป็นโรคเก่า ตอนนี้จึงตามไม่ทัน เมื่อเดินมาถึงประตูวัง หลินเย่ว์ก็นั่งในรถม้าของจวนโหวไปนานแล้ว

คนขับรถม้าเป็นคนเก่าคนแก่ของจวน จึงรู้จักเฉียวเนี่ยน

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนเดินเข้ามา ก็ทําความเคารพ “บ่าวคารวะคุณหนูขอรับ”

เฉียวเนี่ยนโค้งตัวคํานับกลับ แล้วขึ้นรถม้าไปนั่งข้างคนขับรถม้า

คนขับรถม้าประหลาดใจเล็กน้อย “คุณหนูไม่เข้าไปนั่งหรือขอรับ”

เฉียวเนี่ยนส่ายหน้า “ผิดระเบียบน่ะ”

เพิ่งสิ้นเสียง ในรถม้าพลันมีเท้าข้างหนึ่งยื่นออกมา เตะเฉียวเนี่ยนจนล้มลงกับพื้นอย่างแรง

หลินเย่ว์เปิดม่านรถออกด้วยความโกรธแค้น “เพิ่งพบหน้าก็ไม่รู้จักไว้หน้าซะแล้ว ไม่ยอมกลับจวนโหวก็ไสหัวกลับไปเป็นทาสรับใช้ที่กรมซักล้างของเจ้าต่อไปซะ!”

เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเจ็บปวดจนเริ่มซีด ข้อเท้าของนางเกรงว่าคงจะบิดอีกแล้ว

แต่เมื่อได้ยินหลินเย่ว์ถามอย่างเย็นชาว่า "หรือว่าเจ้ารู้สึกน้อยใจและจงใจชักสีหน้าให้ข้า หลินเนี่ยน เจ้าได้เสวยสุขแทนยวนเอ๋อร์มาสิบห้าปีแล้ว ตอนนี้แค่ต้องทนทุกข์ทรมานแทนนางเป็นเวลาสามปีเท่านั้น มีอะไรต้องน้อยใจหรือไง?”

“ในเมื่อไม่ยอมนั่งรถกลับจวน งั้นเจ้าก็เดินกลับไป ระหว่างทางก็ลองคิดดูดีๆ ว่าตัวเองเป็นใครกันแน่ มีคุณสมบัติที่จะมาวางท่าแบบนี้ให้ข้าดู! จะได้ไม่ต้องกลับไปเจอหน้าท่านย่าที่จวนแล้วยังทําหน้าจะเป็นจะตายแบบนี้อีก มีแต่ซ้ำเติมความโชคร้ายเปล่าๆ”

หลินเย่ว์พูดจบก็สะบัดม่านรถออก ส่งเสียงเย็นชาใส่คนขับรถม้า “กลับจวน!”

คนขับรถม้าไม่กล้าขัดคําสั่ง มองเฉียวเนี่ยนอย่างกังวลแล้วก็ขับรถออกไป

เมื่อเห็นรถม้าที่จากไปไกล ในใจของเฉียวเนี่ยนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก

ยังไงซะ นางก็ถูกคนที่นางรักมากที่สุดทิ้งไปเมื่อสามปีก่อนแล้ว

นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นางพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น เดินกระโผลกกระเผลกไปยังทิศทางของจวนโหว

ไม่นานหลังจากนั้น รถม้าคันหนึ่งก็หยุดลงตรงหน้านาง

นิ้วมือที่มีข้อต่อชัดเจนเลิกม่านรถขึ้น ดวงตาทั้งคู่เย็นชาห่างเหิน “แม่นางหลิน?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (7)
goodnovel comment avatar
Krisana
Good start
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷
goodnovel comment avatar
รัชชริญ
ขอบคุณมากที่บอก จะได้ไม่อ่าน เราทนไม่ได้ถ้าเนื้อเรื่องยังเยิ่นเย้อให้ตัวเอกยังทรมาน ตัวร้ายตัวเลวทั้งหลายยังอยู่ดีเป็นร้อยๆตอนแบบนี้ จะได้ไม่เสียเวลาเสียเงินเปล่าค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 2

    เฉียวเนี่ยนชะงักงัน หัวใจที่คิดว่าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วยังคงเต้นผิดจังหวะเพราะเสียงที่คุ้นเคยนั้นนางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มในรถม้าเป็นแม่ทัพหนุ่มที่ถูกแต่งตั้งผู้นั้น อดีตคู่หมั้นของนาง เซียวเหิงนางแทบจะคุกเข่าลงทันที “บ่าวคารวะแม่ทัพเซียวเจ้าค่ะ”คิ้วของเซียวเหิงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตากวาดมองข้อเท้าของนางแวบหนึ่ง เอ่ยถามเสียงเรียบว่า “แม่นางหลินจะกลับจวนหรือ?”เฉียวเนี่ยนหลุบตามองเข่าทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วพยักหน้า “เจ้าค่ะ”สิ้นเสียงก็เงียบไปพักหนึ่งเซียวเหิงรอให้นางพูดต่อเพราะเมื่อก่อน ต่อหน้าเขานางมักมีเรื่องพูดไม่จบตลอดเขาไม่ชอบคนพูดมาก แต่เห็นแก่มิตรภาพของทั้งสองตระกูลจึงไม่ตําหนินางมากเกินไป แต่ก็ไม่เคยปิดบังความเบื่อหน่ายของตัวเองบางครั้งถูกรบกวนจนรําคาญจริงๆ ก็จะหยิบขนมกล่องหนึ่งออกมาอุดปากนาง ทุกครั้งที่ถึงเวลานั้น นางมักจะดีใจเหมือนเด็กๆ แต่ปากที่หนวกหูนั้นอย่างมากก็อุดได้แค่ครึ่งก้านธูปเท่านั้นนึกไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันสามปี นางตอบแค่คําสั้นๆ คําเดียวเซียวเหิงลงจากรถม้า ไม่ได้เข้าไปประคองนาง เพียงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเข้าวังไปรายงานพอดี แม่นา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 3

    เรือนเก่าของเฉียวเนี่ยนมีชื่อว่าเรือนลั่วเหมยในเรือนเต็มไปด้วยดอกเหมยต่างๆ ตั้งแต่ต้นฤดูหนาว ดอกเหมยในเรือนดอกเหมยจะบานสะพรั่งอย่างแข่งกัน จนกระทั่งต้นฤดูใบไม้ผลิก็จะไม่เหี่ยวเฉาดอกเหมยเหล่านั้น ล้วนเป็นท่านโหวหลินส่งคนไปตามหาจากทั่วแคว้นจิ้งด้วยตนเอง เพียงเพราะเฉียวเนี่ยนในวัยเด็กเคยกล่าวไว้ว่า ดอกไม้ที่โปรดปรานที่สุดในชีวิตนี้ก็คือดอกเหมยจวนโหวต้องใช้เงินหลายร้อยตําลึงในการบํารุงรักษาดอกเหมยเหล่านั้นทุกปีแต่หลังจากหลินยวนกลับมาในปีนั้น ก็บอกแค่ว่าดอกเหมยในสวนของพี่หญิงสวยมาก เรือนดอกเหมยนั้นก็กลายเป็นของหลินยวนแล้วเฉียวเนี่ยนในตอนนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ตอนนี้พอนึกขึ้นได้กลับไม่มีอารมณ์ใดๆหลินยวนต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของจวนโหว ของในบ้านนี้ก็ดี คนก็ดี ล้วนเป็นของหลินยวนทั้งนั้นและนางก็เป็นเพียงคนนอกที่มาครอบครองก็เท่านั้นสาวใช้ที่นําทางกลับกระตือรือร้น “สาวใช้ที่เคยรับใช้คุณหนูแต่งงานไปแล้ว ฮูหยินให้บ่าวติดตามคุณหนูต่อไป บ่าวชื่อหนิงซวง ต่อไปหากคุณหนูมีเรื่องอะไรก็สั่งบ่าวได้เลย”หนิงซวงมีใบหน้าอ่อนเยาว์ แก้มอวบอิ่ม เฉียวเนี่ยนเห็นนางคุ้นตาจึงถามว่า “เจ้าเป็นคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 4

    เมื่อเห็นเจตนาดีของหลินยวนถูกเฉียวเนี่ยนตอกกลับ หลินเย่ว์ก็เก็บความรู้สึกผิดในใจกลับทันที เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าไม่ต้องทําตัวประหลาดเช่นนี้ ร่างกายบาดเจ็บทําไมไม่บอกตั้งแต่แรก! ไม่มีปากเหรอ?ถ้านางพูดก่อนหน้านี้ เขาจะไปโรงหมอหลวงเพื่อขอยามาให้นางอย่างแน่นอน!“เมื่อครู่กลับอยากบอกว่า ท่านโหวน้อยไม่ให้โอกาส” เฉียวเนี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในที่สุดก็ดึงมือทั้งสองกลับมาจากมือของฮูหยินหลินดวงตาของหลินเย่ว์มืดมนลง นางกลับจวนไปแล้ว ยังไม่ยอมเรียกเขาว่าพี่ชายอีกความโกรธในใจไม่ลดลง เขาตะคอกเสียงต่ำว่า “ข้าก็อยากถามเหมือนกัน ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคุณหนูสูงศักดิ์ของจวนโหวของข้า ตั้งแต่เด็กก็ฝึกวรยุทธ์กับอาจารย์วรยุทธ์ของจวนนี้ ในกรมซักล้างนั้นมียอดฝีมือคนไหนกันแน่ที่ทําร้ายเจ้าได้ถึงเพียงนี้?”คําพูดเพียงประโยคเดียวทําให้เฉียวเนี่ยนใจหายวาบนางหลุบตาลงดึงแขนเสื้อลง น้ำเสียงอ่อนโยนกลับแฝงไว้ด้วยความหนาวเหน็บที่ทําให้คนตัวสั่นเทิ้ม “ตอนแรกก็เคยต่อต้าน เหมือนที่ท่านโหวน้อยกล่าวไว้ นางบ่าวในวังเหล่านั้นล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าจริงๆ แต่พวกนางสู้ข้าไม่ได้ก็จะใช้เล่ห์เหลี่ยมในที่มืด! อย่า

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 5

    เซียวเหิงหลุบตามองกล่องของขวัญที่ใส่สมุนไพรในมือ ไม่ได้พูดอะไรหลินเย่ว์กลับยิ่งกระวนกระวายใจ “วันนี้เจ้าไม่ได้รับหมายเรียก เจตนาไปรับนางที่หน้าประตูวังหรือ?”เซียวเหิงยังคงไม่พูดอะไรหลินเย่ว์เติบโตมาด้วยกันกับเขา จะไม่รู้ได้อย่างไรว่านี่เป็นการยอมรับโดยปริยายจึงกดเสียงลงต่ำ “เซียวเหิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เมื่อก่อนตอนที่เจ้าพึมพําเจ้า เจ้าชอบที่จะไม่สนใจ แต่ตอนนี้เจ้ากลายเป็นคู่หมั้นของยวนเอ๋อร์แล้ว เจ้ากลับสนใจนางขึ้นมาหรือ? ข้าเตือนเจ้านะ ข้ามีแค่น้องสาวสองคนนี้ เจ้าอย่าบังคับให้ข้าเป็นพี่น้องกับเจ้าไม่ได้”ได้ยินดังนั้น เซียวเหิงกลับยิ้มหยัน เงยหน้าขึ้นมองหลินเย่ว์ เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “พี่หลินพูดแบบนี้ กลับทําให้ท่านดูเหมือนกําลังสนใจเนี่ยนเนี่ยนอยู่นะ”แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่ใช้คำพุดทิ่มแทงเนี่ยนเนี่ยนเองแท้ๆเพียงประโยคเดียวก็ทําให้ความโกรธของหลินเย่ว์จุกอยู่ในลําคอเขาจ้องมองเซียวเหิงอย่างเอาเป็นเอาตาย พยายามเค้นสมองคิดแต่พูดออกมาเพียงประโยคเดียวว่า “แล้วเจ้าดีกว่าตรงไหนกัน? อย่าลืมว่าเมื่อสามปีก่อนเจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วย นางเกลียดข้าและเกลียดเจ้าเช่นกัน”“ข้ารู้”

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 6

    คืนนั้นเฉียวเนี่ยนนอนไม่หลับจนถึงรุ่งเช้านางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมอาจเป็นเพราะเตาอุ่นในห้องนั้นร้อนเกินไป ไม่เหมือนกับบ้านไม้ที่มีลมและฝนรั่วและชื้นที่นางนอนมาสามปีหรือผ้าห่มแห้ง คลุมตัวทั้งนุ่มและอบอุ่นถึงอย่างไรทุกอย่างก็สวยงามจนทําให้เฉียวเนี่ยนรู้สึกเหมือนอยู่คนละโลก ไม่เหมือนความจริงเป็นอย่างยิ่งนางคิดว่านางจะอยู่ในกรมซักล้างตลอดชีวิตจนกระทั่งดวงอาทิตย์ที่อบอุ่นขึ้นในวันรุ่งขึ้นส่องเข้ามาในห้อง นางจึงเข้าใจเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันว่านางกลับมาแล้วจริงๆฮูหยินหลินได้เตรียมเสื้อผ้าใหม่ให้กับนาง นางน่าจะซื้อมาจากร้านเสื้อผ้าสําเร็จรูป มันยังคงไม่พอดีตัว แต่อย่างน้อยแขนเสื้อของนางก็สามารถปกปิดบาดแผลที่แขนของนางได้ดังนั้นนางจึงไปที่เรือนของฮูหยินเฒ่าตั้งแต่เช้าเวลานี้ฮูหยินเฒ่ากําลังไหว้พระ เฉียวเนี่ยนจึงยืนอยู่นอกประตูอย่างเรียบร้อย ไม่คิดจะรบกวนแต่ราวกับมีความรู้สึกบางอย่าง ทันใดนั้นฮูหยินเฒ่าก็หันหน้ามา จากนั้นดวงตาทั้งคู่ก็แดงก่ำ“กลับมาแล้วเหรอ?”คําพูดแค่ไม่กี่คำ กลับเผยให้เห็นถึงความเศร้าโศกที่ไม่มีที่สิ้นสุดเฉียวเนี่ยนก็อดตาแดงไม่ได้ พอเข้าไปในห้องก็คุกเข่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 7

    หลินเย่ว์มองเฉียวเนี่ยนอย่างไม่เชื่อสายตา เขาอยากจะตําหนิเฉียวเนี่ยนที่โกหกโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเห็นแม่ของเขานั่งอยู่ข้างๆ ก้มหน้าลงและไม่คิดจะพูดอะไร เขาก็ได้คําตอบในใจแล้วแต่จะเป็นไปได้อย่างไร?ท่านพ่อชอบเนี่ยนเนี่ยนมากที่สุดตั้งแต่เด็กนี่นา!จะให้นางเปลี่ยนแซ่ได้ยังไงล่ะ?ความรู้สึกที่หัวใจถูกบางสิ่งฉีกกระชากอย่างรุนแรงทําให้หลินเย่ว์หายใจติดขัดอีกครั้งเขาเพียงรู้สึกรําคาญมาก มองคนเต็มห้อง แต่กลับไม่มีสักคนที่ถูกตา จึงสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปการจากไปของเขาทําให้เซียวเหิงค่อนข้างอึดอัดเขาก้าวเข้าไปทําความเคารพ “เซียวเหิงคารวะฮูหยินเฒ่าหลินขอรับ”สําหรับเขา ฮูหยินเฒ่าหลินกลับใจดีแม่ทัพหนุ่มที่ถูกแต่งตั้ง มีความกล้าหาญและวางแผน ไม่ว่าเวลาไหนก็สุภาพเรียบร้อย สุภาพเรียบร้อยแบบนี้ จะไม่ถูกใจผู้ใหญ่ได้อย่างไรกัน?ฮูหยินเฒ่ารีบยกมือขึ้นทักทาย “แม่ทัพเซียวรีบนั่งลงเถอะ! เมื่อวานเจ้าเพิ่งส่งสมุนไพรล้ำค่ามากมายมา เป็นข้าเองที่ไปขอบคุณถึงจะถูก”เซียวเหิงนั่งลงตรงข้ามหลินยวน มองฮูหยินเฒ่าด้วยสีหน้าอ่อนโยน “พ่อแม่ของข้ากําลังอยู่ในวัยฉกรรจ์ ไม่จําเป็นต้องใช้ของเหล่านั้น โสมเขากวางที

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 8

    อีกด้านหนึ่ง เฉียวเนี่ยนประคองฮูหยินชราเพิ่งกลับห้อง ฮูหยินชราก็ป่วยแล้วก็เหมือนกับที่ฮูหยินหลินกล่าวไว้ สุขภาพของฮูหยินชราไม่ดีเท่าเมื่อก่อนแล้วจริงๆแม้ว่าวันนี้จะตั้งใจควบคุมอารมณ์ของตัวเองแล้ว แต่ก็ยังตื่นเต้นเกินไป หลังจากนอนลงก็หอบหายใจอย่างหนักดีที่ซูมามาที่ปรนนิบัติฮูหยินชราคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว จึงเรียกหมอมาเฝ้าอยู่นอกห้องของฮูหยินชรา รอจนฮูหยินชราล้มตัวลงนอนจึงฝังเข็มและนวดให้ ผ่านไปหนึ่งก้านธูป ฮูหยินชราถึงค่อยรู้สึกดีขึ้นกระบวนการนี้ไม่ถือว่าน่าหวาดเสียวมากนัก แต่เฉียวเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยังตกใจจนทําอะไรไม่ถูกอยู่ดีเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเฉียวเนี่ยน ฮูหยินชรานั่งพิงหัวเตียงและกวักมือเรียกนางจมูกของเฉียวเนี่ยนแดงเล็กน้อย แต่ก็กลัวว่าหากตัวเองมีอารมณ์รุนแรงจะทําให้ฮูหยินชราล้มป่วยอีก จึงฝืนกลั้นน้ำตาแล้วเดินไปที่ข้างเตียงของฮูหยินชรา“ตกใจหมดเลย?” ฮูหยินชรายิ้มอย่างอบอุ่นเฉียวเนี่ยนสูดจมูกฟุดฟิด จับมือของฮูหยินชราไว้แน่น “ท่านย่ารับปากว่าเนี่ยนเนี่ยนจะมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี”นางเหลือแต่ท่านย่าแล้วฮูหยินชรามองเฉียวเนี่ยนอย่างอ่อนโยน “ท่านย่าก็อยากมีชีวิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 9

    เมื่อได้ยินคําถามนี้ น้ำตาในดวงตาของหลินยวนก็ไหลออกมาในที่สุด นางส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า"ไม่ใช่ ข้าไม่เคยทําร้ายพี่หญิงเลย ตอนนั้นเป็นข้าที่ทําถ้วยแตก เป็นความผิดของข้าเอง แต่คนที่ใส่ร้ายพี่หญิงคือเสี่ยวชุ่ย...”นางพยายามอย่างยิ่งที่จะบอกเฉียวเนี่ยนว่าตัวเองไม่เคยทําร้ายนางแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะพิงอยู่ข้างประตู ถามนางอย่างอ่อนโยนว่า “แล้วทําไมเจ้าไม่บอกเมื่อสามปีก่อนล่ะ?”หลินยวนอึ้งไปชั่วขณะ ไม่ทันได้เข้าใจว่าคําพูดของเฉียวเนี่ยนหมายความว่าอย่างไร?มุมปากของเฉียวเนี่ยนโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันอย่างรุนแรง “เจ้าเป็นคนทําถ้วยแตกเอง แปดคํานี้ เมื่อสามปีก่อนต่อหน้าฮองเฮากับองค์หญิง ทําไมเจ้าถึงไม่พูด?”หลินยวนถอยหลังไปก้าวหนึ่งราวกับยืนไม่มั่น “ข้า ข้าไม่กล้า... นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าเข้าวัง เป็นครั้งแรกที่เจอคนสูงศักดิ์มากมายขนาดนี้ ข้า ตอนนั้นข้ากลัวมาก ข้า...”“แล้วตอนนี้เจ้าจะมาพูดอะไรกับข้าอีกล่ะ?” เฉียวเนี่ยนขัดจังหวะคําพูดของหลินยวนอีกครั้งต้องพูดอะไรกันแน่ถึงจะให้นางทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดสามปีที่ผ่านมาหลินยวนร้องไห้สะอึกสะอื้น ก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเฉียวเนี่

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 500

    เขาไม่อยากหลีกให้ แต่ก็เข้าใจว่า วันนี้ตนไม่สามารถล้วงความลับจากปากของเซียวเหิงได้แน่คิดแล้วคิดอีก ก็ได้แต่ค่อยๆ หลีกทางให้เซียวเหิงจึงพลิกกายขึ้นม้าอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของวังแต่เมื่อเดินผ่านหลินเย่ว์ ก็ได้ยินเขาถามด้วยเสียงต่ำว่า"เจ้าไม่เคยคิดว่าเจ้าทําแบบนี้ จะทําให้เนี่ยนเนี่ยนเกลียดเจ้ามากขึ้นเหรอ?"ร่างกายของเซียวเหิงพลันแข็งทื่อ แต่กลับไม่หยุดฝีเท้าย่อมเคยคิดมาก่อนแต่เขาไม่มีทางเลือกเขาทําไม่ได้ที่จะมองดูนางไปรักคนอื่นแขนซ้ายพันแผลอย่างง่ายๆ แล้วเซียวเหิงก็เข้าราชสํานักไปฮ่องเต้มองปราดเดียวก็มองออกทันที สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก ในประชุมเช้าไม่ได้เอ่ยคําใด เพียงแค่รั้งเขาเอาไว้หลังจากออกจากประชุมเช้าแล้วภายในท้องพระโรง เซียวเหิงคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่หน้าตําหนักฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์มังกร หลุบตามองเขา น้ำเสียงทุ้มต่ำ เปี่ยมไปด้วยความโกรธ "เจ้ากําลังก่อเรื่องอะไรอยู่กันแน่? เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ยังคิดจะก่อเรื่องวุ่นวายอีกเหรอ?"เซียวเหิงหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ตอบฮ่องเต้ถลึงตาใส่เขา "ทําไม? ต้องเป็นนางเท่านั้นเหรอ?"ครั้งนี้เซียวเหิงกลับเอ่ยปาก"ใช่ กระ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 499

    ตกดึกเฉียวเนี่ยนนอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมา อย่างไรก็นอนไม่หลับนางรู้ว่าหนิงซวงอาจไม่สามารถเห็นคําใบ้ของ'นอกเมืองหลวง'ได้ แต่นางสามารถเข้าใจได้อย่างแน่นอนว่าคำว่าต้องรดน้ำมีปัญหานางรู้ว่าถ้าหนิงซวงไม่เข้าใจ นางจะต้องไปหาเซียวเหอแน่นอน และคําใบ้เกี่ยวกับนอกเมืองหลวง เซียวเหอจะต้องดูออกแน่นอนแต่นางก็ไม่รู้ว่านางอยู่นอกเมืองหลวงหรือไม่อย่างไรก็ตามนางถูกขังอยู่ในจวนตลอดเวลาและไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกคนรับใช้ในจวนก็ไม่พูดถึงแน่ ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดเดาของนางเท่านั้นเป็นเพราะนางเดินผ่านกําแพงสูงของจวนหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากด้านนอกเลย จึงคิดว่าตําแหน่งของจวนหลังนี้จะต้องอยู่ห่างไกลจากเมืองแน่นอนบวกกับวันนั้นนางไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ตอนเช้าตรู่กลับได้กลิ่นไอน้ำที่ชัดเจนและเข้มข้นจึงคิดว่าแถวนี้ต้องมีน้ำแน่นอนแม่น้ำก็ดี น้ำพุก็ดี ต้องมีแน่นอนแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าคําเตือนของนางถูกต้องหรือไม่ แต่ก็มีความหวังอยู่หวังว่า... นางสามารถออกจากที่นี่ได้โดยเร็วที่สุดวันรุ่งขึ้นเซียวเหิงออกจากบ้านแต่เช้าแม้ว่าเขาจะย้ายงานทหารมาที่นี่แล้ว แต่เขาก็ยังต้องไปประช

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 498

    มันเป็นจดหมายที่สั้นมากและไม่มีสํานวนที่งดงามอะไร ในมุมมองของเฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ มันเป็นจดหมายธรรมดาเท่านั้นแต่ทั้งสองยังคงส่งจดหมายให้เซียวเหิงเซียวเหิงรับมาดูแวบหนึ่ง ดวงตาลึกล้ำไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เพียงเอ่ยเรียบๆ ว่า "ส่งไปเถอะ!""เจ้าค่ะ"เฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ร์รับคําแล้วจากไปแต่แววตาคู่นั้นของเซียวเหิงกลับหม่นหมองลงเขารู้ว่าเฉียวเนี่ยนไม่ยินยอมอยู่ที่นี่แต่อาศัยแค่จดหมายฉบับเดียว ก็อยากหาคนมาช่วยนางเหรอ?ทําไมนางยังไม่เข้าใจว่าตอนนี้ไม่มีใครสามารถพรากนางไปจากเขาได้อีกแล้วเมื่อหนิงซวงได้รับจดหมายฉบับนี้ ก็งงไปหมด"นี่เป็นลายมือของคุณหนูจริงๆ!" หนิงซวงตื่นเต้นจนขอบตาแดงก่ำ หลายวันมานี้ น้ำตาของนางเกือบจะแห้งไปหมดแล้วหวังเอ้ออ่านเนื้อหาในจดหมายแล้วพยักหน้า "ข้าจําลายมือคุณหนูไม่ได้ แต่ในเมื่อคุณหนูบอกว่านางไม่เป็นไร ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"หนิงซวงเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น "นางเขียนแบบนี้เพื่อให้ข้าสบายใจ นางถูกแม่ทัพเซียวพาตัวไป แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ในใจต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ!"หวังเอ้อพยักหน้าตาม แต่เมื่อเขาอ่านเนื้อหาในจดหมาย เขาก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 497

    ท้ายที่สุดเซียวเหิงก็จากไป เขาเดินโซซัดโซเซจากไปราวกับพ่ายแพ้สงครามส่วนเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ในห้องคนเดียว มองดูแสงเทียนที่ลุกโชติช่วง จนกระทั่งฟ้าสางก็ยังไม่รู้สึกง่วงเดิมทีคิดว่า หลังจากผ่านการทะเลาะกันเมื่อคืนมาแล้ว อย่างน้อยเซียวเหิงก็พอจะเข้าใจได้ว่านางไม่อยากมีอะไรกับเขาอีกจริงๆ แต่ใครจะรู้ว่าตอนที่เฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์มาปรนนิบัตินาง ก็ยังเรียก ‘ฮูหยิน’ อยู่ดีกระทั่งถึงวันที่ห้า เซียวเหิงก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนี้โดยตรงเมื่อเห็นเหล่าเด็กรับใช้ขนหนังสือกองแล้วกองเล่าเข้าไปในเรือน คิ้วของเฉียวเนี่ยนก็ขมวดแน่นนางเดินตามเด็กรับใช้เข้าไปในห้องหนังสือ ก็เห็นเด็กรับใช้หลายคนกําลังรวบรวมหนังสืออยู่หน้าชั้นวางหนังสือ ส่วนเด็กรับใช้อีกคนหนึ่งกําลังวางหนังสือจํานวนหนึ่งไว้บนโต๊ะเฉียวเนี่ยนมองปราดหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าล้วนเป็นกิจการทหารหัวใจของนางจมดิ่งลง แม้แต่ในกองทัพเขาก็ไม่อยากไปแล้วเหรอ?เมื่อเด็กรับใช้เห็นนางก็ทําความเคารพพร้อมกัน "คารวะฮูหยิน"คําเรียกแบบนี้ทําให้เฉียวเนี่ยนฟังแล้วรู้สึกทรมานมาก แต่นางก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธพวกเขา จึงขมวดคิ้วถามว่า "เซียวเหิงล่ะ?""

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status