ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา의 모든 챕터: 챕터 11 - 챕터 20

40 챕터

บทที่ 11

หลิงจิ่งมองฝูอวิ๋นอย่างระแวงแวบหนึ่ง ไม่รู้ทำไม เมื่อได้ยินคำนี้ของนาง เขาไม่มีความกังวลทันทีหมัดสาวใส่ใบหน้าของเสี่ยวหู่อย่างหนักหน่วงหลี่เสี่ยวหู่กำลังมองแม่ตัวเองเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันตั้งตัว ก็โดนต่อยเสียแล้วเขาทำหน้าผวา ยกหมัดขึ้นแล้วต่อยสวนกลับไปเด็กทั้งสองคนชกต่อยกันอีนุงตุงนังอย่างไรหลิงจิ่งก็เคยเรียนหมัดมวยมาบ้าง หนำซ้ำยังโกรธแค้น จึงปะทุกำลังที่แข็งแกร่งเพียงไม่นาน ก็คร่อมหลี่เสี่ยวหู่ไว้ใต้ร่าง กำหมัดน้อยแน่นแล้วสาวหมัดใส่หน้าเขาไม่ยั้งหลี่เสี่ยวหู่สู้ไม่ได้ จึงแหกปากร้องไห้เสียงดัง ตะโกนเรียกหาพ่อร้องหาแม่แม่ม่ายหลิวถูกฝูอวิ๋นบีบลำคอเอาไว้ จึงส่งเสียงครางแต่พูดไม่ออกพวกผู้ชมไม่เพียงไม่ห้าม แทบจะปรบมือดีใจด้วยซ้ำ!เจ้าเด็กเวรคนนี้ ในที่สุดก็ถูกสั่งสอนสักที ช่างสาแก่ใจยิ่งนัก!“หยุดนะ!”ขณะที่ทุกคนกำลังดูอย่างเมามัน ทันใดนั้น มีเสียงตะโกนดังขึ้น ทำให้รอบด้านเงียบสงัดหัวหน้าหมู่บ้านหลี่ต้าเต๋อสวมรองเท้าแตะ วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบหลิงจิ่งลุกหนีพรวด ฝูอวิ๋นเองก็รีบปล่อยตัวแม่ม่ายหลิวพอแม่ม่ายหลิวลุกขึ้นก็จะเข้าไปถีบหลิงจิ่งทันที แต่ฝูอวิ๋นหูไ
더 보기

บทที่ 12

ฝูอวิ๋นโล่งอก คุกเข่าสองชั่วยามแลกกับความสะใจ นางยินดีเมื่อเห็นสายตากังวลของหลิงจิ่ง นางใจอ่อนโดยไม่มีสาเหตุ เจ้าตัวเล็กเป็นห่วงนางหรือ?นางเก็บสมุนไพรที่ตกตรงกำแพง แล้วยื่นให้หลิงจิ่ง “นี่เป็นสมุนไพรรักษาไข้หวัด เจ้าใช้น้ำสองถ้วย ต้มเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป เป่าให้เย็นแล้วป้อนเสี่ยวเสวี่ย ไม่งั้นจะไม่สบาย”นางหันมองหลิงเสวี่ย “เสี่ยวเสวี่ยรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”หลิงเสวี่ยร้องไห้จนหน้าลายเหมือนแมว เห็นนางมองตัวเอง ตัวสั่นสะท้าน จับเสื้อหลิงจิ่งไว้แน่นเด็กกลัวแม่มาตั้งหลายปี ฝูอวิ๋นไม่ได้หวังว่าภายในหนึ่งวันจะสามารถกำจัดความกลัวในใจพวกเขาได้นางรีบลุกขึ้น “อาจิ่ง พวกเจ้าใส่กลอนประตูให้ดี นอกจากข้า ห้ามให้ใครเข้าไปทั้งนั้น ในไม่ช้าข้าจะกลับมา หากเสี่ยวเสวี่ยมีสิ่งใดผิดปกติ ให้รีบไปตามข้าที่ศาลบรรพชน”หลิงจิ่งเม้มปากแน่น ในดวงตามีมีประกายน้ำตาคลอเบ้า“อย่าร้องไห้ เรื่องนี้ข้าเองก็มีความผิด มีความผิดก็ต้องรับโทษ แต่ว่าขอแค่ได้แก้แค้นให้เจ้าก็คุ้มค่าแล้ว”ล้วนบอกว่าใจแลกใจ นางไม่เชื่อว่าเด็กน้อยสองคนนี้ จะต้านทานการโจมตีของนางได้พูดจบ ฝูอวิ๋นหันหลังจากไปแม่ม่ายหลิวอยากพาลูก
더 보기

บทที่ 13

“นางผลักข้าชนกำแพง แล้วก็เหยียบมือพี่ชาย” หลิงเสวี่ยเอ่ยอย่างรันทด“น่าโมโหนัก! อีกเดี๋ยวน้าเล็กจะด่านางให้หนักเลย! เสี่ยวเสวี่ยยังไม่ได้กินข้าวสินะ? น้าเล็กเอาหมั่นโถวขาวลูกใหญ่มาให้เจ้ากับพี่ชายด้วย”หญิงชั่ว คือสรรพนามของหลี่ชุ่ยฮวามาตลอด ดังนั้น หลี่หรูเยียนจึงทึกทักไปเอง ว่าหญิงชั่วที่หลิงเสวี่ยเอ่ยถึงคือหลี่ชุ่ยฮวานางหยิบหมั่นโถวออกมาจากตะกร้าสองลูก ซึ่งยังอุ่นอยู่ แบ่งให้เด็กทั้งสองคน“ขอบคุณน้าเล็ก” หลิงจิ่งเช็ดมือแล้วรับหมั่นโถวไป จากนั้นลงกลอนประตู กลับไปที่ห้องครัวหลี่หรูเยียนพาหลิงเสวี่ยเข้าไปคุยกันในห้องรับแขก “เสี่ยวเสวี่ย เจ้าชอบน้าเล็กหรือไม่?”“ข้าชอบน้าเล็กที่สุดเลย”“แล้วแม่เจ้าล่ะ?”“ตีคนชั่ว ไปศาลบรรพชนแล้ว”“เฮ้อ...บอกว่าไปศาลบรรพชน ใครจะไปรู้ว่านางจะสงบเสงี่ยมหรือไม่?ท่านพ่อของพวกเจ้าไม่อยู่ ไม่แน่วันใดวันหนึ่งแม่ของพวกเจ้าอาจทิ้งพวกเจ้าไปหาชายชู้ก็ได้น้าเล็กได้ยินมาว่า ชายชู้นั่นร่ำรวยมาก แม่ของเจ้ารังเกียจที่พ่อเจ้ายากจน จึงอยากหาคนรวยสักคน จะได้มีชีวิตสุขสบายเพียงแต่สงสารพวกเจ้าทั้งสอง ที่ต้องมามีแม่อย่างนี้ จึงมีแต่ความลำบาก” หลี่หรูเยียนทำหน
더 보기

บทที่ 14

“หลี่ชุ่ยฮวา เจ้ามันคนชั่วช้า เจ้าทำความผิดคนเดียว ทำไมข้าต้องมารับผิดพร้อมเจ้าด้วย?”ศาลบรรพชนแม่ม่ายหลิวด่าทออย่างไม่พอใจ“ไม่อยากคุกเข่าเจ้าก็ไปสิ” ฝูอวิ๋นหลับตา ไม่อยากพูดด้วยแม้แต่คำเดียว หญิงคนนี้พูดมาเหลือเกิน“ไปหรือ? เจ้าพูดง่ายเหลือเกินนะ!”เมื่อพูดออกไป แม่ม่ายหลิวรู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ จึงรีบทำหน้าตึง แล้วด่าออกไปอย่างหนักหน่วง“เจ้ามันตัวซวย เจ้ามันคนบ้า! ใครใช้ให้เจ้าตีลูกชายข้า สมน้ำหน้าที่โดนลงโทษ! เจ้าว่ามาสิ หลิงหานโจวเจ้าคนไม่เอาไหนนั่น มาเจอคนบ้าอย่างเจ้าแล้ว ทำไมยังไม่หย่ากับเจ้าอีก?”ฝูอวิ๋นยังคงทำไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ขี้เกียจสนใจนางแม่ม่ายหลิวเห็นนางไม่สนใจ ยิ่งโมโหกว่าเดิม จึงพูดเสียงดัง “หรือเจ้าไปฝึกวิชามาจากข้างนอกจริงๆ แล้วปรนนิบัติเขาจนสบายอารมณ์ ดังนั้นเขายอมถูกสวมเขาก็ยังไม่ยอมหย่ากับเจ้า?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แม่ม่ายหลิวแผ่ซ่านความอยากรู้อยากเห็นออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้าฝูอวิ๋นเหนื่อยใจ จึงเหลือบมองนาง “ทำไม? อิจฉาที่ข้ามีสามีหรือ? ก็ใช่ อย่างเจ้าต่อให้อยากปรนนิบัติ ก็ไม่มีให้ปรนนิบัติ”เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น สีหน้าแม
더 보기

บทที่ 15

กว่าแม่ม่ายหลิวจะรู้สึกตัว โต๊ะบูชาติดไฟไปนานแล้วสีหน้านางเปลี่ยน รีบวิ่งออกไปอย่างลนลานมุมปากฝูอวิ๋นยกขึ้น หันหน้าแล้วพุ่งไปที่แท่นบูชา จากนั้นรีบเก็บป้ายวิญญาณอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเก็บบันทึกลำดับญาติไปด้วยเพียงไม่นาน ได้ยินเสียงฝีเท้าวุ่นวายที่ดังมาจากด้านนอก และเสียงกรีดร้องของแม่ม่ายหลิว“หัวหน้าหมู่บ้านท่านดูสิ หลี่ชุ่ยฮวาเป็นบ้าอีกแล้ว! เมื่อกี้นางคุกเข่าลงไปก็ไม่พอใจ ด่าท่านไปด้วยพลางเผาป้ายวิญญาณไปด้วย นี่คงอยากสาปแช่งให้ทุกคนในหมู่บ้านสกุลหลี่ไม่ได้ตายดี”ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว แสงไฟสีแดงฉานโดดเด่นสะดุดตา ฝูอวิ๋นหอบเอาป้ายวิญญารบรรพชนเดินออกมากลางกองไฟ ดูแล้วเหมือนจะเป็นดังที่แม่ม่ายหลิวบอกแม่ม่ายหลิวอยู่ใกล้หลี่ต้าเต๋อ ได้ยินเสียงเขากัดฟันอย่างชัดเจนแววตานางมีความได้ใจแวบผ่าน หลี่ชุ่ยฮวา กล้าใส่ร้ายข้าหรือ ข้าจะจัดการเจ้าให้เข็ดหลาบ!“เร็ว! ดับไฟเร็ว!” ฝูอวิ๋นตะโกนเสียงดัง วางป้ายวิญญาณบรรพชนลง จากนั้นหันไปทางแท่นบูชาโดยไม่ลังเล เพื่อไปขนป้ายวิญญาณบรรพชนที่เหลือหลี่ต้าเต๋อไม่มีเวลาเอาเรื่อง รีบสั่งให้คนไปดับไฟบ้าง สั่งให้คนไปเอาป้ายบรรพชนบ้างศาลบรรพชนราวกับเกิ
더 보기

บทที่ 16

“หัวหน้าหมู่บ้าน หากให้ไปลงที่ท่าน นางคงขึ้นไปอึบนโต๊ะอาหารของบ้านท่าน!” แม่ม่ายหลิวเอ่ยพร้อมหัวเราะ“...”เผาศาลบรรพชนเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก ไม่มีใครหัวเราะไปกับนาง รอยยิ้มของนางจึงค้างอยู่บนใบหน้าอย่างกระอักกระอ่วนฝูอวิ๋นขยับร่างกาย แล้วบิดขี้เกียจ หันหลังกวาดมองหนึ่งรอบไม่เลว มากันเกือบจะทั้งหมู่บ้านแล้วเมื่อเห็นหลิงจิ่งที่เบียดเสียดท่ามกลางฝูงชน ในใจนางอบอุ่น จึงยิ้มให้เขาหลิงจิ่งตะลึงทันทีหญิงคนนี้ไม่เคยยิ้มให้เขามาก่อน...แต่ว่าเวลานางยิ้ม สวยงามมากจริงๆทำให้หลิงจิ่งหน้าแดงอย่างลืมตัวทันใดนั้น เขาทำหน้าตึง พร้อมทำหน้าไม่แยแสเผาศาลบรรพชน ดีไม่ดีอาจถูกถ่วงน้ำในเล้าหมู นางยังมีแก่ใจยิ้มอีก!หมูตายไม่กลัวน้ำร้อนลวก!หลี่ต้าเต๋อตำหนิ “หลี่ชุ่ยฮวา เจ้ายังยิ้มออกหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งของในศาลบรรพชนสำคัญเพียงใด?”“รู้สิ” ฝูอวิ๋นตอบเสียงเรียบ“รู้แล้วเจ้ายังวางเพลิงอีก!” หลี่ต้าเต๋อโกรธจนตัวสั่นไปหมด ฝูอวิ๋นกลัวเขาจะกระแทกไม้เท้าจนหัก อีกเดี๋ยวจะกลับบ้านไม่ได้“ใครว่าข้าเป็นคนวางเพลิง?” ฝูอวิ๋นย้อนถามทุกคนอย่างเย็นชา “คำพูดของแม่เสี่ยวหู่พวกท่านก็เชื่อหรือ?”
더 보기

บทที่ 17

หลี่ต้าเต๋อจ้องแม่ม่ายหลิว “นางหลิว เหตุใดเจ้าจึงจุดไฟเผาป้ายวิญญาณบรรพชน?”ฝูอวิ๋นทั้งสาปแช่งทั้งขอรับโทษ ทำให้แม่ม่ายหลิวตะลึงจนเหม่อลอย ลืมแก้ต่างให้ตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน นางถึงได้ตกใจตื่น ทันใดนั้นความผิดใหญ่หลวงก็บินมาหานางทันที“หัวหน้าหมู่บ้าน อย่าฟังหลิวชุ่ยฮวาพูดเหลวไหล” แม่ม่ายหลิวทั้งคำนับทั้งร้องไห้ “ต่อให้ข้าใจกล้าสักเพียงใด ข้าก็ไม่กล้าเผาป้ายวิญญาณบรรพชน! เป็นนาง เป็นหลี่ชุ่ยฮวา เมื่อกี้ข้า...”“เมื่อกี้ทำไมหรือ?” ฝูอวิ๋นเลิกคิ้วแล้วเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางใจเย็นของฝูอวิ๋น แม่ม่ายหลิวถึงได้รู้สึกตัว นางตกหลุมพรางแล้วเมื่อกี้ ตอนที่ตีกันนางเอาแต่หลบไปทางแท่นบูชา จากนั้นปัดตะเกียงคว่ำ นางเห็นแล้ว แต่เพราะไฟโหมแรงเกินไป ตอนนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้รอให้นางได้สติ ปฏิกิริยาแรกคือรีบไปหาคน เพื่อฟ้องและใส่ร้ายหลี่ชุ่ยฮวา ไม่ให้นางมีโอกาสแก้ตัวแต่ใครจะคิด ใส่ร้ายไม่สำเร็จกลับถูกแว้งกัดตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าหมู่บ้านเชื่ออีกฝ่ายไปแล้ว!เชอะ หญิงผู้นี้มักจะเลอะเลือนบ้าบอ เหตุใดวันนี้จึงพูดจาฉะฉานยิ่งนัก?แม่ม่ายหลิวกัดฟันจ้องฝูอวิ๋น “เพราะเจ
더 보기

บทที่ 18

เห็นเรื่องราวดำเนินมาพอสมควร ฝูอวิ๋นลุกขึ้นยืน “หัวหน้าหมู่บ้าน หากไม่มีธุระใดข้าขอตัวก่อน ลูกถูกแม่เสี่ยวหู่ตีจนอยู่ในสภาพนั้น ข้าต้องรีบกลับไปดู”หลี่ต้าเต๋อพยักหน้า “ไปเถอะ เห็นแก่ที่เจ้าทำคุณไถ่โทษ จะปล่อยเจ้าไปก่อน ต่อไปทำตัวให้ดีละ นางหลิว เจ้าดูถูกคนสกุลหลี่อย่างนั้นหรือ?”แม่ม่ายหลิวลนลาน “หัวหน้าหมู่บ้าน ไม่ใช่นะ ข้าเปล่านะ...”“ไม่ใช่ เจ้าเปล่าทำ แล้วเจ้าหนีทำไม?”“ข้า...ข้าแค่ไปเรียกคนมา...” แม่ม่ายหลิวพูดอย่างไม่มั่นใจฝูอวิ๋นเพิ่งเดินพ้นฝูงชน เกือบจะหัวเราะเพราะแม่ม่ายหลิว นางพูดเช่นนี้กับยอมรับว่าไฟไหม้ก็หนีต่างกันตรงไหน?“อาจิ่ง กลับบ้าน” ฝูอวิ๋นเรียกโดยไม่หันกลับไปมองหลิงจิ่งตัวแข็งทื่อ วิ่งเหยาะๆ ตามหลังนางไปยังดีที่คืนนี้มีแสงจันทร์ ไม่อย่างนั้น ฝูอวิ๋นคงไปบ้านตัวเองไม่ถูก“คือว่า...” ระหว่างทาง หลิงจิ่งอดถามไม่ได้ “ท่านไม่ได้จุดไฟจริงหรือ?”“ไม่ใช่ แมวป่าทำตะเกียงคว่ำ แต่ป้ายบรรพชนเหล่านั้นข้าเป็นคนนำออกมาเอง” ฝูอวิ๋นตอบจริงจัง“ท่าน...” หลิงจิ่งเม้มปากเป็นเส้นตรง ดวงตาดำขลับจ้องมองแผ่นหลังของฝูอวิ๋นเมื่อครู่ที่ได้ยินนางพูดเช่นนั้น เขารู้สึกว่านางเหมือ
더 보기

บทที่ 19

ฝูอวิ๋นขากะเผลกตลอดกระบวนการ ตั้งแต่ทำความสะอาดปลา จนน้ำน้ำแกงปลาร้อนๆ ออกมาจากหม้อบางครั้งยังกระโดดขาเดียวต่อหน้าหลิงจิ่งหลายครั้งทุกครั้งที่กระโดด ล้วนสามารถมองเห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของหลิงจิ่งใบหน้าฝูอวิ๋นมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏอยู่ตลอดเจ้าตัวเล็ก ข้าเป๋ขนาดนี้ ยังทำอาหารเย็นให้พวกเจ้า จงละอายใจให้ถึงที่สุดเถอะ ทางที่ดีเอาแบบนอนไม่หลับตลอดคืนจากนั้น รอให้พ่อของพวกเจ้ากลับมา ค่อยสาธยายให้เขาฟัง ให้ข้าได้มีที่อยู่อาศัย หรือให้เงินข้าจากไปสักแปดสิบหรือร้อยตำลึงก็ยังดีแม้อาหารเย็นจะมีแค่ปลา แต่โชคดีที่ตัวใหญ่ พอให้ทั้งสามคนกินหลิงเสวี่ยยังเด็ก ฝูอวิ๋นไม่อนุญาตให้นางคีบเอง แต่เอาก้างปลาออกก่อนค่อยใส่ในถ้วยนางแรกเริ่มทุกครั้งที่คีบให้นาง นางจะหันมองพี่ชายตัวเองก่อน เพื่อขอความเห็นชอบจากเขาต่อมา เอาแต่กินโดยไม่สนใจสิ่งใด“อาจิ่ง ตอนเจ้ากินช้าๆ หน่อย ต้องให้ข้าเอาก้างออกให้หรือไม่?” ฝูอวิ๋นมองหลิงจิ่ง“ไม่ต้อง ข้ากินเป็น” หลิงจิ่งตอบหน้าแดงพวกเขาเป็นครอบครัวนายพราน จึงคุ้นเคยกับเนื้อสัตว์หรือปลาอยู่แล้ว“ปลาที่ข้าทำกับปลาที่พ่อพวกเจ้าทำ อันไหนอร่อยกว่า?” ฝูอวิ๋นเอ่ยถามอีกค
더 보기

บทที่ 20

เมื่อเด็กน้อยเอ่ยถึงหลี่หรูเยียน กลับเป็นการเตือนสติฝูอวิ๋นหลี่หรูเยียนมักยุยงหลี่ชุ่ยฮวาให้ไปตามหาความสุขของตัวเอง บอกหลี่ชุ่ยฮวา หากไม่มีลูกสองคนนี้ นางคงได้ไปอยู่ครองคู่กับเซียวหรานนานแล้วหากไม่ใช่เพราะมีลูก ด้วยรูปโฉมที่งดงามจนสามารถล่มเมืองของหลี่ชุ่ยฮวา สกุลเซียวจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร?แต่เดิมหลี่ชุ่ยฮวาก็โกรธเคืองหลิงหานโจวอยู่แล้ว และไม่ชอบลูกตัวเอง เมื่อถูกหลี่หรูเยียนล้างสมอง ยิ่งไปกันใหญ่มองลูกตัวเองเป็นเสี้ยนหนามตำตา แต่อย่างไรก็เป็นเนื้อที่ตกลงมาจากร่างกาย ตอนหลิงหานโจวไม่อยู่ นางก็ทำอาหารให้ลูก...แต่สภาพไม่ต่างจากอาหารหมูนอกจากนี้ หลี่หรูเยียนยังบอกนาง ที่ไม่ได้สมหวังกับเซียวหราน ต้องโทษปู่และย่าของนาง ที่จะให้นางแต่งกับหลิงหานโจวให้ได้ดังนั้น หลี่ชุ่ยฮวาก็ทำกับปู่และย่าเหมือนศัตรูอย่างไรอย่างนั้นแล้วยังบอกว่าหลิงหานโจวเป็นชายฉกรรจ์หยาบกระด้าง จะสู้หนุ่มหน้ามนอย่างเซียวหรานได้อย่างไร? ทั้งดำเมี่ยม ทั้งหน้าตาอัปลักษณ์ จะคู่ควรกับดอกไม้งามแห่งหมู่บ้านสกุลหลี่ได้อย่างไร?ไม่ว่าอย่างไร ล้วนคิดแทนหลี่ชุ่ยฮวาสารพัด ล้างสมองสารพัด ปล่อยให้นางมั่นใจอย่างผิดๆ รู้สึก
더 보기
이전
1234
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status