Share

บทที่ 12

Author: เจี๋ยเยี่ยน
ฝูอวิ๋นโล่งอก คุกเข่าสองชั่วยามแลกกับความสะใจ นางยินดี

เมื่อเห็นสายตากังวลของหลิงจิ่ง นางใจอ่อนโดยไม่มีสาเหตุ เจ้าตัวเล็กเป็นห่วงนางหรือ?

นางเก็บสมุนไพรที่ตกตรงกำแพง แล้วยื่นให้หลิงจิ่ง “นี่เป็นสมุนไพรรักษาไข้หวัด เจ้าใช้น้ำสองถ้วย ต้มเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป เป่าให้เย็นแล้วป้อนเสี่ยวเสวี่ย ไม่งั้นจะไม่สบาย”

นางหันมองหลิงเสวี่ย “เสี่ยวเสวี่ยรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”

หลิงเสวี่ยร้องไห้จนหน้าลายเหมือนแมว เห็นนางมองตัวเอง ตัวสั่นสะท้าน จับเสื้อหลิงจิ่งไว้แน่น

เด็กกลัวแม่มาตั้งหลายปี ฝูอวิ๋นไม่ได้หวังว่าภายในหนึ่งวันจะสามารถกำจัดความกลัวในใจพวกเขาได้

นางรีบลุกขึ้น “อาจิ่ง พวกเจ้าใส่กลอนประตูให้ดี นอกจากข้า ห้ามให้ใครเข้าไปทั้งนั้น ในไม่ช้าข้าจะกลับมา หากเสี่ยวเสวี่ยมีสิ่งใดผิดปกติ ให้รีบไปตามข้าที่ศาลบรรพชน”

หลิงจิ่งเม้มปากแน่น ในดวงตามีมีประกายน้ำตาคลอเบ้า

“อย่าร้องไห้ เรื่องนี้ข้าเองก็มีความผิด มีความผิดก็ต้องรับโทษ แต่ว่าขอแค่ได้แก้แค้นให้เจ้าก็คุ้มค่าแล้ว”

ล้วนบอกว่าใจแลกใจ นางไม่เชื่อว่าเด็กน้อยสองคนนี้ จะต้านทานการโจมตีของนางได้

พูดจบ ฝูอวิ๋นหันหลังจากไป

แม่ม่ายหลิวอยากพาลูกชายหนี แต่ถูกจับตัวไว้ได้ ทั้งดันทั้งผลัก สภาพน่าเวทนาอย่างที่สุด

ส่วนฝูอวิ๋นเดินไปเอง อกผายไหล่ผึ่ง จากไปอย่างองอาจเหลือเกิน

เมื่อมองแผ่นหลังที่ตั้งตรง หลิงจิ่งสับสนเล็กน้อย แผ่นหลังนั่น ราวกับแผ่นหลังที่ยิ่งใหญ่ของท่านพ่อ

ทว่าทันใดนั้น ใบหน้าของเขาเยือกเย็นลง ชาตินี้เขาไม่มีวันลืมแน่นอน ว่าหญิงผู้นี้เคยทำกับเขาอย่างไร

หลิงจิ่งใส่กลอนประตูจากด้านใน แล้วพาน้องสาวไปต้มยาในห้องครัว

เมื่อมองใบไม้สีเขียวที่เดือดปุดอยู่ในหม้อ ความคิดของเขาล่องลอย

ที่ผ่านมา หากเขาชกต่อยกับคนอื่น หญิงคนนั้นมักลงโทษเขาโดยไม่สนใจสิ่งใด

วันนี้ไม่เพียงช่วยเขาตีหลี่เสี่ยวหู่ ลงไปช่วยน้องสาวในน้ำโดยไม่กลัวอันตราย ซ้ำยังไปหาสมุนไพรให้น้องสาว บอกให้เขาแก้แค้น

นางยังบอกว่า...ขอเพียงแก้แค้นให้เขาได้ก็คุ้มค่าแล้ว

ทำไมจู่ๆ นางถึงอยากแก้แค้นให้เขาล่ะ?

เฮ้อ เขาแทบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นคนที่มีแม่

“ท่านพี่ นางเปลี่ยนเป็นคนดีแล้วหรือ?” หลิงเสวี่ยยืนอยู่ข้างหลิงจิ่ง

หากเป็นหนึ่งชั่วยามก่อน หลิงจิ่งจะตอบนางอย่างไม่ลังเล เป็นไปไม่ได้!

แต่ตอนนี้ ตัวเขาเองก็ไม่รู้

หลังสับสนสักครู่ แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว “เสี่ยวเสวี่ย อย่าเชื่อนาง! ไม่แน่ นางอาจวางแผนชั่วอยู่”

ระหว่างที่สองพี่น้องพูดคุยกัน มีคนตบประตูด้านนอกเสียงดัง หลิงเสวี่ยตัวสั่นอย่างลืมตัว แล้วเข้าไปใกล้พี่ชาย หวาดระแวงขึ้นมา

“อาจิ่ง เปิดประตู” คนข้างนอกเอ่ยขึ้น

“น้าเล็ก!” หลิงเสวี่ยยิ้มแล้ววิ่งออกไป

ทันใดนั้นหลิงจิ่งนึกถึงคำพูดก่อนจากไปของฝูอวิ๋น จึงดึงนางไว้ “ห้ามเปิด”

หญิงคนนั้นบอกว่านอกจากนาง ใครก็ห้ามเปิด เมื่อครู่เขาทนไม่ไหวไปเปิดประตู ถึงได้เสียเปรียบ

“ท่านพี่ น้าเล็กมาแล้ว” หลิงเสวี่ยสะบัดมือพี่ชาย แล้ววิ่งออกไป เรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “น้าเล็ก ข้าเปิดประตูให้ท่าน”

เมื่อหลี่หรูเยียนเข้ามาถึง ก็รีบสำรวจร่างกายหลิงเสวี่ย “ไม่เป็นไรนะ? แม่ของต้าหู่รังแกพวกเจ้าหรือไม่?”

“น้าเล็ก...” หลิงเสวี่ยโผเข้าอ้อมกอดหลี่หรูเยียน “หญิงชั่วตีพี่ชายของข้า”

หลี่ชุ่ยฮวาปฏิบัติกับลูกทั้งสองแย่มาก เด็กทั้งสองจึงไม่มีความผูกพันธ์กับนางมากนัก

แต่หลี่หรูเยียนไม่เหมือนกัน ในใจของเด็กน้อย นางคือน้าเล็กที่ผูกพันธ์ยิ่งกว่าแม่แท้ๆ

เพราะน้าเล็กให้พวกเขากินของอร่อย ไม่ตีพวกเขา อีกทั้งยังเล่านิทานให้พวกเขาฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ส่วนแม่ของพวกเขา ทุกครั้งที่เห็นของอร่อยก็จะแย่งเอาไปกินคนเดียว พอไม่พอใจก็ทุบตีด่าทอ

หลี่หรูเยียนขมวดคิ้ว “นางตีพวกเจ้าอีกแล้วหรือ? ตีเจ้าตรงไหน?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 13

    “นางผลักข้าชนกำแพง แล้วก็เหยียบมือพี่ชาย” หลิงเสวี่ยเอ่ยอย่างรันทด“น่าโมโหนัก! อีกเดี๋ยวน้าเล็กจะด่านางให้หนักเลย! เสี่ยวเสวี่ยยังไม่ได้กินข้าวสินะ? น้าเล็กเอาหมั่นโถวขาวลูกใหญ่มาให้เจ้ากับพี่ชายด้วย”หญิงชั่ว คือสรรพนามของหลี่ชุ่ยฮวามาตลอด ดังนั้น หลี่หรูเยียนจึงทึกทักไปเอง ว่าหญิงชั่วที่หลิงเสวี่ยเอ่ยถึงคือหลี่ชุ่ยฮวานางหยิบหมั่นโถวออกมาจากตะกร้าสองลูก ซึ่งยังอุ่นอยู่ แบ่งให้เด็กทั้งสองคน“ขอบคุณน้าเล็ก” หลิงจิ่งเช็ดมือแล้วรับหมั่นโถวไป จากนั้นลงกลอนประตู กลับไปที่ห้องครัวหลี่หรูเยียนพาหลิงเสวี่ยเข้าไปคุยกันในห้องรับแขก “เสี่ยวเสวี่ย เจ้าชอบน้าเล็กหรือไม่?”“ข้าชอบน้าเล็กที่สุดเลย”“แล้วแม่เจ้าล่ะ?”“ตีคนชั่ว ไปศาลบรรพชนแล้ว”“เฮ้อ...บอกว่าไปศาลบรรพชน ใครจะไปรู้ว่านางจะสงบเสงี่ยมหรือไม่?ท่านพ่อของพวกเจ้าไม่อยู่ ไม่แน่วันใดวันหนึ่งแม่ของพวกเจ้าอาจทิ้งพวกเจ้าไปหาชายชู้ก็ได้น้าเล็กได้ยินมาว่า ชายชู้นั่นร่ำรวยมาก แม่ของเจ้ารังเกียจที่พ่อเจ้ายากจน จึงอยากหาคนรวยสักคน จะได้มีชีวิตสุขสบายเพียงแต่สงสารพวกเจ้าทั้งสอง ที่ต้องมามีแม่อย่างนี้ จึงมีแต่ความลำบาก” หลี่หรูเยียนทำหน

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 14

    “หลี่ชุ่ยฮวา เจ้ามันคนชั่วช้า เจ้าทำความผิดคนเดียว ทำไมข้าต้องมารับผิดพร้อมเจ้าด้วย?”ศาลบรรพชนแม่ม่ายหลิวด่าทออย่างไม่พอใจ“ไม่อยากคุกเข่าเจ้าก็ไปสิ” ฝูอวิ๋นหลับตา ไม่อยากพูดด้วยแม้แต่คำเดียว หญิงคนนี้พูดมาเหลือเกิน“ไปหรือ? เจ้าพูดง่ายเหลือเกินนะ!”เมื่อพูดออกไป แม่ม่ายหลิวรู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ จึงรีบทำหน้าตึง แล้วด่าออกไปอย่างหนักหน่วง“เจ้ามันตัวซวย เจ้ามันคนบ้า! ใครใช้ให้เจ้าตีลูกชายข้า สมน้ำหน้าที่โดนลงโทษ! เจ้าว่ามาสิ หลิงหานโจวเจ้าคนไม่เอาไหนนั่น มาเจอคนบ้าอย่างเจ้าแล้ว ทำไมยังไม่หย่ากับเจ้าอีก?”ฝูอวิ๋นยังคงทำไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ขี้เกียจสนใจนางแม่ม่ายหลิวเห็นนางไม่สนใจ ยิ่งโมโหกว่าเดิม จึงพูดเสียงดัง “หรือเจ้าไปฝึกวิชามาจากข้างนอกจริงๆ แล้วปรนนิบัติเขาจนสบายอารมณ์ ดังนั้นเขายอมถูกสวมเขาก็ยังไม่ยอมหย่ากับเจ้า?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แม่ม่ายหลิวแผ่ซ่านความอยากรู้อยากเห็นออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้าฝูอวิ๋นเหนื่อยใจ จึงเหลือบมองนาง “ทำไม? อิจฉาที่ข้ามีสามีหรือ? ก็ใช่ อย่างเจ้าต่อให้อยากปรนนิบัติ ก็ไม่มีให้ปรนนิบัติ”เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น สีหน้าแม

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 15

    กว่าแม่ม่ายหลิวจะรู้สึกตัว โต๊ะบูชาติดไฟไปนานแล้วสีหน้านางเปลี่ยน รีบวิ่งออกไปอย่างลนลานมุมปากฝูอวิ๋นยกขึ้น หันหน้าแล้วพุ่งไปที่แท่นบูชา จากนั้นรีบเก็บป้ายวิญญาณอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเก็บบันทึกลำดับญาติไปด้วยเพียงไม่นาน ได้ยินเสียงฝีเท้าวุ่นวายที่ดังมาจากด้านนอก และเสียงกรีดร้องของแม่ม่ายหลิว“หัวหน้าหมู่บ้านท่านดูสิ หลี่ชุ่ยฮวาเป็นบ้าอีกแล้ว! เมื่อกี้นางคุกเข่าลงไปก็ไม่พอใจ ด่าท่านไปด้วยพลางเผาป้ายวิญญาณไปด้วย นี่คงอยากสาปแช่งให้ทุกคนในหมู่บ้านสกุลหลี่ไม่ได้ตายดี”ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว แสงไฟสีแดงฉานโดดเด่นสะดุดตา ฝูอวิ๋นหอบเอาป้ายวิญญารบรรพชนเดินออกมากลางกองไฟ ดูแล้วเหมือนจะเป็นดังที่แม่ม่ายหลิวบอกแม่ม่ายหลิวอยู่ใกล้หลี่ต้าเต๋อ ได้ยินเสียงเขากัดฟันอย่างชัดเจนแววตานางมีความได้ใจแวบผ่าน หลี่ชุ่ยฮวา กล้าใส่ร้ายข้าหรือ ข้าจะจัดการเจ้าให้เข็ดหลาบ!“เร็ว! ดับไฟเร็ว!” ฝูอวิ๋นตะโกนเสียงดัง วางป้ายวิญญาณบรรพชนลง จากนั้นหันไปทางแท่นบูชาโดยไม่ลังเล เพื่อไปขนป้ายวิญญาณบรรพชนที่เหลือหลี่ต้าเต๋อไม่มีเวลาเอาเรื่อง รีบสั่งให้คนไปดับไฟบ้าง สั่งให้คนไปเอาป้ายบรรพชนบ้างศาลบรรพชนราวกับเกิ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 16

    “หัวหน้าหมู่บ้าน หากให้ไปลงที่ท่าน นางคงขึ้นไปอึบนโต๊ะอาหารของบ้านท่าน!” แม่ม่ายหลิวเอ่ยพร้อมหัวเราะ“...”เผาศาลบรรพชนเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก ไม่มีใครหัวเราะไปกับนาง รอยยิ้มของนางจึงค้างอยู่บนใบหน้าอย่างกระอักกระอ่วนฝูอวิ๋นขยับร่างกาย แล้วบิดขี้เกียจ หันหลังกวาดมองหนึ่งรอบไม่เลว มากันเกือบจะทั้งหมู่บ้านแล้วเมื่อเห็นหลิงจิ่งที่เบียดเสียดท่ามกลางฝูงชน ในใจนางอบอุ่น จึงยิ้มให้เขาหลิงจิ่งตะลึงทันทีหญิงคนนี้ไม่เคยยิ้มให้เขามาก่อน...แต่ว่าเวลานางยิ้ม สวยงามมากจริงๆทำให้หลิงจิ่งหน้าแดงอย่างลืมตัวทันใดนั้น เขาทำหน้าตึง พร้อมทำหน้าไม่แยแสเผาศาลบรรพชน ดีไม่ดีอาจถูกถ่วงน้ำในเล้าหมู นางยังมีแก่ใจยิ้มอีก!หมูตายไม่กลัวน้ำร้อนลวก!หลี่ต้าเต๋อตำหนิ “หลี่ชุ่ยฮวา เจ้ายังยิ้มออกหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งของในศาลบรรพชนสำคัญเพียงใด?”“รู้สิ” ฝูอวิ๋นตอบเสียงเรียบ“รู้แล้วเจ้ายังวางเพลิงอีก!” หลี่ต้าเต๋อโกรธจนตัวสั่นไปหมด ฝูอวิ๋นกลัวเขาจะกระแทกไม้เท้าจนหัก อีกเดี๋ยวจะกลับบ้านไม่ได้“ใครว่าข้าเป็นคนวางเพลิง?” ฝูอวิ๋นย้อนถามทุกคนอย่างเย็นชา “คำพูดของแม่เสี่ยวหู่พวกท่านก็เชื่อหรือ?”

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 17

    หลี่ต้าเต๋อจ้องแม่ม่ายหลิว “นางหลิว เหตุใดเจ้าจึงจุดไฟเผาป้ายวิญญาณบรรพชน?”ฝูอวิ๋นทั้งสาปแช่งทั้งขอรับโทษ ทำให้แม่ม่ายหลิวตะลึงจนเหม่อลอย ลืมแก้ต่างให้ตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน นางถึงได้ตกใจตื่น ทันใดนั้นความผิดใหญ่หลวงก็บินมาหานางทันที“หัวหน้าหมู่บ้าน อย่าฟังหลิวชุ่ยฮวาพูดเหลวไหล” แม่ม่ายหลิวทั้งคำนับทั้งร้องไห้ “ต่อให้ข้าใจกล้าสักเพียงใด ข้าก็ไม่กล้าเผาป้ายวิญญาณบรรพชน! เป็นนาง เป็นหลี่ชุ่ยฮวา เมื่อกี้ข้า...”“เมื่อกี้ทำไมหรือ?” ฝูอวิ๋นเลิกคิ้วแล้วเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางใจเย็นของฝูอวิ๋น แม่ม่ายหลิวถึงได้รู้สึกตัว นางตกหลุมพรางแล้วเมื่อกี้ ตอนที่ตีกันนางเอาแต่หลบไปทางแท่นบูชา จากนั้นปัดตะเกียงคว่ำ นางเห็นแล้ว แต่เพราะไฟโหมแรงเกินไป ตอนนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้รอให้นางได้สติ ปฏิกิริยาแรกคือรีบไปหาคน เพื่อฟ้องและใส่ร้ายหลี่ชุ่ยฮวา ไม่ให้นางมีโอกาสแก้ตัวแต่ใครจะคิด ใส่ร้ายไม่สำเร็จกลับถูกแว้งกัดตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าหมู่บ้านเชื่ออีกฝ่ายไปแล้ว!เชอะ หญิงผู้นี้มักจะเลอะเลือนบ้าบอ เหตุใดวันนี้จึงพูดจาฉะฉานยิ่งนัก?แม่ม่ายหลิวกัดฟันจ้องฝูอวิ๋น “เพราะเจ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 18

    เห็นเรื่องราวดำเนินมาพอสมควร ฝูอวิ๋นลุกขึ้นยืน “หัวหน้าหมู่บ้าน หากไม่มีธุระใดข้าขอตัวก่อน ลูกถูกแม่เสี่ยวหู่ตีจนอยู่ในสภาพนั้น ข้าต้องรีบกลับไปดู”หลี่ต้าเต๋อพยักหน้า “ไปเถอะ เห็นแก่ที่เจ้าทำคุณไถ่โทษ จะปล่อยเจ้าไปก่อน ต่อไปทำตัวให้ดีละ นางหลิว เจ้าดูถูกคนสกุลหลี่อย่างนั้นหรือ?”แม่ม่ายหลิวลนลาน “หัวหน้าหมู่บ้าน ไม่ใช่นะ ข้าเปล่านะ...”“ไม่ใช่ เจ้าเปล่าทำ แล้วเจ้าหนีทำไม?”“ข้า...ข้าแค่ไปเรียกคนมา...” แม่ม่ายหลิวพูดอย่างไม่มั่นใจฝูอวิ๋นเพิ่งเดินพ้นฝูงชน เกือบจะหัวเราะเพราะแม่ม่ายหลิว นางพูดเช่นนี้กับยอมรับว่าไฟไหม้ก็หนีต่างกันตรงไหน?“อาจิ่ง กลับบ้าน” ฝูอวิ๋นเรียกโดยไม่หันกลับไปมองหลิงจิ่งตัวแข็งทื่อ วิ่งเหยาะๆ ตามหลังนางไปยังดีที่คืนนี้มีแสงจันทร์ ไม่อย่างนั้น ฝูอวิ๋นคงไปบ้านตัวเองไม่ถูก“คือว่า...” ระหว่างทาง หลิงจิ่งอดถามไม่ได้ “ท่านไม่ได้จุดไฟจริงหรือ?”“ไม่ใช่ แมวป่าทำตะเกียงคว่ำ แต่ป้ายบรรพชนเหล่านั้นข้าเป็นคนนำออกมาเอง” ฝูอวิ๋นตอบจริงจัง“ท่าน...” หลิงจิ่งเม้มปากเป็นเส้นตรง ดวงตาดำขลับจ้องมองแผ่นหลังของฝูอวิ๋นเมื่อครู่ที่ได้ยินนางพูดเช่นนั้น เขารู้สึกว่านางเหมือ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 19

    ฝูอวิ๋นขากะเผลกตลอดกระบวนการ ตั้งแต่ทำความสะอาดปลา จนน้ำน้ำแกงปลาร้อนๆ ออกมาจากหม้อบางครั้งยังกระโดดขาเดียวต่อหน้าหลิงจิ่งหลายครั้งทุกครั้งที่กระโดด ล้วนสามารถมองเห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของหลิงจิ่งใบหน้าฝูอวิ๋นมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏอยู่ตลอดเจ้าตัวเล็ก ข้าเป๋ขนาดนี้ ยังทำอาหารเย็นให้พวกเจ้า จงละอายใจให้ถึงที่สุดเถอะ ทางที่ดีเอาแบบนอนไม่หลับตลอดคืนจากนั้น รอให้พ่อของพวกเจ้ากลับมา ค่อยสาธยายให้เขาฟัง ให้ข้าได้มีที่อยู่อาศัย หรือให้เงินข้าจากไปสักแปดสิบหรือร้อยตำลึงก็ยังดีแม้อาหารเย็นจะมีแค่ปลา แต่โชคดีที่ตัวใหญ่ พอให้ทั้งสามคนกินหลิงเสวี่ยยังเด็ก ฝูอวิ๋นไม่อนุญาตให้นางคีบเอง แต่เอาก้างปลาออกก่อนค่อยใส่ในถ้วยนางแรกเริ่มทุกครั้งที่คีบให้นาง นางจะหันมองพี่ชายตัวเองก่อน เพื่อขอความเห็นชอบจากเขาต่อมา เอาแต่กินโดยไม่สนใจสิ่งใด“อาจิ่ง ตอนเจ้ากินช้าๆ หน่อย ต้องให้ข้าเอาก้างออกให้หรือไม่?” ฝูอวิ๋นมองหลิงจิ่ง“ไม่ต้อง ข้ากินเป็น” หลิงจิ่งตอบหน้าแดงพวกเขาเป็นครอบครัวนายพราน จึงคุ้นเคยกับเนื้อสัตว์หรือปลาอยู่แล้ว“ปลาที่ข้าทำกับปลาที่พ่อพวกเจ้าทำ อันไหนอร่อยกว่า?” ฝูอวิ๋นเอ่ยถามอีกค

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 20

    เมื่อเด็กน้อยเอ่ยถึงหลี่หรูเยียน กลับเป็นการเตือนสติฝูอวิ๋นหลี่หรูเยียนมักยุยงหลี่ชุ่ยฮวาให้ไปตามหาความสุขของตัวเอง บอกหลี่ชุ่ยฮวา หากไม่มีลูกสองคนนี้ นางคงได้ไปอยู่ครองคู่กับเซียวหรานนานแล้วหากไม่ใช่เพราะมีลูก ด้วยรูปโฉมที่งดงามจนสามารถล่มเมืองของหลี่ชุ่ยฮวา สกุลเซียวจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไร?แต่เดิมหลี่ชุ่ยฮวาก็โกรธเคืองหลิงหานโจวอยู่แล้ว และไม่ชอบลูกตัวเอง เมื่อถูกหลี่หรูเยียนล้างสมอง ยิ่งไปกันใหญ่มองลูกตัวเองเป็นเสี้ยนหนามตำตา แต่อย่างไรก็เป็นเนื้อที่ตกลงมาจากร่างกาย ตอนหลิงหานโจวไม่อยู่ นางก็ทำอาหารให้ลูก...แต่สภาพไม่ต่างจากอาหารหมูนอกจากนี้ หลี่หรูเยียนยังบอกนาง ที่ไม่ได้สมหวังกับเซียวหราน ต้องโทษปู่และย่าของนาง ที่จะให้นางแต่งกับหลิงหานโจวให้ได้ดังนั้น หลี่ชุ่ยฮวาก็ทำกับปู่และย่าเหมือนศัตรูอย่างไรอย่างนั้นแล้วยังบอกว่าหลิงหานโจวเป็นชายฉกรรจ์หยาบกระด้าง จะสู้หนุ่มหน้ามนอย่างเซียวหรานได้อย่างไร? ทั้งดำเมี่ยม ทั้งหน้าตาอัปลักษณ์ จะคู่ควรกับดอกไม้งามแห่งหมู่บ้านสกุลหลี่ได้อย่างไร?ไม่ว่าอย่างไร ล้วนคิดแทนหลี่ชุ่ยฮวาสารพัด ล้างสมองสารพัด ปล่อยให้นางมั่นใจอย่างผิดๆ รู้สึก

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 40

    ฝูอวิ๋นสัมผัสได้ถึงสายตาอันแรงกล้าที่จ้องตัวเองอยู่ก็ขมวดเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น จากนั้นหันตัวไป ได้พบกับเซียวหรานผู้เป็นตำนานมิน่าเล่า หลี่ชุ่ยฮวาจึงจำไม่ลืมเลือน เป็นความจริงที่เขารูปหล่อมาก มีกลิ่นอายของบัณฑิตผู้สุภาพและให้ความรู้สึกเหมือนคุณชายผู้สง่างามเซียวหรานขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจเมื่อเห็นฝูอวิ๋นมองมา “หลี่ชุ่ยฮวา วันก่อนข้าก็พูดกับเจ้าอย่างชัดเจนแล้วนะว่าข้ามีภรรยาแล้ว ส่วนเจ้าก็แต่งงานแล้วเช่นกัน อย่าตามตื๊อข้าอีก”จู่ๆ ฝูอวิ๋นก็หัวเราะออกมา ดวงตาเย็นชาถึงขีดสุด“คุณชายเซียวพูดอันใด? ข้าเพียงนำของมาจำนำเท่านั้น ท่านก็รีบเดินเข้ามาพูดคุยกับข้าแล้ว หากไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าท่านยังหลงเหลือความรู้สึกต่อข้า”ฝูอวิ๋นลูบใบหน้าตัวเองพูดอย่างน่าสงสาร “แต่ท่านจะลืมข้าไม่ได้ก็ไม่แปลก ผู้ใดใช้ให้ข้ามีใบหน้าที่งดงามจนสรรพชีวิตต้องเกลียดชังกันล่ะ?”“ขนาดสามีของข้าก็ยังมองข้าด้วยความหลงใหลเหมือนท่านตอนนี้ในทุกๆ วัน”ภายในถ้อยคำของฝูอวิ๋น นอกจากประโยคที่ว่าสามีชอบมากนางแล้ว เรื่องอื่นล้วนแต่เป็นความจริงสกุลหลิงหาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ ไม่ได้ทำการเกษตร ประกอบกับเดิมทีหลี่ชุ่ยฮว

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 39

    จากหมู่บ้านสกุลหลี่มาถึงตำบลผิงไม่ถือว่าไกล หากใช้เส้นทางที่ตัดผ่านป่าจะมีระยะทางไม่ถึงสิบห้าลี้ ด้วยฝีเท้าของฝูอวิ๋นแล้ว เดินเพียงครึ่งชั่วยามก็ถึงตำบลผิงตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและค่อนข้างล้าหลัง มีตลาดนัดแค่เดือนละสามครั้ง แบ่งเป็นวันที่ห้า วันที่สิบห้า และวันที่ยี่สิบห้า หรือก็คือทุกครั้งที่ในวันมีเลขห้านั่นเองวันนี้เป็นวันที่สิบห้า ตรงกับวันที่มีตลาดนัดพอดีเวลานี้บนถนนมีผู้คนขวักไขว่ไปมาคับคั่ง เสียงเชิญชวนให้ซื้อสินค้า เสียงพูด และเสียงโต้เถียงดังผสมปนเปกัน บรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวามากฝูอวิ๋นเดินไปทางโรงรับจำนำโดยอาศัยจากความทรงจำ ทำการจำนำเครื่องประดับทั้งสองชิ้นแต่นางเพิ่งจะก้าวเข้าไปยังโรงรับจำนำก็คือหญิงสาวหน้าตาหยาดเยิ้มนางหนึ่งยกมือขวางไว้“หืม นี่มันนังบ้าหลี่ชุ่ยฮวาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมิใช่หรือ? เซียวหรานของข้าเพิ่งจะก้าวเข้ามาที่นี่ เจ้าก็ตามเข้ามาทันที จมูกสุนัขดีไม่เลวเลยนี่”หญิงสาวนางนี้คืออนุของเซียวหราน มีนามว่าเจี่ยอิ๋งอิ๋ง ทั้งที่รูปโฉมงดงาม ทว่าเอ่ยปากพูดแล้วกลับมีแต่ความเหน็บแนมประชดประชัน ทำให้อดที่จะรู้สึกรังเกียจไม่ได้“หลีกไป” ฝูอวิ๋นเม้มริมฝี

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 38

    หลิงจิ่งยกน้ำหนึ่งชามมาให้อย่างรวดเร็ว ฝูอวิ๋นเงยหน้าดื่มหมดในอึกเดียวนางลูบศีรษะน้อยๆ ของหลิงจิ่ง “เมื่อก่อนข้าทำแบบนั้นกับเจ้า ไม่เกลียดข้าหรือ?”ความจริงแล้วนางอยากจะสลัดตัวเองทิ้งและถามหลี่ชุ่ยฮวาเพียงผู้เดียวหลิงจิ่งเม้มปากแน่น ดวงตาคู่กลมส่องประกายระยิบระยับภายใต้แสงตะเกียงขนาดเท่าเม็ดถั่วฝูอวิ๋นยิ้มแล้วถามอีกครั้ง “เจ้าทำดีกับข้าเช่นนี้ คงไม่ได้กำลังวางแผนทำข้าตายกระมัง?”“ข้า…” หลิงจิ่งมองฝูอวิ๋น รู้ว่าค่ำคืนนี้นางแปลกประหลาดมาก“ช่างเถอะ นอนดีกว่า พรุ่งนี้ข้าจะปูเตียงแล้วให้พวกเจ้ากลับไปนอนที่เดิม มิเช่นนั้นข้ากลัวว่าเจ้าจะลอบฆ่าในยามที่ข้าหลับ”ดวงตาของทอประกายเหมือนคนที่ผ่านโลกมาโชกโชน ค่ำคืนนี้ นางรู้สึกซึมเศร้าหลิงจิ่งขมวดคิ้ว เนิ่นนานก่อนจะพูดขึ้นว่า “ท่านตกใจจนเสียขวัญไปแล้วหรือ?”“ก็คงใช่กระมัง” ฝูอวิ๋นใช้นิ้วสางผมไปไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีดจู่ๆ หลิงจิ่งก็เข้ามากอดเอวนางฝูอวิ๋นตกใจผงะ นางยิ้มขมขื่นว่า “ข้าทำให้เจ้ากลัวหรือ?”“ท่านกลับไปทุบตีพวกข้าเหมือนเดิมเถิด” หลิงจิ่งพูดแบบนี้ออกมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดจึงพูดเ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 37

    หลิงจิ่งชอบตบหมอนก่อนเข้านอน เนื่องจากหมอนที่พวกเขาใช้แข็งทื่อมาก ทำจากฝ้ายคุณภาพต่ำจึงมักจะราบเรียบไม่เสมอกัน ตบแล้วจะช่วยให้หนอนหนุนสบายยิ่งขึ้นคืนนี้เขาลืมตัวจึงเผลอยกหมอนขึ้นมาตบ เมื่อยกหมอนขึ้นมาแล้วก็ได้พบกับปิ่นเงิน กำไลหยก และเงินทองแดงอีกสิบกว่าเหรียญที่อยู่ใต้หมอนเขาตกใจผงะเขาไม่ได้รู้สึกแปลกตากับของสองชิ้นนี้กำไลหยกนั่นเป็นของน้าเล็ก น้าเล็กสวมไว้ที่ข้อมืออยู่ตลอด ส่วนปิ่นเงินนั่น ได้ยินมาว่าเป็นของแทนใจที่ชายชู้มอบให้หลี่ชุ่ยฮวานางเก็บไว้ใต้หมอนเช่นนี้เพื่อไว้คะนึงหาเวลาเห็นของอย่างนั้นหรือ?สีหน้าของหลิงจิ่งหมองหม่นลงเล็กน้อยหลิงเสวี่ยเห็นเขาแน่นิ่งก็หันมามอง เมื่อเห็นของสองสิ่งที่อยู่ใต้หมอนก็ร้องออกมาว่า “เอ๋” จากนั้นหยิบกำไลหยกขึ้นมา “นี่มันกำไลของน้าเล็กมิใช่หรือ? เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้?”ฝูอวิ๋นถอดชุดตัวนอกไปพาดไว้ที่เก้าอี้ ครั้นได้ยินถ้อยคำของหลิงเสวี่ยถึงค่อยนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่นางตอบว่า “นี่เป็นของที่ข้าเคยให้น้าเล็กของพวกเจ้ายืมไปใส่ เมื่อวานนางนำมาคืน ตอนนี้จึงเป็นของข้าแล้ว”“อ้อ คืนให้ท่าน” หลิงเสวี่ยยื่นกำไลหยกใ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 36

    ฝูอวิ๋นเห็นสีหน้าหวาดกลัวลนลานของแม่ม่ายหลิวก็เกิดความคิดชั่วร้ายบางอย่าง ใช้ปลายเท้าเตะก้อนหินให้กระเด็นไปที่น่องของอีกฝ่าย“โอ๊ย! ผู้ใดกัน!”ความเจ็บปวดที่ขาทำให้แม่ม่ายหลิวกรีดร้องเสียงดังทว่ารอบข้างกลับไม่มีผู้ใด ส่วนพวกฝูอวิ๋นก็เดินห่างออกไปค่อนข้างไกลแล้วแม่ม่ายหลิวตัวแข็งทื่อ ใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากเขียวซีด พูดพึมพำไม่หยุด “อมิตตาพุทธ พระ พระโพธิสัตว์โปรดคุ้มครอง…”“บะ บะ บาปมีผู้ก่อ นะ นะ หนี้มีเจ้าหนี้ ข้าเป็นคนดี ข้าเป็นคนดี…ข้าเป็นคนดีจริงๆ นะ…”หลิงจิ่งกุมท้องหัวเราะลั่นเมื่อเห็นแม่ม่ายหลิววิ่งกรีดร้องกลับบ้านไปหลิงเสวี่ยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “ท่านพี่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”“ฮ่าๆๆ…แม่ของเสี่ยวหู่ตกใจฉี่ราดกางเกงแล้ว!” หลิงจิ่งพูดเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัวแม่ม่ายหลิวที่เพิ่งจะวิ่งไปได้ไม่ไกลสะดุดล้มหน้าคะมำ นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งต่อโดยไม่หันกลับไปมองสายลมช่างเป็นอะไรที่อัศจรรย์ยิ่ง ทั้งที่ตอนนี้รอบข้างไม่มีผู้ใด ทว่าถ้อยคำของหลิงจิ่งกลับถูกผู้ใดก็ไม่รู้ได้ยินเข้าโดยปกติแล้วชาวหมู่บ้านสกุลหลี่ก็เป็นคนใจดี กระตือรือร้น และชอบใส่ใจผู้อื่นไม่ช้า คนทั้งหมู่บ้านก

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 35

    ไม่ต้องหันไปมอง ฟังจากแค่น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรนี้ ฝูอวิ๋นก็รู้ว่าแม่ม่ายหลิวมาหาเรื่องอีกแล้ว จะด่านางก็ตามสบาย แต่การที่ใช้ถ้อยคำเช่นนั้นกับเด็กๆ นี่มัน…น่าโมโหเกินไป!ฝูอวิ๋นโยนเสื้อผ้าที่บิดเสร็จแล้วลงในถัง ยืดเอวที่ปวดร้าวลุกขึ้นพูดว่า “เจ้าคนโสโครกด่าใคร?”“ยังจะว่าผู้ใดได้อีก ก็ต้องสองคนนี้…” เสียงของแม่ม่ายหลิวขาดหายอย่างฉับพลัน ใบหน้ากลายเป็นสีดำทะมึน “หลี่ชุ่ยฮวา อยู่ดีๆ ก็มาด่ากันมันหมายความว่าอย่างไร?”หา!ฝูอวิ๋นแทบจะกระอักเลือดผู้ใดกันแน่ที่อยู่ดีๆ ก็มาด่า?นางกัดฟันกรอดพร้อมกับยิ้มบางๆ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้าก็หมายความตามนั้นแหละ”“หมายความว่าอยากมีเรื่องสินะ?” แม่ม่ายหลิววางท่าทันที “ปล่อยม้ามาเลย[1]อย่าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้า!”“ขออภัย เมื่อวานนี้ม้าของข้ากลายเป็นหมูไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังอยู่เบื้องหน้าข้า”แม่ม่ายหลิวมองซ้ายแลขวาด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่เห็นหมูสักตัว ครั้นเห็นฝูอวิ๋นหัวเราะคิกคักถึงค่อยเข้าใจว่าตัวเองกำลังถูกด่า!“หลี่ชุ่ยฮวา เจ้า เจ้า เจ้า!” แม่ม่ายหลิวชี้หน้าฝูอวิ๋น อึกอักอยู่นานแต่กลับด่าอะไรไม่ออกฝูอวิ๋นยิ้มหวาน “ท่าทีที่เจ้า เจ้า เจ้า

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 34

    “งานวันนี้ต้องเสร็จวันนี้ ไปเถิด พวกเราไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำ พรุ่งนี้ยังต้องทำอย่างอื่นอีก” ฝูอวิ๋นถือถังไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งจูงมือหลิงเสวี่ย ร้องเรียกหลิงจิ่งแล้วเดินออกไปด้านนอก“พรุ่งนี้ต้องทำอะไรหรือ?” หลิงจิ่งถาม“มีเรื่องต้องทำมากมาย”เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดก็คือซื้อเสบียงอาหารเสบียงอาหารอันน้อยนิดที่บ้านเพียงพอแค่สำหรับคืนนี้เท่านั้นพรุ่งนี้ก็จะไม่มีอาหารกินแล้วลองนับวันดูแล้ว นับตั้งแต่ที่หลิงหานโจวออกจากบ้านเป็นครั้งแรก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสี่วันแล้วตอนนั้นเขาบอกว่าครั้งจะใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดวัน มากสุดก็ครึ่งเดือน…จากไปนานขนาดนั้นแต่กลับทิ้งเสบียงไว้แค่นี้ กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?ตอนนี้เป็นเวลาหลังเที่ยง หลายคนในหมู่บ้านสกุลหลี่จะซักผ้าตั้งแต่ช่วงสาย เวลานี้ริมแม่น้ำจึงไม่มีผู้ใด ฝูอวิ๋นหาตำแหน่งที่พื้นค่อนข้างเรียบมานั่งลงแล้วเริ่มทำงานนางตักน้ำจากในแม่น้ำมาหนึ่งกะละมัง ใส่จ้าวเจี่ยวลงไปและบดให้ละเอียด ยิ่งละเอียดมากเท่าใดก็ยิ่งดี ตามด้วยขยี้เบาๆ ให้เกิดฟอง เท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้แล้วนางเรียนรู้วิธีนี้จากความทรงจำของหลี่ชุ่ยฮวา ฝูอวิ๋นไม่เคยใช้เจ้าสิ่

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 33

    หลิงจิ่งเข้าห้องมาพบกับความว่างเปล่าก็ตกใจดวงตาแทบถลน จะอ้าปากร้องเรียกนางแต่ก็ไม่รู้ว่าควรเรียกอย่างไรฝูอวิ๋นเปิดหน้าต่างและปัดฝุ่นออกกวาดหยากไย่ใต้เตียงให้สะอาดและกวาดฝุ่นผงจำนวนมากออกมาหลิงจิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “คือว่า…ท่านเผาฟางเช่นนี้ คืนนี้ข้ากับน้องหญิงจะนอนอย่างไร…”“ไม่ต้องถามมาก ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าห้องนี้มีแต่เหา อุตส่าห์อาบน้ำพวกเจ้าจนสะอาดทั้งที ย่อมนอนเตียงที่มีเหาไม่ได้อีก”ฝูอวิ๋นมองไปที่ขอบเตียง เอาแต่รู้สึกว่าปกคลุมไปด้วยเหาเช่นกันเมื่อหลับตาลงก็ราวกับเห็นเหาที่คลานยั้วเยี้ยเต็มเตียง นางรู้สึกขนลุกซู่ รีบตักน้ำมาเช็ดให้ทั่ว แม้แต่โต๊ะหนังสือก็ไม่เว้นบนพื้นเป็นดินเปลือยเปล่า ไม่อาจเช็ดทำความสะอาด ทำได้เพียงกวาดให้ทั่วกว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็เลยเวลาเที่ยงไปโดยไม่รู้ตัวฝูอวิ๋นปวดเอวปวดหลังไปหมด เพิ่งจะนั่งพักหายใจก็ถามตัวเองว่าเหตุใดทำงานแค่เล็กน้อยก็หมดแรงแล้ว?จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าตัวเองกินไข่ไก่แค่สองฟองและอยู่มาจนถึงตอนนี้นางเดินไปทำอาหารที่ห้องครัวโดยพลันเนื่องจากตอนนี้ทั้งเหนื่อยทั้งหิว นางจึงไม่มีเวลามาทำอาหารที่ซับซ้อนเก

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 32

    หลังจากอาบน้ำให้หลิงเสวี่ยเสร็จเรียบร้อย ฝูอวิ๋นก็ทำการเช็ดผมให้กับนาง ครั้นตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีเหาอีกก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อผมขึ้นมานางห่อตัวเด็กหญิงด้วยผ้าฝ้ายที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว อุ้มนางกลับไปที่ห้องตัวเอง นำเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ออกมาให้ใส่“หนาวเหลือเกิน หนาวเหลือเกิน…” หลิงเสวี่ยสั่นเทิ้มไปทั้งตัว“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดจึงรู้สึกหนาวหลังจากอาบน้ำ?” ฝูอวิ๋นสวมเสื้อผ้าให้นางไปพลาง ถามไปพลาง“เพราะเหตุใดหรือ?”“เพราะว่า…ในอากาศมีปีศาจที่ชอบดูดน้ำ เมื่อมีหยาดน้ำเกาะบนร่างกาย เจ้าปีศาจก็จะเป่าน้ำบนตัวเรา แบบนี้...”ฝูอวิ๋นเป่าไอเย็นไปที่คอของเด็กหญิง เย็นจนอีกฝ่ายต้องหดคอ“น่ากลัวเหลือเกิน!”“เร็วเข้า รีบเข้าไปใต้ผ้าห่ม เช่นนั้นเจ้าปีศาจก็จะเป่าเจ้าไม่ได้แล้ว”“คิกๆๆ…”“นังหนู ตอนนี้ยังกลัวการอาบน้ำอีกหรือไม่?”“ไม่กลัวแล้ว การอาบน้ำของท่านแม่สบายตัว ไม่เจ็บเหมือนท่านพ่อ” เด็กหญิงยิ้มตาหยี ส่วนนี้เหมือนฝูอวิ๋นมาก“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?” ฝูอวิ๋นถามด้วยความประหลาดใจเ“เปล่า…” เด็กหญิงเม้มปากแล้วมุดตัวเข้าผ้าห่มอย่างเขินอายฝูอวิ๋นส่ายหน้าด้วยความจนใจ เด็กคนนี้เปลี่ยนหน้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status