All Chapters of ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย: Chapter 41 - Chapter 50

64 Chapters

กลับมาแล้ว

เหตุใดถึงได้ฝันอีกแล้ว จ้าวเหยียนได้แต่คิดวนไปวนมา หว่านหว่านที่เห็นอาการผิดปกติของเพื่อนก็ปลอบใจนางให้นางนอนพักเพราะยังไม่เช้า"เหยียนเหยียน วันนี้เธอหยุดพักสักวันเหอะ สีหน้าเธอดูไม่ดีเลย ฉันจะลางานให้เธอเอง" หว่านหว่านผลักให้จ้าวเหยียนนอนลง"หากเธอเบื่อก็ลองอ่านนิยายเรื่องนี้ดู" หว่านหว่านส่งลิงค์นิยายเรื่อง ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย ให้จ้าวเหยียน พร้อมเล่าเรื่องคราวๆให้เธอฟัง"เธอว่านางเอกกับน้องชายชื่ออะไรนะ" จ้าวเหยียนหันไปหาเพื่อนสาวแล้วเอ่ยถามอย่างตกใจ"จือลู่กับหนิงเฉิง"เมื่อจ้าวเหยียนได้ยินเธอก็ตกตะลึงและนิ่งเงียบไป คงเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น จนหว่านหว่านออกจากห้องไปแล้วเธอก็ยังนั่งคิดอย่างเหม่อลอย ด้วยความสงสัยเธอจึงเปิดเข้าไปดูและซื้อนิยายเพื่ออ่านจ้าวเหยียนไม่รู้ว่าเธอจะตกใจเรื่องใดก่อนดี ทั้งชื่อตัวนิยาย และเรื่องที่สอดคล้องกับความฝันของเธอ ทำให้เธอแทบจะทำอะไรไม่ถูก เมื่ออ่านและได้รับรู้ว่าจือลู่จะถูกทำร้ายจนเสียชีวิตและมีวิญญาณของจือลู่ที่เป็นช่างแต่งหน้าในยุคปัจจุบันเข้าไปแทนจ้าวเหยียนก็ร้องไห้โฮออกมา นางเพิ่งฝันถึงจือลู่ที่เป็นบุตรสาวของนาง ความรู้สึกที่กอดนางยั
last updateLast Updated : 2025-03-09
Read more

พวกเจ้าต้องเชื่อใจแม่

รุ่งเช้าจ้าวเหยียนจึงลุกจากที่นอนก่อนเด็กทั้งสองอย่างหาได้ยาก นางเดินเข้าไปที่ครัวเพื่อลงมือทำอาหารก็พบว่านอกจากข้าวและผักป่าแล้ว เนื้อสัตว์ก็หาไม่ได้เลย "ท่านแม่ทำอันใดอยู่ขอรับ" หนิงเฉิงที่ตื่นแล้วก็เดินออกมาเจอจ้าวเหยียนที่กำลังก้มหน้าลงก่อไฟ"มะ แม่จะทำอาหารให้พวกเจ้า"ท่านทำเป็นหรือขอรับ" หนิงเฉิงจ้องมองมารดาด้วยสีหน้ามึนงง เพราะเขาไม่เคยเห็นมารดาก่อไฟเลยสักครั้งตอนที่บิดาของตน จางเหล่ยเสียชีวิตลง มารดาพยายามเข้าครัวเพื่อทำอาหารให้พวกเขา แต่ก็เกือบจะทำให้ไฟไหม้บ้าน จึงเป็นหนิงเฉิงที่ก่อไฟและจ้าวเหยียนลงมือทำอาหาร"แม่อยากลองดู" จ้าวเหยียนหลบสายตาของหนิงเฉิงแล้วเริ่มลงมือหุงข้าวและผัดผักง่ายๆไปก่อนหนิงเฉิงมองมารดาที่ลงมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่วต่างไปจากเดิม ก่อนที่จ้าวเหยียนจะเดินเข้ามาทำอาหารเช่นทุกวัน ก็ต้องพบว่ามารดาลงมือทำด้วยตนเองแล้วตอนที่ทั้งคู่ยกอาหารออกไปด้านนอกก็ยังมึนงงไม่หาย จนลงมือกินอาหารพวกเขายังไม่อยากจะเชื่อว่ามารดาที่ไม่เคยเข้าครัวจะสามารถทำอาหารออกมาได้อร่อยถึงเพียงนี้"พวกเจ้าพอจะกินได้หรือไม่" จ้าวเหยียนมองทั้งคู่อย่างคาดหวังสองพี่น้องสบตากันก่อนที่จะพยักห
last updateLast Updated : 2025-03-09
Read more

จือลู่ตกเขา

เพราะฟ้าเพิ่งจะสว่างทำให้ทั้งสามยังเดินเข้าไปได้ไม่ไกล จ้าวเหยียนใช้ไม้ในมือแหกทางไปด้วย เผื่อจะเจอหัวมันนางจะได้นำมาเผาให้ทุกคนได้กิน เพียงเดินไปได้ไม่ไกลนักก็พบผักป่า ผลไม้ป่า และหัวมันให้พวกนางได้เก็บ หนิงเฉิงรีบก่อไฟ เพราะพวกเขายังไม่ได้กินมื้อเช้า จ้าวเหยียนที่เห็นรอยเท้าไก่ นางจึงเดินไปแหวกพงหญ้าเพื่อหาไข่ไก่ป่า นางได้ไข่ไก่ป่ามาห้าฟองก็ชูขึ้นให้สองพี่น้องได้เห็นอย่างดีใจจือลู่และหนิงเฉิงที่ไม่เคยเห็นมารดายิ้มหัวเราะเช่นนี้ก้เริ่มมีความสุขไปกับนางด้วย มื้อนั้นจบลงด้วยรอยยิ้มเหมือนทั้งสามที่ไม่เคยขึ้นเขา ได้ผจญภัยอย่างสนุกสนานจ้าวเหยียนเริ่มเดินเข้าไปตามที่นิยายได้เขียนบอกไว้ เมื่อนางจะพบต้นไม้ใหญ่ ก็เริ่มใช้มือกำจัดใบไม้ที่หล่นลงมาที่พื้นออกก็พบถังเช่าเช่นที่นิยายบอกไว้จริง"เจอแล้ว ลู่เออร์ หนิงเออร์มาช่วยแม่เร็วเข้า" จ้าวเหยียนร้องอย่างดีใจ จือลู่และหนิงเฉิงรีบเดินเข้าไปดูที่มารดากำลังขุดขึ้นอย่างมึนงง พวกเขาบอกหญ้าหนอนที่มารดาเรียกอย่างไม่เข้าใจ ว่าสิ่งนี้จะใช่สมุนไพรอย่างที่นางบอกจริงหรือ แต่พวกเขาก็ช่วยจ้าวเหยียนขุดตามวิธีที่นางบอกอย่างรวดเร็วตะกร้าทั้งสามที่นำมาแทบจะเ
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

พี่สาวของเจ้าก็คือพี่สาวของเจ้า

หมอหวงที่ตรวจดูอาการของจือลู่ก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะในยุคนี้ยังไม่มีการเย็บบาดแผล แผลด้านหลังของจือลู่เลือดก็ยังไหลไม่หยุด เขาได้แต่สั่งยาให้เท่านั้น"ต้มยาให้นางกิน หากเลือดหยุดไหลนางก็รอด" หมอหวงให้หนิงเฉิงตามเขาเพื่อกลับเรือนไปรับยาจ้าวเหยียนเมื่อส่งท่านหมอหวงไปแล้วตัวนางก็รีบปิดประตูห้องและเริ่มทำการรักษา นางเจาะแขนจือลู่เพื่อให้น้ำเกลือ และฉีดยาเพื่อระงับเลือดให้หยุดไหล เมื่อทำความสะอาดบาดแผลเรียบร้อย จ้าวเหยียนก็ลงมือเย็บแผลให้นางอย่างรวดเร็วกว่าจ้าวเหยียนจะเสร็จหนิงเฉิงก็กลับมาเรียบร้อยแล้ว"ท่านแม่ ต้องต้มยาหรือไม่ขอรับ""ไม่ต้อง" จ้าวเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า หนิงเฉิงจึงเดินออกไปเตรียมอาหารให้มารดาและพี่สาวแทน"ลู่เออร์เจ้าอย่าทำให้แม่กลัวเช่นนี้" จ้าวเหยียนร้องไห้ออกมาเมื่อมองสีหน้าที่ซีดขาวของจือลู่ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงผ่านไปสองสามวันจือลู่ก็ยังมิตื่นขึ้นมา จ้าวเหยียนและหนิงเฉิงจึงไม่กล้าทิ้งนางไว้คนเดียว ถังเช่าที่เก็บไว้จึงไม่ได้นำไปขาย จ้าวเหยียนเฝ้าจือลู่มิได้ห่างวันที่สี่จือลู่ก็ลืมตาขึ้น จ้าวเหยียนที่รู้ตัวว่าบุตรสาวขยับตัวก็รีบลุกขึ้นจุดเทียน แล้วเข้าไปป
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

เหตุใดท่านถึงยังมีชีวิตอยู่

ฟ้ายังไม่สางจ้าวเหยียนก็ลุกเตรียมตัวเพื่อไปให้ทันเกวียนที่ทางเข้าหน้าหมู่บ้าน ทั้งสามแบกตะกร้าที่ด้านในใส่ถังเช่าไว้แล้วนำผักป่าปิดทับไว้ด้านบนเพื่อไม่ให้ชาวบ้านที่ช่างสงสัยสอบถาม"โอวโยว ข้าก็นึกว่าใคร น้องสะใภ้ที่น่าสงสารของข้านี่เอง" จ้าวเหยียนมองไปที่นางกงซื่อ นางคิดว่าคงได้เจอจนออกจากหมู่บ้านเสียแล้วเพราะทั้งสามคนแม่ลูกน้อยครั้งนักที่จะออกมายุ่งกับชาวบ้าน แต่หากบ้านใดขอความช่วยเหลือจ้าวเหยียนก็ไม่เคยจะเพิกเฉยจึงทำให้นางที่เป็นแม่หม้ายไม่โดนชาวบ้านดูแคลนหรือรังแก และทุกครั้งที่ของในเรือนขาดจะเป็นหนิงเฉิงที่ออกไปซื้อที่จากร้านค้าของชาวบ้านเสียมากกว่าจ้าวเหยียนมิได้ตอบนางแต่กลับพาบุตรทั้งสองเดินไปที่ทางเข้าหมู่บ้านแทน"เพ้ย ข้าพูดกับเจ้าอยู่มิได้ยินหรือ""ได้ยิน แต่ข้าต้องรีบไป""เหอะผักป่าของเจ้าจะขายได้มากน้อย สู้แต่งงานใหม่เสียยังดีกว่า" จ้าวเหยียนหันไปมองนางกงซื่อเหมือนมองคนโง่ตามความทรงจำเดิมจางเหล่ยตายได้ไม่กี่เดือน นางกงซื่อก็คิดจะหาพ่อหม้ายมาให้นางแต่งเสียแล้ว เพราะนางไม่ยินยอมจึงได้ทะเลาะกันใหญ่โตจนท่านลุงชุยต้องออกหน้าปกป้องสามคนแม่ลูกต้าอู๋กับนางกงซื่อจึงได้ถอยไปจ้าวเ
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บอกความจริงกับบุตร

หมอโยวพาทั้งสามขึ้นรถม้าแล้วไปส่งด้วยตนเอง ตลอดทางพวกเขามิได้พูดคุยเรื่องที่คุยภายในโรงหมอเลย ชาวบ้านเมื่อเห็นรถม้าเข้ามาต่างก็ออกมาดูอย่างสนใจ จนรถม้าไปจอดที่เรือนท้านหมู่บ้านก็ยิ่งแปลกใจเพราะทั้งสามแม่ลูกไม่ค่อยได้ออกจากหมู่บ้าน จะมีคนรู้จักได้อย่างไร แต่พอเห็นคนที่มาด้วยเป็นท่านหมอโยว ชาวบ้านจึงเลิกสงสัยและกลับเรือนของตนไป เพราะจ้าวเหยียนมักจะเจ็บป่วยอยู่เสมอคงไม่แปลกหากจะมีหมอมาที่เรือนของนางหมอโยวยืนมองบ้านที่ทรุดโทรมแล้วถอนหายใจ เขาอดที่จะสงสารในโชคชะตาของจ้าวเหยียนมิได้ เมื่อก่อนเป็นคุณหนูในตระกูลจ้าวที่ได้รับการทะนุถนอมอย่างดี พอแต่งให้ชินอ๋องก็แทบจะถูกประคองไว้บนฝ่ามือจือลู่กับหนิงเฉิงที่มีคนขับรถม้าช่วยขนของเขาไปในเรือน หมอโยวเมื่ออยู่กับจ้าวเหยียนตามลำพังจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"พะ ฮูหยิน ข้ามีเรือนในเมืองอยู่หลังมิได้ใช้ หากท่านไม่รังเกียจไปอยู่ที่เรือนหลังนั้นดีหรือไม่ขอรับ"จ้าวเหยียนคิดตาม นางไม่คิดว่าเรือนที่จือลู่ซื้อตามนิยายนางจะได้มาโดยไม่เสียเงินสักบาท และหากไปอยู่ที่ในเมืองคงจะดีต่อตัวบุตรทั้งคู่ด้วย"ขอบคุณท่านหมอที่เมตตาเจ้าค่ะ""มิได้ มิได้ขอรับ ประเดี๋ยวข้าน้อย
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

พาชาวบ้านหาหญ้าหนอน

วันต่อมาชาวบ้านก็มารอที่หน้าเรือนของนางอย่างคับคั่ง จ้าวเหยียนจึงบอกทุกคนไว้ก่อนว่าหากหาไม่เจอหรือเจอน้อยขออย่าได้กล่าวโทษนาง เพราะนางก็ไม่รู้ว่ายังมีเหลือหรือไม่"ข้าไม่ทางให้คนใดกล่าวโทษพวกเจ้าสามคนแม่ลูกแน่" เมื่อท่านลุงชุยรับปากทั้งหมดก็เริ่มออกเดินทาง"เหอะ พวกนางคงเก็บมาจนหมดแล้วถึงได้กลัวชาวบ้านต่อว่า" นางกงซื่อที่เดินตามหลังก็พูดขึ้นด้วยเสียงอันดัง"หากพี่สะใภ้คิดว่าจะเสียเวลาไม่ต้องไปก็ได้เจ้าค่ะ" จ้าวเหยียนนางหันไปตอบกลับ"เหอะ หากเจ้ามีน้ำใจคงมาบอกตั้งแต่วันแรกที่เจ้าพบแล้ว" ชาวบ้านบางคนเริ่มมองทั้งสามอย่างแคลงใจ"หากเจ้ายังไม่หุบปากก็ไม่ต้องไป ดีเพียงใดที่อาเหยียนยังมาบอกชาวบ้าน" ท่านปู่ชุยตวาดขึ้นอย่างเหลืออด เมื่อคนอื่นเห็นเช่นนั้นก็เริ่มเดินออกห่างจากนางกงซื่อ เพราะกลัวจะโดนห้ามไม่ให้ขึ้นไปด้วยแต่คนหน้าหนาอย่างนางกงซื่อหรือจะสนใจคำดุด่าเพียงไม่กี่คำ นางยังคงพึมพำต่อว่าจ้าวเหยียนไปเรื่อยๆ เมื่อไม่มีใครสนใจนาง นางจึงได้หยุดพูดไปเองบุรุษหนุ่มจึงเดินนำหน้าเพื่อเปิดทางและคอยระวังสัตว์ป่าให้ชาวบ้าน เพียงไม่นานทั้งหมดก็เดินขึ้นมาถึงที่พวกจ้าวเหยียนพาบุตรทั้งสองขุดหาหญ้าหนอน
last updateLast Updated : 2025-03-12
Read more

ย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง

ทั้งหมดเมื่อทำตามที่จ้าวเหยียนและจือลู่บอกเมื่อลองนำเสื้อมาสวมหรือผ้าห่มมาอุ่นก็อดที่จะชื่นชมไม่ได้ เพราะมันอุ่นกว่าผ้าห่มที่พวกเขาใช้มากนักจ้าวเหยียนกับจือลู่ก็ช่วยกันยัดนุ่นใส่หมอนของตน เมื่อได้ความหนาที่ต้องการจือลู่ก็ส่งให้มารดาเย็บปิดให้นาง ชาวบ้านที่มองหมอนในมือสองแม่ลูกก็อยากได้บ้างจึงได้สอบถามจากจ้าวเหยียนนางก็ยินดีจะช่วยสอน"นำไปขายได้เลยนะเจ้าคะ" จือลู่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหมอนที่ชาวบ้านทำเสร็จ เพราะในยุคนี้ส่วนมากยังใช้ท่อนไม้หนุนหัวอยู่เลยชาวบ้านบางคนที่หัวไวก็เอ่ยอย่างเห็นด้วย จือลู่จึงเสนอให้พวกนางร่วมกลุ่มกันทำ ให้บุรุษขึ้นไปหาฝักนุ่น ท่านป้าชุยจึงคิดจะนำเรื่องที่จือลู่บอกไปบอกท่านลุงชุยพวกเขาก็กลับมาถึงพอดีเมื่อท่านลุงชุยได้ฟังก็เห็นด้วย และให้ชาวบ้านที่สนใจลงชื่อไว้ เพื่อไม่เกิดปัญหาที่หลังหากจะมีคนที่ไม่อยากทำแต่จะมาเรียกร้องเรื่องเงิน"แต่พวกท่านต้องรีบทำนะเจ้าค่ะ เพราะใครก็สามารถทำได้" จือลู่รีบแนะนำ เพราะต้นนุ่นบนเขาเป็นของสาธารณะใครจะหาผลประโยชน์จากมันก็ได้"ท่านแม่ ท่านหมอโยวให้ข้ามาแจ้งท่านว่าอีกสองวันจะส่งรถม้ามารับขอรับ" หนิงเฉิงเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งสามเดินกลับเรื
last updateLast Updated : 2025-03-12
Read more

รักษาหวังฮ่าว

จ้าวเหยียนเมื่อถึงเวลาที่นางจะพาหนิงเฉิงไปสำนักศึกษาก็ถูกจือลู่ลากตัวไปแต่งหน้าให้นางในห้องของจือลู่ จ้าวเหยียนจึงไม่ขัดบุตรสาวที่ขอร้องนางหลายครั้งก็ยอมนั่งให้นางแต่งให้ดีดี"ท่านแม่ ข้าไปเองดีกว่าขอรับ" หนิงเฉิงที่เห็นมารดาเดินออกมาจากห้องพี่สาวก็เหม่อมองอย่างตกตะลึง ก่อนจะเอ่ยขึ้น หากให้มารดาที่งดงามเช่นนี้ออกไปนอกเรือนคงไม่ดีแน่"ไปเถิด" จ้าวเหยียนไม่เห็นถึงความกังวลของหนิงเฉิงก็ลากบุตรชายไปที่รถม้าส่วนจือลู่นางแยกตัวไปหาซื้อร้านค้าและคนงานที่ตลาดค้าทาสจึงไม่ได้ไปกับจ้าวเหยียนและหนิงเฉิงเมื่อถึงสำนักศึกษา จ้าวเหยียนก็เดินนำบุตรชายไปที่ด้านใน เพื่อพูดคุยเรื่องเข้าเรียน หนิงเฉิงออกไปทำแบบทดสอบกับอาจารย์ จ้าวเหยียนจึงนั่งรอที่ด้านนอกกับท่านป้าจูเพียงไม่นานเขาก็เดินยิ้มออกมา เพราะอาจารย์รับเขาเข้าเรียนเรียบร้อยแล้ว จ้าวเหยียนจึงเดินเข้าไปจ่ายค่าเล่าเรียนและพาหนิงเฉิงไปหาซื้อตำราและเครื่องเขียนสองแม่ลูกเดินลงจากรถม้าก็ถูกสายตาของชาวบ้านจับจองอย่างไม่วางตา จนหนิงเฉิงเร่งให้มารดารีบเดินเข้าไปภายในร้าน จ้าวเหยียนและท่านป้าจูอดที่จะขำออกมาไม่ได้ เพราะอาการของหนิงเฉิงเหมือนคนที่กำลังหวง
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more

ข้ารอให้ฟ้าสางไม่ไหว

เมื่อเรียบร้อยนางก็ยกกล่องออกจากห้องไป ป้าจูที่ยืนรออย่างกังวลเมื่อเห็นนายหญิงเดินออกมาอย่างเหนื่อยล้าและยังมีคราบเลือดเปื้อนเสื้อผ้านางก็รีบเตรียมน้ำให้จ้าวเหยียนชำระร่างกาย และปล่อยให้จ้าวเหยียนได้พักผ่อน จือลู่และหนิงเฉิงเมื่อกลับถึงจวน ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็เข้าไปดูมารดาที่ห้องอย่างเป็นห่วง เพราะความลับของนางได้ถูกเปิดเผยแล้ว"พวกเจ้ามิต้องกังวล มีเพียงอาเยว่เท่านั้นที่รู้เรื่อง" สองพี่น้องถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินว่าพานเยว่รับปากจะเก็บเป็นความลับ"เช่นนั้นต่อไปหากเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ท่านแม่ก็มีอาเยว่คอยเป็นลูกมือแล้วเจ้าค่ะ" จือลู่เออ่ยขึ้น จ้าวเหยียนก็คิดเช่นเดียวกันกับนางสองพี่น้องปล่อยให้มารดาได้พักผ่อน ทั้งคู่จึงออกไปดูอาการของหวังฮ่าวที่ห้องรับรองที่อยู่เรือนเดียวกันกับมารดา เด็กน้อยตื่นขึ้นมาแล้วกำลังนอนคุยกับมารดาอยู่"เจ้าเด็กดื้อ" จือลู่เดินไปนั่งลงข้างเตียงแล้วลูบหัวหวังฮ่าว เมื่อเห็นว่าไม่เป็นอันใดมากแล้ว ทั้งคู่จึงได้กลับเรือนไปพักผ่อนผ่านไปสองวันอาการของหวังฮ่าวดีขึ้น เขาสามารถลุกขึ้นมาเดินโดยบาดแผลไม่ปริแตกและไม่เจ็บมากนัก บ่าวในเรือนล้วนตกตะลึง เพราะไม่คิ
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more
PREV
1234567
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status