All Chapters of เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ: Chapter 161 - Chapter 170

186 Chapters

บทที่ 0161

เป็นกงเฉิน!เสียงทุ้มต่ำของเขาเคลือบไปด้วยความเยือกเย็นของหมอกในยามเช้า สองมือแกร่งประคองเธอเอาไว้หลินจืออี้เงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับดวงตาลึกล้ำของเขา ทำเอาเธอมึนงงไปชั่วครู่ไม่ใช่หลิ่วเหอมาหรอกเหรอ?ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าของหลินจืออี้สัมผัสกับพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ ความเย็นนั้นทำให้เธอได้สติขึ้นมาทันที“แม่ฉันล่ะ?”“เอวเคล็ด” กงเฉินกล่าวเสียงเย็น“ฉันเรียกรถเองได้ ไม่รบกวนอาเล็กแล้วค่ะ”หลินจืออี้พูดจบก็หันกลับ กระโดดเท้าเดียวไปข้างหน้าด้านหลัง เฉินจิ่นเอามือกุมหัวแล้วหยิบรองเท้าขึ้นมาข้างหนึ่ง“คุณหนูหลิน รองเท้าของคุณ”“ไม่เอาแล้ว…อ๊ะ…”บนพื้นกระเบื้องที่ปกคลุมด้วยหมอกยามเช้า มีหยดน้ำเล็กๆ เกาะอยู่เป็นชั้นๆหลินจืออี้เพิ่งกระโดดไปได้สองครั้งก็ลื่นล้ม ร่างกายร่วงลงไปอย่างควบคุมไม่ได้มือข้างหนึ่งคว้าเธอกลับมาได้ทัน เธอพุ่งเข้าชนอกแกร่งของชายหนุ่มอย่างจัง เจ็บจนหน้าอกเธอสะเทือนไปสองทีมือของผู้ชายที่ประคองเธอไว้กลับยิ่งออกแรงมากขึ้นเขาหลุบตาต่ำ พูดด้วยเสียงทุ้มพร่า ใช้เสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนค่อยๆ พูดขึ้นมา “ลงมาทั้งที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในเหรอ?”หลินจืออี้อึ้งไปเล็กน้อย ส
Read more

บทที่ 0162

หลินจืออี้ได้ยิน ใบหน้าพลันร้อนฉ่า เธอหันกลับไปหมายจะอธิบาย“ป้าคะ ไม่ใช่…”กงเฉินก้าวขาเรียวยาว แล้วหันตัวเดินขึ้นบันไดไปทันที ทำให้เสียงของเธอกลืนหายไปกับชั้นบนหลินจืออี้มองไปที่กงเฉินด้วยความฉงน ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า ในตาเขาเหมือนมีรอยยิ้มปรากฏอยู่แต่เมื่อเธอเพ่งมองดีๆ ดวงตาเขากลับยังคงเยือกเย็นเหมือนเดิมรู้สึกไปเองจริงๆ ด้วยเมื่อขึ้นไปถึงชั้นหนึ่ง หลินจืออี้ก็ดิ้นขัดขืน “อาเล็กวางฉันลงเถอะ ฉันจะสวมรองเท้าแล้วเดินเอง ห้องที่ฉันพักอยู่มันค่อนข้างอยู่สูง”กงเฉินไม่พูด เดินขึ้นไปต่อหลินจืออี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนชี้ไปที่ชั้นบนสุด“ฉันพักอยู่ชั้นหก อาอุ้มขึ้นไปไม่ไหวหรอก”“ชั้นสาม”“อารู้ได้ยังไง?”หลินจืออี้กล่าวด้วยความตกใจ“เธอคิดว่าไงล่ะ?” กงเฉินหยุดลง มองหลินจืออี้ด้วยแววตาลุ่มลึก“นี่อาตรวจสอบฉันเหรอ!”“…”กงเฉินหรี่ตา วันๆ หนึ่งในหัวเธอคิดอะไรอยู่เนี่ย?…..ครู่ต่อมา กงเฉินก็มาหยุดอยู่หน้าประตูห้องของหลินจืออี้หลินจืออี้เปิดประตูเข้าไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เมื่อเข้าไป เธอก็ไปใส่รองเท้าผ้าใบกันลื่นในหอพัก เธอเก็บกระเป๋าได้สองใบ นอกจากเสื้อผ้าฤดูต่างๆ แล
Read more

บทที่ 0163

หลินจืออี้ตกใจไปกับกงเฉินที่แปลกตา ลมหายใจหอบเร็วขึ้นมา พยายามจะผลักเขาออกแต่กลับถูกเขาจับข้อมือไว้ และใช้นิ้วเกลี่ยผิวตรงบริเวณที่มีสีแตกต่างจากผิวส่วนอื่นมันคือผิวที่เกิดขึ้นใหม่หลังจากที่ถูกเผาครั้งก่อน“หายดีแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำของเขาแฝงไปด้วยความคร้านอยู่เล็กน้อยหลินจืออี้เบือนหน้าหนีไม่อยากพูดกงเฉินยกมือขึ้นบังคับให้เธอหันหน้ากลับมา ก่อนจะบีบแก้มเธอเบาๆ“พูดดีๆ เป็นไหม?”“อาเล็ก อาลืมไปแล้วเหรอ ฉันเป็นลาดื้อ” หลินจืออี้กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์กงเฉินเท้าสองมือไว้บนโต๊ะ ก้มหัวลงมา และแอบกลั้นหัวเราะในลำคอ“ฉันพูดดีๆ กับเธอ เธอฟังไม่เข้าหูเลยสักคำ แต่พอพูดไปงั้นๆ กลับจำได้แม่นเชียวนะ”ครั้งนี้น้ำหนักเสียงเขาเบามาก ถึงขนาดผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหลินจืออี้ก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ทั้งๆ ที่เมื่อครู่พวกเขายังมีท่าทางตึงใส่กันอยู่เลยเธอหลุบตาลง ไม่อยากตอบกงเฉินแต่กงเฉินไม่คิดจะปล่อยเธอไป เขาหยัดกายเข้าใกล้เธอ ปลายนิ้วาถูสัมผัสกับมุมปากเธอ และเข้าใกล้เธออย่างแฝงไปด้วยกลิ่นอายคุกคาม“หลินจืออี้ กงเยี่ยน…”หลินจืออี้ไม่ได้หลบ เงยหน้าขึ้นจ้องเขา พลางกล่าวแฝงไปด้
Read more

บทที่ 0164

กงเฉินขวางผู้อำนวยการที่เข้ามาใกล้ “มีเรื่องอะไร?”ผู้อำนวยการรีบเปลี่ยนท่าทางเป็นนอบน้อมทันที “คุณชายสาม คืออย่างนี้ครับ ตึกของเรากำลังจะปรับปรุงใหม่เพื่อให้นักเรียนใหม่เข้ามาพักอยู่ แต่มีแค่หลินจืออี้คนเดียวที่ชักช้าไม่ยอมย้ายออก ผมเห็นใจที่เธอเป็นผู้หญิง ย้ายของคนเดียวคงลำบาก เลยตั้งใจเรียกยามมาช่วยสามคนครับ”“คุณชายสาม ตรงนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมเรียกคนมาช่วยหลินจืออี้ก็ได้แล้ว”สีหน้าเขาเต็มไปด้วยการประจบประแจง แต่กลับไม่กล้าสบตากงเฉิน โดยเฉพาะเวลาที่พูดถึงยามสามคนนั้น น้ำเสียงยิ่งประหม่าดูท่าเขาจะรู้ตัวตนของยามทั้งสามคนนี้แต่เขาทำแบบนี้ทำไม?หลินจืออี้หมายจะซักถามตัวตนของยามสามคนนี้ แต่กลับถูกกงเฉินขวางไว้เขากล่าวขัดขึ้น “คุณหนูรองของตระกูลกงไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาช่วยหรอก”“อะไรนะ? คุณหนูรอง?” ดวงตาผู้อำนวยการแทบจะถลนออกมาเขามองไปที่ยามสามคนอย่างลนลานยามเองก็หัวหดไปครู่หนึ่ง ก่อนถอยออกไปจากหออย่างรวดเร็วหลินจืออี้ขมวดคิ้ว อยากจะไล่ตามออกไปแต่กลับถูกกงเฉินคว้าแขนไว้“ไปกันเถอะ”ไม่รอให้เธอได้ตั้งตัว หลินจืออี้ก็ถูกกงเฉินพาออกมาจากหอเมื่อเดินมาถึงรถ หลิ
Read more

บทที่ 0165

รถเพิ่งมาถึงข้างใต้คอนโด ยังไม่ทันจอดสนิท มือถือของกงเฉินก็ดังขึ้นแล้วหลินจืออี้ได้ยินเสียงก็เหลือบมองครู่หนึ่ง เป็นซ่งหว่านชิวจริงๆ ด้วยผู้อำนวยการที่พายามมาทำไม่สำเร็จ ทางซ่งหว่านชิวก็นั่งไม่ติดแล้วถ้าบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ใครเชื่อก็บ้าแล้วไม่สิ กงเฉินเชื่อพอเขารับโทรศัพท์ เสียงร่ำไห้ของซ่งหว่านชิวก็ดังมาจากปลายสายหลินจืออี้นั่งอยู่ข้างหน้าต่าง ฟังไม่ค่อยถนัด รู้แค่ว่าเสียงซ่งหว่านชิวฟังดูเหมือนเธอได้รับความทุกข์อย่างใหญ่หลวงเสียงของกงเฉินอ่อนลงไปบางส่วน “เดี๋ยวไปหา”ตอนนี้เองรถเพิ่งจอดสนิท หลินจืออี้เองก็ไม่อยากหาเรื่องฟังต่อไป จึงรีบเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็วกงเฉินยื่นมือมาดึงเธอไว้ “ฉันมีธุระไม่ลงจากรถแล้ว ฉันจะให้คนขับรถอยู่ช่วยเธอขนของ”“อืม”หลินจืออี้สะบัดมือเขาออก ก่อนลงรถไปโดยไม่หันกลับมามองกงเฉินทอดมองแผ่นหลังของเธอ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนส่งสิกให้คนขับรถกับเฉินจิ่นไปช่วยขนของกระเป๋าหลินจืออี้เพิ่งขนไปถึงใต้คอนโดไม่ทันไร กงเฉินก็ไปแล้วเธอดึงกระเป๋าสะพายบนตัวครู่หนึ่ง ก่อนก้มหน้าหอบกล่องหนังสือขึ้นมาแล้วมองไปที่คนขับรถ “รบกวนคุณช่วย
Read more

บทที่ 0166

เธอซุกหน้าลงกับหมอนอิง หวังจะให้ตัวเองสงบลงได้บ้างในตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นหลิ่วเหอ“จืออี้ วันนี้เป็นยังไงบ้าง?” เสียงของหลิ่วเหอกลั่วไปด้วยเสียงหัวเราะ มีนัยยะแอบแฝง“ก็ไม่ยังไง” หลินจืออี้สูดหายใจเข้าลึก“เป็นไปไม่ได้สิ เจ้าสามไม่ได้ช่วยแกเหรอ?”“แม่ เอวแม่ไม่ปวดแล้วเหรอ?” หลินจืออี้กล่าวอย่างเคืองๆ “ฉันเคยบอกแม่ก่อนหน้านี้แล้ว อย่ามาจับคุ่ให้ฉันกับเขาอีก พวกเราไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน”“ไม่ใช่แม่นะ! เป็นเขาต่างหากที่พูดว่า…”“แม่ หยุดทำแบบนี้ได้แล้ว มันไม่มีความหมายอะไรเลย” หลินจืออี้กล่าวยืนกรานหลิ่วเหอถอนหายใจออกมาเบาๆ “รู้แล้ว แม่ก็คิดว่าพวกแกสองคนจะคุยกันดีๆ ได้”ในฐานะที่เป็นแม่ของหลินจืออี้ เธอจะดูไม่ออกหรือว่าหลินจืออี้จงใจหาเรื่องกงเฉินทุกทาง?แต่ว่า…นั่นคือกงเฉินเชียวนะ!แม้แต่หลิ่วเหอที่เป็นพี่สะใภ้เมื่อเห็นเขายังต้องก้มหัวให้ แล้วหลินจืออี้จะใช่คู่ต่อสู้เขาเหรอ?เธอก็แค่กลัวว่าหลินจืออี้กับกงเฉินจะกลายเป็นศัตรูกันเพราะเรื่องในคืนนั้น!หลินจืออี้รู้ว่าหลิ่วเหอหวังดี จึงไม่อยากพูดอะไรมาก“แม่ ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปพักก่อนนะ”“อืม”…..ณ ตร
Read more

บทที่ 0167

ฉินซวงเห็นสีหน้าซ่งหว่านชิวดูไม่ค่อยดี จึงรีบเก็บโทรศัพท์บนพื้นขึ้นมาแนบข้างหูทันที“อ๊าก! ผมผิดไปแล้ว!ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว! คุณซ่งช่วยผมด้วยครับ!”“คุณซ่งช่วยผมด้วย! ไม่งั้นต่อให้ผมตายไปก็จะไม่มีวันปล่อยคุณไป!”เสียงกรีดร้องของผู้ชายสองสามคนน่าอนาถผิดปกติ ฉินซวงตกใจจนรีบปิดเครื่องเธอนวดหว่างคิ้วกล่าว “เสียงนี่เหมือนจะเป็น…”ซ่งหว่านชิวกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง “ผู้อำนวยการกับไอ้สารเลวสามคนนั้น…คุณชายสามรู้หมดแล้ว!”“แกใจเย็นๆ ก่อน”ฉินซวงพยายามปลอบซ่งหว่านชิว แต่กลับถูกเธอผลักออกซ่งหว่านชิวไม่มีกะจิตกะใจมารักษาภาพลักษณ์อ่อนหวานสง่างามแล้ว ตอนนี้เธอเดินไปมาอยู่ในห้องนั่งเล่นราวกับคนที่บ้าคลั่ง “จะให้หนูใจเย็นได้ยังไง! คุณชายสามให้หนูอดทน! หนูจะอดทนยังไง!”ฉินซวงกลัวว่าท่าทีแบบนี้ของซ่งหว่านชิวจะถูกคนอื่นเห็นเข้า จึงรีบลุกขึ้นปิดประตูห้องนั่งเล่น แล้วดึงซ่งหว่านชิวนั่งลง“คุณชายสามรีบไปถึงโรงพยาบาลเร็วขนาดนั้น แสดงว่าเขาเองก็กลัวเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือ ยิ่งบริษัทใหญ่แค่ไหน ก็ยิ่งแคร์เรื่องอื้อฉาวในครอบครัว หรือเขาจะให้คนอื่นรู้ว่าเขาทิ้งคู่หมั้นที่กำลังป่วยไปหาหลินจ
Read more

บทที่ 0168

ขณะที่ทุกคนไม่ทันสังเกต มีร่างๆ หนึ่งเดินออกไปอย่างเงียบเชียบ ซ่งหว่านชิวเหลือบมอง มุมปากยกยิ้มลึกขึ้นกว่าเดิม….. ที่หน้าเคาน์เตอร์ เสิ่นเยียนกำลังจ้องมองการ์ดเชิญในมือบนกระดาษนูนโรยด้วยผงทอง เผยความเปล่งประกายระยิบระยับออกมาเป็นความฟุ้งเฟ้อที่คนอย่างเธอไม่มีทางเอื้อมถึงได้ในชีวิตนี้ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากตรงข้าม“อิจฉาเหรอ?”เสิ่นเยียนมองเฉินฮวนที่จะว่ายิ้มก็ไม่ยิ้ม พลางขมวดคิ้วแน่น “เธอเองเหรอ? เธอมาทำอะไร?”เฉินฮวนเดินเข้ามาแล้วชี้ไปที่การ์ดเชิญ “หมาน่ะ ยังไงก็แทนที่เจ้าของไม่ได้หรอก”“อย่ามาพูดจาบ้าๆ ตรงนี้นะ!” เสิ่นเยียนพูดอย่างเดือดดาล“ร้อนใจแล้วเหรอ? หรือว่าฉันพูดผิด? เป็นนกสองหัวน่ะไม่ได้เป็นกันง่ายๆ หรอกนะ” เฉินฮวนยิ้มกว้างขึ้นได้ยินแบบนี้ เสิ่นเยียนถึงกับถอยหลังอย่างระวัง “เธอรู้อะไรมากันแน่?”“ฉันเห็นหมดแล้ว เธอแอบสมรู้ร่วมคิดกับซ่งหว่านชิวเล่นงานหลินจืออี้ รสชาติของการถูกซ่งหว่านชิวตบหน้าคงรู้สึกไม่ดีใช่ไหมล่ะ?” เฉินฮวนพูดแดกดันสีหน้าของเสิ่นเยียนซีดเผือด มองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง กลัวคนอื่นจะได้ยินเข้าอย่างไรอย่างนั้น“เธอจะเอายังไง
Read more

บทที่ 0169

ณ ห้องพักผ่อนหลินจืออี้กำลังใช้ผ้าขนหนูซับคราบไวน์แดงบนกระโปรงเสิ่นเยียนหยิบถุงใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมาตรงหน้าเธอ “จืออี้ ฉันพกเสื้อผ้ามาเผื่อชุดหนึ่งพอดี เราสองคนสัดส่วนใกล้เคียงกัน เธอใส่แก้ขัดไปก่อนนะ”หลินจืออี้เหลือบมองโลโก้บนถุง ก่อนแกล้งพูดติดตลก “เสิ่นเยียน เธอรวยแล้วเหรอ? เสื้อผ้าร้านนี้ไม่มีชุดไหนต่ำกว่าห้าหลักเลยนะ”สายตาเสิ่นเยียนชะงักไปแวบหนึ่ง ก่อนอธิบาย “ได้เงินเดือนแล้วน่ะ ฉันเลยอยากให้รางวัลตัวเองบ้าง ยังไงก็เป็นงานแรกในชีวิตนี่นา”“งั้นเหรอ แล้วฉันจะกล้าใส่ชุดใหม่ของเธอได้ยังไง? ฉันใส่ชุดนี้ต่อก็ได้ ยังไงฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญอะไรอยู่แล้ว” หลินจืออี้พูดพลางจงใจดันถุงกลับไปเสิ่นเยียนตาไหววูบอย่างเห็นได้ชัด ก่อนรีบยัดถุงกลับเข้ามาในอ้อมแขนของหลินจืออี้“จืออี้ เราเป็นเพื่อนรักกันนะ จะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้ทำไม? ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ฉันจะโกรธแล้วนะ”“งั้น…ก็ได้ ขอบใจนะ” หลินจืออี้กล่าวด้วยสีหน้าซาบซึ้ง“เอาล่ะ อย่ามัวรีรอ เธอรีบไปเปลี่ยนเถอะ”“อืม”หลินจืออี้ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ ด้านหลัง เสิ่นเยียนแสยะยิ้ม เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา หลินจืออ
Read more

บทที่ 0170

ชุดกี่เพ้าไร้แขนติดแนบไปกับร่างกายเธอ เผยส่วนเว้าโค้งสมบูรณ์ออกมา ประหนึ่งถูกตัดเย็บขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ สองแขนลู่แนบไปกับลำตัว เปล่งประกายขาวเนียนดุจรากบัวทั้งที่ทั่วตัวบนล่างเผยแค่แขนออกมา แต่กลับดึงดูดสายตาจากทุกทิศทุกทางหลังจากสังเกตุเห็นสายตาของเสิ่นเยียน หลินจืออี้ก็จงใจจัดชุดกี่เพ้าต่อหน้าเธอ“เสิ่นเยียน ฉันสวมเสื้อของเธอแล้วดูคับไปหน่อยนะ”ชาติก่อน หลังจากที่หลินจืออี้กลายเป็นหนูข้ามถนน เสิ่นเยียนก็คร้านจะเสแสร้งต่อ เหยียบร่างเธอที่ล้มอยู่กับพื้นซ้ำ ดูหมิ่นสุดขีด“เธออย่าโทษฉันเลย ใครให้เธอดีกว่าฉันทุกอย่างล่ะ? พูดว่าเป็นเพื่อนกัน แต่เธอมีสิทธิอะไรถึงทะยานขึ้นฟ้าแต่งงานกับคุณชายสามได้?”“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ ทุกการกลั่นแกล้งที่เธอต้องเผชิญ ล้วนเป็นแผนการที่ฉันและซ่งหว่านชิวร่วมมือกันรังสรรค์ขึ้น ตอนนี้คุณชายสามเห็นเธอก็รังเกียจแล้ว เธอไปตายยังดีกว่าซะอีก!”เสิ่นเยียนชอบอิจฉาริษยาขนาดนี้ งั้นก็ปล่อยให้เธอใช้ชีวิตในความริษยาไปทุกวันแล้วกันเมื่อเห็นเช่นนี้ เสิ่นเยียนกัดฟันแน่น มือกำชายกระโปรงตัวเองแน่น ความอิจฉาในดวงตาแทบจะซ่อนไว้ไม่อยู่หลินจืออี้ทำเหมือนไม่เห็นสีหน้า
Read more
PREV
1
...
141516171819
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status