แชร์

บทที่ 0162

ผู้เขียน: อี้เสี่ยวเหวิน
หลินจืออี้ได้ยิน ใบหน้าพลันร้อนฉ่า เธอหันกลับไปหมายจะอธิบาย

“ป้าคะ ไม่ใช่…”

กงเฉินก้าวขาเรียวยาว แล้วหันตัวเดินขึ้นบันไดไปทันที ทำให้เสียงของเธอกลืนหายไปกับชั้นบน

หลินจืออี้มองไปที่กงเฉินด้วยความฉงน ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า ในตาเขาเหมือนมีรอยยิ้มปรากฏอยู่

แต่เมื่อเธอเพ่งมองดีๆ ดวงตาเขากลับยังคงเยือกเย็นเหมือนเดิม

รู้สึกไปเองจริงๆ ด้วย

เมื่อขึ้นไปถึงชั้นหนึ่ง หลินจืออี้ก็ดิ้นขัดขืน “อาเล็กวางฉันลงเถอะ ฉันจะสวมรองเท้าแล้วเดินเอง ห้องที่ฉันพักอยู่มันค่อนข้างอยู่สูง”

กงเฉินไม่พูด เดินขึ้นไปต่อ

หลินจืออี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนชี้ไปที่ชั้นบนสุด“ฉันพักอยู่ชั้นหก อาอุ้มขึ้นไปไม่ไหวหรอก”

“ชั้นสาม”

“อารู้ได้ยังไง?”หลินจืออี้กล่าวด้วยความตกใจ

“เธอคิดว่าไงล่ะ?” กงเฉินหยุดลง มองหลินจืออี้ด้วยแววตาลุ่มลึก

“นี่อาตรวจสอบฉันเหรอ!”

“…”

กงเฉินหรี่ตา วันๆ หนึ่งในหัวเธอคิดอะไรอยู่เนี่ย?

…..

ครู่ต่อมา กงเฉินก็มาหยุดอยู่หน้าประตูห้องของหลินจืออี้

หลินจืออี้เปิดประตูเข้าไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เมื่อเข้าไป เธอก็ไปใส่รองเท้าผ้าใบกันลื่น

ในหอพัก เธอเก็บกระเป๋าได้สองใบ นอกจากเสื้อผ้าฤดูต่างๆ แล
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0163

    หลินจืออี้ตกใจไปกับกงเฉินที่แปลกตา ลมหายใจหอบเร็วขึ้นมา พยายามจะผลักเขาออกแต่กลับถูกเขาจับข้อมือไว้ และใช้นิ้วเกลี่ยผิวตรงบริเวณที่มีสีแตกต่างจากผิวส่วนอื่นมันคือผิวที่เกิดขึ้นใหม่หลังจากที่ถูกเผาครั้งก่อน“หายดีแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำของเขาแฝงไปด้วยความคร้านอยู่เล็กน้อยหลินจืออี้เบือนหน้าหนีไม่อยากพูดกงเฉินยกมือขึ้นบังคับให้เธอหันหน้ากลับมา ก่อนจะบีบแก้มเธอเบาๆ“พูดดีๆ เป็นไหม?”“อาเล็ก อาลืมไปแล้วเหรอ ฉันเป็นลาดื้อ” หลินจืออี้กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์กงเฉินเท้าสองมือไว้บนโต๊ะ ก้มหัวลงมา และแอบกลั้นหัวเราะในลำคอ“ฉันพูดดีๆ กับเธอ เธอฟังไม่เข้าหูเลยสักคำ แต่พอพูดไปงั้นๆ กลับจำได้แม่นเชียวนะ”ครั้งนี้น้ำหนักเสียงเขาเบามาก ถึงขนาดผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหลินจืออี้ก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ทั้งๆ ที่เมื่อครู่พวกเขายังมีท่าทางตึงใส่กันอยู่เลยเธอหลุบตาลง ไม่อยากตอบกงเฉินแต่กงเฉินไม่คิดจะปล่อยเธอไป เขาหยัดกายเข้าใกล้เธอ ปลายนิ้วาถูสัมผัสกับมุมปากเธอ และเข้าใกล้เธออย่างแฝงไปด้วยกลิ่นอายคุกคาม“หลินจืออี้ กงเยี่ยน…”หลินจืออี้ไม่ได้หลบ เงยหน้าขึ้นจ้องเขา พลางกล่าวแฝงไปด้

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0164

    กงเฉินขวางผู้อำนวยการที่เข้ามาใกล้ “มีเรื่องอะไร?”ผู้อำนวยการรีบเปลี่ยนท่าทางเป็นนอบน้อมทันที “คุณชายสาม คืออย่างนี้ครับ ตึกของเรากำลังจะปรับปรุงใหม่เพื่อให้นักเรียนใหม่เข้ามาพักอยู่ แต่มีแค่หลินจืออี้คนเดียวที่ชักช้าไม่ยอมย้ายออก ผมเห็นใจที่เธอเป็นผู้หญิง ย้ายของคนเดียวคงลำบาก เลยตั้งใจเรียกยามมาช่วยสามคนครับ”“คุณชายสาม ตรงนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมเรียกคนมาช่วยหลินจืออี้ก็ได้แล้ว”สีหน้าเขาเต็มไปด้วยการประจบประแจง แต่กลับไม่กล้าสบตากงเฉิน โดยเฉพาะเวลาที่พูดถึงยามสามคนนั้น น้ำเสียงยิ่งประหม่าดูท่าเขาจะรู้ตัวตนของยามทั้งสามคนนี้แต่เขาทำแบบนี้ทำไม?หลินจืออี้หมายจะซักถามตัวตนของยามสามคนนี้ แต่กลับถูกกงเฉินขวางไว้เขากล่าวขัดขึ้น “คุณหนูรองของตระกูลกงไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาช่วยหรอก”“อะไรนะ? คุณหนูรอง?” ดวงตาผู้อำนวยการแทบจะถลนออกมาเขามองไปที่ยามสามคนอย่างลนลานยามเองก็หัวหดไปครู่หนึ่ง ก่อนถอยออกไปจากหออย่างรวดเร็วหลินจืออี้ขมวดคิ้ว อยากจะไล่ตามออกไปแต่กลับถูกกงเฉินคว้าแขนไว้“ไปกันเถอะ”ไม่รอให้เธอได้ตั้งตัว หลินจืออี้ก็ถูกกงเฉินพาออกมาจากหอเมื่อเดินมาถึงรถ หลิ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0165

    รถเพิ่งมาถึงข้างใต้คอนโด ยังไม่ทันจอดสนิท มือถือของกงเฉินก็ดังขึ้นแล้วหลินจืออี้ได้ยินเสียงก็เหลือบมองครู่หนึ่ง เป็นซ่งหว่านชิวจริงๆ ด้วยผู้อำนวยการที่พายามมาทำไม่สำเร็จ ทางซ่งหว่านชิวก็นั่งไม่ติดแล้วถ้าบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ใครเชื่อก็บ้าแล้วไม่สิ กงเฉินเชื่อพอเขารับโทรศัพท์ เสียงร่ำไห้ของซ่งหว่านชิวก็ดังมาจากปลายสายหลินจืออี้นั่งอยู่ข้างหน้าต่าง ฟังไม่ค่อยถนัด รู้แค่ว่าเสียงซ่งหว่านชิวฟังดูเหมือนเธอได้รับความทุกข์อย่างใหญ่หลวงเสียงของกงเฉินอ่อนลงไปบางส่วน “เดี๋ยวไปหา”ตอนนี้เองรถเพิ่งจอดสนิท หลินจืออี้เองก็ไม่อยากหาเรื่องฟังต่อไป จึงรีบเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็วกงเฉินยื่นมือมาดึงเธอไว้ “ฉันมีธุระไม่ลงจากรถแล้ว ฉันจะให้คนขับรถอยู่ช่วยเธอขนของ”“อืม”หลินจืออี้สะบัดมือเขาออก ก่อนลงรถไปโดยไม่หันกลับมามองกงเฉินทอดมองแผ่นหลังของเธอ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนส่งสิกให้คนขับรถกับเฉินจิ่นไปช่วยขนของกระเป๋าหลินจืออี้เพิ่งขนไปถึงใต้คอนโดไม่ทันไร กงเฉินก็ไปแล้วเธอดึงกระเป๋าสะพายบนตัวครู่หนึ่ง ก่อนก้มหน้าหอบกล่องหนังสือขึ้นมาแล้วมองไปที่คนขับรถ “รบกวนคุณช่วย

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0166

    เธอซุกหน้าลงกับหมอนอิง หวังจะให้ตัวเองสงบลงได้บ้างในตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นหลิ่วเหอ“จืออี้ วันนี้เป็นยังไงบ้าง?” เสียงของหลิ่วเหอกลั่วไปด้วยเสียงหัวเราะ มีนัยยะแอบแฝง“ก็ไม่ยังไง” หลินจืออี้สูดหายใจเข้าลึก“เป็นไปไม่ได้สิ เจ้าสามไม่ได้ช่วยแกเหรอ?”“แม่ เอวแม่ไม่ปวดแล้วเหรอ?” หลินจืออี้กล่าวอย่างเคืองๆ “ฉันเคยบอกแม่ก่อนหน้านี้แล้ว อย่ามาจับคุ่ให้ฉันกับเขาอีก พวกเราไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน”“ไม่ใช่แม่นะ! เป็นเขาต่างหากที่พูดว่า…”“แม่ หยุดทำแบบนี้ได้แล้ว มันไม่มีความหมายอะไรเลย” หลินจืออี้กล่าวยืนกรานหลิ่วเหอถอนหายใจออกมาเบาๆ “รู้แล้ว แม่ก็คิดว่าพวกแกสองคนจะคุยกันดีๆ ได้”ในฐานะที่เป็นแม่ของหลินจืออี้ เธอจะดูไม่ออกหรือว่าหลินจืออี้จงใจหาเรื่องกงเฉินทุกทาง?แต่ว่า…นั่นคือกงเฉินเชียวนะ!แม้แต่หลิ่วเหอที่เป็นพี่สะใภ้เมื่อเห็นเขายังต้องก้มหัวให้ แล้วหลินจืออี้จะใช่คู่ต่อสู้เขาเหรอ?เธอก็แค่กลัวว่าหลินจืออี้กับกงเฉินจะกลายเป็นศัตรูกันเพราะเรื่องในคืนนั้น!หลินจืออี้รู้ว่าหลิ่วเหอหวังดี จึงไม่อยากพูดอะไรมาก“แม่ ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปพักก่อนนะ”“อืม”…..ณ ตร

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0167

    ฉินซวงเห็นสีหน้าซ่งหว่านชิวดูไม่ค่อยดี จึงรีบเก็บโทรศัพท์บนพื้นขึ้นมาแนบข้างหูทันที“อ๊าก! ผมผิดไปแล้ว!ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว! คุณซ่งช่วยผมด้วยครับ!”“คุณซ่งช่วยผมด้วย! ไม่งั้นต่อให้ผมตายไปก็จะไม่มีวันปล่อยคุณไป!”เสียงกรีดร้องของผู้ชายสองสามคนน่าอนาถผิดปกติ ฉินซวงตกใจจนรีบปิดเครื่องเธอนวดหว่างคิ้วกล่าว “เสียงนี่เหมือนจะเป็น…”ซ่งหว่านชิวกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง “ผู้อำนวยการกับไอ้สารเลวสามคนนั้น…คุณชายสามรู้หมดแล้ว!”“แกใจเย็นๆ ก่อน”ฉินซวงพยายามปลอบซ่งหว่านชิว แต่กลับถูกเธอผลักออกซ่งหว่านชิวไม่มีกะจิตกะใจมารักษาภาพลักษณ์อ่อนหวานสง่างามแล้ว ตอนนี้เธอเดินไปมาอยู่ในห้องนั่งเล่นราวกับคนที่บ้าคลั่ง “จะให้หนูใจเย็นได้ยังไง! คุณชายสามให้หนูอดทน! หนูจะอดทนยังไง!”ฉินซวงกลัวว่าท่าทีแบบนี้ของซ่งหว่านชิวจะถูกคนอื่นเห็นเข้า จึงรีบลุกขึ้นปิดประตูห้องนั่งเล่น แล้วดึงซ่งหว่านชิวนั่งลง“คุณชายสามรีบไปถึงโรงพยาบาลเร็วขนาดนั้น แสดงว่าเขาเองก็กลัวเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือ ยิ่งบริษัทใหญ่แค่ไหน ก็ยิ่งแคร์เรื่องอื้อฉาวในครอบครัว หรือเขาจะให้คนอื่นรู้ว่าเขาทิ้งคู่หมั้นที่กำลังป่วยไปหาหลินจ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0168

    ขณะที่ทุกคนไม่ทันสังเกต มีร่างๆ หนึ่งเดินออกไปอย่างเงียบเชียบ ซ่งหว่านชิวเหลือบมอง มุมปากยกยิ้มลึกขึ้นกว่าเดิม….. ที่หน้าเคาน์เตอร์ เสิ่นเยียนกำลังจ้องมองการ์ดเชิญในมือบนกระดาษนูนโรยด้วยผงทอง เผยความเปล่งประกายระยิบระยับออกมาเป็นความฟุ้งเฟ้อที่คนอย่างเธอไม่มีทางเอื้อมถึงได้ในชีวิตนี้ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากตรงข้าม“อิจฉาเหรอ?”เสิ่นเยียนมองเฉินฮวนที่จะว่ายิ้มก็ไม่ยิ้ม พลางขมวดคิ้วแน่น “เธอเองเหรอ? เธอมาทำอะไร?”เฉินฮวนเดินเข้ามาแล้วชี้ไปที่การ์ดเชิญ “หมาน่ะ ยังไงก็แทนที่เจ้าของไม่ได้หรอก”“อย่ามาพูดจาบ้าๆ ตรงนี้นะ!” เสิ่นเยียนพูดอย่างเดือดดาล“ร้อนใจแล้วเหรอ? หรือว่าฉันพูดผิด? เป็นนกสองหัวน่ะไม่ได้เป็นกันง่ายๆ หรอกนะ” เฉินฮวนยิ้มกว้างขึ้นได้ยินแบบนี้ เสิ่นเยียนถึงกับถอยหลังอย่างระวัง “เธอรู้อะไรมากันแน่?”“ฉันเห็นหมดแล้ว เธอแอบสมรู้ร่วมคิดกับซ่งหว่านชิวเล่นงานหลินจืออี้ รสชาติของการถูกซ่งหว่านชิวตบหน้าคงรู้สึกไม่ดีใช่ไหมล่ะ?” เฉินฮวนพูดแดกดันสีหน้าของเสิ่นเยียนซีดเผือด มองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง กลัวคนอื่นจะได้ยินเข้าอย่างไรอย่างนั้น“เธอจะเอายังไง

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0169

    ณ ห้องพักผ่อนหลินจืออี้กำลังใช้ผ้าขนหนูซับคราบไวน์แดงบนกระโปรงเสิ่นเยียนหยิบถุงใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมาตรงหน้าเธอ “จืออี้ ฉันพกเสื้อผ้ามาเผื่อชุดหนึ่งพอดี เราสองคนสัดส่วนใกล้เคียงกัน เธอใส่แก้ขัดไปก่อนนะ”หลินจืออี้เหลือบมองโลโก้บนถุง ก่อนแกล้งพูดติดตลก “เสิ่นเยียน เธอรวยแล้วเหรอ? เสื้อผ้าร้านนี้ไม่มีชุดไหนต่ำกว่าห้าหลักเลยนะ”สายตาเสิ่นเยียนชะงักไปแวบหนึ่ง ก่อนอธิบาย “ได้เงินเดือนแล้วน่ะ ฉันเลยอยากให้รางวัลตัวเองบ้าง ยังไงก็เป็นงานแรกในชีวิตนี่นา”“งั้นเหรอ แล้วฉันจะกล้าใส่ชุดใหม่ของเธอได้ยังไง? ฉันใส่ชุดนี้ต่อก็ได้ ยังไงฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญอะไรอยู่แล้ว” หลินจืออี้พูดพลางจงใจดันถุงกลับไปเสิ่นเยียนตาไหววูบอย่างเห็นได้ชัด ก่อนรีบยัดถุงกลับเข้ามาในอ้อมแขนของหลินจืออี้“จืออี้ เราเป็นเพื่อนรักกันนะ จะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้ทำไม? ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ฉันจะโกรธแล้วนะ”“งั้น…ก็ได้ ขอบใจนะ” หลินจืออี้กล่าวด้วยสีหน้าซาบซึ้ง“เอาล่ะ อย่ามัวรีรอ เธอรีบไปเปลี่ยนเถอะ”“อืม”หลินจืออี้ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ ด้านหลัง เสิ่นเยียนแสยะยิ้ม เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา หลินจืออ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0170

    ชุดกี่เพ้าไร้แขนติดแนบไปกับร่างกายเธอ เผยส่วนเว้าโค้งสมบูรณ์ออกมา ประหนึ่งถูกตัดเย็บขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ สองแขนลู่แนบไปกับลำตัว เปล่งประกายขาวเนียนดุจรากบัวทั้งที่ทั่วตัวบนล่างเผยแค่แขนออกมา แต่กลับดึงดูดสายตาจากทุกทิศทุกทางหลังจากสังเกตุเห็นสายตาของเสิ่นเยียน หลินจืออี้ก็จงใจจัดชุดกี่เพ้าต่อหน้าเธอ“เสิ่นเยียน ฉันสวมเสื้อของเธอแล้วดูคับไปหน่อยนะ”ชาติก่อน หลังจากที่หลินจืออี้กลายเป็นหนูข้ามถนน เสิ่นเยียนก็คร้านจะเสแสร้งต่อ เหยียบร่างเธอที่ล้มอยู่กับพื้นซ้ำ ดูหมิ่นสุดขีด“เธออย่าโทษฉันเลย ใครให้เธอดีกว่าฉันทุกอย่างล่ะ? พูดว่าเป็นเพื่อนกัน แต่เธอมีสิทธิอะไรถึงทะยานขึ้นฟ้าแต่งงานกับคุณชายสามได้?”“ฉันจะบอกอะไรเธอให้ ทุกการกลั่นแกล้งที่เธอต้องเผชิญ ล้วนเป็นแผนการที่ฉันและซ่งหว่านชิวร่วมมือกันรังสรรค์ขึ้น ตอนนี้คุณชายสามเห็นเธอก็รังเกียจแล้ว เธอไปตายยังดีกว่าซะอีก!”เสิ่นเยียนชอบอิจฉาริษยาขนาดนี้ งั้นก็ปล่อยให้เธอใช้ชีวิตในความริษยาไปทุกวันแล้วกันเมื่อเห็นเช่นนี้ เสิ่นเยียนกัดฟันแน่น มือกำชายกระโปรงตัวเองแน่น ความอิจฉาในดวงตาแทบจะซ่อนไว้ไม่อยู่หลินจืออี้ทำเหมือนไม่เห็นสีหน้า

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0185

    หลินจื้ออี้เข้าไปในห้องน้ำแล้วก็อาเจียนออกมาอย่างหนัก แม้จะบ้วนปากด้วยน้ำยารสผลไม้ถึงสามรอบแต่ในปากก็ยังขมอยู่ดีทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำก็มีเงาหนึ่งมายืนขวางทางไว้เธอพูดด้วยเสียงอ่อนล้า “หลบไปหน่อย”กงเฉินจ้องมองเธอ “ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกหรือเปล่า?”หลินจื้ออี้ได้ยินคำพูดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ“อาเล็กดูแลฉันดีแบบนี้เพราะฉันท้องเหรอ?อย่าลืมสิตอนนั้นอาบอกว่าถ้าฉันท้องก็ให้ไปเอาเด็กออกไม่ใช่เหรอ?”“...”สีหน้าของกงเฉินมืดมนลงทันทีหลินจื้ออี้นึกถึงคำเตือนของคุณท่านเมื่อครู่แล้วก็อดนึกถึงชาติที่แล้วไม่ได้ ตอนที่คุณท่านปฏิบัติต่อซิงซิงซิงซิงเป็นเด็กผู้หญิงแถมยังเป็นลูกที่ไม่มีใครต้องการ คุณท่านก็ไม่เคยยอมรับเลยว่าเธอเป็นหลานสาวของตระกูลกงแต่เมื่อซ่งหว่านชิวกลับมาพร้อมกับลูกชาย โลกออนไลน์ก็เต็มไปด้วยข่าวว่าเขารักหลานชายคนนั้นมากแค่ไหน ถึงกับประกาศว่าลูกชายของซ่งหว่านชิวคือลูกเพียงคนเดียวของกงเฉินทุกคนต่างหัวเราะเยาะเธอกับลูกสาวของเธอว่า พยายามแทบตายสุดท้ายก็ได้แต่ความว่างเปล่าตอนนี้คุณท่านก็คงจะสมหวังแล้วในเมื่อไม่มีเธอคอยขวางทาง ก็คงต้องดูว่าซ่งหว่านชิว

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0184

    หลินจื้ออี้มองดูโต๊ะกลมขนาดใหญ่ เธออดคิดไม่ได้ว่าครั้งก่อนที่กินข้าวที่นี่คือเหตุการณ์ที่เธอเคยระเบิดใส่แม่ลูกตระกูลซ่งหว่านชิวคุณท่านกงซึ่งนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะแต่งตัวด้วยสูทเรียบร้อยสีหน้าเคร่งขรึมตามแบบฉบับเพราะคำนึงถามมารยาท หลินจื้ออี้จึงเอ่ยทักอย่างนอบน้อม “คุณท่าน”“อืม นั่งกินข้าวเถอะ”เขาโบกมือเชิญทุกคนเริ่มกินอาหารหลินจื้ออี้มองอาหารทะเลเต็มโต๊ะแล้วกลืนน้ำลายเบาๆ แต่เพราะมีคุณท่านอยู่เธอจึงคีบแค่เนื้อวัวตรงหน้าเท่านั้นเธอไม่ได้เป็นตัวแทนแค่ตัวเองแต่ยังเป็นตัวแทนของหลิ่วเหอด้วยพอคิดถึงเรื่องที่หลิ่วเหอยังต้องใช่ชีวิตอยู่ในตระกูลกงนี้ต่อไป ทุกการกระทำของเธอในฐานะลูกสาวจึงมีความสำคัญมากขณะกำลังคิดอยู่นั้น หลิ่วเหอก็คีบอาหารทะเลให้เธอหลายอย่าง ทั้งปลาดิบ เนื้อหอยสังข์ และยังตักโจ๊กกุ้งล็อบสเตอร์ชามใหญ่ให้ด้วยหลิ่วเหอพูดเบาๆอย่างแนบเนียนว่า “กินก่อนนะ เดี๋ยวถ้าโต๊ะหมุนมาถึง ฉันจะหยิบหอยเป๋าฮื้อดำ ไส้กุ้งในหอยเชลล์ แล้วก็กุ้งทะเลย่างให้เธอ”หลินจื้ออี้พยักหน้ารัวๆ พูดในใจว่า ขอบคุณนะแม่เมื่อก่อนเธอไม่กินอาหารทะเลเพราะรู้สึกว่ามันคาว แต่หลังจากได้ลองอาหารทะเลฝีมือพ่อ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0183

    “ฉัน…เธอท้องแล้ว!ฉันขอตั้งสติก่อนนะ ผู้หญิงคนนี้หลอกฉันทุกทางเลยเหรอเนี่ย? ทั้งที่ฉันยังอุตส่าห์ช่วยทำใบรับรองว่าเธอมีปัญหาทางจิตใจให้!”หลี่ฮวนแทบกรี๊ดออกมา เขาถูกหลินจืออี้หลอกเต็มๆ!“พูดมา”กงเฉินยกมือถือออกห่างจากหูด้วยสีหน้ารำคาญใจ“ภาวะเสี่ยงแท้งส่วนใหญ่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ อาหารการกินก็ต้องระวัง โดยเฉพาะห้ามทำงานหนัก” หลี่ฮวนตอบ“อืม”“แล้วนายจะทำยังไง?เมื่อก่อนตอนที่มีข่าวลือ เธอยอมรับว่าคืนนั้นเธออยู่กับนาย นายก็อ้างกระแสสังคมแต่งงานกับเธอได้เลย คุณท่านก็คงจะพูดอะไรไม่ได้ แต่นี่เธอกลับไม่ยอม นายบอกฉันตามตรงนะ ตอนนั้นนายยอมร่วมมือกับคุณท่านกดดันเธอเพราะนายเองก็มีใจใช่ไหมล่ะ?”หลี่ฮวนหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์กงเฉินก้มหน้าลงเล็กน้อย “วางสายละ”หลี่ฮวนรีบร้องห้ามเสียงดัง “นายนี่มันปากไม่ตรงกับใจชัดๆ นายต้องโชว์ข้อดีตัวเองบ้างนะ!”“โชว์ไปแล้ว”“อะไรนะ…” … ตู้ดๆๆ…ฝั่งนู้นสายตัดไปแล้วทิ้งให้หลี่ฮวนงงเป็นไก่ตาแตกโชว์ไปแล้ว?โชว์อะไรของมันวะ?.......หลังจากที่เฉินซู่หลานตรวจร่างกายเสร็จ กงเฉินก็ช่วยประคองเธอเดินออกจากตึกพอขึ้นรถมาด้วยกัน เฉินซู่หลานก็ยิ้มหวานแล้วพูดว่า

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0182

    “ฮะ? ฉัน...” หลินจืออี้ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะรู้ว่าหมอเข้าใจผิดว่าเธอเป็นคนอื่น“ตั้งครรภ์ระยะแรกนะมีเลือดออกนิดหน่อยต้องพักผ่อนให้มาก อย่ากระโดดโลดเต้นและอาหารการกินก็ต้องระวัง”“ไม่ใช่ค่ะคุณหมอ ฉัน...”“พอแล้ว คนต่อไป” หมอขีดปากกาลงใบตรวจแล้วเรียกคนถัดไปผู้หญิงคนต่อไปก็เปิดประตูเข้ามาเรียบร้อยหลินจืออี้เห็นว่าไม่มีเหตุผลจะต้องอธิบายต่อก็รีบถอยออกมาพอหันตัวกลับ ตึบ! ก็ชนเข้ากับใครบางคนเธอก้มหน้าลงขอโทษ “ขอโทษค่ะ”กำลังจะเดินหนีไปอยู่แล้วข้อมือของเธอกลับถูกคว้าไว้อย่างแรง“เธอโกหกฉัน?เธอท้องอยู่เหรอ”เสียงที่มักจะสงบนิ่งเยือกเย็นตอนนี้กลับปะทุไปด้วยความโกรธหลินจืออี้เงยหน้าขึ้นถึงพบว่าคนตรงหน้าก็คือกงเฉินเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?หรือว่ามากับซ่งหว่านชิว?แต่เห็นชัดๆ ว่าซ่งหว่านชิวมาก็เพื่อทำแท้งไม่ใช่เหรอ?หลินจืออี้ยังไม่ทันได้คิดอะไรให้ชัดเจนข้อมือของเธอก็ยิ่งเจ็บขึ้นเธอร้องเบาๆ “ปล่อยนะ ฉันเจ็บนะ แล้วฉันก็ไม่ได้ท้อง!”กงเฉินหรี่ตามองความโกรธในดวงตายิ่งเพิ่มขึ้นแต่แรงที่มือก็คลายลงนิดหน่อยพร้อมกับเธอเข้าไปในห้องตรวจ“อาการของเธอเป็นยังไง?”หมอขยับแว่นมองห

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0181

    แผนกสูตินรีเวชก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ปัญหาก็คือหลินจืออี้เห็นแผ่นหลังที่คุ้นตาซ่งหว่านชิวถึงแม้ว่าเธอจะแต่งตัวมิดชิดแค่ไหนแต่แผ่นหลังนี้ก็ฝังอยู่ในหัวของหลินจืออี้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว เธอจะลืมได้อย่างไรกัน?แต่ซ่งหว่านชิวมาทำอะไรที่แผนกสูตินรีเวชล่ะ?“จืออี้ เป็นอะไรไป?” เฉินซู่หลานที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็หันมาส่งเสียงเรียกเธอ“ไม่มีอะไรค่ะ มาแล้ว”หลินจืออี้ก็รีบเดินตามไป แต่พอเธอหันกลับไปมองอีกที ซ่งหว่านชิวก็หายไปแล้วเฉินซู่หลานดึงแขนเธอไว้ แล้วชี้ไปที่บันไดข้างหน้า “ขึ้นทางนี้ก็ได้นะ”หลินจืออี้ได้สติกลับมาและพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินขึ้นไปพร้อมกับเธอแบบเหม่อลอยหรือว่าที่ซ่งหว่านชิวเดินทะลุผ่านแผนกสูตินรีเวชเพราะว่าสะดวก?พอขึ้นไปถึงข้างบนหลินจืออี้ก็ช่วยเฉินซู่หลานจัดที่นั่งเพื่อรอคิวตรวจ หมอผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลนี้เป็นเพื่อนของเฉินซู่หลาน เธอไว้ใจเขามากเป็นพิเศษเธอยอมรอก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาลเอกชนเปลี่ยนหมอคนใหม่ตรวจหลินจืออี้เข้าใจดีคนมีเงินก็มักจะเลือกหมอที่ตัวเองไว้ใจได้และไม่ค่อยยอมเปลี่ยนคนคงกลัวข้อมูลสุขภาพของตัวเองจะรั่วไหลกงเฉินก็เป็นแบบนั้น การตรวจร่างกายทุกค

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0180

    “แก... แกอิจฉาฉันจริงๆ ด้วย แม้แต่ผู้ชายก็รั้งไว้ไม่ได้!” เฉินฮวนทุบกล่องในมือ“เหอะ” เซวียมั่นยิ้มเยาะและเดินออกไปทันที เธอขี้เกียจเกินไปที่จะตอบคําถามที่น่าเบื่อแบบนี้"แกหมายความว่ายังไง? แกพูดมาให้ชัดเจนนะ”เฉินฮวนรีบวิ่งไปที่เซวียมั่น แต่ถูกขวางโดยผู้ช่วยเบลล่าเบลล่ารีบเอ่ย "รปภ.พาคนออกไปเร็วเข้า อ้อ แล้วก็ขยะของมันด้วย"แล้วเฉินฮวนก็ถูกโยนออกไปหลินจืออี้ไม่ได้รู้สึกสงสารอะไรเลย ทั้งหมดนี้เป็นเฉินฮวนทำตัวเองทั้งนั้นเมื่อก้มหน้าทํางาน เธอก็เห็นซ่งหว่านชิวที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งพอดีซ่งหว่านชิวเอามือปิดปากเหมือนรู้สึกไม่สบายมาก จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนไม่ทันสังเกตลุกขึ้นและออกจากที่นั่งไปหลินจืออี้รู้สึกแปลกใจ กําลังจะดูให้ละเอียด โทรศัพท์ก็สั่น“พรุ่งนี้ฉันอยู่บ้าน แกจะมาไหม?”“อืม”“งั้นฉันจะทําอาหารที่แกชอบ มาอยู่เป็นเพื่อนฉันเร็วๆ หน่อย”“ได้”หลินจืออี้ยิ้มเมื่อเห็นข่าว เธอวางแผนว่าจะถือโอกาสพักผ่อนพรุ่งนี้ไปบ้านตระกูลกงเพื่อย้ายของที่เหลือไปที่คอนโดจริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอกเมื่อก่อนตอนที่อยู่บ้านตระกูลกงเธอก็ใช้ชีวิตอย่างหวาดผวา ดังนั้นหลังจากพักอย

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0179

    บนรถกงเฉินและซ่งหว่านชิวเพิ่งนั่งได้มั่นคนขับรถที่สวมถุงมือสีขาวอยู่แถวหน้าก็หันมามองกงเฉินอย่างประหม่า“คุณผู้ชาย ถ้าไม่ไปบริษัท งั้นผมก็จะไปถนนลี่หัวแล้วนะครับ”“อืม”กงเฉินตอบรับเบาๆ แล้วหลับตาพักผ่อนซ่งหว่านชิวเพิ่งพบว่าคนขับไม่ใช่คนที่คุ้นเคยมาก่อน จึงถามอย่างสงสัยว่า “ทําไมเปลี่ยนคนขับกะทันหันล่ะคะ? ทางก็ไม่คุ้นเคยแล้ว”กงเฉินหลับตาลงและพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่คุ้นเคยทางขับไปเดี๋ยวก็คุ้นเคยเอง แค่คนที่แยกนายจ้างไม่ออกก็ไม่จําเป็นต้องเก็บไว้แล้ว”ได้ยินดังนั้น หน้าของซ่งหว่านชิวก็เหมือนมีรอยร้าวและเล็บที่เพิ่งทําใหม่ก็จิกลงไปในเบาะหนังแท้โดยตรงแต่ใบหน้าของเธอยังคงยิ้มอยู่ "ค่ะ"จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกพอไปถึงบ้านตระกูลซ่ง ซ่งหว่านชิวไม่กล้ารั้งกงเฉินไว้ พูดคําอําลาแล้วลงจากรถเหมือนวิ่งหนีกงเฉินก็ไม่ได้อยู่ต่อ เขาจากไปทันทีไม่รู้ว่าเธอเก็บกดเกินไปหรือเปล่า ซ่งหว่านชิวรู้สึกหมดแรง กระเพาะอาหารเริ่มปั่นป่วนอีกครั้งเธอผลักคนรับใช้ที่หิ้วชายกระโปรงราตรีให้เธอออก แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำและเริ่มอาเจียน"อ้วก... แหวะ...”ในเวลานี้ รถของฉินซวงก็จอดอยู่ที่ปร

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0178

    ซ่งหว่านชิวเป็นทางลัดที่เร็วที่สุดสําหรับเสิ่นเยียนที่จะเข้าใกล้วงการชนชั้นสูง ยอมทิ้งไปเพื่อคนอย่างเฉินฮวนมันไม่คุ้มค่าเลยดังนั้นเสิ่นเยียนจะต้องถือโอกาสบอกแผนการกับซ่งหว่านชิวแน่นอนซ่งหว่านชิวและเธอร่วมมือกันทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองก็สามารถหลบหนีได้อย่างรวดเร็วน่าเสียดายที่เฉินฮวนเข้าใจช้าเกินไป เธอมองหลินจืออี้อย่างไม่เต็มใจ “แกเปลี่ยนเบอร์ห้อง แกมั่นใจได้ยังไงว่าฉันจะมาที่นี่?”“เธอมั่นใจเกินไปแล้ว ตั้งแต่เธอจงใจวางรูปคู่กับสามีของประธานเซวียไว้ในตําแหน่งที่โดดเด่นที่สุดบนโต๊ะทํางาน ฉันก็รู้ว่าเธอจะต้องมาชื่นชมผลงานชิ้นเอกของเธอแน่นอน” หลินจืออี้อธิบาย"ฉันแพ้แล้ว แต่แกก็ไม่ได้ชนะเหมือนกัน” เฉินฮวนพูดอย่างแค้นเคืองถึงยังไงก็ยังมีซ่งหว่านชิวและเสิ่นเยียนที่เป็นอุปสรรคขัดขวางอยู่หลินจืออี้เดินไปที่ประตู ชะงักไปครู่หนึ่ง มองเธออย่างเย็นชา “เธอไม่เคยเป็นเป้าหมายของฉันเลย”พูดจบเธอก็เดินจากไป...ณ ห้องจัดเลี้ยงเมื่อหลินจืออี้เข้าประตูมา ห้องทั้งห้องก็มืดลงซ่งหว่านชิวยืนอยู่กลางห้องโถงอย่างตื่นเต้นพร้อมกับกงเฉิน รอของขวัญลึกลับในตํานานหลินจืออ

  • เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ   บทที่ 0177

    ทุกคนต่างก็ตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของเฉินฮวนรูปร่างหน้าตาและรูปร่างของเฉินฮวนนั้นถือว่าธรรมดาเท่านั้น แทบจะไม่สามารถเทียบได้กับเซวียมั่นที่ได้รับการดูแลอย่างดีได้เลยด้วยซ้ำสามีของเซวียมั่นคิดยังไงกันแน่?เฉินฮวนห่อเสื้อผ้าและร้องไห้สะอึกสะอื้นว่า "ประธานเซวีย ฉัน ฉันถูกใส่ร้ายนะคะ หลินจืออี้เรียกฉันมาที่ห้องรับรองเบอร์ 6! พอเข้ามาฉันก็รู้สึกร้อนไปทั้งตัวแล้วฉันก็ไม่รู้อะไรเลย”ทุกคนหูผึ่งกันทันที พล็อตเรื่องนี้กลับตาลปัตรได้ด้วยเหรอ?เซวียมั่นขมวดคิ้วมองหลินจืออี้ “เกิดอะไรขึ้น?”หลินจืออี้ส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ “ประธานเซวีย ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทําไมเฉินฮวนถึงพูดแบบนี้ค่ะ ต่อให้ฉันจะให้เขาไปที่ห้องรับรองเบอร์ 6 เพื่อใส่ร้ายเขาจริง แต่นี่เป็นห้องรับรองเบอร์ 9 นะคะ”พูดจบเธอก็ชี้ไปที่ป้ายบนประตูมันเป็นเลข 9ตัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเฉินฮวนจ้องมองตัวเลขอย่างไม่เชื่อสายตา ทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างออก จ้องหลินจืออี้เขม็งหลินจืออี้ยกยิ้มที่ริมฝีปากล่าง แสร้งทําเป็นกังวล “เฉินฮวน เมื่อกี้เธอบอกว่าฉันใส่ร้ายเธอเหรอ? แต่ในห้องนี้ยังมีสามีของประธานเซวียด้วยนะ เธอหมายความว่าฉันสมรู้ร่วมคิดกับเ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status