พระชายาอ๋องเฉียนกล่าว “นี่จะมีอะไรเป็นไปไม่ได้? คนอย่างเจ้าด้อยกว่าเจ้าฉีจื่อฟู่คนนั้นที่ไหนกัน กล่าวถึงชาติตระกูลแล้วไม่มีผู้ใดจะเทียบเจ้าได้ นางหรงเปลี่ยนมาสมรสกับเจ้า ก็ถือเป็นเรื่องมงคลสำหรับนางและสกุลหรงแล้ว” “และอีกอย่าง ต่อจากนี้ในจวนก็มีข้าซึ่งเป็นย่าของเจ้าคอยดูแลนาง จะไม่สุขกายสบายใจกว่าการใช้ชีวิตอยู่กับนางถานอีกหรือ? ไว้นางหย่าร้างแล้ว หากสกุลหรงไม่ยินยอม ข้าจะยอมเสียหน้า ไปช่วยเจ้าสู่ขอด้วยตนเอง!” ถึงแม้ว่าพระชายาอ๋องเฉียนจะคิดไม่ออก ว่าสกุลหรงจะมีเหตุผลใดที่จะไม่ยินยอม จีอู๋เหิงได้ยินถึงตรงนี้ ก็รีบคุกเข่าต่อหน้าท่านย่าทันที พลางกล่าวด้วยความตื้นตัน “เป็นพระคุณยิ่งนักขอรับที่ท่านย่าเมตตาให้อภัยในความดื้อรั้นของหลาน! หากได้สมรสกับบุตรสาวคนโตสกุลหรงแล้ว ตลอดชีวิตนี้หลานจะไม่ร้องขอสิ่งใดอีกแล้ว และข้ากับนางจะตั้งใจดูแลท่านย่า กตัญญูตอบแทนบุญคุณอย่างดีขอรับ” พระชายาอ๋องเฉียนยิ้มพลางเอ่ย “หากมิใช่นางเจ้าก็ไม่ยอมสมรสกับผู้ใด หากข้าไม่อภัยให้เจ้าแล้วจะทำอย่างไรได้หรือ? เพียงแต่ประโยคที่ว่า ‘ตลอดชีวิตนี้จะไม่ร้องขอสิ่งใดอีกแล้ว’ จากนี้อย่าได้พูดออกมาอีกเชียว ในเมื่อเจ้าจะ
อ่านเพิ่มเติม