บททั้งหมดของ ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ: บทที่ 51 - บทที่ 60

114

51 : สถานการณ์ไม่ดี

51 : สถานการณ์ไม่ดี หยวนหย่งเล่อพร้อมพ่อบ้านเกา ขี่ม้ามาที่หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ตั้งแต่เช้าตรู่ ชาวบ้านพากันตกใจ ทั้งสองดูเหมือนขุนนางมากบารมี หรือเศรษฐีในเมืองหลวงก็ไม่ปาน ไม่มีคนเช่นนี้มาเยือนหมู่บ้านบ่อยนัก นับตั้งแต่ที่ถานจ้านสอบซิ่วไฉได้ “ขอรบกวนถามท่านยายสักหน่อย ท่านพอจะรู้จักบ้านของคุณหนูเซี่ย เอ่อ เซี่ยซือซือบ้างหรือไม่” เกาหลี่เฉียงบังคับม้าไปถามหญิงชรา ที่กำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านของนาง “บ้านของอาซือรึ ว่าแต่พวกท่านเป็นใครกัน” แม่เฒ่าจางมองพวกเขาอย่างไม่ไว้วางใจ “ข้าชื่อเกาหลี่เฉียง ส่วนท่านนี้คือนายท่านหยวน แห่งหอโอสถหยวนเป่าขอรับ” พอได้ยินว่าเป็นนายท่านแห่งหอโอสถหยวนเป่า แม่เฒ่าจางก็คลายความสงสัยลง นางยอมบอกทางให้แต่โดยดี แต่ก่อนที่ทั้งคู่จากไป แม่เฒ่าจางได้กล่าวขอบคุณ เรื่องที่พวกเขาช่วยเหลือยามเสบียงไม่เพียงพอ หยวนหย่งเล่อไม่คิดว่า เพียงคำขอบคุณจากหญิงชราผู้หนึ่ง จะทำให้เขารู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองขึ้นมาได้ คงเพราะเป็นคำขอบคุณที่ออกมาจากใจริง มิใช่เสแสร้งเหมือนที่เขาเคยพบเจอมา นางถานได้ยินเสียงคนเรียกอยู่หน้าบ้า
อ่านเพิ่มเติม

52 : เตือนภัยชาวบ้าน

52 : เตือนภัยชาวบ้าน เซี่ยซือซือเห็นถานจ้าน ยืนมองชั้นวางตำราด้วยสายตาว่างเปล่า นางเดินไปยืนอยู่ด้านข้างกับเขา “พี่จ้านท่านเสียดายตำราหรือเจ้าคะ” “เสียดายสิ เจ้าไม่รู้กว่าข้าจะซื้อตำราได้แต่ละเล่ม มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย แต่ว่า” ถานจ้านหันมาทางภรรยาตัวน้อยของเขา จับมือนางขึ้นมากุมเอาไว้ทั้งสองข้าง “เอ่อ” นี่เป็นครั้งแรกที่ถานจ้านปฏิบัติต่อนาง เหมือนสามีภรรยากันจริง ๆ “ชีวิตของเจ้าย่อมสำคัญกว่า หากข้ามัวแต่แบกตำราพวกนี้ ใครจะแบกเจ้ายามเจ้าเหนื่อยจนเดินไม่ไหว” “ท่านพูดจาเลอะเทอะแล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องให้ใครมาแบกเจ้าค่ะ” ข้ามีน้ำพุวิเศษ ! “ความจริงแล้วข้าแค่เสียดาย ข้าเพิ่งไปติดต่อสำนักศึกษา ไม่ทันไรอนาคตที่ฝันไว้ก็ดับวูบ ชีวิตข้าคงไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปากเหมือนเช่นคนอื่นเขา” เซี่ยซือซือเข้าใจในความคิดของเขาแล้ว ถานจ้านต้องการเข้าสอบจวี่เหริน เพื่อความก้าวหน้าของครอบครัว แต่กลับมีข่าวว่าจะเกิดสงครามขึ้น แผนที่เขาวางไว้คงพลิกผันไปหมด “พี่จ้านอนาคตของท่านจะเป็นอย่างไรนั้น ข้าไม่สนใจหรอกเจ้าค่ะ ข้าจะยังอยู่เคียงข้
อ่านเพิ่มเติม

53 : อพยพหนีสงคราม

53 : อพยพหนีสงคราม ต้นเหมยป่าหน้าหมู่บ้าน ถานจ้านเริ่มนับคนที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ สรุปได้ว่ามีทั้งหมดแปดครอบครัวสามสิบกว่าคน ยังมีทารกวัยสามเดือนหนึ่งคน คือลูกชายของช่างไม้อวี่ลู่จิว เขาพยายามจดจำทุกคนไว้ให้ขึ้นใจ เพื่อไม่ได้หลงลืมไประหว่างทาง เซี่ยซือซือเห็นชาวบ้านต่างมีท่าทางหวาดระแวง สายตายังแสดงความลังเลใจอยู่ นางจึงเดินไปอยู่ด้านหน้าของทุกคน “ข้ามีแผนที่การเดินทางครั้งนี้ พวกท่านคงสงสัยว่าข้าเห็นกองทหารจริงหรือไม่ ข้าเซี่ยซือซือขอสาบานตรงนี้เลยว่าข้าเห็นจริง ๆ ทีนี้ข้าอยากขอความร่วมมือพวกท่านบ้าง เพื่อความสะดวกในการเดินทาง บ้านไหนมีคนชรากับเด็กเล็ก ให้มารวมกันอยู่ฝั่งนี้” เซี่ยซือซือตกลงกับเฒ่าอวี่ไห่เอาไว้แล้ว นางขอเช่าเกวียนสองคันของเขา เอาไว้ช่วยขนสัมภาระของชาวบ้าน และอีกคันเอาไว้ให้เด็กกับคนชรานั่ง แต่เฒ่าอวี่ไห่ไม่ยอมรับเงินของนาง เขาเต็มใจช่วยเหลือชาวบ้าน คนที่ได้ขึ้นเกวียนมี แม่เฒ่าจาง หวงหนิงเจียวภรรยาของช่างไม้ ซึ่งต้องดูแลทารกน้อยเสี่ยวอี เซี่ยซานซาน เซี่ยซือหยาง เสี่ยวเป่า และอวี่หวังหย่ง อวี่จิ่วซิ่น ลูกชาย
อ่านเพิ่มเติม

54 : มีข้ามีเจ้า (จบเล่ม1)

54 : มีข้ามีเจ้า (จบเล่ม1) บรรยากาศในยามนี้เต็มไปด้วยความเงียบสงัด เด็กน้อยทั้งหมดถูกผู้ใหญ่กำชับห้ามใช้เสียง เสี่ยวเป่าถึงกับอุดปากตัวเองเอาไว้แน่น เซี่ยซือหยางแม้ปกติคุยจ้อเก่ง ยามนี้เขากลับรู้ความยิ่งนัก ซุกหน้าแนบชิดอยู่กับอกของนางถานเงียบ ๆ กุบ ! กับ ! ๆ ๆ ๆ มีเสียงฝีเท้าม้าจริงด้วย ทุกคนต่างหน้าผากชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ พยายามเงียบเสียงให้มากที่สุด เสียงฝีเท้าม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือพยายามเพ่งสายตาผ่านพลังมิติพิเศษ นางเห็นกองกำลังเหล่านี้ ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนทหารเท่าใดนัก ลักษณะเหมือนพวกป่าเถื่อนพร้อมออกปล้นสะดม นี่มันเรื่องอันใดกันด้านหลังทหารข้าศึก ด้านหน้าเป็นกลุ่มพวกคนเถื่อน สองกลุ่มนี้ร่วมมือกันอย่างนั้นรึ กุบ ! กับ ! ๆ ๆ “ย่าส์ ! หยุด !” เซี่ยซือซือถึงกับกลั้นลมหายใจ นำนกหวีดมาคาบไว้ที่ปาก อวี่จงจับหน้าไม้เอาไว้แน่น อวี่เฉินฟู่หยิบมีดสั้นออกมา นางรีบยกมือห้ามไม่ให้พวกเขาผลีผลาม ให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน “มีอะไรเจ้าหยุดทำไม !” “ข้าเห็นมูลสัตว์สดใหม่ขอรับ” “มูลสัตว์ ! ช่างมันสิ รีบไปสมทบกับนายกองเร็วเข้
อ่านเพิ่มเติม

55 : ดังหวีดเดียวหมายความว่าปลอดภัย

55 : ดังหวีดเดียวหมายความว่าปลอดภัย ถานจ้านนั่งเฝ้ายามโดยมีภรรยานั่งพิงอกของเขาอยู่ เหมือนว่าเซี่ยซือซือกำลังนั่งพักอยู่ แต่ความจริงนั้นนางไม่ได้ละเลยหน้าที่เฝ้ายามแม้แต่น้อย คอยลอบส่งพลังออกไปสำรวจพื้นที่รอบ ๆ อยู่เป็นระยะ ตลอดหนึ่งชั่วยามที่นั่งเฝ้ายามอยู่ตรงนี้ ถานจ้านแอบจุมพิตศีรษะภรรยาตัวน้อยไปไม่รู้ตั้งกี่หน เซี่ยซือซือทำเป็นไม่สนใจ ในช่วงเวลาที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นนี้ หากนางทำให้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้ แค่เพียงเล็กน้อยนางก็ยินดี “ซือซือข้าว่าครบหนึ่งชั่วยามแล้วล่ะ พวกเราไปปลุกท่านลุงเฉินฟู่กับท่านลุงจงมาเฝ้าต่อเถอะ” ถานจ้านแตะแก้มนางเบา ๆ “อืม” เซี่ยซือซือลุกขึ้นมายืน บิดลำตัวยืดเส้นยืดสายไปมา เป็นท่ายืดกล้ามเนื้อของยุคปัจจุบัน สามีอย่างถานจ้านเห็นแล้วอดเอ็นดูนางไม่ได้ เพราะท่าที่นางทำอยู่นั้นช่างแปลกประหลาดนักเชียว “นั่งนานเจ้าคงเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวล่ะสิ ลำบากเจ้าแล้วซือซือ” “ลำบากอันใดกันเจ้าคะ พี่จ้านเองก็ลำบากเหมือนกัน” “แต่เจ้ายังเป็นเพียงเด็กน้อย” “คงจริงของท่าน ลำบากข้าแล้วจริง ๆ” เซี่ยซือซือไม
อ่านเพิ่มเติม

56 : ข้าจะแบ่งเสบียงบ้านข้าให้พวกท่านเอง

56 : ข้าจะแบ่งเสบียงบ้านข้าให้พวกท่านเอง ท่านหมออวี่เหมือนเห็นสวรรค์อยู่ตรงหน้า รีบพาทุกคนเข้าไปหาชาวบ้านกลุ่มแรกในทันที ครั้นได้เห็นหน้าคนหมู่บ้านเดียวกัน อีกทั้งพวกเขายังมีสภาพปกติดี ไม่ได้ถูกทำร้ายอย่างพวกตน ต่างพากันร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจ ที่ไม่ยอมเชื่อคำเตือนของเซี่ยซือซือ “ท่านหมออวี่เกิดอันใดขึ้นขอรับ เหตุใดถึงมีสภาพเช่นนี้กัน” ถานจ้านเห็นบางคนได้รับบาดเจ็บ บางคนเสื้อผ้าขาดรุ่ยเหมือนเกี่ยวกิ่งไม้มาตลอดทาง “พวกข้าเจอคนทำร้ายระหว่างทาง พวกมันขี่ม้ามาเร็วมาก มาถึงก็ชักดาบเข่นฆ่าผู้คนในทันที ดีที่พวกข้าหนีเข้าป่าไปคนละทิศทาง เลยรอดมาได้บางคน ส่วนคนอื่น ๆ คาดว่าจะไม่เหลือชีวิตรอดแล้ว” ท่านหมออวี่เล่าไปน้ำตาก็นองหน้าไปด้วย ชาวบ้านในกลุ่มแรกหันไปมองหน้ากันในทันที พวกเขาย่อมรู้ว่ากลุ่มคนที่ขี่ม้านั้น เป็นกลุ่มเดียวกับที่พวกเขาเห็นในคืนที่ผ่านมา หากเซี่ยซือซือไม่บอกให้หาที่หลบซ่อนได้ทัน คงมีสภาพไม่ต่างจากกลุ่มของท่านหมออวี่เป็นแน่แท้ “ตอนที่พวกข้าหนีมามีกันราวยี่สิบกว่าคน ดูสิ ตอนนี้เหลืออยู่สิบคนเท่านั้น” ท่านหมออวี่หันไปมองชาวบ้า
อ่านเพิ่มเติม

57 : พบผู้อพยพจากอำเภอเจียง

57 : พบผู้อพยพจากอำเภอเจียง ระหว่างการเดินทางผ่านภูเขา เส้นทางขรุขระเป็นอย่างมาก พวกเขาต้องคอยเข็นเกวียน ที่ตกหลุมถนนอยู่ตลอดทาง เฒ่าอวี่ไห่เป็นกังวลพวกเขาจะไปถึงอำเภอวั่ง ไม่ทันพระอาทิตย์ตกดิน ทุกคนเลยลงความเห็นกัน หากไปไม่ทันให้พักค้างแรมอีกคืน เพื่อความปลอดภัยของทุกคน เซี่ยซือซือตรวจพบว่ามีชาวบ้านอพยพ มาจากถนนตัดแยกข้างหน้า นางเดินไปถามเฒ่าอวี่ไห่ที่เกวียนของเขา “ท่านปู่ในแผนที่มีแยกข้างหน้าด้วย ฝั่งซ้ายมาจากที่ไหนกันหรือเจ้าคะ” “ก็อำเภอเจียงนั่นแหละ เป็นทางแยกมาจากอำเภอเจียง” “เช่นนั้นถ้าอำเภอเจียงถูกยึด ชาวบ้านคงหนีตายมาทางนั้นถูกไหมเจ้าคะ” “คงต้องเป็นเช่นนั้น” ทุกคนได้ยินเสียงที่นางคุยกับเฒ่าอวี่ไห่ ต่างรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา หากมีผู้ลี้ภัยสงครามมาทางเดียวกัน ทรัพย์สินของพวกเขาไม่ค่อยปลอดภัยเท่าใดนัก ระหว่างพักกินมื้อเที่ยงพวกเขาจึงหารือกันเรื่องนี้กัน “แน่ใจหรือเฒ่าอวี่ไห่ว่ามีทางแยกอยู่ด้านหน้า” ท่านหมออวี่ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ การพบเจอผู้อพยพกลุ่มอื่น ย่อมส่งผลต่อความปลอดภัยของทุกคน “แน่ใจ
อ่านเพิ่มเติม

58 : ลูกชั่ว ! สะใภ้ชั่ว ! หลานเลว !

58 : ลูกชั่ว ! สะใภ้ชั่ว ! หลานเลว ! ขณะที่กลุ่มของท่านหมออวี่กับอวี่เฉินฟู่ กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอวั่ง กลุ่มของผู้ใหญ่บ้านก็เพิ่งเดินทางมาถึง บริเวณที่กลุ่มก่อนหน้าได้พักแรมค่ำคืนที่ผ่านมา “ผู้ใหญ่บ้านตรงนี้มีร่องรอยการพักแรม มีรอยของล้อเกวียนสองเล่มด้วย ข้าว่าพวกเราตามพวกเฉินฟู่กับอาจงมาถูกทางแล้วล่ะ” เซี่ยฉางเป็นคนตรวจดูร่องรอย ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา “เช่นนั้นพวกเราก็มาถูกทางแล้ว ตามรอยพวกเขาไปเรื่อย ๆ น่าจะปลอดภัย” ผู้ใหญ่บ้านพยักหน้าอย่างเบาใจ “เหตุใดต้องตามกลุ่มพวกนั้นไปด้วยล่ะผู้ใหญ่บ้าน ทำไมไม่หาทางอื่นไปกันเอง” แม่เฒ่าเซี่ยไม่พอใจที่ต้องมาตามร่องรอยกลุ่มของเซี่ยซือซือ “แม่เฒ่าเซี่ยหากเจ้ามีทางอื่นไปก็ไปเถอะ เหตุใดต้องมาตามพวกข้าด้วยล่ะ” กู้จางหมิ่นภรรยาผู้ใหญ่บ้าน หันไปมองหญิงชราอย่างไม่พอใจ “สามีเจ้าเป็นผู้ใหญ่บ้าน มีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน เหตุใดต้องไปตามรอยคนอื่นด้วย ทำไมไม่คิดเอาเองว่าจะไปทางไหน” “พอได้แล้วแม่เฒ่าเซี่ย อาซือมีแผนที่ที่จะไปเมืองเว่ย์แต่ข้าไม่มี รึว่าเจ้ามีเช่นนั้นเจ
อ่านเพิ่มเติม

59 : พวกข้าตามรอยเกวียนของพวกเจ้ามา  

59 : พวกข้าตามรอยเกวียนของพวกเจ้ามา ขบวนอพยพไม่ได้พบเจอปัญหาใหญ่ ส่วนมากแค่ชาวบ้านแวะเวียนมามุงดูเกวียนของพวกเขา พอถูกขับไล่ก็จากไปแต่โดยดี พวกเขาเดินทางมาถึงประตูทางเข้าอำเภอวั่ง พบว่ามีชาวบ้านมาถึงก่อนหน้าจำนวนนับร้อยคน แต่ไม่มีใครสามารถผ่านเข้าไปในอำเภอวั่งได้ “ท่านลุงเหตุใดพวกท่านถึงเข้าประตูเมืองไม่ได้ล่ะขอรับ” ถานจ้านรับหน้าที่ไปสอบถาม ชาวบ้านกลุ่มอื่นที่มาถึงก่อนหน้าพวกเขา “เขาไม่เปิดรับผู้อพยพ กลัวจะไปสร้างความเดือดร้อนให้คนในอำเภอ ช่างน่าโมโหนักพวกเราหนีตายมาขอความช่วยเหลือ กลับปิดประตูไม่ยอมให้ผ่านเข้าไป นายอำเภอวั่งคนนี้ไร้คุณธรรมสิ้นดี” น้ำเสียงของเขาเอ่ยออกมาด้วยความแค้นใจ “เช่นนี้นี่เอง ขอบคุณท่านลุงมากขอรับ” ถานจ้านเอ่ยขอบคุณสั้น ๆ แล้วเดินกลับไปยังกลุ่มของตนเอง เล่าเหตุการณ์ตรงหน้าประตูอำเภอวั่งให้ทุกคนได้รับรู้ “เหตุใดถึงทำเช่นนี้เล่า พวกเราจะทำอย่างไรต่อดี” ท่านหมออวี่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ว่าจะเข้าอำเภอวั่งไม่ได้ “พอมีทางอื่นให้เราไปเมืองเว่ย์ โดยเลี่ยงไม่ผ่านอำเภอวั่งได้หรือไม่” ถานจ้านหันไปถามทุกคน เผื่อ
อ่านเพิ่มเติม

60 : รักษาแลกป้ายผ่านทาง

60 : รักษาแลกป้ายผ่านทาง หลูจิ่นฟานถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อมองเห็นถานเหลียนฮวาเดินมาพร้อมกับลูกชาย และเด็กสาวที่เขาเคยเห็นก่อนหน้าที่อำเภอเจียง “พี่หลูไม่คิดว่าจะได้พบเจอท่านที่นี่” นางถานโค้งคำนับทักทายเขา คนอื่น ๆ ในกลุ่มของหลูจิ่นฟาน หันไปมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย หลูจิ่นฟานยกมือให้พวกเขาออกไปตรงอื่นก่อน “พวกเจ้าก็ลี้ภัยมาเหมือนกันรึ” “เจ้าค่ะ หมู่บ้านของพวกข้าถูกทหารแคว้นฉีบุกเข้าไปเผาทำลาย โชคดีที่พวกข้าหนีออกมาได้ทัน ตั้งใจว่าจะลี้ภัยไปที่เมืองเว่ย์เจ้าค่ะ” นางถานอธิบายให้เขาเข้าใจสภาพความเดือดร้อนของนางและครอบครัว หลูจิ่นฟานทำหน้าไม่เข้าใจเท่าใดนัก “เจ้าจะไปเมืองเว่ย์เช่นนั้นรึ” “เจ้าค่ะ คนรู้จักของลูกสะใภ้ข้าแนะนำมาว่า ที่นั่นค่อนข้างปลอดภัย เพราะเป็นที่อยู่ของท่านอ๋องเจ็ด การคุ้มครองหนาแน่น พวกเราเลยตั้งใจไปลี้ภัยที่นั่น” นางถานเกรงว่าเขาจะเข้าใจผิด รีบเอ่ยเรื่องจริงให้เขาได้รู้ ลูกสะใภ้ หลูจิ่นฟานมองเซี่ยซือซือแล้วคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น คราวก่อนเขาไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้เลย ไม่คิดว่าถานเหลียน
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
45678
...
12
DMCA.com Protection Status