บททั้งหมดของ เมียขายฝาก: บทที่ 21 - บทที่ 30

106

21

เขาถือสิทธิ์อะไรมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหล่อน ใบฟางโกรธจัด แบบมัดมือชกชัดๆ เขาเริ่มออกเสียงข่มขู่ทุกอย่าง คุกคามหล่อนขมวดคิ้วครุ่นคิด นี่หล่อนไปรู้มักมักจี่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำตีสนิทหล่อนเสียเนียนสติเท่านั้นที่หล่อนจะเอาตัวรอดได้“ผมไม่ได้พูดเล่นนะ จะนับหนึ่งถึงสิบเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณไม่อาบน้ำ ผมจะจัดการให้คุณเอง หรือคุณอาจจะชอบที่มีคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้” “บ้า ฉันจัดการของฉันเองได้”พูดจบก็ลุกตรงไปยังห้องน้ำขณะที่ปางภูทิ้งสายตากรุ้มกริ่มแพรวพราวเหมือนขำแกมยั่วหล่อน ใบฟางสะบัดใบหน้าเบือนไปทางอื่น สักสิบนาทีต่อมา เมื่อหล่อนชำระกายด้วยน้ำเย็นใสสะอาดไหลผ่านฝักบัวก็รู้ว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจย้อนหวนกลับมาเอาสบู่ยี่ห้อไหนในโลกนี้ ชำระขัดล้างมันก็ไม่คืนความบริสุทธิ์กลับมา คราบคาวราคี ที่เหมือนฝังอยู่ในกาย ถึงแม้น้ำตาของหล่อน จะไหลปนกับสายน้ำ ก็ไม่มีอะไรจะช่วยได้ นอกจากความเข้มแข็ง สัญญากับตัวเองว่าจะจัดการผู้ชายคนนี้ให้ถึงที่สุด แต่การกระทำของเขาไม่น่าสักนิด ที่หล่อนจะยินยอมอภัยให้ได้ ใบฟางกัดฟันแน่นเพื่อรอวันเอาคืนให้อย่างสาสม เขาไม่คิดหรือยังไงว่าบ้านเมืองมีขื่อมือแปและข้อหานี้ฉกาจฉกรร
อ่านเพิ่มเติม

22

“คุณอย่าพยายามรู้อะไรเลย อย่าถาม เพราะไม่มีคำตอบ”บ้า จู่ๆนี่เขาเป็นอะไรไปเอ่ยขึ้นลอยๆด้วยคำซ่อนปริศนาที่ใบฟางก็เดาไม่ถูก อ๋อ คงกลัวหล่อนแจ้งจับเขานะสิ ในข้อหากักขังเหนี่ยวเหนี่ยวบังคับข่มขืน แล้วสารพัดที่หล่อนจะเรียก และคดีนี้มีโทษสูงอย่างแน่นอน ถึงขั้นอาญาเขาจะจัดการกับหล่อนอย่างไรดี ในเมื่อตกกระไดพลอยโจนมาแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ชื่อใบฟาง จะไม่ใช่แน่ ถ้าหล่อนไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับนายธีรคาม ธีรคามติดหนี้เขาแต่การกระทำเช่นนี้ ด้วยสติสัมปชัญญะความรู้สึกเข้าใจโลกมากพอสมควรแยกแยะตัดสินเองได้ ว่าตัวเองทำผิด แล้วมีอะไรมากกว่าความผิด ถ้าไม่ นอกจากต้องการยั่วเย้ายวนสาวสวย ที่เธอเองก็ถลำตัวไปหาความรัก และคบหากับนายธีรคามถึงขั้นว่าเป็นแฟนมันไม่ใช่ความสะใจใด เพราะเขาไม่มีความสะใจ ไม่มีความอาฆาตแค้น แต่ต้องการดัดหลังผู้ชายอย่างธีรคา เขาไม่รู้ว่าใบฟางสมยอมด้วยหรือเปล่า เขาไม่ควรตัดสินแต่เพียงลำพัง เขาต้องมองดูรอบด้านด้วย แต่เวลานี้รู้สึกตัวว่าตัวเองทำมากเกินไปฉวยสาวสวยเกิดความเข้าใจว่าหล่อนพลั้งและเสียทีให้แก่เขาขณะที่เขาโกหกไปตามเรื่อง เพื่อให้สอดคล้องเป็นการทำให้หล่อนเข้าใจผิดนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม

23

“ฉันจะแน่ใจแค่ไหนว่า เธอจะไม่ตลบหลังฉัน อย่างที่บอก เรื่องมันแล้ว แล้วไป หากถ้าเธอคิดว่าเรื่องมันจิ๊บจ๊อย ง่ายมาก เพราะไม่ได้เลือดตกยางออกอะไร เท่าที่ฉันคาดดูเธอคงคิดว่าฉันจะเอาเธอไปขายหรือยังไง”คำที่เขาเอ่ย ทำให้สาวสวยนึกสะดุ้งเพราะหล่อนคิดเช่นนี้แต่ทีแรก คิดไปไกลว่าเขาเป็นพวกแก๊งค์มาเฟีย ค้ามนุษย์ คิดว่าตัวเองไม่แคล้วต้องตกเป็นเหยื่อ คราวนี้คงไม่มีทางรอด กลับไปเห็นหน้าพ่อแม่พี่น้องและญาติอีกแล้วความหวาดกลัวทำให้หล่อนครุ่นคิด และบัดนี้คือคำตอบ ตั้งแต่เลยเที่ยงคืนมาจนถึงป่านนี้ หล่อนไม่ได้รับอันตรายอย่างใดแต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่สูญเสียไปแล้ว ย่อมไม่หวนกลับ แต่เขาก็ไม่ได้คิดชั่วถึงขนาดจะเอาหล่อนไปขายต่อ ใช่สินะหล่อนว่าหน้าตาเขาออกจะดี หล่อเหลา ไม่น่าจะมีจิตใจทรามชั่วช้าเลย เมื่อหล่อนไม่มีทางเลือกหล่อนก็ด่าเขาสะเปะสะปะแต่ถึงอย่างไรการกระทำของเขาก็เกิดขึ้น เขาป้ายแผลมลทินให้หล่อน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเถอะ ที่เขาไม่ได้ทำร้ายด้วยวิธีการเถื่อนโหดร้ายประเภทชอบความรุนแรง ระงับหักห้ามใจตัวเองไว้ก่อนบทที่ 12เอาตัวเองให้รอด คำนี้ก้องอยู่ในหัวสมอง เห็นท่าทีสงบของเขาแล้วแปลกประหลาดใบฟางมอง
อ่านเพิ่มเติม

24

จู่ๆเขาก็พูดตัดบทอีกครั้งแบบง่าย ใบฟางพลิกไม่ทันความรู้สึกของเขา ลำพังแต่ตัวหล่อนสิ จะทำอย่างไร ที่จะหนีให้พ้นจากสภาพนี้ บ้านหลังนี้ท่าทีที่เฉื่อยชาของเขาเริ่มกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เบนใบหน้าคมเหลือบจ้องมองหล่อน“ผมจะไปส่งคุณที่ซอยแถวบ้าน คุณบอกว่าคุณต้องทำงานไม่ใช่หรือ เวลาจากนั้นผมอยากจะเจอคุณผมจะโทร.ไป ช่วยกรุณาแนะบอกเส้นทางก็ยังดี”เมื่อเขาบอกว่าจะไปส่งแถวบ้าน ใจก็พองโตขึ้นมาทันทีเวลานี้ใบฟางไม่คิดอะไรแล้ว บ้านคือสวรรค์วิมานของหล่อน ขอให้ได้แต่พบหน้าพ่อแม่ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นหล่อนจะกล้าเล่าความจริงให้ท่านฟังหรือไม่ ใบฟางค่อยครุ่นคิดพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรเสียเขาก็ไม่ใจร้ายกักขังหน่วงเหนี่ยวจนหล่อนสิ้นไร้อิสรภาพมากไปกว่านี้ขอบคุณที่เขาเข้าใจว่าหล่อนจะต้องทำงาน และหล่อนมีภาระ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามเขา ก่อนที่จะเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวเดินออกไปข้างนอกพร้อมเขา“นี่บ้านของคุณเองหรือเปล่าคะ”ชายหนุ่มเงยหน้ามองหล่อนนิดหนึ่งก่อนเอ่ยตอบกล่าวเสียงทุ้มแต่กระแสเสียงยังติดความไม่พอใจ“เปล่า เป็นบ้านเพื่อนที่ให้พักอาศัยอยู่ก่อนชั่วคราว”“เพื่อนคุณใจดีน่าดู อุทิศที่นอนที่อาศัยให้
อ่านเพิ่มเติม

25

ปางภูรู้สึกว่าเขาเป็นนักเขียนเพราะการฝึกปรือ บวกกับจินตนาการช่วย ความชื่นชอบจากนักเขียนคนโปรด อ่านงานมากเข้าสิ่งเหล่านี้ซึมเซา เมื่ออ่านแล้วต้องเขียนด้วย ถ้าไม่เขียนก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ต้องมีแรงกระตุ้นอยากจะให้เขียนเรื่องนี้ และมีจุดหมายปลายทาง ทบทวนไปนั้นเขาอยู่กับหล่อนตั้งหลายชั่วโมงมีเวลาให้หล่อนไขว้เขวเข้าใจผิดทึกทักเอาไปว่า หล่อนนั้นเสร็จเขาแล้ว ทำไมปางภูต้องให้หล่อนคิดอย่างนี้ด้วยเป็นเพราะเขาสบายใจนั่นคือคำตอบ ไม่มีอะไรที่สบายใจเท่านี้แล้ว เท่าที่ได้แกล้งหล่อนแล้วเบื้องหลังการแกล้งครั้งนี้เขารู้สึกอย่างไร มันทำให้อารมณ์เพริดและตื่นตะลึงได้อย่างมากทีเดียว เลยมุ่งหน้ากลับที่พักของตนเองอีกครั้งตั้งใจจะหลับยาวเลยล่ะ เพราะเหมือนกับว่าแทบทั้งคืน ที่เขาไม่ได้พักผ่อนใช้เวลาอยู่กับความเงียบและความสงบ พักผ่อนสมองด้วยการนอน ถ้าสมองยุ่งเหน็ดเหนื่อยอย่างนี้ อย่าว่าแต่งานเขียนหรือลงมือแตะคอมพิวเตอร์ก็ไม่อยากทำ สู้นอนดีกว่า เขาไม่ลุกไปไหนหรอก มันเป็นเวลาที่ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น นอกจากเปิดเพลงเบาสบายกล่อมตัวเองไปจนหลับ พอตื่นขึ้นมาอีกทีค่อยว่ากัน แต่คิดว่าสมองมันโล่งโปร่งแจ่ม
อ่านเพิ่มเติม

26

แม้น้ำจะชำระล้างสิ่งสกปรกหมดผ่านไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ชำระล้างคราบคาวไม่ได้คือมลทิน พรหมจารีที่หมองหม่นมีสีที่ไม่บริสุทธิ์เจือปนในกายสาว หล่อนได้แต่รู้สึกเดือดดาลใจด้วยความคั่งแค้น อย่างไม่รู้ที่จะเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากอารมณ์นี้ กำหมัดแน่น น้ำตาไหลปนลงมากับน้ำฝักบัว แต่สาวสวยก็กำมือแค้นอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเป็นสาวออฟฟิศเช่นเดิม ก็ทำให้หล่อนดูดีขึ้น เพียงแค่เครื่องสำอางกลบใบหน้าเอาไว้เท่านั้นแต่ถึงอย่างไรหล่อนก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าสดชื่นขึ้นมามากกว่าเดิม ใบฟางคิดอย่างนั้น ไม่มีเหตุผลที่หล่อนจะไม่ไปทำงาน เพราะหล่อนจะต้องทำงานเหมือนเช่นทุกวันว่าจะไม่คิดแล้วเชียว ไปทำงานเพื่อปรับเปลี่ยนอารมณ์และความรู้สึก เพื่อจะได้ลืมๆเสีย แต่ก็ยังติดค้างเป็นตะกอนในใจมันลืม มันเลิกคิดได้ง่ายเสียที่ไหน หทัยเพื่อนสาวที่ทำงานด้วยกันก็แทบจะไม่รู้ ว่าเธอแบกความขมขื่นไว้ในใจ ด้วยสีหน้ายิ้มระรื่นกับเพื่อนร่วมงานทุกคนหรือแม้แต่ลูกค้า หล่อนก็ตอบด้วยสีหน้าปกติ ที่พยายามบังคับความร่าเริงออกมาเต็มที่ และหล่อนก็ทำตัวเองได้รอดไปจนถึงครึ่งวันเลยทีเดียว และช่วงบ่ายโมงนั้น คนที่พาตัวเอง
อ่านเพิ่มเติม

27

เพราะใบฟางคิดอย่างนั้น ความรักของหล่อนและสำหรับหล่อนนั้นมันมีค่าสูงส่งมากมาย ถ้าหากจะทำลายกันด้วยวิธีนี้แล้วล่ะก็ แม้แต่หน้าหล่อนก็ไม่มองด้วยซ้ำจึงขอภาวนาว่าขออย่ามีบุคลที่สามที่กลายเป็นพี่ธีรคามเลยถ้าอย่างนั้นเขาจะเห็นหล่อนร้ายขึ้นมาสักวันหล่อนมีความรู้สึกว่าสติของหล่อนยังไม่ดีนักบางครั้งมันมีอารมณ์คลุ้มคลั่งอยู่ เมื่อนิ่งคิดอยู่คนเดียว อารมณ์กวัดไกวไปถึงภาพที่ถูกกระทำ มันบาดตาหลอนจิตใจเสมอ จนขนาดทำให้ใบฟางร้องกรี๊ดอยู่ในห้องน้ำเพียงคนเดียวไม่มีคนอื่นได้ยินเพราะภายในห้องน้ำมีหล่อนคนเดียว ยังรู้สึกเจ็บ และเจ็บครั้งนี้ที่หล่อนบอกกับตัวเองว่าจะต้องเอาคืน เอาคืนให้หนักหน่วงมากกว่าเดิม แต่ผู้ชายวายร้ายคนนั้นหล่อนก็เห็นหน้า และทราบชื่อของเขา ทั้งชื่อและหน้าตาก็ดี ไม่นึกว่าจะมีจิตใจคนชั่วทรามสกปรกอย่างนี้ เมื่อนึกถึงแล้วใบฟางขยะแขยงขึ้นมาทันทีสวรรค์สีกลับเข้ามาที่คอนโดอีกครั้งหล่อนซื้อลูกชิ้นไส้กรอกบริเวณปากทางเข้าคอนโดแห่งนี้ด้วยถุงหนึ่ง เพื่อกำนัลให้สามีหนุ่มที่เขายังคงนอนอยู่บนเตียงนอนท่าทางอารมณ์ของเขาหงุดหงิด หล่อนไม่ทราบว่าเขาใจใหญ่ใจโตมาจากไหน แล้วมือเติบได้เงินก้
อ่านเพิ่มเติม

28

ภาวะอย่างนั้นปางภูบอกตัวเองว่าเขาเศร้าและเจ็บช้ำอย่างมากทีเดียว เหมือนผีหลอกอาการที่เริ่มจะเลือนลืมไปแล้ว เพราะสายตาที่อึ้งไปนานของเขาเริ่มตึงแข็งด้วยแววตาเย็นชา ดุจคนที่พยายามบังคับอารมณ์ตนเองอยู่ และก็กล้าเอ่ยทักหล่อนด้วยอารมณ์ที่เรียบง่ายและเฉยเมย“คุณกลับมาจากอเมริกาแล้วหรือ ง่ายเหมือนกันนี่ สำหรับผมไม่เคยลืมคุณหรอก ไม่เคยลืมคุณสักนิดเพิร์ล”น้ำเสียงของเขาเหมือนยังสะกดและใช้กับหล่อนอย่างห่างเหิน จนสาวสวยอุทานร้องในใจหล่อนชะงักด้วย สามารถเดาความหมายนั่นได้ เพราะหล่อนเป็นคนสลัดความรักจากเขาทิ้ง เรียกว่าเดินหนีในสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ หล่อนก็ยังกล้าจะมาพบเขาอีก แต่ภามิญาก็คิดว่านี่คือมิตรภาพ หล่อนกับปางภูยังเป็นเพื่อนได้“ค่ะ”หล่อนพยักหน้าเบา ขณะที่ทิชากรเพื่อนสนิทสาวนั้นนิ่งเหมือนคนเป็นใบ้ ที่ได้พบภาพแบบนี้อย่างกะทันหัน เพราะเธอเองเป็นคนคอยเตือนเพื่อนอย่างนักเขียนหนุ่มด้วย แต่เขาวางใจคิดว่าภามิญาจะไม่ทรยศ แล้วทีนี้เกิดเรื่อง การที่หล่อนปรากฏกายเด่นชัดอย่างนี้ตามคำอ้างที่กล่าวมานั้น ทิชากรก็เชื่อ เพราะเพิ่งเห็นตัวเป็นๆของภามิญาอีกครั้ง หล่อนดูสวยเปรี้ยวและคล่องแคล่วในท่
อ่านเพิ่มเติม

29

ทิชากรหันมายิ้มให้กับเพื่อน“นับว่าไม่เสียทีที่นายเป็นเพื่อนกับฉัน”ปางภูเอ่ยอีกหลังจากคิ้วเรียวเข้มขมวด“ใช่ ฉันไม่ควรให้ท้ายเพิร์ลมาก ไม่ควรทำให้รู้ว่าเธอยังมีความสำคัญกับฉัน”“แต่ดูแล้วเธอเหมือนมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับนาย”“คิดว่าสำคัญแค่ไหน ขอบอกให้ก็ได้นะ ยังไงก็ไม่สำคัญเท่าแซนดี้เพื่อนของฉันหรอก”ทิชากรหัวเราะร่วนให้กับเพื่อนอีกครั้ง“เหรอ ที่นายคิดอย่างนี้ ฉันจะได้สำคัญถูกว่าตัวเองเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับนายจริง”บทที่ 15“มันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ สำหรับเราทั้งสอง ไม่เคยมีอะไรขวางกั้นคำว่ามิตรภาพได้เลยนะแซนดี้”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แซนดี้มองหน้านักเขียนหนุ่มเพื่อนรักอย่างจริงจังอีกครั้ง“นายเข้มแข็งขึ้น ฉันดีใจด้วย เอาล่ะวะ เมื่อนายเข้าข้างฉัน ชัยชนะก็จงตกเป็นของนาย ขอบใจที่นายเชื่อถือเพื่อนอย่างฉันจนสนิทใจ เรามาคุยเรื่องงานต่อเถอะ”จากนั้นเพื่อนที่สนิทกันทั้งคู่ก็คุยกันอย่างออกรสออกชาติในงานเขียน และรวมทั้งคิดพร๊อตเรื่องใหม่ล่วงหน้า เอ่ยคุยเกี่ยวกับแวดวงนักเขียนด้วยกันด้วยถ้อยคำสนิทสนม ถึงแม้จะเป็นการนินทาก็ตาม แต่สำหรับทิชากรนั้นถือว่าเหมือนได้เล่าให้เพื่อนสนิทคนห
อ่านเพิ่มเติม

30

เขาเข้ามาพบตามเวลานัด เพียงแค่พยักหน้าในการรับรู้กับภารณี เพราะรู้จักมาก่อนเช่นกัน วางตัวเองเงียบสงบ และเห็นว่าภายในแววตาของเจ้าของร้านอย่างภารณีก็อึดอัดเช่นกัน จากสายตาที่ทราบว่าเมื่อก่อนชายหนุ่มหล่อผู้นี้เคยได้ขึ้นชื่อว่ากำลังใกล้จะเป็นน้องเขยของหล่อน แต่ทว่าการตัดรอนตัดสินใจลงเอยแต่งงานกะทันหันกับหนุ่มต่างชาติที่พ่อแม่ค่อนข้างจะเห็นดีด้วยนั้น ภารณีรู้ว่าผิด การที่น้องสาวอย่างภามิญากระทำเช่นนี้ต่อชายหนุ่มนักเขียนแล้ว ก็ไม่ควรแสดงกิริยาเหมือนตอกย้ำ หลังจากที่เลิกรา มันเหมือนกับการตามย้ำบาดแผลที่เจ็บปวด สะกิดแผลใจให้เขาได้ร้าวรวดอีกครั้งข้อนี้ภารณีกริ่งเกรงเหมือนกัน คิดว่าน้องสาวทำไม่ถูกแต่ทว่าภามิญาก็ได้ตัดสินใจทำลงไปแล้วหล่อนก็อ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวผ่านประตูกระจกร้านหรูห้องเสื้อของหล่อน และดัดแปลงเป็นสตูดิโอด้วยนั้นเป็นอดีตคนรักของน้องสาว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเพิร์ลต้องทำอย่างนี้ หรือคิดจะมารื้อฟื้นความรักความหลังครั้งเก่า หล่อนก็ไม่คาดและคาดเดาได้ มันจะหวนกลับคืนมาอีกหรือเปล่า เพราะเท่าที่ดูท่าทางแล้ว ชายหนุ่มตรงหน้ายังเจ็บและจำอยู่ แต่ก็เอาเ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
11
DMCA.com Protection Status