บททั้งหมดของ หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก: บทที่ 391 - บทที่ 400

534

บทที่ 391

ถึงอย่างไรผู้เฒ่าหลานก็เคยเป็นพ่อบ้านของสกุลหลานมาก่อน ย่อมมีความฉับไวในบางแง่มุมอยู่แล้ว หลังจากสังเกตเห็นท่าทีของเวินซื่ออย่างรางเลือน ในขณะที่เวินซื่อกำลังเตรียมตัวออกเดินทางกลับมาที่อารามสุ่ยเยว่ในวันนั้น เขาก็ยื่นสิ่งของอย่างหนึ่งให้เวินซื่อ“คุณหนูน้อย บ่าวเกิดในสกุลหลาน เติบโตในสกุลหลานมาชั่วชีวิต ตายก็อยากตายเพื่อสายเลือดของสกุลหลาน ดังนั้นคุณหนูน้อยได้โปรดรับของสิ่งนี้ไว้ ให้โอกาสบ่าวสักครั้ง ให้บ่าวได้ตายเพื่อท่าน”ผู้เฒ่าหลานมีอายุมานานแล้ว แล้วมีปัญหาอะไร?เขายังสามารถทำให้ตัวเองได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง เพื่อสกุลหลาน และเพื่อคุณหนูน้อยเวินซื่อมองไปที่สัญญาขายตัวที่ยื่นมาจากมือของเขานางหลุบตาลงเล็กน้อย “ลุงหลาน ท่านคิดดีแล้วหรือ?”ผู้เฒ่าหลานหันไปมองที่ดินกุยอวิ๋นผืนนั้น ความรู้สึกคะนึงหาพรั่งพรูเข้ามาในดวงตาทั้งสองของเขา จากนั้นเขาก็หันกลับไปมองเวินซื่ออีกครั้ง เหมือนกับที่เคยมองนายท่านของเขาในตอนนั้น พลางเอ่ยอย่างจริงจัง “บ่าวคิดดีแล้ว ชั่วชีวิตนี้บ่าวจะจงรักภักดีเพียงสกุลหลานเท่านั้น แม้ว่าพวกคุณชายใหญ่จะเป็นสายเลือดของคุณหนูใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่คนของสกุลหลาน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 392

“นี่ น้องสี่ น้ำหล่อเลี้ยงของรากไม้แห้งที่ท่านให้มาสามารถทำลายแปลงสมุนไพรของเวินซื่อ ทำให้นางไม่สามารถเพาะปลูกได้อีกจริงหรือ?”“แน่นอน”เวินอวี้จือเชิดคางขึ้นกล่าวอย่างจองหอง “น้ำหล่อเลี้ยงของรากไม้แห้งเป็นสิ่งที่ข้าอ่านมาจากตำราพิษของหมอปีศาจราชันพิษ มีคนเพียงไม่กี่คนที่รู้จักของสิ่งนี้ เว้นแต่ว่าหมอปีศาจราชันพิษจะมาถอนพิษด้วยตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่มีใครช่วยแปลงสมุนไพรเหล่านั้นของเวินซื่อได้เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เวินจื่อเยวี่ยก็โล่งใจได้ในทันที“ถ้าอย่างนั้นก็ดี คราวนี้สั่งสอนบทเรียนแก่เวินซื่อให้เต็มที่ ครั้งนี้สิ่งที่พวกเราจัดการก็คือแปลงสมุนไพรของนาง ไม่ใช่คนของนาง ต่อให้นางคาดเดาได้ว่าพวกเราเป็นคนทำ ก็ทำอะไรเจ้ากับข้าไม่ได้”“ถึงอย่างไรต่อให้พูดออกไป เรื่องนี้ก็สามารถยืดหยุ่นได้เวินจื่อเยวี่ยแสยะมุมปาก กล่าวอย่างดูถูกเวินอวี้จือยิ้มเล็กน้อยเช่นกัน “นางไม่กล้าทำอะไรหรอก ไม่แน่ว่าอาจจะขอร้องพวกเราเพื่อแปลงสมุนไพรเหล่านั้นในที่ดินกุยอวิ๋นก็ได้ ถึงเวลานั้นก็ให้นางคุกเข่าสารภาพผิดต่อหน้าน้องหกอย่างสาสม เช่นนี้ถึงจะสามารถชดเชยความเจ็บปวดที่น้องหกได้รับในวัง”“ท่านสมกับที่เป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 393

เช้าตรู่ พวกเขายังไม่ทันตื่น เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือก็ถูกเวินเฉวียนเซิ่งดึงขึ้นจากเตียง“เกิดอะไรขึ้น ท่านพ่อ?”“ซี้ด หนาวจัง ท่านพ่อ ท่านให้ข้าไปใส่เสื้อผ้าก่อนนะ!”“ยังจะใส่เสื้อผ้าอีก ใส่อะไรหนักหนา! หน้าตาของจวนเจิ้นกั๋วกงกำลังจะถูกพวกเจ้าทำลายหมดสิ้นแล้ว!”เวินเฉวียนเซิ่งผลักเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือออกไปเมื่อมาถึงประตูจวนเจิ้นกั๋วกง ทั้งสองก็เห็นเวินฉางอวิ้นยืนอยู่ที่ประตูเป็นอันดับแรก“พี่ใหญ่ ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจในสถานการณ์เวินฉางอวิ้นเหลือบมองพวกเขาสองคน แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พวกเจ้าเดินออกมาดูเอาเองเถอะ”ในขณะที่เขาพูดเช่นนี้ เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าจาง ๆ“นี่มันกลิ่นอะไรเนี่ย?”เวินจื่อเยวี่ยปิดจมูกแล้วเดินออกไปข้างนอก ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมอง รูม่านตาก็หดตัวลงทันที โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง“นี่เป็นฝีมือของใคร?!”“ใครกันช่างรนหาที่ตาย บังอาจสาดเทสิ่งของแบบนี้ใส่จวนเจิ้นกั๋วกงของเรา!”เวินจื่อเยวี่ยแทบจะอาเจียนออกมาแล้ว เขาปิดจมูกพลางตวาดลั่น แต่เขาในเวล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 394

“เจ้ายังกล้าโต้เถียงอีก!”เวินเฉวียนเซิ่งพูดแล้วก็ยกมือขึ้นอีก ขณะที่กำลังจะตบปากเวินจื่อเยวี่ยเป็นครั้งที่สาม เวินฉางอวิ้นก็ยื่นมือออกไปห้ามเขาไว้“พอแล้วท่านพ่อ”เวินฉางอวิ้นผลักเวินจื่อเยวี่ยออกไปข้าง ๆ หลังจากมองเวินเฉวียนเซิ่งแวบหนึ่ง ก็ทิ้งประโยคหนึ่งไว้อย่างเฉยชา...“ไม่ว่าท่านจะทำท่าทำทางอย่างไร ชื่อเสียงของจวนเจิ้นกั๋วกงแห่งนี้ก็เหม็นโฉ่สุดขีดเหมือนอุจจาระที่อยู่บนขั้นบันไดหน้าประตูบานนี้แล้ว”หลังจากที่เขาพูดจบ ก็ยกเท้าขึ้นมาจากอุจจาระเหล่านั้นเดินออกไป จากนั้นก็ขึ้นรถม้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยเวินจื่อเยวี่ยนึกไม่ถึงว่าเวินฉางอวิ้นจะพูดจาเช่นนั้นนี่มันเลยเถิดยิ่งกว่าที่เขาโต้เถียงเล่นสำบัดสำนวนเมื่อครู่เสียอีก ดูหน้าบิดาสิ ดำทะมึนเป็นหมิ่นหม้อแล้วสุดท้ายเวินเฉวียนเซิ่งก็ยังแบกกลิ่นอุจจาระจาง ๆ เข้าไปในวังเพื่อเข้าเฝ้าเช่นเดียวกับเวินฉางอวิ้น ส่วนเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือถูกเวินเฉวียนเซิ่งกักขังไว้ในบ้านชั่วคราว รอให้เขากลับมาก่อนค่อยจัดการไอ้สารเลวสองคนนี้พอเช้าตรู่ เหตุการณ์ที่ประตูจวนเจิ้นกั๋วกงก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงอย่างรวดเร็วซ้ำยังกลายเป็นเรื่องขบ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 395

เวินเฉวียนเซิ่งโมโหจนเป็นลมไปเพราะถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ก็โมโหจนกระอักเลือดมาแล้วครั้งหนึ่ง หมอบอกให้เขาระมัดระวังอารมณ์ของตัวเองมาตั้งนานแล้ว ต่อไปห้ามตื่นเต้นจนเกินไปผลปรากฏว่าหลายวันที่ผ่านมาได้เป็นลมไปแล้วสองครั้งเพราะความตื่นเต้นจริง ๆบวกกับเรื่องที่ประตูใหญ่จวนเจิ้นกั๋วกงของเขาถูกสาดอุจจาระเหม็นเน่าติดต่อกันสิบวันแพร่กระจายจนผู้คนรู้กันไปทั่วดังนั้นฮ่องเต้น้อยจึงให้เขาพักผ่อนอยู่ในบ้านให้เต็มที่อย่างรู้ใจ ให้เขาพักหยุดงานอีกสักสองสามวัน“ท่านพ่อโมโหหญิงสารเลวอย่างเวินซื่อจนเป็นลมไปจริงหรือ?”เมื่อเวินเยวี่ยได้รู้ข่าวคราว ก็รีบลุกพรวดขึ้นจากเตียงทันทีสาวใช้เซียงเหอพยักหน้าเล็กน้อย “เรียนคุณหนู เป็นเช่นนี้จริง ๆ”“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? หลายวันมานี้ข้างนอกเสียงดังหนวกหูจะแย่ พี่สามพี่สี่ก็ไม่รู้จักมาเยี่ยมข้าบ้าง”ตอนนี้เวินเยวี่ยยังคงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ดังนั้นหลายวันมานี้จึงไม่ได้ออกไปนอกเรือนเล็กมากนัก และไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้างนอกแต่เมื่อสังเกตเห็นว่าเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือไม่ได้มาเยี่ยมนางหลายวันแล้ว หัวใจของนางก็ตื่นตัวขึ้นมาทันทีเพราะข่าวล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 396

หลังจากเก็บกวาดความระเนระนาดมามากเกินไป บัดนี้หากเวินเฉวียนเซิ่งต้องการทำให้สถานการณ์สงบขึ้น ก็ต้องจัดการกับลูก ๆ ของเขาให้ดียังต้องคอยจับตาดูอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย มิฉะนั้นหากพลั้งเผลอเมื่อใดอาจจะมีคนไหนวิ่งออกไปหาเรื่องให้เขาอีกก็เหมือนกับเวินจื่อเยวี่ยเวินเฉวียนเซิ่งเองก็คาดไม่ถึง เขาเพิ่งโมโหจนเป็นลมไป เวินจื่อเยวี่ยก็วิ่งออกไปอีกแล้ว!”ตอนที่ได้รู้ข่าว เวินเฉวียนเซิ่งแทบจะลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจจากอาการป่วยใกล้ตาย เดือดดาลเป็นอย่างมาก “ยังไม่รีบไปค้นหาอีก จับไอ้คนไม่เป็นโล้เป็นพายนั้นกลับมา! ถ้าเขาไม่กล้ากลับมา ก็หักขาทั้งสองของเขาแล้วลากกลับมา!”พ่อบ้านยิ้มเจื่อน ๆ ทันทีแม้ว่าท่านกั๋วกงจะพูดเช่นนี้ แต่พวกเขามีหรือจะกล้าทุบตีขาของคุณชายสามจนหักโชคดีที่เวินเฉวียนเซิ่งนึกอะไรขึ้นได้อย่างฉับพลัน จึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที “ไม่ ช้าก่อน ไปหาฉางอวิ้น ให้เขาไปพาตัวน้องชายไม่เอาถ่านของเขากลับมา!”นับตั้งแต่องครักษ์ลับของจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกวาดล้างในครั้งนั้น พวกที่ได้รับการฝึกฝนในจวนเหล่านี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเวินจื่อเยวี่ยเลยเขาต้องการออกไปข้างนอก ไม่มีใครห้ามเขาได้โดยเฉพาะอย่า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 397

“พลั่ก!”เวินจื่อเฉินทนฟังต่อไปไม่ไหว ชกเข้าไปที่ใบหน้าเวินจื่อเยวี่ย“ท่าน...!”เวินจื่อเยวี่ยที่ถูกต่อยก็โกรธมากเช่นกัน หันกลับมาตอบโต้กลับเวินจื่อเฉินทันทีทั้งสองคนอยู่ในกรงเหล็กนั้น สถานที่แคบ ๆ แม้แต่จะซ่อนตัวยังไม่ได้ หมัดแล้วหมัดเล่า แต่ละหมัดประเคนใส่ร่างกายของอีกฝ่ายอย่างไร้ความปรานีไม่นานก็ตีกันจนใบหน้าฟกช้ำดำเขียวสถานการณ์ทางนี้รุนแรง แต่ทางด้านนั้นเวินซื่อกลับไม่แม้แต่จะชายตามองพวกเขา ก้มหน้าก้มตาปรุงยาสมุนไพรในมืออยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งพวกเขาสู้กันจนเหนื่อย เวินซื่อก็ปรุงยาในมือเสร็จแล้วไม่ใช่ยาเม็ด แต่เป็นยาน้ำที่มีกลิ่นแปลกประหลาดมากขวดหนึ่งหลังจากบรรจุเรียบร้อยแล้ว นางก็ลุกขึ้นยืนเดินออกไปถึงด้านนอกกรงเหล็ก กวาดสายตาผ่านเวินจื่อเฉินและเวินจื่อเยวี่ยทีละคน“ซี้ด”เวินจื่อเยวี่ยแสยะมุมปาก เจ็บปวดจนเขาต้องอ้าปากหอบ จากนั้นเขาก็จับกรงเหล็กมองไปยังเวินซื่อที่อยู่ข้างนอกพลางเอ่ยขึ้น“เวินซื่อ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดจะทำอะไร เจ้าแค่ต้องการแก้แค้นข้าที่ทำลายแปลงสมุนไพรของเจ้า ใครใช้ให้ข้าตกอยู่ในมือของเจ้าในตอนนี้เล่า ข้ายอมแล้ว พูดมาเถอะ เจ้าต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะยอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 398

ทุกครั้งที่มีหลานชายหรือหลานสาวถือกำเนิด สกุลหลานจะส่งของขวัญมาให้เช่นเดียวกับการมอบที่ดินที่กุยอวิ๋นให้กับเวินซื่อ พี่ชายทั้งสี่ของนางก็ได้รับที่ดินของพวกเขากันหมดเพียงแต่เวินซื่อเป็นหลานสาวคนเล็กเพียงคนเดียว ดังนั้นจึงมอบภัตตาคารเฟิ่งอวิ๋นเพิ่มให้อีกแห่งหนึ่งในมือของเวินซื่อเยวี่ยก็คือที่ดินผืนใหญ่ในเขตชานเมืองที่มีชื่อว่าที่ดินสือไห่ชาติก่อนเวินเยวี่ยอยากได้ที่ดินเหล่านั้นในมือของพวกเขามาตั้งนานแล้วท้ายที่สุดแล้วที่ดินเหล่านั้นก็ได้รับการคัดเลือกเป็นพิเศษจากสกุลหลาน เป็นที่ดินที่มีมูลค่ามากที่สุด ตราบใดที่ไม่ถูกทำลายหรือละทิ้งโดยตั้งใจ ต่อให้ปล่อยไว้เฉย ๆ ก็ยังคงเป็นภูเขาทองภูเขาเงินที่สามารถทำเงินได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายชีวิตแบบพวกเขาที่ครอบครองทุกอย่างมาตั้งแต่เกิดทำให้เวินเยวี่ยอิจฉาจนกลัดหนองอยู่ภายในใจการไม่แย่งชิงมาไว้ในมือมันเป็นไปไม่ได้เลยดังนั้นนางจึงเป็นคนแรกที่ขอให้เวินจื่อเยวี่ยและคนอื่น ๆ ช่วยนางแย่งชิงที่ดินที่กุยอวิ๋นและภัตตาคารเฟิ่งอวิ๋นไปจากมือของเวินซื่อ ต่อมาก็เกลี้ยกล่อมจนเวินจื่อเยวี่ยและคนอื่น ๆ ต่างมอบที่ดินในมือของแต่ละคนให้หลังจากได้รับมา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 399

เวินจื่อเฉินอดทนกับกลิ่นที่ไม่ชวนดมนั้น ช่วยประคองเวินจื่อเยวี่ยที่หมดสติขึ้นมา ถ่างดวงตาของเขาออกดู พบว่าเขาเหมือนจะไม่ได้เป็นอะไรมากนัก เพียงแค่สลบไปเท่านั้นแต่ที่น่าแปลกก็คือ ทำไมตัวเขาถึงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย?หรือว่าน้องห้าจงใจเลี่ยงเขา?ภายในใจของเวินจื่อเฉินเกิดความดีใจขึ้นมาทันทีเมื่อครู่ตอนที่น้องห้าสาดยาน้ำใส่ ได้สาดไปที่ร่างกายของน้องสามเท่านั้นจริง ๆดังนั้นก็หมายความว่า ในใจของน้องห้าคิดกับเขาแตกต่างออกไปบ้างใช่หรือไม่?เวินจื่อเฉินเพิกเฉยต่อชายเสื้อเปียกชุ่มที่อยู่ข้างลำตัวโดยสิ้นเชิง เพียงนึกถึงการคาดเดาอย่างคลุมเครือนั้นและแอบดีใจอยู่เงียบ ๆ……ในอีกด้านหนึ่ง เวินซื่อก็ไม่รู้ว่าเวินจื่อเฉินที่อยู่ในมิตินั้นยังคิดถึงเรื่องเหล่านี้อยู่หลังจากนางออกมาจากมิติแล้ว ก็บำเพ็ญเพียรอธิษฐานสวดมนต์ขอพร ทั้งยังปลูกสมุนไพรตามปกติสิ่งที่ไม่อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายก็คือ มีคนมาจากจวนเจิ้นกั๋วกงแต่เพียงสอบถามเหล่าซือไท่ที่อารามสุ่ยเสว่เท่านั้น ว่าเห็นคุณชายสามของพวกเขาหรือไม่ หลังจากได้คำตอบว่า “ไม่เห็น” ก็กลับไปแต่โดยดีเหล่าซือไท่ของอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ได้พูดโกหกจริง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 400

บรรยากาศทั่วห้องใต้หลังคาสงบลงในชั่วพริบตาเวินจื่อเฉินไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่จ้องมองเวินซื่ออย่างสงบ น้ำตาไหลออกมาจากหางตาอย่างเงียบ ๆครึ่งชั่วยามต่อมา เวินซื่อได้หยิบยาถอนพิษที่ปรุงเสร็จเกือบหมดแล้วออกมา เดินไปที่ริมกรงเหล็ก เปิดฝาขวดแล้วสาดไปที่ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เวินจื่อเยวี่ยก็ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาในที่สุดสถานที่ยังคงเป็นที่เดิม บิดายังหาพวกเขาไม่เจออีกหรือ?เวินจื่อเยวี่ยนิ่งเงียบไม่พูดจา หลังจากพลิกตัวลุกขึ้นนั่งแล้ว ก็เห็นเวินจื่อเฉินนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของกรงเหล็ก กำลังเหม่อลอยอยู่เงียบ ๆถ้าเป็นแค่นี้ก็ไม่เป็นไรแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาประสาทหลอนจากยานั้นของเวินซื่อหรือเปล่า ดูเหมือนเขาจะมองเห็นคราบน้ำตาเล็กน้อยบนใบหน้าของพี่รอง?เวินจื่อเยวี่ยยกมือขึ้นขยี้ตาทันที จากนั้นก็ลืมตามองออกไปอีกครั้ง พบว่าตัวเองไม่ได้มองผิดไปเขาเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “พี่รอง ท่านร้องไห้ทำไม?”หรือว่าหลังจากเวินซื่อใช้ยาจนเขาสลบไปแล้ว ก็ทำอะไรกับพี่รองอีก?เวินจื่อเยวี่ยที่คิดได้ดังนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูง จึงรีบหันหน้าไปซักถามเวินซื่อทันทีแต่เขาเพิ่งจะอ้าปา
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
3839404142
...
54
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status