All Chapters of ยอดหญิงในเงามาร: Chapter 131 - Chapter 140

310 Chapters

บทที่ 131  

ม่านประตูถูกเปิดออก นางเดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปด้านใน ยังไม่ทันทำอะไร ก็เห็นนางหวังลุกพรวดขึ้นจากตั่ง แม้กระทั่งรองเท้าก็ยังไม่ได้สวม พุ่งตรงเข้ามาพร้อมง้างมือขึ้นและตบหน้านางไปอย่างจังหนึ่งฉาด “เจ้าลูกเวร!” ฝ่ามือนี้ทั้งรวดเร็วและรุนแรง ถึงขนาดที่ไป๋จื่อยังไม่ทันโผเข้าไปบังชีหยวนไว้ ชีหยวนก็ถูกตบหน้าไปหนึ่งฉาดแล้ว ใบหน้าด้านขวาของชีหยวนบวมขึ้นมา รอยฝ่ามือปรากฏให้เห็นชัดเจนบนใบหน้าของนาง ทุกคนต่างสะดุ้งด้วยความตกใจ นางหวังหยัดกายขึ้นมาหมายจะตบอีกฉาด กลับถูกเกาเจียและหลิวเจียรั้ง ๆ ลาก ๆ ขัดขวางไว้เสียก่อน “ฮูหยินท่านได้โปรดระงับโทสะเจ้าค่ะ!” เกาเจียนึกประหวั่นพรั่นพรึงในใจ ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด นางรู้สึกได้ว่าชีหยวนมิใช่คนที่จะสามารถลงไม้ลงมือตบตีได้ตามใจ ชีอวิ๋นถิงที่ตบหน้าทำร้ายชีหยวนไปเมื่อครั้งก่อนถูกลงโทษซ้ำ จนตอนนี้ยังลุกจากเตียงไม่ได้ แต่นางหวังหรือจะยับยั้งโทสะได้อีก? นางชี้นิ้วใส่ชีหยวน ตัวสั่นเทิ้ม “เคราะห์กรรมอะไรของข้า เหตุใดถึงได้ให้กำเนิดเดรัจฉานสารเลวอย่างเจ้าออกมา?! ต้องทำลายพวกข้าทั้งตระกูลให้ย่อยยับให้ได้ก่อนใช่ไหมเจ้าถึงจะยอมหยุด?!” ไป๋จื่อกอดชีหยวนไว้สงส
Read more

บทที่ 132  

เดิมก็ไร้ซึ่งความผูกพันแม่ลูกอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งเหมือนหมอกควันจางหายมลายไปหมด นางขึงตาจ้องชีหยวนอย่างอำมหิต คล้ายกับกำลังจ้องมองศัตรูคู่อาฆาตอย่างไรอย่างนั้น ชีหยวนหันศีรษะเดินจากไปทันที นางหวังยังคงตะโกนโวยวายสั่งให้คนจับตัวชีหยวนไว้และพาไปขอขมาที่จวนอ๋องฉี เกาเจียยกมือขึ้นกุมหน้ายิ้มเจื่อนพลางถอนหายใจออกมา “ฮูหยิน ท่านโหวผู้เฒ่าและท่านโหวกำลังออกไปสืบความจริง แต่ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงอดทนข่มโทสะไว้ไม่ได้ถึงเพียงนี้เจ้าคะ?” ขณะที่กำลังพูด หลิวจงรีบวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว “ฮูหยิน ฮูหยิน! เกิดเรื่องแล้วขอรับ พระชายาอ๋องฉี…” เห็นไหมล่ะ นางหวังแค่นเสียงหัวเราะเย็นเยียบออกมาอย่างเคียดแค้น “ไม่ต้องมาพบข้า! ไปหานางเด็กชั่วช้าสารเลวที่เอาแต่แส่หาเรื่องนั่นเถิด! หากพระชายาอ๋องฉีต้องการสังหารนางก็จัดการให้นางสิ้นใจตายไปเสีย เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับข้า!” หลิวจงผงะไป เอ่ยอย่างอดไม่ไหว “ไม่ใช่ขอรับฮูหยิน คือว่า พระชายาอ๋องฉีสิ้นพระชนม์แล้วขอรับ!” ว่าอย่างไรนะ?! ทั้งห้องเงียบสนิท เงียบจนแม้แต่เข็มหล่นในห้องยังได้ยินเสียง เกาเจียยกมือปิดหน้าเสียงโครมครามดังขึ้นในใจ เครียดจนหัวใ
Read more

บทที่ 133  

และทันทีที่ชีหยวนเอ่ยประโยคดังกล่าวนี้จบ ทั้งห้องก็จมดิ่งสู่ความเงียบงันราวกับอยู่ในห้วงความตาย ท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นต่างเงียบลงพร้อมกันอย่างน่าประหลาด จริงด้วย องครักษ์ของจวนอ๋องฉีที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี พวกเขามีคนจำนวนมากเพียงนั้น จะอารักขาชีวิตพระชายาอ๋องของตนเองไม่ได้เชียวหรือ? นอกเสียจากว่า นอกเสียจากว่าพวกเขามิได้จะไปอารักขาหานเยว่เอ๋อตั้งแต่แรกแล้ว ก็เหมือนเมื่อคราวนั้นที่ชีหยวนเอ่ยคำพูดยั่วยุปลุกปั่นอารมณ์ของชาวบ้านขึ้นมา เดิมที่นางไม่มีโอกาสจะได้เอ่ยคำนั้นออกมาเสียด้วยซ้ำ แต่เหตุใดพวกองครักษ์เหล่านั้นกลับปล่อยให้ชีหยวนพูดจนจบประโยคได้? ริมฝีปากของชีเจิ้นขยับเล็กน้อย มองชีหยวนด้วยสีหน้าซับซ้อน “เช่นนั้นแล้วเจ้า…เจ้ารู้อยู่แล้วหรือว่าอ๋องฉีมีเจตนาจะสังหารหานเยว่เอ๋อตั้งแต่แรก เหตุใด เหตุใดเจ้ายังช่วยอ๋องฉีให้ทำสำเร็จ?” ก็เมื่อวันก่อน ชีหยวนพูดกับพวกเขาว่า ต้องปลิดชีพอ๋องฉีทิ้งเสียถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ ชีหยวนยกจอกชาขึ้นมาจิบหนึ่งคำ เอ่ยอย่างนิ่งเฉยไม่แยแส “นางดูหมิ่นสาวใช้ของข้า บดขยี้นิ้วของสาวใช้ข้าจนเกือบแตก ฉะนั้นก็ฆ่านางทิ้งก่อน แค่ยืมแรงผู้อื่
Read more

บทที่ 134  

กลับกัน เป็นอ๋องฉีเสียอีกที่ได้รับความรักความเอ็นดูทั้งหมดจากฮ่องเต้หย่งชางมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย คงเพราะเรื่องตื่นเต้นที่ได้รับนับแต่ชีหยวนกลับมา มีมากเกินไปแล้วจริง ๆ บัดนี้ แม้ชีหยวนจะรู้ชัดถึงกระทั่งเหตุผลที่เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยรุ่งเรืองเป็นใหญ่ขึ้นได้ ทว่าชีเจิ้นกลับรู้สึกเหมือนจะด้านชาไปเสียแล้ว เขาลูบหน้าอกตนเอง ถามด้วยเสียงแห้งผาก “เจ้ารู้ทั้งรู้ แต่ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอีกหรือ!” ท่านโหวผู้เฒ่ามิได้เอ่ยวาจาใด แต่ภายในใจก็มีความคิดเช่นนี้ ถูกต้องแล้ว เหตุผลนี้ถูกต้องแล้ว ในเมื่อทุกคนต่างรู้ดีว่าอ๋องฉีคือพระโอรสที่ฮ่องเต้หย่งชางทรงโปรดปรานเอ็นดูที่สุด และเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็เป็นพระสนมที่ฮ่องเต้ทรงรักใคร่โปรดปรานที่สุด แล้วเหตุใดยังกล้าพูดจาโอหัง ว่าจะสังหารอ๋องฉีอีก?! ที่หานเยว่เอ๋อถูกสังหาร และถูกฆ่าตายได้อย่างง่ายดาย จะว่าไปแล้วก็เป็นเพราะอ๋องฉีไม่ต้องการพระชายาที่ไร้ซึ่งเกียรติยศอย่างนางผู้นี้ ตัวอ๋องฉีเองนับว่าเป็นขุนเขาสูงใหญ่แข็งแกร่งอยู่แล้ว! ชีหยวนผุดยิ้มและหัวเราะออกมา บางทีอาจเป็นเพราะรอยยิ้มของนางชวนให้อึดอัดได้จริง ๆ ชีเจิ้นรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก “
Read more

บทที่ 135  

ชีหยวนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองชีเจิ้นอย่างตั้งใจ “คำตอบอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว มิใช่หรือ?” ชีเจิ้นไม่อยากเชื่อ หากเป็นเมื่อก่อน มีผู้น้อยในเรือนวิ่งถลันเข้ามาคุยเรื่องในราชสำนักกับตนเองอย่างใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้ เขาคงจะตบหน้าพวกเขาให้จำหน้าตนเองไม่ได้ไปแล้ว ทว่าเผชิญหน้ากับชีหยวนหนนี้ เขากลับตั้งใจฟังนางอย่างน่าประหลาด ไม่ฟังไม่ได้ เพราะนับแต่เรื่องหานเยว่เอ๋อจุดไฟเผาศาลบรรพบุรุษ ทุกประโยคที่ชีหยวนกล่าวมาล้วนเป็นจริง นางต้องการเชิญองค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่ก็เสด็จมา นางบอกว่าหานเยว่เอ๋อเป็นจารชน หานเยว่เอ๋อก็เป็นเช่นนั้นจริง ชีเจิ้นมองชีหยวนอย่างตั้งใจ “เพียงแต่ เพียงแต่องค์รัชทายาททรงมีพระวรกายอ่อนแอ!” รัชทายาทมีพระวรกายอ่อนแอ ตระกูลเฝิงก็ไม่กลับมารุ่งเรืองเหมือนก่อนแล้ว เมื่อหลายปีก่อนยังเคยกระทำความผิดจนต้องถูกเนรเทศไปอยู่ที่หลิ่งหนาน ฮองเฮาเฝิงมิได้รับความโปรดปราน ทุกคนต่างรอคอย รอคอยให้องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ และเมื่อองค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์แล้ว ตำแหน่งฮองเฮาของฮองเฮาเฝิงก็มิอาจจะดำรงอยู่ได้อีกต่อไป ส่วนเซียวอวิ๋นถิงหรือ? แม้จะเป็นโอรสสายหลักคนโตขององค์รัชทายาท
Read more

บทที่ 136  

คอยดูว่า นางจะเอาอะไรมาทำให้เขาเดิมพันอนาคตของตระกูลชี เข้าข้างอ๋องจิ้ง! หลังจากส่งท่านโหวผู้เฒ่าและชีเจิ้นกลับออกไปแล้ว ชีหยวนรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย ไป๋จื่อยกน้ำเข้ามาอย่างระมัดระวังปรนนิบัตินางล้างหน้าหวีผม ชีหยวนหมุนศีรษะกลับไปถาม “เหลียนเฉียวเป็นอย่างไรบ้าง?” ไป๋จื่อรีบตอบ “คุณหนูโปรดวางใจ นางสบายดีเจ้าค่ะ เผชิญเรื่องน่าหวั่นกลัวแบบนี้คงจะเหนื่อยล้าน่าดู บัดนี้นอนหลับไปแล้วเจ้าค่ะ” ชีหยวนรับคำในลำคอ ไป๋จื่อจ้องหน้านางอย่างอดไม่ไหว “คุณหนูเจ้าคะ ใบหน้าของคุณหนู…” รอยฝ่ามือบนใบหน้ายังคงเห็นได้ชัดเจน ทำให้แก้มของนางบวมขึ้นมาเล็กน้อย… ชีหยวนลูบสำรวจด้วยตนเอง ก่อนจะวางผ้าเช็ดหน้ากลับเข้าไปในอ่างน้ำและกระตุกยิ้มมุมปาก “ไม่เป็นไร ไม่มีทางเสียเปรียบหรอก” ขณะเดียวกันนั้น ชีเจิ้นเข้ามาในเรือนหลักด้วยสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย นางหวังรีบเดินเข้าไปหาด้วยท่าทางร้อนรน “ท่านโหว! ท่านจะไปที่เรือนของนางตัวกาลกิณีนั่นเพื่ออะไร?!” ชีเจิ้นจ้องมองพลางขมวดคิ้วแน่น “เจ้าพูดบ้าอะไร!? เจ้าเป็นมารดาของนาง และนางก็เป็นบุตรีของเจ้า! เจ้าทำตัวเช่นนี้สมกับเป็นแม่คนแล้วอย่างนั้นหรือ?” นางหวัง
Read more

บทที่ 137  

นางหวังไม่อยากเชื่อสายตา นับแต่ชีหยวนกลับมา ชีเจิ้นก็ลงมือทำร้ายทุบตีชีอวิ๋นถิงแล้วไม่ต่ำกว่าสามครั้ง บัดนี้ถึงคราวตนเองแล้วหรือ? นางดาววิปโยคนั่นมันมีความสามารถล่อลวงจิตใจคนได้ขนาดไหนกัน ถึงได้ทำให้ชีเจิ้นหลงผิดได้ถึงเพียงนี้? นางถูกตบจนร่างกายโอนเอน ยกมือขึ้นกุมใบหน้าไว้พลางโผเข้าใส่ชีเจิ้น “ชีเจิ้น นี่ท่านกล้าตบข้าหรือ!” หลายปีที่ผ่านมาสองคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกันมาโดยตลอด และไม่เคยมีครั้งใดจะทะเลาะกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องลงไม้ลงมือเลย ทว่าบัดนี้ ชีเจิ้นกลับตบหน้านาง เพียงเพื่อเข้าข้างชีหยวน! เส้นเลือดในดวงตาของชีเจิ้นแตกเป็นฝอย ได้ยินนางหวังเอ่ยเช่นนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะเยียบเย็นออกมา พลางเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ “ใช่ ข้านึกเกลียดตนเองนักที่ยังตบเจ้าไม่แรงพอ!” เขาดึงข้อมือของนางไว้ และลากนางเดินตามมาตลอดทางกระทั่งเข้าไปในเรือนของท่านโหวผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่า กลางดึกสงัด เดิมทีท่านโหวผู้เฒ่ากำลังคุยกับฮูหยินผู้เฒ่า ครั้นได้ยินเสียงเอะอะก็สะดุ้งตกใจ ฮูหยินผู้เฒ่ามองเห็นรอยฝ่ามือบนใบหน้านางหวัง และเห็นสีหน้าของชีเจิ้นดูโหดเหี้ยมไร้ความปรานี สีหน้ามืดครึ้มลงทันใด “ชี
Read more

บทที่ 138  

เป็นบ้าไปแล้วหรือ?! พวกคนใช้ล้วนก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ ไม่มีผู้ใดเอ่ยปากตอบคำถามแม้เพียงคนเดียว ชีอวิ๋นถิงยิ่งรู้สึกกรุ่นโกรธ ง้างมือขึ้นเขวี้ยงหมอนกระเบื้องในมือออกไป กระแทกโดนศีรษะของสาวใช้คนหนึ่งเลือดไหล หมอนกระเบื้องใบนั้นแตกแล้ว ศีรษะของสาวใช้ก็แตกเช่นกัน นางกรีดร้องร่ำไห้ออกมาโดยไม่สนใจกฎระเบียบใดแล้ว เสียงกรีดร้องนั้นทำให้คนทั้งเรือนสะดุ้งด้วยความตกใจ ไม่นานนักเกาเจียก็เข้ามา ครั้นสั่งให้คนพาสาวใช้เล็กคนนั้นออกไปทำแผลห้ามเลือดเรียบร้อย ก็หันมาเผชิญหน้ากับชีอวิ๋นถิงพลางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คุณชายใหญ่เจ้าคะ ท่านได้โปรดทำตัวสงบเสงี่ยมด้วยเถิดเจ้าค่ะ” หากเป็นเมื่อก่อน ถ้อยคำเฉกเช่นนี้นางไม่มีวันพูดออกมาแน่ และไม่มีสิทธิ์จะพูดออกมาได้เสียด้วยซ้ำไป ชีอวิ๋นถิงเดือดดาลถึงที่สุดแล้ว “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้าทำตัววางอำนาจต่อหน้าข้าเช่นนี้! ข้าถามเจ้า ว่าพวกเจ้ากำลังทำบ้าอะไร เก็บข้าวของแบบนี้ด้วยเหตุผลอะไร?!” สายตาของเกาเจียดูแปลกไปเล็กน้อย “คุณชายใหญ่ เนื่องด้วยท่านมีนิสัยโหดเหี้ยมทารุณ ท่านโหวผู้เฒ่าและท่านโหวจึงมีคำสั่งว่า จะส่งท่านไปฝึกตนขัดเกลาจิตใจที่ภูมิลำเน
Read more

บทที่ 139  

เสมือนอสนีบาตฟาดลงมาจากท้องฟ้า แขนขาของนางหวังเย็นวาบ ได้แต่ชี้หน้าชีหยวนทว่าพูดไม่ออกสักคำเดียว เพราะนางไม่ลงรอยกับเรือนมารดาของนางจริง ๆ พิธีสมรสในตอนนั้น ความจริงแล้วไม่ใช่ของนาง แต่เป็นของพี่หญิงของนางซึ่งเกิดจากสายเลือดหลัก ทว่านางหลงรักชีเจิ้นตั้งแต่แรกพบ จึงเอาชีวิตตนเองไปข่มขู่ ขอร้องให้ท่านพ่อเปลี่ยนใบเกิงเถี่ยที่บันทึกวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟากของคู่หมั้นไว้ และยึดพิธีสมรสนี้มาเป็นของตนเอง เรื่องนี้ ไม่มีผู้ใดรู้ทั้งสิ้น ฮูหยินผู้เฒ่าหวังและคนตระกูลหวังล้วนแต่ไม่ต้องการให้เรื่องนี้รั่วไหลไปสู่คนภายนอก และนางยิ่งไม่ต้องการ! เหตุใดชีหยวนกลับรู้เรื่องนี้ได้?! “เจ้า…เจ้าเป็นใครกันแน่?” นางถลึงตา ชี้หน้าชีหยวนพลางถามด้วยเสียงสั่นเครือ ชีหยวนเลื่อนมือขึ้นชี้หน้าตนเองด้วยสีหน้าเย็นชา “อะไรกัน ใบหน้าดวงนี้ยังยืนยันไม่ได้อีกหรือ? ฮูหยิน ข้าเคยเคารพท่านเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้อยคำเหล่านี้ เมื่อก่อนข้าจึงไม่พูดมันออกมา” นางหวังกำอกเสื้อของตนเองแน่น รู้สึกว่าตนเองเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว ชีหยวนกลับกระชากข้อมือของนางไว้ มองนางด้วยสีหน้ามืดครึ้ม “แต่บัดนี้ ข้ากลั
Read more

บทที่ 140  

เรื่องระหว่างชีอวิ๋นถิงและชีจิ่นเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแล้ว แม้ตระกูลเซี่ยงจะมิได้พูดอะไรต่อหน้า ทว่าคนที่รอชมความครึกครื้นหาได้สนใจว่าเจ้าจะพูดหรือไม่พูด ฉะนั้นในยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยออกมาเช่นนี้แล้ว ทั้งฮูหยินรองตระกูลชีและฮูหยินสามตระกูลชีต่างก็ทอดถอนใจออกมา ฮูหยินผู้เฒ่ามองพวกนางทั้งสองคนปราดหนึ่ง ก็เอ่ยกำชับอย่างราบเรียบว่า “พวกเจ้าเองก็ต้องควบคุมความประพฤติของพวกเด็ก ๆ ให้ดี ให้พวกเขารู้จักสำรวมวาจาระมัดระวังการกระทำด้วย!” เรื่องที่ฮูหยินตระกูลชีไปจากจวน เสมือนวัวดินจมทะเล นิ่งเงียบไร้ซึ่งคลื่นลมใด ๆ ขณะเดียวกันภายในวังหลวง เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยที่แต่งหน้าอย่างประณีตงดงามพลันวางเตาอุ่นมือลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง ตะคอกเสียงแข็งด้วยสายตาเย็นชาใบหน้าบูดบึ้งขมึงถึง “เจ้าไม่รู้จักข่มอารมณ์ได้เลยจริง ๆ!” ขณะเดียวกัน อ๋องฉีที่นั่งอยู่บนตั่งคนงามตรงข้ามนางก็หยัดกายขึ้นมา พลางผุดยิ้มอย่างไม่แยแส “เสด็จแม่ หาใช่เรื่องใหญ่อันใด อีกอย่าง เกี่ยวอะไรกับข้าด้วยหรือ?” เด็กที่ถูกเอาใจจนโตมาก็เป็นเช่นนี้ ไม่เคยต้องได้รับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเลยแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยขมว
Read more
PREV
1
...
1213141516
...
31
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status