บททั้งหมดของ ยอดหญิงในเงามาร: บทที่ 111 - บทที่ 120

310

บทที่ 111

คำพูดนี้ขององค์หญิงใหญ่มิใช่เจตนาพูดให้รู้สึกตื่นกลัวราชวงศ์ต้าโจวมีความเข้มงวดยิ่งในการควบคุมเรื่องลี้ลับหรือพวกมนต์ดำในหมู่ราษฎรหากใครผู้ใดในหมู่ราษฎรพรางเป็นเทพแสร้งเป็นผี แอบอ้างเที่ยวหลอกลวงต้มตุ๋น ทางศาลจะถือว่าผู้นั้นเป็นปีศาจ และเผาผู้นั้นให้ตายเพื่อเป็นการตักเตือนราษฎรคำพูดที่ชีหยวนพูดออกมาเหล่านี้ เพียงพอที่จะทำให้นางตายได้เป็นร้อยครั้งเมื่อลองคิดดู เซียวอวิ๋นถิงพบว่านางไม่ย่างเท้าออกจากเรือน แต่กลับรู้เรื่องของเมืองเจียงซีได้ รวมถึงครั้งนี้ ถึงกับสามารถลากตัวหานเยว่เอ๋อที่ซ่อนตัวอยู่ในตระกูลฉีออกมาได้อีก ก็ทำให้รู้สึกคล้อยตาม มองชีหยวนอย่างเฉยเมย: “แค่พึ่งสิ่งเหล่านี้หรือ?”ชีหยวนไม่ได้รีบร้อน มือทั้งสองกุมถ้วยไว้ เม้มริมฝีปาก: “หากองค์หญิงและท่านอ๋องยังต้องการให้หม่อมฉันพิสูจน์มากกว่านี้ เช่นนั้น หม่อมฉันทราบว่าเหตุใดอ๋องฉีจึงจงใจซื้อตัวหานเยว่เอ๋อ และให้นางแทรกซึมอยู่ในจวนหย่งผิงโหว ข้อนี้ จะใช้เป็นหลักฐานว่าหม่อมฉันแตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไปได้หรือไม่เพคะ?”ความหวังในใจขององค์หญิงใหญ่ ที่ถูกจุดประกายด้วยซาลาเปาแป้งมันเทศในตอนแรกค่อยๆ หายไปเพราะนางเลอะเลือนเอง โลกนี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 112

ชีหยวนรู้สึกสับสนในใจที่นางรู้เรื่องเหล่านี้ จะว่าไปแล้วเป็นเพราะนางเคยติดตามเซียวอวิ๋นถิงในชาติก่อน เซียวอวิ๋นถิงเป็นคนสั่งให้นางไปสืบหาความจริงเรื่องนี้ในตอนนั้น อ๋องฉีแต่งงานกับชีจิ่น ได้ทราบเบาะแสของพระชายาหลิ่วจากชีเจิ้น จากนั้นเขาก็ชิงตัดหน้าไปรับพระชายาหลิ่วสองแม่ลูกมาควบคุมไว้ ให้พระชายาหลิ่วให้การเป็นพยานว่าฮองเฮาเฝิงเป็นฮองเฮาชั่ว ใช้ทุกวิถีทาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขึ้นเป็นฮองเฮา ถึงขนาดไม่ลังเลที่จะปองร้ายภรรยาคนแรกของอ๋องหมิ่นเรื่องราวลุกลามบานปลายเป็นอย่างยิ่ง ราษฎรยังคงติฉินนินทาเฉินซื่อเหม่ย ที่ทอดทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากหลังจากที่เขาร่ำรวยแล้วไม่สามารถด่าฮ่องเต้ได้ แต่ก็สามารถด่าฮองเฮาชั่วได้ถูกหรือไม่?ฎีกาที่เรียกร้องให้ลงโทษฮองเฮาเฝิงถูกถวายไปที่บนโต๊ะของฮ่องเต้หย่งชางทีละฉบับฮ่องเต้หย่งชางทรงรู้สึกไม่พอพระทัยเป็นอย่างยิ่งอีกทั้งรัชทายาทยังถูกลอบสังหารด้วยเนื่องจากฮองเฮาเฝิงปวดร้าวพระทัยอย่างมาก พระนางจึงได้สวรรคตตามไปโดยไม่คาดคิดด้วยเช่นกันเชื้อสายของรัชทายาทกลายเป็นเป้าโจมตีของทุกคนไปในทันที รัชทายาทขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างไม่ถูกต้อง นับประสาอะไรกับพระนั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 113

สวีถงโจวเดินออกมาจากห้องอักษรของอ๋องฉี หน้าผากของเขาโขกคำนับจนถลอกเล็กน้อย มองจากระยะไกล ยังคิดว่าหน้าผากของเขาถูกทาด้วยชาดเป็นปื้นเสียอีกทว่าหานเยว่เอ๋อไม่คิดเช่นนั้นจริง ๆ นางมองสวีถงโจวเดินออกจากห้องอักษรด้วยสีหน้าเร่งรีบ ซ้ำยังเดินจากไปด้วยความรีบร้อน นางก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าสับสนเหลียนเอ๋อร์จับมือนาง และกดเสียงลงต่ำ: “คุณหนู ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดี?”ใช่แล้ว ตอนที่นางอยู่ในตระกูลฉี นางถือเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลฉี และเป็นบุตรสาวที่ไม่ได้แต่งงาน ได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นสุภาพสตรีของตระกูลผู้มั่งคั่งตอนนี้นางถูกชีเจิ้นทิ้งไว้ในจวนอ๋องฉี ไร้นามไร้สถานะใด ๆ เทียบมิได้แม้แต่สาวใช้ปรนนิบัติเรื่องบนเตียงที่ระดับต่ำสุดคนหนึ่งด้วยซ้ำเพลานี้ข้างนอกยังโกลาหลอยู่ อ๋องฉียังคงไม่ลงโทษนาง นางยังมีชีวิตรอดต่อไปได้อีกสักพักทว่าภายภาคหน้าล่ะ?เมื่อข่าวซุบซิบในตรอกซอยค่อย ๆ จางลง ไม่มีใครสนใจนางอีกต่อไป นางก็จะหายไปจากโลกนี้อย่างเงียบ ๆเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หานเยว่เอ๋อก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว นางจับมือเหลียนเอ๋อร์แน่นและตัวสั่น: “ไป เรากลับกันเถอะ! กลับไปกันเถอะ!”เหลียนเอ๋อร์ไม่เข้าใจ แต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 114

ดังนั้นแม้ว่าในใจจะเกิดคลื่นอันโหมกระหน่ำ แต่สีหน้าของนางกลับยังคงนิ่งสงบไร้อารมณ์: “คำพูดนี้ขององค์หญิง หม่อมฉันจดจำไว้แล้ว”องค์หญิงใหญ่ถอนหายใจด้วยความโล่งใจคนเราก็เป็นเยี่ยงนี้แหละ เรื่องดีๆ ตกลงมาจากฟ้า มักคิดว่าจะมีกับดักใหญ่รออยู่เสมอแต่ถ้าหากแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมกัน ก็จะรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อยนางจับมือเซียวอวิ๋นถิง: “อวิ๋นถิง ข้าไม่มีคนสนิท เรื่องนี้ คงต้องไหว้วานเจ้าไปทำแล้ว”แน่นอนว่าเซียวอวิ๋นถิงรู้ดีว่าเด็กคนนี้มีความหมายต่อองค์หญิงใหญ่อย่างไรการสูญเสียสามีไม่ได้เจ็บปวดเท่ากับการสูญเสียลูกองค์หญิงใหญ่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์มาหลายสิบปี ไม่เคยมีวันที่มีความสุขเลยแม้แต่วันเดียวเขาพยักหน้าหนักแน่นให้สัญญาว่า “ท่านย่าวางใจได้ ข้าจะช่วยท่านหาคนให้เจออย่างแน่นอน”องค์หญิงใหญ่ตอบรับ และกล่าวกับชีหยวนว่า: “ข้อตกลงระหว่างเจ้ากับอวิ๋นถิงมีผลบังคับใช้แล้ว จากนี้ไป หากเจ้ามีอะไร ก็บอกอวิ๋นถิงได้ ข้าจะออกจากเมืองกลับขึ้นเขาก่อน หากได้ข่าวอะไร จะมาขอบคุณเจ้าอีกครั้งเป็นแน่”ชีหยวนตอบรับอย่างเคารพหลังจากองค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว รถม้าก็ค่อยๆ หันหัวกลับ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 115

ใคร?ใครคือผู้ที่จะทำให้อ๋องฉีเดือดร้อน?แต่ชีหยวนไม่ได้พูดอะไรอีก นางลงจากรถม้าและเดินเข้าประตูตรงมุมบ้านของตระกูลชีโดยตรงลมพัดแขนเสื้อของนางขึ้น และเซียวอวิ๋นถิงเพิ่งพบว่า นางผอมจนน่าสงสารไปหน่อยจริง ๆหลายปีมานี้ นางดิ้นรนในชนบทอย่างยากลำบาก หลังจากกลับมา ยังต้องวางแผนสารพัด ทุ่มเทแรงกายแรงใจเช่นนี้ คงจะแปลกถ้าสามารถขุนให้อ้วนขึ้นได้เซียวอวิ๋นถิงลดตาลง และปาเป่าก็รีบถามเขา: “ท่านอ๋อง ท่าน…...”“ไป ตรวจสอบคนทางนั้นดู! คนผู้นั้นก็น่าจะทรมานพอประมาณแล้ว? ไปตรวจดูหน่อย!” เซียวอวิ๋นถิงกดหว่างคิ้วของเขาฟังจากคำพูดนี้ของเขา มันชัดเจนว่าเขาเชื่อชีหยวนอย่างเต็มที่ปาเป่าตอบรับด้วยเสียงต่ำ แล้วขับรถม้าออกไปที่ตระกูลชี พอทราบว่าชีหยวนกลับมาแล้ว นางหวังก็รีบเรียกนางเข้าไป ถามด้วยความไม่พอใจเท่าไรนัก “ไฉนถึงไปนานเช่นนี้!”“องค์หญิงใหญ่มีคำพูดที่ต้องกำชับข้า ดังนั้นจึงใช้เวลานานไปเสียหน่อย” ชีหยวนถามอย่างเรียบเฉย “ฮูหยินมีเรื่องอันใดหรือ?”นางหวังกลั้นอารมณ์ที่ยากต่อการจัดการ ถ้านางไม่ได้มีเรื่องอะไรหรือไม่มีธุระ ก็ไม่คู่ควรที่จะคุยกับลูกสาวคนนี้แล้วหรือไง?คนไม่ที่รู้ จะแยกออกได้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 116

ตอนนี้จากกำไลวงเดียว ชีหยวนสามารถเห็นถึงความผิดปกติ ก็แสดงให้เห็นว่าข้อนี้มีความสำคัญแค่ไหนแม้แต่นางหวังก็ไม่ได้สังเกตเห็นความแตกต่างนี้แต่ความแตกต่างที่ประจวบเหมาะนี้เอง ที่บางครั้งอาจส่งผลให้ทั้งครอบครัวต้องสูญเสียอนาคตหรือกระทั่งชีวิตได้ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งใจท่านโหวผู้เฒ่าถามชีหยวน: “อาศัยเพียงสิ่งนี้หรือ?”ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้น: “ก็ไม่ใช่ หลังจากที่ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ข้าก็เคยจับตาดูนาง พบว่าสาวใช้และแม่นมข้างกายนางออกจากจวนบ่อยกว่าบ่าวรับใช้ทั่วไป และขยันขันแข็งนัก มักจะออกไปเมื่อวานรอบหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นก็ออกไปอีกรอบ”หญิงสาวที่อาศัยต่างถิ่น ไฉนเลยจะมีธุระให้ออกไปได้บ่อยครั้งนัก?ท่านโหวผู้เฒ่าจ้องมองชีเจิ้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตำหนิหากเจ้าบ้านระมัดระวังมากกว่านี้ คงจะรู้เรื่องนี้แน่นอนชีเจิ้นก็รู้สึกอับอายเช่นกันท่านโหวผู้เฒ่าถอนหายใจ “อาหยวน เจ้านี่เก่งจริงๆ”แน่นอนว่าเก่งอยู่แล้ว กฏมารยาทความรู้ไม่มีขาด ทั้งยังสามารถชนะใจองค์หญิงใหญ่ สามารถเชิญองค์หญิงใหญ่ให้ลงจากเขาได้อีกด้วยแต่ชีหยวนส่ายหน้า: “ท่านปู่ ท่านพ่อ ยังเร็วเกินไปที่จะชมเชย ป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 117

สีหน้าของชีเจิ้นซีดลงเรื่อย ๆ พอเขารู้สึกตัว เขาก็รู้สึกถึงเหงื่อเย็นบนแผ่นหลัง ขนลุกไปทั้งตัวอ๋องฉีเป็นหมาป่าที่ทะเยอทะยานและหิวโหยอย่างแท้จริง!และไม่รู้ว่าเขารู้ภารกิจของตนได้อย่างไร ถึงกับติดสินบนหานเยว่เอ๋ออย่างลับๆ ให้หานเยว่เอ๋อทำหน้าที่เป็นเบี้ยลับในการล้วงหาข้อมูลอาจเป็นเพราะการสืบไม่เกิดผล เมื่อเร็ว ๆ นี้อ๋องฉีจึงได้เปิดเผยความตั้งใจที่จะเกี่ยวดองหากแต่งงานกันแล้ว ก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรือ?ชีเจิ้นถามกับตัวเอง ถ้าเขาได้เกี่ยวดองกับอ๋องฉี เช่นนั้น จะยังสามารถรักษาจุดยืนของเขาไว้ไม่เอนเอียงไปทางอ๋องฉีได้หรือไม่?คำตอบคือไม่ได้ขุนนางผู้ได้รับใช้เคียงบ่าเคียงไหล่กษัตริย์ เรื่องดีที่จะถูกจารึกไว้ในหน้าหนึ่งของลำดับวงศ์ตระกูลเช่นนี้ ไม่มีชายใดจะปฏิเสธได้ แน่นอนว่าเพื่อประโยชน์ของตัวเองและตระกูลชี เขาจะเข้าข้างลูกเขย ยอมต่อสู้เพื่ออนาคตของลูกเขยและตระกูลของเขาทว่า มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะรู้หลักการเหล่านี้แต่เหตุไฉนชีหยวนถึงรู้ได้?ชีเจิ้นมองพิจารณาชีหยวนอย่างจริงจังเยี่ยงนี้เป็นครั้งแรก ถามด้วยเสียงทุ้มลึกอย่างฉับพลัน: “เจ้าเป็นใครกันแน่?”นี่คือบุต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 118

โชคดีที่เขาไม่ได้ดื่มชา มิเช่นนั้นลองดูบุตรชายเขาสิ น่าเขินอายแค่ไหน!ท่านโหวผู้เฒ่าปรับสีหน้าให้สุขุม ส่งเสียงไอสองครั้ง ดุด้วยเสียงต่ำว่า “อย่าพูดเหลวไหล!”เขาเพียงแต่ต้องการจะแก้ไขปัญหานี้ แม้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะต้องคุกเข่าคำนับต่ออ๋องฉีก็ตาม ตราบใดที่สามารถจัดการปัญหานี้ได้ก็จะชนะแล้วทำอะไรพอประมาณ เพื่อง่ายต่อการพบกันวันหน้าเป็นจริงที่ว่ามดสามารถต่อสู้กับมดได้ แต่หากมดต่อสู้กับนกขมิ้น นั่นมันเสียสติอย่างยิ่ง?ตอนนี้ล่วงเกินอ๋องฉี เป็นเพียงเรื่องสุดวิสัย มีผู้คนจำนวนมากคอยจับตาดูพวกเขาอยู่ ตระกูลชีแบกรับชื่อเสียงว่าสมคบคิดกับท่านอ๋องไม่ไหวทว่า ใครจะไร้เดียงสาถึงขั้นคิดจะสังหารท่านอ๋องกันล่ะ?ชีหยวนกลับแสดงสีหน้าจริงจัง ยืดตัวตรง นางยิ้มอย่างเย็นชา: “มิได้พูดเหลวไหลเจ้าค่ะ ตระกูลชีตอนนี้เป็นหนามยอกอกของอ๋องฉี จำต้องกำจัดให้เร็วที่สุด”ชีเจิ้นไม่เชื่อ เรื่องนี้เดิมทีอ๋องฉีเป็นคนผิดก่อน พวกเขาก็แค่สู้กลับอ๋องฉีไม่ใช่คนบ้าเสียหน่อย ที่จะรีบร้อนกำจัดจวนโหวขนาดนั้น?เห็นถึงทัศนคติของพวกเขา ชีหยวนก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย “ท่านปู่ ท่านพ่อ ข้าเหนื่อยเล็กน้อย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 119

ชีอวิ๋นถิงปิดหน้าโดยไม่รู้ว่าตนทำอะไรผิดอีกหรือเป็นเพราะเรื่องที่ชิงซงไปเผาศาลบรรพบุรุษ?แต่นั่นไม่ถูกต้อง หลังจากเผาศาลบรรพบุรุษแล้ว ท่านพ่อและคนอื่น ๆ ยิ่งควรคิดว่าชีหยวนเป็นสัตว์เดรัจฉาน และไล่นางออกไปทันทีมิใช่หรือ?เช่นนั้น แล้วมันเป็นเพราะอะไรล่ะ?!หลังจากที่ชีเจิ้นออกไป ชีอวิ๋นถิงก็เอามือปิดหน้า คิดอย่างเหม่อลอยอยู่นาน และดุใส่หญิงรับใช้ที่อยู่ข้างๆ “ไป! ไปเชิญคุณหนูหานมา เร็วเข้า!”เขาอยากถามนักว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่!ท่าทีของสาวรับใช้ล้วนแปลกประหลาดมากยังคงเป็นแม่นมของชีอวิ๋นถิงที่ก้าวออกมา ถอนหายใจ “คุณชาย ล้มเลิกความคิดนี้เสียเถอะ ท่านจะไม่มีวันได้พบกับคุณหนูหานอีกแล้ว”ไม่ได้พบอีกแล้ว?ชีอวิ๋นถิงตกตะลึง พ่อแม่ของหานเยว่เอ๋อล้วนเสียชีวิตทั้งคู่ และครอบครัวของนางไม่ใช่คนดี ดังนั้นนางจึงถูกฝากไว้ให้ตระกูลชีดูแล นางเป็นเหมือนคนในตระกูลชี ภายภาคหน้าจะแต่งงานก็ต้องอยู่ในตระกูลชีเหตุใดจึงไม่ได้พบกันอีกต่อไป?นอกจากนี้ คำพูดนี้เหตุใดจึงฟังดูคุ้นเคยนัก?ดูเหมือนเขาจะเคยได้ยินประโยคนี้มาก่อนในเวลาอื่นเมื่อไหร่กันนะ?เขาจำได้แล้ว เป็นตอนที่นางหวังบอกกับเขาอย่างจริงจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 120

อ๋องฉีช่างใช้ไม่ได้เสียจริง มีสัมพันธ์ลักลอบเป็นชู้กับลูกสาวบุญธรรมของคนอื่น ทั้งยังสืบข่าวในเรือนของคนอื่นอีกด้วย นี่มันใช้ได้ที่ไหนกัน?ผู้ตรวจการโจวปิดสาส์นด้วยความฉับไว เขาเองก็ขมวดคิ้วและส่ายหัว ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้จริงๆ!ขณะที่เขากำลังคิดเช่นนี้อยู่ เลขาก็เข้ามาแจ้งเรื่องที่หานเยว่เอ๋อกำลังคุกเข่าอยู่ด้านนอกผู้ตรวจการโจวตอบรับ จำได้ทันทีว่าหานเยว่เอ๋อเป็นลูกสาวของสหายเก่าของเขาทว่า.....เขาลุกขึ้นยืน คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ออกไปด้วยตัวเองหานเยว่เอ๋อยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นกระเบื้อง ผู้คนเดินเข้าออกหน้าประตู หลายคนก็จับตามองไปที่ตัวนางผู้ตรวจการโจวลงบันไดมาหยุดอยู่ตรงหน้านาง: “ลุกขึ้นเถิด! เจ้ามาที่นี่ มีเรื่องอันใดรึ?”หานเยว่เอ๋อสะอื้นไห้และร้องออกมา: “ท่านอาโจว! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านอ๋อง! ท่านอ๋องไม่ได้ขอให้ข้าสืบหาข่าวของตระกูลชีเป็นการส่วนตัว ทุกอย่างข้าทำด้วยตัวข้าเอง! ข้ากับท่านอ๋อง…...”เมื่อนางกล่าวถึงตรงนี้ นางก็คร่ำครวญและแก้มของนางก็แดงก่ำ “ข้าและท่านอ๋องต่างก็รักใคร่กัน อันที่จริงแล้ว ข้าและท่านอ๋องต่างก็รู้ใจกันมาเป็นเวลานานแล้ว! ด้วยเหตุนี้ ระหว่างคน
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1011121314
...
31
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status