All Chapters of เสน่หาผีเสื้อราตรี: Chapter 31 - Chapter 40

73 Chapters

บทที่ 9 สมภารอยากกินไก่วัด - 35%

การสอบปากคำเพื่อนสาวทั้งสองคนของผู้ตายแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรต่อการสืบสวนเลยแม้แต่น้อย แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์แบบฉาบฉวยของคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดีสารวัตรจุมพลถึงกับลอบถอนหายใจ พลางอดนึกเห็นใจหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองรายไม่ได้ที่ไม่มีมิตรแท้คอยช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกันเลยสักคน เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าทันทีที่เขาบอกข่าวร้ายเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชื่อแนนนี่ ทั้งสองคนนั้นกลับแสดงอาการเพียงแค่ทำหน้าตื่นตกใจเท่านั้น ไม่ได้มีอาการโศกเศร้าเสียใจให้เห็นเลยสักนิด ดูไปก็น่าเวทนาเหลือเกินจุมพลสั่งให้ลูกน้องเดินปะปนรวมกลุ่มกับบรรดานักท่องเที่ยวเพื่อคอยสังเกตการณ์ไปเรื่อย ๆ อีกกลุ่มก็ปลอมตัวเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัย เป็นเด็กเสิร์ฟ แม้กระทั่งคนทำความสะอาดเพื่อเฝ้าระวังบุคคลน่าสงสัย ซึ่งเขาก็รู้ว่าคงจะไม่ได้อะไรคืบหน้ามากนัก เพราะเชื่อเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าฆาตกรจะต้องเป็นคนในผับนี้อย่างแน่นอน ถ้าไม่ใช่พนักงานก็ต้องเป็นลูกค้าขาประจำที่มาเที่ยวจนคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดีเพราะการเข้านอกออกในห้องครัว หรือโซนสำหรับพนักงานได้ก็หมายความว่าไม่ใช่เพียงแค่รู้จักผิวเผ
Read more

บทที่ 9 สมภารอยากกินไก่วัด - 70%

“เลี้ยวซ้ายตรงแยกหน้านะคะ” เสียงหวาน ๆ บอกกำกับทิศทางอยู่ด้านข้าง ทำเอาชายหนุ่มนั่งยิ้มกริ่ม เวลานี้ไม่ว่าเธอจะพาเขาไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหน เขายอมทั้งนั้นชายหนุ่มหมุนพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายตามที่ช่อมาลีบอกเมื่อถึงสี่แยกไฟแดง จากนั้นจึงเอื้อมไปกดปุ่มเปิดเครื่องเสียงในรถเพื่อสร้างบรรยากาศ เมื่อเห็นว่ามันเงียบจนเกินไป รอยยิ้มค่อย ๆ ผุดพรายขึ้นเต็มวงหน้าเมื่อมองเห็นป้ายไฟของโรงแรมม่านรูดวิบ ๆ วับ ๆ ตั้งเด่นท้าทายสายตาอยู่ริมทาง ถ้าเขาจำไม่ผิด โรงแรมม่านรูดของที่นี่จะมีธีมห้องให้เลือกว่าอยากได้แบบไหน ไม่ว่าจะเป็นใต้ทะเล ในป่า อวกาศ หรือธีมแบบยุคหกศูนย์ก็มีให้เลือก ชายหนุ่มไม่รอช้าตบไฟเลี้ยวแล้วขับชิดซ้ายทันที“เลี้ยวเข้าไปในนี้เลยค่ะ”เสียงหวานของหญิงสาวบอกให้เขาเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูดตรงหน้า พชรรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ความอ่อนเพลียเพราะอดนอนนั้นปลิวหายไปพร้อมกับอารมณ์วาบหวามที่กำลังจะเกิดขึ้นแล่นพล่านเข้ามาแทนที่ เขาเลี้ยวมาตามที่เธอบอก เห็นพนักงานวิ่งมาโบกไม้โบกมือให้เลี้ยวเข้าไปตามช่องว่างที่มีผ้าม่านผืนโตรูดไปกองไว้ด้านหนึ่ง ระหว่างที่กำลังจะหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขว
Read more

บทที่ 9 สมภารอยากกินไก่วัด - 100%

“ใช่...เหมือนหนังจีนไงคุณ ที่เขาดื่มน้ำร่วมสาบานกันน่ะ แต่เราสาบานกันด้วยบะหมี่แทน” พชรพูดพลางยักคิ้วให้ข้างหนึ่ง ช่อมาลีหัวเราะคิกเมื่อได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่น่ารักของเขา“คารวะศิษย์พี่” หญิงสาวไหลตามน้ำ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมกันไว้ในระดับเดียวกับใบหน้า พลางค้อมศีรษะลงคารวะเขาเลียนแบบภาพยนตร์จีน ส่งผลให้พชรหัวเราะเสียงดังลั่นร้านชายหนุ่มเผลอมองคนตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนเชื่อม นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะเต็มเสียงอย่างนี้มาก่อน ไม่น่าเชื่อว่าผีเสื้อราตรีคนนี้จะให้ความรู้สึกที่หลากหลายอารมณ์กับเขาเหลือเกิน พลันนั้นจิตใจกระหวัดคิดไปถึงเลขาฯ คู่ใจ รายนั้นก็ไม่ต่างกัน ทั้งเอ๋อทั้งเปิ่นแต่ก็รู้ใจเขาเป็นที่สุดทั้งที่เพิ่งทำงานร่วมกันแค่อาทิตย์กว่าเท่านั้น“คุณรู้ไหมว่าเวลาผมเจอคุณทีไร ทำให้ผมนึกถึงใครบางคนขึ้นมาทุกทีเลย” ชายหนุ่มพูดไปพลางคืบเส้นบะหมี่เข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ ทว่าคนฟังกลับรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันที กระนั้นก็ยังอดถามเขาต่อไม่ได้“ใครหรือคะ” ถามออกไปแล้ว ในใจก็วาดหวังว่าจะไม่ใช่ตัวเธอ แต่ทว่า...“เลขาฯ ของผมเอง เธอชื่อช่อมาลีน่ะ”
Read more

บทที่ 10 ภมรตัวผู้ - 25%

หลังจากจ่ายเงินค่าอาหารเสร็จ สองหนุ่มสาวจึงพากันเดินย่อย อาหารในตลาดนัดกลางคืน พชรยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา สี่ทุ่มยี่สิบแล้ว ยังมีเวลาอีกสักพักที่จะอยู่กับหญิงสาวข้างกาย อารมณ์ที่อยากจะพาเธอขึ้นเตียงเริ่มเจือจางลงไป เหลือทิ้งไว้แต่ความรู้สึกพิเศษที่แม้แต่ตัวเขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าคืออะไร เขารู้แต่ว่าเขามองเธอเปลี่ยนไป และเขาอยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้พชรหยุดยืนที่หน้าร้านขายของเก่าร้านหนึ่ง เขายกมือขึ้นแตะข้อศอกของม็อทเบา ๆ เป็นการบอกให้เธอรู้ว่าเขาจะแวะร้านนื้ ชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านใน ก้มลงมองไฟแช็กดูปองท์สีทองหม่นสไตล์วินเทจอย่างสนใจ เจ้าของร้านเห็นดังนั้นจึงรีบปรี่เข้ามาหยิบไฟแช็กยื่นส่งให้อย่างกระตือรือร้น“ดูปองท์ของแท้เลยครับพี่ สภาพใช้น้อย พี่ลองเปิดฟังเสียงได้เลยครับ เสียงป๊อง...ยังเพราะพริ้งอยู่เลย” ชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบปลาย ๆ พูดเชียร์สินค้าไม่หยุดปากพชรยื่นมือไปรับไฟแช็กมาแล้วทดลองเปิดฟังเสียงดู มุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจ จับมันพลิกซ้ายพลิกขวาเพื่อตรวจดูสภาพ ก่อนจะทดลองจุดดู ประกายตาฉายชัดถึงความพึงพอใจไม่น้อย“เท่
Read more

บทที่ 10 ภมรตัวผู้ - 50%

แต่นี่ไม่ใช่ เขารู้ว่าจารุวรรธก็แค่อยากได้ม็อทขึ้นเตียงเพื่อลบคำสบประมาทจากเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน และต้องการเอาชนะม็อทเท่านั้นเอง“เห็นทีงานนี้ต้องให้คริสช่วย” จิลหันไปทางเพื่อนเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้“เฮ้ย...จะดีหรือวะ คู่นี้ถูกกันที่ไหน เจอหน้ากันทีไรจะวางมวยกันทุกที พี่จากับไอ้คริสน่ะ” ว่านไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร แต่จิลกลับแค่นยิ้มออกมา“นั่นแหละที่ต้องการ เรารู้สึกว่าพี่จาไม่ค่อยกล้ากับคริสมันนะ ว่าแต่...คริสกับม็อทมันหายไปไหนของมันวะ หายไปทั้งคู่เลย ไปตามหน่อยดีกว่า”จิลพูดจบก็เดินออกจากห้องหลังเวที แล้วก้าวไปตามทางเดินที่ปูด้วยพรมสีเทาเข้ม ซึ่งเป็นทางเดินที่สามารถเชื่อมต่อไปยังห้องล็อกเกอร์ และออฟฟิศได้เขาผลักประตูเข้าไปในส่วนที่เป็นโซนออฟฟิศ เพราะคาดว่าคริสน่าจะอยู่ที่ห้องล็อกเกอร์ เมื่อเดินมาจนถึงห้องนั้นแล้วผลักประตูเข้าไป สายตาก็ปะทะเข้ากับหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังนัวเนียกันอยู่ จิลผงะเล็กน้อยกำลังจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเมื่อเห็นว่าฝ่ายชายนั้นคือคนที่เขากำลังตามหา“ขอโทษทีว่ะเพื่อน เสร็จแล้วก็ไปเจอกันที่หลังเวทีละกัน”
Read more

บทที่ 10 ภมรตัวผู้ - 75%

“ใช่ นอกเสียจากว่าแกจะทำพิรุธให้เขาจับได้เอง” ว่านพูดเสริมขึ้นมาทันที คริสซึ่งเป็นหัวหน้าวง ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าใกล้ได้เวลาเต็มทีจึงบอกกับเพื่อนในวงด้วยท่าทางเป็นงานเป็นการ“ประชุมกันดีกว่าพวกเรา อีกสิบห้านาทีขึ้นเวทีแล้ว” พชรเดินฮัมเพลงขึ้นมาที่ออฟฟิศด้านบน พอเขาเปิดประตูเข้าไปก็เห็นสารวัตรหนุ่มกำลังยืนมองลงไปที่ฮอลล์ด้านล่างอย่างสำรวจตรวจตราตามประสาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พอได้ยินเสียงเปิดประตู เขาทำเพียงหันหน้ากลับมามองแล้วก็หันกลับไปตามเดิม พชรจึงเดินเข้าไปหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟา“ไอ้ภีมล่ะครับพี่พล”“รับรองแขกสาว ๆ อยู่ข้างล่างนั่นแหละ โน่นไง” สารวัตรหนุ่มชี้ไปยังโซฟารูปครึ่งวงกลมที่ภีมพลนั่งแนบชิดกันอยู่กับอรอิน หม้ายสาวไฮโซทรงเสน่ห์ พชรจึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปยืนข้าง ๆ เพื่อจะได้ดูให้ถนัดยิ่งขึ้น ครั้นพอเห็นว่าสาวที่ภีมพลกำลังนัวเนียอยู่นั้นเป็นใคร ก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีและพึงพอใจ“บ๊ะ...ไอ้ภีมนี่มันรู้ใจผมจริง ๆ”พชรรู้ดีว่าอรอินเข้าหาเขาเพราะเรื่องอะไร ยิ่งเขากับเธอมีอะไรกันแล้ว เจ้าตัวก
Read more

บทที่ 10 ภมรตัวผู้ - 100%

“พี่จา! ปล่อยม็อทนะ” หญิงสาวมองเขาตาขุ่นขวาง ทั้งไม่ชอบทั้งรังเกียจ แต่ก็ต้องพยายามใช้สติไม่พูดจาอะไรที่เป็นการยั่วยุอารมณ์ของอีกฝ่าย ด้วยรู้นิสัยของจารุวรรธดี มือพยายามแกะท่อนแขนที่โอบรัดรอบกายแน่นราวกับงูเหลือม“กำลังจะกลับบ้านหรือจ๊ะม็อท ให้พี่ไปส่งไหม”จารุวรรธก้มหน้าลงมาจนจมูกกับปากเกือบจะสัมผัสกับใบหน้าของหญิงสาว ดีที่ช่อมาลีรีบเอี้ยวตัวหลบได้ทัน กลิ่นสุราที่คละคลุ้งปะปนออกมากับลมหายใจอุ่นร้อน ทำให้เธอรู้ทันทีว่าเขาคงเมาได้ที่แล้วช่อมาลีรีบมองหาตัวช่วยทันที ในใจภาวนาให้เพื่อนในวงออกมาที่ลานจอดรถไว ๆ จะได้หลุดพ้นไปจากเขา“เฮ้ย! มึงทำอะไรคุณม็อท มึงปล่อยเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน” เสียงตะคอกดังจากทางด้านหลัง ทำให้หญิงสาวรู้สึกโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง ทว่าพอเห็นว่าเป็นใคร กลับเพิ่มความหนักใจให้ถึงสองเท่า“คุณก้อง!” ช่อมาลีมองคนที่กำลังปรี่เข้ามาจับแขนอีกข้างหนึ่งของเธอไว้อย่างถือสิทธิ์ เขาไม่เพียงแค่จับเฉย ๆ เท่านั้น แต่กลับดึงกระชากอย่างสุดแรงเพื่อให้ตัวเธอหลุดพ้นจากจารุวรรธจนรู้สึกเจ็บแขนไปหมด“แล้วมึงเป็นใครวะ ถึงม
Read more

บทที่ 11 เจ้านายจอมเฮี้ยบ - 35%

วันแรกของสัปดาห์แห่งการทำงาน ช่อมาลีเดินเข้าออฟฟิศมาด้วยท่าทางราวกับคนไร้วิญญาณเนื่องจากเมื่อคืนเธอต้องหาวิธีหลบหลีกก้องภพกับจารุวรรธจนเหนื่อย กว่าจะหลุดรอดสายตาของคนทั้งสองมาได้ ปาเข้าไปเกือบตีสาม ได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่นมาทำงานแต่เช้า เพราะส่วนใหญ่วันจันทร์ การจราจรมักหนาแน่นกว่าวันอื่น ๆเมื่อเดินเข้ามาในอาคาร ช่อมาลีสังเกตเห็นพนักงานฝ่ายขายที่ตั้งตัวเป็นแฟนคลับท่านประธานกำลังจับกลุ่มนั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติ ต่างคนต่างอวดรูปโฉมโนมพรรณของตนเองโดยไม่แคร์สายตาของพนักงานคนอื่น ช่อมาลีเอามือจับกรอบแว่นให้เข้าที่แล้วมองไปทางสาว ๆ กลุ่มนั้นด้วยความอึ้งระคนสงสัย แต่แล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเคยพูดอะไรเอาไว้จริงสิ...เราเคยบอกผู้หญิงพวกนั้นว่าท่านประธานชอบผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่นี่นาช่อมาลีไม่แปลกใจเลยที่ผู้หญิงกลุ่มนั้นแต่งตัวแข่งกันราวกับจะไปเที่ยวกลางคืน ชุดเดรสรัดรูปสั้นเต่ออวดเรียวขาขาว ช่วงบนเว้าหน้าเว้าหลังจนเห็นร่องอกวับ ๆ แวม ๆ หนำซ้ำยังประโคมแต่งหน้ากันมาอย่างพิถีพิถันด้วยความมั่นอกมั่นใจเต็มเปี่ยม“เดี๋ยวก็รู้”
Read more

บทที่ 11 เจ้านายจอมเฮี้ยบ - 70%

“ไปได้ค่ะ ว่าแต่ไปกี่วันแล้วกลับวันไหนคะ” ยังไม่ทันที่พชรจะเอ่ยตอบ จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูรัวสามทีแล้วก็เปิดออกมาอย่างถือวิสาสะ ดูไร้มารยาทจนช่อมาลีอดแปลกใจไม่ได้ที่มีคนแปลกหน้าบุกมาหาท่านประธานถึงห้องทำงานด้านบนอย่างถือสิทธิ์“พี่โอมขา...ทำอะไรอยู่เอ่ย”เสียงแหลมกังวานดังมาจากบานประตูพร้อมกับร่างอรชรอ้อนแอ้นในชุดเดรสรัดรูปสีเปลือกมังคุด ใบหน้าที่สวยด้วยมีดหมอ และโบท็อกซ์เชิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อมองเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้อยู่เพียงลำพังในห้อง เรียวปากสีแดงสดงอง้ำขึ้นขณะที่ใช้สายตากวาดมองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าพชรหลับตาลงแล้วยกมือขึ้นกุมขมับทั้งสองข้าง ก่อนจะลอบระบายลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา เมื่อตัวปัญหาที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องหาเรื่องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ๆ เพราะไม่อยากอยู่กรุงเทพฯ ให้ใครบางคนต้องมาคอยวิ่งไล่ตามกำลังมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้า คาดไม่ถึงว่าเจ้าหล่อนจะกล้าบุกมาหาเขาถึงบนนี้“มาที่นี่ทำไม นี่มันที่ทำงานของผมนะ!”พชรพูดเสียงเข้มตีหน้ายักษ์ใส่คนที่เพิ่งพรวดพราดเข้ามาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ ช่อมาลีเห็นท่าไม่ดีจ
Read more

บทที่ 11 เจ้านายจอมเฮี้ยบ -100%

“อุ๊ย! ที่ไหนคะเนี่ย”ช่อมาลีสะดุ้งตื่นขึ้นแล้วก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นใบหน้าของพชรอยู่ไม่ห่างจากเธอเท่าไร หญิงสาวดันตัวเองไปข้างหลังจนแทบจะจมไปกับเบาะ มองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำอย่างคนเพิ่งตื่นนอน“พารากอน” พชรตอบ ก่อนจะขยับตัวกลับไปพิงเบาะตามเดิม“หืม...พารากอน ท่านประธานมาที่นี่ทำไมคะ หรือว่าหิวข้าว”ช่อมาลีพยายามหันเหความสนใจของเขาให้ละไปจากการมองสำรวจใบหน้าของเธอ แค่เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยคู่นั้นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบแล้ว“ก็...เดินเล่น กินข้าว แล้วก็...หาหนังสนุก ๆ ดูสักเรื่อง ไปกันเถอะ!”พูดจบเขาก็ปลดล็อกรถแล้วก้าวขาออกไปทันที ทำให้ช่อมาลีต้องรีบปลดสายเข็มขัดนิรภัยแล้วก้าวตามลงไป ทว่ามือก็ยังไม่วายหยิบแฟ้มงานติดมาด้วย“จะเอามาทำไมเล่าคุณช่อ เอาไว้ในรถนั่นแหละ จะถือทำไมให้เมื่อย”พชรเดินมาดึงแฟ้มไปจากมือของหญิงสาวแล้วเปิดประตูรถด้านหลังโยนแฟ้มงานเข้าไปวางแหมะอยู่บนเบาะ จากนั้นกึ่งจูงกึ่งลากเธอเข้าไปในห้างสรรพสินค้า“เอ่อ...ท่านประธานคะ ไม่ต้องจูงก็ได้ค่ะ ดิฉันเดินเองได้”ช่อมาลีละล่ำละลักบอกเขาพลาง
Read more
PREV
1234568
DMCA.com Protection Status