All Chapters of วันที่ฉันตาย แฟนฉันยังไปคั่วกิ๊กอยู่: Chapter 1 - Chapter 10

10 Chapters

บทที่ 1

ฉันออกจากโรงพยาบาลมา ในมือถือผลตรวจร่างกายที่หมอให้มาหมอบอกว่าฉันจะอยู่ได้อีกไม่นานเป็นโรคกรรมพันธุ์ประจำตระกูล ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เผื่อมีใครส่งข้อความมา[พระเอกคนดังและสาวน้อยหน้าใสแอบเดินควงกลางดึก]ฉันเลื่อนดูคอมเม้นต์ต่างๆ ที่อยู่ด้านล่าง แฟนคลับบางส่วนสนับสนุนก็จริง แต่ส่วนใหญ่มักเป็นเสียงแอนตี้มากกว่ารอจนคนขับรถมารับแล้ว ฉันเก็บผลตรวจที่อยู่ในมือ ไว้เคลียร์เรื่องราวทางนี้หมดเมื่อไหร่ ฉันจะไปรักษาตัวที่ต่างประเทศฉันส่งข้อความไปหาจี้ชิงหย่วน ถามว่าเขาอยู่ไหน พอมีเวลากลับบ้านสักหน่อยไหมรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ยังไม่มีวี่แววจะตอบกลับฉันโทรศัพท์ไปหาเขาหลายสาย ไม่ผิดจากที่คิด เขาติดสายอื่นอยู่ทั้งสิ้นฉันวางมือถือลง พร้อมนวดขมับเบาๆคนขับรถปลอบใจว่าคุณชายชิงหย่วนอาจจะติดงานอยู่ อีกซักครู่คงจะโทรกลับมาฉันฟังแล้วอดสมเพชไม่ได้[ช่างมีงานยุ่งจริงๆ มากกว่าท่านประธานอย่างฉันซะอีก ตั้งนานก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์สักสาย]ฉันบอกคนขับรถว่าทีหลังไม่ต้องเรียกเขาว่าคุณชายชิงหย่วนอีก ให้เรียกจี้ชิงหย่วนแทน จะได้รู้สภาพแท้จริงของตัวเองซะบ้างจนฉันกลับถึง
Read more

บทที่ 2

กว่าเขาจะนอนตื่นมาก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว ฉันเข้าบริษัทไปรอบหนึ่งและเพิ่งกลับมาฉันถามเขาว่าเรามาคุยกันหน่อยดีไหม เขานั่งลง สื่อความหมายว่าให้ฉันพูดได้[จี้ชิงหย่วน ฉันอยากเปิดเผยเรื่องของเรา ความรักที่หลบๆ ซ่อนๆ ทำให้ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก]ท่าทีเขาเหมือนหมาที่โดนเหยียบหาง เต้นผางขึ้นมาทันที[ไม่ได้ งานผมตอนนี้กำลังรุ่ง จะเปิดเผยเรื่องผู้หญิงได้ยังไง ถ้าให้พวกแฟนคลับรู้เข้า สิ่งที่ผมทำมามิเสียเปล่าหรอกหรือ]ฉันไม่เข้าใจ เขาเปิดเผยเรื่องความรักกับฉันไม่ได้ แต่สามารถเป็นคู่จิ้นกับผู้หญิงอื่นได้อย่างโจ่งแจ้ง[อันนั้นเป็นไปตามผลงานที่แสดง แต่คุณไม่เหมือนกัน]เขาปลอบใจฉัน บอกฉันว่าให้รอเขาอีกสองปี หลังจากนั้นแล้วเขาจะเปิดเผยเรื่องของเรา[ตั้งสองปีเชียวหรือ? ฉันคงรอไม่ได้ถึงขนาดนั้น]ท่าทางเขาเหมือนได้ยินเรื่องน่าขำบางอย่าง ถามฉันว่าทำไมถึงรอไม่ได้ ไหนๆ ก็รอมาหนึ่งปีแล้ว ก็แค่รออีกหน่อยเท่านั้นเขายังสาบานกับฉันอีกทำให้ฉันต้องกล้ำกลืนเรื่องที่จะพูดกับเขาไว้ก่อนเขาขลุกอยู่บ้านสองสามวัน จากนั้นก็บอกว่าต้องรีบไปเข้ากองอีก[ถ้าอยากไปเยี่ยมผมที่กองถ่ายก็ได้นะ]หลังจากเขาไปแล้ว ฉันจึงใ
Read more

บทที่ 3

ตอนนั้นพ่อแม่ฉันทยอยจากไปภายในปีเดียว ฉันรับภาระหนักอึ้งจากพวกท่านมา จู่ๆ วันนั้นรู้สึกเครียดจัด เพื่อนรักเลยชวนไปรีแลกซ์บ้าง เราไปเที่ยวบาร์แห่งหนึ่ง ได้เจอจี้ชิงหย่วนซึ่งถูกผู้จัดการส่วนตัวบังคับให้ดื่มเหล้ากับแขกหน้าตาเขาตอนนั้นน่าสงสารมาก ฉันรู้สึกใจอ่อนเลยพาเขาออกไปแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเงื่อนไขซะทีเดียว ฉันบอกให้เขามาเป็นแฟนฉันสามปีแรกเริ่มเราต่างทำตามสัญญาเคร่งครัด แต่ยิ่งนานวันก็รู้สึกมีใจให้กัน เขาบอกว่าจะพยายามหาเงินให้มาก แล้วมาแต่งงานกับฉันแต่มาถึงวันนี้ ฉันอดน้ำตาไหลไม่ได้เขากลับไปกองถ่ายอีกครั้ง และคุยเรื่องนี้กับผู้กำกับ ผู้กำกับโทรมาหาฉัน สุดท้ายฉันก็ใจอ่อนยอมตามที่เขาขอจนกว่าซีรี่ย์เรื่องนี้จะปิดกล้อง จี้ชิงหย่วนถึงกลับบ้านมา นั่นก็ผ่านไปห้าเดือนกว่าแล้วเป็นช่วงเวลาที่สุขภาพฉันย่ำแย่เต็มที ฉันส่งต่องานที่ค้างคาให้ผู้บริหารระดับสูงหลายคนในบริษัท และเริ่มรับเด็กใหม่มาฝึกงานในบริษัทมากขึ้นหลังจากปิดกล้อง จี้ชิงหย่วนกลับมาถึงบ้าน เล่าเหตุการณ์ตอนนั้นให้ฉันฟัง พร้อมกับขอโทษฉัน[ขอเวลาอีกหนึ่งปี ผมสัญญา จะเปิดเผยเรื่องของเรา]ฉันส่ายหน้า ปล่อยให้เขาพูดไปมีคนส
Read more

บทที่ 4

งานเปิดตัวสินค้าใหม่ใช้วิธีไลฟ์สดทางออนไลน์ มีสื่อทุกแขนงมาร่วมงานพร้อมหน้าฉันเป็นคนกล่าวเปิดงาน มีการเปิดตัวสินค้าใหม่และผู้สืบทอดกิจการคนใหม่ของเราด้วยเมื่องานจบลงก็ต่อด้วยงานเลี้ยงในเวลากลางคืน ซึ่งทุกปีฉันมักจะออกงานคนเดียวเสมอ แต่ปีนี้ได้พบเด็กหนุ่มหน้าใหม่คนหนึ่งมาด้วย เป็นน้องชายของเพื่อนสนิทฉันเอง เขาบอกว่าอยากเข้าวงการบันเทิง แต่พ่อแม่ไม่เห็นด้วยก็เลยมาลุยด้วยตัวเอง เพื่อนฉันกลัวว่าเขาตัวคนเดียวจะถูกรังแก จึงไหว้วานให้ฉันช่วยดูแลน้องชายหน่อยทันทีที่เขาปรากฏตัว สปอตไลท์ของสื่อทุกแขนงก็ไปอยู่ที่เขาหมดคืนนั้นเขากลายเป็นดาวเด่นของงาน ถึงขั้นมีสื่อบางรายตั้งคำถามว่าเขาเป็นแฟนฉันใช่หรือเปล่า[ไม่ใช่ แต่เป็นน้องชายของเพื่อนรักฉัน บอกให้ช่วยพามาออกงานหน่อย]แต่นักข่าวกลับไม่คิดอย่างนั้น วันรุ่งขึ้นข่าวที่ออกมาจึงมีการแซวเล็กๆ ให้คนคิดไปต่างๆ นานาผ่านไปหลายวัน ฉันพาเขาไปร่วมงานประมูลสินค้า จนได้ของเก่ามาให้เขาหลายชิ้น แถมยังเปิดบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนต์ให้เขาอีกรอจนทุกอย่างเรียบร้อย ร่างกายฉันก็แทบไม่ไหวแล้วจริงๆ จนต้องรีบจองตั๋วเครื่องบินเพื่อไปต่างประเทศคืนวันหนึ่ง
Read more

บทที่ 5

เพื่อนถามฉันว่าได้บอกจี้ชิงหย่วนหรือไม่ ฉันบอกว่าเปล่า เพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วง[เธอเป็นถึงขนาดนี้แล้วยังจะห่วงเขาอีก แต่เขาไม่เคยคิดถึงเธอเลย]ฉันขึ้นเครื่องบินไปแล้ว จึงไม่ได้ยินประโยคสุดท้ายของเพื่อนรักฉันได้ไหว้วานเพื่อนอีกเรื่องหนึ่ง ให้เธอเอาสัญญาระหว่างฉันกับจี้ชิงหย่วนไปหาเขาในเมื่อแต่แรกมาไม่ใช่สิ่งที่เรายินยอมพร้อมใจ การจากกันแบบนี้ก็ถือว่าปลดปล่อยทั้งสองฝ่ายเถอะฉันไปต่างประเทศ หาผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคร้าย แต่น่าเสียใจที่ว่า เขาไม่อาจรักษาโรคของฉันได้เพื่อนรักส่งข่าวมาว่าเธอไม่ได้ช่วยฉันทำงานเรื่องนั้น ให้ฉันกลับมาแล้วไปทำเอง[แต่ฉันคงทำไม่ได้แล้ว]ฉันปลดล็อคชื่อจี้ชิงหย่วนออกจากการบล็อก หวังว่าก่อนตายจะเหลือความทรงจำบางอย่างให้เขาบ้าง ฉันคิดอย่างเห็นแก่ตัวแต่ฉันก็ไม่อาจส่งข้อความถึงเขาได้ช่างเถอะ[ลาก่อน ชาตินี้ไม่ต้องพบกันอีกแล้ว]
Read more

บทที่ 6

ฉันพยายามจะใช้แรงเฮือกสุดท้าย แต่มือถือก็ยังตกจากมือไปคลับคล้ายคลับคลาได้ยินเสียงคนร้องเรียกหาหมอวิญญาณฉันล่องลอยออกจากร่าง แต่เพราะยังตัดขาดโลกนี้ไม่ได้ ลืมคนบางคนไม่ได้ จึงกลับไปยังบ้านที่เราเคยอยู่ด้วยกัน เบื้องฉันกำลังฉายภาพเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่ด้านนอกฉันเห็นเพื่อนสนิทพอรู้ข่าวการตายของฉันก็ร้องห่มร้องไห้จวนเจียนจะเป็นลมเห็นจี้ชิงหย่วนถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ถามฉันว่าคราวนี้จะมาไม้ไหนอีก[จะใช้วิธีไหนมาผูกมัดผมไว้อีก]เขาลบข้อความที่ฉันส่งไป จากนั้นก็ไปถ่ายหนังต่อเพื่อนสนิทฉันไปที่บ้าน หยิบสัญญาระหว่างฉันกับจี้ชิงหย่วนไปหาเขาที่กองถ่าย[ฉันมาหาจี้ชิงหย่วน]ผู้จัดการส่วนตัวของจี้ชิงหย่วนออกมาพาเพื่อนฉันเข้าไป เห็นเขากำลังต่อบทอยู่เดิมทีเพื่อนฉันคิดจะเข้าไปขัดจังหวะ แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ก็หยุดเดิน รอให้เขาถ่ายจบก่อนค่อยเรียกให้มาพบพอเขาเห็นเพื่อนฉันก็รีบถามว่าฉันจะใช้วิธีอะไรไปผูกมัดเขาไว้อีกเพื่อนโยนสัญญาให้เขาดู[เป็นสัญญาที่เซี่ยอวิ้นฝากมาให้เธอ บอกว่าขอยุติสัญญาเพียงเท่านี้]ฉันเห็นจี้ชิงหย่วนตกตะลึง คงไม่คาดคิดว่าฉันจะทำแบบนี้จากนั้นก็หยิบปากกาขึ้นมา รีบลง
Read more

บทที่ 7

จากนั้นเขาไม่ยอมถ่ายหนังต่ออีก รีบกลับมายังบ้านที่เราเคยอยู่ใส่รหัสเหมือนเดิมแต่ปรากฏว่าเปิดประตูไม่ได้ จึงรีบเคาะประตู[พี่อวิ้น เปิดประตูเร็ว ผมรู้ว่าพี่ยังไม่ตาย พวกเขาโกหกผม เปิดประตูเดี๋ยวนี้]ประตูถูกเปิดออก คนที่มาเปิดคือยายแก่คนหนึ่ง[คนที่คุณมาหา เขาย้ายออกนานแล้ว][วันก่อนคุณก็เคยมาหนหนึ่ง แต่ตอนนั้นคุณเมามาก][พ่อหนุ่ม ของที่เสียไปแล้วค่อยมาตามหา มันจะสายเกินไป]ยายแก่ปิดประตูใส่โดยไม่ไว้หน้า เขารู้สึกคล้ายกับอ่อนแรงไปทั้งตัวไม่รู้ว่ากลับถึงบ้านตนเองได้อย่างไรมีคนโทรศัพท์ไปหาเขา ตอนเขาหยิบมือถือขึ้นมาฉันก็เห็น นั่นคือไป๋จื่อ เป็นหล่อนอีกแล้วแต่ครั้งนี้จี้ชิงหย่วยไม่ได้รับสายเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบวิ่งออกไป จนมาถึงบริษัทของฉันเมื่อก่อนเขาเข้าบริษัทบ่อยอยู่แล้ว ยามรักษาความปลอดภัยจึงไม่ได้ขัดขวางเขาวิ่งมาถึงห้องทำงานของประธานบริษัท[เซี่ยอวิ้น ผมรู้ว่าพวกเขาโกหกทั้งนั้น]ประธานคนใหม่ที่กำลังทำงานตกอกตกใจ พร้อมเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย[ท่านประธานเซี่ยลาออกไปนานแล้ว คุณไม่รู้หรือ?][แล้วเขาอยู่ไหน]ประธานคนใหม่กำลังจะตอบ จู่ๆ ก็มีข่าวเข้ามา
Read more

บทที่ 8

[เขาบอกคุณให้รู้ แต่ทำไมไม่ยอมบอกผม]ผู้จัดการส่วนตัวไม่ยอมตามใจเขา บังคับให้อาบน้ำแต่งตัวใหม่ แล้วพาไปส่งกองถ่ายตามเดิม[คุณต้องถ่ายให้จบ หนังใกล้จะปิดกล้องแล้ว แล้วต่อไปจะทำอะไรฉันจะไม่ยุ่งด้วยอีก]ถึงเขาจะยอมทำงานต่อไป แต่ก็เป็นในลักษณะซังกะตายบริษัทแถลงข่าวการเสียชีวิตของฉัน หลายคนนึกเสียดายแทน เพราะฉันอายุยังน้อย ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้เต็มที่เลยมีคนไปขุดคุ้ยว่าหลายปีนี้ฉันได้ทำงานกุศลไว้มาก พวกเขาก็ยิ่งเสียใจ ในสังคมออนไลน์ถึงขั้นมีกระแสว่ารำลึกถึงฉันมีคนจำได้ว่าก่อนฉันจะตาย มีความสนิทสนมกับน้องชายของเพื่อนสนิทเป็นพิเศษ เหล่าบรรดาแฟนคลับจึงพากันไปปลอบใจเขาว่าอย่าเสียใจมากนัก[ยังมีพวกเราอยู่เป็นเพื่อนคุณนะ]เขาได้แต่ยืนยันอีกครั้งว่าเรามีความสัมพันธ์เป็นเพียงพี่น้อง แต่คนอื่นน่าจะไม่เชื่อแล้วจี้ชิงหย่วนถ่ายคิวในวันนี้จนครบ เปิดดูคลิปต่างๆ เขาทนไม่ไหวแล้ว เพราะคนที่อยู่กับฉันคือเขาต่างหาก[ผมต่างหากเป็นแฟนเซี่ยอวิ้น หลายคนเป็นพยานได้]ผู้จัดการส่วนตัวไม่นึกว่าเขาจะกล้าถึงเพียงนี้ ตอนอนุญาตให้เขาเปิดเผยเขากลับไม่พูด มาตอนนี้กลับมาแฉซะเองจี้ชิงหย่วนถึงขั้นเปิดเผยสัญญาร
Read more

บทที่ 9

หลังจากถูกช่วยจนฟื้นมา ข้างกายเขาแทบไม่มีคนอื่น ที่มาเยี่ยมก็มีแต่ผู้จัดการส่วนตัวเท่านั้นผู้จัดการอยู่กับเขาหลายวัน เพราะกลัวว่าเขาจะคิดสั้นอีก จึงจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่ง เพื่อให้ดูแลเขาโดยเฉพาะจี้ชิงหย่วนมองดูมือถือ เห็นข้อความที่ไป๋จื่อส่งมา จู่ๆ เขาเหมือนได้รับยากระตุ้นเข้า ดึงเข็มออกยืนยันจะออกจากโรงพยาบาลให้ได้[เธอจะทำอะไรอีก พ่อคุณทูนหัว สมัยก่อนฉันไม่น่ารับเธอมาดูแลเลย]จี้ชิงหย่วนออกจากโรงพยาบาลก็ตรงไปบ้านไป๋จื่อทันทีผู้จัดการส่วนตัวได้แต่ติดตามไป เพราะกลัวว่าเขาจะทำเรื่องผิดกฎหมายเข้าไป๋จื่อไม่ได้เจอหน้าจี้ชิงหย่วนนานแล้ว ต้องบอกว่าตั้งแต่คราวก่อนที่เข้าโรงพยาบาล เธอก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเพราะจี้ชิงหย่วนไม่สนใจเธออีกเลยตอนนี้เธอถูกทุกคนแอนตี้ กำลังจะหาลู่ทางใหม่ เพื่อทำให้เธอได้แจ้งเกิดอีกครั้งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจี้ชิงหย่วนเหมาะจะเป็นสะพานให้เธอไต่เต้าที่สุดเมื่อเห็นจี้ชิงหย่วนมาเยือน เธอจึงเปลี่ยนชุดที่คิดว่าสวยที่สุดและแต่งหน้าให้ดูงดงามด้วย[ชิงหย่วน คุณยอมมาแล้วหรือ]จี้ชิงหย่วยไม่ได้สนใจเธอ มีเพียงขอโทรศัพท์มือถือของเธอมาดูเขาเปิดดูแชทการพูดคุยระหว่าง
Read more

บทที่ 10

จี้ชิงหย่วนถูกพาตัวกลับมาที่บริษัท ผู้จัดการส่วนตัวรีบยกเลิกสัญญากับเขา[ต่อไปนี้คุณจะทำอะไร ฉันจะไม่ยุ่งด้วยอีก คุณดูแลตัวเองไปแล้วกัน]เขากลับมาบ้านฉันอีกครั้ง ฉันเห็นเขาตรงไปยังห้องอาบน้ำ จากนั้นก็ออกแรงขัดผิวตามร่างกายตัวเอง คล้ายกับว่าได้แปดเปื้อนสิ่งสกปรกนับไม่ถ้วนครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันมองดูเขาขัดผิวตัวเองจนแทบมีเลือดออก[ทำไมขัดเท่าไหร่ก็ไม่สะอาดเสียที ทำไมถึงได้สกปรกอย่างนี้][ต้องโทษเราคนเดียว ไม่รู้จักรักดี ถูกทอดทิ้งก็สมน้ำหน้าแล้ว]เขาอยู่ในห้องอาบน้ำสามชั่วโมงกว่า เมื่อออกมานั่งลงบนโซฟาไม่ทันไร เขาก็ลุกขึ้นอีก[เราเป็นคนสกปรก ไม่อยากให้โซฟาของพี่อวิ้นแปดเปื้อนด้วย]ที่พูดแบบนี้เพราะเขาคิดว่าเป็นคนทำให้บ้านหลังนี้สกปรกจากนั้นเขาก็ดมตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นเหม็น แม้เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เข้าไปอาบใหม่อีกครั้งจวบจนออกมาอีกครั้ง พร้อมทั้งตัวมีแต่ละอองน้ำ ซ้ำยังแลดูแดงเถือกไปหมดเขาเจอยานอนหลับของตัวเอง กินไปหลายเม็ดแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงซีรี่ย์ที่เขาร่วมแสดงกับไป๋จื่อกำลังจะออนแอร์ นายทุนจึงเชิญพวกเขาไปร่วมโปรโมตแต่จี้ชิงหย่วนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานอีก วันๆ เขาอ
Read more
DMCA.com Protection Status