All Chapters of บุปผาร่ายรัก: Chapter 11 - Chapter 20

91 Chapters

Chapter 12. เป็นเช่นนั้น

“เป็นเช่นนั้นเองหรอกหรือ แม่นางช่างมีจิตใจอารีนอกจากจะช่วยแม่นมของข้าแล้วยังเป็นห่วงเป็นใยข้าด้วย”จิตใจอารี? หญิงสาวทำตาโต เกิดมาเพิ่งเคยมีใครพูดแบบนี้กับนางเป็นคนแรก ที่ผ่านมาได้ยินแต่ว่านางโหดเหี้ยมเสียมากกว่า “ข้าจำได้ว่าติดค้างเลี้ยงน้ำชากับแม่นาง”“ไม่เป็นไรๆ” นางโบกไม้โบกมือไปมา มือไม้เริ่มไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน “ข้ายังต้องรบกวนท่านหมอมู่รักษาดูอาการและพักฟื้นที่นี่หลายวัน ถ้าอย่างไร แม่นางผ่านมาก็แวะมาเยี่ยมเยือนได้ทุกเมื่อ”“จริงเหรอ ข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้เหรอ” บุรุษหนุ่มไม่ได้เอ่ยตอบแต่พยักหน้ารับ เพียงแค่นั้นหญิงสาวก็แทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ แต่ยังดีที่นางสำรวมกิริยาแล้วเหลือบตามองท่านหมอมู่เหมือนจะขอโทษอยู่ในที ท่านหมอมู่มองหญิงสาวแล้วส่ายหน้าไปมา ดีแล้วที่ลูกสาวของเขาไม่ได้เป็นเช่นนี้ แต่จะว่าอย่างไรได้ ได้ยินว่านางเป็นเด็กกำพร้า คงไม่มีใครบอกนางเรื่องกิริยาที่ควรหรือไม่ควรต่อหน้าบุรุษนัก “วันนี้ข้ามารบกวนท่านแล้ว วันหน้าข้าจะมาใหม่”“ฮืม...”นั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เคอหลิ่งหลินมาชะเง้อมองบุรุษหนุ่มใบหน้าอ่อนหวานดุจเทพเจ้าผู้นั้นมาตลอดสองปี เมื่อไหร่ที
Read more

Chapter 11. กลัวจะไม่มีใครกล้ามาสามีให้เจ้า

“เหอะ!” จ้าวจิ่นสือทำเสียงในลำคออย่างไม่พอใจนัก “อย่างเจ้าเขาเรียกเจ้าเล่ห์มิใช่ฉลาด”“เอาน่ายังไงข้าก็ได้เป็นพี่สาวเจ้าก็แล้วกัน” ปลายนิ้วจิ้มมาที่หน้าผากของอีกฝ่าย แต่นางชะงักมือไปเล็กน้อย ท่าทางของนางทำให้ จ้าวจิ่นสือขมวดคิ้ว“เป็นอะไรไปรึ” เขาเองก็ชินกับการตีสนิทเสมอตัวของนางแล้ว“เจ้านี่...สูงขึ้นหรือเปล่านะ”“แน่ล่ะ ข้าก็ต้องสูงใหญ่และหล่อเหลาเป็นธรรมดา”“หล่อเหลา? เจ้านี่กล้าประกาศว่าตัวเองหล่อเหลางั้นเหรอ” เคอหลิ่งหลินถึงกับหัวเราะออกมา เติบโตมาพร้อมกัน ตั้งแต่ออกจากบ้านป่านางติดตามท่านแม่ทัพออกศึก ในขณะที่จ้าวจิ่นสือศึกษาตำราและฝึกฝนอยู่ที่วังหลวงเป็นส่วนใหญ่ ปีหนึ่งจะได้เจอกันกันไม่กี่ครั้ง แต่ละครั้งราวครึ่งเดือนหรือหนึ่งเดือน แต่เมื่อเขาอายุครบสิบแปดก็มาเป็นเรี่ยวแรงสำคัญให้บิดาของเขา“เจ้าอยู่กับพวกทหารจะรู้ได้ไงว่าบุรุษผู้หล่อเหลาเป็นเช่นไร”ประโยคของจ้าวจิ่นสือทำให้เคอหลิ่งหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ใครว่าละ? นางเพิ่งเจอบุรุษผู้หล่อเหลาเข้าให้แล้ว เขาดูสุภาพนักทั้งที่เพิ่งพบกันครั้งแรกก็ยังมองนางด้วยสายตาอ่อนโยน นางเติบโตกับบิดาที่เป็นโจรภูเขาแล้วยังมาติดตามท่านแม่ทัพอีก
Read more

Chapter 13. รักษาตัวด้วย

เคอหลิ่งหลินนิ่งไปอึดใจ มือนางสั่นน้อยๆ ก่อนจะยกขึ้นโบกไปมาเบื้องหน้าเขา ชายหนุ่มผงะไปด้านหลังเล็กน้อยก่อนที่จะยกมือมาจับมือของนางไว้ หัวใจของหญิงสาวเหมือนถูกบีบรัด หากเป็นเวลาปกตินางคงดีใจที่เขาจับมือนางเช่นนี้ “ดูออกชัดขนาดนั้นเชียวหรือ?” เขาหัวเราะเบาๆ ราวกับไม่เดือดร้อนกับอาการของตัวเอง “ท่าน...ทำไม...เกิดอะไรขึ้น” นางถือวิสาสะนั่งบนเตียงข้างเขา สำรวจดูภายนอกไม่เห็นเขามีบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บ ไยเขาจึง...จึงมองไม่เห็นนาง “เป็นเรื่องของสวรรค์” “บ้าซิ!” นางสบถ แต่กลับทำให้ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ “จู่ๆ ท่านจะมองไม่เห็นได้อย่างไร” “ข้าเพียงถูกพิษเล่นงาน” เขายังไม่ปล่อยมือเธอ เพียงแต่กำไว้หลวมๆ หวังให้นางรู้สึกผ่อนคลาย เป็นเขาที่มองไม่เห็น แต่ดูนางจะเดือดร้อนกว่าเขาเสียอีก “มีหญิงสาวที่ไหนทำท่านรึ” “อะไรนะ?” “ท่านไปทำอะไรใครถึงโดนยาพิษเข้าล่ะ” “แล้วทำไมแม่นางเคอคิดว่าเป็นผู้หญิงที่เล่นงานข้า” ใช่...แม้แต่เขายังไม่คิด “ก็ท่านหล่อเหลาแบบนี้ อาจเล่นตัวไม่รั
Read more

Chapter 14.  กำชับมา

“แต่ฮูหยินกำชับมานะเจ้าคะ” “ก็บอกว่าเจ้าไม่เห็นข้าก็สิ้นเรื่อง ข้าไปล่ะ เจ้าจะได้ไม่เดือดร้อน” “คุณหนู” ชุนเอ๋อร์ได้แต่มองร่างเพรียวในชุดเสื้อผ้าเนื้อหยาบกระโดดออกนอกหน้าต่างไป วิชาตัวเบาของเคอหลิ่งหลินไม่ด้อยไปกว่าผู้ใด คนรับใช้อย่างนางจึงเห็นแต่แผ่นหลังไวไว หายลับตาไป “ท่านไม่อยู่ต่างหากที่ทำให้บ่าวเดือดร้อน” ชุนเอ๋อร์ได้แต่พูดเสียงอ๋อยตามลำพัง เมื่อไหร่เจ้านายของนางจะแต่งตัวงดงามนั่งอยู่ในบ้านนิ่งๆ ในนางได้ปรนนิบัติเหมือนบ่าวไพร่คนอื่นบ้างนะ เคอหลิ่งหลินใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเรือนรับรองที่คุณชายเฉินพักอยู่ นางเหวี่ยงตัวนั่งบนกิ่งไม้ใหญ่มองดูร่างสูงโปร่งที่กำลังเดินออกมาบริเวณสวนหย่อม นางแปลกใจที่เขาเดินได้มั่งคงไม่เหมือนคนตาบอด แต่ยังไม่ทันไร เขาสะดุดกับก้อนหินเข้าให้ ร่างเพรียวผวาเฮือกแล้วกระโจนเข้าไปให้ดึงแขนเขาไว้อย่างรวดเร็ว “ท่านจะทำอะไร” เคอหลิ่งหลินส่งเสียงดุเบาๆ จับไหล่สองข้างของเขาให้ยืนให้มั่นคง “แม่นางเคอ?”เขาเอ่ยชื่อแล้วปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้ารอยยิ้มของเขาทำให้หญิงสาวเก้อเขินจนต้องรีบปล่อ
Read more

Chapter 15.เจ้ามาอยู่กับข้าไหม?

สภาพครึ่งผีครึ่งคนอย่างเขาความจริงก็เป็นสุขดีไม่น้อย ไม่นับอาการอ่อนเพลียของตนเองแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี บรรดาน้องชายน้องสาวก็ให้ความเคารพเขาตามสมควร มีเพียงสองเรื่องที่มารบกวนจิตใจของเขาคือการที่เขายังไม่แต่งงานและความวุ่นวายเดียวที่เขารับได้คือ ‘เคอหลิ่งหลิน’ นางชอบเขาอย่างเปิดเผยทว่าจริงใจ หน้าตานางออกจะธรรมดา นิสัยยังโผงผางหรือบางครั้งก็เหมือนเด็กทั้งที่นางบอกว่าตัวเองอายุยี่สิบแล้ว นางไม่เคยถามว่าเขาเป็นใคร นางพอใจกับการเรียกเขาว่า ‘คุณชายเฉิน’ เขาจึงพึ่งพอใจที่จะเรียกนางว่า ‘แม่นางเคอ’ และเมื่อนางไม่ถามเรื่องส่วนตัวของเขา เขาก็ไม่ถามเรื่องของนาง รับรู้เพียงแค่นางชอบม้าและดูแลม้าอยู่จวนแม่ทัพจ้าว นางมักพกกระบี่ไม้ไผ่เสมอแต่ก็ไม่เคยเห็นนางใช้ทำร้ายผู้ใด “แม่นางเคอ”“หือ?” นางเงยหน้าขึ้นมองเขาขณะที่สองมือยังประคองแขนให้เขาเดินไปข้างหน้า“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนเจ้าอยู่ข้างกายข้าตลอดเวลาเลยล่ะ เจ้าได้กลับไปจวนแม่ทัพบ้างหรือไม่”“แน่นอน ข้าต้องกลับอยู่แล้ว” นางไม่ได้โกหก หากไม่เพราะนางมีวิชาตัวเบาละก็ นางคงไม่ได้มาหาเขาบ่อยขนาดนี้หรอก เพราะจวนแม่ทัพจ้าวกับบ้านสกุลเ
Read more

Chapter 16. เราไม่มีสิ่งใดติดค้างต่อกัน

เคอหลิ่งหลินกลับมาถึงจวนแม่ทัพจ้าว ร่างเพรียวเดินผ่านประตูแล้วชะงักเท้าไป นางเดินเลี้ยวไปที่คอกม้าก่อน แม้จะมีคนดูแลม้าอยู่หลายคนแล้วนางก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ม้าก็เปรียบเสมือนอาวุธประจำกายแม่ทัพ แม้ยามสุขสงบก็ต้องดูแลอย่างดี นางแปลกใจที่มีม้าตัวใหม่มาเพิ่ม อาชาสีดำรูปร่างงามสง่า ใบหน้าสวยเผลอยิ้มอย่างไม่รู้ตัว“ม้ามองโกลตัวนี้มาได้อย่างไร”“งามใช่ไหม”“ใช่ งามสง่ามาก” นางตอบไม่หันไปมองเสียงที่เอ่ยถาม นางเดินเข้าไปใกล้ม้าสีดำที่ทำท่าพยศใส่“ระวังด้วย” “ชู่ว์” เคอหลิ่งหลินกระซิบพลางยื่นมือไปแตะปลายจมูกเบาๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไว้ใจนาง นางจึงเลื่อนฝ่ามือลูบไล้มันอย่างปลอบโยน“เจ้าช่างงามสง่านัก” นางกระซิบ “ข้าจะอาบน้ำแปรงขนให้เจ้าอย่างดี”เสียงหัวเราะด้านหลังทำให้นางตื่นจากภวังค์แล้วหันไปมอง ชายคนนั้นยืนมองนางอยู่ ด้วยสายตาที่ออกจะหยามเหยียด ใบหน้าคมเชิดขึ้นอย่างคนเอาแต่ใจ แต่นางกลับถอนหายใจเบาๆ เบื่อหน่ายกับคนประเภทนี้นัก คงเป็นสหายของจ้าวจิ่นสืออีกละซิเจ้าเด็กคนนี้ก็เลือกคบคนได้น่าประทับใจดีแท้“เจ้าไม่กลัวม้าตัวใหญ่ขนาดนี้เลยหรือไง”“ทำไมต้องกลัวม้าที่สง่างามเช่นนี้ด้วย“เจ้าเป็น
Read more

Chapter17. ไข่มุกหมื่นราตรี

“ก็ท่านเคยบอกว่าท่านอยู่จวนแม่ทัพจ้าว ข้าก็จะไปจวนแม่ทัพเจ้า แต่...แต่...”“เอาเถอะๆ ดีแล้วที่เจ้าไม่เป็นอะไร” เคอหลิ่งหลินเกรงว่าเด็กสาวตรงหน้าจะถูกใครล่อลวงเข้าให้ เพราะมู่ฟางเหนียงแสนจะใจดีมีเมตตาดุจพระโพธิสัตว์ ใครบาดเจ็บหรือป่วยไข้มานางก็รักษาอย่างเต็มกำลังแม้ตัวเองจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็ตาม ไม่นับรวมใบหน้าที่งดงามของนางอีกด้วย“คนที่เป็นไม่ใช่ข้าแต่เป็นคุณชายเฉิน”“อะไรนะ”“พี่หลิ่งหลินรีบไปบ้านสกุลเหวินเถิด พ่อข้าก็อยู่ที่นั้น”“คุณชายเฉิน” เคอหลิ่งหลินเรียกชื่อนั้นเหมือนละเมอ พอตั้งสติได้ก็จับข้อมือเล็กๆ ของมู่ฟางเหนียงไม่ให้ผลัดหลงแล้วรีบเร่งเดินทางไปทางบ้านสกุลเหวินทันทีหญิงสาวทั้งสองมาถึงบ้านสกุลเหวิน เคอหลิ่งหลินเข้าไปที่เรือนพักของคุณชายเฉินอย่างคุ้นเคยแต่มู่ฟางเหนียวอดเหลียวมองคฤหาสน์หลังใหญ่โตด้วยแววตาตื่นเต้นไม่ได้ เพียงหญิงสาวปราดเปรียวในชุดสีเขียวเข้มก้าวเข้ามา สายตาของนางก็ปะทะกับร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ของต้าซื่อ เคอหลิ่งหลินสูดลมหายใจลึก นางเคยอยู่ในสนามรบมานับครั้งไม่ถ้วน ได้เจอคนบาดเจ็บล้มตายมานักต่อนัก แต่เมื่อเห็นบาดแผลของคนคุ้มกันของคุณชายเฉินแล้วหั
Read more

Chapter18. คำตอบ

คำตอบของพ่อบ้านตู้ทำให้เคอหลิ่งหลินถอนหายใจหนักๆ ด้วยความเป็นพ่อบ้านมานานกว่าสิบปี ท่าทางลุกลี้ลุกลนของคุณหนูทำให้เขาสังเกตเห็นได้ชัดเจน จนอดเอ่ยปากถามมิได้“คุณหนูมีสิ่งใดหรือขอรับ”“ข้ามีเรื่องด่วนต้องเข้าพบท่านพ่อ แต่ท่านอย่าให้จิ่นสือรู้เด็ดขาด”“นายน้อยยังไม่กลับเข้ามาจนกว่าจะถึงเวลาทานอาหารเย็นขอรับ” เป็นปกติเช่นนี้เสมอ หากจ้าวจิ่นสือคุมการฝึกซ้อมของทหารก็จะไม่กลับเข้ามาในเรือนพักจนกว่าจะถึงเวลาเย็น“ข้ามีเรื่องสำคัญต้องพูดกับท่านพ่อ อย่าให้ใครเข้าไปรบกวน”เคอหลิ่งหลินบอกแล้วยื่นมือไปรับถาดกาน้ำชาก่อนจะหมุนตัวเดินเร็วๆ เข้าไปในห้องอักษร พ่อบ้านได้แต่ชะเง้อคอยาวมองร่างเพรียวบางเดินเร็วๆ ผ่านสายตาไปแม่ทัพจ้าวนั่งอ่านตำรายุทธเพื่อเตรียมแผนการฝึกซ้อมของทหาร แม้ตอนนี้บ้านเมืองสงบ แต่พลทหารก็ต้องฝึกซ้อมอยู่เสมอ หากเกิดศึกสงครามไม่ว่าจะเป็นศึกนอกหรือศึกในก็จะได้เตรียมตัวได้ทันท่วงที ส่วนฮูหยินอี้ซิ่วนั่งปักผ้าอยู่ใกล้สามี เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาทำให้ฮูหยินอี้ซิ่วเงยหน้าขึ้นและแปลกใจที่เห็นลูกสาวบุญธรรมยกน้ำชาเข้ามาให้แทนที่จะเป็นพ่อบ้านตู้“เกิดอะไรขึ้น” “เอ๋?” เคอหลิ่งหลินพลันชะ
Read more

Chapter 19.หวั่นไหว

เคอหลิ่งหลินได้แต่ยิ้ม คล้องห่อผ้าไว้กับไหล่แล้วขึ้นหลังม้ากระชับบังเหียนในมือแล้วควบม้ากระโจนมุ่งหน้าสู่หุบเขาชิงซาน!.อาชาสีน้ำตาลพุ่งทะยานดุจก้อนเมฆบนท้องฟ้า ไม่ผิดจากชื่อ ‘เมฆเหิน’ เลยแม้แต่น้อย ด้วยความแข็งแรงและปราดเปรียวของม้าแสนงามสง่าตัวนี้ ทำให้เคอหลิ่งหลินมาถึงหุบเขาชิงซานได้ในหนึ่งคืนกับหนึ่งวัน อาจเป็นเพราะเมฆเหินรู้ใจผู้อยู่บนหลังอานม้าว่าจิตใจนั้นร้อนรนต้องการ ไปถึงปลายทางให้เร็วที่สุด มันมุ่งทะยานไปเต็มฝีเท้า แม้เมื่อหญิงสาวหยุดพักม้า มันก็ดื่มน้ำเล็มหญ้าเล็กน้อยแล้วผงกศีรษะเหมือนจะเรียกให้ไปต่อ มาถึงที่หมายก็เย็นย่ำ หญิงสาวยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า สายตาจับจ้องไปที่ภูเขาที่ตั้งตระหง่านเบื้องหน้า แม้จะรีบร้อนเพียงใดก็มิควรเข้าไปยามค่ำคืน คืนนี้คงต้องหาที่พักแรมและที่ปลอดภัยในเมฆเหินเสียก่อน แม้มีความกังวลอยู่ในใจ แต่ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้ม นางไม่แน่ใจว่า ‘บ้าน’ หลังนั้นของนางจะยังอยู่ไหม ความทรงจำในสถานที่นั้นเหลือน้อยเต็มที่ ทว่านางก็ยังจำที่ตั้งของสถานที่นั้นได้อย่างดี หญิงสาวลงจากหลังม้าแล้วจูงม้าเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็กๆ ไม่นานนัก เบื้องหน้าปร
Read more

Chapter 20.สู่หุบเขา

เพียงสิ้นคำสั่งเสีย พ่อของนางจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เด็กหญิงตัวเล็กไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่ควรเป็น นางได้แต่นิ่งงันไป แม่ทัพจ้าวจัดงานศพให้พ่อของนางตามธรรมเนียม นางยังเด็กและทำอะไรไม่ถูก หลังจากนั้นนางก็ติดตามแม่ทัพกลับมาที่จวน ได้พบฮูหยินอี้ซิ่วและจ้าวจิ่นสือเป็นครั้งแรก “เจ้ามาอยู่กับข้านะ ข้าอยากได้ลูกสาวมานานแล้ว” ฮูหยินอี้ซิ่วยิ้มอ่อนโยน แต่ครานั้นนางถือคำสั่งบิดาเป็นที่ยึดเหนียว บิดาสั่งให้นางติดตามแม่ทัพจ้าว ไม่ใช่ฮูหยินของแม่ทัพ นางจึงได้แต่สั่นศีรษะไปมาแล้วไปหลบด้านหลังของแม่ทัพจ้าวเสียอย่างนั้น “เอาเถอะ! พ่อนางก็เพิ่งจากไป ให้อยู่กับข้าไปสักระยะก่อนก็แล้วกัน แล้วอย่างไรค่อยว่ากันอีกที” แม่ทัพจ้าวตัดบท และสั่งให้คนคอยดูแลเคอหลิ่งหลิน มือเรียวใช้กิ่งไม้เขี่ยกองไฟเล็กๆ เบื้องหน้า ใบหน้ามีรอยยิ้ม นางโชคดีเหลือเกินที่ได้รับความเมตตาจากแม่ทัพจ้าวและฮูหยินอี้ซิ่ว ทั้งที่ทั้งสองไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับนางนัก แต่นางก็เติบโตมาอย่างดี เพียงแต่นางเลือกที่จะใช้ชีวิตตามคำสั่งเสียงของบิดา นางมีความสามารถในการแกะรอยสำรวจเส้นทาง อ่านแผนที่ได้อย่างแม่นยำ ยิ่ง
Read more
PREV
123456
...
10
DMCA.com Protection Status