บททั้งหมดของ บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง: บทที่ 11 - บทที่ 20

30

บทที่ 11

เหวยอิ้งหวนเป็นคนใจเย็นสุขุมมาโดยตลอด แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ก็พลันนึกถึงคำพูดที่ซือเจ๋อเยว่เอ่ยกับเขาเมื่อคืน ก่อนที่เขาจะรู้สึกชาที่หนังศีรษะเขาไม่ได้ฟังคนของสำนักจิงจ้าวพูดต่อ แต่ให้เด็กรับใช้ขับรถม้ากลับบ้านทันทีเขากลับถึงบ้านก็ถามว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ที่ใด?” เด็กรับใช้ตอบว่า “วันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าอยากกินใบบัว พอฟ้าสางก็พาคนไปเก็บที่ริมน้ำแล้วขอรับ”เหวยอิ้งหวนหน้าซีดเผือดในพริบตา เขาเรียกข้ารับใช้ที่ว่ายน้ำเก่งหลายคนรีบไปยังสถานที่ที่มารดาเหวยเก็บใบบัว เมื่อเขาไปถึงแล้วเห็นกับตาว่ามารดาพลัดตกจากเรือลงไปในทะเลสาบ เขาก็ตกใจกลัวแทบตายข้ารับใช้ลงน้ำไปช่วยคนทันที ไม่นานก็ช่วยมารดาขึ้นมาเนื่องจากมารดาได้รับการช่วยเหลือทันเวลา ถึงแม้นางจะได้รับความตกใจกลัว โดนอากาศเย็นและสำลักน้ำไปหลายอึก แต่ว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต หลังจากที่เหวยอิ้งหวนจัดการเรื่องมารดาเหวยเรียบร้อยแล้ว เขายังคงอกสั่นขวัญหายอยู่บ้างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดต่อกันสองเรื่องนี้ ซือเจ๋อเยว่ล้วนกล่าวถูกต้องเขารู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดแฝงไปด้วยกลิ่นอายความพิศวง ทำให้เขารู้สึกหนาวหลังเมื่อก่อนเขาไม่เคยเชื่อเร
Read More

บทที่ 12

เยียนเซียวหรานเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “องค์หญิงดูดวงให้คนอื่น ดูหนึ่งคนแลกหนึ่งชีวิต ค่อนข้างน่าตกใจกลัวเลยทีเดียว” ซือเจ๋อเยว่ “...”นางครุ่นคิดแล้วพบว่ามันดูเป็นแบบนี้จริง ๆ เลยกระแอมไอเบา ๆ กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องบังเอิญทั้งนั้น!” นางกล่าวจบก็มองมาที่ใบหน้าของเขา ก่อนจะพบว่าไออัปมงคลบนใบหน้าของเขารุนแรงมากขึ้น นี่เป็นโหงวเฮ้งที่จะต้องเสียชีวิตอย่างอนาถ สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย เยียนเซียวหรานเห็นนางมองมาก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยในตอนแรก เมื่อพบว่าสายตาของนางผิดปกติจึงเอ่ยถามว่า “ข้าก็จะตายแล้วเหมือนกันใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่เดินวนรอบตัวเขาแล้วกล่าวว่า “ข้าดูโหงวเฮ้งของเจ้าไม่ออก แต่ว่าตราบใดที่มีข้าอยู่ เจ้าจะไม่ตาย” ไออัปมงคลบนตัวเขาเพิ่มขึ้นไม่น้อยในชั่วข้ามคืน เรื่องนี้แปลกพิกลเล็กน้อยเดิมทีเขาเป็นคนที่มีบุญบารมีมาก ไม่ควรมีไออัปมงคลเช่นนี้ ยิ่งไม่ควรมีไออัปมงคลเพิ่มขึ้นมากถึงเพียงนี้ในชั่วข้ามคืนหากปล่อยให้สั่งสมไออัปมงคล มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะเสียชีวิตอย่างอนาถ ยามนี้นางต้องคิดหาวิธีช่วยเขาสลายไออัปมงคลบ้างนางยื่นมือทำท่ามุทรา แล้วตบหน้าอกของเขาเบา ๆเ
Read More

บทที่ 13

ซือเจ๋อเยว่ยังต้องแลกด้วยชีวิตของนางอย่างน้อยหนึ่งเดือนอีกด้วย! เพียงแต่นางคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับเยียนเซียวหราน เพื่อไม่ให้เขารู้สึกผิด สีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ดวงของข้าแย่ลงเพราะได้รับไออัปมงคลบนตัวข้าหรือ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ไออัปมงคลจะส่งผลกระทบต่อโชคชะตาของคน ผ่านไปนานเข้ายังเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตด้วย” “หากไม่สามารถหาต้นตอของไออัปมงคลบนตัวเจ้าได้ ข้าก็ต้องถอนคำพูดที่ข้าบอกเจ้าไว้เมื่อเช้า ข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้เช่นกัน” เยียนเซียวหรานขบคิดอย่างละเอียด จำได้เพียงว่าตนเองเริ่มโชคร้ายตั้งแต่สองปีก่อน เขาเดินอยู่ริมถนน อิฐกระเบื้องข้างทางจะต้องหล่นใส่เขาแน่นอน กระทะน้ำมันเดือดริมถนนก็จะสาดโดนตัวเขาด้วย... อุบัติเหตุเช่นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ใช่เพราะเขามีวิทยายุทธ์สูงส่ง ร่างกายปราดเปรียว เกรงว่าคงตายไปนานแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นไม่มีเรื่องอะไรพิเศษเกิดขึ้นกับตัวเขาเลย หากต้องบอกว่ามี เช่นนั้นก็คือเขาเคยหลับนอนกับสตรีนางหนึ่ง หลังจากนั้นมาเขาก็มีโชคร้ายติดตัว เพียงแต่ว่าเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ เขาไม่มีทางบอกซือเจ๋อเยว่อย่างแน่นอนเขาเอ
Read More

บทที่ 14

ซือเจ๋อเยว่เอ่ยกับนางกำนัลทางด้านข้างว่า “ขนมที่ข้ากินตอนที่เข้ามาครั้งก่อนรสชาติไม่เลวเลย ข้าหิวแล้ว เจ้าไปเอามาให้ข้าสักจานที”นางกำนัลมองไปทางอวิ๋นไท่เฟย นางพยักหน้าเบา ๆ นางกำนัลก็ถอยออกไปหยิบขนม อวิ๋นไท่เฟยเห็นซือเจ๋อเยว่ไม่ยอมรับนางก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า “เจ๋อเยว่ เจ้าเป็นธิดาของข้า ไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใดกับเจ้า ข้าทำเพื่อเจ้าทั้งนั้น” “เจ้าอย่าโทษที่ข้าเข้มงวดกับเจ้ามากเกินไป เจ้าเติบโตอยู่ในอารามเต๋ามาตั้งแต่เล็ก ไม่รู้ว่าน้ำในวังแห่งนี้ลึกมากเพียงใด ข้าลำบากมากเพียงใด” “ข้ากลัวว่าเจ้าไม่รู้อะไรเลยจนพลาดพลั้งเสียชีวิต”ซือเจ๋อเยว่มองนางแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดนางกำนัลยกขนมมาพอดี ซือเจ๋อเยว่หยิบขนมชิ้นหนึ่งไปให้อาหารมดที่ริมกำแพงเพียงพริบตาเดียว มดเหล่านั้นก็หงายท้องกันหมดนางกำนัล “...”นางรู้สึกว่าซือเจ๋อเยว่ไม่ทำตามอุบายเกินไปแล้ว นางบอกเองว่าอยากกินขนม แต่เอามาป้อนมดเช่นนี้ นี่ล้อนางเล่นหรือ? ซือเจ๋อเยว่ถามอวิ๋นไท่เฟยว่า “นี่ก็คือสิ่งที่ท่านทำดีต่อข้า?”อวิ๋นไท่เฟย “...”ซือเจ๋อเยว่โยนขนมในมือลงไปในจาน ปัดเศษขนมบนมือแล้วเอ่ยว่า “อวิ๋นไท่เฟย เลิกเสแสร
Read More

บทที่ 15

ซือเจ๋อเยว่เงยหน้าขึ้นแต่โดยดี เมื่อฮ่องเต้เจาหมิงเห็นท่าทางของนางก็ใจลอยเล็กน้อยรูปร่างหน้าตาของซือเจ๋อเยว่คล้ายคลึงกับอวิ๋นไท่เฟยห้าส่วน อีกหลายส่วนก็เหมือนกับอดีตฮ่องเต้ รูปโฉมของนางรวมข้อดีของทั้งสองไว้ ดูงดงามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของนางเหมือนกับอดีตฮ่องเต้มาก เป็นนัยน์ตาดอกท้อน่าหลงใหล แววตากระจ่างใส มีความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กสาวฮ่องเต้เจาหมิงมองนางก็ไม่รู้เหมือนกันว่านึกถึงเรื่องอะไร ถึงได้ดูเหม่อลอยอยู่บ้าง ขันทีที่อยู่ด้านข้างเก็บฎีกาที่เขาตรวจเสร็จแล้วทำให้เขาได้สติกลับมา เขาถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “เจ้าหน้าตาเหมือนกับเสด็จพี่มาก” ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้ม ฮ่องเต้เจาหมิงมองนางแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “เด็กน้อยอย่างเจ้าช่างเหลวไหลเหลือเกิน” “อยู่ดี ๆ เจ้าก็ยืนกรานว่าจะแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสาม เกรงว่าคนที่ไม่รู้เรื่องคงนึกว่าเจิ้นบังคับให้เจ้าทำเช่นนี้” “หากไม่ใช่เพราะเสด็จแม่ของเจ้าบอกว่า เสด็จพี่ได้หมั้นหมายให้เจ้าแต่งงานกับเยียนอ๋องซื่อจื่อในตอนที่เจ้ายังเด็ก เมื่อเจ้ารู้เรื่องนี้แล้วต้องการแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสามให้ได้ ไม่ว่าอย่างไรเจิ้
Read More

บทที่ 16

ซือเจ๋อเยว่พลันนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เขาเดินถือดาบเพื่อตามหานางทั่วหมู่บ้านขึ้นมา นางรู้ว่าหากวันนี้ไม่ให้คำตอบ เขาอาจจะสับนางเป็นชิ้นๆ ได้เลย นางครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “สำนักเต๋าให้มา” เยียนเซียวหรานจดจ้องนัยน์ตาของนางพลางย้อนถาม “สำนักเต๋าให้มา?” “ใช่แล้ว” ซือเจ๋อเยว่ตอบโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “สำนักเต๋าของเรามีธรรมเนียมการแจกสิ่งของแก่ศิษย์ทุกปี” “ของสิ่งนี้ได้รับจากสำนักเต๋าเมื่อสามปีก่อน ข้าเห็นว่าถุงเงินนี้มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์จึงเอ่ยปากขอจากท่านอาจารย์ใหญ่มาหนึ่งใบ” นางพูดจบแล้วถามด้วยสีหน้าสงสัย “ถุงเงินใบนี้มีอะไรผิดปกติหรือ?” เยียนเซียวหรานไม่ตอบ เพียงมองนางด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าไต่สวน แม้นางตื่นเต้นแทบตาย แต่กลับไม่เผยพิรุธบนใบหน้า นางทำเป็นมองเขาด้วยสายตาฉงนพลางถาม “เหตุใดน้องสามถึงมองข้าเช่นนี้?” เยียนเซียวหรานไม่พบพิรุธจากสีหน้าของนาง ชั่วครู่จึงเกิดความไม่แน่ใจว่านางโกหกหรือไม่ เขาถอนสายตาแล้วพูดเสียงอ่อนลง “ไม่มีอะไร แค่คิดว่าลวดลายของถุงเงินนี้ดูแปลกตาดี” ซือเจ๋อเยว่ยิ้มกล่าว “มันเป็นล
Read More

บทที่ 17

เห็นกิริยาเช่นนี้ของนาง ทำเขาหรี่ตาเพ่งมองแล้วตัดสินใจเดินตามนางไปทางเรือนจี้หลิ่ว เหล่าไท่จวินกังวลเมื่อนางออกไป โล่งใจเมื่อเห็นนางกลับมา นางรีบถามซือเจ๋อเยว่ “ฝ่าบาททำให้องค์หญิงลำบากใจหรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า เอ่ย “นอกจากเขาไม่ทำให้ข้าลำบากใจ ยังมอบของขวัญให้ข้าด้วยซ้ำ” เหล่าไท่จวินเห็นหยกแขวนในมือนางพลันประหลาดใจ ในอดีตเมื่อเหล่าไท่จวินเข้าวังก็เคยได้เห็นหยกแขวนชิ้นนี้อยู่บนพระวรกายมังกรของฮ่องเต้เจาหมิง ซือเจ๋อเยว่จึงอธิบายที่มาของหยกแขวนชิ้นนี้สั้นๆ เหล่าไท่จวินได้ฟังแล้วตกอยู่ในห้วงคำนึง แต่ซือเจ๋อเยว่สรุปว่า “เสด็จอาอาจใจแคบต่อข้า แต่จะไม่ทำการใดให้คนอื่นมองออก” “ครานี้ข้าได้แต่งเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสาม เกรงว่าจะเป็นแผนการของคนอื่น” “ขอเพียงเขาไม่คิดเล่นงานจวนเยียนอ๋องถึงตาย จวนเยียนอ๋องก็ยังเอาตัวรอดต่อไปได้” เหล่าไท่จวินพยักหน้าเข้าใจพลางเอ่ย “องค์หญิงกล่าวมีเหตุผล” น้ำเสียงทุ้มลึกของเยียนเซียวหรานดังขึ้น “ต้องบอกว่าการปราชัยของเสด็จพ่อทำให้มองสถานการณ์จริงได้ชัดขึ้น” “พูดได้ไม่เต็มปากว่าเขาไม่ค
Read More

บทที่ 18

เหล่าไท่จวินตกใจ เยียนเซียวหรานรีบประคองนางแล้วพูดว่า “ท่านย่า องค์หญิงอัญเชิญวิญญาณได้ขอรับ” “คราวก่อนที่หน้าประตูวัง ข้าได้พบพี่ใหญ่ด้วย” เนื่องจากวิญญาณของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่เขาเห็นนั้นไม่สมบูรณ์ ความคิดยุ่งเหยิง จึงชี้ชัดได้ว่าก่อนสิ้นลมต้องได้รับความทรมานสุดแสน สภาพที่น่าสังเวชของเยียนอ๋องซื่อจื่อนั้น เขาไม่อยากเอ่ยต่อหน้าเหล่าไท่จวิน ด้วยกลัวนางตรอมใจ เหล่าไท่จวินดวงตาแดงระเรื่อ นางรีบถามซือเจ๋อเยว่ “หากองค์หญิงอัญเชิญวิญญาณท่านอ๋องได้จริง ข้าจะมองเห็นเขาหรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ได้เห็นแน่ เพียงแต่...” นางเบนสายตาส่งสัญญาณไปทางเยียนเซียวหราน เขาถอนหายใจพลางเอ่ย “ครั้งนั้นองค์หญิงอัญเชิญวิญญาณของพี่ใหญ่มา สภาพของเขาไม่ดีนัก” “พวกเราจึงไม่อาจรู้ได้ว่าเสด็จพ่อจะเป็นอย่างไร อีกทั้งสุขภาพของท่านย่ามิสู้ดี...” “ข้ารับไหว” เหล่าไท่จวินพูดแทรกแล้วยืนยันว่า “ข้าไม่ได้อ่อนแอปานนั้น” “ในสถานการณ์เช่นนี้ ขอเพียงข้าได้เห็นเสด็จพ่อของเจ้าอีกครั้งก็ดีใจแล้ว” ซือเจ๋อเยว่มองหน้าเยียนเซียวหรานแล้วเริ่มเตรียมการ “ตกลงตามนี้ ข้าจะรอฟ้าม
Read More

บทที่ 19

วิญญาณของเยียนอ๋องมีความเสถียรและมีสติกว่าวิญญาณของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ประตูวัง เยียนอ๋องโค้งคำนับให้ซือเจ๋อเยว่แบบสุดซึ้งพลางเอ่ย “ขอบพระทัยองค์หญิงที่ช่วยดูแลจวนเยียนอ๋องในช่วงนี้ น้ำพระทัยใหญ่หลวง เกรงว่ากระหม่อมได้ตอบแทนชาติหน้าแล้ว” แม้เขาตายแล้วจะเข้าสู่ยมโลกทันที แต่เขาได้ยินเรื่องที่ซือเจ๋อเยว่ได้รับเลือกให้แต่งงานกับบุตรชายผู้ล่วงลับและเรื่องราวต่างๆ ของนางจากอินชา เหล่าไท่จวินและเยียนเซียวหรานรู้เพียงว่าซือเจ๋อเยว่ทำนายชะตาและดูโหงวเฮ้งเป็น แต่ไม่ล่วงรู้ความสามารถอื่นของนาง แต่เยียนอ๋องได้ยินเรื่องราวของนางจากอินชา ทั้งยังรู้ว่านางเก่งกาจทักษะเวทสำนักเต๋า แม้แต่อินชายังเกรงกลัวนางไม่น้อย ซือเจ๋อเยว่คำนับตอบพลางเอ่ย “เสด็จพ่อโปรดอย่าเกรงใจ เมื่อข้าแต่งเข้าจวนอ๋องแล้วย่อมกลายเป็นคนของจวนอ๋อง” “ระหว่างคนในครอบครัวไม่ต้องมากพิธี วันนี้ข้าอัญเชิญเสด็จพ่อมาเพราะอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นที่ช่องเขากรงเสือ?” เยียนอ๋องทวนความจำ “หลังจากได้รับพระราชโองการ ข้าได้นำทัพทหารแลม้าออกสู้ศึกกับชาวเผ่าต๋าต๋าหลายต่อหลายครั้ง” “กลับพบว่ารถขนเสบียงอาหาร
Read More

บทที่ 20

สงครามครั้งนี้ เยียนอ๋องเป็นจอมทัพทหารบก ทหารและม้าทั้งหมดอยู่ภายใต้บัญชาของเขา กองทัพทรงพลังที่สุดยังคงเป็นกองทัพหย่งอันของเยียนอ๋อง ครานี้ฮ่องเต้เจาหมิงกลับส่งขุนนางพลเรือนมาเป็นผู้ควบคุมทัพ อำนาจของผู้ควบคุมทัพเหลือล้น สามารถจำกัดเยียนอ๋องได้ เยียนอ๋องพูดได้ไม่เต็มปาก แต่เยียนเซียวหรานรู้ดีว่าในสมรภูมิครั้งนี้ เยียนอ๋องจะต้องถูกควบคุมไว้ทุกครั้ง แม้ว่าทางใต้มีชาวเผ่าต๋าต๋าหลายแสนคน เยียนเซียวหรานย่อมรู้ถึงประสิทธิภาพของกองทัพหย่งอันและในสงครามปกติไม่มีทางถูกกวาดล้างทั้งกองทัพ ยังมิได้เอ่ยถึงว่าครั้งนี้ต้าฉู่ยังรวบรวมกองทัพชายแดนกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นนายมาเป็นทัพเสริม ในยามที่เยียนอ๋องนำทัพหย่งอันเข้ากวาดล้างก็ได้สังหารชาวเผ่าต๋าต๋าในจำนวนที่เท่ากำลังพล หลังจากที่พวกเขาพลีชีพ กองทัพของผู้ควบคุมทัพจึงบุกเข้ามาไล่ล่าสังหารชาวเผ่าต๋าต๋าที่บาดเจ็บหนักจนปราชัยและถอนทัพออกจากช่องเขากรงเสือ ชายแดนบังเกิดสันติภาพชั่วคราว ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงวิเคราะห์ “เสด็จพ่อนำกองทัพหย่งอันสู้จนตัวตายในช่องเขากรงเสือซึ่งทำให้ศัตรูบาดเจ็บหนัก”
Read More
ก่อนหน้า
123
DMCA.com Protection Status