เวินเจาไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกสวมเขาเขากลัวว่าท่านจอมปราชญ์เหวินจะรู้สึกเสียหน้า ยังปลอบใจเขาด้วย “ทุกคนล้วนเป็นผู้ชาย ข้าเข้าใจ!”“ท่านราชครูไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไปใส่ใจ!”ท่านจอมปราชญ์เหวินเห็นเวินเจาย้อนกลับมาช่วยเขาบรรเทาความอึดอัด หลังจากอึ้งไปครู่หนึ่ง มุมปากที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากเผยอขึ้นเขาไม่อยากพูดถึงหัวข้อสนทนานี้อีก จึงกล่าวเปลี่ยนประเด็น “นายน้อยมาอย่างเร่งรีบ มีเรื่องอะไรหรือ?”เวินเจาจึงจะนึกถึงจุดประสงค์ที่ตัวเองมา“วันนี้จู่ๆ ก็มีหมอของสกุลหางไปที่เวินจือเหิง”“แม้มองพิษในร่างกายของเวินจือเหิงไม่ออก แต่ข้ามักจะรู้สึกไม่สบายใจ”เมื่อท่านจอมปราชญ์เหวินได้ยินก็เลิกคิ้วเล็กน้อย “คนไหนของสกุลหาง?”เวินเจากล่าวตอบ “บอกแค่ว่าแซ่หาง ไม่ได้บอกว่าชื่ออะไร”เขาคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าว “เป็นเด็กหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปี หน้าตาดีใช้ได้”ท่านจอมปราชญ์เหวินไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสกุลหางมากนักรู้แค่ว่านายท่านผู้เฒ่าหางมีลูกหลานมากมาย เด็กหนุ่มที่ปีนี้อายุประมาณยี่สิบปี ลองคิดดูน่าจะเป็นหลานของนายท่านผู้เฒ่าหางในเมื่อคนคนนั้นมองปัญหาสุขภาพของเวินจือเหิงไม่ออก ท่านจอมปราชญ์จึงไม่ได้เ
Read more